spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

"เด็กน้อยเจ้าได้ยินที่ท่านรองหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถ กล่าวชัดเจนแล้วหรือไม่ หากเจ้ามิอาจแสดงหลักฐานว่าเจ้าเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ออกมาได้ เช่นนั้น ตราสัญลักษณ์แสดงฐานะผู้หลอมโอสถระดับ 9 นั้นต้องถูกริบกลับมายังสมาคม" เซี่ยวเหอจ้องมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตา ที่ราวกับมองดูตัวตลกอย่างไรอย่างนั้น

นี่มันเรื่องขำขันอันใด!

เขาไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดว่าเด็กน้อยนี่เป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ดั่งเช่นเขา ...

ยามนี้ทุกๆคนต่างจับจ้องมายังต้วนหลิงเทียนเป็นสายตาเดียวกัน พวกเขากำลังเฝ้ารอว่าต้วนหลิงเทียนจะสามารถพิสูจน์ตัวเองได้อย่างไร

ต้วนหลิงเทียนเองก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างมี่ยี่หระ "อะไรกัน นี่ไม่มีผู้ใดที่เชื่อว่าข้าเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 เลยหรือ?"

ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครตอบคำถามออกมา แต่ความเงียบนี่ก็นับเป็นคำตอบได้อย่างดี...

"เจ้าชื่ออะไรนะ เซี่ยวเหอ ใช่หรือไม่?" ต้วนหลิงเทียนหันกลับมาจับจ้องไปยังเซี่ยวเหอ และก่อนหน้านี้แววตาของเขาก็เรืองวูบออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ และแน่นอนว่าเซี่ยวเหอนั่นหาได้รู้ตัวสักนิด

"มิผิด ข้าเซี่ยวเหอ" เซี่ยวเหอเงยหน้ามองต้วนหลิงเทียนด้วยความหยิ่งยโส

"อ้อ เอาล่ะ แล้วเจ้ากล้าเดิมพันอะไรกับข้าสักเล็กน้อยหรือไม่?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมา

"เหอะ เดิมพันบัดซบอันใด ข้าหาได้มีเวลามากพอจะละเล่นอันใดกับเด็กน้อยอย่างเจ้าไม่" เซี่ยวเหอกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคือง แม้เขาจะไม่รู้ว่าในน้ำเต้าของต้วนหลิงเทียนขายยาอันใด(มีแผนอะไร) แต่เขาที่สามารถเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีก็ไม่ใช่คนโง่

"อ้าว อะไรกัน ... แท้จริงแล้วผู้หลอมโอสถอัจฉริยะแห่งอาณาจักรนภาล่อง ที่เก่งกล้าสามารถจนเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ได้ตั้งแต่อายุ 20 ก็มีดีแต่ชื่อเท่านั้นเหรอเนี่ย!" ต้วนหลิงเทียนเริ่มหัวเราะออกมาด้วยท่าทางไม่ได้สนอะไร แต่ทุกคนรู้ดีว่าเสียงหัวเราะกับคำกล่าวเมื่อครู่เจตนาหยามหยันเซี่ยวเหออย่างมาก

"บัดซบ อย่าได้กล่าววาจาเหลวไหลเพื่อเปลี่ยนเรื่อง เจ้าไม่ได้ยินที่ท่านรองหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถกล่าวหรือไร หากวันนี้เจ้าไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าตัวเจ้าเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 จริง ตราสัญลักษณ์นั่นต้องถูกริบคืน!" เซี่ยวเหอจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาที่ราวกับจะบ่งบอกว่า 'อย่าได้เล่นละครอีกต่อไป ข้าดูเจ้าออกนานแล้ว'

“เฮ่ๆ เจ้าเข้าใจอะไรผิดหรือไม่ เมื่อไหร่กันที่ข้าเปลี่ยนเรื่อง การเดิมพันที่ว่านั้นข้าก็จะเดิมพันเรื่องเดียวกับที่รองหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถกล่าวนั่นล่ะ และสิ่งที่ข้าต้องการเดิมพันนั้นก็คือ หากข้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวข้า เป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 จริง เจ้าจะต้อง จ่ายให้ข้า 5,000,000 เหรียญเงิน และแน่นอน ถ้าหากว่าข้าไม่ใช่ผู้หลอมโอสถระดับ 9 ข้าเองก็จะจ่ายให้เจ้า 5,000,000 เหรียญเงินเช่นเดียวกัน เป็นยังไงเล่า เจ้ากล้าพอหรือไม่?” ต้วนหลิงเทียนจับจ้องไปยังเซี่ยวเหอด้วยท่าทีไม่ยี่หระ

5,000,000 เหรียญเงิน?

บัดซบ!

การเดิมพันที่มีมูลค่าสูงขนาดนี้แต่ต้วนหลิงเทียนกลับกล่าวออกมาง่ายดายราวกับแข่งกันโยนหินลงน้ำชิงขนมโก๋อย่างไรอย่างนั้น เหล่าฝูงชนที่ได้ยินเรื่องราวพลันฮือฮาขึ้นมากันอื้ออึง

แม้แต่รองหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถประจำเมืองหลวงแห่งนี้ เช่นอี้เหวิน ก็อดไม่ได้ที่จะจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ ‘เป็นไปได้หรือไม่ ที่เด็กน้อยผู้นี้จะเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ดังที่มันกล่าวจริงๆ? แต่หากมันเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 จริง แล้วเหตุใดสมาคมผู้หลอมโอสถที่มันไปทำการทดสอบ จึงไม่ส่งรายงานอะไรกลับมาที่สมาคมหลักเลยเล่า’ ยามนี้ในใจของอี้เหวินเต็มไปด้วยคำถาม

"เดิมพัน 5,000,000 เหรียญเงินงั้นหรือ?" เซี่ยวเหอ ตกตะลึง

แน่นอนสำหรับเขา เงินจำนวน 5,000,000 เหรียญเงิน ไม่ได้มากมายอะไรสำหรับเขา หากเขาต้องการมันแน่นอนว่าตระกูลเซี่ยวย่อมยินดีมอบให้ นั่นเพราะตัวเขาเองก็เป็นถึงผู้หลอมโอสถอัจฉริยะของตระกูลเซี่ยว แน่นอนว่าหากเขาได้รับการส่งเสริมอย่างดีจะอย่างไรวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 7

แต่จะอย่างไรเขาก็พึ่งเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ได้เพียง 1 ปีเท่านั้น อีกทั้งโอสถสมุนไพรที่เขาหลอมกลั่น ก็สงมอบให้แก่สมาคมผู้หลอมโอสถเพื่อแลกกับคะแนนของผู้หลอมโอสถ ...เงินที่เขาสามารถจับจ่ายใช้ออกได้ ตอนนี้มีเพียง 3,000,000 เหรียญเงินเท่านั้น และนี่ก็เป็นเงินที่ทางตระกูลมอบให้เขาอีกด้วย

"อะไรกัน เจ้ากลับเป็นคนใจเสาะไม่กล้ารับเดิมพัน?" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังเซี่ยวเหอก่อนที่จะหัวเราะเยาะออกมา “หากเป็นเช่นนั้น ยามนี้เจ้าก็ต้องยอมรับออกมาเสียทีว่า ข้าเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 แล้วเจ้าก็เลิกถามคำถามไร้สารระอย่างข้าเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 จริงหรือไม่อีกด้วย เข้าใจหรือไม่? อ่อใช่สิ แล้วเจ้าก็ยังต้องยอมรับออกมาด้วยว่า ตัวข้าเป็นผู้หลอมโอสถ ที่มีพรสวรรค์และเก่งกาจกว่าเจ้า ทั้งชื่อเสียงผู้หลอมโอสถอัจฉริยะที่มีอายุน้อยที่สุดแห่งอาณาจักรนภาล่องนั่น เจ้าต้องส่งมอบมันให้ข้า!”

ตั้งแต่ที่เซี่ยวเหอปรากฎตัวออกมาขวางทางเขานั้น ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ทันทีว่าชายคนนี้มีนิสัยหยิ่งยโสไม่น้อย และเขาก็คิดใช้จุดนี้ของมันในการบีบบังคับให้มัน เล่นพนันขันต่อกับเขา และเขายังเลือกที่จะท้าเดิมพันกับมันต่อหน้าของทุกๆคน

นี่เพราะเข้ามั่นใจว่า ด้วยบุคลิกภาพและนิสัยหยิ่งยโสโอหังของมัน ย่อมต้องกลัวการเสียหน้าเป็นที่สุด มันต้องไม่กล้ากล่าวปฏิเสธต่อหน้าผู้คนเป็นแน่

"ฮ่าๆ นี่มันเรื่องไร้สาระอะไร ผู้หลอมโอสถอัจฉริยะที่มีอายุน้อยที่สุดงั้นหรือ ราคาคุยชัดๆ เท่าที่ข้าเห็นก็ไม่ได้มากมายอะไรไปกว่าเต่าหดหัวตัวขี้ขลาดตัวหนึ่ง!" ต้วนหลิงเทียนยังคงเติมเชื้อไฟเพื่อโหมกระพือเพลิงโทสะ และทำลายฟางเส้นสุดท้ายของความอดทนในใจของเซี่ยวเหอ ...

อี้เหวินจับจ้องไปยังหลิงเทียนด้วยแววตาลึกซึ้ง "เด็กน้อยชุดสีม่วงนี่ เป็นไปได้หรือไม่ ที่มันจะมั่นใจจริงๆ?"

"ย่อมได้ ข้ายินยอมเดิมพัน ว่าแต่เจ้าเถิด สารรูปเช่นนี้จะมีเงินถึง 5,000,000 เหรียญเงินหรือไม่" ในที่สุดเซี่ยวเหอ ก็กล่าวยอมรับการเดิมพันออกมา ทั้งยังจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย้ยหยัน

จากที่เขาคิด ทุกอย่างที่เด็กน้อยตรงหน้ากล่าวมานั้นมันเป็นการเสแสร้งทั้งสิ้น และมันตั้งใจที่จะทำให้เขาไขว้เขว จนตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก และตอนนี้ถึงเวลาของเขาบ้างที่จะเปิดโปงการเล่นละครเสแสร้งของเด็กน้อยคนนี้

ใช่! เจ้าจะมีเงินถึง 5,000,000 เหรียญเงินหรือไม่?...

ต่อมาสายตาของผู้คนก็หันมามองต้วนหลิงเทียนกันเป็นตาเดียวอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดล้วนตื่นตระหนกกับมูลค่าของการเดิมพันที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวเสนอออกมา...นั่นมันจำนวน 5,000,000 เหรียญเงินเชียวนะ! เงินจำนวนนี้หาใช่ใครก็สามารถหยิบจ่ายออกมาได้ง่ายๆ!

เพราะแม้กระทั่งจะเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 เองก็ตาม ยังต้องใช้เวลานานนับ 10 ปีกว่าจะสะสมเงินจำนวนมากมายขนาดนี้ได้ ...

"ตกลงเจ้ามั่นใจแล้วใช่หรือไม่?" หลังจากที่ได้ยินคำกล่าวของเซี่ยวเหอ ต้วนหลิงเทียนไม่ได้รีบร้อนที่จะนำเงินออกมา เขาทำเพียงกล่าวคำถามกลับ เพื่อวางกับดักให้เซี่ยวเหอติดกับของเขาอย่างสมบูรณ์ และด้วยการยอมรับครั้งนี้ มันจะไม่สามารถกลับคำหรือแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

"อะไรเจ้ากลัวแล้วงั้นหรือ?" เมื่อเห็นหลิงเทียนกล่าวถามออกมาเช่นนี้ เซี่ยวเหอก็ย่อมคิดว่าต้วนหลิงเทียนเริ่มกลัวที่จะถูกเปิดโปงขึ้นมาจริง เขาพลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก่อนที่จะกวาดสายตามองไปยังทุกๆคนรอบห้องสุดท้ายก็หันไปมองอี้เหวิน "ท่านรองหัวหน้าสมาคม ข้าขอให้ท่าน รวมทั้งทุกๆท่านที่อยู่ในห้องรับรองแห่งนี้เป็นพยานให้แก่การเดิมพันในวันนี้ของข้าด้วย ... "

"ข้าเซี่ยวเหอ และเจ้าเด็กโอหังนี่ จะทำการเดิมพันกัน! หากเขาเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 จริง ข้าเซี่ยวเหอยินดีที่จะมอบเงินจำนวน 5,000,000 เหรียญเงินให้แก่เขา แต่ถ้าหากเขาไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เขาเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 จริงๆ เขาจะต้องเสียเงินเดิมพัน 5,000,000 เหรียญเงินให้แก่ข้า! "

หลังที่กล่าวจบเซี่ยวเหอยัง ยิ้มแย้มแล้วกล่าวออกมาเพิ่มเติมอีกด้วยว่า "และแน่นอนว่า เงื่อนไขข้อแรกของการเดิมพันครั้งนี้ก็คือ เขาสามารถหยิบเงินจำนวน 5,000,000 เหรียญเงินออกมายืนยันได้เสียก่อน!"

เรื่องที่เขากล่าวคืออะไรน่ะหรอ? แน่นอนมันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า หากต้วนหลิงเทียนไม่อาจนำเงิน 5,000,000 เหรียญเงินออกมาได้แล้ว การพนันครั้งนี้ย่อมไม่มีความหมาย

จากที่เขาคิด แค่เรื่องนี้ก็เพียงพอที่จะเปิดโปงการเล่นละครเสแสร้งครั้งีน้ของต้วนหลิงเทียนได้แล้ว

"เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ข้ายังเกรงว่าเจ้ามากกว่าที่ไม่สามารถนำเงินออกมาได้" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังเซี่ยวเหอก่อนที่จะยิ้มบางๆ

"ข้าน่ะเหรอที่ไม่สามารถนำเงินออกมาได้? เด็กน้อย ตัวข้าเป็นผู้หลอมโอสถอัจฉริยะที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเซี่ยวข้าเริ่มเข้าใจแล้ว นี่เป็นเพราะเจ้าไม่อาจนำเหรียญเงิน 5,000,000 เหรียญออกมาใช่หรือไม่ เจ้าจึงกล่าวอ้อมค้อมไม่ยอมนำเหรียญเงิน 5,000,000 เหรียญออกมาเสียที เจ้าคิดจะบ่ายเบี่ยงเช่นนั้นหรือ? "

รอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยวเหอค่อยๆกว้างขึ้นทุกที และยามนี้เริ่มปรากฏความมั่นใจออกมา ความกังวลในหัวใจของเขาเองก็ล้วนสลายหายไปสิ้น และเขามั่นใจแน่ชัดแล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้วนหลิงเทียนพยายามกระทำนั้นเป็นเพียง หาเรื่องทำให้เขาหวาดกลัวการเดิมพันและทำให้เขาลำบากใจ ทั้งยังต้องแสดงท่าทางจนแต้มออกมาต่อหน้าผู้คนเท่านั้นเอง

"อะไร พอเห็นว่าข้ามองการเสแสร้งของเจ้าออกแล้ว ก็ ถึงกับนิ่งเงียบไม่กล่าวอะไรเลยงั้นหรือ?" เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนนิ่งเงียบไป เซี่ยวเหอพลันกล่าวเย้ยหยันออกมา "หากเจ้าไม่มีเงินมากมายดั่งที่กล่าวท้าทายออกมา ที่หลังก็อย่าได้ทำอะไรบัดซบที่มันเกินตัวเช่นนี้อีก แล้วเจ้าก็ส่งตราสัญลักษณ์นั่นมาให้สมาคมผู้หลอมโอสถได้แล้ว!"

ต้วนหลิงเทียนทำเพียงมองไปยังเซี่ยวเหอด้วยสายตาดูแคลน ก่อนที่จะกล่าวออกมา "ตราบใดที่เจ้าสามารถส่งมอบเงิน 5,000,000 เหรียญเงินไปให้รองหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถประจำเมืองหลวงเพื่อเก็บไว้เป็นคนกลาง ข้าเองก็จะหยิบเงินจำนวน 5,000,000 เหรียญเงิน ออกมาและมอบให้แก่รองหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถด้วยเช่นกัน แต่ในเมื่อเจ้าไม่อาจนำเงินจำนวนดังกล่าวออกมาได้... "

รอยยิ้มที่มุมปากของเซี่ยวเหอพลันแข็งค้างหลังจากที่ได้ฟังคำกล่าวไม่แยแสของต้วนหลิงเทียน เขากล่าวออกมาด้วยเสียงครางต่ำ "เด็กน้อยเจายังไม่เลิกเสแสร้งอีกงั้นหรือ? เช่นนั้นก็รอให้ข้าส่งเงิน 5,000,000 เหรียญเงินให้ท่านรองหัวหน้าสมาคมเสียก่อน เอาล่ะ!ท่านรองหัวหน้าสมาคมขอรับ ตอนนี้ข้ามีเหรียญเงินอยู่ 3,000,000 เหรียญเงิน ข้าขอยืมท่าน 2,000,000 เหรียญเงินก่อนจะได้หรือไม่ขอรับ " เซี่ยวเหอหยิบตั๋วเงินออกมาตั้งหนึ่งก่อนที่จะส่งมอบไปยังอี้เหวิน

และในฐานะผู้หลอมโอสถอัจฉริยะของตระกูลเซี่ยว เซี่ยวเหอเป็นรุ่นเยาว์เพียงคนเดียวของตระกูลเซี่ยวที่มีแหวนมิติ

คิ้วของอี้เหวินเพียง ขมวดขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เพียงรับเงินของเซี่ยวเหอไปแล้วพยักหน้าเล็กน้อย

"เด็กน้อยเจ้าเห็นแล้วหรือไม่? ข้าจ่ายเงินเดิมพันของข้าแล้ว แล้วไหนของเจ้าล่ะ?" เซี่ยวเหอหันหน้าไปมองต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะหัวเราะเย้ยหยันออกมา ขณะรอให้หลิงเทียนแสดงความโง่เขลาออกมา

“เฮ่อ กล่าววาจาซะดิบดีว่าเป็นอัจฉริยะตระกูลเซี่ยวอย่างนู้นอย่างนี้ แต่สุดท้ายยังต้องหยิบยืมเหรียญเงินจากผู้อื่น ทั้งๆที่เป็นเงินเพียงแค่ 5,000,000 เหรียญเงินเท่านั้น...หึหึ” ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ ที่จะหัวเราะเยาะออกมา

"หุบปากไปซะไอเด็กบัดซบ แล้วไหนเงินเดิมพันของเจ้าเล่า?" ใบหน้าของเซี่ยวเหอเริ่มคล้ำ ขึ้นความปรารถนาที่จะสังหารไอเด็กนรกชุดม่วงเริ่มปรากฏขึ้นในใจของเขา

ไอเด็กเปรตผู้นี้นับว่ารับมือยากนัก!

"เอ้าๆ แหกตาดูชัดๆ นี่เงินเดิมพันของข้า... เฮ่อ ถึงแม้ข้าจะไม่ใช่อัจฉริยะอะไร แต่อย่างน้อยข้าก็ไม่ได้หยิบยืมเหรียญเงินจากผู้อื่นล่ะว้า" ต้วนหลิงเทียนทำทีเอื้อมมือไปยังกระเป๋าเสื้อด้านในของเขาเพื่อสร้างโอกาสในการหยิบเงินทั้งหมดออกจากแหวนมิติโดยไม่ให้ผู้ใดสังเกตเห็น หลังจากนั้นเขาก็ยื่นเงินให้แก่เหวิน "รองหัวหน้าสมาคม นี่เป็นเงินเดิมพันของข้า ลองนับดู ... " อี้เหวิตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรับเงินเดิมพันจากมือของต้วนหลิงเทียน

และหลังจากนับเงินอยู่ครู่หนึ่ง “ครบถ้วน 5,000,000 เหรียญเงิน”

ในขณะที่กล่าวสายตาของอี้เหวินพลันฉายแววซับซ้อนออกมา เขาเริ่มตระหนักขึ้นมาได้ลางๆวางเรื่องราวทั้งหมดล้วนเป็นกับดักที่เด็กหนุ่มชุดสีม่วงนี้ขุดหลุมพรางวางเอาไว้ และเขาเพียงรอให้เซี่ยวเหอกระโดดลงไปในหลุมพรางนี้... เขาอาศัยนิสัยหยิ่งยโสของเซี่ยวเหอ เป็นเครื่องมือ

นับว่าเด็กหนุ่มชุดสีม่วงนี่น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว เขาสามารถอาศัยจุดอ่อนเรื่องนิสัยหยิ่งยโสของเซี่ยวเหอเป็น เครื่องมือได้ถึงขนาดนี้ และเมื่อคิดมาถึงจุดนี้ เขามั่นใจขึ้นมาแน่แล้วว่าเด็กหนุ่มคนนี้ต้องเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ที่ทางสมาคมผู้หลอมโอสถสาขาอื่นที่ไม่ได้รายงานขึ้นมา หรือมีปัญหาเรื่องการสื่อสารเป็นแน่... แต่เขาก็ยังคาดหวังที่จะเห็นเด็กหนุ่มคนนี้พิสูจน์มันด้วยสองตาของเขาเอง

"บัดซบ เด็กนั่นกลับหยิบเงิน 5,000,000 เหรียญเงินออกมาได้จริงๆ มันเป็นผู้ใดกัน?"

“สวรรค์เถอะ แม้กระทั่งเซี่ยวเหอเองยังไม่สามารถนำเงินออกมาได้ถึง 5,000,000เหรียญเงิน และยังต้องอาศัยหยิบยืมจากรองหัวหน้าสมาคมด้วยซ้ำ แต่เด็กคนนั้นกลับสามารถนำเงิน 5,000,000 เหรียญออกมาได้ทันทีราวกับไร้เรื่องราว ไม่น่าเชื่อ!”

"ข้าว่าตั้งแต่ที่เขาสามารถกล้าวางเดิมพันด้วยเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ซ้ำยังหยิบมันออกมาได้อย่างไม่แยแส หรือว่าตัวเขาจะเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 จริงๆ?"

"เรื่องราวมันดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว หรือเจ้ายังคิดว่าเด็กนั่นคิดจะมอบเงินเดิมพันให้แก่เซี่ยวเหอกันเล่า?"

"สวรรค์ หากเขาเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 จริง นี่มันก็น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก อายุเพียง 18 ปีกลับเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ได้แล้ว นี่มันเป็นตำนานบทใหม่ของอาณาจักรนภาล่องชัดๆ!"

"อา ดูเหมือนพวกเราจะมีโชคนัก ที่มีโอกาสได้เห็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ และเป็นพยานในเรื่องราวครั้งนี้"

...

ยามนี้ฝูงชนที่ล้อมรอบรอดูเรืองราวอยู่ค่อนข้างเนืองแน่นขึ้นมาอย่างมาก ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินเข้าสาคมผู้หลอมโอสถมาล้วนได้ยินเรื่องราวการเดิมพันครั้งนี้ทั้งสิ้น และแน่นอนว่าทุกคนล้วนมารอชมดูการเดิมพัน ครั้งสำคัญระหว่าง ต้วนหลิงเทียนและเซี่ยวเหอ ที่กำลังจะเกิดขึ้น...

กล่าวได้ว่ายามนี้มีเพียง 1 ใน 2 คนนี้เท่านั้น ที่คนหนึ่งกลับกลายเป็นไร้ราคา ส่วนอีกคนหนึ่งจะกลายเป็นผู้หลอมโอสถอัจฉริยะที่มีอายุน้อยที่สุดแห่งอาณาจักรนภาล่อง!