หน้าแรก > ราชันสามภพ
ตอนที่ 141 หอคอยสมปรารถนา

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

หอคอยสมปรารถนานั้นตั้งอยู่ในบริเวณตะวันตกของเมืองหลวงนภาจันทร์ อีกทั้งบริเวณนี้ยังเป็นบริเวณที่คึกคักมากที่สุดของเมืองหลวงอีกด้วย

หอคอยสมปรารถนานั้นก็เป็นอาคารทรงหอคอยสมชื่อของมัน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของอาณาจักรนภาจันทร์ที่ไม่สามารถล่วงเกินได้

หอคอยสมปรารถนานี้มักจะคึกคักทุกครั้งในช่วงวันหยุดสำคัญต่าง ๆ ของเมือง อย่างเช่นช่วงวันงานเทศกาลประจำปีของอาณาจักรในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง นับว่าพอถึงช่วงงานเทศกาลนี้ที่หอสมปรารถนานี้คนจะคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะในอาณาจักรนภาจันทร์แห่งนี้นั้นมีต้นไม้ประจำอาณาจักรที่สำคัญอยู่คือ ต้นลอเร็ล และต้นลอเร็ลนี้เองก็มีบทบาทสำคัญอย่างมากในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง

เพราะว่ารอบ ๆ หอคอยสมปรารถนานั้น จะบานสะพรั่งไปด้วยต้นลอเร็ลที่ปลูกไว้รอบ ๆ หอ และมันจะส่งกลิ่นหอมเลิศล้ำออกมานานนับ 10 วัน กลิ่นหอมนี้ฟุ้งขจรจรรโลงใจผู้คนนัก

เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้ก็กำลังจะถูกจัดขึ้นในอีกไม่ถึง 15 วัน ดังนั้นช่วงเวลาทั้งก่อนและหลังของงานเทศกาลนี้นับว่าเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก เป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานที่สุดของปีเลยก็ว่าได้

ในที่สุดเจี้ยงเฉินก็เข้าใจว่าหอคอยสมปรารถนาคืออะไรหลังจากที่ถามผู้คนที่อยู่รอบ ๆ

ที่แท้ตัวหอคอยสมปรารถนานี้ เป็นสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นมานับพัน ๆ ปีแล้วของอาณาจักรนภาจันทร์โดยคนของทางราชวงศ์ และมันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เหล่าชนชั้นราชวงศ์,ชนชั้นขุนนาง,แล้วก็ชนชั้นสูง ได้นำความปรารถนาที่ไม่สามารถกระทำได้ด้วยตัวเองมาติดเอาไว้เป็นภารกิจ เพื่อให้ประชาชนหรือคนทั่วไป มาเติมเต็มความปรารถนาเหล่านั้นให้พวกมัน

รางวัลนั้นจะถูกระบุเอาไว้ในม้วนภารกิจความปรารถนา

ผู้ใดก็ตามที่ช่วยให้ความปรารถนานั้นเป็นจริงจะได้รับรางวัลที่ระบุไว้ และแน่นอนว่าทุก ๆ ความปรารถนาที่ถูกนำมาจ้างไว้ในหอคอยสมปรารถนานั้นจะได้รับการตรวจสอบและรับรองแล้วว่ารางวัลที่ได้คุ้มค่ากับงานที่จ้างอย่างแน่นอน

หอคอยสมปรารถนานี้จะเปิดให้บริการเพียงเดือนละ 1 วันเท่านั้น

แต่ในช่วงงานเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วงนั้นหอคอยสมปรารถนาจะเปิดให้บริการติดต่อกันเป็นระยะเวลากว่าครึ่งเดือน อีกทั้งระดับชั้นสูง ๆ ก็จะถูกเปิดออกด้วย

หอคอยสมปรารถนานี้จะมีทั้งหมด 16 ชั้น

ในวันที่เปิดให้บริการธรรมดาๆของแต่ละเดือนนั้น ตัวหอจะเปิดให้บริการที่ชั้น 6-8 เท่านั้น โดยชั้นที่ 8 นับว่าเป็นชั้นสูงสุดที่จะเปิดแล้ว

ในช่วงปีใหม่หอคอยสมปรารถนาจะเปิดให้บริการชั้นที่ 10 และบางครั้งก็อาจจะเปิดชั้นที่ 12 ด้วย

ส่วนในช่วงเดือนแห่งเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงนี้หอคอยสมปรารถนาจะเปิดชั้นที่สูง ๆ อย่าง 10 ,11,12 และแม้กระทั่งชั้นที่สูงกว่านี้ก็อาจจะเปิดด้วย

ส่วนชั้นที่ 16 นั้นจะเปิดในวันงานเทศกาลกลางฤดูร้อน เพียงวันเดียว

และแน่นอนว่าไม่มีใครเคยขึ้นไปถึงชั้นที่ 16 ไม่มีใครมั่นใจว่าจะสามารถดึงม้วนภารกิจในชั้นที่ 16 มาและเติมความปรารถนานั้นได้

แม้ว่าจะมีคนทิ้งความปรารถนาเอาไว้ แต่ความปรารถนานั้นก็สูงส่งราวกับจะขึ้นสวรรค์ แล้วผู้ใดจะไปกระทำได้สำเร็จ? มันเป็นความปรารถนาที่ยากจะสำเร็จจนแทบจะเป็นเรื่องนามธรรมเพ้อฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงทั้งสิ้น

ถ้าท่านคิดจะฝากฝังความปรารถนาไว้กับหอคอยสมปรารถนาท่านจะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมฝากฝัง อย่างไรก็ตามค่าธรรมเนียมนี้ย่อมไม่ได้สูงเท่าไรนักกับบุคคลที่มาฝากฝังไว้ หากนำไปเทียบกับการที่ความปรารถนานั้นจะถูกเติมเต็ม

ถ้าท่านต้องการเลือกทำภารกิจตอบสนองความปรารถนา ท่านต้องรอให้หอคอยสมปรารถนาเปิดเสียก่อนเป็นอันดับแรก

และวันนี้เป็นวันแรกของเดือนฤดูใบไม้ร่วง หอคอยปรารถนาก็เพิ่งเปิดเอาวันนี้เอง ทำให้สถานที่แห่งนี้คึกคักและเต็มไปด้วยผู้คน

แน่นอนล่ะว่าไม่ใช่ใครก็สามารถดึงม้วนภารกิจความปรารถนาได้ตามใจชอบ เพราะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการรับความปรารถนานั้นไปกระทำด้วย และเงินที่ต้องจ่ายก็ขึ้นอยู่กับระดับความยากของภารกิจและระดับชั้นของความปรารถนานั้น

ต้องใช้ 10 เหรียญเงินสำหรับชั้นที่ 1

20 เหรียญเงินสำหรับชั้นที่ 2

50 เหรียญเงินชั้นที่ 3

100 ชั้นที่ 4

ชั้นที่ 5…

10,000 เหรียญเงินสำหรับชั้นที่ 10 และจะแพงขึ้นเรื่อย ๆ ในระดับชั้นที่สูงขึ้น

เช่นนั้นจึงกล่าวได้ว่าหอคอยสมปรารถนานี้เป็นสถานที่น่าสนใจอย่างมาก อีกทั้งยังต้องใช้เงินมากอีกด้วย

"ผู้ใดเป็นคนคิดสร้างหอคอยสมปรารถนานี้กัน? นี่นับเป็นการสะสมความมั่งคั่งอย่างไร้ความเป็นธรรมนัก!" เฉียวไป่ชี่ถอนหายใจออกมา พร้อมทั้งอดทึ่งไม่ได้

ทะเลมวลชนได้ก่อเกิดขึ้นบริเวณด้านล่างของหอคอยสมปรารถนา แต่ละคนต่างต้องการที่จะเข้าไปเลือกสรรม้วนภารกิจที่พวกมันกระทำได้ก่อนผู้อื่นทั้งสิ้น เห็นได้ชัดว่ายอดรายได้จากการเปิดบริการแค่วันเดียวก็สามารถทำให้ผู้คนตื่นตระหนกได้แล้ว

เฉียวไป่ชี่คิดว่าหอโอสถนั้นสามารถทำเงินและสร้างความมั่งคั่งได้รวดเร็วแล้ว แต่เมื่อพบเจอกับหอคอยสมปรารถนานี้นับว่ามันทำได้มากกว่าอีกทั้งยังมิได้ลำบากอันใด

เมื่อประตูเปิดขึ้นเหล่าฝูงชนต่างก็กรูกันเข้าไป พวกมันต่างแย่งชิงกันส่งเงินเพื่อเข้าไปยังชั้นที่พวกมันต้องการ

"นายน้อยท่านสนใจจะเข้าไปหรือไม่?" เฉียวไปชี่ย่อมรับรู้ได้ว่าคนอย่างนายน้อยที่ชอบความท้าทายจะต้องเข้าไปอย่างแน่นอน

"ลองไปดูหน่อย"

ในเมื่อคนอย่างเจี้ยงเฉินคิดจะไปทั้งที่แน่นอนว่าระดับต่ำกว่าชั้นที่ 10 เขาไม่คิดจะแยแส เขาเลือกที่จะขึ้นไปยังชั้นที่ 10 ทันที

10,000 เหรียญนั้นจะช่วยให้ท่านดึงม้วนความปรารถนาออกมาได้ 1 ม้วน

หากท่านไม่สามารถทำความปรารถนาในม้วนนั้นได้สำเร็จ 10,000 เหรียญนี่จะไม่ได้รับคืน

และแน่นอนว่าหากท่านสามารถกระทำความปรารถนาในม้วนได้สำเร็จ ค่าตอบแทนที่ได้นั้นจะมากกว่าที่ท่านเสียไปนับ 10 นับ 100 เท่า

กล่าวได้ว่าเหล่าคนที่มั่งคั่งของอาณาจักรนภาจันทร์ ส่วนมากนั้นจะอยู่ที่ชั้น 10

ธนบัตรราคา 10,000 เหรียญเงินถูกส่งยื่นออกมาอย่างต่อเนื่อง

บางคนก็จ่ายเงินเป็นปึก ๆ เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการเลือกม้วนภารกิจความปรารถนาหลาย ๆ ม้วน บางคนนั้นเสียไม่ต่ำกว่าแสนและบางคนก็ทุ่มเงินมากมายหลายแสน

คนเหล่านี้ส่วนมากเป็นปลาตัวใหญ่ในวงการพ่อค้าและนักธุรกิจ

คนเหล่านี้แน่นอนว่าย่อมมีเงิน แต่หาได้มีสถานะทางสังคมอันใด พวกเขาจะไม่ได้รับการยอมรับอะไรทั้งนั้นหากยังไม่ได้เป็นขุนนางหรือชนชั้นสูง –พวกเขาไม่สามารถใช้เงินเพียงอย่างเดียวเพื่อกลายเป็นขุนนางหรือชนชั้นสูงได้

พวกเขาจึงมายังหอคอยสมปรารถนานี้เพื่อเสี่ยงโชคของพวกเขา และพยายามมองหาว่ามีขุนนางระดับสูงหรือตัวตนที่ทรงอำนาจมาทิ้งภารกิจความปรารถนาเอาไว้หรือไม่ แล้วมีภารกิจไหนเป็นรางวัลที่พวกมันต้องการบ้าง

แน่นอนล่ะว่าความเป็นไปได้นี้ค่อนข้างต่ำ โดยปกติแล้วความปรารถนาที่ตอบแทนด้วยรางวัลมหาศาลนั้นย่อมมีความยากค่อนข้างมากทีเดียว หากมันเป็นภารกิจที่ตัวตนระดับขุนนางขั้นสูงยังกระทำไม่สำเร็จแล้วเหล่าพ่อค้ามือเติบพวกนี้จะไปมีปัญญาทำได้อย่างไร

เจี้ยงเฉินสังเกตอยู่ครู่หนึ่งหน้าประตูในชั้นที่ 10 ก่อนที่จะกล่าวถามคนเก็บเงินว่า "ระดับสูงสุดที่เปิดในวันนี้คืออะไร?"

"นายท่านที่นับถือวันนี้หอคอยสมปรารถนาเราเปิดให้บริการถึงชั้นที่ 12 ขอรับ"

เจี้ยงเฉินพยักหน้า "งั้นข้าจะไปชั้นที่ 12"

เจี้ยงเฉินนั้นไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ถึงแม้เขาจะร่วมมือกับหอโอสถในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ทว่าเงินทองของเขานั้นเยอะจนน่าตื่นตระหนกเลยทีเดียว

ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการไปยังชั้นที่ 12 นั้นสูงถึง 50,000 เหรียญ

"นายท่านผู้ทรงเกียรติ ท่านต้องการเสี่ยงโชคสักเท่าไรหรือขอรับ?" ผู้ดูแลชั้นที่ 12 ต้อนรับพวกเขาอย่างสุภาพ

เจี้ยงเฉินหยิบตั๋วเงินออกมาปึกหนึ่ง นับรวมได้ 100,000 เหรียญเงิน "รอบนี้มาลองดูสัก 2"

มีร้านรับแลกเงินที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่องค์กรหนึ่งอยู่กระจายไปทั่วทั้ง 16 อาณาจักร การที่จะแลกเปลี่ยนเงินตรานั้นทำได้สะดวกสบายนัก ตั๋วเงิน 100,000 นี้เพียงพอให้เจี้ยงเฉินเลือกม้วนภารกิจความปรารถนาได้ 2 ม้วน

สาวรับใช้รูปร่างเย้ายวนเดินนำกลุ่มของเจี้ยงเฉินไปยังชั้นบนทันที

การตกแต่งภายในของหอคอยสมปรารถนานั้นมีความเรียบง่ายแต่ดูหรูหรามีระดับแต่ละชั้นนั้นการตกแต่งก็จะค่อยงดงามดูมีระดับแตกต่างกันไป ชั้นที่ 12 นี้นับว่าเป็นการตกแต่งรูปแบบเรียบหรูโดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่ความงดงามของตัววัสดุ ทั้งยังให้บรรยากาศเก่าแก่โบราณเต็มไปด้วยมนต์ขลัง

มีชันวางม้วนปรารถนามากมายเต็มไปทั่วห้องภารกิจ ชั้นวางต่างระดับกันเป็นตัวแสดงความต่างของผู้ปรารถนาจากขุมอำนาจต่าง ๆ

มีม้วนความปรารถนาของขุนนาง,ทหาร,มหาอำนาจทั้ง 4 วิหาร และองค์กรที่สำคัญต่าง ๆ

ความปรารถนาที่ถูกจัดวางไว้ในชั้นที่ 12 นี้นับว่าผลตอบแทนสูงมาก และมันย่อมยากเย็นเช่นเดียวกัน หากสามารถกระทำได้สำเร็จนั้นเรียกได้ว่าพลิกชะตาเลยทีเดียว

เจี้ยงเฉินนั้นได้ฟังเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อมาในระหว่างเดินทาง เขาได้ยินมาว่ามีคนธรรมดาสามัญนั้นสามารถกระทำภารกิจจนบรรลุ สามารถเติมเต็มความปรารถนาได้ จนยกระดับสถานะกลายเป็นขุนนางขั้นสูง ๆ

แต่นี่ไม่ใช่เพราะเจี้ยงเฉินอยากได้ตำแหน่งขุนนางเพื่อวางอำนาจบาตรใหญ่อะไรทำนองนั้น ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะในเมืองหลวงของอาณาจักรนภาจันทร์แห่งนี้หากไร้ซึ่งอำนาจขุนนางนั้น การกระทำการอันใดสักอย่างช่างเป็นเรื่องยากลำบากนัก

แค่สิทธิ์จะซื้อคฤหาสน์สักหลังเขายังไม่มี ทั้งยังมีอย่างอื่นอีกไม่น้อย

อย่างเช่นเทียนหลงเป็นต้น มันเข้าร่วมกองทัพจนกลายเป็นอัศวินมังกรที่มีหน้าที่สำคัญอย่างรักษาการณ์ชายแดน แต่ทว่ามันหาได้รับยศขุนนางอันใด ที่อยู่อาศัยของมันจึงเป็นได้เพียงแค่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนแออัด (สลัม) เท่านั้น

นี่คือเรื่องพื้นฐานที่พบได้ทั่วไปของอาณาจักรนภาจันทร์

แม้ว่าเจี้ยงเฉินจะมั่งคั่งและร่ำรวยขนาดไหน แต่ต้องยอมรับว่าเขาหาได้มีสถานะอันใดไม่ และได้แต่ยอมรับความเป็นไปในเรื่องนี้

แล้วเขาจะได้รับตำแหน่งขุนนางระดับสูงได้ในเวลาอันสั้นได้อย่างไร? อีกทั้งเขาหาได้สนใจเพียงตำแหน่งขุนนางอันดับ 8 -9 ที่ไร้ราคานั่นด้วย

อย่างน้อย ๆ คนเช่นเขาก็ต้องได้รับตำแหน่งขุนนางอันดับ 5 หากว่าไม่ได้อันดับ 3 และ 4 มิใช่หรือ? หากว่าอันดับ 5 จะเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากไป เช่นนั้นเขาก็จะให้ระดับ 6 เป็นขั้นต่ำสุดที่เขาจะยอมรับได้ หากขั้นต่ำกว่านี้เขาหาได้สนใจไม่

เจี้ยงเฉินไม่คิดได้รับยศถาบรรดาศักดิ์จากการเข้าร่วมกองทัพ เขาหาได้สนใจเรื่องราวการทำสงครามไม่ เขาได้รู้สึกเบื่อและเอือมระอากับการควบคุมกองทัพนกหงส์นับล้าน และเบื่อที่จะต้องสู้รบอย่างเช่นครั้งต้านทัพอาณาจักรจันทราทมิฬแล้ว เรื่องราวเช่นนี้กระทำแค่ 1-2 ครั้งก็หาได้หลงเหลือความสนุกท้าทายอันใด อีกทั้ง 2 ครั้งที่ทำสงครามนั้นล้วนเป็นเพราะสถานการณ์บีบบังคับทั้งสิ้น

เขาไม่อยากผูกมัดตัวเองกับกองทัพหรือขุมอำนาจทางการเมืองใด ๆ

เจี้ยงเฉินนั้นระอากับการแก่งแย่งชิงดีในอำนาจและมีบทเรียนจากอาณาจักรตะวันออกมาเกินพอแล้ว เขารู้ดีว่าการเอาตัวไปอยู่ในวังวนนี้ไม่ต่างอันใดกับเดินอยู่ในดงระเบิด – การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

หากเขาเข้าไปอยู่ในวังวนอีกครั้งคงมิพ้นนำพาตัวให้ไปผจญกับเรื่องยุ่งยาก ถึงแม้เขาจะหาได้หวาดกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับปัญหา แต่เขามาอาณาจักรนภาจันทร์เพื่อยกระดับตัวเอง ไม่ได้มาเพื่อหาเรื่องให้แก้ปัญหาไม่หยุดหย่อน

เช่นนั้นที่เหลือก็มีเพียงความปรารถนาจาก 4 วิหาร องค์กรใหญ่ และก็หน่วยงานต่าง ๆ

แม้ว่าขุมอำนาจเหล่านี้จะดูไม่ค่อยมีหน้ามีตาสักเท่าไร อย่างเช่นเหล่าขุนนางที่คร่ำหวอดในแวดวงการเมือง หรือแม่ทัพนายพลที่ควบคุมกองกำลังทหาร แต่ทว่ากลับเป็นขุมอำนาจทรงพลังที่กุมทุกชะตาชีวิตของผู้คนในอาณาจักรนภาจันทร์แห่งนี้ไว้ในกำมืออยู่หลังฉาก

เจี้ยงเฉินค่อย ๆ เดินดูไปเรื่อย ๆ ม้วนความปรารถนาเหล่านี้ไม่ได้แยกหมวดหมู่อะไรละเอียดละออจนถึงขั้นที่ระบุว่าใครเป็นผู้ที่ทิ้งภารกิจความปรารถนาเอาไว้

เจี้ยงเฉินสุ่มหยิบออกมา 2 ม้วน

ความปรารถนาของคนแรกที่เขาหยิบขึ้นมานั้นถึงกับทำให้เขาหัวเราะออกมา

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความปรารถนาของสตรีชราคนหนึ่ง ความปรารถนาของนางนั้นคือต้องการกลับเป็นสาวสะพรั่งงดงามดั่งบุปผาแรกแย้มอีกครั้ง และยังหวังเอาไว้ว่านางจะยังงดงามไม่โรยราเป็นเช่นนี้ต่อไปอีก 20-30 ปี

เจ้าของม้วนความปรารถนานี้แซ่หนิง เป็นผู้อาวุโสของวิหารทักษิณครามสวรรค์

ผลรางวัลตอบแทนของความปรารถนานี้ก็นับว่าน่าสนใจนัก หากกระทำความปรารถนานี้ได้สำเร็จจะได้เป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้อาวุโสหนิง และได้รับสถานะขุนนางขั้นที่ 6

เจี้ยงเฉินถอนหายใจ เหรียญเงิน 50,000 เหรียญสำหรับความปรารถนานี้กลับกลายเป็นเสียเปล่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาความอ่อนวัยไว้ได้ชั่วกาลนาน แต่ทว่า...แน่นอนเจี้ยงเฉินย่อมมีโอสถจำนวนมากที่ให้ผลลัพธ์ทำให้อ่อนเยาว์

อย่างไรก็ตามเจี้ยงเฉินไม่คิดที่จะเสียเวลามากมายไปปรุงเพื่อสตรีโง่เขลานี้ แต่ในขณะที่เขากำลังจะโยนม้วนภารกิจความปรารถนานี้ทิ้งไป เขาก็เหลือบไปมองเฉียวไป่ชี่เล็กน้อย

มือของเขาหยุดเล็กน้อย ก่อนที่จะโยนม้วนภารกิจให้เฉียวไป่ชี่  "ไป่ชี่ นี่อาจเหมาะกับเจ้า"

เจี้ยงเฉินหาได้มีเวลาว่างมากพอที่จะไปปรุงยานั่น แต่ทว่าเฉียวไป่ชี่นั้นย่อมมีเวลาว่างมากพอ

เฉียวไป่ชี่รับม้วนภารกิจมาก่อนที่จะยิ้มเจื่อน ๆ "นายน้อยข้าหาได้มีความรู้อันใดเกี่ยวกับโอสถที่ทำให้เกิดผลย้อนวัยและคงความเยาว์วัยเอาไว้ นอกจากนี้ยังต้องกลับกลายเป็นลูกศิษย์ส่วนตัวของสตรีชราผู้นี้อีก ข้าคาดเดาได้เลยว่านางต้องเป็นหญิงชราเจ้าอารมณ์ซ้ำยังขี้หงุดหงิดเพราะหมดระดูไปแล้วอย่างแน่นอน คิดว่าข้าจะทานทนได้หรือ? "

"ฮ่า ฮ่า เจ้าก็ปฏิเสธการเป็นลูกศิษย์ของนางเสียสิ จะอย่างไรการเป็นขุนนางขั้นที่ 6 ก็หาได้เป็นเรื่องเลวร้ายไม่"

ก็ไม่ได้ผิดอะไรสำหรับคำกล่าวที่ให้ปฏิเสธการเป็นลูกศิษย์ของสตรีชราคนนี้ เพราะมันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปเป็นศิษย์ของสตรีที่ยังยึดติดมัวเมากับความงามอีกทั้งดูแล้วคงยากที่จะรับใช้นางได้

อย่างไรก็ตามสถานะขุนนางขั้นที่ 6 นั่นเย้ายวนนัก แม้จะมีคนจำนวนไม่มากที่ติดสอยห้อยตามเจี้ยงเฉินมายังอาณาจักรนภาจันทร์แห่งนี้

แต่จะอย่างไรพวกเขาก็ต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง

ยิ่งมีสถานะสูงแน่นอนว่าที่อยู่อาศัยย่อมดีตามขึ้นไปด้วย หากมิมีสถานะเรื่องเช่นนี้คงเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดยามนี้คือ การได้รับตำแหน่งขุนนางเพื่อให้สามารถผ่านพ้นช่วงการลงหลักปักฐานในเมืองหลวงแห่งนี้ได้ก่อน

พวกเขารู้สึกไม่ค่อยดีและอิสระมากสักเท่าไรหากต้องพักอยู่ในโรงเตี๊ยมทุก ๆ วัน

Back  /  Next

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.