spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
"บัดซบ! พวกมันเล่นตลกอันใดกัน? ข้าคิดว่าพวกมันจักซุ่มโจมตีพวกเราแล้ว! "
"ฮึ่ม เดรัจฉานพวกนี้มันได้แต่ข่มขู่ให้คนอาณาจักรตะวันออกแห่งนี้หวาดกลัวเท่านั้น พวกมันมิกล้าเผชิญหน้ากับกองทัพอันเกรียงไกรของอาณาจักรจันทราทมิฬเราด้วยซ้ำ "
เหล่าทหารหาญของอาณาจักรจันทราทมิฬต่างสบถคำหยาบคายด่าทอออกมา พวกมันต้องใช้ระยะเวลาครู่หนึ่งเพื่อจัดเตรียมขบวนโล่กระดองเต่า แต่ทว่ายังมิทันได้สัมผัสนกสักเส้นพวกมันกลับล่าถอยไปเสียแล้ว
"บัดซบ พวกขี้ขลาด!"
ทว่าเหล่าแม่ทัพนายกองที่ได้รับคำสั่งให้ควบคุมขบวนโล่กระดองเต่านั้นหาได้รีบร้อนสลายขบวนไม่ มันสั่งให้ตั้งขบวนรอรับเหตุไม่คาดฝันต่ออีกประมาณ 1 เค่อเต็ม ๆ และเมื่อไม่เห็นวี่แววของเหล่ากองทัพนกหงส์...
"สลาย!"
ในขณะที่สลายขบวนทัพเหล่าทหารก็อดสบถและด่าเหล่าพวกนกหงส์เสียไม่ได้ พวกมันเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยทั้งวันพึ่งจะได้นั่งพักมิทันไรกลับต้องรีบลุกขึ้นมาจัดทัพเสียอย่างนั้น
หลังจากที่พวกมันถูกฝึกฝนมาให้เดินขบวนทัพเช่นนี้ พวกมันต้องเดินทัพตลอดทั้งวันหาได้มีโอกาสพักผ่อนในยามกลางวันไม่ อีกทั้งเมื่อมาถึงยามค่ำคืนพวกมันยังไม่ได้นอนพักอีก เพราถ้าหากสถานการณ์ยังไม่แน่ชัดพวกมันไม่อาจหลับสนิทได้ ทำได้เพียงนั่งพักและงีบหลับเป็นช่วงเวลาเท่านั้น
แต่ทว่ายังไม่ทันผ่านไป 1 เค่อที่พวกมันได้นั่งลงพักผ่อน เสียงแตรพลันดังขึ้นอีกครั้ง
"ศัตรูบุก ลุกขึ้นพร้อมปะทะ! ขบวนโล่กระดองเต่าก่อตัว พลธนูพลหอกเตรียมตัว รอสัญญาณปะทะ! "
มันเกิดขึ้นอีกครั้ง...เหล่ากองทัพนกหงส์ของอาณาจักรตะวันออกโผบินมาจากทิศทางเดิมอีกครั้ง และคราวนี้หากนับจำนวนนกหงส์คร่าว ๆ พบว่ามันมีนกหงส์เงิน นับพัน อีกทั้งยังมีนกหงส์ทองนำขบวนทัพมาอีกด้วย พวกมันไม่มีนกหงส์เขียวแม้แต่ตัวเดียว
"มีคนขับขี่อยู่บนหลังนกหงส์เงิน! ครั้งนี้เป็นการซุ่มโจมตีที่แท้จริงแล้ว! "
"ขบวนโล่กระดองเต่าพร้อม พลธนูพลหอกรอรับสัญญาณ!"
โอ้วววววว!
พั่บ ๆ ! ......มิ้งงง....มิ้งงงง
เหล่ากองทัพนกหงส์ได้หลอกลวงกองทัพของอาณาจักรจันทราทมิฬอีกครั้ง พวกมันพลันบินกลับไป...ไม่นานเสียงกระพือปีกดังสนั่นก็หายไปเหลือเพียงเสียงของจั๊กจั่นเรไรในป่าออกมาประชันแข่งขันกันเหมือนเดิม ถึงแม้คราวนี้พวกมันจะมีคนขับขี่นกหงส์เงินมาด้วย แต่ทว่าพวกมันยังไม่เข้าปะทะหรือโจมตีแต่อย่างใด พวกมันเพียงบินมาและบินกลับเท่านั้น จะให้ทางอาณาจักรจันทราทมิฬใช้พลธนูจู่โจมก็เกรงว่าจะไร้ประโยชน์ เพราะเหล่านกหงส์นั้นบินสูงเสียงเหลือเกินมันเกินระยะที่ธนูจู่โจมถึงไปไกลโข
เป็นการหลอกลวงอีกครั้ง...
เหล่าทหารรวมทั้งแม่ทัพนายกองของอาณาจักรจันทราทมิฬนั้นรู้สึกไม่พอใจที่ถูกหลอกลวงเช่นนี้ พวกมันพึ่งได้หลับตาพักผ่อนเพียงชั่วครู่ กองทัพนกหงส์กลับยกพลมาเป็นครั้งที่สอง แสร้งทำเป็นเหมือนจะโจมตีแต่ทว่ากลับถอนทัพกลับไปไร้เรื่องราว พวกมันวางแผนบัดซบอันใด ถึงเลือกที่จะบินไปบินมาเช่นนี้?
แล้วขบวนทัพก็สลายตัวอีกครั้ง...ทว่าคราวนี้เหล่าทหารได้พักผ่อนไปเป็นเวลา 2 เค่อ เสียงแตรศึกพลันดังกังวานปลุกพวกมันจากนิทราที่เพิ่งได้ไปเยือนขึ้นมาอีกครั้ง
“ศัตรูบุก! ตื่น! ลุกขึ้นพร้อมปะทะ! ขบวนโล่กระดองเต่าก่อตัว พลธนูพลหอกเตรียมตัว รอสัญญาณปะทะ!”
การตั้งขบวนครั้งนี้มีความวุ่นวายและฉุกละหุกไปอยู่บ้างแต่โดยรวมยังกระทำการได้หมดจด นับว่าเหล่าทหารพวกนี้ถูกฝึกฝนมาอย่างยอดเยี่ยม ระเบียบวินัยพวกมันนับว่าสูงล้ำ ถึงแม้พวกมันจะถูกปลุกขึ้นมาโดยฉับพลันโดยที่ตายังมิทันได้ลืมขึ้นมาเต็มที่ด้วยซ้ำ แต่พวกมันกลับจัดขบวนทัพได้รวดเร็วหาได้ล่าช้าไปแม้แต่น้อย
การจัดทัพครานี้จัดทัพเสร็จก่อนที่เสียงกระพือปีกของเหล่านกหงส์จะบินมาเหนือหัวพวกมัน พวกมันบินมาทางเดิม สัญญาณแตรแจ้งเตือนดังขึ้นมาจากทิศทางของอาณาจักรตะวันออกอีกครั้ง
"นี่เป็นการล่อลวงอีกครั้งใช่หรือไม่? เหล่านกหงส์นี้มีเพียงมิกี่พันตัวเท่านั้น พวกมันจะไปสร้างความเสียหายอันใดได้มากมาย หากมันพุ่งลงมาปะทะเพียงขบวนโล่กระดองเต่ามิกี่ขบวนก็จัดการพวกมันได้หมดสิ้น "
"เฮอะ! พวกมันหาได้คิดจะสู้อันใดหรอก เหล่าเดรัจฉานโง่งมพวกนี้หวังเพียงก่อกวนสร้างปัญหาแก่พวกเรา เพื่อมิให้พวกเราได้หลับสบายเสียมากกว่า! "
"มารดามันเถอะ อาณาจักรตะวันออกสวะนี่หาได้มีความแข็งแกร่งอันใดไม่ ได้แต่ใช้ออกด้วยกลยุทธ์อุบาทว์ ก่อกวนพวกเราเยี่ยงสวะเช่นนี้!"
"พวกมันมิกล้าทำการศึกรบพุ่งด้วยซ้ำ มันหวังเพียงใช้ลูกเล่นอุบาทว์เช่นนี้บั่นทอนพวกเรา ไร้ยางอายนัก! "
เหล่าทหารต่างสบถด่าท่อกันอย่างสนุกปาก แต่พวกมันก็ทำได้เพียงด่าทอและสาปแช่งเท่านั้นหาได้คิดเรียกร้องอันใดไม่ จะทำอย่างไรได้ล่ะในเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างหวังเพียงเข่นฆ่ากัน จะไปห้ามการกระทำของอีกฝ่ายได้อย่างไร? ดังคำกล่าวที่ว่า "การศึกไม่หน่ายกลอุบาย"
ดั่งเช่นแม่ทัพเหรินเฟยหลง แม่ทัพอันดับหนึ่งของอาณาจักรจันทราทมิฬของพวกเขาก็เป็นดั่งมังกรในหมู่มวลมนุษย์ อีกทั้งยังฉลาดล้ำลึกมีกลอุบายเอาชัยศัตรูได้มากมาย
“เฮอะ! สลายขบวน อย่างไรมันก็คงทำได้เพียงหลอกลวงก่อกวนพวกเราอีกครา พวกมันหาได้กล้าต่อสู้หรือเผชิญหน้ากับทหารที่แข็งแกร่งจากอาณาจักรจันทราทมิฬของพวกเราไม่! "
"อาณาจักรตะวันออก กลับเต็มไปด้วยพวกขี้ขลาด!"
"เหล่าขยะตัวบัดซบของอาณาจักรตะวันออก หากพวกเจ้ามีความกล้ารีบไสหัวลงมาต่อสู้กับบิดาเดี๋ยวนี้ พวกเจ้ามีฝีมืออันใดอีกบ้างนอกจากบินวนไปวนมาเช่นนี้? "
เหล่าทหารเลวต่างตะโกนด่าทอยั่วยุเหล่าคนที่ขับขี่อยู่บนหลังนกหงส์เงิน
"เมื่อพวกเจ้าอยากสู้รบ เช่นนั้นพวกเราจะสู้รบ!"
สิ้นคำตะโกนเหล่าทหารบนหลังเหล่านกหงส์เงินต่างตอบสนองต่อคำกล่าวทันที พวกมันทุกคนล้วนเอื้อมมือไปหยิบคันศรขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังกันออกมาอย่างพร้อมเพรียง อีกทั้งพวกมันยังหยิบลูกศรขึ้นมาก่อนที่จะชุบน้ำมันและจุดเปลวเพลิง กลายเป็นลูกศรเพลิง พร้อมทั้งปลดปล่อยคันศรออกไปอย่างรวดเร็วอย่างพร้อมเพรียง
เมื่อคนหลายพันคนต่างปล่อยคันศรออกไปพร้อมเพรียงกัน อีกทั้งยิงออกไปคนละมิต่ำกว่า 20 ดอก นี่นับเป็นศรเพลิงเป็นหมื่น ๆ ดอก!
และเมื่อห่าลูกศรนับหมื่นระดมยังไปยังจุด ๆ หนึ่ง นับว่ามันสร้างความเสียหายได้ร้ายแรงนัก
ถึงแม้ขบวนโล่กระดองเต่าของพวกมันจะไม่สะทกสะเทือน แต่ทว่าเหล่ากระโจมต่างมีศรปักทะลุอยู่ทั้งสิ้น และที่สำคัญมันเป็นศรเพลิง
เมื่อศรเพลิงนั้นทำให้เปลวเพลิงลุกท่วมกระโจม พวกมันก็ได้แต่ขุ่นเคืองใจ
ยังมีทหารบางนายที่ถูกเปลวเพลิงลุกครอกทั่วตัวอีกด้วย
หลังจากที่เหล่านกหงส์เงินพร้อมผู้ขับขี่กระหน่ำยิงศรเพลิงออกมาหนึ่งชุดใหญ่ พวกมันก็หาได้โจมตีต่อเนื่องมาแต่อย่างใด พวกมันเลือกที่จะจากไปราวกับไร้เรื่องราว หลงเหลือไว้เพียงทะเลเพลิงพร้อมเศษซากธุลีของกระโจมที่ไหม้ไฟของพวกเขา...
"ดับไฟ! รีบดับไฟเร็วเข้า! "
แม้จะมีลูกศรเพลิงเพียงหมื่นดอก แต่ทว่าความเสียหายนั้นก็หาใช่เรื่องเล็กไม่ เนืองจากเปลวเพลิงนั้นลุกท่วมไปไม่น้อย หากประมาณการไม่ผิดครานี้อาจมีเหล่าทหารที่ถูกไฟครอกตายไปนับพัน ทะเลเพลิงนั้นยังลุกลามได้อีกหากทำการควบคุมหรือดับได้ไม่ดี
ถึงแม้กองทัพขนาดใหญ่นี้การเสียชีวิตไพรพลหลักพันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่จะอย่างไรก็นับว่าสูญเสีย
เหรินเฟยหลงได้รีบออกคำสั่งทันที "กองทัพปีกทมิฬเตรียมพร้อม! ออกไปลาดตระเวนป้องกันน่านฟ้าของพวกเรา หากพบเหล่ากองทัพนกหงส์ ทำการโจมตีปลิดชีวิตพวกมันเสีย! จำไว้ พวกเจ้าได้รับอนุญาตให้เข่นฆ่าและเอาชนะพวกมันเท่านั้น ข้าไม่อนุญาตให้พ่ายแพ้หรือสูญเสีย!"
อาณาจักรจันทราทมิฬได้เตรียมกองทัพทางอากาศไว้รับมือเหล่านกหงส์เช่นกัน พวกมันมีชื่อว่ากองทัพปีกทมิฬ
แต่จะอย่างไรก็ตามอาณาจักรจันทราทมิฬก็ยังมีทรัพยากรที่จำกัดอยู่บ้าง พวกมันสามารถเฟ้นหาเหล่าอีกาทมิฬได้เพียง 3,000 กว่าตัวเท่านั้น อีกทั้งอีกาทมิฬเหล่านี้หากจะนับกันในเรื่องความแข็งแกร่งแล้วล่ะก็นับว่าพวกมันด้อยกว่านกหงส์ทองอยู่บ้าง พวกมันสามารถเทียบได้กับนกหงส์เงินเท่านั้น แต่ทว่าเหล่าทหารที่ควบคุมเหล่าอีกาทมิฬนี้ นับว่าเป็นผู้ฝึกตนอาณาจักรปราณแท้จริงขั้นสูงสุดทั้งสิ้น เกณฑ์การคัดเลือกยังเข้มงวดมากอีกด้วย พวกมันถูกคัดสวรรค์เฉพาะแต่ผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงเท่านั้น รวมถึงพวกมันยังได้รับการฝึกสอนอบรมด้วยประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่อาณาจักรจะกระทำได้
พวกมันย่อมเหนือกว่ากองกำลังผู้ขับขี่นกหงส์ที่เจี้ยงเฉินระดมมาอย่างฉุกละหุกอยู่หลายขุม
กองทัพของนกหงส์นั้นกลับมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปไม่นาน แต่ทว่าครานี้กองทัพปีกทมิฬได้ออกมาป้องกันน่านฟ้าเรียบร้อยแล้ว การสับประยุทธ์กลางเวหาจึงบังเกิดขึ้น
ไม่ว่าจะในแง่ยุทธวิธีหรือความแข็งแกร่งเฉพาะตัว กองกำลังปีกทมิฬล้วนเหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตามผู้ขับขี่เหล่านกหงส์เงิน ก็ใช้ความสามารถที่โดดเด่นตามธรรมชาติของนกหงส์ให้เกิดประโยชน์ด้วยเช่นกัน เหล่านกหงส์เงินนั้นเป็นสัตว์ดุร้ายอีกทั้งยังมีความสามารถในการป้องกันตัวที่สูงล้ำมาแต่กำเนิด ความแข็งแกร่งของร่างกายพวกมันน่าตื่นตระหนกนัก และยังไม่ใช่เรื่องที่อีกาทมิฬสามารถเทียบเคียงได้แม้แต่น้อย
เมื่อข้อดีทั้งหลายปะทะหักล้างกันไป ความได้เปรียบทั้งหมดก็ล้วนสูญหาย กลายเป็นศึกที่เท่าเทียมกันอย่างน่าอัศจรรย์หาได้มีผู้ใดได้เปรียบเสียเปรียบอีกต่อไป
แต่ทว่าเหล่ากองทัพนกหงส์นั้น เห็นได้ชัดว่าพวกมันไร้ความปรารถนาที่จะปะทะหักหาญหรือทำการศึกที่ยืดเยื้อแต่อย่างใด หลังจากที่พวกมันบินเข้าไปปะทะกับเหล่าทัพปีกทมิฬอยู่ไม่กี่กระบวนท่า พวกมันก็เลือกที่จะถอยหนี
เหล่ากองทัพปีกทมิฬเริ่มสงสัยว่าเหล่านกหงส์เงินพวกนี้มันมีจำนวนเท่าไร อีกทั้งมันเป็นนกหงส์เงินฝูงเดียวกันกับที่มาจู่โจมก่อนหน้านี้หรือไม่?
เพราะว่าการเคลื่อนที่ในอากาศนั้นมันหาได้เหมือนการเคลื่อนที่บนพื้นดินไม่ พวกมันสามารถทำการบินวนไปรอบ ๆ ก่อนที่จะเลือกเข้ามาจู่โจมจากทิศทางเดิมได้ตลอดเวลา
นี่เพราะกองทัพนกหงส์มีจำนวนมากมาย จึงสามารถใช้ออกด้วยกลยุทธ์ระลอกคลื่นเช่นนี้ได้
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้นั้นหามีผู้ใดยืนยันได้ไม่ ว่ามันเป็นกองทัพนกหงส์ชุดเดิม หรือมันเป็นกองทัพนกหงส์ชุดใหม่ที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาโจมตี หัวหน้าหน่วยของกองทัพปีกทมิฬจึงคิดที่จะติดตามเหล่านกหงส์ชุดนี้ไปและดูว่าเหล่าผู้ขับขี่นกหงส์พวกนี้คิดทำสิ่งใด
แต่ทว่าเพียงเริ่มต้นการไล่ล่าพวกมันไปทางทิศใต้ได้ไม่นาน กองทัพนกหงส์ก็ถาโถมมาราวกับคลื่น! พวกมันมีจำนวนมหาศาลบินมากจากทั้ง 3 ทิศทางอันได้แก่ ทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก
"บัดซบ พวกเราถูกล่อให้ติดกับ นี่เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำ! เฮ้!! รีบตั้งขบวนโล่ป้องกันเร็วข้า ทหารบนพื้น! รีบก่อตั้งขบวนโล่เร็วเข้า!! "
เหล่ากองทัพปีกทมิฬที่ตอนนี้ถูกล่อลวงให้บินมาอยู่ในทิศใต้ พวกมันไม่อาจกลับไปช่วยเหลืออันใดได้ พวกมันถูกเหล่ากองทัพนกหงส์ปิดล้อมอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เหล่าทหารบนพื้นก็ไม่สามารถหันเหไปให้ความสนใจในการดับทะเลเพลิงด้านล่างได้อีกต่อไป พวกมันทำได้เพียงรีบตั้งขบวนโล่กระดองเต่าเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตามเหล่าทหารก็ไม่อาจตั้งกระบวนทัพภายใต้ความร้อนระอุของเปลวเพลิงได้ แม้พวกมันจะสวมเกราะเหล็ก แต่ทว่าพวกมันนั้นก่อร่างมาจากเลือดและเนื้อหาได้หล่อหลอมมาจากเหล็กไม่ พวกมันจะไปมีผู้ใดที่สามารถทนความร้อนจากเปลวเพลิงได้กันเล่า
และในเวลานี้กองทัพนกหงส์ที่ยกมาทั้ง 3 ทิศทางต่างมาประสานกลุ้มรุมจู่โจมโดยพร้อมเพรียงกัน ลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนกระหน่ำจู่โจมหลั่งไหลออกมาไม่ต่างอันใดกับน้ำที่ถูกเทจากน้ำเต้า ฤาหยาดพิรุณพรำลงจากท้องนภา
และเนื่องจากความร้อนแรงของเปลวเพลิงที่ลุกฮืออยู่บนพื้นดิน ความแข็งแกร่งของกระบวนโล่กระดองเต่าก็หาได้หนาแน่นเหมือนเช่นเคยไม่
ทันที่ที่ขบวนโล่กระดองเต่าเกิดช่องว่างจากการที่มีทหารเสียชีวิตจากเปลวเพลิง จุดอ่อนเช่นนี้กลับถูกเหล่ากองทัพผู้ขับขี่นกหงส์เงินฉกฉวยได้เป็นอย่างดี เหล่าลูกศรจะถูกกระหน่ำไปยังช่องว่างเหล่านั้น เรียกเลือดจากศัตรูออกมาชโลมผืนแผ่นดินคลุกเคล้าอบอวลไปทั่ว
เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดพลันดังระงมออกมาไม่ขาดสาย ซ้ำเสียงกรีดร้องหาได้มีทีท่าจะลดลงไม่ พวกมันดังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ถูกจู่โจมด้วยลูกศรปักทะลุร่างกาย หรือเป็นผู้ที่ถูกไฟคลอกอย่างอเนจอนาถ พวกมันต่างกรีดร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวังออกมาทั้งนั้น กองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรพลันตกอยู่ในความชุลมุนวุ่นวายอยู่ครู่หนึ่ง
แต่นับว่ากองทัพนี้ถูกฝึกฝนอบรมมาได้อย่างดีเยี่ยมนัก ความชุลมุนวุ่นวายนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เท่านั้น ก่อนที่เหล่าทหารจะเริ่มตั้งสติและปฏิบัติตามยุทธวิธีและมาตรการตอบโต้ที่พวกมันฝึกซ้อมมา ผู้ใดมีหน้าที่รับผิดชอบจัดการดับเปลวเพลิงก็ไปดับเปลวเพลิง ผู้ใดรับหน้าที่ป้องกันตั้งขบวนโล่กระดองเต่าก็ตั้งขบวนต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างพลันเข้าที่เข้าทางในเวลาไม่นาน
หลังจากสิ้นสุดการจู่โจมระลอกนี้ถึงแม้ความแข็งแกร่งโดยรวมของกองทัพหลักจะมิได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด ทว่าเหล่าทหารหลายพันคนก็ล้วนบาดเจ็บไม่น้อยจากลูกศรและเปลวเพลิง หนักเบาสาหัสร่อแร่ปะปนกันไป
เนื่องจากครานี้นั้นมีผู้ขับขี่นกหงส์มิต่ำกว่า 3,000 คนที่กระหน่ำลูกศรออกมาคนละ 20-30 ชุด คร่าว ๆ ก็นับเป็นลูกศรเกือบแสนดอก ถึงแม้มันจะไม่ปักทะลุผู้ใดจนตาย แต่แค่จำนวนเท่านี้เพียงตกใส่ก็ทับผู้คนให้ตกตายได้แล้ว
และเป็นอีกครั้งที่ยุทธวิธีการรบพุ่งแบบกองโจรประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม เหล่านกหงส์เมื่อจู่โจมสำเร็จพวกมันก็บินกลับมิได้รั้งอยู่ต่อ...แม้กองทัพนกหงส์จะจากไปแต่เสียงกรีดร้องโหยหวนยังคงดังระงมมิได้หายไปแต่อย่างใด นี่นับว่าข่มขู่ขวัญเหล่ากองทัพจากอาณาจักรจันทราทมิฬได้อีกไม่น้อย
ความสูงของเหล่านกหงส์ที่บินอยู่บนอากาศนั้นก็ยากที่พวกเขาจะตอบโต้ทำกระไรได้
หากปลดปล่อยลูกศรจากบนอากาศลงมาสู่พื้นดิน แม้จะไม่ได้เหนี่ยวรั้งด้วยเกาทัณฑ์อาศัยเพียงหยิบขว้างลงมา ก็นับว่ายังมีโอกาสที่จะปลิดปลงชีวิตผู้คนได้เพราลูกศรที่ตกลงมานั้นทวีความแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ กลับกัน หากเป็นฝ่ายยิงลูกศรขึ้นไปจากพื้นดินหวังจู่โจมศัตรูบนอากาศ ความรุนแรงของลูกศรจะถูกบั่นทอนลงอย่างรวดเร็ว
แม้แต่ผู้ที่มีกำลังแขนเหนือล้ำที่สุดมาด้วยตนเองจะให้มันยิงศรขึ้นไปจู่โจมศัตรูที่อยู่สูงขนาดนี้เกรงว่า คงมิอาจกลบความต่างเรื่องระยะทางนี้ได้ และถึงมันจะยิงคันศรไปถึงเหล่านกหงส์จริง แล้วศรเหล่านั้นมันจะยังเหลือพลังทำลายอันใดอยู่อีกเล่า อีกทั้งหากยังมิลืมเหล่านกหงส์เงินนั้นขึ้นเชื่อเรื่องใด...มิใช่เรื่องความสามารถในการป้องกันหรอกหรือ?
ขนทั่วร่างกายของนกหงส์เงินนั้นแข็งแกร่งและคมกริบไม่ต่างอันใดกับคมมีด
เนื่องด้วยเกิดเหตุการณ์รบในลักษณะนี้เหล่าทหารจากอาณาจักรจันทราทมิฬจึงได้แต่โกรธแค้นไร้หนทางระบายโทสะในครั้งนี้ออก
แต่ทว่ากลับหามีผู้ใดในกองทัพของอาณาจักรจันทราทมิฬล่วงรู้เลย ว่าหายนะและความน่าสะพรึงกลัวมันพึ่งเริ่มอุบัติขึ้น
เหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากลูกศรอยู่ดี ๆ ก็เกิดคลุ้มคลั่งลุกขึ้นมากัดคอของสหายร่วมรบที่กำลังทำการช่วยเหลือมันอยู่...
"อ๊าคคคคคคคคค!" เสียงกรีดร้องสยดสยองโหยหวนแฝงไว้ด้วยความสะพรึงกลัวถึงขีดสุดดังก้องกังวานออกมาจากผู้เคราะห์ร้าย...โลหิตของมันฉีดพุ่งออกมาจากลำคอบริเวณที่ถูกกัดอย่างน่าสยดสยอง
ไม่นานหลังจากนั้นทหารผู้หนึ่งที่มีบาดแผล และกำลังถูกสหายร่วมรบปฐมพยาบาลอยู่นั้น นัยน์ตาของมันแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายทั้งดวงตาของมันแดงฉานราวกับระบายไปด้วยสีโลหิต มันพลันคว้ามือของสหายร่วมรบที่กำลังพันแผลให้มันอยู่ขึ้นมากัดลงไปอย่างสุดแรงจนนิ้วสหายของมันแหลกละเอียด
“อ๊าคคคค !จะ ... เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือไร! ข้ากำลังรักษาบาดแผลให้เจ้า เหตุใดจึงกัดข้าเช่นนี้? "
ภาพเหตุการณ์เช่นนี้นับว่าเป็นการโหมโรงเท่านั้น
หนึ่ง…สอง....สิบ...ร้อย...พัน
เสียงกรีดร้องโหยหวนจากความเจ็บปวด...เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว....เสียงกรีดร้องอ้อนวอนจากความสิ้นหวัง...เสียงร้องจนแทบขาดใจจากการโหยหาหนทางรอด แพร่กระจายครอบคลุมไปทั่วทั้งภูเขา
การซุ่มโจมตีของข้าศึกได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่เหตุใดเสียงกรีดร้องโหยหวนอีกทั้งยังน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ถึงยังดังออกมาไม่ขาดสาย?
กองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในหุบเขาถูกจู่โจมด้วยความสะพรึงกลัวและความตื่นตระหนกอย่างฉงนสนเท่ห์ ความรู้สึกหวาดกลัวและความพรั่นพรึงที่ไม่รู้สาเหตุกำลังแพร่กระจายครอบคลุมกัดกินจิตใจของผู้ที่ได้รับฟังไปทั่วทุกหัวระแหง
อย่างไรก็ตามความน่าสะพรึงกลัวของพิษนี้หาได้มีแค่นี้ไม่ ความเร็วในการแพร่กระจายของมันจะว่าไปยังเดินทางเร็วกว่าเสียงกรีดร้องโหยหวนในครานี้เสียอีก
เพียงเวลาแค่ครึ่งชั่วยามกองทัพที่ตั้งทัพอยู่ในหุบเขานับล้านก็จมลงสู่ความวุ่นวายโกลาหล ในตอนแรกนั้นเหล่าแม่ทัพนายกองยังคงพอสั่งการและควบคุมรักษาสถานการณ์เอาไว้ได้
ทว่าสุดท้ายแล้ว สถานการณ์เหล่านี้ยิ่งมายิ่งร้ายแรง ความสับสนอลหม่านคลุกเคล้าไปด้วยความหวาดกลัว อีกทั้งยังความบ้าคลั่งที่แพร่กระจายออกมารวดเร็วดั่งไฟลามทุ่ง มันส่งผลให้สถานการณ์นั้นอยู่เหนือการควบคุมในเวลาไม่นาน และยามนี้ ดทุก ๆ คนค่อย ๆ จมลงสู่...ขุมนรก
เมื่อความหวาดกลัวแผ่ซ่านกัดกินครอบงำจิตใจ ต่อให้ทหารนั้นแข็งแกร่งดั่งหินผาถึงเพียงใด แต่ทว่าจิตใจมันยังคงสร้างมาจากเลือดและเนื้อดั่งมนุษย์ธรรมดาผู้หนึ่ง แล้วพวกมันจะไปเอาชนะความกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร มิหนำซ้ำความหวาดกลัวนี้หาได้มากจากศัตรูไม่...มันกลับมาจากพวกเดียวกันเอง
ความตื่นตระหนกและอันตรายที่ก่อเกิดจากภายในนั้นเหนือล้ำกว่าอันตรายที่เกิดจากภายนอกมากนัก