spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
เช่นเดียวกับที่ซงเทียนซ่งกล่าวไว้ มีหลายพันสิ่งกำลังรอคอยหลงเซ้าเฟิงเมื่อเขาขึ้นสู่บัลลังก์ของเขา. เขาไม่มีเวลาที่จะต้องรีบสร้างปัญหาให้กับหอโอสถทันที.
ในวันแรกที่เขานั่งบนบัลลังก์ของเขา เขาได้ออกคำสั่งรวบรวมบรรดาขุนนางทั้งหลายให้ร่วมเดินทางไปทางใต้เพื่อเดินทัพไปยังอาณาเขตเจี้ยงหาน และลงโทษพ่อลูกตระกูลเจี้ยงผู้ทรยศ.
นอกจากนี้ หลงเซ้าเฟิงจะเข้าร่วมในการเดินทัพครั้งนี้ด้วยตนเอง.
ทุกคนรู้ดีว่าความเกลียดชังของหลงเซ้าเฟิงที่มีต่อตระกูลเจี้ยงนั้นมากมายเหลือคณาเทียบเท่ากับการดิ่งลึกลงไปในมหาสมุทร เจี้ยงเฉินได้ยิงบุตรชายสุดที่รักของเขา หลงหยินเย จนเสียชีวิตด้วยลูกศรเพียงดอกเดียว. ความเจ็บปวดจากการสูญเสียบุตรชายทำให้หลงเซ้าเฟิงไม่สามารถมีความสุขได้ แม้กระทั่งหลังจากที่ได้ขึ้นครองบัลลังก์.
มันเหมือนกับเพชรยอดมงกุฎของเขาถูกใครคนหนึ่งฉกไปจากเขา
กองทัพในสนามรบใส่ชุดเกราะเต็มกำลังรอคำสั่งพร้อมที่จะออกไปในเวลาใดก็ตาม
หลงเซ้าเฟิงสวมผ้าคลุมไหล่ยาวเต็มตัวและดูน่าเกรงขาม. ทหารชั้นนำที่ได้รับการคัดเลือกอยู่ภายใต้คำสั่งของเขา และเขาเดินไปข้างหน้าของกองทัพที่ยิ่งใหญ่ล้อมรอบด้วยทหารของขุนนางต่าง ๆ.
"เราเพิ่งขึ้นครองบัลลังก์ แต่น่าเสียดายที่ตระกูลทรยศอย่างตระกูลเจี้ยงกำลังช่วยเหลือปกป้องความชั่วร้ายที่เหลืออยู่ของราชวงศ์ตะวันออก. พวกเขากำลังพยายามที่จะต่อต้านราชวงศ์หลง และในการทำเช่นนั้นเท่ากับว่าพวกเขาได้ท้าทายทั้งอาณาจักร. อาณาจักรจะไม่มีสันติภาพจนกว่าตระกูลเจี้ยงจะถูกทำลายล้าง และราชวงศ์ตะวันออกจะถูกถอนรากถอนโคน. เรายังมีความบาดหมางกับตระกูลเจี้ยง ซึ่งพวกเขาทำให้เราต้องสูญเสียบุตรชายด้วยเช่นกัน. ในวันนี้เราจะลงสนามรบด้วยตัวเอง พวกเจ้าพร้อมที่จะลงโทษผู้ทรยศไปพร้อมกับเราไหม? "
"ขอให้ฝ่าบาทมีชีวิตยาวนานหมื่นปี ขอให้ราชวงศ์หลงสืบทอดยาวนานหมื่นหมื่นปี!"
"ปราบปรามตระกูลเจี้ยง ทำลายตระกูลเจี้ยงให้สิ้นซาก !"
"ปราบปรามตระกูลเจี้ยง ทำลายตระกูลเจี้ยงให้สิ้นซาก !"
กองทัพส่งเสียงออกมาพร้อมเพรียงกัน วิญญาณของพวกเขาทะยานไปสู่ความมั่นคง ทำให้แผ่นฟ้าสะท้านและแผ่นดินสะเทือน
“ไปข้างหน้า!” หลงเซ้าเฟิงโบกแซ่ยาวขณะเดียวกันกองทัพที่ยิ่งใหญ่ก็ก้าวไปข้างหน้า. เป็นกองทัพที่มีกำลังมหาศาลนับล้านเมื่อแยกออกเป็นสามกองทัพ พวกเขามุ่งหน้าไปทางใต้สู่ชายแดนใต้และอาณาเขตเจี้ยงหาน.
"เจี้ยงเฉิน เจี้ยงเฟิง ข้าสาบานว่าจะไม่กลับไปที่เมืองหลวง ถ้าข้ายังไม่ได้ชำระความแค้นกับพวกเจ้า ทำลายอาณาเขตเจี้ยงหาน และฆ่าทุกคนในตระกูลเจี้ยงของเจ้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่" หลงเซ้าเฟิงสาบานด้วยเลือด
เจตนาฆ่าที่น่าอัศจรรย์ก็เล็ดลอดออกมาจากหลงยู่ซื่อ คุณลักษณะของนางเหมือนกับน้ำค้างที่แข็งตัว. เกี่ยวกับเจี้ยงเฉินความเกลียดชังที่มีต่อของเขาฝังลึกลงไปจนถึงกระดูกของนาง.
ความเกลียดชังแบบนี้ไม่ใช่เพราะเจี้ยงเฉินได้ฆ่าพี่ชายของนางหลงหยินเย แต่เป็นความเกลียดชังนี้เกิดขึ้นจากอารมณ์อื่น ๆ เช่น ความอิจฉาริษยา.
พูดกันตามเหตุผล นาง หลงยู่ซื่อ ผู้มีร่างฟีนิกซ์ฟ้าและได้ดึงดูดความสนใจของกลุ่มนิกายซ่อนเร้นที่น่าเกรงขาม. นางเป็นเด็กหญิงที่มีค่า.
และความจริงแล้วนางมีความสุขกับชีวิตที่ราบรื่นและง่ายดายมากว่าสิบปีในเส้นทางของนางในฐานะอัจฉริยะ. นางไม่เคยประสบกับความพ่ายแพ้ และนางยังเคยครอบครองที่หนึ่งโดยได้รับการยกย่องสรรเสริญจากผู้คนนับหมื่นนับพัน พวกเขาติดตามผลงานของนางและเคารพนางอย่างจริงใจ.
แต่สถานการณ์นี้เปลี่ยนไปเนื่องจากการปรากฏตัวของเจี้ยงเฉิน.
ไป๋ชานอวิ๋น อี้ไทชู เหล่าทายาทของขุนนางชั้นสูงทั้งสี่คนนี้เคยเป็นสาวกนั่งคุกเข่าที่เท้าของนาง แต่ก็เริ่มที่จะรักษาระยะห่างของพวกเขาจากนาง ด้วยการปรากฏตัวของเจี้ยงเฉิน.
นี่อาจได้รับการอภัยโทษ แต่เจี้ยงเฉินได้เปิดเผยต่อหน้าธารกำนัล เขาปฏิเสธต่อคำขอของนาง เมื่อนางต้องการไขกระดูกมังกรจรัสแสงจากเขาในหอโอสถ และเขาก็ไม่ได้ให้เกียรตินางเลย.
ถ้ามีคนบอกว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีแล้วละก็ ปัญหาของเจี้ยงเฉินที่ชนะนางในการทดสอบมังกรซ่อน ตอนที่ผู้พิทักษ์ส่วนตัวทั้งแปดคนของเขาเป็นกลุ่มแรกที่ทำแบบทดสอบเสร็จ การกระทำของเขาเพียงครั้งเดียวได้แสดงให้เห็นว่าเขาเหนือกว่าอิทธิพลที่ตระกูลหลงได้สั่งสมไว้เป็นเวลาหลายร้อยปี.
ในอุโมงค์ใต้ดินไร้พรมแดน ภายใต้การวางแผนที่รอบคอบและซับซ้อนพร้อมกับอาวุธวิญญาณในตำนานสองชิ้น รวมถึงนักฆ่าสี่คนในระดับผู้เชี่ยวชาญพลังลมปราณฉียังคงไม่เพียงพอที่จะฆ่าเจี้ยงเฉินได้.
สิ่งเหล่านี้รวมเข้าด้วยกันก็เพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้หลงยู่ซื่อมีเจตนาที่จะสังหารเจี้ยงเฉินไปจนถึงที่สุด
ตอนที่นางลุกขึ้นต่อต้านเจี้ยงเฉิน นางได้รับการหักล้างตลอดเวลา แม้จะมีร่างฟีนิกซ์สีฟ้าก็ตาม. สิ่งเหล่านี้ทำให้นางอิจฉาและทำให้นางรู้สึกถึงอันตราย.
ข้อได้เปรียบที่พิเศษของนางจะยิ่งย่ำแย่ไปกว่านี้ หากเจี้ยงเฉินได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตและเติบโตต่อไป.
แม้ว่าเจี้ยงเฉินจะด้อยกว่านาง และยังไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มนิกายที่น่าเกรงขามรุ่นใดก็ตาม หลงยู่ซื่อก็ไม่อยากเห็นรัศมีของความเป็นอัจฉริยะอื่นที่อยู่ข้างรัศมีของนางภายในขอบเขตของอาณาจักร.
กองทัพที่ยิ่งใหญ่ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับความแข็งแกร่งและความแข็งแรง.
ถนนจากเมืองหลวงไปชายแดนภาคใต้ค่อนข้างไกลพอสมควร พวกเขาต้องผ่านหลายอาณาเขต เมืองต่าง ๆ ช่องเขาและพื้นที่อันตรายมากมาย.
สถานที่ที่สองที่ต้องข้ามผ่านไปคือหนึ่งในเทือกเขาเหล่านั้น.
ภูเขาสูงและขรุขระล้อมรอบทั้งสองข้างทางของช่องเขาเหล่านี้ ทางเดินผ่านถูกสร้างตามภูเขา ง่ายต่อการป้องกันและยากที่จะโจมตี.
สถานที่ที่ต้องข้ามผ่านลำดับที่สองตั้งอยู่ในอาณาเขตของขุนนางแห่งหยานเหมิน หยานซงเขา.
ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องการข้ามผ่านจุดนี้คือคนสนิทซึ่งเป็นที่รักของหยานซงเขา. ยกเว้นหัวของคนสนิทอันเป็นที่รักนี้ได้ถูกแยกออกจากร่างกายของเขาเป็นเวลานานแล้ว.
เมื่อคืนในช่วงที่ท้องฟ้ามืดมนและมีลมแรง.
จำนวนสัตว์ปีกที่ดุร้ายนับไม่ถ้วนบินมาจากแหล่งกำเนิดที่ไม่รู้จักภายใต้ปกปิดของค่ำคืน เตรียมพร้อมที่จะจู่โจมผ่านช่องเขา.
ในช่วงเวลาที่น้อยกว่า 1 เค่อ ทางผ่านของช่องหุบเขาเต็มไปด้วยสัตว์ปีกที่เหี้ยมโหดจำนวนนับไม่ถ้วน. ทหารทุกคนที่มีหน้าที่คุ้มกันเฝ้ายามในช่วงค่ำคืนได้กลายเป็นอาหารสำหรับนกที่บ้าคลั่งเหล่านี้.
"เฉินเอ๋อ องค์ราชาตงฟางลู่ตายแล้วรึ?"
เหนือหุบเขา เจี้ยงเฟิงได้พัฒนาผ่านไปสู่ระดับสิบเอ็ดเส้นชีพจรของพลังลมปราณฉี เขายังพบว่ามันยากที่จะยอมรับความเป็นจริงนี้.
"เขาตายแล้ว และเขาก็ได้รับกรรมของสิ่งที่เขาก่อไว้. ไม่มีใครจะถูกตำหนิสำหรับความหายนะของเขาได้ " เจี้ยงเฉินไม่ได้รู้สึกสะเทือนใจมากนักกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับองค์ราชาตงฟางลู่.
ไม่ใช่ว่าเจี้ยงเฟิงรู้สึกเศร้าหมอง มันเป็นเพราะอาณาจักรอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ตะวันออกเป็นเวลานานเกินไป การเสียชีวิตอย่างกะทันหันขององค์ราชาตงฟางลู่ การล่มสลายของราชวงศ์ตะวันออก พลังอำนาจที่ถ่ายโอนไปยังบุคคลอื่น ทำให้เจี้ยงเฟิงมีปัญหาในการปรับตัว.
"หลงเซ้าเฟิงกำลังกระทำบาปหลายอย่าง" เจี้ยงเฟิงก็เห็นมันมากขึ้นในทุกวันนี้. ความสับสนวุ่นวายในเมืองหลวงและการฆาตกรรมไม่มีที่สิ้นสุดได้ทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีเลือดในเมืองหลวงภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน.
"เขาจะไม่สามารถผยองได้นานหรอก" เสียงของเจี้ยงเฉินนั้นห่างเหิน. "ตามการคำนวณ กองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่เขาเป็นผู้นำส่วนตัวควรจะมาถึงเร็ว ๆ นี้?"
เจี้ยงเฉินไม่ได้เลือกทางผ่านที่สองนี้โดยไม่มีเหตุผล.
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ง่ายที่จะป้องกันและยากที่จะโจมตี. ภูมิประเทศเป็นประโยชน์ในการปกปิดกองทัพนกหงส์อันมหาศาลของเขา. เขาจะซุ่มโจมตีกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของหลงเซ้าเฟิง และเลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่พำนักของหลงเซ้าเฟิงในชีวิตหลังความตาย.
เจี้ยงเฉินรู้อย่างชัดเจนว่าสิ่งแรกที่หลงเซ้าเฟิงจะทำหลังจากการครองบัลลังก์ของเขาคือ การพิชิตอาณาเขตเจี้ยงหาน ต่อสู้กับตระกูลเจี้ยงและโค่นล้มตระกูลเจี้ยงให้หมดไป.
จุดมุ่งหมายของเจี้ยงเฉินมีความชัดเจน นั่นก็คือการสังหารหลงเซ้าเฟิง หลงยู่ซื่อ และกำจัดทุกคนในตระกูลหลง.
นี่ไม่ใช่ความเสียใจส่วนบุคคล แต่เป็นสงครามที่ทั้งสองตระกูลไม่ยอมหยุดจนกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะตาย.
การสู้รบครั้งนี้ต้องจบลงด้วยการทำลายล้างอย่างสมบูรณ์ของอีกฝ่ายหนึ่ง. มิฉะนั้น ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พินาศ มันก็จะไม่มีวันสงบสุข.
"เจี้ยงเฉิน เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่ากองกำลังกลุ่มเล็ก ๆ ของเราจะเพียงพอที่จะสามารถต่อสู้กับกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของหลงเซ้าเฟิงได้อย่างเต็มที่" องค์หญิงโจวหยู่รู้สึกเบื่อหน่ายหลังจากสองสามวันที่ผ่านมา แต่นางก็ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดความรุนแรงได้ทุกเมื่อ.
"โจวหยู่ เมื่อไหร่ที่เจ้าคิดว่าข้า เจี้ยงเฉิน ได้ทำอะไรบางอย่างโดยไม่มีความมั่นใจในความสำเร็จ?" เจี้ยงเฉินยิ้มบาง ๆ และถามเพื่อให้คำตอบกับนาง.
"แต่หลงเซ้าเฟิงประสบความสำเร็จในการก่อกบฏ และขุนนางต่าง ๆ ยอมจำนนต่อการปกครองของเขา. ถ้าเขารวบรวมกองกำลังต่าง ๆ ของขุนนาง เขาจะมีทหารประมาณหนึ่งล้านคน. แม้ว่าทางผ่านนี้เป็นเรื่องง่ายที่จะป้องกันและยากที่จะโจมตี ถ้าหากทุกคนในกองทัพที่แข็งแกร่งนับล้านร่วมกันโจมตี มันจะเกินพอที่จะเอาชนะศัตรูในผ่านนี้ได้ถึงสิบครั้ง.
องค์หญิงโจวหยู่ไม่ใช่คนไร้สมอง นางยังมีความรู้เกี่ยวกับสงครามบ้าง.
“โจมตี?” เจี้ยงเฉินยิ้มสบายใจ. "พวกเขาจะไม่มีโอกาสที่จะได้โจมตีด้วยซ้ำ. พวกเขาจะมีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น. ถ้าหากพวกเขาสามารถหลบหนีได้นั่นก็คือชะตากรรมของพวกเขา. ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถทำได้ พวกเขาก็ต้องตาย "
เสียงของเจี้ยงเฉินลดลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากความตั้งใจในการสังหารได้เกิดขึ้นในดวงตาของเขา.
ทหารและเบี้ยล่างสามารถวิ่งหนีได้.
แต่คนในตระกูลหลงไม่ได้รับอนุญาตให้หลบหนีไปแม้เพียงคนเดียว.
เขาจะไม่ลืมภาพของขุนนางแห่งมังกรทะยานที่ส่งคนไปสังหารพ่อของเขาเจี้ยงเฟิง. เขาจะไม่ลืมภาพใบหน้าของพ่อของเขาเป็นสีดำด้วยยาพิษ. ในทำนองเดียวกัน เขาก็จะไม่ลืมภาพที่หลงซานพยายามที่จะฆ่าเขา เมื่อเขากำลังปฏิบัติภารกิจ. เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะลืมเหตุการณ์ที่หลงหยินเยและหลงยู่ซื่อร่วมมือกับนักฆ่าที่เชี่ยวชาญสี่คนในอุโมงค์ใต้ดินไร้พรมแดน พวกเขาบังคับให้เขาต้องเข้าสู่สถานการณ์ที่หมดหวัง.
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขาโชคดีและมีไม้ตาย เขาจะต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนครั้งที่ไม่ทราบแน่ชัดไปแล้ว.
เจี้ยงเฉินไม่ได้เป็นคนที่เก็บซ่อนความแค้น แต่เขาก็ไม่ใช่นักบวชที่ยังมีชีวิตอยู่และสามารถให้ปล่อยให้น้ำลายแห้งไปเองอย่างอ่อนโยนเมื่อมีคนถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา. มันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวความแค้นระหว่างเขากับตระกูลหลงอีกต่อไป แต่ตอนนี้มันจะเป็นเรื่องที่ว่าใครจะอยู่ใครจะตายอย่างไร้เกียรติ.
"พวกเขามาถึงที่นี่แล้ว"
หูของเจี้ยงเฉินได้ขยับเล็กน้อย ขณะที่หูของเทพแห่งลมประจิมสามารถได้ยินเสียงของกองทัพที่ยิ่งใหญ่เดินขบวนเข้ามาพวกเขาอยู่ห่างออกไปเพียง 43 ลี้
"พวกเขาอยู่ที่นี่ ?" องค์หญิงโจวหยู่มีลักษณะของผู้หญิงทั่วไปที่มีความอยากรู้อยากเห็นในทุกเรื่อง นางพยายามฟังอย่างตั้งใจ แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร.
เจี้ยงเฟิงก็พยายามผึ่งหูแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเช่นกัน.
เจี้ยงเฉินยืนเหมือนรูปปั้นที่อยู่บนยอดเขาและยังคงเงียบสนิทโดยไม่พูดอะไรอออกมา. ความกระวนกระวายใจของเขามีความเด็ดเดี่ยวและเต็มไปด้วยความตั้งใจในการฆ่าอย่างเงียบ เขารอคอยเวลาในการเชือด.
"หลงเซ้าเฟิง ข้าหวังว่าเจ้าจะสวมเสื้อคลุมขององค์ราชาแล้ว. มิฉะนั้น เจ้าจะไม่มีโอกาสได้สวมใส่มันอีกในชีวิตนี้ "
ความคิดไหลเวียนอยู่ในใจของเจี้ยงเฉิน.
หลังจากนั้นไม่นาน องค์หญิงโจวหยู่และเจี้ยงเฟิงก็ได้ยินเสียงรบกวนดังกล่าว. แรงดึงดูดความกระหายเลือดและความตั้งใจของกองทัพที่แข็งแกร่งนับล้านคนเดินหน้าต่อไป ความหดหู่ใจที่เกิดจากการกดขี่ทำให้จิตใจขององค์หญิงโจวหยู่หดหู่โดยไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่นางไม่สามรถควบคุมตัวเองไม่ให้มองไปยังเจี้ยงเฉินได้.
เขาดูหนักแน่นมั่นคงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ราวกับว่าเขานั่งสมาธิเพื่อพิจารณาไตร่ตรอง แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าของเขาค่อย ๆ แผ่กระจายออกไป.
"นี่ ... เขามั่นใจในชัยชนะครั้งนี้จริง ๆ หรือ?" จิตใจขององค์หญิงโจวหยู่อยู่ในความสับสนวุ่นวาย. ชายหนุ่มที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันคนนี้ได้เปลี่ยนแปลงนาง ให้ความความรู้ใหม่ในเรื่องต่าง ๆ แก่นาง และเขายังเข้ามามีอิทธิพลต่อจิตใจของนางภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน.
กองทัพที่ยิ่งใหญ่ได้มาถึงในที่สุด.
หลงเซ้าเฟิงสวมเกราะที่ทนทานเหนือเสื้อคลุมขององค์ราชา และหันไปหาขุนนางแห่งหยานเหมินที่อยู่ด้านของเขา "ขุนนางหยาน ด่านที่สองอยู่ข้างหน้าใช่ไหม? หลังจากที่หน่วยทหารม้าสอดแหนมของเจ้าออกไปทำไมพวกเขายังไม่ส่งข่าวกลับมา?”
หยานซงเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย. แม่ทัพที่คุ้มกันด่านที่สองคือแม่ทัพอันเป็นที่รักของเขา. พูดได้ด้วยเหตุผลว่า เขาจะไม่โยนหน้าที่ของเขาทิ้งอย่างนั้น.
"ให้ข้าน้อยส่งคนไปสอดแนมก่อนดีหรือไม่?" หยานซงเขาถามอย่างอ่อน.
"ไม่จำเป็น !" กองทัพจะเดินหน้าต่อไป. บอกให้เขาเปิดทาง. ขุนนางหยาน เจ้าควรจะระมัดระวังมากกว่านี้ในการใช้คนที่ละเลยตำแหน่งของเขาอย่างนั้น " หลงเซ้าเฟิงพูดเบา ๆ.
เหงื่อไหลท่วมบนหลังของหยานซงเขา. เขาจะไม่รับรู้ถึงความไม่พอใจขององค์ราชาผ่านคำพูดเหล่านี้ได้อย่างไร?
ในขณะนั้นเอง มีเงาคนชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือช่องเขาเหมือนกับรูปลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าลงมายังโลกและมองลงมายังมวลมนุษย์ เมื่อเขามองไปที่กองทัพที่ยอดเยี่ยมด้านล่าง.
"หลงเซ้าเฟิง ข้ารอเจ้ามานานแล้ว"
เสียงของเจี้ยงเฉินสงบราวกับน้ำ แต่ก็กังวานไปทั่วกองทัพที่ยิ่งใหญ่เช่นคลื่นที่น่ากลัวแห่งมหาสมุทรอันกว้างใหญ่พัดกระหน่ำไปยังฝั่งเป็นระลอก.
"นั่นเขา เจี้ยงเฉิน" หลายคนจำเขาได้ทันที.
"เจี้ยงเฉิน" ดวงตาของหลงเซ้าเฟิงเริ่มกลายเป็นแดงก่ำ ราวกับแสงแห่งความเกลียดชังที่ไม่มีที่สิ้นสุดยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือภูเขาเมื่อเขาเห็นศัตรูของเขา.
"จอมวายร้ายเจี้ยงเฉิน ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่? ทหารและแม่ทัพที่ควรจะมาป้องกันอาณาเขตอยู่ที่ไหน? " ขุนนางแห่งหยานเหมินส่งเสียงเรียก.
"ทหารและแม่ทัพป้องกันงั้นรึ? คนไร้ค่าเหล่านั้นมีดีแค่เรื่องฉลองกินและดื่มเช่นเดียวกับเจ้า หยานซงเขา. พวกเขาได้ไปรายงานตัวที่นรกเรียบร้อยแล้ว. หยานซงเขา เส้นทางสู่ขุมนรกอยู่ไม่ไกล เจ้าคงจะได้พบกับพวกเขาทันเวลา ถ้าเจ้ารีบไปตามทางเดียวกัน "
เสียงเย็นของเจี้ยงเฉินก้องกังวานลงมาจากด้านบนของช่องเขา.
"เจี้ยงเฉิน เจ้าคิดว่าการยึดครองภูเขาหนึ่งที่สูงพอที่จะขัดขวางกองกำลังที่เคลื่อนไหวทางใต้ของกองทัพที่ยอดเยี่ยมของข้าได้?" หลงเซ้าเฟิงยิ้มอย่างเย็นชาขณะที่เขาเรียก.
“ขัดขวางรึ?” เสียงของเจี้ยงเฉินเต็มไปด้วยความรังเกียจ. "หลงเซ้าเฟิง เจ้าคิดมากเกินไป. ข้าเลือกทางผ่านนี้เพียงเพราะข้าคิดว่าบริเวณนี้เหมาะสมกว่าที่จะเป็นสถานที่พักผ่อนสุดท้ายของชีวิตเจ้า เจ้าจะนอนยังสงบสุขในหลุม "
อะไรนะ?
หลุมฝังศพ? กองทัพที่แข็งแกร่งกว่าหนึ่งล้านคนเกือบจะหัวเราะ เจี้ยงเฉินบ้าไปแล้ว? แม้ว่าเขาจะมีกองกำลังอันน้อยนิดอยู่กับเขา เขาก็กล้าที่จะพูดถ้อยคำอันสูงส่งเช่นนี้ในการเอาชีวิตขององค์ราชาเพียงแค่ทางผ่านช่องเขา?
นี่เป็นฝันกลางวันของคนโง่เง่าหรืออย่างไร?