spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
เจี้ยงเฟิงตะลึงงัน เขารู้ว่าลูกชายของเขาต้องเจอกับปาฏิหาริย์บางอย่าง. มิฉะนั้นเขาจะไม่เปลี่ยนไปจากคนที่ไม่สามารถผ่านการสอบพื้นฐานกลายเป็นคนที่เป็นหนามยอกอกของขุนนางแห่งมังกรทะยาน
"เฉินเอ๋อ,เหล่า ... เหล่าฝูงนกนี้ พวกมันทั้งหมดเชื่อฟังเจ้าได้อย่างไร ?" เจี้ยงเฟิงรู้สึกว่าเขาหายใจไม่ออก
"ท่านพ่อ นี่เป็นกลเม็ดเด็ดของข้า. แค่เพียงคำสั่งเดียวจากข้า พวกมันจะต่อสู้จนตายได้ตลอดเวลา! "
เจี้ยงเฟิงแสดงออกด้วยสีหน้าที่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกประหลาดโดยคาดไม่ถึง เขาทั้งรู้สึกตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงที่มหัศจรรย์ของบุตรชาย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังไว้อาลัยให้กับอาณาจักรต่าง ๆและเวทนาในชะตากรรมของมนุษยชาติ
"เฉินเอ๋อ นกเหล่านี้เป็นพวกกระหายเลือด ถ้าพวกมันมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงและโจมตีเฉพาะกองทัพของขุนนางแห่งมังกรทะยานเท่านั้น นั่นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเพราะการก่ออาชญากรรมของเขาสมควรได้รับมากกว่าความตาย แต่ถ้าพวกมันโกรธจนอยู่เหนือจากการควบคุม แล้วเมืองหลวงและพลเมืองจะกระโจนเข้าสู่หายนะและความทุกข์ทรมาน. "
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจี้ยงเฟิงยังคงเป็นสมาชิกของอาณาจักรตะวันออก เขาเคยเป็นคนที่มีน้ำใจ และแม้ว่าเขาจะมีความบาดหมางลึก ๆ กับขุนนางแห่งมังกรทะยาน แต่เขายังคงคิดเป็นห่วงว่าราษฎรผู้บริสุทธิ์จะได้รับผลกระทบหากกองทัพนกเหล่านี้มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง
"ท่านพ่อ ข้ามีอำนาจอันเด็ดขาดเหนือกองทัพนกหงส์ อย่างไรก็ตาม หากท่านพ่อยังเป็นห่วงว่าพลเมืองในเมืองหลวงจะได้รับผลกระทบ ลูกก็สามารถล่อลวงตระกูลมังกรทะยานให้ออกจากเมืองหลวงก่อน และต่อสู้กับพวกเขาจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง "
"จะดีที่สุดถ้าทำได้อย่างที่ว่า" เจี้ยงเฟิงไม่ใช่คนที่จะเอาแต่พูดเกี่ยวกับความเมตตากรุณา "ตระกูลเจี้ยงของข้ามีความแค้นโลหิตกับตระกูลมังกรทะยาน และเราทั้งสองจะไม่หยุดในขณะที่อีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเราไม่ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการกำจัดตระกูลหลงให้สิ้นซากและถอนรากถอนโคนพวกเขา เราจะประสบกับปัญหาที่จะเพิ่มขึ้นอีกในภายภาคหน้า! จะไม่มีที่ให้เรายืนในอาณาจักรตะวันออกอันยิ่งใหญ่ "
"คำพูดของท่านพ่อเป็นความจริงมาก ท้องฟ้านั้นกว้างใหญ่ไพศาล ลูกหลานที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเจี้ยงอาจไม่จำเป็นต้องตั้งหลักปักฐานในอาณาจักรตะวันออกเท่านั้น ไม่ต้องกล่าวถึง มันก็ยังไม่แน่ว่าดินแดนของอาณาจักรนี้จะยังคงเป็นของราชวงศ์ตะวันออกหลังจากสงครามครั้งนี้หรือไม่ " เจี้ยงเฉินหัวเราะเบา ๆ
"ถ้ายังไม่ได้ตั้งชื่อตะวันออก มันจะมีชื่อว่าหลงแทนที่หรือไม่? นี่ไม่ต้องคิดถึงต้นทุนทั้งหมด ไม่ว่าต้องแลกด้วยกับอะไร” แม้ว่าเจี้ยงเฟิงจะหมดความหวังเกี่ยวกับองค์ราชาตงฟางลู่ แต่เขาก็ยังคงคิดว่ามันดีกว่าที่จะให้ราชวงศ์ตะวันออกควบคุมอาณาจักรต่อไป ถ้าหากเขาต้องเลือก ถ้าอาณาจักรตกอยู่ในมือของตระกูลหลง มันคงเป็นหายนะอันร้ายแรงสำหรับตระกูลเจี้ยง
"ท่านพ่อ ทำไมต้องมีชื่อว่าหลงแทนตะวันออกด้วยล่ะ? ท่านเคยมีความคิดในเรื่องนี้ไหมว่าอาณาจักรควรตกเป็นของตระกูลเจี้ยง? ทำไมถึงควรพิจารณาเรื่องนี้ ? เสียงของเจี้ยงเฉินพยายามไม่แสดงความคิดเห็นหรือเข้าข้าง
"เอ๋ ?" ร่างกายแข็งแกร่งของเจี้ยงเฟิงสั่นสะท้าน "เฉินเอ๋อ คำพูดของเจ้า ... "
"มันคือการกบฏและเป็นความคิดนอกคอกไม่ใช่รึ?" เจี้ยงเฉินหัวเราะ "ท่านพ่อ ในโลกของการต่อสู้แห่งเต๋า คนที่แข็งแกร่งเป็นที่เคารพนับถือ ราชวงศ์ตะวันออกนี้ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าฉกฉวยดินแดนของพวกเขาจากคนอื่น มีคนบอกว่าทุกคนหมุนเวียนกันมานั่งในที่นั่งขององค์ราชาและปีนี้เป็นรอบของตระกูลเจี้ยงของข้า. ยกเว้นตระกูลเจี้ยงของข้าอาจไม่สนใจที่จะเป็นองค์ราชาปกครองอาณาจักร แต่เราต้องการเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาเท่านั้น "
เจี้ยงเฟิงไม่ได้พูดยาว เขาต้องบอกว่าคำพูดของลูกชายถือเป็นความคิดที่ดีและทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่ได้ผิดอะไร
ในฐานะขุนนาง เจี้ยงเฟิงไม่ใช่คนที่ซื่อสัตย์อย่างโง่เขลา ในทางตรงกันข้าม เขามีความเห็นส่วนตัวเสมอเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง
ดังนั้น คำพูดของเจี้ยงเฉินจึงทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยสิ่งที่ล่อใจ
ทำไมตระกูลเจี้ยงจึงไม่สามารถเป็นคู่แข่งได้?
องค์ชาย อ๋อง แม่ทัพ และเหล่าขุนนางทุกคนเกิดมาในตำแหน่งของพวกเขาหรือไม่?
ราชวงศ์บูรพาทำเรื่องผิดศีลธรรม ดังนั้นทำไมตระกูลหลงควรได้รับอนุญาตให้ต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งของพวกเขา แล้วตระกูลเจี้ยงล่ะ?
เจี้ยงเฉินรู้ด้วยว่าบิดาของเขากำลังต่อสู้กับจิตใจของตัวเองอย่างรุนแรง. แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ บิดาคนเก่าของเขาถูกล่อลวง
ใครไม่ต้องให้ชื่อของเขาถูกประทับตราบนหน้าประวัติศาสตร์?
ผู้ชายคนไหนที่ไม่ปรารถนาที่จะบรรลุถึงการกระทำอันมีค่า สร้างแผ่นดินใหม่ และได้รับการยกย่องว่าเป็นองค์ราชาและเจ้าเหนือหัว?
ใครวางกฎว่าบุตรชายของตระกูลเจี้ยงไม่สามารถขึ้นไปสู่บัลลังก์ และไม่สามารถนั่งเป็นผู้ปกครองของอาณาจักรได้?
"ท่านพ่อ นี่เป็น " ผลไม้หยกหายาก " ถ้าท่านกิน มันก็จะเพิ่มการฝึกฝนให้กับท่านขึ้นมาหนึ่งระดับอย่างเห็นได้ชัด " เจี้ยงเฉินได้รับผลไม้หยกหกผลจากเม็งฉี เขาได้กินทั้งสามผลในเวลาเดียวกัน และนำกลับมาสามผล
"ยกระดับการฝึกฝนของข้าขึ้นหนึ่งระดับ?" เจี้ยงเฟิงประหลาดใจ
“อืม นี่เป็นผลไม้แห่งวิญญาณที่ดูดซึมพลังวิญญาณของชั้นฟ้าและแผ่นดิน มันค่อนข้างหายาก แม้แต่การได้เห็นมันก็ยากที่จะทำได้ภายในหนึ่งร้อยปี "
เจี้ยงเฟิงเชื่อถือลูกชายของเขาอย่างแน่นอน แต่เขาไม่อาจทนต่อข้อสงสัยของเขาได้ จึงถามว่า "เฉินเอ๋อ มันจะไม่ดีกว่านี้หรือ หากเจ้าเป็นคนกินผลไม้แห่งวิญญาณนี้?"
"ข้ากินมันแล้ว" เจี้ยงเฉินยิ้ม "ไม่มีประโยชน์ในการกินมากเกินไป"
"โอ้ ถ้าอย่างนั้นแล้วข้าจะไม่ปฏิเสธ "ฮ่า ๆ !... เจี้ยงเฟิงไม่ลังเลเมื่อได้ยินว่าบุตรชายของเขากินมันเข้าไปแล้ว เขาหยิบผลไม้หยกหายากและกัดมันในสองหรือสามครั้ง
"ท่านพ่อ ท่านจะต้องใช้เวลาสองสามวันในการฝึกฝนหลังจากกินผลไม้นี้ เพื่อที่จะพัฒนาเส้นลมปราณ ข้าจะหาจุดที่เงียบสงบในหุบเขาแห่งนี้ และจัดเตรียมนกหงส์ส่วนหนึ่งของให้คอยเฝ้าอยู่เหนือท่าน! "
"เฉินเอ๋อ แล้วเจ้าล่ะจะไปที่ไหน?" เจี้ยงเฟิงอยากรู้อยากเห็น.
"ถ้าท่านพ่อไม่ยอมให้ข้าพากองทัพมาก่อกวนเมืองหลวงอย่างอึกทึกครึกโครม อย่างน้อยลูกชายของท่านควรกลับไปดูอีกครั้ง เกิดอะไรขึ้นถ้าตระกูหลงทำสิ่งที่บ้าคลั่งเพื่อการค้นหาเราทั่วเมือง? ข้ายังคงต้องดูแลคนที่นั่นใช่มั้ย? "
เจี้ยงเฟิงรู้สึกว่าหัวใจของเขาถูกบีบคั้น "อย่างนั้น เจ้าก็ไปเถอะ แม้ว่าหอโอสถมีฐานรากที่มั่นคงภายในเมืองหลวง แต่พวกเขาไม่มีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ ถ้าหากขุนนางแห่งมังกรทะยานไม่สนใจเรื่องความเสี่ยง กระทั่งหอโอสถก็คงไม่นิ่งเฉยเป็นแน่ "
เจี้ยงเฉินรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีและพยักหน้า จ้องมองออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
สิ่งแรกที่เขาได้ทำเมื่อกลับไปที่คฤหาสน์เจี้ยงหานคือ การเอาฟันของเม็งฉีออกมาและใส่มันลงไปกับพลังลมปราณฉี เขาขอให้เม็งฉีส่งกองทัพนกหงส์ไปรอคำสั่งของเขา
เม็งฉีกังวลเรื่องเจี้ยงเฉินมาก และมันได้จัดแจงส่งนกหงส์ไปให้เขาถึงยี่สิบกองทัพ นกหงส์สองถึงสามล้านตัวถูกส่งออกไป มันกำลังเดินทางกันเป็นฝูงใหญ่ พวกมันมาถึงใช้เวลาไปประมาณครึ่งวัน
ในเวลานี้ เมืองหลวงได้เข้าสู่กลียุค
ด้านขุนนางแห่งมังกรทะยาน กองกำลังส่วนบุคคลชั้นยอดของขุนนางหลายสิบคนรวมตัวกันอยู่ในสถานที่เดียวกัน กองทัพที่มีความแข็งแกร่งจำนวนหมื่นคนได้ล้อมรอบคฤหาสน์เจี้ยงหาน คฤหาสน์จินชาน และคฤหาสน์หูปิง
บ้านทุกหลังระหว่างถนนและตรอกซอกของเมืองหลวง ราษฎรต่างปิดประตูบ้านของพวกเขาไว้แน่นหนา ไม่มีใครกล้าที่จะย่างเท้าออกมาข้างนอก
ไม่มีใครเลยสักคนเดียวที่ออกไปเดินทอดน่องตามถนนที่ว่างเปล่า ร้านค้าทั้งหมดก็ปิดประตูด้วยความกลัวพวกเขาเกรงว่าจะพัวพันกับภัยพิบัติที่ไม่สมควรเข้าไปยุ่ง
ทุกคนรู้ว่าเมืองหลวงได้จมลงสู่ความยุ่งเหยิง สับสนอลเวง และผู้คนต่างพากันระส่ำระสาย
การสังหารกำลังจะเกิดขึ้นในเมืองหลวง
การสู้รบอย่างโหดเหี้ยมและโหดร้ายเพื่ออำนาจกำลังจะเริ่มต้นพัดพาการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
ยกเว้นเมื่อกองทัพใหญ่ได้ล้อมรอบทั้งสามคฤหาสน์ พวกเขาค้นพบว่าคฤหาสน์เหล่านี้ถูกทิ้งร้างมานานแล้วและพวกเขาไม่พบใครสักคนในนั้น
"อะไรนะ !? หนีออกไปแล้ว?” หลงเซ้าเฟิงพรวดขึ้นยืนเมื่อได้รับข่าว
"ไม่เจอใครสักคนในคฤหาสน์เหล่านี้ !"
"ค้นหา ค้นหาให้ทั่วทั้งเมือง! ผู้คนที่มีหน้ามีตาหลายพันคนจากทั้งสามตระกูลไม่สามารถหายตัวไปได้ในคืนเดียว " หลงเซ้าเฟิงมีสีหน้าเย็นชา
เขากำหมัดแน่น แน่นมากจนสนับมือของเขาแตกดังเปรี๊ยะ
ความเกลียดชังอันลึกซึ้งของเขาในขณะนี้ ไม่สามารถชำระล้างด้วยแม่น้ำสามสายและมหาสมุทรทั้งห้าได้ เขาเกลียดชังตระกูลเจี้ยงมากกว่าเกลียดตระกูลของราชวงศ์!
เขาต้องการยึดอำนาจจากราชวงศ์เท่านั้น
แต่ความเกลียดชังต่อตระกูลเจี้ยงเกิดขึ้นจากการตายของบุตรชายของเขา!
หลงหยินเยเป็นบุตรชายที่เขา หลงเซ้าเฟิง ภาคภูมิใจมากที่สุด และเป็นทายาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขา
ดวงตาของหลงเซ้าเฟิงเต็มไปด้วยความปวดร้าวและเกลียดชังจากการสูญเสียบุตรชาย เมื่อต้องคิดว่าเขาขุนนางแห่งมังกรทะยาน ซึ่งอยู่เหนือคนอื่นมาตลอดชีวิตของเขา มันคือเขาซึ่งเป็นคนที่ทำลายตระกูลอื่น และเขาคือคนที่ฆ่าคนในตระกูลอื่นอยู่เสมอมา
เมื่อใดกันที่มันเปลี่ยนไปเป็นคนในตระกูลหลงที่ถูกฆ่า?
ดังนั้น ไม่เพียงแค่เกรี้ยวกราด แต่เขาโกรธมากจนบ้าระห่ำ ! นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้แค้น แต่เป็นเรื่องสำคัญในการปกป้องอำนาจและศักดิ์ศรีของตระกูลหลง รวมถึงการแสดงตัวอย่างเป็นบทเรียนให้คนอื่นเห็นด้วย!
"นายท่าน ผู้คนหลายพันคนของทั้งสามตระกูลนี้ไม่สามารถหนีไปไหนได้เพียงในช่วงกลางคืน พวกเขาต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง"
"ใช่ ประตูเมืองถูกปิด พวกเขาไม่สามารถออกจากเมืองได้เช่นกัน"
"นั่นอาจจะไม่เป็นความจริง หากพวกเขาติดสินบนผู้คุมและมีคำสั่งขององค์ราชา ก็จะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะหาทางออกไปจากในเวลากลางคืน
กุนซือที่ทำงานให้กับขุนนางแห่งมังกรทะยาน พวกเขาทั้งหมดได้แสดงความคิดเห็น.
หลงเซ้าเฟิงพยักหน้าเบา ๆ "นี่เป็นเรื่องง่าย ส่งคนไปสอบถามที่ประตูเมืองทั้งหมด ตระกูลหลงของเรามีเครือข่ายอยู่ทุกประตูเมือง "
ขุนนางแห่งมังกรทะยานวางแผนกบฏ และจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเรื่องของเจ้าหน้าที่ของเมือง เขาต้องใช้ความคิดและความพยายามในการลักลอบนำตัวสายลับจำนวนมากเข้ามา และเขาจึงพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ทุกคนให้คอยช่วยเหลือเขา
ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ คนสนิทอีกคนก็เดินเข้ามา "นายท่าน ข้าได้ตรวจสอบทุกประตูเมือง แล้ว คืนที่ผ่านมาไม่มีการเคลื่อนไหวของผู้คนกลุ่มใหญ่เลย! "
หลงเซ้าเฟิงมีความสุขมาก 'หาเป็นเช่นนี้ พวกเขาต้องอยู่ในเมืองหลวง!. ปิดตายเมืองหลวง ไม่ว่าจะต้องขุดหลุมลงไปในดิน พวกเจ้าก็จงไปตามหาพวกเขา! "
เขามีข้ออ้างที่ดีในการเคลื่อนไหวของเขา และภายใต้การกล่าวอ้างถึงการแก้แค้นสำหรับบุตรชายของเขา เขามีข้อแก้ตัวสำรองไว้อีกหลายข้อ
หากราชวงศ์ต้องการแทรกแซง เขาก็มีข้อแก้ตัวว่าทำไปเพื่อแก้แค้นให้กับบุตรชายของเขา.
ถ้าราชวงศ์ไม่ได้เข้าแทรกแซง เขาก็ยิ่งมีข้อจำกัดที่น้อยลง
ตอนนี้ กองทัพทั้งหมดของบรรดาขุนนางต่าง ๆ ได้ถูกส่งไปรวมตัวกัน และมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงแล้วแม้ว่าองค์ราชาตงฟางลู่ต้องการมีการประจันหน้า หลงเซ้าเฟิงก็จะไม่กลัว
ภายในบริเวณพระราชวัง สีหน้าขององค์ราชาตงฟางลู่ดูขาวซีดและเขามีรอยคล้ำดำอยู่ใต้ดวงตา. เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้นอนเลยตอนกลางคืน
"ฝ่าบาท คฤหาสน์เจี้ยงหาน คฤหาสน์จินชาน และคฤหาสน์หูปิง ทั้งหมดว่างเปล่า. ราวกับว่าพวกเขาหายตัวไปภายในชั่วข้ามคืน "
"อะไรนะ !? พวกเขาหนีไปแล้ว? " องค์ราชาตงฟางลู่ก็ตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินข่าวนี้
ตระกูลเจี้ยงหนีไป? ถ้าเป็นอย่างนี้ ความหวังที่เขาจะนั่งอยู่บนภู ดูเสือกัดกัน ( TL ได้ผลประโยชน์โดยไม่ต้องลงมือทำ) จะหายไปทันที!
เขาคิดไว้ล่วงหน้าว่าตระกูลเจี้ยงและตระกูลหลงจะต่อสู้กันในสนามรบอย่างดุเดือด และทั้งสองฝ่ายต่างประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก เพื่อให้ราชวงศ์ตะวันออกของเขาสามารถได้ผลประโยชน์โดยการอยู่ตรงกลาง!
"ขุนนางแห่งมังกรทะยานได้รวบรวมผู้พิทักษ์ส่วนบุคคลหลายสิบคนเพื่อแก้แค้นให้กับหลงหยินเย และเขากำลังค้นหาสมาชิกตระกูลเจี้ยงทั่วเมืองหลวง มีแต่บรรยากาศของความกลัวและความกังวลใจเต็มไปทั่วเมืองหลวงในขณะนี้ และมีเสียงอึกทึกที่น่ากลัวที่แม้สุนัขและไก่ยังไม่อาจสงบได้ " ผู้บัญชาการกองทัพเทียนดู เว่ยเทียนดู เขายังมีสีหน้าที่ดูกังวลใจมาก
"ฝ่าบาท มีข่าวลับด่วน ! บรรดาขุนนางจากอาณาเขตต่าง ๆ ได้ส่งข่าวด่วนมาว่ามีขุนนางใหญ่ น้อยประมาณ 50-60 คนที่เข้าร่วมกับขุนนางแห่งมังกรทะยาน และพวกเขาได้ส่งกองกำลังขนาดใหญ่ของพวกเขาจากอาณาเขตของตนมาสมทบกับกองทัพ และขณะนี้พวกเขาอยู่ระหว่างทางแล้ว เมื่อพิจารณาจากทิศทางของกองทัพ พวกเขากำลังมุ่งตรงไปที่เมืองหลวง! "
รายงานข่าวกรองลับภายในได้พุ่งพรวดเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้งเช่นเกล็ดหิมะ
เว่ยเทียนดูบอกข่าวที่ทำให้เขาตกใจและอึ้งไปชั่วขณะ. "ฝ่าบาท ขุนนางแห่งมังกรทะยาน ในที่สุดเขาก็ก่อกบฏ!"
ร่างองค์ราชาตงฟางลู่ซวนเซเล็กน้อย. "ขุนนาง 50-60 คน? นี่หลงเซ้าเฟิงได้ล่อลวงขุนนางจำนวนมากขนาดนี้ให้ไปอยู่ข้างเขาได้จริงหรอ "
องค์ราชาตงฟางลู่รู้สึกเจ็บแค้น เขาดึงดาบของเขาและฟันโต๊ะข้างหน้าเขาจนหักเป็นสองส่วนด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวของมือเขา "มันช่างชั่วร้าย! ราชวงศ์ตะวันออกของข้าได้ปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยดีเสมอมา ทำไมพวกเขาทั้งหมดลุกหือขึ้นมาต่อต้านข้า? ทำไมพวกเขาทั้งหมดไปและเลียก้นของหลงเซ้าเฟิง? เขาคือใคร หลงเซ้าเฟิง ทำไมทุกคนถึงยอมก้มหัวให้เขาเช่นนี้? "
"ฝ่าบาท ข้ารู้สึกว่าเราควรจะส่งคำร้องฉุกเฉินไปยังบรรดาขุนนางที่จงรักภักดีต่อพระองค์ และให้พวกเขานำกองกำลังทหารออกมาช่วยเหลือองค์ราชาและปกป้องแผ่นดินอย่างรวดเร็ว!"
ราวกับว่าองค์ราชาตงฟางลู่ถูกปลุกให้ตื่นจากความฝัน ขณะที่เขารีบสั่งให้ขันทีสั่งให้ออกพระบรมราชโองการ และเรียกบรรดาขุนนางทั้งหมดให้เข้ามาในพระราชวังเพื่อรอคำสั่งของเขา
กล่าวได้ว่า องค์ราชาตงฟางลู่ได้ประมาทมากเกินไปในในฐานะองค์ราชาของอาณาจักร เขานิ่งเฉยนานเกินไป และเขาวางแผนการและอุบายในภาพรวมขนาดเล็กเสมอ โดยที่เขาลืมคำนึงถึงภาพรวมขนาดใหญ่กว่า เมื่อเขารู้แจ้งในตอนท้าย สถานการณ์ก็ย่ำแย่มากสำหรับเขา