spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ในช่วงเวลาที่เขาเปิดห่อผ้า ขุนนางแห่งมังกรทะยานเปลี่ยนเป็นสับสนและนิ่งงันราวกับว่าเขากลายเป็นหิน เขาตกตะลึง
ศีรษะของหลงหยินเยมีรูขนาดใหญ่ที่หน้าผากและดวงตาที่เบิกกว้างซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตายอย่างไม่สงบ (TL ตายตาไม่หลับ) ตาคู่นั้นได้จ้องไปยังหลงเซ้าเฟิงในทันทีที่เขาเปิดห่อผ้า
“อ๊า?” มีเลือดพุ่งออกมาจากปากของหลงเซ้าเฟิง
"นายท่าน มีอะไรผิดพลาดหรือไม่?" ผู้พิทักษ์ส่วนบุคคลที่อยู่รอบตัวเขาทั้งหมดวิ่งเข้ามา.
"ฆ่ามัน ฆ่ามัน ฆ่ามัน!" หลงเซ้าเฟิงเป็นเหมือนปีศาจบ้าคลั่ง ขณะที่เขาชี้ไปทางท้องฟ้าและสั่งซ้ำแล้วซ้ำอีก.
อ้วนซวนหัวเราะเสียงดัง "หลงเซ้าเฟิง ท่านอนุญาตให้บุตรชายและบุตรสาวของท่านฆ่าทายาทคนอื่น ๆ ในอุโมงค์ใต้ดินไร้พรมแดน ท่านไม่เคยคิดเลยใช่ไหมว่าวันนี้จะมาถึง ? เวรกรรมมีอยู่จริง และกรรมจะตามทัน ถือศีรษะของบุตรชายของท่านไว้ และไปแอบร้องไห้ในมุมไหนก็ได้ที่ไม่มีใครเห็น! "
"ฆ่ามัน !" หลงเซ้าเฟิงร้องตะโกนด้วยแรงทั้งหมดของเขา.
อย่างไรก็ตาม อ้วนซวนเป็นคนที่กลัวความตาย เขาจะยอมให้ตัวเองตกอยู่ท่ามกลางอันตรายได้อย่างไร? เขาตบหัวของนกหงส์ทองเบา ๆ และทะยานเข้าไปในเมฆทันที.
"ฮ่า ฮ่า หลงเซ้าเฟิง เจ้าฆ่าคนอื่นและควรรู้ว่าจะมีวันที่คนอื่นจะมาฆ่าเจ้าเช่นกัน ! หลงหยินเยเป็นเพียงก้าวแรกในการทำลายตระกูลหลงให้พินาศ! "
อ้วนซวนมีความสุขอย่างมากกับการแสดงต่อหน้าหลงเซ้าเฟิง และเขายังได้พูดเย้ยหยันเขา ในที่สุดเขาก็กลับมาอย่างมีความสุขและออกไปพร้อมกับชัยชนะ.
ในคฤหาสน์หลงแม้กระทั่งหลงยู่ซื่อผู้ซึ่งกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ นางปิดประตูห้องของนางอย่างแน่นหนา นางก็ยังถูกรบกวนไปด้วย. ร่างของนางลอยขึ้นไปขณะที่นางกระโดดขึ้นไปบนหลังคา แต่ในไม่ช้านางก็เห็นหัวของหลงหยินเยจ้องมองที่นางด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“ท่านพี่!” หลงยู่ซื่อก็ยังตะลึง.
อะไรทำให้นางมีร่างฟีนิกซ์สีฟ้า? ดังนั้นสิ่งที่ถ้าหากกลุ่มลับได้หมายตัวนางไว้ เพราะพวกเขามีความสนใจในตัวนาง.?
นี่จะไม่เปลี่ยนความเป็นจริงของการที่มีคนตัดหัวของพี่ชายของนาง !
ผู้ที่มีศักยภาพที่แข็งแกร่งและมีภูมิหลังที่มีประสิทธิภาพจะสามารถทำให้หลงหยินเยฟื้นขึ้นมาอีกครั้งได้หรือไม่?
ไม่ !
ใบหน้าของหลงยู่ซื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อยและน้ำเสียงของนางเย็นชามากขึ้น นางถามว่า "ใครเป็นคนทำ ?"
ใบหน้าของผู้พิทักษ์ส่วนบุคคลทั้งหมดขาวซีดเหมือนไก่ต้มอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันพวกเขาก็ต่างส่ายหัวของตัวเอง "เราไม่แน่ใจ มีคนขี่นกหงส์ทองเข้ามาเมื่อสักครู่ ... เพื่อส่งมอบหัวของขุนนางน้อย "
"เสียงของคนคนนั้น ข้ารู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก" ถึงแม้ว่าหลงยู่ซื่อจะเศร้าใจ แต่จิตใจของนางก็ไม่ได้ท่วมท้นไปด้วยความสับสน
"เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นเจี้ยงเฉิน?" ผู้พิทักษ์ส่วนบุคคลถามเสียงแหบ
"นั่นไม่ใช่เสียงของเจี้ยงเฉิน !" เป็นไปไม่ได้ที่หลงยู่ซื่อจะไม่สามารถแยกแยะเสียงของเจี้ยงเฉิน. เมื่อมีคนพูดถึงชื่อของเจี้ยงเฉินนางก็นึกถึงอีกคนขึ้นมาทันที. "ใช่ เสียงนั้น ข้าจำได้แล้ว มันเป็นเสียงของอ้วนซวน ทายาทแห่งจินชาน ! หนึ่งในลูกสมุนของเจี้ยงเฉิน"
"ขุนนางแห่งจินชาน?" ร่องรอยของความตั้งใจในการสังหารได้กระพริบผ่านดวงตาที่รุนแรงของหลงเซ้าเฟิงอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อไม่นานมานี้เองเขาหมกมุ่นอยู่กับความเจ็บปวดของการสูญเสียบุตรชาย และไม่สามารถแยกตัวตนของมันได้. หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ ของความสับสนวุ่นวาย เขาค่อย ๆ กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง. เมื่อเขาได้ยินคำสามคำว่าขุนนางแห่งจินชาน ความปรารถนาอันชั่วร้ายของเขาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง
"หยินเย หลงยี่ วิญญาณที่กล้าหาญของเจ้าทั้งสองต้องอยู่ใกล้ ๆ นี้แน่ พวกเจ้าจงเฝ้าดู ! ข้าจะแก้แค้นให้พวกเจ้าแน่นอน. ตระกูลเจี้ยงและตระกูลซวน ข้าจะกำจัดพวกเจ้า ข้าจะกองศพของพวกเจ้าบนภูเขา และทำให้แม่น้ำเต็มไปด้วยเลือดของพวกเจ้า ! "
หลงเซ้าเฟิงเช็ดน้ำตาในขณะที่เขาสาปแช่ง.
"หลงเอ๋อ ส่งผ่านคำสั่งของข้า. เหล่าบรรดาขุนนางที่อยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลต้องเดินทางไปยังคฤหาสน์มังกรทะยาน ภายใน 1 ชั่วยาม! "
หลงเอ๋อรู้สึกกลัว เขารู้ดีว่าขุนนางกำลังเลื่อนตารางการรบให้เร็วขึ้น!
ทหารที่ยอดเยี่ยมของมังกรทะยานสองสามคนได้กลับมาถึงถนนด้านนอกคฤหาสน์
"นายท่าน สิ่งที่น่ากลัวได้เกิดขึ้นแล้ว. ขุนนางน้อย เขา ... "
ใบหน้าของหลงเซ้าเฟิงเต็มไปด้วยความเย็นชา ในขณะที่เขาพูดกับหลงเอ๋อว่า "กำจัดคนไร้ความสามารถที่หนีทัพเหล่านี้ไปให้หมด!"
"อะไรนะ!? หลงหยินเยต้องการจะไปลงโทษขุนนางแห่งเจี้ยงหาน และถูกยิงคาที่จากท้องฟ้าโดยเจี้ยงเฉิน? หลงยี่ก็ถูกฆ่าด้วยเหรอ? และทายาทของหยานเหมิน ยานยี่หมิง? "
"เจี้ยงเฉินกลับมาได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าเขาตายไปแล้วหรอ? แล้วเขายังยิงหลงหยินเยอีก? "
ข่าวเรื่องหลงหยินเยที่ถูกสังหาร การตายของหลงยี่ และเจี้ยงเฉินกลับมาพร้อมกับการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ ข่าวเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงภายในเวลาเพียง 1 เค่อเท่านั้น
เหล่าบรรดาขุนนางที่ยอมสวามิภักดิ์ต่อขุนนางแห่งมังกรทะยานประหลาดใจยิ่งกว่าคนอื่น ปากของพวกเขาเต็มไปด้วยรสขม
พวกเขาเกือบจะไม่เชื่อหูของตัวเอง ทหารชั้นนำของขุนนางแห่งมังกรทะยานและผู้เชี่ยวชาญพลังลมปราณฉีระดับสิบเอ็ดเส้นชีพจร หลงยี่คือผู้นำทัพ จะมีคนที่ถูกฆ่าโดยเจี้ยงเฉินได้อย่างไร?
เรื่องราวเหล่านี้ฟังดูไม่น่าจะเป็นจริง !
อย่างไรก็ตาม ความจริงเป็นของแข็งเหมือนกับเหล็ก มันบังคับให้พวกเขาเชื่อเรื่องนี้.
"นายท่าน ขุนนางแห่งมังกรทะยานได้ส่งคำร้องเร่งด่วนมาให้ท่าน เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องเร่งด่วนที่คฤหาสน์มังกรทะยาน"
ขุนนางที่แสวงหาทางช่วยเหลือกับขุนนางแห่งมังกรทะยานเกือบทุกคนได้รับข่าวเรื่องเดียวกันหลังจากนั้น.
ควรจะไปหรือไม่ไป ?
ขุนนางบางคนดูลังเลเล็กน้อย เจี้ยงเฉินกลับมาพร้อมกับการแก้แค้น และการเสียชีวิตของหลงหยินเย ทำให้เกิดอุปสรรคขึ้นอย่างฉับพลัน กับแผนการที่ได้ลงมติกันไว้แล้วก่อนหน้านี้เกี่ยวกับก้าวต่อไปในเมืองหลวง
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
พวกเขาต้องยอมรับว่าพวกเขาลังเลใจ พวกเขาเริ่มสงสัยว่าขุนนางแห่งมังกรทะยานจะประสบความสำเร็จในการก่อกบฏหรือไม่ เขาจะกวาดล้างสิ่งกีดขวางได้ทุกที่ที่เขาไปรึเปล่า?
ยกเว้นพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น พวกขึ้นเรือลำเดียวกับขุนนางแห่งมังกรทะยานมาสักระยะแล้ว. ถ้าพวกเขาไม่ไปเข้าร่วมตอนนี้ เมื่อพวกเขาถูกวางตัวไว้และทุกสิ่งทุกอย่างเตรียมการไว้แล้ว สำหรับพวกเขาถูกระบุว่าเป็นฝ่ายขุนนางหลงแล้ว ชีวิตของพวกเขาคงไม่จบลงอย่างเป็นสุข.
ในขณะที่พวกเขาได้ตัดสินใจลงเรือ พวกเขาก็ไม่สามารถลงจากเรือนั้นได้.
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการก็ตาม พวกเขาก็ยังคงต้องไปกับเรือ.
พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นในขณะนี้. พวกเขาต้องรวมตัวกันอยู่ข้าง ๆ ขุนนางหลง และช่วยเขาก่อกบฏเพื่อเปลี่ยนดินแดนแห่งราชวงศ์ตะวันออกให้กลายเป็นดินแดนแห่งตระกูลเจี้ยง.
เฉพาะในวิธีนี้พวกเขาก็จะสามารถระงับสถานการณ์อันตรายนี้ และเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นขุนนางผู้ก่อตั้งที่มีค่าด้วยการพาร่างกายของตัวเองไปเข้าร่วมการประชุม.
หากพวกเขาถอยกลับและปล่อยให้ขุนนางแห่งมังกรทะยานถูกทำลาย พวกเขาก็จะอยู่ไม่ไกลไปจากความตายเช่นเดียวกัน.
กล่าวได้ว่า อำนาจของขุนนางหลงยังคงมีแข็งแกร่งมากเหลือเกิน แม้แต่การจากไปของหลงหยินเยก็ไม่เพียงพอที่จะสั่นคลอนพลังและความโดดเด่นของเขาที่ยืนยงราวกับแผ่นดินและท้องฟ้า.
หลงหยินเยเสียชีวิตไปแล้ว แต่ขุนนางหลงก็ยังมีบุตรชายอีกหลายคน เขาสามารถแต่งตั้งขุนนางน้อยคนใหม่และใช้เวลาในการปลูกฝังเขาให้แข็งแกร่งยิ่งกว่า
ตราบเท่าที่หลงยู่ซื่อยังสบายดี และตราบเท่าที่ร่างของฟีนิกซ์ฟ้าของนางยังคงอยู่ ผู้สนับสนุนของขุนนางหลงจะไม่หายไปไหน. ไม่ว่าอย่างไรก็ตามร่างฟีนิกซ์ฟ้าของนางได้ดึงดูดความสนใจผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มลับ !
ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มลับคือการดำรงอยู่ในตำนาน และเป็นพลังที่ครอบงำที่ยิ่งใหญ่กว่าบรรพบุรุษของราชวงศ์ตะวันออก
แม้ว่าบรรพบุรุษของราชวงศ์ตะวันออกขององค์ราชาคือผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณเต๋า ในที่สุดเขาเป็นเพียงคนเดียว ถือสันโดษ
เมื่อเทียบกับคนที่เข้มแข็งของกลุ่มลับ เจ้าจะอยู่คนเดียวและหมดหนทาง !
นี่คือเหตุผลที่ขุนนางแห่งมังกรทะยานสามารถโน้มน้าวใจของขุนนางหลายคนให้เข้าร่วมกับเขา.
จากขุนนางทั้งหมดร้อยแปดคนมีมากกว่า 50-60 คนที่ได้เข้าร่วมฝ่ายเดียวกับขุนนางแห่งมังกรทะยาน.
ยังคงมีบางส่วนที่จงรักภักดีต่อพระราชวงศ์ และอีกส่วนหนึ่งที่เป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใด.
"ทุกคน ภายใต้สถานการณ์นี้ ข้าจะไม่พูดมาก ทุกคนได้แสดงเจตนารมณ์ออกมาอย่างชัดเจนแล้ว ข้า หลงเซ้าเฟิง จะไม่พูดอ้อมค้อม ! ราชวงศ์ตะวันออกประพฤติผิดศีลธรรมและโปรดปรานชอบพวกประจบสอพลอ กลั่นแกล้งผู้ซื่อสัตย์สุจริต บุตรชายของข้า หยินเยถูกฆ่าตาย เมื่อเขาไปลงโทษขุนนางแห่งเจี้ยงหาน พวกเขากล่าวว่านี่เป็นการกระทำของเจี้ยงเฉิน แต่พวกเจ้าเชื่อไหมว่าบุตรชายคนเดียวของตระกูลเจี้ยงจะมีอำนาจเช่นนี้? ผู้เชี่ยวชาญจากราชวงศ์ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้!. ข้า ตระกูลหลง ขอประกาศในวันนี้ว่า ข้ากำลังยกกองทัพไปเพื่อลงโทษการกระทำที่ไม่เหมาะสมของตระกูลบูรพา ! "
"ส่งกองทัพไปเพื่อลงโทษ ตระกูลหลงกำลังจะมาแทนที่ราชวงศ์ตะวันออก !"
บรรดาขุนนางต่างลุกยืนและยกแขนขึ้น ร้องตะโกนเสียงดัง.
"ดีมาก ตระกูลหลงของข้าในวันนี้จะยกกองทัพแห่งความยุติธรรมเพื่อปราบปรามผู้ปกครองที่ผิดศีลธรรม! ทุกคนที่มาเข้าร่วมประชุมคือขุนนางที่มีเกียรติ โปรดบัญชากองกำลังของเจ้าให้ยกทัพแห่งความยุติธรรม และให้ความร่วมมือด้วยเหตุผลอันยิ่งใหญ่นี้! "
"เรายินดีที่จะยกกองทัพแห่งความยุติธรรมและช่วยเหลือขุนนางแห่งมังกรทะยานปราบปรามผู้ปกครองที่ผิดศีลธรรม เราจะได้ป่าวประกาศเกี่ยวกับราชวงศ์ยุคใหม่!"
ไม่ว่าการพยายามดิ้นรนครั้งนี้มันจะดูไร้ยางอาย มันเป็นการหาข้ออ้างที่สง่างาม แต่บิดเบือนกับความจริงที่เกิดขึ้น. ซึ่งคนอย่างเช่นขุนนางหลงก็ไม่มีข้อยกเว้น.
เป็นการกบฏในความเป็นจริง แต่เขาก็ยังพยายามสร้างภาพพจน์และความเมตตาและความยุติธรรมที่ไม่มีใครเทียบได้. ดูเหมือนว่าในลักษณะนี้เขารู้สึกสบายใจและพึงพอใจ
"ทุกคน ข้ามีข้อเสนอแนะ." คนที่พูดคือขุนนางแห่งหยานเหมิน หยานซง บุตรชายของเขาหยานยี่หมิงเป็นคนหนึ่งที่ถูกยิงโดยเจี้ยงเฉินอยู่หน้าประตูคฤหาสน์เจี้ยงหาน.
"ข้อเสนอแนะอันทรงคุณค่าของขุนนางหยานคืออะไร?" หลงเซ้าเฟิงพยายามทำใจให้กว้าง.
"เวลาที่จำเป็นสำหรับเราทุกคนที่จะต้องยกกองทัพของเรา และยึดเส้นทางไปยังเมืองหลวงจะใช้เวลาระหว่าง 3-8 วัน. ถึงแม้ว่าเราได้นำผู้พิทักษ์ส่วนตัวของเราไปกับเราแล้ว และวางกองกำลังยอดเยี่ยมของเรา เมื่อเทียบกับกองทัพเทียนดู อย่างดีที่สุดเราสามารถพูดได้ว่าเราได้จับคู่กันอย่างเท่าเทียม. เพื่อที่เราจะเอาชนะพวกเขาอย่างเต็มที่ เราไม่ควรก่อกบฏตอนนี้ ทำไมเราไม่รอจนกว่ากองทัพใหญ่จะมาถึง "
"แล้วเราแค่รอรึ? เราจะลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้อย่างไร? " คนที่พูดเป็นขุนนางอีกคน. บุตรชายของเขาก็ถูกยิงตายภายใต้ลูกศรเดียวกันที่ฆ่าหยานยี่หมิง. พวกเขาเป็นเป็นเหมือนเนื้อที่ถูกเสียบในไม้เดียวกัน
"แน่นอนเราจะไม่แค่รออยู่เฉย ๆ ! ข้าสามารถเรียกร้องให้องค์ราชาทำการกวาดล้างขุนนางชั่วร้ายที่โกงกินบ้านเมือง และอันดับแรกก็จะล้อมจับกุมคฤหาสน์เจี้ยงหานก่อน คฤหาสน์จินชาน คฤหาสน์หูปิง ... "
"ข้อเสนอแนะของขุนนางหยานน่าพอใจมาก!" ดวงตาของหลงเซ้าเฟิงแวววาว.
ถึงแม้ว่าความคิดของเขาจะเป็นเรื่องที่ว่าผู้เชี่ยวชาญจากราชวงศ์ที่สังหารหลงหยินเย แต่ผู้พิทักษ์ส่วนบุคคลของเขาได้เห็นด้วยตาว่าคนที่สังหารหลงหยินเยคือเจี้ยงเฉิน. จะเป็นใครไปได้อีก?
เขาได้กล่าวอย่างนั้นในขณะนี้เพื่อสร้างความบาดหมางกับพระราชวงศ์ และหาแนวร่วมแห่งความยุติธรรมและความถูกต้องให้กับเขา.
ดังนั้นคนที่หลงเซ้าเฟิงเกลียดมากที่สุดในขณะนี้คือเจี้ยงเฉิน. คนที่เขาต้องการจะฆ่ามากที่สุดคือเจี้ยงเฉิน!
ภายในบริเวณพระราชวัง สีหน้าขององค์ราชาตงฟางลูอ่อนลงและขาวซีด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเสียดายและความวุ่นวาย
เขายังได้รับข่าวกรองในช่วงเวลาที่เจี้ยงเฉินเพิ่งจะกลับมาถึง และเขากลับมาพร้อมกับการล้างแค้น ในความเป็นจริง การกลับมาของเขาได้รับการโจษขานว่าเป็นตำนานโดยผู้ที่ชอบซุบซิบนินทาในเมืองหลวง
แม้ว่าองค์ราชาตงฟางลูไม่ต้องการที่จะยอมรับมัน เขาก็ต้องยอมรับ เขาได้ทำเรื่องต่ำช้าอีกครั้ง! เขาเลิกสนับสนุนตระกูลเจี้ยงภายใต้แรงกดดันจากขุนนางแห่งมังกรทะยาน และเขาได้ปล่อยให้พลังอันแข็งแกร่งหลุดมือไป ซึ่งเป็นพลังที่เขาสามารถดึงให้เข้ามาอยู่ฝ่ายของเขาได้.
เมื่อคิดถึงคำพูดขององค์หญิงโจวหยู่ องค์ราชาตงฟางลู่ต้องการจะตบหน้าตัวเอง. ผู้ปกครองอาณาจักรไม่สามารถจะเทียบความใจกว้างและความอดทนกับน้องสาวของเขาผู้หญิงคนหนึ่งได้เลย.
"เมืองหลวงเข้าสู่สภาวะสับสนวุ่นวายแล้วหรือไม่?" องค์ราชาตงฟางลู่ส่ายหน้า เขาพยายามอย่างมากที่จะสงบสติอารมณ์ตัวเอง "การกลับมาของเจี้ยงเฉินไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ไม่ดี! แม้ว่าเจียงเฉินและข้าจะแตกต่างกันทั้งในด้านจิตใจและการฝึกฝนก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร. ตอนนี้เจี้ยงเฉินได้ฆ่าหลงหยินเยและหลงยี่สร้างความบาดหมางเพิ่มขึ้นกับหลงเซ้าเฟิง ภาพของเสือสองตัวที่ต่อสู้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้. ถ้าหากข้าสามารถให้การสนับสนุนจากเงาและเพิ่มเชื้อเพลิงในเปลวไฟเพื่อให้พวกเขาต่อสู้กันในสถานะที่มีความสับสนวุ่นวายและความมืด ข้าอาจได้รับผลพลอยได้โดยไม่ต้องทำอะไรให้เหนื่อย!
องค์ราชาตงฟางลูเริ่มคิดคำนวณ เขาวางแผนว่าจะได้รับผลประโยชน์ได้อย่างไร และเขาจะทำให้ตระกูลมังกรทะยานและเจี้ยงหานต้องฆ่าฟันกัน.
"ถ้าหากตระกูลมังกรทะยานได้รับชัยชนะ พลังชีวิตของเขาจะยังคงถูกทำลายไปบ้างอย่างแน่นอน จากนั้นข้าจะประสานกับพลังของท่านปู่ทวด เพื่อที่จะได้ตอบโต้อย่างมีประสิทธิภาพ. ข้าก็สามารถที่จะทำให้ขุนนางคนอื่นกลัวและยอมนอบน้อม และข้าจะบีบบังคับให้ขุนนางแห่งมังกรทะยานต้องจำนน. "
"ถ้าฝั่งของเจี้ยงเฉินชนะ ข้าจะใช้กลยุทธในการเอาชนะใจเขา ข้าจะใช้โจวหยู่หรือจื่อยี่เป็นเหยื่อและชักจูงชายคนนี้ให้เข้าสู่ราชวงศ์. ถ้าเขาต้องการ ข้าก็สามารถมอบทั้งโจวหยู่และจื่อยั่วให้กับเขาได้ และจะได้มีป้าและหลานสาวมาช่วยกันบริการเขาด้วยกันทั้งสองคน. ยกเว้นเรื่องนี้ไม่สามารถเป็นที่รู้กันอย่างเปิดเผยต่อธารกำนัล ข้าต้องทำงานนี้อย่างลับ ๆ "
ความคิดขององค์ราชาตงฟางลู่เริ่มเบี่ยงเบนจากเส้นทางที่ถูกต้องมากขึ้นเรื่อย ๆ.
เมื่อความคิดของเขามาถึงจุดนี้ คิ้วของเขาคลายออกและเขาก็ร่าเริงมากขึ้น. การกลับมาของเจี้ยงเฉินทำให้เขาสบายใจมากขึ้น.
แม้ว่าเจี้ยงเฉินไม่สามารถเอาชนะได้ ตราบใดที่เขาสามารถยืดเวลาที่ท่านปู่ทวดจะออกมาจากการกักตนเพื่อฝึกวิชา ทุกอย่างก็คงเป็นไปได้ด้วยดี