หน้าแรก > ราชันสามภพ
ตอนที่ 85 พุ่งเข้าสู่เขตต้องห้ามโดยไม่ลังเล

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ความแข็งแกร่งของเขายังมีไม่มากพอ.

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตรายและศัตรูที่มีอาวุธครบมือ เขาไม่สามารถกังวลกับสิ่งเล็กน้อยได้ พลังลมปราณฉีที่ในร่างกายของเขากำลังจดจ่ออยู่กับกระบี่ไร้นาม.

"กระบี่ ข้าแทบจะไม่ได้เห็นความงดงามที่ผ่านมาซึ่งเป็นความยอดเยี่ยมของเจ้าในคืนนั้น. ความแข็งแกร่งของวิญญาณที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับเงาของม้าสีขาวที่กระโดดข้ามรอยแยก ซึ่งเป็นรัศมีที่ครั้งหนึ่งเคยทะลุผ่านดวงดาว เป็นความลับที่หัวใจสัมผัสได้ ... เจ้าจะตื่นขึ้นมาในตอนนี้หรือไม่? "

เจี้ยงเฉินทิ้งความคิดที่เกิดขึ้นในสมองของเขาทั้งหมดไปไว้หลังในช่วงเวลาแห่งความเป็นและความตายนี้.

ไม่ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่หรือตาย มันจะถูกตัดสินใจในช่วงเวลาสำคัญนี้.

พลังลมปราณฉีภายในร่างกายของเขาพลุ่งพล่านขึ้นเช่นเดียวกับกระแสน้ำตามชายฝั่งที่ขึ้นลง ขณะที่เขาหมุนเวียนกระแสพลังลมปราณฉีแท้ด้วยทักษะ "เก้าสรวลมหรรณพ" ให้มันอยู่ในระดับสูงสุด.

ให้มันรวมตัวกันกับเก้าเส้นชีพจรของพลังลมปราณฉีของเขา.

กระแสพลังพุ่งไปยังกระบี่ในมือของเขาอย่างฉับพลัน.

"รูปแบบที่สองของทักษะกระแสน้ำแห่งมหาสมุทร - ทักษะคลื่นบดขยี้"

ในขณะนี้ ฉากที่น่าตกใจเกิดขึ้น. กระบี่ไร้นามที่ดูเรียบง่ายและปราศจากอัญมณีตกแต่งก็ตื่นขึ้นมา – เหมือนเทพเจ้าโบราณที่ฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล โดยปราศจากกุญแจของสวรรค์และแผ่นดิน และกำลังเหยียบย่ำแม่น้ำและภูเขาของโลก.

ความงดงามของดวงดาวที่มืดครึ้ม ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่สลัว.

ในช่วงเวลานั้น คลื่นที่กว้างใหญ่ไพศาลของพลังลมปราณฉีไหลเวียนรอบใบมีดของกระบี่ไร้นามได้จดจ่ออยู่กับรูปร่างที่คลุมเครือของเทพจากอดีตชาติ เทพซึ่งครอบครองท้องฟ้าและแผ่นดิน.

รัศมีของจังหวะการฟาดกระบี่นี้ราวกับว่ามันเป็นตัวแทนของเทพเจ้าโบราณ - ราวกับว่ามันยึดอำนาจอันน่ากลัวที่จะทำลายสวรรค์และแผ่นดิน.

เสียงแตกร้าวดังขึ้นมาสองครั้ง.

ใบมีดเชื่อมต่อกัน. ภายใต้ขอบของกระบี่ไร้นาม มีอักษรโบราณสีทองบนดาบของหลงหยินเยที่ส่องแสงวูบวาบออกมาเหมือนเทียนที่ถูกดับ และเงาของมังกรห้ากรงเล็บมีหน้าตาบูดบึ้ง ราวกับว่าสายลมได้ทำให้มันแตกแยกกัน.

เสียงแกรกเหมือนเสียงของผ้าไหมที่ถูกฉีกขาดก็ดังมาจากดาบสั้นสีฟ้าของหลงยู่ซื่อ.

พลังลมปราณฉีไหลออกมาจนหมดในเวลาถัดมา.

ดาบใหญ่ของหลงหยินเยแตกตรงกลาง ทำให้มันแยกออกเป็นสองส่วน.

ดาบสั้นสีฟ้าของหลงยู่ซื่อแตกกระจายออกเป็นหลายชิ้น และกลายเป็นเศษโลหะ.

สำหรับกระบี่ไร้นาม รัศมีที่เป็นประกายก็ยังคงส่องแสงระยิบระยับอย่างต่อเนื่อง เสียงคำรามของใบมีดที่ดังก้องถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องมีลำแสงของแสงจ้าที่เล็ดลอดออกมาจากมัน,เป็นลำแสงที่ไม่เป็นอันตราย.

หลงหยินเยตกตะลึง. หลงยู่ซื่อก็ตะลึงเช่นกัน.

แม้แต่เจี้ยงเฉินก็รู้สึกทึ่งกับฉากนี้. เห็นได้ชัดว่ามันเกินความคาดหวังของเขา. ต้องรู้ก่อนว่า ฝ่ายตรงข้ามของเขาได้ใช้อาวุธแห่งจิตวิญญาณในตำนาน.

แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญพลังลมปราณฉีไม่อาจฝันถึงการได้ใช่อาวุธแห่งจิตวิญญาณในตำนาน.

"ตายซะ!" หัวหน้านักฆ่าเตรียมธนูเล็งเป้าไปยังเจี้ยงเฉินพร้อมที่จะยิงในจังหวะที่ดีที่สุด.

ช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ,ลูกศรที่หาตัวจับยาก.

มันแทรกตัวเองลงในช่วงเวลาอันละเอียดอ่อนนี้โดยไม่มีข้อผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย.

การตอบโต้ของเจี้ยงเฉินถูกขัดขวาง. ถึงแม้เขาจะสามารถทำลายอาวุธแห่งจิตวิญญาณในตำนานของพี่น้องตระกูลหลงได้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงลูกศรที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้.

หัวลูกศรพุ่งชนหน้าอกของเจี้ยงเฉินอย่างโหดเหี้ยม.แม้ว่าพลังลมปราณฉียังไม่ได้ทะลุเกราะอ่อนที่ทำจากไหมนภา แต่มันก็ทำให้เจี้ยงเฉินกระเด็นไปไกล.

ก่อนหน้านี้เจี้ยงเฉินถูกลอบยิงที่ด้านหลังแล้วครั้งหนึ่ง.

ลูกศรนี้ปักเข้าไปยังบริเวณสำคัญของหน้าอกของเขาอย่างแน่นหนา ขณะที่เขาลอยออกมาจากแรงกระแทกของลูกศร เลือดสด ๆ ไหลพุ่งพล่านไปทั่ว. เส้นชีพจรทุกเส้นถูกโจมตีด้วยพลังลมปราณฉีที่แข็งแกร่ง ราวกับว่าเขาถูกกระแสไฟฟ้าดูด มันเกือบจะทำลายเส้นชีพจรของเขาทั้งหมด.

มันเป็นสิ่งที่ดีที่เกราะอ่อนได้ขวางพลังของมันไปมากกว่าครึ่ง.

เจี้ยงเฉินยังได้ใช้ความพยายามอย่างมากในช่วงเวลาปกติเพื่อเสริมสร้างเส้นชีพจรของเขาให้แข็งแรง และได้ใช้วิธีการที่ไม่ซ้ำกันในการหล่อหลอมพวกมัน ดูแลเส้นชีพจรของเขาด้วยโอสถจิตวิญญาณเป็นระยะเวลาอันยาวนาน.

นี่คือเหตุผลที่เส้นชีพจรของเขาไม่ได้ถูกบดขยี้เป็นชิ้น ๆ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกมันจะไม่ถูกบดขยี้เป็นชิ้น ๆ พวกมันก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและไม่สามารถหมุนเวียนพลังลมปราณฉีได้แม้แต่น้อย.

หลังจากที่เขาล้มลงกับพื้น เจี้ยงเฉินเกือบจะหายใจไม่ทัน. เขากระอักเลือดออกมาสามครั้งติดกัน และในที่สุดเขาก็คลานขึ้นมาเขาพยายามรักษาบาดแผลโดยการเผาพลังงานชีวิตของเขา. ร่างของเขากระตุกขณะที่เขาวิ่งกะโผลกกะเผลกอย่างห้าวหาญเข้าไปในความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด.

"หลังจากนั้น."

หลงหยินเยเป็นคนแรกที่รีบวิ่งตามไป หลงยู่ซื่อตามหลังเขาไปติด ๆ. อารมณ์ความรู้สึกของทั้งสองคนในขณะนั้น พวกเขาทั้งรู้สึกตกตะลึงและโกรธแค้น. พวกเขาเตรียมตัวมานานเพื่อการต่อสู้ครั้งนี้ และได้นำอาวุธแห่งจิตวิญญาณในตำนานของพวกเขาติดตัวมาด้วย. พวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถบดขยี้เจี้ยงเฉินได้อย่างง่ายดาย.

ใครจะคิดว่าอาวุธแห่งวิญญาณในตำนานทั้งสองจะไร้ค่าเมื่อเทียบกับใบมีดที่ดูธรรมดาของเจี้ยงเฉิน.

หัวหน้านักฆ่าจากสำนักนักฆ่าดาบเทวดา เขาไม่ได้หวาดกลัวและไม่รีบร้อน เขารักษาความสงบของเขาอยู่เสมอในขณะที่เขาตามมาอยู่ด้านหลัง เขาไล่ตามอย่างไม่รีบเร่งแต่ใช้ความเร็วที่เหมาะสม.

นับตั้งแต่ที่เจี้ยงเฉินได้เข้าสู่พื้นที่ซุ่มโจมตี เขาก็มีวิธีที่ไม่เหมือนใครในการฝังของบางอย่างบนร่างกายของเจี้ยงเฉิน เพื่อให้ไม่ว่าเจี้ยงเฉินจะไปไหน เขาจะไม่สามารถหลบหนีการไล่ล่าของเขาได้.

เขาไม่เคยกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียร่องรอยของเจี้ยงเฉินก่อนหน้านี้ และตอนนี้เจี้ยงเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัส,และเขาอาจล้มลงได้ตลอดเวลา.

"เมื่อคิดถึงใบมีดของเจี้ยงเฉินที่แข็งแกร่งทนทานและโดดเด่นมาก ใบมีดของเขายังสามารถปราบปรามอาวุธแห่งจิตวิญญาณในตำนานทั้งสองอย่างราบคาบ. ข้าจะต้องครอบครองมันให้ได้. เหล่าพี่น้องตระกูลหลง ... "มีความคิดอันน่ากลัวกระพริบผ่านหัวใจหัวหน้านักฆ่า เขาต้องการกำจัดพี่น้องตระกูลหลง. แม้ว่าพี่น้องตระกูลหลงจะทำอะไรบางอย่างในอุโมงค์ใต้ดินไร้พรมแดนที่ไม่ตรงไปตามแผนการ เขาจะจัดการกับทั้งสองคนทันทีโดยไม่รีรอ.

ผู้ฝึกฝนทุกคนในโลกมีความปรารถนาที่จะได้อาวุธศักดิ์สิทธิ์เมื่อได้เห็นมันก็เพียงพอที่จะผลักดันให้เขาบ้าคลั่ง.

แม้แต่อาวุธแห่งจิตวิญญาณในตำนานก็ไม่สามารถต่อสู้กับใบมีดของเจี้ยงเฉินได้. นี่เป็นเหตุผลที่เพียงพอสำหรับหัวหน้านักฆ่าที่จะเสี่ยง เขาตั้งใจที่จะฆ่าพี่น้องตระกูลหลงหากพวกเขาขัดขวางความปรารถนาของเขา.

"เจี้ยงเฉิน,เจ้าไม่สามารถหนีพ้น!"

แม้ว่าอาวุธของหลงหยินเยจะถูกทำลายไปแล้วก็ตาม แต่เขาก็ไม่ได้สูญเสียจุดยืนของเขา.

"เราได้ล้อมรอบทางออกจากที่นี่ไว้หมดแล้ว. หากเจ้ายังดื้อด้านหนีต่อไป มันก็มีเพียงพื้นที่ที่ต้องห้าม. เจ้าไม่มีทางไปสวรรค์และไม่มีทางที่จะบินผ่านโลกได้ "

เจี้ยงเฉินพยายามขับความคับข้องใจออกไปในขณะที่เขาวิ่ง. ตอนนี้เขากำลังวิ่งอยู่บนขอบระหว่างห้องที่สามและสี่ใต้เท้าของเขา.

ทุก ๆ ลี้ที่เขาวิ่งไป เขาก็รู้สึกลึก ๆ ภายในใจว่า เขาได้เข้าสู่นรกอันน่าสะพรึงกลัว.

กลิ่นอันน่าสะพรึงกลัวซึมซาบออกมาจากด้านหน้าประตูห้องที่สี่ ซึ่งเป็นความน่ากลัวที่ลึกลับพอที่จะทำให้เจี้ยงเฉินขนลุกโดยไม่ได้ตั้งใจ.

"เจ้าต้องไม่ย่างเท้าเข้าไปในห้องที่สี่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด. นั่นคือเขตหวงห้าม. อัจฉริยะจำนวนนับไม่ถ้วนได้เสี่ยงเข้าไปโดยไม่ไตร่ตรอง และยังไม่มีใครเคยโผล่ออกมา. ผู้ฝึกฝนระดับสิบเอ็ดเส้นชีพจรของพลังลมปราณฉีย่อมได้เปรียบกว่าเมื่อเทียบกับเจ้าถ้าพวกเขาทำไม่ได้พวกเจ้าก็อย่าแม้แต่จะคิด. ดังนั้นจงจำไว้ให้ดี,อย่าลืมเป็นอันขาด! "

การตักเตือนซ้ำซ้อนขององค์หญิงโจวหยู่จากวันนั้น ดูเหมือนจะดังขึ้นภายในหูของเจี้ยงเฉิน ณ เวลานี้.

การหนีต่อไปจะทำให้เขาเข้าสู่ห้องที่สี่ ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม.

แม้ในขณะที่ผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าได้เข้ามาไป เส้นทางของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่น่ากลัว. ไม่มีใครที่อยู่ใต้ขอบเขตของศิลปะการต่อสู้แห่งเต๋าเคยเดินออกมาอีกเลย.

แต่ถ้าต้องหันกลับไป?

ทางต้องหันหลังกลับเขาก็ต้องเจอกับพี่น้องตระกูลหลง ซึ่งพวกเขามองเขาเช่นเสือโคร่งจ้องมองเหยื่อ.

นอกจากนี้ยังมีนักฆ่าเลือดเย็นที่น่ากลัวอยู่ข้างหลัง.

คนใดคนหนึ่งในสามคนนี้สามารถฆ่าเจี้ยงเฉินที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับการเหยียบมดให้ตาย.

การมุ่งหน้าต่อไปข้างหน้าก็จะเป็นเขตหวงห้ามของห้องที่สี่. ไม่มีทางหวนกลับออกมาได้. อย่างไรก็ตามการถอยกลับและการค้นหาทางกลับถูกสกัดกั้นไว้แล้ว. ทั้งสามคนคงจะไม่ปล่อยให้เขามีชีวิตรอดไปได้แน่.

มีเพียงสองทางเลือกที่เหลือสำหรับเจี้ยงเฉินเท่านั้น. ทั้งสองทางเลือกดูเหมือนจะนำไปสู่ความตายและความสิ้นหวังทั้งคู่.

"ฮ่าฮ่า เจี้ยงเฉิน,ทำไมเจ้าไม่วิ่งต่อหละ? ไปต่อสิ." หลงหยินเยสามารถมองเห็นภาพของเจี้ยงเฉินที่วนรอบด้านหน้าของห้องที่สี่.

"เจี้ยงเฉิน ข้าเคยพูดว่าเจ้าต้องตายเพราะเจ้าขัดขวางตระกูลมังกรทะยานของข้า"

เจี้ยงเฉินจ้องมองไปอีกทาง. หัวหน้านักฆ่าก็มาถึงเจี้ยงเฉินใช้สายเพ่งดูเขาอยู่ห่างออกไป 2 ลี้

"พี่น้องหลงทั้งสอง ข้าต้องการจะบอกก่อนว่าใบมีดในมือของเจี้ยงเฉินจะต้องเป็นของข้า" เสียงของหัวหน้านักฆ่าบ่งบอกให้รู้ว่าเขาเป็นคนควบคุมสถานการณ์ไม่ควรมีใครขัดแย้งเขา.

"ต้องเป็นของเจ้า? เจ้าเอาอะไรมาพูด? เจ้าใช้ประโยชน์จากสถานการณ์คับขัน โดยการคิดเงินค่าจ้างเป็นสี่เท่าของอัตราปกติแค่นี้เจ้ายังขูดเลือดขูดเนื้อพวกเราไม่พออีกรึ? " หลงหยินเยเจ็บแค้น.

"ฮ่า ฮ่า,ขุนนางน้อยหลง. หากเจ้าไม่เห็นด้วยข้ายังมีอีกหลายร้อยวิธีที่จะเอาใบมีดนั้นมา และเจ้าสามารถทำให้แผนการไล่ล่าของเจ้าล้มเหลวไม่เป็นท่าได้เช่นกัน " หัวหน้านักฆ่าพูดอย่างสบายใจ.

"แก...!"

สายตาของหลงหยินเยส่องประกายแห่งความดุร้าย.

ให้เขาไปเถอะท่านพี่. เมื่อเราได้เข้าไปในสมาคมในอนาคต อาวุธแห่งจิตวิญญาณจะไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะหาอันใหม่ " หลงยู่ซื่อเข้าใจความสำคัญของการสังเกตเวลาและการตัดสินใจเพื่อโอกาส.

"ฮ่า ฮ่า คุณหนูยู่ซื่อมีการศึกษาสูงและยังเป็นคนที่มีเหตุผล. ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็มีความสุขกับการตัดสินในครั้งนี้. ตอนนี้เจี้ยงเฉินเป็นหนูที่อยู่ในกรง เขาไม่สามารถหนีไปได้ "

ใบหน้าของเจี้ยงเฉินไร้ความรู้สึก ขณะที่เขาใช้สายตากวาดมองไปทั่วทั้งสามคน. "ข้าจะจำไว้ว่าพวกเจ้าทำอะไรกับข้าบ้าง. พวกเจ้าเข้ามาได้เลย ถ้าพวกเจ้าต้องการที่จะฆ่าข้า. อย่าลืมว่าวันที่ข้าเจี้ยงเฉินจะกลับมาอีกครั้ง และจะคิดบัญชีกับพวกเจ้าที่จะต้องจ่ายคืนเป็นสิบเท่า "

กับคำกล่าวนั้น เจี้ยงเฉินดันเท้าของเขาขึ้นลงบนพื้นดินขณะที่เขาวิ่งเข้าไปในความมืด. เขาไม่ได้หันศีรษะของเขากลับมาในขณะที่เขารีบวิ่งไปที่เขตหวงห้ามของห้องที่สี่

"นี่ ... เจี้ยงเฉิน หากเจ้าเข้าไป เจ้าต้องตายแน่ ๆ!" หลงหยินเยร้องเรียก.

"เจี้ยงเฉิน ถ้าเจ้าออกมา เราสัญญาว่าเราจะไม่ลากตระกูลของเจ้าเข้ามายุ่งเกี่ยว. มีแต่ความตายเพียงอย่างเดียวที่กำลังรอเจ้าอยู่ ถ้าเจ้ายังยืนกรานที่จะเข้าไปข้างในนั้น. เจ้าแน่ใจได้เลยว่าเราจะทำให้คฤหาสน์เจี้ยงหานเต็มไปด้วยเลือดหลังจากนั้น " หลงยู่ซื่อรู้ดีเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการโจมตีหัวใจ.

การฆาตกรรมหมู่ที่คฤหาสน์เจี้ยงหาน?

หัวใจของเจี้ยงเฉินสั่นสะท้าน แต่ก็ยังคงแข็งเหมือนก้อนหิน เฉียบขาด เขาวิ่งเข้าไปในส่วนลึกของเขตหวงห้าม.

พวกเขาจะปล่อยให้คฤหาสน์เจี้ยงหานเป็นอิสระทำไมหากเขายอมจำนน?

เช่นเดียวกับคำสัญญาของเสือที่ให้ไว้กับลูกแกะก็ไม่มีความน่าเชื่อถือเลย.

"ท่านพ่อ อภัยให้ข้าด้วย. หลังจากการเกิดใหม่ของข้า.ข้ายังคงไม่สามารถช่วยเจี้ยงหานให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้? “ เจี้ยงเฉินมีรอยยิ้มที่ขมขื่น.

"ไอ้เด็กคนนี้ ช่างดื้อรั้นเสียจริง" หัวหน้านักฆ่าถอนหายใจ.

หลงหยินเยกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด "ไม่ใช่เพราะเจ้าหรอกรึ? ถ้าเจ้าไม่ได้กล่าวถึงการฆ่าเขาและเรื่องที่เจ้าต้องการจะยึดใบมีดของเขา มันอาจจะไม่ทำให้เขาไม่พอใจจนเขาต้องเลือกเส้นทางนี้ "

"ฮ่า ฮ่า, ขุนนางน้อยหลง คำพูดของเจ้าพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้าไม่เข้าใจฝ่ายตรงข้ามของเจ้าเลย. ข้าต้องขอขอโทษด้วยความสุจริตใจของข้า หากไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตำแหน่งขุนนางระดับหนึ่งที่ตระกูลมังกรทะยานใช้โอ้อวดผู้คน ก็จะไม่ใช่ของพวกเจ้าอีกต่อไป หากเจ้าได้แข่งขันกับเจี้ยงเฉินอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา "

เสียงของนักฆ่าโผงผางและห้วน ๆ.

"เจ้า ... " หลงหยินเยระเบิดความเกรี้ยวกราวออกมา.

"หยุดได้แล้ว การทะเลาะกันเองมันจะมีประโยชน์อะไร? เราควรร่วมมือร่วมใจกันและช่วยกันติดตามเขาหรือเฝ้าสถานที่นี้ รอเขากลับมา มันจะไม่ดีกว่ารึ " หลงยู่ซื่อพูดขึ้นเพื่อเป็นการประนีประนอมระหว่างทั้งสองคน.

"ถ้าพวกเจ้าไม่ต้องการที่จะรออยู่ตรงนี้อีกต่อไป เจ้าสามารถติดตามเขาเข้าไปข้างใน. แต่อย่าหวังเลยว่าข้าจะตามพวกเจ้าเข้าไป " หัวหน้านักฆ่าไม่อยากจะเสี่ยงชีวิตของเขาหลังจากลูกสมุนของเขาถูกสังหาร. อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาจ้องมองไปที่รูกว้างของความมืดมนอันเวิ้งว้างที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งเป็นห้องที่สี่ เขาได้เปิดเผยและแสดงออกถึงสายตาที่ตื่นตกใจและระมัดระวัง.

"แล้วเราจะรอเขาอยู่แบบนี้รึ?" หลงหยินเยถามอย่างกระวนกระวายใจ. " เราไม่มีเวลามากพอที่จะรอ "

"ข้ารอได้." หัวหน้านักฆ่ายิ้มเฉย ๆ. "เงินที่พวกเจ้าต้องจ่ายให้ข้าสี่เท่าของอัตราปกติจะไม่เปลี่ยนแปลงใด ๆ. ข้าจะรออยู่ข้างนอกนี่สักสองสามเดือน "

"เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าจะไม่ปล่อยเขาไป?" หลงหยินเยหัวเราะอย่างเย็นชา.

"ปล่อยเขาไปง่าย ๆ? ข้อแรก ข้าจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือไปเมื่อข้าได้รับเงิน. ข้อที่สอง เจ้าคิดว่าข้าควรจะปล่อยเขาไปรอเวลาให้เขาเติบโตขึ้นและกลับมาแก้แค้นข้าในภายหลังอย่างนั้นรึ? ข้อที่สาม ข้าต้องการใบมีดของเขา "

หนึ่งในสามเหตุผลเหล่านี้ไม่ว่าข้อใดก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขารออยู่ตรงนั้น.

ในที่สุดทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าหัวหน้านักฆ่าควรเฝ้าอยู่ตรงนี้ คอยจับตาดูเจี้ยงเฉินเพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนี.

หลงยู่ซื่อไม่เคยสงสัยว่าหัวหน้านักฆ่าจะไม่รักษาคำพูดของเขา. นางตระหนักดีว่าชายคนนี้เห็นแก่ตัว. ตราบเท่าที่เขาไม่ได้สูญเสียความสนใจในใบมีดของเจี้ยงเฉิน เขาก็จะไม่ออกไปอย่างแน่นอน.

แน่นอนว่าไม่มีเหตุจำเป็นให้ต้องรอนาน. ไม่มีใครสามารถมีชีวิตรอดได้ถึงสามวันภายในเขตหวงห้ามของห้องที่สี่

ข้อตกลงของพวกเขาคือการรออยู่หน้าห้องที่สี่เป็นเวลาหนึ่งเดือน. นั่นก็เพียงพอแล้ว.

พี่น้องหลงทั้งสอง หวังว่าเงินสี่เท่าที่พวกเจ้าต้องจ่ายให้ข้าจะมาถึง เมื่อข้าออกไปจากที่นี่. พวกเจ้าต้องตระหนักถึงสิ่งที่ข้าจะทำถ้าพวกเจ้าไม่ส่งเงินมาตามที่ข้าต้องการ " หัวหน้านักฆ่ามีท่าทีเย็นชา.

หลงหยินเยหายใจอย่างรุนแรง เขาต้องการจะตอบโต้ แต่หลงยู่ซื่อดึงตัวเขาไว้ก่อนและลากเขาเดินออกไปพร้อมกัน

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.