หน้าแรก > ราชันสามภพ
ตอนที่ 74 เหตุการณ์ประหลาดที่สวนโอสถสมุนไพร

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

“เจริญเติบโตเต็มที่? ทันที?”

"อย่างนี้เอง,แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่มันจะเจริญเติบโตเต็มที่ทันที โดยปกติในวัฏจักรการเจริญเติบโตของโอสถจิตวิญญาณยังต้องใช้เวลาอีกครึ่งปี อย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกหนึ่งเดือนกว่าพวกมันจะโตเต็มที่. แต่โอสถจิตวิญญาณเหล่านี้ก็งอกเงยขึ้นเมื่อวานนี้ และพวกมันก็เต็มไปด้วยพลังแห่งวิญญาณ. ในแง่ของคุณภาพ พวกมันเป็นโอสถที่มีคุณภาพสูงกว่าโอสถจิตวิญญาณที่เติบโตเต็มที่ก่อนหน้านี้! "

นี่เป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาด !

แม้ว่าการเพาะปลูกโอสถจิตวิญญาณเป็นเรื่องที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าการปลูกพืชธรรมดา แต่ก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในการเจริญเติบโตในชั่วข้ามคืน.

อย่างไรก็ตาม,เหตุการณ์ที่น่าพิศวงก็ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว.

"พาข้าไปที่นั่น" เจี้ยงเฉินไม่สามารถตัดสินใจได้มากนัก เพราะเขายังไม่ได้เห็นมันด้วยตาตัวเอง.

เจี้ยงยูไม่ได้พูดเท็จเลยแม้แต่น้อย. เมื่อเจี้ยงเฉินได้ไปเห็นโอสถจิตวิญญาณพุ่มนั้นด้วยตัวเอง เขาได้เห็นว่าพวกมันโตเต็มที่และมันสามารถสัมผัสได้ถึงพลังแห่งจิตวิญญาณ. พวกมันมีคุณภาพที่สูงกว่าโอสถจิตวิญญาณที่ได้เก็บเกี่ยวไปก่อนหน้านี้.

เจี้ยงเฉินขมวดคิ้วอีกครั้ง มีบางสิ่งบางอย่างมิชอบมาพากลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรก็ยังนึกไม่ออก.

แม้ว่าเขาจะมีความรู้เกี่ยวกับโอสถจิตวิญญาณจากชีวิตในอดีตที่ผ่านมาของเขา แต่เขาก็ยังไม่มีคำตอบหรือรู้ว่าจะตอบอย่างไร.

โอสถจิตวิญญาณชนิดเดียวกันที่ปลูกประมาณ 3 จั้ง (1 ก.ม.) ห่างจากพุ่มนี้ พุ่มอื่น ๆ ก็ยังคงมีหน่อสีเขียวและคงใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือนที่มันจะเติบโตเต็มที่.

แต่โอสถจิตวิญญาณทั้งสองข้างมาจากสายพันธุ์เดียวกันและถูกปลูกไว้ในเวลาเดียวกัน. แม้แต่วิธีการและขั้นตอนที่พวกเขาปลูกมันก็เหมือนกัน.

"เก็บตัวอย่างดินอย่างละนิดมาให้ข้า. ข้าจะทดสอบดิน " เจี้ยงเฉินเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโอสถจิตวิญญาณ และปัญหาแรกที่เขาคิดได้คือการเปลี่ยนแปลงของดิน.

แต่หลังจากการทดสอบดินที่เก็บได้จากหลายมุม พบว่าไม่มีความแตกต่างกันมากในดินเหล่านี้. มันแทบจะเหมือนกันในทุกส่วน.

"หรือมีใครกำลังเล่นกลร้ายและใช้ปุ๋ยวิญญาณใส่ลงไปในดินของพุ่มไม้นี้" เจี้ยงเฉินคิดว่ามีคนคิดร้าย แต่แล้วก็ตัดความคิดนี้ไปทันที.

มีจังหวะตามธรรมชาติในการเพาะปลูกโอสถจิตวิญญาณ. ปุ๋ยจิตวิญญาณสามารถช่วยให้โอสถจิตวิญญาณเติบโตได้ดีขึ้นและทำให้ระยะเวลาของการเจริญเติบโตสั้นลง แต่มันก็ไม่ทำให้พืชเติบโตได้เพียงชั่วข้ามคืน.

ถ้าต้องการทำให้โอสถจิตวิญญาณเจริญเติบโตเพียงข้ามคืน จำนวนปริมาณของปุ๋ยที่ต้องใช้จะมีค่ามากกว่าโอสถจิตวิญญาณเหล่านี้ประมาณสิบเท่าบางทีอาจจะร้อยเท่าด้วยซ้ำ.

ไม่มีใครจะทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้ได้.

"หรืออาจเป็นได้ว่าผู้ฝึกฝนที่เกรียงไกรเดินผ่านโดยถืออาวุธจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง และพลังงานของจิตวิญญาณจากอาวุธรั่วไหลออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงทำให้ดินเหล่านี้ได้ซึมซับพลัง?"

ความเป็นไปได้นี้ไม่มีนัยสำคัญมากเท่าไหร่.

ความจริงที่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ สำหรับผู้ฝึกฝนที่อยู่ในระดับที่เข้มแข็งเช่นนี้ที่จะปรากฏในอาณาจักรธรรมดานี้. แม้ว่าจะมีผู้ฝึกเช่นนั้นผ่านมาก็ตาม มันก็น่าจะมีร่องรอยของพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งดังกล่าวหลงเหลืออยู่บ้าง. มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเพียงพืชพุ่มเดียวที่ได้ซึมซับพลังจิตวิญญาณ แต่กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงกับพืชพุ่มอื่น ๆ.

"มันอาจเป็นไปได้ว่าผู้ฝึกฝนที่อยู่อย่างสันโดษกำลังเล่นตลก?" เจียงเฉินถึงกับคิดไปถึงเรื่องที่ไกลจากความจริง.

ลมอ่อนพัดมาขณะที่เจี้ยงเฉินสั่นศีรษะของเขาอย่างฉับพลัน ทำให้เขาทิ้งการคาดเดาที่น่าขันไว้ในใจ.

"เซี่ยวยู เจ้าจัดการเรื่องนี้ได้ดีแล้ว. ปิดข่าวนี้ชั่วคราวและเก็บเกี่ยวโอสถจิตวิญญาณที่เติบโตเต็มที่แล้ว. หมั่นหว่านเมล็ดพืชและสังเกตการเปลี่ยนแปลงอื่นที่เกิดขึ้น. ข้าจะใช้เวลาสองสามวันที่นี่และรอดูว่าเกิดอะไรขึ้น "

เจี้ยงเฉินออกคำสั่ง.

เจียงยูพยักหน้าและลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงถามว่า "เราควรจะขอให้ท่านขุนนางใหญ่กลับมาหรือไม่ ... "

เจี้ยงเฉินโบกมือ "ไม่จำเป็น. ทิศทางของสถานการณ์ทางการเมืองกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วภายในเมืองหลวงและการเคลื่อนไหวเล็กน้อยในบางส่วนอาจส่งผลกระทบต่อทั้งเมือง. เขาจะไม่สามารถออกไปไหนได้ในขณะนี้ "

แม้ว่าเจี้ยงเฟิงจะกลับมา มั่นใจได้ว่าเขาก็คงไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร. ในอาณาจักรตะวันออกนี้ หากเขา เจี้ยงเฉินไม่เข้าใจสิ่งที่อยู่เบื้องหลังโอสถจิตวิญญาณแล้ว มันคงไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับคนอื่นที่จะมาตรวจสอบ.

เจี้ยงยูบอกเด็กเก็บสมุนไพรให้เก็บเกี่ยวโอสถจิตวิญญาณตามคำแนะนำของเจี้ยงเฉิน และให้เขาเริ่มหว่านเมล็ดในช่วงบ่าย.

"พวกเจ้าทุกคนจงรู้ไว้ว่าเรื่องของสวนโอสถจิตวิญญาณจะต้องไม่ถูกเปิดเผยไปยังโลกภายนอก. มิฉะนั้นเจ้าจะต้องถูกลงโทษตามกฎของตระกูล ! " เจี้ยงยูเตือนอย่างรุนแรง.

มันเป็นสิ่งที่ดีที่แปลงพืชแยกจากกันภายในสวนโอสถสมุนไพร มันจึงไม่มีการแทรกแซงกันเอง. เรื่องที่เกิดขึ้นในสวนโอสถสมุนไพรยังไม่มีความคืบหน้า.

เนื่องจากเจี้ยงยูปิดข่าวได้ทันเวลา สถาณการณ์ที่เป็นอยู่จึงยังไม่แพร่กระจายออกไป.

วันต่อมา เจี้ยงเฉินมาถึงแปลงของสวนโอสถสมุนไพรในเช้าวันรุ่งขึ้น. ตาของเขามองไปยังเมล็ดที่หว่านไว้ตั้งแต่เมื่อวาน. พวกมันได้ออกหน่ออ่อนและมีความสูง 2-3 ชุ่นแล้ว (2-3 นิ้ว)

นี่ ... นี่คือความเร็วอย่างบ้าคลั่งของการเจริญเติบโต!

"พี่เฉิน นี่ ... " เจี้ยงยูก็ตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น. เด็กเก็บสมุนไพรก็สับสนเช่นกัน. พวกเขามีประสบการณ์มากที่สุดเกี่ยวกับโอสถจิตวิญญาณและมีความเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับวงจรการเพาะปลูกของโอสถจิตวิญญาณ.

เหตุการณ์นี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ.

"เจี้ยงยู ปิดข่าวทั้งหมดไม่ให้แพร่ออกไปและไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาใกล้แปลงโอสถนี้"

ในหัวของเจี้ยงเฉินเต็มไปด้วยคำถาม. แม้ว่ามันจะดูเหมือนเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสวนโอสถสมุนไพรที่มีเรื่องมหัศจรรย์อย่างมาก ในการทำให้ระยะเวลาการเพาะปลูกสั้นลง เจี้ยงเฉินรู้สึกเสียวสะดุ้งที่หลัง.

ต้องจำไว้ว่าในชีวิตที่ผ่านมาของเขา เจี้ยงเฉินมีประสบการณ์และได้เห็นทฤษฎีต่าง ๆ มากมายในสวรรค์. มีบางสิ่งบางอย่างตกลงมาจากสวรรค์ลงในตักของคน เช่นนี้มักจะมีความลึกลับและอันตรายที่ซ่อนอยู่!

เจี้ยงเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่มีบางอย่างที่เขาไม่สามารถแก้ไขได้.

"พี่เฉิน นี่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ดี ท่านไม่ต้องกังวลกับมันมากนัก. มีลมอ่อนพัดมาและดวงอาทิตย์ก็สดใสในวันนี้. เราควรทำให้ตัวเองเพลิดเพลินไปกับมัน และเราควรไปปีนหน้าผาเมฆม่วงเพื่อสำรวจทิวทัศน์ที่สวยงามของดินแดนจื่อจิง? "

หน้าผาเมฆม่วงตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวนโอสถสมุนไพรและหากเดินทางตรงไปก็คงไม่เกิน 15 ลี้ หลังจากที่ปีนไปบนหน้าผาสูง การมองทัศนียภาพรอบ ๆ จะช่วยเปิดตาเปิดใจ.

เจี้ยงเฉินนำผู้พิทักษ์ส่วนบุคคลของเขาปีนขึ้นไปยังหน้าผาเมฆม่วงโดยมีเจี้ยงยูติดตามไปด้วย. พวกเขามองออกไปหลังจากไต่ขึ้นไปบนยอดเขา และสิ่งที่มองเห็นจากข้างบนนี้เป็นของดินแดนจื่อจิงทั้งหมด.

เจี้ยงเฉินใช้ทักษะ "นัยน์ตาของพระเจ้า" ทำให้การมองเห็นของเขายืดออกไปไกลยิ่งขึ้นด้วยลำแสงแห่งจิตโดยไม่มีขอบเขตหรือที่สิ้นสุด.

ทันใดนั้นเอง ตาของเจี้ยงเฉินมองลงไปที่สวนโอสถสมุนไพร และสายตาของเขาก็หยุดอยู่ตรงนั้นอย่างฉับพลัน.

เมื่อมองจากด้านบน สวนโอสถถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน. ถ้าเขาไม่ได้ดูจากระยะไกล เขาคงไม่ตรวจพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นที่นั่น.

แต่การมองออกไปในขณะที่ยืนจากจุดชมวิวสูงก็ทำให้ได้เปรียบ เขาสามารถที่จะมองเห็นถึงความแตกต่าง.

มีหมอกควันบาง ๆ อยู่ในอากาศเหนือสวนสมุนไพร. มันดูเหมือนหมอกแต่ก็ไม่ใช่. มันมีความเปียกชื้นและไม่ชัดเจน ไม่สามารถชี้แจงหรืออธิบายได้.

"เซี่ยวยู เจ้าจงมองไปที่สวนโอสถสมุนไพรนั่น!"

เซี่ยวยูทำตามคำสั่งของเจี้ยงเฉิน และเขาเห็นปรากฏการณ์แปลก ๆ. "พี่เฉิน มันคืออะไร ? หรือว่ามันเป็นพลังงานจิตวิญญาณในตำนาน? อะไรกัน นี่เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก "

"พิจารณาดูอย่างละเอียด หมอกควันหนา ๆ ได้ล้อมรอบสวนโอสถสมุนไพร. เมื่อพิจารณาโดยภาพรวม มันมีลักษณะเหมือนภาพหรืออะไรที่เฉพาะซักอย่าง? "

หลังจากพินิจพิจารณามันอย่างระมัดระวัง เจี้ยงยูยังกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า "พี่เฉิน ข้าคงจะไม่สามารถเข้าใจมันได้ ถ้าท่านไม่บอกให้ข้าสังเกต. นี่ดูเหมือนจะเป็นอะไรบางอย่างหลังจากสังเกตอย่างรอบคอบ "

"มันดูเหมือนอะไร ?"

"กรงเล็บ,มันดูเหมือนกับกรงเล็บของสัตว์ดุร้ายตัวใหญ่. มองดูสิ ดินทั้งสี่แปลงในสวนโอสถสมุนไพรดูเหมือนกรงเล็บสี่คมของสัตว์ดุร้ายขนาดใหญ่. ส่วนนี้จากทางด้านหลังดูเหมือนกับฝ่ามือข้างหลังกรงเล็บ. ส่วนนี้ดูเหมือนว่าฐานของกรงเล็บจะเชื่อมต่อกับขา. จริง ๆ มันมีลักษณะเช่นนั้น ! ฮา ฮา, พลังแห่งเทพพระเจ้าที่สร้างธรรมชาติเป็นที่น่าอัศจรรย์มากเกินไป มันน่าพิศวงมาก ! "

เจี้ยงยูส่งเสียงดังขึ้นซึ่งแสดงถึงความรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาไม่เห็นสีหน้าของเจี้ยงเฉินที่แข็งทื่อด้วยความกังวล.

"เจี้ยงยู รีบลงมาจากหน้าผา เร็ว ๆ เข้า ! ทำลายแปลงที่เกิดเรื่องในสวนโอสถสมุนไพร. อย่าหว่านเมล็ดพันธุ์ใด ๆ ลงในดินลงมือเร็ว ๆ ! "

เจี้ยงเฉินดีดตัวเหมือนกับสายธนูขณะที่เขาลุกขึ้นยืน.

"พี่เฉิน อะไรกัน?"

"อย่าถามคำถามข้าตอนนี้,แค่ทำตามที่ข้าพูด!" ใบหน้าของเจี้ยงเฉินมืดครึ้มขึ้นขณะที่เขากวักมือเรียกผู้ใต้บังคับบัญชา. "เราจะต้องลงไปจากหน้าผา!"

เจี้ยงยูได้ปฏิบัติตามเจี้ยงเฉินตั้งแต่ยังเยาว์ และตอนนี้เขารู้ว่าเจี้ยงเฉินมีใจที่จะสนับสนุนเขา เขามีความเชื่ออย่างสุดหัวใจในคำพูดของเจี้ยงเฉินตอนนี้.

เมื่อเดินทางลงจากหน้าผา เจี้ยงยูสั่งให้เด็กเก็บสมุนไพรทำลายพืชจิตวิญญาณทั้งหมดที่อยู่ในแปลงนั้น. เขาเตือนเด็กเก็บสมุนไพรซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ให้เผยแพร่สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ เพราะบทลงโทษคือความตาย!

ไม่มีใครกล้าถามมากนักเพราะเห็นว่าใบหน้าของเจี้ยงเฉินดูเคร่งขรึมตลอดเวลา.

เจี้ยงเฉินเดินไปรอบสี่มุมของสวนโอสถสมุนไพรและใช้สายตากวาดไปทั่วทุกทิศ. เขาเริ่มขมวดคิ้วขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าเขาจำอะไรได้บ้างและอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง.

หลังจากนั้นไม่นาน เจี้ยงเฉินก็เดินไปทางเจี้ยงยู.

"เซี่ยวยู มานี่. ข้าจะวาดแผนที่ให้เจ้า. ส่งชายบางคนไปสำรวจเส้นทางตามระยะทางและมาตราส่วนของแผนที่นี้. ค้นหาว่ามีการเพาะปลูกโอสถจิตวิญญาณอยู่ในดินในพื้นที่เหล่านี้หรือไม่ "

เจี้ยงเฉินเริ่มวาดรูป. เขาไม่ได้วาดเป็นรูปภาพ แต่ชี้จุดพื้นที่ต่าง ๆ ในหลายมุม.

จากนั้นเขาก็ยืนยันทิศทางและระยะห่างระหว่างแต่ละจุดเหล่านี้.

"ไม่จำเป็นต้องไปที่พื้นที่อื่น เลือกสถานที่ที่ใกล้เคียงที่สุดสามแห่งเพื่อตรวจสอบ. เจ้าต้องรายงานกลับมาภายในสามวันหรือยิ่งเร็วกว่านี้ก็ยิ่งดี! "

เจี้ยงเฉินใช้เสียงแนวบังคับ.

"พี่เฉิน,มีอะไรบางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้นหรือไม่?" นี่เป็นครั้งแรกที่เจี้ยงยูได้เห็นความรู้สึกรีบร้อนจากเจี้ยงเฉิน.

แม้กระทั่งในวันที่จับกุมคนทรยศอย่างหัวหน้าจิง ลูกพี่ลูกน้องของเขา เจี้ยงเฉินก็ไม่ค่อยใส่ใจอะไรนัก เขาทำตัวสบาย ๆ เขายังพูดคุยและหัวเราะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น.

เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องแปลกและผิดปกติ.

แต่ด้วยความเคารพและให้เกียรติของเจี้ยงยู ทำให้เขาเชื่อฟังเจี้ยงเฉิน. เขาเชิญผู้อาวุโสบางกลุ่มทันทีให้ออกเดินทางและเริ่มสำรวจเส้นทางที่เจี้ยงเฉินทำสัญลักษณ์ไว้.

ผู้อาวุโสทั้งสามตระกูลเริ่มเดินทางกลับมาหลังจากผ่านไปสองวัน และข่าวที่พวกเขานำกลับมาทำให้หัวใจของเจี้ยงเฉินเต้นแรงขึ้น.

เป็นไปตามที่เจี้ยงเฉินคาดเดาไว้แล้ว แท้จริงแล้วมีพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพลังงานจิตวิญญาณในอาณาบริเวณที่เจี้ยงเฉินคาดไว้ และโอสถจิตวิญญาณกำลังเติบโตขึ้นที่นั่น ! บางส่วนของอาณาบริเวณเหล่านี้อยู่ในพรมแดนทางตะวันออกของอาณาจักร และบางส่วนได้เข้าเขตดินแดนแห่งอาณาจักรอื่นแล้ว.

"พี่เฉิน, บอกข้าได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?" เจี้ยงยูกังวลใจอย่างมากในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา.

เจี้ยงเฉินถอนหายใจเบา ๆ "ผู้สร้างชะตากรรมได้กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพียงการจิบน้ำหรือการกัดเศษอาหาร ไม่มีใครที่ไม่มีโชคชะตาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ดินแดนแห่งวิญญาณนี้จะปรากฏในอาณาจักรทั่วไปได้อย่างไรโดยปราศจากการสัมผัสหรือเหตุผล? ทำไมดินที่อุดมสมบูรณ์จึงปรากฏขึ้น? เซี่ยวยู ถ้าข้าคาดเดาได้ถูกต้อง นี่คือลางไม่ดี– ซึ่งเป็นลางบอกเหตุร้าย! "

"ลางบอกเหตุร้าย? พี่เฉิน,มีอะไรผิดปกติในแผ่นดินนี้หรือ? "

เจี้ยงเฉินส่ายหัว "เรื่องนี้แก้ไขไม่ได้ด้วยพลังของเจ้าหรือข้า. เพื่อที่จะยืนยันพิสูจน์การคาดเดาของข้า แต่ว่าเจ้าและข้าจะต้องเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณแห่งเต๋า และควบคุมความสามารถในการบินผ่านพื้นดินเพื่อเดินทางลึกเข้าไปในพื้นดิน เพื่อการสำรวจและตรวจสอบข้อเท็จจริง มิฉะนั้นการคาดเดาก็ยังคงเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน "

เจี้ยงเฉินไม่ต้องการอธิบายมากนัก. ยิ่งเขาอธิบายมากขึ้นเท่าไร เจี้ยงยูก็จะยิ่งไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น

"เซี่ยวยู อย่าทำอะไรกับโอสถจิตวิญญาณในสวนโอสถสมุนไพร. เป็นสิ่งที่ดีที่ว่าแม้ลางที่ไม่ดีได้ปรากฏขึ้นเพียงจาง ๆ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะก้าวออกมาได้. ข้าหวังว่าข้าจะคิดผิด. มิฉะนั้น นี่จะเป็นภัยพิบัติที่อาณาจักรทั่วไปไม่สามารถป้องกันได้อย่างแน่นอน "

เจียงเฉินถอนหายใจ. ประสบการณ์ของเขากว้างขวางและเขาก็มาถึงข้อสรุปในใจของเขาแล้ว. ยกเว้น เขารู้ว่าเขาจะไม่สามารถแบ่งปันความรู้เรื่องนี้กับใครได้. ใครจะรู้ว่าผลลัพธ์ที่น่ากลัวจะเกิดขึ้นเมื่อเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป.

แม้ว่าเขาจะเป็นบุตรชายของจักรพรรดิสวรรค์ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา แต่เขาก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นในตอนนี้ เขาได้เกิดใหม่ในร่างอื่นแล้ว. เขาไม่มีความสามารถและพื้นฐานเช่นนั้น แต่จะมีวิธีการของตัวเองเมื่อเขาได้จุติอยู่ในโลกนี้.

เขาต้องคำนึงถึงการพิจารณาทุกอย่างที่อยู่เบื้องหลังทุกขั้นตอนและทุกการเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้ตัวเขาเองต้องไปมีส่วนพัวพันกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.