spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

การแข่งขันประเภทนี้ค่อนข้างโหดเหี้ยม. ถ้าภารกิจไม่เสร็จสิ้น ก็จะเทียบเท่ากับการสูญเสียตำแหน่งขุนนางโดยตรง.

ด้วยวิธีนี้จะมีขุนนางหลายคนที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง.

ตำแหน่งขุนนางที่ว่างอยู่ก็จะมีตระกูลชนชั้นสูงที่เข้มแข็งมาแทนที่. แน่นอนว่าตำแหน่งว่างเหล่านี้จะมีเพียงอันดับล่างเท่านั้น.

นี่คือการบอกว่าทายาทที่ทำภารกิจสำเร็จจะได้รับการจัดลำดับความสำคัญในระดับที่สูงขึ้น. บรรดาผู้ที่มาเติมเต็มสำหรับทายาทที่สูญเสียตำแหน่งสามารถแข่งขันแต่ก็จะได้แค่ที่ว่างระดับล่างเท่านั้น.

แน่นอนเจี้ยงเฉินไม่จำเป็นต้องพิจารณากฎเหล่านี้.

เป้าหมายของเจี้ยงเฉินนั้นชัดเจน เขากำลังเล็งไปที่ตำแหน่งชนะเลิศ. สำหรับเขาการได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับแรกในระดับการแข่งขันนี้หมายถึงความล้มเหลว.

"พี่เฉิน พูดอะไรหน่อยเถิด ท่านต้องการทำภารกิจระดับไหน? อ้วนซวนไม่ค่อยสนใจเรื่องของเขา แต่ก็ให้ความสำคัญกับการตัดสินใจของเจี้ยงเฉินอย่างจริงจัง.

เจี้ยงเฉินยิ้มขณะที่เขาจ้องไปยังขุนนางชั้นสูงทั้งสี่.

อ้วนซวนมองตามสายตาของเจี้ยงเฉิน หลังจากนั้นเขาก็ตบต้นขายักษ์ของตัวเอง. "ให้ตายสิ ข้ารู้ว่า พี่เฉินไม่สนใจที่จะเดินแต้ม หรือจะทำให้ทุกคนตกใจเมื่อเขาทำอย่างนั้น !

ฮะ ฮะ ฮะ พี่เฉิน ข้าหวังว่าท่านจะสามารถลากหลงยู่ซื่อลงจากม้าที่สูงส่งของนางได้ " อ้วนซวนหัวเราะเสียงแหลม "มันคงจะดีกว่าถ้านางตั้งใจเสนอเรือนร่างของนางหลังจากที่พ่ายแพ้พี่เฉิน และหลังจากได้ตัวนางมาแล้วพี่เฉินก็โยนนางลงกับพื้น. ฮ่าฮ่า มันจะเป็นเรื่องที่น่าสนุกมาก. "

ตามุสิกเล็ก ๆ ของเจ้าอ้วนซวนแทบจะมีน้ำตาเล็ดพร้อมเสียงหัวเราะของเขาในขณะที่เขาคิดถึงฉากนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความหมายของประโยคที่ว่า "คนผู้หนึ่งจะอยู่ยงคงกระพันได้เมื่อมีที่มั่น"

หลังจากนั้น ทายาททั้งหนึ่งร้อยแปดคนเรียงรายตามการจัดระดับของพวกเขาในปัจจุบันและเตรียมที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อลงสมัครสำหรับภารกิจการทดลองมังกรซ่อนของปีนี้.

เกือบจะไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับระดับของภารกิจที่ทายาทระดับแรกจะเลือกสมัคร.

ทายาทแต่ละคนมีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในตัวเอง. พวกเขาจะไม่ยอมให้ตำแหน่งของพวกเขาถูกแทนที่โดยคนอื่นและไม่ยอมให้ตัวเองต้องถูกโยนออกไปจากระดับแรก.

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติที่ผู้ที่แข็งแกร่งจะมาแทนที่คนอ่อนแอ. ความแข็งแรงพูดแทนทุกอย่าง.

ขุนนางแห่งเจี้ยงหานเป็นขุนนางลำดับที่สิบสี่ ดังนั้นในไม่ช้าก็ถึงเวลาของเจี้ยงเฉิน.

"เจี้ยงเฉิน เจ้าอยากจะสมัครสำหรับระดับไหน ? องค์หญิงโจวหยู่ถาม.

ระดับหนึ่ง! เจียงเฉินไม่ได้แม้แต่ขยับเปลือกตา.

"เจ้ามีแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยม แต่ข้าต้องเตือนเจ้าว่าทุกคนที่อยู่ข้างหน้าเจ้าได้สมัครรับภารกิจในระดับแรก. การแข่งขันระหว่างพวกเจ้าทั้งหมดจะโหดร้ายมาก! "

"การจัดระดับมันจะน่าตื่นเต้นได้อย่างไรโดยไม่มีการแข่งขัน?" เจี้ยงเฉินยิ้มจาง ๆ

"ดีมาก. ตามกฎ ทายาทแต่ละคนต้องปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้นสามภารกิจเพื่อให้ผ่านการสอบพิเศษนี้. ถ้าภารกิจเดี่ยวล้มเหลว จะถือว่าเป็นความล้มเหลวของการลงสมัครครั้งนี้. "

"ทราบแล้ว " เจี้ยงเฉินพยักหน้าเล็กน้อย.

“อืม มุ่งหน้าไปที่นั่นเพื่อทำภารกิจแรกของเจ้า " องค์หญิงโจวหยู่ทำเครื่องหมายสัญลักษณ์ของภารกิจระดับแรกบนแผ่นใบสมัครของเจี้ยงเฉิน.

"เจี้ยงเฉิน เจ้ากำลังสมัครรับภารกิจระดับหนึ่ง ใช่หรือไม่?

"ใช่"

"ตามมาทางนี้ ม้วนกระดาษทั้งหมดที่นี้เป็นภารกิจของระดับหนึ่ง โปรดเลือกแผ่นใดแผ่นหนึ่งที่ท่านต้องการ "

เจี้ยงเฉินพยักหน้า กวาดดวงตาเป็นวงกลม และสุ่มเลือก.

พวกมันเป็นภารกิจของระดับหนึ่งและดังนั้นความยากลำบากของมันทั้งหมดควรจะคล้ายกัน. เจี้ยงเชนจะไม่เลือกสรรมากนัก. ไม่ต้องพูดถึงม้วนกระดาษเหล่านี้ถูกปิดผนึกโดยไม่มีคำใบ้ให้รู้ถึงเนื้อหาภายใน.

หลังจากเลือกภารกิจของเขาเจี้ยงเฉินไม่รีบร้อนที่จะเปิดมันออก. ผู้จัดงานการทดสอบมังกรซ่อนยังไม่ต้องการการตรวจสอบภารกิจในทันที.

ผู้สมัครจำเป็นต้องทำภารกิจให้เสร็จสมบูรณ์และส่งมอบเพื่อตรวจสอบ.

"เจี้ยงเฉิน เจ้าเลือกภารกิจแบบไหน?" ทายาทที่อยู่ถัดจากเขาถามด้วยความอยากรู้.

เจี้ยงเฉินจ้องมองเขา ยิ้มให้และเดินจากไป. เห็นได้ชัดว่าที่นี่ทายาทคนอื่นไม่ใช่เพื่อน และอาจจะมาจากค่ายศัตรู เพื่อล้วงข้อมูลบางอย่างจากเขา.

แม้ว่าเจี้ยงเฉินไม่กลัวเขา แต่ก็ไม่เต็มใจที่จะให้คนอื่นมาปรากฏตัวและทำให้เกิดปัญหากับเขาเมื่อเขาเสร็จสิ้นภารกิจ.

ตามกฎแล้ว ภารกิจทั้งสามจะต้องแล้วเสร็จภายในสามเดือน.

เมื่อการสอบสิ้นสุดลง และขุนนางจำนวนหนึ่งร้อยแปดคนปรากฏตัวอีกครั้ง หลังจากที่กำจัดคนอ่อนแอออกและแทนที่ด้วยคนที่เหมาะสม การจัดอันดับจะเริ่มขึ้นตามแต่ละระดับ.

นี่คือการบอกว่าเมื่อมีการตัดสินใจอันดับ ทายาททั้งสิบสองของระดับแรกจะสามารถท้าทายคนอื่น ในระดับเดียวกันเพื่อพิจารณาการจัดอันดับครั้งสุดท้าย.

การแข่งขันภายในแต่ละระดับมีไว้สำหรับการจัดอันดับขั้นสุดท้าย.

ทายาทสามารถกลับไปได้หลังจากเลือกภารกิจแรกของพวกเขา พวกเขาจำเป็นต้องกลับมาอีกเมื่อเสร็จภารกิจในอนาคตเพื่อเลือกภารกิจที่สองของพวกเขา.

"เฉินเอ๋อ เจ้าได้รับภารกิจแบบไหน?" เจี้ยงเฟิงถามอย่างกระตือรือร้นเมื่อกลับไปที่คฤหาสน์.

เจี้ยงเฉินได้ยื่นแผ่นกระดาษให้เจี้ยงเฟิงดู. เจี้ยงเฟิงมองและขมวดคิ้ว "ภารกิจแรกนี้หนักสักหน่อย"

หืมม ?

ฆาตกรโรคจิตต่อเนื่องได้ปรากฏตัวขึ้นในเขตพื้นที่ของหมู่บ้านจันทร์แดงซึ่งตั้งอยู่ในอาณาจักรเทียนฮู และกำลังเล็งเป้าไปที่หญิงสาวสวยทั้งหลาย. วิชาตัวเบาของเขาล้ำลึกมากและเขาเรียกตัวเองว่า "นักล่าพรหมจรรย์"

เขาเชี่ยวชาญในการล่าเด็กสาวและโหดเหี้ยมมาก. เมื่อใดที่เขาตามล่าเด็กหญิงวัยเยาว์เขาก็ฆ่าพวกเขาและผ่าหน้าอกของเหยื่อเพื่อเป็นของที่ระลึก "

"ยังมีคนวิกลจริตที่บ้าคลั่งอยู่ในโลกนี้ด้วยหรือ ?" แม้เจี้ยงเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย. คนร้ายที่กระทำความผิดอาชญากรรมเต็มรูปแบบควรได้รับการสังหารมานานแล้ว. ทำไมเขาถึงได้รับโอกาสให้มีชีวิตได้จนถึงทุกวันนี้และทำลายชีวิตจำนวนมาก?

"ระดับของการฝึกฝนของโจรนี้กล่าวกันว่า เขาอยู่ระหว่างแปดหรือเก้าเส้นชีพจรของพลังลมปราณฉี. เขาผ่านการต่อสู้มานับร้อยครั้งเพราะเขาทำงานคนเดียว และความสามารถในการสู้รบของเขาน่าเหลือเชื่อ. เฉินเอ๋อ ภารกิจของเจ้าไม่ใช่เรื่องง่าย "

เจี้ยงเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย. ไม่มีภารกิจใดในระดับแรกง่ายเหมือนกัน. ภารกิจแรกคือการฆ่าผู้ฝึกฝนในอาณาจักรที่มีพลังลมปราณฉีในระดับที่แปดหรือเก้าเส้นชีพจร.

ภารกิจนี้ต้องทำเสร็จภายในหนึ่งเดือน.

ตามกฎของการสอบ ทายาทที่มีส่วนร่วมต้องเก็บข้อมูลประจำตัวของตนไว้เป็นความลับ. พวกเขาไม่สามารถระดมพลจากมิตรสหายได้.

หากพวกเขาขอความช่วยเหลือจากมิตรสหายโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าโดนจับได้พวกเขาจะถูกตัดสินทันทีว่าล้มเหลวในภารกิจ. เพื่อเป็นการลงโทษสำหรับการโกง ตำแหน่งขุนนางของพวกเขาจะถูกถอดถอน.

ในปีที่ผ่านมาทายาทบางคนที่ทำผิดคิดว่าพวกเขาจะผ่านไปได้อย่างโชคดี แต่มักจะโดนจับได้โดยเครือข่ายที่ชาญฉลาดของราชวงศ์ตะวันออกอันยิ่งใหญ่. พวกเขาจะถูกเรียกตัวและตำแหน่งขุนนางจะถูกถอดถอน.

ดังนั้นจึงมีทายาทจำนวนน้อยที่คิดจะสอบผ่านด้วยการโกง.

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เจี้ยงเฉินจึงได้ปรับเปลี่ยนบางอย่างในการจัดเตรียมและเขาก็เริ่มเดินทาง.

เหล่ากองทหารเซิ่งคุ้มกันเจี้ยงเฉินจนออกจากเขตเมืองหลวงและหยุดอยู่แค่นั้น. ตามกฎ ถ้าพวกเขาร่วมเดินทางไปด้วย ก็จะถือได้ว่าเจี้ยงเฉินกำลังโกง.

เจี้ยงเฉินเร่งม้าของเขาต่อไปหลังจากที่ออกจากเมืองหลวง. เขามาถึงหุบเขาลึกหลังจากที่ควบม้ามาได้ 160 ลี้ (60 กม.). เจี้ยงเฉินได้เร่งให้ม้าของเขากระโดดข้ามไปข้างหน้าอย่างอาจหาญ ร่างของพวกเขาทะยานขึ้นไปในอากาศขณะที่เขาปล่อยให้ม้าตกลงไปในเหวลึก.

สำหรับเจี้ยงเฉินเขาดีดตัวกลางอากาศและพุ่งสู่ทางแคบที่คดเคี้ยว ร่างของเขาหายไปในเขตชนบทที่เปิดกว้างและไร้ขอบเขตด้วยกับการกระแทก.

หลังจากนั้นประมาณ 1 เค่อ (15 นาที) มีคนมากกว่าสิบคนปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันในสถานที่ที่เจี้ยงเฉินได้ส่งม้าของเขาให้กระโดดลงไป. หัวหน้าใหญ่คือนักรบมังกรที่เต็มใจที่จะตายเพื่อทำภารกิจของเขา,หลงซาน.

ใบหน้าของหลงซานถูกปิดไว้สามารถเห็นได้เพียงดวงตาที่ร้ายกาจและเหี้ยมโหดขณะที่เขาลาดตระเวนในบริเวณนั้น. เขาสาปแช่งอย่างเลวทราม. "ไอ้ปีศาจเจี้ยงเฉินเป็นคนเลวและชั่วช้า. ร่องรอยของมันหายไปจากจุดนี้. ด้านหน้าของเราเป็นเขตชนบทที่ไม่มีที่สิ้นสุด เราเลยไม่รู้ว่ามันไปทางไหน "

"ท่านแม่ทัพซาน เราควรทำอย่างไรดี ?"

หลงซานมองไปที่ภูมิประเทศอีกครั้ง "มีเพียงที่เดียวที่จะไปได้จากที่นี่. เราจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่มที่นี่และแยกกันไล่ตามเขา. จำไว้ว่าขุนนางจะมอบทองคำหนึ่งแสนเหรียญพร้อมด้วยอาณาเขต และให้ข้าราชบริพารแปดพันคนแก่ใครก็ตามที่สามารถฆ่าเจี้ยงเฉินได้ "

อาณาเขตและความโปรดปราน เหล่านี้คือสิ่งล่อใจที่ไม่สามารถต้านทานได้. ยิ่งไปกว่านั้น ภารกิจนี้เป็นเพียงการฆ่าทายาทและมันก็ไม่ยากเกินไป!

กลุ่มสามกลุ่มสำหรับสามทิศทางที่ต่างกันได้รับการตัดสินอย่างรวดเร็วและพวกเขาก็เริ่มค้นหาตามทางที่แตกต่างกันทั้งสามเส้นทาง.

แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เจี้ยงเฉินเคยเดินออกจากเมืองหลวงตั้งแต่มาถึงโลกนี้ ความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตในอดีตของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้เขาสามารถจัดการสถานการณ์ดังกล่าวได้.

มีประมาณ 6,800 ลี้ ระหว่างเมืองหลวงและเขตเทียนฮู. ม้าธรรมดาของโลกนี้สามารถเดินทางได้ 4,000 ลี้ในหนึ่งวัน. ผู้ฝึกฝนพลังลมปราณในยุทธภพ,หากเดินทางด้วยตัวเองก็สามารถเดินทางไปได้ 4,000 ลี้ ภายเวลาหนึ่งวัน.

แน่นอนว่า,ไม่มีผู้ฝึกฝนขั้นสูงจะยอมเสียพลังลมปราณเพื่อใช้ในการเดินทาง. เจี้ยงเฉินก็ไม่ต่างกัน. เขามองเห็นได้จากแผนที่ว่าสามารถไปถึงหมู่บ้านขนาดใหญ่ได้โดยการเดินทางผ่านเส้นทางแคบและคดเคี้ยวนี้,และเดินลัดเลาะไปตามสันเขาสองสามแห่ง. หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหนึ่งในคอกปศุสัตว์ที่มีชื่อเสียงมากในบริเวณนี้ด้านการเลี้ยงม้า.

ประมาณ 1 ชั่วยามเศษ ๆ เจี้ยงเฉินก็เดินทางมาถึงถนน. เขาไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้าน แต่ใช้เงินก้อนโตเพื่อซื้อม้าที่สามารถเดินทางได้ 6,500 ลี้ต่อวัน.

เจี้ยงเฉินไม่ได้อ้อยอิ่งอยู่หลังการแลกเปลี่ยนม้าและเขาก็รีบมุ่งหน้าไปทางอาณาจักรเทียนฮู.

เจี้ยงเฉินเลือกเส้นทางไม่กี่เส้นทางที่หลีกเลี่ยงการสังเกต. เขาเลือกที่จะใช้เส้นทางที่ไกลกว่าแทนที่จะทางลัดและเจอกับความยุ่งยากที่มากขึ้น.

เช่นนี้เจียงเฉินเดินทาง 6,500 ลี้ ภายในเวลาสี่วันเต็มก่อนที่เขาจะเข้าสู่อาณาจักรเทียนฮู

เจี้ยงเฉินไม่ได้ใช้เวลาเพียงแค่เดินทางอย่างเดียว.เมื่อถึงเวลากลางคืน. เจี้ยงเฉินจะทบทวนและศึกษาประวัติอาชญากรรมที่ผ่านมาของนักล่าพรหมจรรย์.

เพียงไม่กี่วันเจี้ยงเฉินก็ได้รับความรู้เพิ่ม.

สิ่งหนึ่งที่เจี้ยงเฉินสามารถมั่นใจได้คือพื้นที่ที่นักล่าพรหมจรรย์จะก่ออาชญากรรมมันไม่เคยออกนอกอาณาจักรเทียนฮู. มีหมู่บ้านอยู่สิบเขตในอาณาจักรเทียนฮู และพื้นที่นักล่าพรหมจรรย์ได้ก่ออาชญากรรมมากที่สุดคือ จันทร์แดง,ป่าทมิฬ,และผาหมื่นลี้ . มีบางครั้งหรือสองครั้งในหมู่บ้านอื่น,แต่ก็ไม่ค่อยบ่อยนัก.

เจี้ยงเฉินเปิดแผนที่ของอาณาจักรเทียนฮู เพื่อตรวจและวิเคราะห์อยู่สักพัก. จากภูมิประเทศของหมู่บ้านทั้งสามหมู่บ้านนี้ตำแหน่งของมันเป็นตัวอักษรจีน "品"

อนึ่งภูมิประเทศของหมู่บ้านทั้งสามนี้มีความซับซ้อนมากและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของนักล่าพรหมจรรย์.

"ฆาตกรโรคจิตต่อเนื่องคนนี้มีวิชาตัวเบาที่ล้ำลึก แต่ระยะทางที่เขาสามารถทำได้เป็นเพียงทางใกล้ ๆ. นี่คือเหตุผลที่มีบางอาชญากรรมต้องใช้เวลานานในการเดินทางและมีความยากลำบาก. กล่าวได้ว่า จอมวายร้ายคนนี้ต้องมีที่ซ่อนอยู่ภายในสามหมู่บ้าน. ว่ากันว่ากระต่ายเจ้าเล่ห์มีสามโพรง. ถ้าข้าสามารถหาหนึ่งในที่ซ่อนของเขาได้ มันก็จะง่ายมากที่จะจับตัวและสังหารไอ้คนร้ายนี้. "

อย่างน้อยเจี้ยงเฉินก็มีข้อสรุปของเบาะแสบางอย่าง.

เจี้ยงเฉินเดินทางถึงหมู่บ้านผาหมื่นลี้ในวันที่ห้า. เขามีเหตุผลในการเลือกเขตไม่ใช่เขตจันทร์แดงซึ่งมีจำนวนเหตุอาชญากรรมที่มากกว่า.

ตามรูปแบบจากอาชญากรรมก่อนหน้านี้ นักล่าพรหมจรรย์ประสบความสำเร็จเป็นสองครั้งในเขตหมู่บ้านจันทร์แดง . หมู่บ้านป่าทมิฬอยู่ใกล้เคียงกับเขตจันทร์แดง ดังนั้นจะมีการเฝ้ายามที่แน่นหนาขึ้น.

มีภูเขากั้นระหว่างหมู่บ้านผาหมื่นลี้กับหมู่บ้านจันทร์แดง. หมู่บ้านจันทร์แดงตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภูเขาและหมู่บ้านผาหมื่นลี้อยู่ทางทางทิศเหนือ. ข่าวสารข้อมูลระหว่างทั้งสองหมู่บ้านจึงถูกกีดกันเนื่องจากภูเขา.

เจี้ยงเฉินสันนิษฐานว่าเป็นไปได้ว่านักล่าพรหมจรรย์จะเลือกที่จะย้ายไปดำเนินการในเขตของหมู่บ้านผาหมื่นลี้!