หน้าแรก > ราชันสามภพ
ตอนที่ 51 ขนนกคริสตัลทองคำกลายเป็นมีดบิน

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ในช่วงหลายวันต่อมา, เจี้ยงเฉินใช้เวลาฝึกยุทธทุกวันในคฤหาสน์เจี้ยงหาน,และรวมผลลัพธ์ที่ได้รับจากการฝึกซ้อมจนก้าวไปสู่ชีพจรเส้นที่เจ็ดของพลังลมปราณฉี เขาจะไม่มีวันประมาทในเรื่องของการเสริมสร้างเส้นชีพจร

เมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน เจี้ยงเฉินได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างเส้นชีพจรมากกว่าคนอื่น โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งในระยะที่ผู้อื่นไม่สามารถโจมตีได้ เขาเลือกที่จะอยู่ในด้านที่ปลอดภัยเมื่อต้องการจะก้าวต่อไป

เนื่องจากพัฒนาการของเขายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ความยากลำบากในการก้าวไปข้างหน้าจะเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความเสี่ยงที่เขาจะได้พบก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ถ้าเขาแสวงหาอย่างละโมบและบุ่มบ่ามไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นไปได้ว่าการเร่งรีบของเขาจะไม่ประสบความสำเร็จ

ด้วยความช่วยเหลือของชีพจรเส้นที่เจ็ดของพลังลมปราณฉี เจี้ยงเฉินได้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ เกี่ยวกับสองทักษะศิลปะการต่อสู้

มีรูปแบบทั้งหมดเจ็ดแบบสำหรับ "กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร" และเขาก็ประสบความสำเร็จในการฝึกสองรูปแบบแรก

รูปแบบแรก "คลื่นเชือดเฉือน" และแบบที่สอง "คลื่นบดขยี้" ซึ่งแต่ละชั้นของคลื่นพลังจะสูงขึ้นเมื่อเลื่อนขั้น ด้วยการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งที่รุนแรงกว่าครั้งก่อน ไม่เพียงแต่เจี้ยงเฉินได้ฝึกฝนทั้งสองรูปแบบนี้ไปสู่ขอบเขตที่สมบูรณ์แบบอันยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เขาก็ยังเชื่อมโยงทั้งสองรูปแบบเข้าด้วยกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พลังของทั้งสองรูปแบบเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ในแง่ของความลึกลับ "หมัดศักดิ์สิทธิ์อันนิรันดร์" เป็นทักษะที่ทรงพลังกว่า"กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร"

"กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร" เป็นทักษะที่เฉียบคม มีความมุ่งมั่นในการดูแลพลังภายในอย่างพิถีพิถันและไม่ย่อท้อ ที่ใดก็ตามที่ปลายมีดเหวี่ยงไป ทุกอย่างจะถูกทำลายอย่างราบคาบ โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นเพื่อนหรือศัตรู

"หมัดศักดิ์สิทธ์อันนิรันดร์" ในมืออีกข้าง รวมถึงทฤษฎีของสวรรค์และโลกที่รวบรวมวิถีชีวิตและการทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้า จากวัฎจักรหนึ่งของการเวียนว่ายตายเกิด ไปถึงการเวียนว่ายตายเกิดเก้ารอบ มันมีความลึกลับของการกลับชาติมาเกิดใหม่ของเก้ารอบ

ด้วยความเข้าใจที่ประสบความสำเร็จในแต่ละด้านของความลึกลับของวงจรแห่งการกลับชาติมาเกิดขึ้นแต่ละครั้ง, พลังของ "หมัดศักดิ์สิทธ์อันนิรันดร์" จะเพิ่มเป็นสองเท่า

กล่าวได้ว่า "หมัดศักดิ์สิทธิ์อันนิรันดร์" ได้รับการออกแบบมาสำหรับเจี้ยงเฉิน วัฎจักรแห่งชีวิตที่มีอยู่ใน "หมัดศักดิ์สิทธิ์อันนิรันดร์" เป็นวิธีการทำลายและการเติบโตที่ล้อมรอบด้วยวงล้อแห่งชีวิตและความตาย

และเจี้ยงเฉินได้กลับชาติมาจากลูกชายของจักรพรรดิสวรรค์ไปสู่ร่างสามัญชนของลูกชายของขุนนาง แท้จริงแล้วมันอยู่ภายใต้กงล้อของชีวิตและความตาย

ดังนั้นความเข้าใจของเจี้ยงเฉินเกี่ยวกับ "หมัดศักดิ์สิทธิ์อันนิรันดร์"เป็นความเข้าใจที่ลึกซึ่งและกว้างขวางมากกว่า "กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร "

หากจะกล่าวว่าจนถึงเวลานี้เจี้ยงเฉินฝึกฝน "กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร" ไปจนถึงขั้นของความสมบูรณ์แบบแล้ว เท่ากับว่าเขาก็ได้ฝึกฝน "หมัดศักดิ์สิทธ์อันนิรันดร์" ไปจนถึงระดับขั้นแห่งตำนาน อย่างไรก็ตามมีความลึกลับถึงเก้าระดับในวัฎจักรชีวิตใน ทักษะ หมัดศักดิ์สิทธิ์อันนิรันดร์

เจี้ยงเฉินเพิ่งจะรู้ซึ้งเพียงสามระดับเท่านั้น

"หมัดศักดิ์อันนิรันดร์นี้ 'สอดคล้องกับเส้นทางวิถีแห่งโชคชะตาของข้าได้ดี เท่าที่ข้าเข้าใจความลึกลับของสามวัฏจักรของเวียนว่ายตายเกิดในเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เมื่อมีเวลามากพอ 'หมัดศักดิ์สิทธิ์อันนิรันดร์' นี้จะกลายเป็นทักษะศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่ข้าสามารถใช้เพื่อเอาชนะศัตรูได้ ถ้าข้าสามารถฝึก "หมัดศักดิ์สิทธ์อันนิรันดร์" นี้ให้อยู่ในระดับเจ็ดหรือแปดได้แล้ว แม้ว่าข้าจะหยุดอยู่ที่ชีพจรเส้นที่เจ็ดแห่งพลังลมปราณฉี ข้าอาจจะสามารถต่อสู้กับปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญพลังลมปราณฉีได้ ถ้าข้าสามารถเข้าใจความลึกลับของเก้าวัฏจักรของการเวียนว่ายตายเกิดแล้ว, ก็เป็นไปได้ที่ข้าจะสามารถต้านทานผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณในตำนานได้! "

เจี้ยงเฉินเจาะจงให้ความสนใจกับ "หมัดศักดิ์สิทธิ์อันนิรันดร์"โดยเฉพาะ ราวกับว่าเขาได้รับมอบหมายให้วิญญาณของการเกิดใหม่ของเขาเพื่อทักษะศิลปะการต่อสู้นี้

เจี้ยงเฉินไม่ได้ย่างเท้าออกนอกประตูของเขาในวันนั้น,และฝึกซ้อมในสนามฝึก และแล้วเจิ้ยงเซิงก็รีบมารายงานว่าองค์หญิงโจวหยู่ได้มาถึงแล้ว

องค์หญิงโจวหยู่ค่อนข้างเก็บตัวเงียบในช่วงเวลานี้ เห็นได้ชัดว่านางกำลังเตรียมการขั้นสุดท้ายสำหรับการก้าวไปสู่ชีพจรเส้นที่สิบเอ็ดของพลังลมปราณฉี การปรากฏตัวของนางน่าจะหมายความว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว

"ดูเหมือนว่าข้าต้องแสดงความยินดีกับท่านล่วงหน้า" เจี้ยงเฉินได้ค้นพบว่าจิตวิญญาณขององค์หญิงโจวหยู่กำลังทะยานขึ้นเมื่อเขาเห็นนาง ซึ่งนางมีความปีติยินดีของลมในฤดูใบไม้ผลิที่ได้ปลดเปลื้องความรู้สึกภายในที่ไม่อาจลืมเลือนให้ออกไปได้ (1)

เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงโจวหยู่มีอารมณ์ดี "เจี้ยงเฉิน ข้ามาที่นี้เพื่อขอบใจเจ้าโดยเฉพาะ โอ้ ใช่สิ นี่เป็นสิ่งที่ถูกเตรียมไว้สำหรับเจ้า "

องค์หญิงโจวหยู่ได้หยิบกล่องสองกล่องจากผู้ติดตาม

กล่องถูกเปิดขึ้น ชุดเกราะอ่อนที่ดูเบาสบายอยู่ในกล่องแรก

มีดบินเก้าเล่มอยู่ในกล่องที่สอง ทำจากขนนกคริสตัลทองคำที่ได้มาวันก่อน ตั้งแต่แรกคริสตัลนี้เป็นคริสตัลที่โปร่งใสและตอนนี้ก็มีความบางและโปร่งใสเหมือนปีกจักจั่นหลังจากที่มันถูกหลอมให้กลายเป็นมีดบิน เมื่อแสงแดดกระทบกับมัน มันก็เหมือนกับน้ำแข็งที่ถูกใส่ลงไปในน้ำและละลายไป ในที่สุดก็กลายเป็นเพียงความว่างเปล่า

องค์หญิงโจวหยู่ให้รางวัลแก่เจี้ยงเฉินสำหรับสายตาที่เฉียบคมของเขาในการประเมินค่าของขนนกคริสตัลทองคำ ใครจะไปคิดว่ามันจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเมื่อถูกหลอมให้เป็นมีดบิน?

"เจี้ยงเฉินเจี้ยงเฉิน เกราะอ่อนนี้ทำมาจากเส้นใยไหมนภา โดยคนป่าที่อยู่นอกเขตอาณาจักรบูรพา มันครอบคลุมผิวของปลาวาฬน้ำลึกขนาดใหญ่, และสามารถทนต่อการโจมตีจากปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญพลังลมปราณฉีที่แท้จริงได้ ! "

กล่าวได้ว่า,องค์หญิงโจวหยู่ต้องการขอบคุณเขาอย่างจริงใจ ชุดเกราะอ่อนนี้ทำให้เจี้ยงเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

"อาวุธนี้ดูไม่เลวเลยทีเดียว ข้าจะยอมรับมัน." เจี้ยงเฉินยิ้มและอยู่ในอารมณ์ที่ดีเหลือเกิน

องค์หญิงโจวหยู่ถอนหายใจ นางเกรงว่าเจี้ยงเฉินจะวางมาด นี้จะได้ทำให้นางรู้สึกว่านางต้องการประสบความปราชัย เมื่อเห็นเจี้ยงเฉินยอมรับอย่างมีความสุข องค์หญิงโจวหยู่มีความสุขมากกว่าเขาซะอีก ราวกับว่านางได้รับสมบัติอันล้ำค่า

"เจี้ยงเฉิน มีเวลาเหลือน้อยกว่าครึ่งเดือนก่อนที่การสอบครั้งสุดท้ายของการทดสอบมังกรซ่อนจะเริ่มขึ้น นี่คือการทดลองครั้งสุดท้ายของความแข็งแรง เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมรึยัง? " องค์หญิงโจวหยู่ไม่สามารถหยุดตัวเองที่จะให้คำแนะนำได้ในฐานะของผู้จัดงานการทดสอบมังกรซ่อน

"ฮะ ฮะ ฮ่า , ท่านจะมาคาดหวังอะไรกับข้า ?" เจี้ยงเฉินถามด้วยรอยยิ้มแย้มแจ่มใส

"ท่านต้องการให้ข้าพูดความจริงมั้ย?"

"ท่านมีนิสัยที่ชอบการโกหกหรือไม่?" เจี้ยงเฉินกระพริบตา

"เอาล่ะ เจี้ยงเฉิน ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือจื่อยั่วน้อย เราทั้งสองหวังว่าจะได้เห็นเจ้าแสดงความสามารถของเจ้าอย่างเต็มที่ในการทดสอบมังกรซ่อน !"

แสดงความสามารถของข้างั้นรึ ? ท่านพูดคลุมเครือมากเกินไป ช่วยเจาะจงให้ข้าเข้าใจหน่อย

องค์หญิงโจวหยู่หยุดชั่วคราวและแสงประกายผ่านดวงตาฟีนิกซ์ของนาง "ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดและคว้าชัยชนะของการทดสอบ เราทั้งสองก็จะยินดีกับเจ้าด้วย."

"แค่รู้สึกยินดีกับข้าเหรอ? มีรางวัลอะไรบ้าง ? " เจี้ยงเฉินหัวเราะอย่างเบิกบานใจ

"ใช่ ?" องค์หญิงโจวหยู่ไม่พูดอ้อมค้อม "ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดได้ เจ้าสามารถจะขอรางวัลอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ!"

"รางวัลอะไรก็ได้ที่ข้าต้องการ?" เจี้ยงเฉินกวาดสายตาเจ้าเล่ห์ขึ้นลงไปยังองค์หญิงโจวหยู่ และมองไปทั่วร่างที่เย้ายวนของนางมากยิ่งขึ้น

"เจ้ากำลังมองหาอะไร ?" องค์หญิงโจวหยู่เป็นผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ด้วยพลังเต๋าและไม่ใช่หญิงสาวที่ขี้อาย นางยืดอกและกล่าวว่า "ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะหลงยู่ซือได้ในครั้งเดียว เจ้าจะได้รับจินตนาการลามกที่เจ้าคิดถึงเกี่ยวกับข้า แม้ว่าเจ้าจะอยากได้ทั้งข้าและจื่อยั่วน้อย,ก็จะไม่เป็นปัญหาอะไรเลย ! "

องค์หญิงโจวหยู่ได้หัวเราะเสียงดังหลังจากคำพูดเหล่านี้ รอยยิ้มของเธอค่อนข้างจริงใจสดใสและไม่ถือตัว

"เอาทั้งสองคนเลยหรอ ?" เจี้ยงเฉินค้นพบว่าเขาได้ประเมินความดุร้ายที่รุนแรงขององค์หญิงโจวหยู่ต่ำไป แม้ว่าเขาจะรู้ว่าองค์หญิงโจวหยู่พูดเล่น ๆ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคนรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก แต่ความคิดแบบเดียวกับฉากนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของคนธรรมดาพองโต

"เอาทั้งสองคนไปเลย !" องค์หญิงโจวหยู่พยักหน้าอย่างแข็งแรง "ในโลกของศิลปะการต่อสู้ด้วยพลังเต๋า คนที่เข้มแข็งจะได้รับความนับถือ หากเจ้ามีความสามารถนี้อย่างแท้จริง,เจ้าจะทะยานสู่ท้องฟ้าด้วยการเคลื่อนที่ไม่ช้าก็เร็ว เมื่อถึงเวลานั้น หญิงสาวทุกคนในราชอาณาจักรจะมาต่อแถวให้เจ้าเลือก ไม่นับเราสองคน หญิงสาวคนไหนที่เจ้าเลือก นางก็จะเต็มใจที่จะนำน้องสาวของนางเป็นสินสอดทองหมั้นให้เจ้า ! "

การนับถือและเทิดทูนภักดีต่อคนที่เข้มแข็ง สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นกฎที่ใช้กับทุกโลก

"นี่สรุปได้ว่าท่านต้องการอย่างมาก ให้ข้าเป็นผู้ชนะในการทดสอบมังกรซ่อน ?"

"ถ้าเป็นเวลาหนึ่งเดือนก่อน ข้าคงไม่คิดว่าจะมีใครขัดขวางหลงยู่ซือไม่ให้เป็นผู้ชนะได้ แต่ตอนนี้ หากข้ามีเป้าหมายที่จะชนะเพื่อสิ่งใด มันก็จะเป็นไปเพื่อท่าน และท่านก็เป็นคนเดียวที่ข้าสามารถคิดได้ "

องค์หญิงโจวหยู่ซื่อสัตย์มาก “ข้าไม่ต้องการให้หลงยู่ซือเป็นผู้ชนะ "

"เพราะความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์และขุนนางแห่งมังกรทะยานงั้นหรือ?" เงาของรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจี้ยงเฉิน

"ใช่ องค์หญิงโจวหยู่กัดฟันที่ส่องแสงประกายของนางและยอมรับอย่างตรงไปตรงมา

"เจ้าสามารถเสนอตัวเองขึ้นสำหรับพระราชวงศ์ - สำหรับผลประโยชน์ของราชวงศ์ตะวันออก?" เสียงของเจี้ยงเฉินเย็นชา

"เจี้ยงเฉิน, เจ้าดูถูกข้ารึ ?" การแสดงออกขององค์หญิงโจวหยู่เปลี่ยนไป แต่หัวใจก็รู้สึกมืดมัวและอ้างว้าง นางเป็นคนถือทิฐิและไม่แม้แต่จะชายตามองชายใดที่ไล่ตามนาง นางจะเสนอตัวเองเพื่อหาผลกำไรได้อย่างไร?

เจี้ยงเฉิน ฮะ ฮะ เจ้าไม่รู้หรือว่า ข้า โจวหยู่ทำเป็นแบบนี้เพื่อกระตุ้นเจ้าและเพิ่มแรงผลักดันให้กับเจ้ามากขึ้น ?

"เอาล่ะ ข้าจะตอบเจ้าตามตรง ข้าจะใช้พลังทั้งหมดของข้าในการจัดการกับหลงยู่ซือ เนื่องจากสิ่งที่น่าขยะแขยงและสกปรกที่ขุนนางแห่งมังกรทะยานได้กระทำต่อตระกูลเจี้ยงของข้า ! "

เสียงของเจี้ยงเฉินท่วมท้นไปด้วยความมั่นใจอย่างไม่ต้องสงสัย

เจี้ยงเฉินรู้สึกถึงว่าการทดสอบมังกรซ่อนกำลังจะเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่องค์หญิงโจวหยู่จากไป

เจี้ยงเฉินตัดสินใจเดินทางไปยังหอโอสถก่อนการทดสอบจะเริ่มขึ้น เขาต้องการที่จะเตรียมการที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นสำหรับการทดสอบที่กำลังจะเริ่มต้น

ช่วงเวลานี้,หอโอสถค่อนข้างยุ่งกับการค้า แขกผู้มาเยือนเดินเข้ามาตลอดเวลาไม่ขาดสายตั้งแต่เช้าจรดค่ำเกือบจะพังธรณีประตูของหอโอสถ

"หัวหน้าหอเซี่ยว ขอแสดงความยินดี" เจี้ยงเฉินกล่าวกับเซี่ยวไป๋ซี่ทันที เขากำลังส่องประกายด้วยความสุขหลังจากเข้าไปทางประตู

"อ่า ... ขุนนางน้อย " เซี่ยวไป๋ซี่เกือบจะโพล่งออกไปว่า "ปรมาจารย์ที่เคารพ" ถ้าไม่ใช่เพราะการตอบโต้อย่างรวดเร็วของเขาเขาอาจจะทำเช่นนั้นจริง

"ท่านขุนนาง แขกผู้มีเกียรติ กรุณามาทางนี้ ตามข้ามา " เซี่ยวไป๋ซี่รู้สึกปลื้มใจมากที่ได้เห็นเจี้ยงเฉิน

เขายุ่งกับการทำธุรกิจในช่วงเวลานี้ และไม่ได้มีเวลาไปเยี่ยมเยียนและให้ความเคารพต่ออาจารย์ที่มีเกียรติของเขา เขายังกังวลว่าอาจารย์ผู้ทรงเกียรติของเขาอาจจะโกรธ

ไม่ใช่เรื่องของเจี้ยงเฉินที่จะกังวลว่าเซี่ยวไป๋ซี่จะไม่ฟังเขาอีกต่อไป แต่จากการที่เซี่ยวไป๋ซี่กังวลว่าเจี้ยงเฉินจะโกรธและทิ้งเขา

สำหรับเซี่ยวไป๋ซี่ แม้ว่าธุรกิจของหอโอสถนั้นมีความสำคัญมากเมื่อเทียบกับเรื่องการยอมรับเจี้ยงเฉินว่าเป็นอาจารย์ของเขา ... แต่มันก็ขึ้นอยู่กับความสำคัญของงาน

ถ้าบอกว่าเซี่ยวไป๋ซี่ให้ความสำคัญอย่างมากกับสถานะของเขาในฐานะผู้สืบทอดหอโอสถแล้ว มุมมองและความคิดของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากหลังจากยอมรับเจี้ยงเฉินเป็นอาจารย์ของเขา

เขาเคยให้ความสำคัญกับตำแหน่งของเขาในฐานะผู้สืบทอดชองหอโอสถก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้มันเหมือนเรื่องเล็กน้อย มันไม่ได้ดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ถ้าเขาไม่ใช่ผู้สืบทอดหอโอสถ

ถ้าเขาสามารถปฏิบัติตามอาจารย์ของเขาและแสวงหาความรู้และคำแนะนำ การได้รับความสามารถที่ยอดเยี่ยม ในอนาคตเขาก็จะมีสถานะที่กว้างไกลกว่าหอโอสถถึงสิบเท่าหรือแม้แต่ร้อยเท่า ทำไมเขาต้องกังวลกับการขาดโอกาสในความสามารถของเขา ?

สูตรโอสถทั้งสามสูตรที่ได้รับการยกย่องมีมากพอที่จะช่วยให้ตลาดโอสถของอาณาจักรเพื่อนบ้านในสิบหกอาณาจักรไม่สามารถพูดอะไรได้อีก

วันนี้มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อสั่งซื้อสินค้าของหอโอสถ

คำสั่งซื้อที่หอโอสถได้รับกำลังรออยู่แล้วจนถึงปีหน้า แม้กระนั้นก็ตาม ผู้คนที่สั่งซื้อสินค้าก็ยังคงมีความสนใจและความยินดีเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ พวกเขาไม่รังเกียจที่ต้องรอนาน

หอโอสถไม่ต้องการเงินมัดจำ แต่ลูกค้าของพวกเขาจะไม่รับฟังและยืนยันการชำระเงินล่วงหน้า

การค้าแบบนี้ทำให้พนักงานทุกคนในหอโอสถรู้สึกอิสระและมีความสุข นี้ไม่ใช่การทำการค้า นี้เป็นการเปิดเหมืองทองและเงินทองก็ไหลมาเทมาขณะที่พวกเขาแค่นั่งที่นั่น!

สำหรับคนที่สร้างฉากนี้ด้วยตัวเองแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ทำให้เซี่ยวไป๋ซี่คิดไตร่ตรอง เขาได้ตระหนักว่ามุมมองในอดีตของเขายังแคบเกินไป

เขายังตระหนักว่าสิ่งที่อาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ของเขาเจี้ยงเฉินได้นำมา,มันได้เปลี่ยนโชคชะตาของเขา

..........................

(1) ปีติยินดีของลมในฤดูใบไม้ผลิ เป็นคำพูดของชาวจีนบอกความสุขของใครบางคนหลังจากได้รับคำสั่งสอนจากอาจารย์ที่รอบรู้

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.