spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
"ดูเหมือนว่าข้าจะทำเกินไปหน่อยแหะ" ต้วนหลิงเทียนที่กำลังควบขี้ม้าออกจากเมืองได้แต่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียง ราวกับรู้สึกผิดพร้อมทั้งลูบจมูกออกมา
หยางต้าหันมองไปที่หลิงเทียน "อา จะอย่างไรทั้งหมดก็ล้วนเป็นฝีมือเจ้าทั้งสิ้น"
"เฮ่ๆ หากจะพูดถึงเรื่องนี้ล่ะก็ข้าเถียงกับท่านได้ทั้งวันนะ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้เป็นเพราะอะไรเล่า? ตัวข้ามีความแค้นกับกองทัพเกราะทมิฬ? หรือตัวข้ามีความแค้นกับตระกูลเหลียน? ก็เปล่าทั้งสิ้น ...บัดซบ!! ทั้งหมดล้วนเป็นพวกท่านกองกำลังโลหิตเหล็กที่บีบบังคับข้า! มอบภารกิจอุบาทว์นี่มาและข่มขู่ให้ข้ากระทำให้สำเร็จ พวกท่านกองกำลังโลหิตเหล็ก เคยถามข้าสักคำไหมว่า ข้าอยากทำภารกิจบัดซบที่ยากก็ยากซ้ำยังไม่ได้คุ้มค่าเหนื่อยสักนิดนี่หรือไม่!! "ต้วนหลิงเทียนกล่าวตำหนิออกมาอย่างหงุดหงิด
"เอ่อ...ไปกันเถิด ข้าว่าเรื่องนี้ท่านแม่ทัพน่าจะยินดีอย่างยิ่ง..อ่าว"
เสียงของหยางต้าพึ่งจะกล่าวออกมาหลังจากก้มหน้าด้วยความละอายอยู่ครู่หนึ่ง...นี่เพราะเรื่องที่เด็กมันพูดก็ถูก...แต่มันก็ได้แต่กล่าวกับเศษฝุ่นเท่านั้น เพราะยามนี้หลิงเทียนควบม้าไปนู่นแล้ว
"ไอเจ้าเด็กคนนี้นี่!" หยางต้าแทบอยากจะร่ำไห้ออกมา ก่อนที่จะควบขี่ม้าติดตามไป
ระหว่างทางทั้งสอง ก็ได้ควบขี่ตะบึงม้าไปข้างหน้าอย่างเบื่อหน่าย และในที่สุดเวลาก็ล่วงเลยไปอีก 3 เดือน...
นับตั้งแต่ที่ภารกิจก็เสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว ต้วนหลิงเทียนกับหยางต้าก็ไม่ได้มีความรีบร้อนอะไรที่จะกลับมากสักเท่าไร พวกเขาเพียงขี่ม้าไปเรื่อยๆ หากมันเหนื่อยก็ชะลอความเร็วลง และอีกไม่นานก็จะถึงเมืองโลหิตเหล็กของอาณาจักรนภาล่องแล้ว
ระหว่างทางพวกเขาก็อาศัยค้างแรมในโรงเตี๊ยมเล็กๆ ในเมืองเล็กๆและมีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านตามชนบ้างประปราย
หลังจากเวลาล่วงเลยไปถึง 5 เดือน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเมืองเล็กๆใกล้เมืองโลหิตเหล็ก
"พวกเราจะพักที่นี่ในคืนนี้ และหลังจากเดินทางอีกวันหนึ่งพวกเราก็คงจะถึงที่หมาย" หยางต้ากล่าวออกมากับหลิงเทียน
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าก่อนที่จะควบม้าเข้าเมืองเล็กๆนั่นไป
ทุกครั้งที่หลิงเทียนควบม้าเข้าไปพักในเมืองเล็กๆเช่นนี้ เขาจะมีความรู้สึกเหมือนได้กลับไปเมืองวายุโปรย นี่เพราะเมืองเล็กๆเหล่านี้ให้กลิ่นอายและบรรยากาศคล้ายคลึงเมืองวายุโปรยอยู่ไม่น้อย...
เฮ่หัวหน้ากอง เมื่อครู่มีโรงเตี๊ยมที่ดูดีใช้ได้ ใยไม่แวะไปพักเล่า " ต้วนหลิงเทียนสังเกตว่าหยางต้าพาเขาห้อม้าตรงไปตามทางเรื่อยๆ และไม่สนใจโรงเตี๊ยมที่พักแม้แต่น้อย
"พวกเราไม่ได้จะพักแรม กันที่โรงเตี๊ยมในคืนนี้" หยางต้ากล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
"อ้าว ไม่พักโรงเตี๊ยมแล้วจะไปนอนที่ไหนกัน?" ต้วนหลิงเทียนสงสัยเล็กน้อย
"ที่นี่คือ เมืองห่านสันโดษ...และยังเป็นเมืองบ้านเกิดของข้า" ดวงตาของหยางต้าฉายแววอบอุ่นออกมาในขณะที่กล่าว
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
ทันใดนั้นเองเขาพลันเห็นคาราวานหนึ่งที่ยืดยาวจนดูราวกับมังกรแหวกว่ายในกระแสธารา
กองคาราวานนี้ประกอบด้วยเกวียนจำนวนมากทั้งยังมีกรงที่แลดูขนาดใหญ่ ทว่าไม่ใช่สัตว์อสูรหรือสัตว์ดุร้ายที่ถูกกักขัง มันกลับเป็นมนุษย์
คนเหล่านี้แต่งตัวซ่อมซ่อไม่ต่างอะไรกับขอทาน บางคนดูอนาถายิ่งกว่าขอทานด้วยซ้ำ ซ้ำพวกเขายังมีแววตารุนแรงแลดูไม่ค่อยเป็นมิตร เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดา
ซ้ำบนใบหน้ายังมีรอยประทับตราอะไรบางอย่าง
"นี่คืออะไรกัน ... " ต้วนหลิงเทียนหยุดม้าและมองดูเล็กน้อย
"คนเหล่านี้ล้วนเป็นทาสที่ตระกูลไช่ ไปรวบรวมมาจากภายนอก พวกเขามักจะนำมันมาขายในเมืองห่านสันโดษแห่งนี้บางส่วน ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังเมืองประจำมณฑล ตระกูลไช่นี้มีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลของผู้ว่าการมณฑล" หยางต้าค่อยๆกล่าวออกมาอย่างช้าๆ
ทันใดนั้นเอง
"เฮ่ หยางต้าใช่รึเปล่า!" ชายคนหนึ่งที่นำคาราวานตะโกนขึ้นมา ก่อนที่เขาจะควบม้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าหยางต้า
ทันใดนั้นกองคาราวานก็หยุดลง
"อ้าววว! ไช่ไห่เป็นไงมาไงล่ะเจ้า ไม่เห็นเจ้าซะนาน" หยางต้าเองก็ยิ้มตอบกลับไปอย่างคุ้นเคย
"เหอะ! หยางต้า เจ้าเองก็หายหน้าหายตาไปเสียนาน ลืมบ้านแล้วรึไรใยไม่กลับมาบ้างเล่า แล้วนี่เป็นอย่างไรแล้ว ระดับบ่มเพาะก้าวหน้าขึ้นแล้วใช่หรือไม่? เฮ่อ เอาล่ะๆ ก่อนอื่นข้าต้องขอตัวไปส่งทาสเหล่านี้ก่อน แล้วข้าจะมาสังสรรค์กับเจ้าทีหลัง อย่าพึ่งรีบไปไหนล่ะ !" ไชไห่หัวเราะออกมา
"ฮ่าๆ เจ้าก็รีบๆจัดการธุระเข้าละ พรุ่งนี้ข้าก็ต้องเดินทางแต่เช้า" หยางต้าก็หัวเราะออกมา
"หืม?" ทันใดนั้นหลิงเทียนพลันขมวดคิ้วขึ้นมา
เขาสังเกตว่ามีชายคนหนึ่งกำลังจับจ้องมายังแหวนมิติของเขาด้วยสายตาหยาบกระด้างและดุร้ายอย่างมาก
นี่เป็นเพียงชายวัยกลางคนเท่านั้น ทว่าความรู้สึกที่ส่งผ่านสายตาของเขานั้นดูไม่ธรรมดา และดุดันอย่างยิ่ง ...
"เขาดูออกและจดจำได้ว่านี่คือแหวนมิติงั้นหรือ?" ต้วนหลิงเทียนตื่นตัวเล็กน้อย
มันยากที่เขาจะจินตนาการว่า ชายวัยกลางคนผู้นี้สามารถจดจำแหวนมิติ ที่เคยเป็นของอดีตนายน้อยแห่งนิกายไร้สิ้นสุดของอาณาจักรพนาครามที่เขาดัดแปลงไปด้วยตัวเอง
"เอ๊ะนั่นมัน!" ทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนพลันสังเกตไปถึงลวดลายสีดำที่ปรากฏออกมาชัดเจน บริเวณคอของชายวัยกลางคนผู้นั้น
ลวดลายนั้นมัน! หลิงเทียนพลันค้นหาในความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดทันที
"ปรสิตกลืนกำเนิด!" ร่างของหลิงเทียนขดตัวลงเล็กน้อย เมื่อรับรู้ถึงความสำคัญของลวดลายนี้
อย่างไรก็ตามนี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และไร้เหตุผลอย่างยิ่ง ที่ลวดลายระดับนั้นจะมาปรากฏในอาณาจักรนภาล่อง...
ปรสิตกลืนกำเนิด เป็นปรสิตชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรงจนสามารถกลืนกินพลังงานต้นกำเนิดของผู้ที่ถูกพิษของมัน
แม้แต่ตัวตันสูงส่งอย่างผู้ฝึกยุทธ์ระดับธรรมชาติเอง ก็ยังสามารถติดเชื้อร้ายจากปรสิตชนิดนี้ได้ หากพวกเขาถูกจับตัวไปและถูกแพร่พิษชนิดนี้ใส่ร่างกาย พลังงานต้นกำเนิดทั่วทั้งร่างจะถูกผนึกเอาไว้อย่างสิ้นเชิง... กล่าวได้ว่าผู้ที่ถูกพิษปรสิตกลืนกำเนิด จะมีระดับบ่มเพาะสูงสุดได้เพียงระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เท่านั้น
"นิกาย...ไร้ ... สิ้นสุด ..."
เมื่อสังเกตแววตาดุร้ายที่จ้องมองมาไม่เลิกราของชายวัยกลางคน หลิงเทียนพลันกล่าวคำออกมา 2 คำ
และทันใดนั้นเองร่างกายของชายวัยกลางคนก็สั่นระริกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
"เขามาจากนิกายไร้สิ้นสุดจริงๆ!" หัวใจของต้วนหลิงเทียนสั่นไหวเล็กน้อย
"เฮ่ อย่างต้า ชายหนุ่มผู้นี้เป็นใครกันเล่า หน้าตาเขาหล่อเหลาเกินกว่าจะเป็นญาติเจ้านา?" ทันใดนั้นสายตาของไช่ไห่ก็มาตกที่หลิงเทียน
"เขาคือต้วนหลิงเทียน เป็นผู้ที่เข้าร่วมการฝึกอบรมของค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะในปีนี้ ตอนนี้เขาเองก็พึ่งกลับมาจากการทดสอบรอบสุดท้าย ...และเขาก็ผ่านมันเรียบร้อย นั่นหมายความว่ายามนี้เขาย่อมได้สิทธิ์เข้าศึกษาที่สถาบันบ่มเพาะขุนพล และอีกไม่นานเขาเองก็คงเป็นคนของสถาบันบ่มเพาะขุนพลนั้นล่ะ" หยางต้ากล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
ไช่ไห่หันมามองหลิงเทียนพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม "เฮ่ น้องชายหลิงเทียน ข้าไช่ไห่"
"แล้วข้าควรเรียกท่านว่าอย่างไรดีเล่า?" ต้วนหลิงเทียนส่งยิ้มกลับไปพร้อมกล่าวถามออกมาอย่างอารมณ์ดี
ไช่ไห่หัวเราะออกมา "น้องหลิงเทียนหากเจ้าไม่รังเกียจเรียกข้าว่าพี่ใหญ่ไช่ก็ได้"
"พี่ใหญไช่"
ต้วนหลิงเทียนทักทายก่อนที่จะกล่าวถามออกมา "พี่ใหญ่ไช่ทาสที่ท่านกำลังขนมาทั้งหมดนี่ ท่านไปหามาจากที่ใดหรือ?"
ไช่ไห่กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า "สิ้นค้าเหล่านี้พวกเราก็ซื้อมาจากอาณาจักรต่างๆนั่นล่ะ พวกเขาส่วนใหญ่ก็เป็นนักโทษหรือไม่ก็คนไร้ราก ร่อนเร่พเนจรไปทั่ว บ้างก็ขายตัวเอง"
ซื้อพวกเขามา สินค้า?
ต้วนหลิงเทียนเองก็รู้สึกสงสารและเห็นใจพวกทาสเหล่านี้ไม่น้อย พวกเขาเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่กลับถูกกระทำเป็นเพียงแค่สินค้า
"พี่ใหญ่ไช่ข้าเองก็อยากซื้อทาสไว้สักคน แต่ก็ไม่รู้จักผู้ใด... ข้าอยากรู้ว่าข้าอยากจะขอซื้อจากท่านได้หรือไม่" ต้วนหลิงเทียนลองกล่าวถามออกมา
"อะไรกัน! น้องหลิงเทียน ใยเจ้าทำกับข้าเป็นคนอื่นคนไกลเช่นนั้นกันเล่า! นี่ไม่ต้องกล่าวถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ของข้ากับเจ้าหยางต้านี่ที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กด้วยซ้ำ การพบปะกันครั้งแรกนี้ ข้าเองก็ถูกชะตากับน้องหลิงเทียนไม่น้อย เช่นนั้นคิดเสียว่าข้าขอมอบทาสเหล่านี้ ให้น้องหลิงเทียนสักคนเป็นของขวัญแรกพบแล้วกัน ว่าอย่างไรเล่า" ไช่ไห่กล่าวออกมาอย่างใจกว้าง
จากที่เขาสังเกต ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ยังมีอายุราวๆ 17 ปีเท่านั้น แต่กลับได้รับคุณสมบัติในการเข้าศึกษายังสถาบันบ่มเพาะขุนพลแล้ว! เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์สูงนัก
เมื่อเขาจบจากสถาบันบ่มเพาะขุนพลอนาคตของเขาย่อมไร้สิ้นสุด!
และคนอย่างไช่ไห่จะไม่มีวันเป็นสหายหรือทำความรู้จักกับตัวตนระดับนั้นได้แน่นอนในอนาคต แต่ตอนนี้กลับเป็นช่วงเวลาที่จะทำความรู้จักและสร้างความประทับใจให้แก่ต้วนหลิงเทียนเอาไว้ เผื่อในภายภาคหน้าต้วนหลิงเทียนอาจจะช่วยเหลืออะไรเขาได้บ้าง
"เช่นนั้นข้าต้องขอบคุณพี่ใหญ่ไช่แล้ว" ต้วนหลิงเทียนไม่คิดปฏิเสธ เขารีบควบม้าไปยังลูกกรงทันที
พวกทาสทุกคนต่างหันมามองหลิงเทียนด้วยสายตาดุร้ายและเต็มไปด้วยความอำมหิต ท่าทางของพวกมันนั้นดูเหมือนจะคิดอยู่เพียงเรื่องเดียวนั่นคือ ฉีกร่างของหลิงเทียนให้เป็นชิ้นๆ
"ข้าขอพาคนนี้ไปแล้วกัน" ต้วนหลิงเทียนชี้ไปยังร่างของชายวัยกลางคนที่น่าจะเป็นคนของนิกายไร้สิ้นสุด
ไช่ไห่ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวแนะนำออกมา "น้องชายหลิงเทียนทาสคนนั้นอยู่ในระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เท่านั้น และนับได้ว่าเป็นทาสที่มีราคาถูกที่สุดในกลุ่ม น้องหลิงเทียนคิดจะเปลี่ยนเป็นทาสที่มีระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 5 หรือไม่เล่า? พวกนั้นจะเป็นกลุ่มทาสที่มีระดับบ่มเพาะสูงที่สุดในกลุ่มแล้ว"
"พี่ใหญ่ไช่ แค่นี้ข้าก็ต้องขอบคุณท่านมากแล้ว ท่านให้ของขวัญข้าก็จริง แต่ข้าจะใช้มันเพื่อเอาประโยชน์กับท่านได้อย่างไรกัน?" ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมา
"ฮ่าๆ ... น้องหลิงเทียนช่างเป็นคนที่ตรงไปตรงมายิ่งนัก เอาล่ะเมื่อข้าเสร็จสิ้นเรื่องการจัดการที่พักให้แก่ทาสเหล่านี้แล้ว ข้าจะนำเขาไปส่งให้เจ้าถึงที่พักของตระกูลหยางเลย" ไช่ไห่พยายามมองหลิงเทียนด้วยสายตาค้นหา เนื่องจากความรู้สึกมันบ่งบอกเขาว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา
แล้วไช่ไห่ก็หันไปกล่าวอำลากับหยางต้าและเดินทางต่อทันที
"ต้วนหลิงเทียน ทาสคนนั้นมีอะไรพิเศษงั้นรึ?" หยางต้าจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาแฝงความสงสัย
มุมปากของหลิงเทียนพลันกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวออกมา "หัวหน้ากองแล้วตัวท่านคิดว่าทาสคนนี้มีอะไรพิเศษกันเล่า เขาก็เป็นแค่คนที่มีระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เท่านั้น?"
"ฮ่าๆ ... ข้าเพียงแค่คิดว่ามันแปลกที่เจ้าจะกระทำการด้วยความ เกรงใจ อะไรแบบนี้ได้" หยางต้ากล่าวออกมาพร้อมหัวเราะลั่น
"อะไร นี่ข้าดูเหมือนคนที่โลภแม้กระทั่งผลประโยชน์เล็กๆเช่นนี้งั้นรึ?" ต้วนหลิงเทียนถึงกับพูดไม่ออก
"เจ้าไม่ได้ดูเหมือนหรอก ... "
"แต่เจ้านั้นดูเป็นเช่นนั้นเลยล่ะ"
"แล้วเจ้าก็เป็นเช่นนั้นตลอดเวลา!"
"... ."
คืนนั้นหลิงเทียนก็พักที่ตระกูลหยาง
และตอนนี้หลิงเทียนก็ได้รับรู้ว่าหยางต้าเองก็ถือกำเนิดมาจากตระกูลหยาง ที่เป็นตระกูลใหญ่ 1 ใน 3 ตระกูลของเมืองห่านสันโดษแห่งนี้
และไช่ไห่คนนั้นก็มาจากตระกูลใหญ่ 1 ใน 3 ของตระกูลใหญ่ในเมืองนี้เช่นกัน
และนอกจากนี้หลิงเทียนยังค้นพบเรื่องราวน่าทึ่งอีกประการหนึ่ง
ภรรยาของผู้ว่าการมณฑลผานางแอ่นเหินนั้น เป็นพี่สาวของประมุขตระกูลใช่ กล่าวได้ว่าเป่ยซันที่ถูกเขาตัดแขนขาดนั้น ก็มีสถานะเป็นหลานชายของตระกูลไช่
และที่น่าตกตะลึงก็คือไช่ไห่กลับเป็นน้องชายของประมุขตระกูลไช่...และเป็นอาของเป่ยซันนั่นเอง
"คู่แค้นหนทางคับแคบ จริงๆ ... " หลังจากที่ค้นพบเรื่องราวประหลาดเช่นนี้อดไม่ได้ที่หลิงเทียนจะถอนหายใจออกมา
"ถ้าเป่ยซันนั่นรับรู้ว่าอาของเขาไม่ใช่แค่กล่าววาจากับข้าอย่างดี แต่ยังมอบทาสให้ข้าเป็นของขวัญเชนนี้อีก เขาคงต้องกระอักเลือดตายเพราะความโกรธแล้ว" ในใจของหลิงเทียนเต็มไปด้วยความคิดชั่วร้ายที่น่าสนุกสนานนัก
"นายน้อยหลิงเทียนเจ้าคะ ท่านรองประมุขให้มาตามท่านไปห้องรับรองเจ้าค่ะ" มันใดนั้นเองเสียงของหญิงรับใช้พลันดังขึ้นนอกห้อง
‘ดูเหมือนไช่ไห่จะมาถึงแล้ว’ ต้วนหลิงเทียนนึกในใจ
รองประมุขที่หญิงรับใช้ว่านั่นก็หมายถึงหยางต้า ที่เป็นหัวหน้ากองนั่นเอง
ในห้องรับรองนั้นหลิงเทียนก็ได้พบกับไช่ไห่อีกครั้ง แถมครานี้เขายังพาทาสชายวัยกลางคนที่หลิงเทียนเลือกมาอีกด้วย
หลังจากทำความสะอาดแล้วชายคนนี้ก็มีสารรูปที่ดูดีขึ้นอย่างมาก แต่จะอย่างไรด้วยรอยตีตราบนใบหน้าของเขานั้น ก็ประกาศให้คนรับรู้โดยทั่วกันว่า สถานะของเขาเป็นเพียงทาสที่ต่ำต้อยเท่านั้น
"พี่ใหญ่ไช่" ต้วนหลิงเทียนยิ้มให้ไช่ไห่
"ต้วนหลิงเทียนเจ้าช่างมีสายตาแหลมคมนัก แม้ว่าระดับบ่มเพาะของชายคนนี้จะน้อยนิด ทว่าลักษณะและท่าทางของเขานั้นก็ไม่ได้ธรรมดาเลย" ไช่ไห่ยิ้มออกมา
หลังจากที่แลกเปลี่ยนคำพูดเรื่อยเปื่อยสัพเพเหระอยู่ไม่กี่คำ ต้วนหลิงเทียนก็ขอตัวกลับห้องพร้อมนำชายวัยกลางคนนั้นไปด้วย
ในห้องที่เงียบสงบหลิงเทียนและชายวัยกลางคนยืนจ้องหน้ากัน
ท่าทางของชายวัยกลางคนยังคงสงบนิ่ง ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย แต่ในขณะที่เขาคว้าไหล่ของต้วนหลิงเทียน กลับกล่าวถามออกมาด้วยความตื่นเต้นที่ดูเหมือนจะปิดไม่มิด "เหตุใดเจ้าถึงมีแหวนมิติของนายน้อยนิกายข้า? เจ้าทำอันใดกับเขากัน?"
ปัง!
สีหน้าของหลิงเทียนแข็งขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่มือของเขาจะสะบัดว่องไวราวกับสายฟ้า ซัดร่างชายวัยกลางคนกระเด็นออกไป
ชายวัยกลางคนหันหน้ามามองด้วยความโกรธแค้นก่อนที่จะกล่าวคำรามออกมา "บัดซบ! หากไม่ใช่เพราะข้าถูกวางยาพิษล่ะก็ แม้จะมีทารกเช่นเจ้านับพันๆคนจู่โจมข้าเหมือนอย่างเมื่อครู่ ข้าก็สังหารพวกมันได้อย่างง่ายดายโดยลำบากเพียงแค่ยกมือเท่านั้น!!"
"แม้แต่ตัวเจ้าเองก็รู้ดีนี่ว่าเจ้าโดนวางยาพิษ...และทั้งหมดที่ข้ารู้ก็คือ ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงทาสสวะที่มีระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ไม่ต่างอะไรกับขยะ ...เมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าก็ควรรู้และสำเหนียกตัวเองว่าตอนนี้ควรปฏิบัติตัวเช่นไร!" ต้วนหลิงเทียนก้าวไปข้างหน้าสองก้าวก่อนที่จะตบหน้าของชายวัยกลางคน
"เจ้า!" ใบหน้าของชายวัยกลางคนพลันบิดเบี้ยว ก่อนที่จะยิงหมัดสวนหลิงเทียนกลับมา
"ดูเหมือนเจ้าจะลืมไปแล้ว ว่าตอนนี้ข้าเป็นนายของเจ้า!" น้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์ของหลิงเทียนดังขึ้นก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นและเหวี่ยงซัดไปที่ชายวัยกลางคนทันที ท่าเหวี่ยงแขนของเขามันราวกับงูเหลือมคลั่งแกว่งหางอย่างไรอย่างนั้น
ตูมมมม!
ต้วนหลิงเทียนพลันเดินไปเหยียบกลางอกชายวัยกลางคนที่ถูกซัดกระเด็น ก่อนที่จะจ้องมองมาด้วยสายตาเย็นชา และกล่าวออกมาอย่างดุดันว่า "จดจำเรื่องราวในวันนี้ฝังใส่กระโหลกผุๆของเจ้าเอาไว้ให้ดี ยามนี้! ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า! หัดเจียมกะลาหัวของเข้าเอาไว้ด้วย ข้า!เป็นเจ้านายที่เจ้าไม่อาจต่อต้านและขัดคำได้!"