หน้าแรก > War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 113 ฆ่าอย่างไร้ปราณี!

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

"เฮ่ เมิ่งฉวน ตรงนี้ยังมีขนมปังอีกชิ้นนึง เจ้าก็อย่าให้มันเสียเปล่าสิ" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังขนมปังอีกชิ้นที่มีสภาพเละเทะ ดูเหมือนขนมปังชิ้นนี้จะถูกกระทืบแรงไปไม่น้อยจนขาดหลุดออกมาแบบนี้

"ให้ข้าเอง!" ทว่าก่อนที่เมิ่งฉวนจะกล่าวตอบอะไร กลับเป็นเซี่ยวหยูที่ฟื้นขึ้นมาเมื่อครู่ ชิงตอบออกมาก่อน เขาเดินมาหยิบขนมปังเลอะโคลนเละๆนี้ ก่อนที่จะเดินตรงไปยังหยูเซี่ยง

"เซี่ยวหยูหากเจ้ากล้า ข้าจะให้เจ้าตายไร้ที่ฝัง!" ท่าทางของหยูเซี่ยงเริ่มแข็งขึ้นก่อนที่จะตะโกนออกมา

"แล้วทำไมข้าถึงจะไม่กล้ากันเล่า?" เซี่ยวหยูหัวเราะเยาะก่อนที่จะยื่นมือไปจิกผมของหยูเซี่ยงแล้วกระชากมันขึ้นมา

"หาที่ตาย!" หยูเซี่ยงยกมือขึ้นเตรียมจะฟาดใส่เซี่ยวหยู

หมับ!

ต้วนหลิงเทียนที่จับตาดูหยูเซี่ยงตั้งแต่ต้น เมื่อเขาเห็นว่าหยูเซี่ยงคิดจะโจมตีใส่เซี่ยวหยู หลิงเทียนก็พุ่งออกไปราวประกายแสง ก่อนที่จะคว้าจับไปที่มือของหยูเซี่ยงอย่างรวดเร็ว "หยูเซี่ยงหากเจ้าไม่ให้ความร่วมมือโดยดี เจ้าเชื่อหรือไม่ข้าจะบิดแขนข้างนี้ของเจ้าให้มันแหลกเหลวจนรักษาไม่ได้ และเจ้าก็ไม่มีวันรอดชีวิตจากการเข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะหลังจากนี้อย่างแน่นอน!"

"ต้วน! หลิง! เทียน!" หยูเซี่ยงกัดฟันดังกรอด ก่อนที่จะกล่าวชื่อต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด

แต่ถึงแม้เขาจะโกรธและไม่พอใจถึงเพียงไหน เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของหลิงเทียน เพราะเขาไม่สงสัยเลยสักนิดว่า หลิงเทียนจะกล้าทำอย่างที่พูดหรือไม่

มันเป็นเรื่องตลกที่จะถามว่าหลิงเทียนจะกล้าทำหรือไม่ หลังจากที่เห็นเขากล้าแม้กระทั่งประจันหน้ากับรองแม่ทัพ ...แล้วเขาจะไม่กล้าทำอย่างที่พูดได้อย่างไร?

เขาได้แต่ก้มหน้าลงและพยายามข่มเพลิงโทสะและความแค้นครั้งนี้เอาไว้ เขาสาบานว่าหากเขายังไม่ตกตายไปเสียก่อนเขาจะให้หลิงเทียนชดใช้เรื่องราวในวันนี้ร้อยเท่าพันทวี!

"กินมันเข้าไป" ดวงตาของเซี่ยวหยูเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาใช้มือข้างหนึ่งจิกผมหยูเซี่ยงเอาไว้ ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างหนึ่งจับขนมปังเละๆเลอะโคลนที่ถูกเหยียบย่ำด้วยรองเท้านั่น ยัดมันเข้าไปในปากของหยูเซี่ยง!

ตุบ!

หลังจากนั้นเซี่ยวหยูก็ใช้มือที่จับผม เลื่อนลงมาตบแผ่นหลังของหยูเซี่ยงทันที

นั่นทำให้หยูเซี่ยงต้องกลืนขนมปังโสโครกนั่นลงไป ...

“อ๊ออคคค...”

หยูเซี่ยงรู้สึกขยะแขยงอย่างถึงขีดสุด ใบหน้าของมันพลันบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ นี่เพราะมันไม่สามารถคายขนมปังอุบาทว์นั่นออกมาได้แล้ว...

เซี่ยวหยูยืนขึ้นและมองต่ำลงมายังร่างของหยูเซี่ยงด้วยความเย็นชา

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ต้องเสียหน้าถึงเพียงนี้ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก หากไม่ใช่เพราะยังกริ่งเกรงตระกูลหยูที่เป็นตระกูลจากเมืองประจำมณฑล เขาคงฆ่าหยูเซี่ยงนี่ไปแล้ว

ตุบ! ตุบ! ตุบ! ตุบ!

เมิ่งฉวนที่ได้เห็นวิธีบรรเจิดของเซี่ยวหยู พลันหันไปตบหลังคนของตระกูลหยูทั้ง 4 ทันที และในที่สุดพวกมันก็ต้องกลืนกินขนมปังที่พวกมันรุมเหยียบย่ำลงไปอย่างช่วยไม่ได้

เหล่าเยาวชนที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่รอบๆ ถึงกับสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ ทั้งยังเงียบลงเพราะความหวาดกลัวในเรื่องราวที่พลิกผันไปมา

ยามนี้กลุ่มของหลิงเทียนทั้ง 3 คนได้เหยียบย่ำอีกฝ่ายอย่างแท้จริง!

แต่อย่างไรก็ตามพวกเขามีอำนาจและสิทธิ์ที่จะเหยียบย่ำอีกฝ่ายได้!

"ต้วนหลิงเทียน!" เสียงกู่ร้องเย็นชาและเต็มไปด้วยโทสะดังก้องมาแต่ไกล ...

เมื่อต้วนหลิงเทียนหันหน้าไปมอง สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ร่างของทหารนายหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน พุ่งมาด้วยความเร็วสูงราวกับเหินบินจากที่ไกลๆด้วยความเร็วปานสายฟ้า

และเมื่อนายทหารคนนี้มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา ต้วนหลิงเทียนก็พลันเดาได้ว่าตัวตนของนายทหารผู้นี้เป็นใครในทันที

รูปร่างหน้าตาของผู้ที่มาใหม่นี้หากจะบอกว่าถอดมาจากพิมพ์เดียวกันกับหยูเซี่ยงก็คงไม่ผิดนัก นั่นทำให้ตัวตนของมันคงเป็นผู้ไดไปไม่ได้อีก

หยูหง!

หยูหงเต็มไปด้วยโทสะ เขาหันมาจ้องหลิงเทียนด้วยแววตาอำมหิตก่อนที่จะหันไปมองดูเหล่าคนตระกูลหยูรอบๆ และหลังจากที่หยูหงนำโอสถทองประสานกายรักษาน้องชายและคนในตระกูลเสร็จสิ้น เขาก็หันมาจ้องมองหลิงเทียนด้วยแววตาอำมหิตและเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร!

"ท่านพี่ ต้วนหลิงเทียนมันกล้า...บังคับให้พวกเราต้องกินขนมปังที่ถูกเหยียบย่ำเปรอะเปื้อนดินโคลนเข้าไป!" หยูเซี่ยงกล่าวออกมาด้วยความโกรธ

ตอนนี้ดูเหมือนมันจะลืมไปแล้วว่าที่ขนมปังเหล่านั้นล้วนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนล้วนเป็นฝีเท้าของพวกมันทั้งสิ้น ...

"เจ้าว่าไงนะ!?" ใบหน้าของหยูหงบิดเบี้ยวอย่างถึงขีดสุดเมื่อได้รับรู้ถึงเรื่องที่น้องชายถูกกระทำ เขาหันไปจ้องหลิงเทียนด้วยแววตาอำมหิต และกล่าวออกมาด้วยโทสะ "ต้วนหลิงเทียน เจ้ากล้าทำให้น้องชายข้าต้องพบกับความอัปยศอดสู เจ้ากล้าทำให้ตระกูลหยูของข้าต้องเสียหน้าต่อผู้คน เท่ากับหมิ่นเกียรติตระกูลหยูของข้า... วันนี้ข้า หยูหง จะฆ่าเจ้าเพื่อล้างอายให้กับตระกูล!! "

ครืนนนน!

หยูหงพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว

ท่าทางและสีหน้าของหลิงเทียนพลันเปลี่ยนเป็นจริงจัง!

เห็นได้ชัดว่าไอ้หยูหงอะไรนี่มันกล่าวเวิ่นเว้อ เพื่อหาข้ออ้างอันชอบธรรมในการสังหารเขา มันเอาเรื่องเกียรติยศของตระกูลหยูมากล่าวอ้าง...

ด้วยเรื่องนี้อาจจะทำให้มันรอดพ้นจากการถูกกองกำลังโลหิตเหล็กทำโทษ

เหตุผลนี้ของหยูหงนับว่าอุบาทว์มากนัก! แต่มันก็ย่อมใช้ได้เป็นอย่างดี เพราะเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อจิตใจของผู้คน!

ราวกับท้องฟ้าวิปโยค ความแข็งแกร่งที่แผ่ออกมาถึง 11 ช้างแมมมอธโบราณของหยูหงนั้นช่างน่าสะพรึงนัก ช้างพวกนั้นดูราวกับกำลังพุ่งข้ามฟ้ามาเพื่อเหยียบย่ำหลิงเทียน ...

จะสังเกตได้ว่าความแข็งแกร่งของหยูหงตอนนี้ก็เท่าเทียมกันกับนายกองที่เป็นครูฝึกนามว่าไป่เฟิ่ง ที่ถูกหลิงเทียนสังหารไปในหุบเขาซ่อนอรุณตั้งแต่ 3 เดือนก่อน พวกมันเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 8 ทั้งคู่!

และการโจมตีที่เต็มไปด้วยโทสะของผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 8 ก็สร้างความกดดันให้แก่หลิงเทียนไม่น้อย ...

ตอนนี้หลิงเทียนต้องทนรับแรงกดดันจนแทบจะหายใจไม่ออก!

ทั้งด้วยความเร็วของผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 8 ถึงเขานึกอยากจะหนีเขาก็หนีไม่ได้

"หยูหงในเมื่อเจ้าคิดที่จะฆ่าข้าก็เท่ากับเจ้ารนหาที่ตายแล้ว เรืองนี้เจ้าทำตัวเองอย่าได้ตำหนิข้า!" เสียงของหลิงเทียนเยียบเย็นจับใจ ร่างของเขาเริ่มสั่นไหว วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกายถูกใช้ออกสุดกำลังพร้อมพุ่งสวนไปยังหยูหงอย่างไร้ซึ่งความกลัว

วิชาวาดกระบี่!

ทันใดนั้นมือของเขาที่เต็มไปด้วยพลังงานต้นกำเนิด พลันเคลื่อนที่ว่องไวประดุจดั่งอัสนีบาตฟาด คว้าจับไปที่ด้ามกระบี่บริเวณเอว ก่อนที่จะตวัดมันออกมาด้วยความเร็วราวกับเส้นแสง

ทั้งเขาไม่ได้ใช้พลังงานต้นกำเนิดเพื่อกระตุ้นผลลัพธ์การเสริมพลังของอาวุธวิญญาณ ทว่าเขาส่งมันไปกระตุ้นเปิดการทำงานของอาคมจารึกจันทร์เสี้ยวโลหิต ...

"ตาย!!" เมื่อเห็นหลิงเทียนกล้าที่จะพุ่งเข้าปะทะกับเขาโดยไม่คิดหลบหนี หยูหงพลันแย้มยิ้มออกมาพร้อมใบหน้า แววตาของมันยามนี้เต็มไปด้วยจิตสังหารและหวังที่สับร่างของหลิงเทียนไปพร้อมๆทั้งกระบี่

มันได้ยินมานานแล้วว่าต้วนหลิงเทียนนั้นเป็นอัจฉริยะ ซ้ำยังตัดผ่านไปถึงระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 5 เมื่อคิดว่าเขากำลังจะได้ดับฝันอัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อนของอาณาจักรนภาล่อง หัวใจเขาก็ตื่นกระโจมและกระหายการฆ่าฟันอย่างรุนแรง...

และตอนนี้เขาก็มีโอกาสที่จะสังหารอัจฉริยะนั่นโดยการอ้างถึงตระกูล เขาจึงโจมตีมันด้วยพลังเต็มที่เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถสังหารหลิงเทียนลงได้ เพื่อความปลอดภัยในอนาคตของตระกูลเขา!

ในใจของเขานั้นมั่นใจว่าทางกองกำลังโลหิตเหล็กย่อมไม่อาจเอาผิดหรือทำโทษอะไรเขาได้เพราะเรื่องที่เขาสังหารต้วนหลิงเทียน

นั่นเพราะเขาทำมันเพื่อกอบกู้เกียรติยศของตระกูล

ในตอนนี้เขาถือว่าตัวไม่ได้เป็นทหารของกองกำลังโลหิต แต่เป็นเพียงศิษย์สาวกของตระกูลหยูคนหนึ่ง

เหล่าผู้ชมแทบจะหยุดหายใจเมื่อได้เห็นฉากนี้

"ต้วนหลิงเทียน!" เซี่ยวหยู,เมิ่งฉวน และลั่วเฉิน เองก็มีสีหน้ากลับกลายเป็นเคร่งเครียดและซีดขึ้นมาทันที นี่เพราะพวกเขาไม่คิดว่าหลิงเทียนจะสามารถรับมือหยูหงได้

บนท้องฟ้านั่นความแตกต่างปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัด ช้างแมมมอธโบราณ 7 ตัว กับ 11 ตัว ...

"อา...น่าเสียดายนัก"

เยาวชนที่ชมดูอยู่รอบๆอดไม่ได้ที่จะคิดเรื่องหนึ่งอยู่ในหัวใจ "สวรรค์อิจฉาบุรุษผู้ที่มีพรสวรรค์เกินไปแล้ว"

ไม่มีใครคิดว่าหลิงเทียนจะรอดไปจากการจู่โจมครานี้ไปได้

อย่างไรก็ตามพริบตาต่อทุกคนล้วนราวกับเป็นใบ้เพราะพวกมันถึงกับต้องตะลึงงันจ้องมองจนตาแทบถลน

วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

วินาทีที่หลิงเทียนกำลังจะปะทะกับหยูหงนั้น เขาพลันบิดเอวและไขว้ขาด้วยท่วงท่าอัศจรรย์พริ้วร่างหลบคมกระบี่ของหยูหงได้อย่างเส้นยาแดงผ่าแปดทั้งกระบีที่หมายปะทะกันยังเบี้ยงหลบไปพร้อมร่างกายอีกด้วย หยูหงเองก็ตกตะลึงไม่น้อยที่หลิงเทียนเบี่ยงตัวผ่านแขนเสื้อเขาไปอย่างฉิวเฉียดเช่นนี้

วิ๊งงงง!

และเมื่อหลบพ้นไปได้หลิงเทียนก็วกกระบี่ที่ตวัดหลอกเพื่อทำท่าเหมือนจะปะทะคราแรก จี้ไปยังกลางอกของหยูหงพร้อมส่งอาคมจารึกจันทร์เสี้ยวโลหิตออกไปจู่โจมทันที

จันทร์เสี้ยวโลหิต ที่ไม่ต่างอะไรกับเงามัจจุราช กระพริบพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว!

"ไม่จริงน่า !!" ท่าทางของหยูหงพลันซีดเผือดเมื่อสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงของอาคมจันทร์เสี้ยวโลหิต พลังทำลายที่เขาสัมผัสได้มันมากมายนัก เขาจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

หยูหงรีบโคจรพลังงานต้นกำเนิดเพื่อใช้วิชาป้องกันออกมาอย่างสุดกำลังทันที!

ซู่มมม!

ทว่าเกราะพลังงานต้นกำเนิดของหยูหงแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรแม้แต่น้อย จันทร์เสี้ยวโลหิตสะบั้นมันเป็นชิ้นๆ ก่อนที่จะทะลวงเข้ากลางอกและสำแดงเดชทันที มันแทรกซึมเข้าไปทุกส่วนของร่างกายที่โลหิตสามารถไหลเวียนไปได้และสะบั้นชีพจรทั่วทั้งร่าง

ปัง!!

แรงปะทะส่งร่างของหยูหงลอยละลิ่วไม่ต่างอะไรกับหุ่นกระบอกไร้ด้าย จนกระแทกเข้ากับเนินดินด้านข้าง

ดวงตาของเขาเบิกกว้างไม่กระพริบ ไม่เหลือร่องรอยของชีวิตแผ่ออกมาจากร่างเขาอีกต่อไป...

หมดสิ้นลมหายใจ!

"ท่านพี่!"

สีหน้าของหยูเซี่ยงพลันเปลี่ยนเป็นซีดเซียว เขาได้แต่กรีดร้องโหยหวนออกมาด้วยความเศร้าโศกก่อนที่จะวิ่งไปกอดร่างไร้วิญญาณของพี่ชาย และพยายามเขย่าตัวพี่ชายเขาและเรียกหาเขาออกมา เพราะเขาไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นความจริง

ส่วนชายหนุ่มอีก 4 คนของตระกูลหยูตอนนี้ได้แต่มองต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาหวาดกลัว ราวกับมองอสูรกายจากนรกอย่างไรอย่างนั้น พวกมันรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่นเทิ้ม...พวกมันไม่เคยสะพรึงกลัวสิ่งใดมากเท่านี้มาก่อนในชีวิต ...ชายตรงหน้าของพวกมัน ไม่ต่างอันใดกับปีศาจ

ส่วนทางด้านหลิงเทียนเขาก็มองไปยังร่างไร้วิญญาณของหยูหงด้วยสายตาไร้อารมณ์ไม่ต่างอะไรกับมองมดตัวหนึ่งที่เผลอไปเหยียบ สายตาของเขาช่างเย็นชานัก ...

เขาไม่เคยใส่ใจชีวิตของผู้ใดก็ตาม ที่กล้ามุ่งร้ายเขาก่อน ผู้ใดจะฆ่าเขาก็ต้องเตรียมใจตายเอาไว้ด้วย!

"ต้วนหลิงเทียน เจ้านี่มัน จะสุดยอดเกินไปแล้ว เจ้าทำได้ยอดเยี่ยมนัก!" เมิ่งฉวนหัวเราะออกมาดังลั่น สีหน้ากังวลของมันตอนนี้มลายไปจนหมดสิ้น

เซี่ยวหยูและลั่วเฉินเองก็ถอนหายใจออกมาเช่นกัน

เยาวชนที่ยืนชมอยู่รอบข้างที่เฝ้าชมเหตุการณ์อยู่รอบๆ ตอนนี้สีหน้าของพวกมัน หากจะเรียกว่าตัวโง่งมบ้าใบ้ก็คงไม่ผิดนัก พวกมันต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะดึงสติกลับร่างได้

"โอ้สวรรค์ช่วย เมื่อครู่ข้าเห็นอะไรกัน? หยูหงตกตายแล้ว?"

"ข้าไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่?"

“บัดซบ แล้วเจ้ามาหยิกข้าทำบ้าอะไร? "

"อา นี่แสดงว่าข้าไม่ได้ฝันไปจริงๆ ... "

"บัดซบ ไปหยิกตูดปู่เจ้าสิ! ในเมื่อเจ้าอยากรู้นักว่าฝันไปหรือไม่ ใยไม่หยิกตัวเองทดสอบ มาหยิกผู้อื่นทำพระแสงด้ามง้าวอันใด บิดาเป็นเพื่อนเล่นเจ้าหรือ?"

"โอ้ จริงด้วย! ข้าตกตะลึงจนลืมไปเลยว่าข้าสามารถหยิกตัวเองได้ ขอโทษที"

"พลังลึกลับที่สังหารหยูหงนั่นดูเหมือนจะไม่ใช่พลังงานต้นกำเนิดของหลิงเทียน มันมีสีแดงสดคล้ายโลหิตและดูเหมือนจะพุ่งออกมาจากกระบี่ของหลิงเทียน ... หรือว่ามันจะเป็นจารึกอาคมที่ร่ำลือกัน!"

"ถ้ามันเป็นอาคมจารึกจริงๆ ก็นับว่าหยูหงคงต้องแค้นใจนักหนาในปรโลกแล้ว แม้กระทั่งตกตายไปแล้ว แต่เขาเองก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหลิงเทียนจะมีอาคมจารึกที่สามารถคร่าชีวิตเขาได้เช่นนี้... "

"ตัวเขาต้องการที่จะสังหารหลิงเทียน ทว่ากลับไม่สืบเรื่องราวเกี่ยวกับต้วนหลิงเทียนให้ดี จนต้องตกตายอย่างอนาถเช่นนี้ ล้วนเพราะเขาประมาทเกินไป!"

...

เหล่าเยาวชนต่างจับกลุ่มคุยกันอย่างออกรส

ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สงสารหยูหง

"สหายทุกท่าน " ต้วนหลิงเทียนเผยรอยยิ้มออกมาราวกับโล่งใจ พร้อมทั้งค่อยๆเก็บกระบี่อ่อนดาราม่วงไว้ที่เอวของเขา แล้วเปล่งเสียงเรียกร้องความสนใจของทุกคนออกมา

ทันทีที่เหตุการณ์กลับมาสู่ความสงบและทุกคนก็หายตกตะลึง จนจับกลุ่มคุยกันได้อย่างสนุกปาก พวกเขาจึงตอบสนองต่อเสียงเรียกของหลิงเทียนได้ทันที

“ข้าคิดว่าทุกคนคงได้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นอย่างดี ด้วยสองตาของพวกท่านเอง หยูเซี่ยงนั้นสร้างความโกรธแค้นให้ข้าอีกทั้งยังทำร้ายสหายข้า ข้าก็ล้างแค้นมันและกระทำกับมันด้วยวิธีที่มันกระทำกับสหายข้า ซึ่งก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ...ทว่าหยูหงพี่ชายของมันนั้น ทุกท่านก็ได้เห็นกับตากันไปแล้วว่ามันหมายที่จะสังหารข้า ข้าจึงจำเป็นต้องใช้อาคมจากรึกที่มีเพื่อป้องกันตัว และนั่นทำให้ต้องสังหารมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ข้าต้วนหลิงเทียนหวังว่าสหายทุกท่านที่ยืนอยู่ ณ ที่นี้จะสามารถเป็นพยานให้แก่ข้าได้ และข้าต้วนหลิงเทียนจะขอขอบคุณพวกท่านจากใจจริง " ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบก็ประสานมือแสดงความขอบคุณทุกคนอย่างเรียบร้อย

บทสรุปของเรื่องราววันนี้มันอาจจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆหรือเรื่องราวใหญ่โตก็เป็นไปได้ หลิงเทียนจึงต้องหาทางหนีทีไล่ให้กับตัวเองเอาไว้บ้าง ...

ก็ไม่ได้มีอะไรที่ต้องกังวลมาก แต่จะอย่างไรเขาก็ลงมือสังหารนายกอง...ไม่สินายสิบ ของกองกำลังโลหิตเหล็ก นี่มันก็ยังพอมีโอกาสที่อาจทำให้เขาพบเจอกับการลงโทษรุนแรงหรืออะไรแบบนี้ได้

ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่จะผ่านการทดสอบเข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะนี้ หรือมีสิทธิ์เข้าศึกษาต่อในสถาบันบ่มเพาะขุนพลเลย แม้แต่ชีวิตของเขาเองจะยังเหลือรอดอยู่หรือไม่ก็ยังไม่อาจสรุปได้ ...

"ต้วนหลิงเทียน เจ้าสบายใจได้ สิ่งที่เจ้ากล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นเรื่องจริง พวกเราจะกล่าวตามความจริงที่ได้เห็นด้วยสองตาของพวกเรา รับรองพวกเราจะไม่ทำให้ผู้อื่นเข้าใจเรื่องราวผิดเพี้ยนไปอย่างแน่นอน”

"ถูกแล้วหยูเซี่ยงนั้นใช้สถานะของตระกูลเพื่อสะกดข่มคนอื่น ในวันนี้หยูหงเองก็ตกตายเพราะเรื่องพวกนี้เช่นกัน ทั้งพวกเรายังเห็นมันด้วยสองตาว่าเกิดอะไรขึ้น เช่นนั้นเจ้าสบายใจได้เลย ไม่มีใครสามารถโกหกพกลมปั้นน้ำเป็นตัวใส่ร้ายเจ้าได้แน่นอน"

...

เหล่าเยาวชนรอบๆต่างประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองออกมา

"ข้าคงต้องขอบคุณสหายทุกท่านแล้ว" รอยยิ้มบางๆฉายชัดอยู่บนใบหน้าของต้วนหลิงเทียน ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขาแล้ว

"ต้วนหลิงเทียน เจ้าสังหารพี่ชายของข้า ถึงแม้วันนี้กองกำลังโลหิตเหล็กจะไม่เอาผิดอะไรเจ้า แต่ตระกูลหยูของข้าจะไม่มีวันเลิกราและปล่อยเจ้าให้รอดตัวไปได้อย่างสบาย และอย่าหวังว่าเจ้าจะได้ตายอย่างไม่ทรมาน!!" หยูเซี่ยงกล่าวออกมาด้วยความคับแค้นใจ ในขณะที่จ้องมองหลิงเทียนอย่างดุร้ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

"ฮ่าๆ มีผู้คนมากมายที่ต้องการให้ข้าตาย แต่วันนี้ข้าก็ยังมีชีวิตอยู่ ข้าเองก็อยากจะรู้นักว่าตระกูลหยูของเจ้า มีความสามารถมากพอที่จะสังหารข้าหรือไม่!" ดวงตาของหลิงเทียนเรืองวูบออกมาด้วยความอำมหิต ทั้งยังเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา

ใช้เวลาเพียงไม่นาน ข่าวที่ต้วนหลิงเทียนสังหารหยูหงก็แพร่กระจายไปทั่วค่ายที่พักของกองกำลังโลหิตเหล็ก

ทุกคนล้วนรับทราบข่าวนี้กันหมด

ภายในกระโจมที่พักสำรองหลังหนึ่ง

"ต้วนหลิงเทียนตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 5 แล้ว อีกทั้งยังสังหารหยูหงด้วยอาคมจารึก"

เสียงพูดของชายหนุ่มที่สวมชุดสีแดงดังขึ้น ในอ้อมกอดของเขามีกระบี่ยาวยาวเล่มหนึ่ง จิตต่อสู้ของเขาคุกรุ่นขึ้นมา ทั้งแววตาของเขายังฉายความปรารถนาที่จะต่อสู้อีกด้วย "ในอีก 1 เดือนข้าคงตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 5 เช่นกัน เมื่อวันนั้นมาถึงข้าจะต้องประลองกับหลิงเทียนให้ได้อย่างแน่นอน"

ในกระโจมสำรองอีกหลัง

"ต้วนหลิงเทียนงั้นรึ? ข้าเทียนหู จะเอาชนะเจ้าให้ดู!" ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งอีกคนหนึ่งสงบอารมณ์กระหายในการต่อสู้ลงก่อนที่จะตั้งใจบ่มเพาะฝึกฝนต่อไป ...

ส่วนทางด้านหลิงเทียนตอนนี้กำลังนอนเอนกายผ่อนคลายบนเตียง พร้อมทั้งไขว้ขาไปมาอย่างสบายอารมณ์

"เฮ่ ต้วนหลิงเทียน เจ้าตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 5 ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเล่า?"เมิ่งฉวนผู้น่าสงสารที่ไร้ซึ่งเตียงนอน กล่าวถามออกมาด้วยความอยากรู้ขณะที่นั่งเล่นดินอยู่ที่พื้น

ต้วนหลิงเทียนเองก็สังเกตได้ว่า แม้แต่เซี่ยวหยูกับลั่วเฉินเองก็สงสัยในเรืองนี้เช่นกัน

ในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยตอบนั้นเอง...

"ต้วนหลิงเทียน รองแม่ทัพเรียกตัวเจ้าไปพบ" พลันมีเสียงดังขึ้นจากด้านนอก...

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.