spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
หัวหน้ากองหยางต้าหันไปถามความเห็นของต้วนหลิงเทียน
เพราะจะอย่างไรการเดิมพันครั้งนี้ก็เป็นต้วนหลิงเทียนที่เป็นผู้ริเริ่มขึ้นมา
"ต้วนหลิงเทียน อย่าได้กล่าวออกมาตอนนี้นะ ว่าเจ้าไม่กล้า"
ดวงตาของหยูเซี่ยงหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวตัดทางถอยของหลิงเทียน
"หัวหน้ากอง ข้าเองก็ไม่ได้มีข้อโต้แย้งอะไร เอาตามที่หยูเซี่ยงกล่าวได้เลย การเดิมพันครั้งนี้ข้าเองก็ขอให้ท่านช่วยเป็นพยานด้วย"
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าพร้อมเผยรอยยิ้มออกมา
ไม่คิดเลยว่าหยูเซี่ยงจะเป็นคนมีน้ำใจเช่นนี้...หาเรื่องให้ตัวเองจนแต้มโดยที่ไม่ต้องลำบากให้เขาวางลูกไม้เพิ่มเติม
ท่าทีของหยูเซี่ยงเปลี่ยนเป็นระมัดระวังเล็กน้อย มันไม่คิดว่าหลิงเทียนจะกล่าวรับโดยมีทีท่าสบายอารมณ์เช่นนี้
"ต้วนหลิงเทียนหวังว่าเจ้าคงไม่ได้ซ่อนที่จุดไฟ หรืออะไรไว้หรอกนะ มิฉะนั้น การเดิมพันครั้งนี้คงไร้ค่าเกินไปหน่อย"
หยูเซี่ยงจับจ้องไปยังหลิงเทียนอย่างระวัง ราวกับจะจับผิด
"ไม่ต้องกังวล หากข้าใช้อุปกรณ์อื่นใดช่วยในการจุดไฟ ปรับให้ข้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้เลย"
ต้วนหลิงเทียนยิ้ม
ที่จุดไฟงั้นหรือ?
เขาต้องการมันซะที่ไหน?
หยูเซี่ยงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “จำเอาไว้ให้มั่นล่ะ นี่เป็นเจ้ากล่าวออกมาเอง”
"หากทั้งสองคนมิมีผู้ใดคัดค้าน เช่นนั้น ... การเดิมพันครั้งนี้จะมีข้อตกลงตามที่กล่าว"
หยางต้ามองไปยังหลิงเทียนและหยูเซี่ยง
ทั้งสองพยักหน้ารับโดยไม่ได้คัดค้าน
"เริ่มได้"
หยางต้าจับจ้องไปยังหลิงเทียนด้วยแววตาสนใจ
นายกองทั้ง 5 คนเองก็จับจ้องไปยังหลิงเทียนด้วยความสงสัยที่ลุกโชน พวกเขาอยากรู้ว่าต้วนหลิงเทียนไปเอาความมั่นใจทั้งหมดนี่มาจากไหน ...
แม้จะเป็นพวกเขาเองก็ไม่กล้ากล่าวว่า จะก่อกองไฟโดยปราศจากที่จุดไฟ
"เอาล่ะ เช่นนั้นวันนี้ ข้าจะสอนทุกๆท่านให้มีความรู้เบื้องต้นสักเล็กน้อย"
กล่าวจบหลิงเทียนพลันนั่งลงบนพื้นก่อนที่จะหยิบแท่งไม้แห้งกลมๆอันหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ประมาณเขียงออกมาจากกองไม้
ในขณะเดียวกันนั้นเหล่าเยาวชนทั้งหมดก็ลุกขึ้นมายืนล้อมวงห่างๆเพื่อเฝ้าจับตาดูการกระทำของหลิงเทียน พวกมันจับตาดูการเคลื่อนไหวของหลิงเทียนอย่างละเอียดทุกๆขั้นตอนโดยไม่ให้คลาดสายตา ...
ต้วนหลิงเทียนพลันเงยหน้ามองไปยังเมิ่งฉวนแล้วกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม "เมิ่งฉวนข้าขอยืมมีดสั้นของเจ้าหน่อย"
เมิ่งฉวนก็ยื่นมีดสั้นของมันให้แก่หลิงเทียน
หลังจากได้รับมีดสั้น หลิงเทียนก็ไปหยิบแท่งไม้แห้งออกมาอีกแท่งหนึ่ง ก่อนที่จะเหลามันให้เป็นแท่งกลมๆยาวๆ ราวกับไม้กลอง โดยมีบริเวณปลายไม้แหลมเล็กน้อย...
อีกทั้งเขายังหยิบไม้แห้งกลมที่เลือกไว้ในตอนแรกมาปาดผิวหน้าออก ให้เรียบ และใช้ปลายมีดควั่นเนื้อไม้ให้เป็นรูเล็กๆ อยู่ตรงกลาง พอให้ปลายแหลมของแท่งไม้วางทับได้ไม่ลื่นไถล
วูบ!
ต้วนหลิงเทียนใช้พลังงานต้นกำเนิดป่นไม้แห้งอีกท่อนนึงเพื่อให้มันเป็นเศษๆ ไปกองไว้บริเวณรูที่ควั่นเอาไว้เมื่อกี้ ก่อนที่เขาจะโปรยเศษไม้ลงไปในรูเล็กน้อย และเขาก็ใช้มีดไปขูดไม้แห้งอีกอันเพื่อทำเป็นเศษไม้ฝอยๆขึ้นมาไว้อีกจำนวนหนึ่ง และก็หันไปฝานแท่งไม้แห้งเป็นแผ่นบางๆแผ่นใหญ่ให้เมิ่งฉวนถือเอาไว้
ต่อมาเขาก็นำแท่งไม้กลมๆที่เหลาปลายแหลมเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทิ่มลงไปในรูนั้น
แล้วเขาก็เริ่มใช้ฝ่ามือประกบจับแท่งไม้เอาไว้ก่อนที่จะถูกมือไปมาเพื่อปั่นไม้ ...
หากมีใครสักคนที่มาจากโลกเดียวกันกับหลิงเทียน แค่เห็นภาพนี้ก็ย่อมรู้แล้วว่าหลิงเทียนกำลังคิดที่จะทำอะไร
การกระทำของหลิงเทียน เป็นการปั่นไม้ให้ร้อนจนไฟลุกนั่นเอง!
“เจ้าคิดว่าการกระทำโง่งมเช่นนี้จะทำให้จุดไฟได้หรือไร?” หยูเซี่ยงหัวเราะเยาะ
ทว่าเสียงหัวเราะนั้นก็ดังอยู่ได้ไม่นาน
เปรี๊ยะๆ! ฟู่!!
หลิงเทียนปั่นไม้แห้งอยู่แค่ครู่เดียวควันก็เริ่มโผล่ออกมา ก่อนที่จะบังเกิดประกายไฟเล็กน้อย ประกายไฟนั้นก็ติดเศษผงไม้กับเศษไม้ฝอยๆที่หลิงเทียนทำเอาไว้จนเริ่มติดไฟขึ้นมา ...
"เมิ่งฉวนหยิบไม้แห้งๆมาให้ข้า!" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยเสียงต่ำ
"มาแล้วๆ!"
เมิ่งฉวนที่กำไม้แห้งรอไว้ตั้งแต่แรกตามคำสั่งของหลิงเทียน หลังจากได้ยินคำสั่งของหลิงเทียนเขาก็รีบยื่นไม้แห้งเป็นแผ่นๆไปตรงหน้าของหลิงเทียนใกล้ๆที่ปั่นทันที
หลิงเทียนก็รีบนำไม้แห้งนั้นวางไว้บริเวณที่เขาปั่น ที่กำลังมีประกายไฟเล็กๆลุกโชนเป็นระยะๆ ...
ในที่สุดไม้แห้งที่เป็นแผ่นนั้นก็ลุกติดไฟ หลิงเทียนก็รีบนำไม้แห้งอื่นๆ มาอังไฟจนในที่สุดก็ได้เปลวเพลิงขนาดใหญ่พอที่ลมพัดแล้วจะไม่ดับ!
"ไม่จริง ... เป็นไปไม่ได้ ... มันไม่น่าจะเป็นเช่นนี้ไปได้"
หยูเซี่ยงที่เฝ้าดูอยู่แทบไม่อยากจะเชื่อกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า มันก้าวถอยหลังไป 2-3 ก้าวอย่างเหม่อลอย ก่อนที่จะส่ายหัวไปมาราวกับคนโง่งม มันแทบอยากให้เรื่องทั้งหมดเป็นความฝันเพราะมันปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดตรงหน้าเป็นความจริง
ตอนนี้เยาวชนทั้งหมดที่ล้อมวง ก็หันมามองหยูเซี่ยงด้วยแววตาสงสารเล็กน้อย ...
เพราะตอนนี้หยูเซี่ยงราวกับสลักคำว่าโง่งมไว้บนหัวก็ไม่ผิด!
หยูเซี่ยวและชายหนุ่มอีก 3 คนของตระกูลหยูเองก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวราวกับยากจะยอมรับ
เพราะหากหยูเซี่ยงพ่ายแพ้เดิมพันจนต้องอับอาย มันก็ไม่ต่างอะไรกับตระกูลหยูต้องเสียหน้าและอับอายเช่นกัน
หยางต้ามองหลิงเทียนด้วยสายตาซับซ้อนก่อนที่จะกล่าวถามขึ้นมาด้วยความสงสัย "ต้วนหลิงเทียนเจ้ารู้เรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?"
"ตอนเป็นเด็กข้าบังเอิญค้นพบมันตอนที่เล่นซุกซนไปเรื่อย...ข้าเรียกมันว่าการปั่นไม้ก่อไฟ หัวหน้ากองท่านคิดว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมถูจมูก
"ดี ดี ช่างยอดเยี่ยมนัก!" หยางต้าหัวเราะออกมาดังลั่น
"หยูเซี่ยงตั้งแต่ที่เจ้าไปกล่าวขอให้หัวหน้ากองมาเป็นพยาน นั่นย่อมหมายความว่าเจ้าเองก็ไม่คิดกลับคำพูด หรือคิดเบี้ยวเดิมพันใช่หรือไม่?"
หลิงเทียนหันไปทางหยูเซี่ยงก่อนที่จะกล่าวเย้ยหยันออกมา
ตอนนี้สีหน้าหยูเซี่ยงช่างดูอัปลักษณ์นัก
หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังนายกอง 2 คนที่ยืนอยู่หลังหยางต้า พร้อมทั้งส่งสายตาราวกับจะขอความช่วยเหลือ
"ท่านหัวหน้ากองขอรับ หยูเซี่ยงเป็นเยาวชนอัจฉริยะของตระกูลหยู หากว่าเขาต้องถูกลบหลู่วันนี้ นั่นย่อมหมายความว่าตระกูลหยูเองก็ถูกลบหลู่ไปด้วย นี่มันจะเป็นการหักหน้าตระกูลหยูมากเกินไป...หากถึงตอนนั้น ข้าน้อยเกรงว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะ ยุติความขัดแย้งระหว่างตระกูลหยูกับพวกเรา พวกเราควรไว้หน้าตระกูลหยูบ้าง" นายกองคนหนึ่งกล่าวออกมา
"ใช่แล้วขอรับท่านหัวหน้ากอง ข้าคิดว่าให้เรื่องวันนี้จบลงเพียงเท่านี้ ถือซะว่ามันเป็นเรื่องตลกขำขันของเหล่าเด็กน้อยก็เพียงพอ" นายกองอีกคนหนึ่งกล่าวออกมา
หยางต้าตอนนี้เริ่มขุ่นเคืองและไม่สบอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ
ตระกูลหยู ... เป็นตระกูลใหญ่ของเมืองประจำมณฑล ก็จริง
แต่จะอย่างไรก็ตามเดิมพันครั้งนี้ทุกคนล้วนรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด หากเขาที่เป็นพยานในการเดิมพันครั้งนี้ ต้องมาล้มเลิกการเดิมพันเพราะเกรงกลัวเรื่องในลักษณะนี้ แล้วต่อไปเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ชื่อเสียงของเขาไม่กลายเป็นตัวตลกหรือไร?...หากเรื่องเช่นนี้แพร่กระจายออกไป แม้แต่ตำแหน่งในกองกำลังโลหิตเหล็กก็ไม่อาจรักษาเอาไว้ได้อีกต่อไป!
"ฮ่าๆๆๆ…"
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็ดังก้องกังวานขึ้นมา
"ไว้หน้างั้นหรือ?"
นายกองที่ออกมาพูดช่วยเหลือหยูเซี่ยงคนแรก เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะและคำกล่าวของหลิงเทียน เขาก็รีบกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ "เจ้ากล้าหัวเราะและกล่าววาจาอวดดีต่อหน้าหัวหน้ากองเช่นนั้นหรือ?"
"ท่านนายกอง"
ดวงตาของหลิงเทียนหรี่ลงก่อนที่จะกล่าวต่อไปว่า "การเดิมพันระหว่างข้ากับหยูเซี่ยง หาได้มีหัวหน้ากองผู้เดียวที่เป็นพยานไม่ แต่ทุกคนในที่นี้ล้วนรู้เห็นและเป็นพยานได้ทั้งสิ้น ข้าอยากจะรู้นักในตอนที่มีการเดิมพันนี้เกิดขึ้น เหตุใดพวกท่านถึงนิ่งเฉยไม่คิดคัดค้านมันแต่แรก? เหตุใดพวกท่านไม่คิดถึงหน้าตาอะไรนั่นของตระกูลหยูตั้งแต่ก่อนเริ่มเดิมพันเล่า? "
"หรือเป็นเพราะว่า ...การที่ข้าเอาชนะหยูเซี่ยงได้นั้นจะไม่ใช่สิ่งที่ท่านได้คาดการณ์เอาไว้ ท่านจึงคิดยกเรื่องหน้าตาไร้สาระอะไรนั่นของตระกูลหยูมาข่มขู่ท่านหัวหน้ากอง?"
ขณะที่กล่าวจบหลิงเทียนดวงตาของหลิงเทียนก็เรืองวูบขึ้นมาอย่างดุดัน “ท่านคิดว่าหัวหน้ากองของกองกำลังโลหิตเหล็ก จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนขลาดเขลาหวาดกลัวคนของตระกูลหยูและไว้หน้าพวกมันด้วยเช่นนั้นรึ?”
เมื่อนายกองคนนั้นได้ยินคำกล่าวของหลิงเทียน สีหน้าของมันเริ่มซีดลงทันที
หลังจากที่มันถลึงตามองหลิงเทียนอย่างดุร้ายด้วยความไม่พอใจ มันก็รีบหันมามองหัวหน้ากองด้วยแววตาหวาดกลัวพร้อมกล่าวออกมาว่า "ท่านหัวหน้ากอง ข้าไม่ได้คิดอย่างนั้น ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้นจริงๆ"
นายกองคนอื่นๆเองก็ปิดปากเงียบเมื่อเรื่องราวมันดำเนินมาถึงขั้นนี้
แม้ว่าพวกมันจะเป็นสหายที่ดีของหยูหงพี่ชายหยูเซี่ยง แต่พวกมันก็หาได้กล้าลามปามหัวหน้ากองของพวกมันไม่
"การเดิมพันครั้งนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนได้ประจักษ์กันด้วยสองตา ข้าน้อยหวังว่าท่านหัวหน้ากองจะสามารถจัดการเรื่องราวนี้ได้อย่างถูกต้องยุติธรรม!"
เซี่ยวหยูกล่าวขึ้นมาในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อช่วยพูดให้กับหลิงเทียน
"พวกเราหวังว่าหัวหน้ากอง จะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเป็นธรรม"
เยาวชนจำนวนมากมายจากทุกกลุ่มช่วยกันกล่าวออกมา เพื่อเข้าข้างหลิงเทียง
ตอนนี้สีหน้าของหยูเซี่ยงแปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอย่างมาก
สายตาของมันกวาดมองไปยังเยาวชนเหล่านี้
เยาวชนพวกนี้ส่วนมากเป็นผู้ที่มาขอยืมที่จุดไฟของเขาทั้งสิ้น แต่ไม่คาดคิดเลยว่าพวกมันจะกล้าเลือกกล่าววาจาเพื่อช่วยเหลือศัตรูของเขาเช่นนี้ ... นี่ทำให้เขาโกรธจนเส้นโลหิตแทบปริแตก!
หยางต้าหันไปมองหยูเซี่ยงด้วยแววตาไม่แยแสก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "เอาๆล่ะ พวกเจ้าพอได้แล้ว เนื่องจากข้าเป็นผู้รับผิดชอบและเป็นพยานในการเดิมพันครั้งนี้ ข้าย่อมไม่คิดเข้าขางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หยูเซี่ยงเจ้าพ่ายแพ้ในการเดิมพัน เจ้าก็ต้องกระทำตามคำที่เคยกล่าวเอาไว้ด้วย"
สำหรับตัวหัวหน้ากอง แม้จะมีเรื่องของตระกูลหยูเข้ามาสอด เขาก็ไม่คิดจะหวาดกลัวอะไรพวกมัน
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่กองกำลังโลหิตเหล็กอยู่ห่างไกลถึงชายแดน และหาได้มีข้อจำกัดหรือผู้ใดจะมาบีบคั้นได้ง่ายๆ ต่อให้ประมุขของตระกูลหยูมาเยือนกองกำลังโลหิตเหล็กด้วยตัวเอง ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้อยู่ดี
เขาเป็นหัวหน้ากองของกองกำลังโลหิตเหล็ก และกองกำลังโลหิตเหล็กก็ขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแกร่งและป้องกันตัวเอง ต่อให้เป็นตระกูลของผู้ว่าการประจำมณฑลมาเอง ก็ยังต้องไว้หน้ากองกำลังโลหิตเหล็กและไม่กล้ากระทำอะไรผลีผลาม
หยูเซี่ยงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้ความอัปยศขายหน้าและความอับอายเริ่มฉายชัดในดวงตาของมัน เนื้อตัวของมันสั่นระริกด้วยความโกรธอย่างไม่รู้ตัว ...
ภายใต้การจับจ้องของทุกคนหยูเซี่ยงเริ่มที่จะถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นอย่างช้าๆ
ส่วนทางด้านหลิงเทียน,เมิ่งฉวน,เซี่ยวหยู และลั่วเฉินนั้นกลับไปนั่งล้อมรอบกองไฟเพื่อย่างหมาป่า และหมูป่าเรียบร้อยแล้ว ...
พวกเขาย่างเนื้อไปด้วยพร้อมกันกับเฝ้ามองการกระทำของหยูเซี่ยง
"เฮ้!! ข้าไม่เคยสังเกตเลยว่าหยูเซี่ยงจะพิรี้พิไรยิ่งกว่าอิสตรีเช่นนี้"
เมิ่งฉวนหัวเราะออกมาอย่างหนัก ในขณะที่เฝ้ามองหยูเซี่ยง
ต้วนหลิงเทียนเองก็หัวเราะแล้วกล่าวออกมา "เจ้าดูสิมันมีแม้กระทั่งปานรูปร่างอุบาทว์นั่นบนไหล่ เอหรือมันจะเป็นกลากเกลื้อนกัน"
ตอนนี้ไม่ใช่แค่กลุ่มของหลิงเทียนเท่านั้นที่เฝ้ามองหยูเซี่ยงอยู่ แต่เยาวชนทุกคนล้วนเฝ้ามองอยู่ทั้งสิ้น พวกมันไม่อยากพลาดฉากที่น่าสนุกสนานหรือยอดเยี่ยมไป
เมื่อลมพัดผ่านมาร่างที่เปลือยเปล่าของหยูเซี่ยงพลันหนาวสะท้านขึ้นมาคราหนึ่ง ทุกๆก้าวที่มันออกวิ่งใบหน้าของมันจะหมองคล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ
ดวงตาของมันนั้นฉายชัดถึงความอำมหิตและแผ่จิตสังหารออกมาอย่างเห็นได้ชัด!
‘ต้วนหลิงเทียน!’
‘ข้าสาบานว่าจะไม่มีวันเลิกรา หากข้าไม่ได้ชำระหนี้แค้นนี้กับเจ้า!’
"ฮึ่ม !!"
หยูเซี่ยงกู่ร้องออกมาด้วยความเคืองแค้นในขณะที่วิ่งได้ครึ่งหนึ่งของระยะทาง
ซู่มม!
ขาของเขาก้าวออกด้วยความเร็วเต็มที่ หลังจากใช้วิชาท่าร่างด้วยกำลังทั้งหมด ทำให้ใช้เวลาไม่นานในการวิ่งรอบที่เหลือ
"พี่เซี่ยง"
หยูเซี่ยวรีบเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำผ้าคลุมมาเมื่อหยูเซี่ยงวิ่งครบกำหนด
หลังจากใส่เสื้อผ้าแล้วหยูเซี่ยงเลือกที่จะไปนั่งในมุมโดยไม่กล่าววาจากับใคร ตอนนี้เขารู้สึกอับอายมากเกินกว่าที่จะสู้หน้าผู้คน
เมิ่งฉวนหัวเราะออกมาในขณะที่กล่าว "ฮ่า ๆ ... นี่มันช่างน่าพอใจยิ่งนัก!"
เซี่ยวหยูเองก็หัวเราะออกมา
ลั่วเฉินเองก็กระพริบตาด้วยความสนุกสนานพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก ...
ทั้งเขายังสัมผัสได้ว่าภายในหัวใจของเขา พลันมีความอบอุ่นและความสุขก่อตัวขึ้นมา
ต้วนหลิงเทียนเองก็ยิ้มและกล่าวออกมา "เฮ่ๆๆ พวกเจ้าอย่ามัวแต่นั่งยิ้ม เดี๋ยวเนื้อไหม้แล้วจะไม่ได้กินเอา!"
ตอนนี้นอกเหนือจากตระกูลหยูแล้ว เหล่าเยาวชนทั้งหมดต่างพูดคุยกระซิบกระซาบกัน
หัวข้อในการสนทนาแน่นอนว่าย่อมเป็นหยูเซี่ยง ที่พึ่งเปลือยกายวิ่งไปกลับ 10 รอบเมื่อครู่
เยาวชนของหน่วยย่อยที่ 3 นั้นออกจะดูมีความสุขมากกว่าเยาวชนของหน่วยย่อยอื่นๆ
"หยู่เซี่ยงกล่าวว่ามันจะมิมีวันให้หน่วยย่อยที่ 3 ของพวกเราได้ยืมที่จุดไฟ ... ฮ่าๆๆ ยามนี้ใยพวกเราต้องไปก้มหัวยืมที่จุดไฟจากมันด้วยเล่า หากพวกเราคิดจะก่อไฟก็เพียงใช้วิธีปั่นไม้ก่อไฟของต้วนหลิงเทียนเสียก็สิ้นเรื่อง "
"ถูกต้อง ต้วนหลิงเทียนช่างยอดเยี่ยมยิ่งนักที่สามารถคิดค้นวิธีการอันประเสริฐเช่นนี้ออกมาได้"
"ข้าแทบไม่อยากจะเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนยังมีอายุเพียง 16 ปีกว่าๆเท่านั้น ... ตอนที่ข้าอายุเท่ากับเขาแม้แต่ระดับก่อกำเนิดข้ายังมีไม่ถึงเลย ซ้ำดูเขายังมีความสามารถมากมายอีกด้วย ความสำเร็จในสรรพวิชาเองก็นับว่ายอดเยี่ยมยิ่งนัก"
"ยามนี้หยูเซี่ยงคงมิมีหน้าพบปะผู้คนอีกแล้วล่ะ"
"เฮ่ หากจะกล่าวถึงเรื่องนี้ ข้ายังสงสัยยิ่งนักว่า ไอนั่น ของเขาเหตุใดมันจึงมีขนาดที่เล็กถึงเพียงนั้นเล่า มันจะใช้การได้หรือ"
"ชู่ววว เจ้าเบาเสียงลงหน่อย จะอย่างไรมันก็เป็นคนของตระกูลหยูของเมืองประจำมณฑล เจ้ากล่าวว่าจาอันใดก็ระวังมันได้ยินแล้วเอามาเล่นงานเจ้าได้"
"ถูกแล้วเจ้ากล่าวให้เบาลงหน่อย ... แต่จริงๆแล้ว เรื่องที่เจ้ากล่าวนั้นข้าค่อนข้างเห็นด้วย นกเขาของมันช่างเล็กราวกับไม้จิ้มฟันอย่างไรอย่างนั้น"
...
ตอนนี้เยาวชนของกลุ่ม 3 นั้นกล่าวยกย่องหลิงเทียนเสียแทบลอย และในขณะเดียวกันพวกมันก็กล่าวถล่มหยูเซี่ยงอย่างโหดเหี้ยมจนแทบจะไร้ที่ยืนในแผ่นดิน
พวกมันกล่าวกันราวกับว่าพวกมันได้หลงลืมไปแล้ว ว่าก่อนหน้านี้ไม่นานพวกมันยังไม่ค่อยพอใจต้วนหลิงเทียนสักเท่าไร และคิดว่าต้วนหลิงเทียนคงยอมบากหน้าไปยืมที่จุดไฟจากหยูเซี่ยง ซ้ำยังคิดว่าหลิงเทียนจะพ่ายแพ้อะไรทำนองนั้นอีกด้วย
หัวหน้ากองหยางต้าเองก็ย่างเนื้อต่อไป แต่ทว่าสายตาของเขายังคงจับจ้องมายังหลิงเทียนอย่างไม่ลดละ ...
เท่าที่เขาสำรวจดู เขาก็พบว่าเด็กหนุ่มคนนี้นั้นเป็นอัจฉริยะที่แตกต่างจากคนอื่น และมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์นัก
นอกจากที่เขาจะเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะแล้ว เขายังรู้จักวิธีก่อไฟอันประเสริฐเช่นนี้ด้วย!
ส่วนนายกองทั้ง 5 คนโดยเฉพาะนายกองของหน่วยย่อยที่ 3 ฟางเจี้ยน ยังมีใบหน้าที่แสดงถึงความประหลาดใจฉายชัดไว้ไม่ได้หายไปไหน จนกระทั่งถึงตอนนี้
ตอนนี้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า เพราะเหตุใดกลุ่มของต้วนหลิงเทียนถึงไม่คิดที่จะวิ่งแข่งเพื่อให้มาถึงทางขึ้นของเขาซ่อนอรุณนี่ และเลือกที่จะเดินมาอย่างเอ้อระเหยลอยชายไม่รีบร้อนอะไร เป็นเพราะพวกเขาคิดที่จะใช้วิธีนี้ก่อกองไฟมาตั้งแต่แรกแล้ว ...
เขาไม่จำเป็นต้องใช้ที่จุดไฟเพื่อก่อกองไฟ!
เขาสัมผัสได้ว่า ลึกๆแล้วต้วนหลิงเทียนเป็นเด็กที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ส่วนนายกองที่เหลืออีก 4 คน มี 2 คนที่ตื่นเต้นในตอนแรก แต่ตอนนี้กำลังทำหน้าไม่แยแสราวกับเรื่องในวันนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา
ส่วนนายกองอีก 2 คนที่เหลือได้แต่หันหน้ามองกันเองแล้วหัวเราะเจื่อนๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ทั้งคู่เป็นสหายที่ดีของหยูหง พวกเขาเลยรู้สึกผิดเล็กน้อยในหัวใจที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรหยูเซี่ยง น้องชายของหยูหงได้เลยแม้แต่น้อย
แต่หลังจากหัวเราะขื่นขมอยู่ได้ไม่นาน แววตาของพวกมันก็เต็มไปด้วยเจตนาในการฆ่าฟัน จิตสังหารปะทุขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะเก็บกลับไปอย่างแยบคาย