spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ต้วนหลิงเทียนเหม่อมองและกล่าวออกมาเบาๆ "บางทีนามของหุบเขาซ่อนอรุณ คงเกิดขึ้นเพราะเช่นนี้"
"หุบเขาซ่อนอรุณนี้คงคล้ายคลึงกับ ป่าหมอกมรณะ มันน่าจะมีทั้งสัตว์ป่าดุร้ายและสัตว์อสูรปะปนกัน พวกเราต้องระมัดระวังตัวเองให้ดีหลังจากเข้าป่า" ต้วนหลิงเทียนกล่าวกับเมิ่งฉวนและเซี่ยวหยูด้านนอก
ทั้งสองคนพยักหน้ารับคำ
"เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ!"
ร่างของหลิงเทียนกระพริบวูบไหวก่อนที่จะพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!
เซี่ยวหยูและเมิ่งฉวนก็ไม่รอช้าใช้ออกด้วยวิชาท่าร่างพุ่งตัวตามหลิงเทียนไปราวกับเงาอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากที่เข้ามาในหุบเขาซ่อนอรุณแล้ว หลิงเทียนก็พบเจอทาง 3 แพร่ง ก่อนที่หลิงเทียนจะตัดสินใจเลือก 1 ในทางเหล่านั้น ...แต่ทว่าเมื่อเดินตามทางไปเรื่อยๆ คราวนี้หลิงเทียนกลับพบกับทาง 5 แพร่ง ...
นี่มันราวกับเขาวงกตอย่างไรอย่างนั้น!
"โบ๋ววววววววววววววว!"
เสียงหมาป่าหอนดังสะท้านรูหูก้องกังวานผ่านท้องฟ้าลอยมา!
เมื่อต้วนหลิงเทียนหันกลับไป เขาก็พบกับหมาป่าตัวเขื่องที่ใหญ่ยิ่งกว่าวัวโตเต็มที่จากโลกเก่าเสียอีก ดวงตาของมันแดงก่ำราวกับสีเลือด เขี้ยวของมันแค่มองก็รู้ว่าแหลมคมขนาดไหน ยามนี้มันกำลังแยกเขี้ยวข่มขู่เขาราวกับโหยหิวเลือดเนื้อมนุษย์อย่างไรอย่างนั้น
"เหิมเกริม!"
คิ้วของหลิงเทียนขมวดเล็กน้อย กล้ามเนื้อแขนของเขาเกร็งจนเผยมัดกล้ามแข็งแกร่งได้รูปออกมา
ฟึบ!!
เขาเหวี่ยงแขนขวาด้วยความเร็วสูงจนบังเกิดเสียงแหวกฝ่าอากาศ พุ่งไปยังบริเวณทรวงอกของหมาป่าที่กำลังกระโจนเข้ามาอย่างดุร้าย
ปึกกกก!!
เสียงปะทะหนักหน่วงดังขึ้น หมาป่าลอยกระเด็นออกไปราวกับหุ่นกระบอกด้ายขาด
ยามนี้อวัยวะภายในของหมาป่าตัวนี้คงแหลกเหลวหมดสภาพ เพราะการแกว่งแขนจู่โจมสของหลิงเทียน ...มันนอนตัวสั่นระริกอยู่บนพื้นดินครู่หนึ่ง ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะถูกพ่นออกมา ...
ตกตายเสียแล้ว!
"ฮ่าๆ ข้าไม่คิดเลยว่าเหยื่อจะมาหาพวกเราเองเช่นนี้ ช่างสะดวกสบายดีนัก"
เมิ่งฉวนหัวเราะลั่นขึ้นมาก่อนที่จะเดินไปแบกศพหมาป่าขึ้นไหล่
ต้วนหลิงเทียนหันมองดูรอบๆ และตรวจสอบทิศทางชั่วครู่ก่อนจะกล่าวขึ้นมา "เอาล่ะ งั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ"
ทั้ง 3 คนจึงเดินทางกลับออกมาจากเขาซ่อนอรุณ ในระหว่างทางพวกเขาก็พบกับเยาวชนคนอื่นที่กำลังแบกเหยื่อมาด้วยเช่นกัน พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังทางขึ้นเขาซ่อนอรุณเช่นเดียวกันกับหลิงเทียน
เมื่อหลิงเทียนกลับมาถึง เขาก็เห็นว่าหลายกลุ่มเริ่มที่จะทำความสะอาดเหยื่อที่ล่ามากันแล้ว
บางคนก็ล่าเสือ บางคนก็ล่านกอินทรีย์ มีบ้างที่ล่าเสือดาวกลับมา ...
กลุ่มของหลิงเทียน ก็กลับมานั่งรวมกันบริเวณพื้นที่ของหน่วยย่อยที่ 3 ก่อนที่จะหาทำเลว่างๆ วางร่างหมาป่าลง เมิ่งฉวนก็หยิบมีดสั้นที่พกไว้บริเวณข้อเท้าขึ้นมา ...
ไม่น่านเมิ่งฉวนก็แสดงฝีไม้ลายมือเลาะขน ลอกหนังและเอาเครื่องในออกจนหมดสิ้น
"เฮ่ เมิ่งฉวน เจ้าดูมีประสบการณ์สูงมากเลยนี่"
ต้วนหลิงเทียนอดประหลาดใจไม่ได้ จนกล่าวชมออกมา
"แหะๆ พอดีข้ามักจะชอบไปนอนในป่าหมอกมรณะน่ะ บางทีข้าก็อยู่กินในป่า เป็นเดือนๆ หากทำไม่เป็นแล้วข้าจะเอาอะไรกินเล่า... เอาล่ะ ตอนนี้เนื้อก็พร้อมแล้ว ว่าแต่พวกเราจะก่อไฟได้อย่างไรกัน"
เมิ่งฉวนกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะเบาๆ อย่างฉงน
"หืม?"
เซี่ยวหยูพลันเอ่ยขึ้นมาและพยักหน้าไปยังทิศทางหนึ่ง
ต้วนหลิงเทียนและเมิ่งฉวนจึงหันไปมองตาม
พวกเขาก็ห็นว่าเยาวชนที่เข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะแทบทั้งหมด นอกเหนือจากสมาชิกของหน่วยเขา ได้ก่อไฟกันไว้เรียบร้อยแล้ว ...
"หยูเซี่ยง...ข้าขอยืมที่จุดไฟเจ้าสักครู่ได้หรือไม่"
ชายคนหนึ่งจากหน่วยย่อยที่ 3 เดินเข้าไปหาหยูเซี่ยง
"หยูเซี่ยงมี่ที่จุดไฟงั้นรึ?"
ท่าทางของเซี่ยวหยูและเมิ่งฉวนเริ่มบิดเบี้ยวลงเล็กน้อย
"หากข้าจำไม่ผิดเจ้าอยู่หน่วยย่อยเดียวกันกับต้วนหลิงเทียนใช่หรือไม่?" หยูเซี่ยงถามชายคนนั้น
"ถูกแล้ว" เยาวชนพยักหน้า
"มันก็ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยที่จะให้พวกเจ้าและหน่วยย่อยที่ 3 ยืมที่จุดไฟของข้า ... แต่ข้าจะขอเอ่ยคำขาดเอาไว้เลยว่า หากมีผู้ใดให้กลุ่มของต้วนหลิงเทียนอาศัยใช้ที่จุดไฟ,กองไฟ หรือมอบไฟให้มันแล้วล่ะก็ เลิกฝันที่จะยืมที่จุดไฟของข้าในวันหลังอีกต่อไป"
ดวงตาของหยูเซี่ยงแปรเปลี่ยนอำมหิต แววตาของมันฉายชัดถึงความอาฆาตที่มีต่อหลิงเทียน
"เจ้าไม่คิดว่ามันจะโหดร้ายไปหน่อยหรือ พวกเขาเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ทุกคนก็ย่อมหิว หยูเซี่ยงเหตุใดเจ้าไม่แบ่งปันให้เขาบ้างเล่า ... "
เยาวชนคนนั้นกล่าวออกมาอย่างลังเล
"เฮอะ!! หากเจ้าพูดเช่นนี้ ก็อย่าได้หวังว่าจะมีใครจากหน่วยย่อยที่ 3 ได้รับที่จุดไฟจากข้า ไสหัวไปซะ!"
หยูเซี่ยงที่มีโทสะคุกรุ่นขึ้นมา หันไปใช้สายตาเย็นชาจ้องมองไปยังเยาวชนทุกกลุ่ม "กองไฟทั้งหมดที่พวกเจ้าจุดได้และใช้อยู่ ณ ตอนนี้ ล้วนมีที่มาจากการยืมที่จุดไฟของข้าทั้งสิ้น เช่นนั้นพวกมันย่อมถือว่าเป็นกองไฟของข้า หากข้ารู้ว่าผู้ใดแบ่งปันกองไฟหรือส่งมอบเปลวเพลิงให้กับ คนของหน่วยย่อยที่ 3 แล้วล่ะก็อย่างหวังว่ามันผู้นั้นจะมีโอกาสยืมที่จุดไฟของข้าอีกครั้งในวันหลัง"
เมื่อกล่าวจบหยูเซี่ยงก็หยุดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ยามนี้ข้าเป็นหัวหน้า"
"เฮ่หยูเซี่ยง อย่าได้กังวล จะอย่างไรพวกข้าก็ไม่ใช่คนไร้สัจจะ"
"ถูกแล้ว พวกเราให้คำมั่นต่อเจ้าว่าเปลวเพลิงของพวกเราจะไม่มีทางไปถึงหน่วยย่อยที่ 3 อย่างแน่นอน"
ทันใดนั้น นอกเหนือจากคนของหน่วยย่อยที่ 3 ผู้อื่นล้วนกล่าววาจายอมรับและให้คำมั่นออกมาโดยพร้อมเพรียง
"เจ้า ... เจ้า..."
ชายหนุ่มที่มาขอยืมที่จุดไฟของหยูเซี่ยงโกรธจนหน้าแดง
"ข้าอะไร เจ้าก็รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าข้าได้แล้ว!"
หยูเซี่ยงตวาดชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ ชายหนุ่มที่ถูกตวาดก็ได้แต่เดินคอตกกลับไปยังหน่วยย่อยที่ 3 ด้วยความคับแค้นใจ
ทว่าคนของหน่วยย่อยที่ 3 เองก็บันดาลโทสะแล้วกล่าวออกมา "ลั่วเฉิง เจ้ายังมีหน้ากลับมาอีกหรือไร?"
"พวกเราให้เจ้าไปยืมที่จุดไฟ แต่เพราะความโง่งมของเจ้าที่คิดจะมอบน้ำใจให้แก่ต้วนหลิงเทียน ... แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า หน่วยย่อยที่ 3 ของพวกเรามีไฟให้ใช้หรือไม่"
“ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่าต้วนหลิงเทียนที่อยู่ตรงนั้น มันคิดที่จะขอบคุณในสิ่งที่เจ้าทำหรือไม่?”
...
ลั่วเฉินรู้สึกท้อแท้
เขาไม่คิดเลยว่าจะถูกทุกคนขับไล่ไสส่งเพราะเรื่องนี้ ดวงตาของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อก่อนที่หยาดน้ำตาจะเริ่มหลั่งรินออกมา
"อะไร คิดจะร้องไห้บีบน้ำตาหรือไร เอาส่วนแบ่งเหยื่อของเจ้าไปซะ แล้วไสหัวออกไป!"
ชายหนุ่มคนหนึ่งขว้างขาของหมูป่าที่ตัดแบ่งออกมาไปที่ลั่วเฉิน
"พวกเจ้า ... พวกเจ้าทั้งหมด เหตุใดจึงเห็นแก่ตัวเช่นนี้?"
เมื่อลั่วเฉินเก็บขาหมูของตัวเองขึ้นมา เขาก็เตรียมจะเดินจากไป...
แต่พริบตาต่อมาเขาก็เห็นว่าคนของหน่วยย่อยที่ 3 ทีขับไล่ไสส่งเขาเมื่อครูล้วนทำสีหน้าหวาดกลัว และเงียบปากลงราวกับพบเห็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวอย่างไรอย่างนั้น
แปะ!
ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงมือหนึ่งที่วางลงบนไหล่ของเขา
เขาหันไปดูก็พบว่ามีชายหนุ่มกำลังยืนส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้แก่เขาอยู่ "ต้วน ต้วนหลิงเทียน .. "
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาเบาๆพร้อมรอยยิ้มว่า "เจ้าชื่อลั่วเฉินใช่หรือไม่?"
ต้วนหลิงเทียนนั้นย่อมรู้สึกดีกับชายหนุ่มคนนี้ เพราะมันนับว่าเป็นคนที่ดีและมีน้ำใจนกที่คิดยืมที่จุดไฟให้แก่คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนอย่างเขา
"ใช่ ใช่แล้ว"
ลั่วเฉินรู้สึกกังวลและประหม่าเล็กน้อย
"เอาล่ะเจ้าอย่าได้กังวล ผ่อนคลายแล้วตามข้ามา ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการเจ้า เช่นนั้นเจ้าก็มาอยู่กลุ่มข้า ... " ต้วนหลิงเทียนกล่าวกับลั่วเฉินพร้อมทั้งตบไหล่ของมันเบา ๆ ก่อนที่จะนำลั่วเฉินเดินกลับมาหาเซี่ยวหยูและเมิ่งฉวน
"ข้า เซี่ยวหยู"
"ข้า เมิ่งฉวน"
เซี่ยวหยูและเมิ่งฉวนล้วนบอกชื่อและพยักหน้าทักทายลั่วเฉิน
"ยินดีที่ได้รู้จักพวกเจ้า ข้าลั่วเฉิน"
ใบหน้าของลั่วเฉินแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย ราวกับอิสตรีอย่างไรอย่างนั้น
ไม่ไกลจากพวกเขา
"ไม่คิดเลยว่าไอเจ้าลั่วเฉินอะไรนั่นจะโชคดีขนาดนี้ ยามนี้หลิงเทียนรับมันเข้ากลุ่มไปเช่นนั้น หมายความว่าย่อมให้การช่วยเหลือมันหลังจากนี้เป็นแน่"
"แล้วจะอย่างไร? ไม่ใช่สุดท้ายพวกมันก็ต้องกินเนื้อดิบๆเหมือนกันหรอกรึ?"
"บัดซบ! พวกเราพลาดแล้วที่ไปขับไล่ลั่วเฉิน"
...
ตอนนี้เยาวชนของหน่วยย่อยที่ 3 เริ่มแสดงท่าทีลำบากใจออกมา
ส่วนด้านอื่นๆ
หัวหน้ากองหยางต้าที่กำลังเฝ้ามองดูภาพเหตุการณ์ไกลๆ กล่าวถามนายกองทั้ง 5 ออกมาในขณะที่พลิกเนื้อย่างบนกองไฟ "พวกเจ้าคิดว่าต้วนหลิงเทียนคิดจะจัดการกับอาหารเย็นของเขาอย่างไร?"
"ข้าได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เขายังไม่หวาดกลัวที่จะเผชิญหน้ากับ ท่านรองแม่ทัพ ข้าว่าเขาคงเลือกที่จะไปเผชิญหน้ากับหยูเซี่ยงโดยตรง"
"ฮึ่ม! ถึงเขาคิดจะใช้กำลังแต่เขาสามารถต่อกรกับหยูเซี่ยงในยามนี้ได้หรือไร"
"เจ้าต้องอย่าลืมว่า คนอื่นๆยามนี้ล้วนได้รับความช่วยเหลือจากหยูเซี่ยง เจ้าคิดว่าจะไม่มีใครช่วยหยูเซี่ยงหรือ ซูหลี่และเทียนหู หากไม่ได้หยูเซี่ยงมอบที่จุดไฟให้ พวกมันจะเอาไฟจากที่ไหนกันเล่า?"
...
นายกองทั้ง 5 เริ่มสนทนากันเอง และทุกคนล้วนคิดว่าต้วนหลิงเทียนลำบากแน่แล้วครานี้
กลุ่มของหลิงเทียนทั้ง 4 คนยังนั่งล้อมกันเป็นวงกลม
"ต้วนหลิงเทียนตอนนี้ที่จุดไฟอยู่ในมือของหยูเซี่ยง และคนอื่นๆก็ได้รับปากหยูเซี่ยงไปแล้วว่าจะไม่มีวันมอบไฟให้แก่พวกเรา...แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกับอาหารค่ำของพวกเราดีเล่า... ข้าหิวแล้วนา วิ่งมาทั้งวันถ้าไม่ได้กินอะไรข้าต้องหิวตายแน่ๆ"
เมิ่งฉวนได้แต่ลูบท้องพร้อมทั้งยิ้มเจื่อนๆออกมา
เซี่ยวหยูเองก็มองไปที่หลิงเทียนด้วยเช่นกัน
"ทำไม ...ทำไมไม่... หะ..ให้ข้าไปลอง... ขะ...ขอร้องหยูเซี่ยงอีกสักครั้ง?" ลั่วเฉินลุกขึ้นมาก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
และพริบตาต่อมา ทั้งกลุ่มที่เหลือไม่ว่าจะเมิ่งฉวนเซี่ยวหยูหรือหลิงเทียนล้วนจ้องมองเขาด้วยแววตาดุดัน
"ขะ... ข้าไม่ไปแล้ว พวกเจ้าอย่าจ้องข้าแบบนี้!"
ลั่วเฉินนั่งลง
ขวับ!
ต้วนหลิงเทียนพลันลุกขึ้นยืน
ภายใต้การจ้องมองของเซี่ยวหยู ลั่วเฉิน และเมิ่งฉวน หลิงเทียนพลันเดินไปยัง พื้นที่ๆเยาวชนหน่วยย่อยที่ 3 นั่งกันอยู่
เหล่าเยาวชนล้วนแต่จับจ้องหลิงเทียนด้วยความหวาดกลัว พวกมันคิดว่าหลิงเทียนจะมาเอาเรื่องที่พวกมันรังแกลั่วเฉิน
"เฮ่ พวกเจ้าใจเย็นๆ"
ต้วนหลิงเทียนยิ้มก่อนที่จะเบนสายตาไปยังกองไม้แห้งที่กองระเกะระกะอยู่ระหว่างกลุ่มของเยาวชน "ตอนนี้พวกเจ้าก็คงไม่มีความจำเป็นต้องใช้เศษไม้พวกนี้อีกต่อไปแล้วใช่หรือไม่ ?"
เยาวชนต่างหันมองหน้ากันเองแต่ไม่มีใครกล่าวอะไรออกมา
"เอาล่ะ เนื่องจากพวกเจ้าไม่ต้องการมันแล้วเช่นนั้นข้าขอพวกมันแล้วกัน"
ต้วนหลิงเทียนไม่คิดเกรงใจ เขาหอบฟืนกองใหญ่ขึ้นมาก่อนที่จะเดินกลับไปยังที่ๆเพื่อนเขานั่งอยู่
"พวกเราไม่มีที่จุดไฟ แล้วเจ้าไปเอาไม้กองนี้มาทำไมหรือ?" เมิ่งฉวนกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
"ใครเป็นคนบอกเจ้าว่า การก่อกองไฟ ต้องใช้เพียงแต่ที่จุดไฟเท่านั้น?"
ต้วนหลิงเทียนจงใจกล่าววาจาออกมาด้วยเสียงดัง ให้ได้ยินกันโดยทั่วถึง
เพียงครู่หนึ่งหัวหน้ากองหยางต้า ,นายกองทั้ง 5 รวมถึงเยาวชนทุกคนล้วนให้ความสนใจต้วนหลิงเทียน ...
หยูเซี่ยงที่ได้ยินวาจาอวดดีพลันมีโทสะ มันกล่าวออกมาเสียงดังสวนขึ้นมาเช่นกันว่า "เฮอะ!! เหลวไหลข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะมีปัญญาก่อกองไฟได้อย่างไรหากไม่ได้ใช้ที่จุดไฟ"
"เจ้าแน่ใจหรือ ว่าข้าจะก่อไฟไม่ได้?"
ต้วนหลิงเทียนมองไปยังหยูเซี่ยงก่อนที่จะหัวเราะออกมาโดยพลัน
"แน่นอน" หยูเซี่ยงกล่าววาจายืนกรานความคิดของตนออกมา
"เช่นนั้นเจ้ากล้าเดิมพันกับข้าหรือไม่เล่า?"
ดวงตาของหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อย ใบหน้าของเขายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มไม่จางหายไปแม้แต่น้อย
"แล้วเจ้าคิดที่จะเอาสิ่งใดมาเดิมพัน?" หยูเซี่ยงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“สำหรับผู้ที่แพ้พนันต้องแก้ผ้าวิ่งรอบปากทางเข้าหุบเขาซ่อนอรุณเป็นจำนวน 10 รอบ โดยห้ามมีแม้แต่เศษผ้าใดๆปิดบังร่างกายเป็นอย่างไรเล่า?”
ประกายตาของหลิงเทียนเรืองวูบขึ้นมาเล็กน้อย
"อะไรนะ?!" หยูเซี่ยงตกตะลึง
คนอื่นๆก็ตะลึงค้างราวกับคนโง่งมเช่นกัน
การเดิมพันครั้งนี้ ... มันเหี้ยมโหดจริงๆ!
"ต้วนหลิงเทียน เจ้า ... "
เมิ่งฉวนมองไปที่ต้วนหลิงเทียนด้วยความกังวล
"อะไร เจ้าไม่กล้าหรือ?"
ทว่าหลิงเทียนกลับจ้องมองไปยังหยูเซี่ยงอย่างเย้ยหยันก่อนที่จะกล่าวดูแคลนมันออกมา "หากเจ้าเป็นคนขี้ขลาด เช่นนั้นทีหลังก็อย่าได้ประเมินตนเองสูงเกินไป หัดสำรวมเสียบ้าง และอย่าเที่ยวกล่าววาจาเหาหอนออกมาให้เสียงดังนัก มันน่าหนวกหู!"
ใบหน้าของหยูเซี่ยงพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยโทสะ ก่อนที่มันจะกล่าวออกมาอย่างโมโหว่า "เหตุใดข้าจะไม่กล้า หากเจ้ากล้า ก็เข้ามา ข้ายอมรับการเดิมพันครั้งนี้!"
"เช่นนั้นก็ดีมาก เจ้าอย่าได้คิดกลับวาจาของเจ้าในภายหลังแล้วกัน"
ดวงตาของหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อย
"เฮอะ ผู้ที่สมควรเกรงกลัวว่าจะมีการกลับคำสมควรเป็นข้าเสียมากกว่า ... ท่านหัวหน้ากองขอรับ!"
หยูเซี่ยงลุกขึ้นก่อนที่จะกล่าวตะโกนออกมา
"มีอะไร?"
หัวหน้ากองและนายกองทั้ง 5 ย่อมได้ยินคำกล่าวเดิมพันของหลิงเทียนและหยูเซี่ยงดี หยางต้ากล่าวถามขึ้นมาพร้อมลุกขึ้นยืนและเดินออกไป
"ท่านหัวหน้ากองขอรับ หลิงเทียนต้องการเดิมพันกับข้า ข้าจึงขอให้ท่านหัวหน้ากองช่วยเป็นพยาน เพื่อไม่ให้หลิงเทียนกลับคำพูด หลังจากที่เขาพ่ายแพ้เดิมพัน ... "
หยูเซี่ยงมองไปยังหยางต้าก่อนที่จะกล่าวออกมา
"อา หยูเซี่ยงช่างกล้านักถึงกับกล้ารบกวนท่านหัวหน้ากอง ให้มาเป็นสักขีพยานในการเดิมพันเช่นนี้"
"หากมีหัวหน้ากองเป็นพยานเช่นนี้ ต่อให้หลิงเทียนจะกล้าสักแค่ไหน เขาคงไม่กล้าผิดคำพูดยามพ่ายแพ้เดิมพัน!"
"ต้วนหลิงเทียนสร้างปัญหาให้แก่ตัวเองแล้ว"
"ข้านั้นแทบรอดูภาพหลิงเทียนเปลือยเปล่าวิ่งรอบทางเข้าไม่ไหวแล้ว มันคงน่าสนุกพิลึก...ที่ได้เห็นอัจฉริยะแก้ผ้าวิ่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
"ข้าเองก็รอที่จะเห็นภาพนั้นไม่ไหวเช่นกัน แต่จะอย่างไรหลิงเทียนก็ยังเป็นเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียง 16 ย่าง 17 เท่านั้น ข้าเกรงว่าขนตรงนั้นของเขายังไม่งอกเงยขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ"
...
เยาวชนเริ่มจับกลุ่มตั้งวงสนทนากันอย่างสนุกสนาน ราวกับพวกมันคิดว่าต้วนหลิงเทียนต้องพ่ายแพ้เดิมพันอย่างแน่นอน