หน้าแรก > กระทะเหล็กกู้โลก
ตอนที่ 12 ล่าซอมบี้

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 12 ล่าซอมบี้

สถานการณ์แบบนี้เต็มไปทั่วห้องโถง

สถานะตำแหน่งของสมาชิกทีมสำรวจนั้นสูงกว่าผู้รอดชีวิตทั่วไป และคนส่วนใหญ่เป็นชายผู้มีร่างกายแข็งแรง ในยุคที่ผ่านมา ผู้ชายที่มีลักษณะแบบนี้เป็นที่นิยมมากในสมัยนี้ หากพวกเขารวมตัวกันเมื่ออยู่ข้างนอก จะต้องมีคนหลายคนโค้งคำนับให้พวกเขาอย่างแน่นอน

ซ่งเจิงมองเห็นว่าตู่หมิงเดินออกจากห้องของเขา แถมเขายังสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ใบหน้ามีร่องรอยเหี่ยวย่นอาการเหมือนไม่ได้ดูแลตัวเอง เมื่อซ่งเจิงมองจากทางด้านหลัง เขาเห็นเหล่ากลุ่มผู้หญิงที่สวมเสื้อชุดชั้นในสีดำตามเขาออกมา ภาพนี้จึงเห็นทำให้ซ่งเจิงรู้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมานี้เขาทำอะไรมาบ้าง

 

อันที่จริงแล้วเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เขามักเห็นในโลกก่อนหน้านี้อยู่บ่อยๆ เมื่ออยู่ภายใต้แรงกดดันเนื่องจากเมืองที่อยู่โดนซอมบี้ล้อมนั้น ทำให้เหล่าทีมสำรวจรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นต้องหาทางระบายความกดดันออกมา เรื่องนี้แม้แต่หัวหน้าทีมเฉินเฟิงก็ไม่สามารถช่วยได้ ทำได้เพียงแค่ให้พวกเขาผ่อนคลายตามสบาย แต่อย่ามากจนเกินไปก็พอ

ตู่หมิงมองมายังซ่งเจิง สายตาของเขาปรากฏแววดุร้าย ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงมาหาหลี่หวานหรูที่อยู่ข้างๆซ่งเจิง

 

มุมปากของตู่หมิงยกยิ้มขึ้น แล้วทำท่าปาดคอต่อหน้าทั้งสองคน การกระทำของเขานั้นทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นสายตาของเขาที่เต็มไปด้วยความดุร้าย สายตาแบบนี้ทำให้คนที่เห็นเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาได้ทันที ! หลังจากที่ผ่านมาหนึ่งคืน ทุกคนก็ได้ครุ่นคิดจนเข้าใจ ! ว่าเด็กน้อยคนนี้จะต้องเป็นคนที่มาใหม่อย่างแน่นอน ! แต่ก็เป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีพิษภัยอะไร !

“ซ่งเจิง !” หลี่หวานหรูตกใจกลัวจนดึงเสื้อของซ่งเจิงเอาไว้

 

“ไม่ต้องกลัว เขาไม่กล้าทำอะไรหรอก” ซ่งเจิงปลอบเธอทันที เมื่อวานขณะที่ตู่หมิงเอาเปรียบหลี่หวานหรูอยู่นั้น ได้ถูกเขาไล่ออกไป แน่นอนว่าเหตุการณ์นั้นทำให้ตู่หมิงไม่พอใจเขามากทีเดียว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาทำเรื่องที่น่าตกใจเช่นนี้ แต่เมื่ออยู่ในสาธารณะแบบนี้นั้น เขาไม่กล้าลงมือทำอะไรอย่างแน่นอน

หลี่หวานหรูตอบกลับซ่งเจิงด้วยความกังวลว่า “ซ่งเจิง ฉันได้ยินมาว่า ตู่หมิงคนนี้ค่อนข้างที่จะไม่ค่อยเก็บเรื่องใหญ่ๆมาคิด แต่กับเรื่องเล็กๆเขาสามารถหมกหมุ่นอยู่กับมันได้ตลอดเวลา ตอนที่นายออกไปข้างนอก นายต้องดูแลตัวให้ดีๆนะ ”

 

ซ่งเจิงหัวเราะออกมา เมื่อเขาได้รับความเป็นห่วงเป็นใย เขาเลยรู้สึกว่าการเป็นแบบนี้ก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกัน

ส่วนตู่หมิงนั้น แน่นอนว่าเขามองซ่งเจิงด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก แต่ยังไงเขาก็ต้องออกไป คราวนี้กระทะของซ่งเจิงจะได้ใช้ประโยชน์เสียที หากมองในมุมของซ่งเจิงแล้วนั้น อาหารการกินเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด หากเขาระวังตัวมากขึ้น ตู่หมิงก็จะไม่สามารถเข้ามารบกวนเขาได้ เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินเฟิงก็เดินนำกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในห้องโถง

 

ทีมสำรวจนอกจากเฉินเฟิงที่เป็นหัวหน้าทีมแล้ว ยังมีรองหัวหน้าอีกสามคนนั้นก็คือ พี่ชายใหญ่ เจ้าลิงผอม และชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง เดิมทีนั้นรองหัวหน้าจะมีลูกน้องอีกสี่คน แต่ว่าเมื่อสองวันก่อนลูกน้องของพี่ชายใหญ่เหล่าหลี่ได้ติดเชื้อไวรัสจนกลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว หลังจากที่ตอนนี้ซ่งเจิงได้เข้าร่วมทีม เขาจึงเข้ามาแทนที่เหล่าหลี่พอดี

เฉินเฟิงมองมายังซ่งเจิง แล้วโบกมือให้ ก่อนจะหันไปพูดกับลูกน้อง “รู้จักกันไว้หน่อยนะ ทีมของเราจะมีคนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน นั่นก็คือซ่งเจิง”

พวกเขาก็พากันเข้ามาทักทายซ่งเจิงทันที

 

เมื่อมาถึงคนผอมราวกับลิงผอมคนนั้น เขาก็มองซ่งเจิงตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะหัวเราะหึหึและพูดว่า “นายชื่อซ่งเจิงใช่ไหม ? ดูท่าทางใช้ได้อยู่นะ แต่ว่ากระทะอันใหญ่ที่อยู่บนหลังนั่นเอามาทำอะไรน่ะ หรือว่านายคิดจะใช่กระทะนั่นตีศพหรือยังไง ?

ซอมบี้ที่มีพลังต่ำที่สุดนั้น เหล่าทีมสำรวจนั้นรู้เรื่องของพวกมันค่อนข้างลึกซึ้ง ถึงขนาดที่ว่ามีดาบเล่มยาวๆส่องแสงอยู่แต่พวกเขาก็ยังมีอาการหวาดกลัวกันอยู่บ้าง

ไม่มีใครเชื่อหรอกว่า กระทะอันใหญ่ใบนี้จะสามารถจัดการกับซอมบี้ได้

 

ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของเจ้าลิงผอมนั้น เหล่าทีมสำรวจวัยรุ่นทั้งหลายต่างก็พากันหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะพูดกับซ่งเจิงว่า “ฉันว่าคงไม่ได้ที่จะไปฆ่าซอมบี้หรอก คงจะไปเป็นพ่อครัวเสียมากกว่า ฮ่าฮ่า ไม่แน่ว่าเนื้อซอมบี้ที่ต้มอยู่ในกระทะใบใหญ่ของเขานั้น อาจจะอร่อยก็เป็นได้”

“ฮ่าฮ่า ตลกชะมัด ที่แท้ก็มีกระทะอันใหญ่อยู่ด้านหลังนี้เพราะจะเอาไปทำกับข้าวสินะ”

“……”

 

ซ่งเจิงไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ได้เป็นคนอารมณ์เสียง่ายและชอบสู้กับคนอยู่แล้ว เมื่อชาติที่แล้วเมื่อตอนที่อยู่โรงเรียนเทคโนโลยีโม๋เซียงนั้น เขาได้ชื่อว่าเป็นคนที่อารมณ์ดีมากคนหนึ่ง แต่คนที่รู้จักซ่งเจิงในแง่นี้นั้นมักจะไม่รู้ความลับเรื่องกระทะเหล็กของเขา พวกเขาก็เลยหัวเราะออกมาแบบนี้กัน ดังนั้นเขาจึงทำเพียงส่ายหัวแล้วพูดออกมาว่า “ฉันใช้เจ้านี่จนชินแล้ว หากให้ใช้อย่างอื่นจะไม่ถนัดมือ ฉันเลยหยิบมันมาด้วย”

เมื่อซ่งเจิงเข้าร่วมทีมสำรวจ และมาเป็นลูกน้องของพี่ชายกุ้ย เมื่อเขาเห็นว่าตอนนี้ซ่งเจิงกำลังโดนคนของเจ้าลิงผอมนั้นหัวเราะเยาะอยู่ เขาจึงเก็บสีหน้าไว้ไม่อยู่

 

เขาจึงเดินเข้าไปช่วยซ่งเจิง “มีอะไรกัน ไม่เคยเห็นคนใช้กระทะเหล็กนี้ฆ่าซอมบี้หรือยังไง ? พลังของอาเจิงไม่ได้น้อยเลยนะ ที่สามารถแบกกระทะเหล็กหนักหลายกิโลนี้ได้ แต่พวกนายไม่มีใครแบกได้สักคน เรื่องนี้มีอะไรน่าขำอย่างนั้นเหรอ ?

เหล่าคนของลิงผอมนั้นหัวเราะกันไปเท่านั้น แต่ไม่ได้คิดร้ายอะไร

แต่เมื่อตู่หมิงเดินเข้ามา บรรยากาศก็เปลี่ยนไป เขาก็พูดขึ้นมาว่า “พวกเราทีมสำรวจทำไมถึงรับคนเข้ามาหมดล่ะ พวกเราไปฆ่าซอมบี้ ไม่ได้ไปทำงานบ้านซะหน่อย จะเอาไอ้กระทะเหล็กไปทำให้พวกเราตายรึยังไง ?

 

เมื่อได้ยินประโยคนั้น ก็ทำให้เหล่าคนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามอง

เฉินเฟิงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาก่อนจะพูดออกมาว่า “ซ่งเจิงเข้าร่วมทีมสำรวจได้นั้นเพราะฉันเห็นด้วย ว่าแต่ทำไมเหรอ ตู่หมิง นายไม่เห็นด้วยอย่างนั้นเหรอ ?

ตู่หมิงรีบพูดออกไปพร้อมกับรอยยิ้มทันทีว่า “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ ผมน่ะเคารพพี่เฉินจะตายจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร ผมไม่ได้โกหกด้วยนะครับ ผมเพียงแค่รู้สึกว่าคนบางคนนั่นไม่รู้จักกำลังของตัวเอง คิดว่าตัวเองมีวิชากังฟูก็จะสามารถฆ่าซอมบี้ได้แล้ว ถึงตอนนั้นเขาคงจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้ตายไปแล้วอย่างแน่นอน”

 

เจ้าลิงผอมพูดขึ้นมาอีกว่า “ที่เหล่าตู่พูดก็มีเหตุผล ฆ่าซอมบี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ แม้แต่พวกเราทีมสำรวจเมื่อออกไปหลายครั้งแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าที่จะรับประกันได้ว่าจะได้กลับมาอีก ซ่งเจิง ตอนนี้นายเปลี่ยนใจยังทันนะ”

ซ่งเจิงไม่ได้สนใจคำด่าของตู่หมิงอยู่แล้ว เขาหันไปพูดกับเจ้าลิงผอมว่า “ขอบคุณหัวหน้าหยวนที่เป็นห่วงนะครับ แต่ว่าผมคิดดีแล้ว เลยไม่มีเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนใจครับ”

ชื่อเดิมของเจ้าลิงผอมคือหยวนเหิง เพียงแค่เพราะว่าร่างกายของเขาผอมราวกับลิง จึงทำให้เขาถูกเรียกด้วยชื่อนั้นแทน

เมื่อได้รับคำตอบจากซ่งเจิง เหล่าหัวหน้าทีมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

 

เมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง

เฉินเฟิงก็มองไปรอบๆห้องโถง ก่อนจะพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางได้ !”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นเหล่าทีมสำรวจกว่ายี่สิบนายก็ค่อยๆเดินออกไปจนมาถึงหน้าโรงแรม ก่อนจะพากันขึ้นรถบรรทุกกันทุกคน

การอยู่ในยุคที่มีซอมบี้ล้อมเมืองแบบนี้ ควรจะใช้รถที่เล็กและคล่องแคล่วแข็งแรงกว่านี้ แต่ว่าเหล่าทีมสำรวจก็ยังคงนั่งรถบรรทุกขนาดใหญ่กัน

 

รถบรรทุกคันนี้ได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ด้านหน้าเสริมด้วยค้อนไม้ขนาดใหญ่ ด้านข้างของรถทั้งสองปกคลุมด้วยตาข่ายเหล็ก เมื่อรวมกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่แล้ว มันทำให้เหล่าซอมบี้ธรรมดาๆหัวขาดออกจากตัวได้ทันที หากว่าโดนเหล่าซอมบี้ล้อมไว้ก็สามารถฆ่าฝูงซอมบี้ให้ตายได้ด้วยรถบรรทุกนี้ได้

หากไม่พูดถึงความทรงจำก่อนหน้านี้ นี่ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ซ่งเจิงนั่งรถแบบนี้ เมื่อก่อนที่อยู่โรงเรียนเทคโนโลยีโม๋เซียง เขามักจะลากหมูอ้วนไปที่โรงฆ่าสัตว์ด้วยรถแบบนี้เสมอ แต่ครั้งนี้เขาจะออกไปฆ่าซอมบี้ จึงทำให้เขารู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

ในใจของซ่งเจิงมีความคิดแบบนี้ และในขณะเดียวกันรถก็กำลังเคลื่อนตัวออกไปพอดี

 

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.