หน้าแรก > War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 96 ความงดงามที่อยู่ในกำมือ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

มังกรทุกตัวย่อมมีเกล็ดย้อนเสมอ และหากผู้ใดไปแตะต้องแล้วล่ะก็มันต้องตาย!

และแน่นอนว่าเกล็ดย้อนของหลิงเทียนคือเค่อเอ๋อ ...

เมื่อสังเกตถึงแววตาเอาเรื่องที่หลิงเทียนจ้องมองมาโดยไม่หวั่นเกรง ลี่ก้วนกล่าวเย้ยหยันออกมา "ต้วนหลิงเทียนเจ้าใช่จะบอกว่า คำพูดที่ข้ากล่าวนั้นมันปั้นแต่งขึ้นมาหรือไร เจ้าคิดจริงๆหรือว่าอาศัยการเป็นรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองออโรร่า แล้วเจ้าจะใส่ร้ายหรือดูหมิ่นผู้ใดก็ได้ "

"ข้าไม่เคยคิดดูหมิ่นผู้ใด แต่กับเจ้า... ข้าคิดว่าข้าดูหมิ่นได้"

มุมปากของหลิงเทียนยกขึ้นมา เผยรอยยิ้มเย้ยหยัน

"โอหัง อยากตายหรือไร!"

ลี่ก้วนบันดาลโทสะแล้ว ตอนนี้ท่าทางของมันดุร้ายยิ่งนัก

ซู่มมมมม!!

มันยิงกำปั้นที่เต็มไปด้วยพลังงานต้นกำเนิด ซัดไปยังหลิงเทียนอย่างเต็มกำลัง ล้วนเป็นผลจากการบันดาลโทสะของมัน

เหนือศีรษะของมันปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 6 ตัว

มันมีระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 4!

ลี่ก้วนโจมตีหลิงเทียนอย่างเต็มกำลังโดยไม่คิดยั้งมือแม้แต่น้อย

"ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 4 ? ก็ถึงว่า ทำตัวกร่างซะขนาดนี้ ... "

ต้วนหลิงเทียนใช้สายตาดูถูกมองไปยังลี่ก้วนเล็กน้อย ก่อนที่จะก้าวออกมาเผชิญหน้ากับมันอย่างไม่หวั่นเกรง หมัดขวายกขึ้นมาอย่างช้าๆ

หวือ! หวือ! หวือ!

......

ทันใดนั้นเองพลังงานต้นกำเนิดก็อัดแน่นเต็มกำปั้นของหลิงเทียน อีกทั้งยังล้นทะลักออกมาจากกำปั้นของเขาเล็กน้อยราวกับไอเย็น

พริบตานั้นเอง!

ซู่มมม!

ฝ่ามือพิชิตมังกร!

กำปั้นของหลิงเทียนที่ซัดออกไปกลับกลายเป็นดัชนีในพริบตาพลังงานต้นกำเนิดถูกบีบอุดรวมศูนย์เป็นจุดเล็กๆ จี้ไปยังกำปั้นของลี่ก้วนที่เต็มไปด้วยโทสะ

และเหนือศีรษะในวินาทีที่หลิงเทียนซัดดัชนีออกไปนั้นก็มีเงาร่างช้างแมมอธโบราณปรากฏออกมา 6 ตัวด้วยเช่นกัน

ตูมมมมมม กร๊อบบบบ!

เสียงกระดูกแตกละเอียดดังสนั่นออกมาอย่างน่าหวาดกลัว

“อ๊าคคคคคคคค!”

ทั้งร่างของลี่ก้วนยังถูกแรงอัดของพลังทำลายหอบกระเด็น ลอยออกไปราวกับว่าวสายป่านขาด เป็นระยะ 7-8 เมตรก่อนที่มันจะหยุดลง ยามนี้มันได้แต่ร่ำร้องปานจะขาดใจ ช่างมีสภาพน่าสมเพชอเนจอนาถนัก

มันได้แต่กอดมือของมันทั้งน้ำตา มือของมันห้อยลงราวกับไร้กระดูกนี่เป็นเพราะกระดูกในมือข้างนั้นล้วนแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ หมดสิ้นหนทางเยียวยารักษาอีกต่อไป ...

ลี่หยวนตอนนี้ทำสีหน้าราวกับคนโง่

ต้วนหลิงเทียนตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 แล้ว?

เท่าที่เขารู้มา หลิงเทียนนั้นบังเอิญได้รับโชควาสนาครั้งใหญ่เป็นผลไม้วิญญาณลูกหนึ่งที่ทำให้เขามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมา 2 ช้างแมมมอธโบราณ

และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนมีความแข็งแกร่งสูงถึง 6 ช้างแมมมอธโบราณ ...

มันหมายความได้อย่างเดียว

นั่นคือต้วนหลิงเทียนได้ตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 แล้ว!

"พี่ก้วนท่านเป็นอย่างไรบ้าง?"

เมื่อลี่หยวนรู้สึกตัวมันรีบเดินเข้าไปหาพร้อมกล่าวถามอาการของลี่ก้วนทันที

ทว่าหลิงเทียนพลันเคลื่อนไหวเร็วกว่า เขาถึงตัวลี่ก้วนก่อนลี่หยวน และเขาก็กล่าวกับลี่ก้วนด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “จำใส่กะลาหัวเอาไว้ ว่าทีหลังหัดประมาณตนเองไว้บ้าง ... และจดจำเรื่องราววันนี้เอาไว้ให้ดี ว่าเจ้าอ่อนแอกว่าข้าถึงขนาดไหน”

หลังจากกล่าวข่มขู่ลี่ก้วนพร้อมทั้งใช้สายตาเย็นชาขู่ขวัญมันจนแทบร้องหามารดาแล้ว หลิงเทียนก็หันกลับไปมองลี่หยวนด้วยแววตาเบื่อหน่ายและเดินจากไปโดยไม่คิดจะกล่าววาจาอะไรอีก

สำหรับเขาตอนนี้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อเกิดขั้นที่ 4 หาได้มีความสามารถในการคุกคามอะไรเขาได้

ปัจจุบันนี้ความระดับบ่มเพาะของหลิงเทียนอยูในขั้น ก่อกำเนิดขั้นที่ 2 และด้วยวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงครามรูปแบบงูเหลือมคลั่งทำให้เขามีความแข็งแกร่งสูงถึง 7 ช้างแมมมอธโบราณ ซึ่งเทียบเท่าได้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 5 ตามปกติ

เมื่อครู่เขาก็ไม่คิดที่จะสังหารลี่ก้วน เขาจึงลดความแข็งแกร่งลง 1 ช้างแมมมอธโบราณ จากที่เขาสามารถกระทำได้ทั้งหมด

มิฉะนั้นอาการบาดเจ็บของลี่ก้วนคงไม่ได้มีเพียงเท่านี้

ต้วนหลิงเทียนที่กลับมาถึงบ้านพักของเขานั้น ทันทีที่ก้าวเข้าเข้ามาอสรพิษน้อยทั้งสองตัวพลันพุ่งเข้ามาพัวพันทักทายเขาทันที

"ว่าไงเจ้า 2 ตัวน้อย ไม่เจอกันหลายวัน คิดถึงข้าขนาดนี้เชียว?"

ใบหน้าของหลิงเทียนเต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อมองงูน้อย 2 ตัวที่กำลังเล่นกับเขา

แต่ทว่าวินาทีต่อมาหลิงเทียนถึงกับชะงักค้าง

เพราะเขาสังเกตว่างูน้อยเล่นกับเขาจริงแต่พวกมันกลับจ้องไปยังแหวนมิติของเขาตาแป๋วเลยทีเดียว ...

"ข้าก็นึกว่าพวกเจ้าคิดถึงข้าซะอีก...แต่ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้ากลับคิดถึงเม็ดยาเพิ่มกำเนิดในแหวนมิติของข้าซะอย่างนั้น เฮ่อ"

ต้วนหลิงเทียนถึงกับยิ้มเจื่อนๆออกมาเมื่อรู้ว่างูน้อยทั้งสองตัวจริงๆแล้วต้องการอะไรกันแน่

หลังจากที่หยิบเม็ดยาเพิ่มกำเนิดออกมาโยนให้งูน้อยทั้งสองตัว ต้วนหลิงเทียนก็ปล่อยพวกมันไปเล่นตามประสา

ต่อมาหลิงเทียนก็เดินไปหาเค่อเอ๋อที่ห้อง แต่เมื่อเข้าไปก็พบว่าเค่อเอ๋อกำลังบ่มเพาะอยู่ เข้าจึงกลับห้องตัวเองไปอย่างช่วยไม่ได้

หลังจากที่โยนเม็ดยาเพิ่มกำเนิดเข้าปากแล้ว หลิงเทียนก็นั่งลงบ่มเพาะด้วยเช่นกัน

วิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบงูเหลือมคลั่ง!

ปัจจุบันหลิงเทียนกำลังสะสมพลังงานต้นกำเนิดเพื่อทะลวงตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 3

เนื่องจากเอกลักษณ์พิเศษของวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงครามรูปแบบงูเหลือมคลั่งนี้ นั่นทำให้ตอนที่หลิงเทียนมีระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 เขาสามารถมีความแข็งแกร่งได้สูงถึง 7 ช้างแมมมอธโบราณ นี่เป็นเพราะเขาได้ใช้พลังงานต้นกำเนิดบ่มเพาะร่างกายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก ระดับความแข็งแกร่งนี้มันเทียบเท่าได้กับระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 5 เลยทีเดียว

ความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณ 7 ตัว!

เมื่อเขาตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 3 เขาจะมีความแข็งแกร่งทันที 8 ช้างแมมมอธโบราณ และถ้าหากเขาเสร็จสิ้นกระบวนการบ่มเพาะร่างกายด้วยพลังงานต้นกำเนิดตามรูปแบบงูเหลือมคลั่ง เขาจะมีความแข็งแกร่งสูงถึง 9 ช้างแมมมอธโบราณ ...

เมื่อถึงตอนนั้นความแข็งแกร่งของเขาจะเหนือล้ำกว่าระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 6 และเกือบเท่าเทียมกับระดับกอกำเนิดขั้นที่ 7

ตกดึก

หลิงเทียนผ่อนลมหายใจออกมา และไปทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ถูกขับออกมาจากร่างกาย เป็นอันเสร็จสิ้นการบ่มเพาะวันนี้

เมื่อเดินออกมาจากห้องเขาก็เห็นว่าสำรับอาหารถูกตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เขาจึงนั่งรออยู่ที่โต๊ะ

หลังจากนั้นทั้งครอบครัวก็ร่วมกินอาหารค่ำด้วยกัน

ต้วนหลิงเทียนกลืนอาหารในปากก่อนที่จะกล่าวออกมาเบาๆว่า "ท่านแม่เดือนหน้าข้าวางแผนว่าจะไปเมืองโลหิตเหล็ก กับเซี่ยวหยู"

"ไปค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะงั้นหรือ?" ลี่หลัวกล่าวถามออกมา

"ท่านแม่รู้ได้ไงกัน?"

ต้วนหลิงเทียนตกตะลึง

"นายน้อย พี่หญิงเฟยบอกให้พวกเราเตรียมใจเอาไว้นานแล้ว ... นางกล่าวว่าหลังจากจบการประลองงานมังกรซ่อนท่านดูมีท่าทางสนใจค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะของกองกำลังโลหิตเหล็กนี้มาก นางคิดว่าท่านต้องไปทดสอบเข้าร่วมอย่างแน่นอน ”

เค่อเอ๋อยิ้มก่อนที่จะกล่าวออกมา

เยื่อใยอบอุ่นสายหนึ่งพลันผุดขึ้นมาในหัวใจของต้วนหลิงเทียน

ไม่คิดเลยว่าลี่เฟยจะปูทางไว้ให้เขาแล้ว

ตอนแรกเขาคิดว่าต้องคอยเอาใจสตรีที่งดงามทั้งสองคนที่บ้านของเขาก่อนเสียอีก แล้วค่อยอ้อนขอไปทดสอบ

"ลูกเทียนเจ้าเองก็เติบโตเป็นหนุ่มแล้ว จะอย่างไรก็ดูแลตัวเองให้ดียามอยู่ด้านนอก... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าก่อน รู้หรือไม่ "ลี่หลัวกล่าวออกมาช้าๆอย่างเป็นห่วง

"ข้ารู้ท่านแม่" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

สาวน้อยด้านข้างเม้มปากก่อนที่จะกล่าวออกมา "นายน้อย เค่อเอ๋อไม่อยากอยู่ห่างท่าน... "

"เด็กโง่ข้าไปเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น หลังจากผ่านไป 1 ปีแล้วข้าจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าไปร่ำเรียนยังสถาบันบ่มเพาะขุนพล ... ตอนนั้นข้าจะนำเจ้าและท่านแม่ไปอยู่เมืองหลวงกับข้าด้วย " ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เขาวางแผนไว้

ทว่าก่อนที่จะออกเดินทางเดือนหน้านั้นหลิงเทียนก็ยุ่งไม่น้อย นอกจากฝึกฝนบ่มเพาะแล้ว

ก่อนอื่นเลยเขาต้องจารึกอาคมจันทร์เสี้ยวโลหิตให้ถังจิ้งถึง 30 ชิ้น

ต้วนหลิงเทียนคิดใช้ข้อแลกเปลี่ยนในการจารึกอาคมจันทร์เสี้ยวโลหิต 30 ชิ้นนี้ เป็นคำมั่นจากปากของถังจิ้งว่าจะดูแลความปลอดภัยของครอบครัวเขาเป็นเวลา 1 ปีหลังจากที่เขาเดินทางออกจากเมืองออโรร่าไปอยู่ค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะของกองกำลังโลหิตเหล็ก ...

"ต้วนหลิงเทียน พวกเราเป็นมือสังหาร หาใช่ผู้คุ้มกันไม่" ถังจิ้งหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น

"เฮ่ๆ ความจริงข้าสามารถเรียกร้องเหรียญเงินได้ถึง 3,000,000 เหรียญ เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการจารึกอาคมนี่ แต่ข้าไม่ได้เรียกร้องอะไรแม้แต่น้อย ... นอกจากนี้ตอนที่ข้าไม่อยู่ ข้อตกลงค้าขายของเราก็ยังอยู่ ข้าจะให้เค่อเอ๋อคอยมาสร้างโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน ให้ท่าน ... "

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว "ช่างเถอะในเมื่อท่านไม่เต็มใจก็แล้วไป ข้าคงต้องไปหาคู่ค้าเพื่อดำเนินธุรกิจใหม่เสียแล้ว คงต้องฝากผู้อื่นขายโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนนี่แล้วล่ะ ... อ่อจริงสิข้าคิดว่าสมาคมผู้หลอมศาสตราและสมาคมผู้หลอมโอสถเองก็คงสนใจอาคมจารึกจันทร์เสี้ยวโลหิตจำนวน 30 ชิ้นนี้เช่นกัน "

"พอๆ หยุดๆๆๆ! ข้ารับปากเจ้าแล้ว "

ถังจิ้งได้แต่รับปากพร้อมยิ้มแห้งๆออกมา

เมื่อได้ยินคำมั่นจากปากถังจิ้งหลิงเทียนก็ยิ้มและกลับตระกูลลี่ด้วยความพึงพอใจ

หลังจากกลับมาถึงเขตที่พักเขาก็ไปขอเข้าพบลี่อู๋

เพราะเขานึกขึ้นได้ว่าลี่อู๋เอง ก็ติดค้างบุญคุณของเขาอยู่

"ท่านประมุข ในวันที่ทำการประลองประจำตระกูลเพื่อหาผู้ชนะเลิศ ท่านกล่าวให้ข้ายอมแพ้ลี่ชิงโดยรับปากว่าจะทำตามคำขอของข้าหนึ่งเรื่อง ท่านยังจดจำได้หรือไม่?"

หลิงเทียนไม่คิดร่ายยาว เขากล่าวเข้าประเด็นทันที

"แน่นอนข้าย่อมจำได้ ทำไมหรือ? หรือเจ้ามีอันใดให้ข้าช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ? "ลี่อู๋กล่าวถามออกมา

"ข้าจะมุ่งหน้าไปยังเมืองโลหิตเหล็กเพื่อเข้าร่วมทดสอบเข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะของกองกำลังโลหิตเหล็ก ในอีก 1 เดือนหลังจากนี้ ... และข้าหวังว่าในช่วงที่ข้าไปเข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะของกองกำลังโลหิตเหล็กเป็นเวลา 1 ปี นั้น ท่านจะรับปากข้าว่า ท่านจะช่วยดูแลคุ้มครองครอบครัวของข้า" ต้วนหลิงเทียนกล่าว

"เจ้าคิดที่จะเข้าร่วมค่ายบ่มเพาะของกองกำลังโลหิตเหล็ก?"

ลี่อู๋ค่อยๆกล่าวออกมาอย่างจริงจัง "หลิงเทียนเมื่อเจ้าเข้าร่วมค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะ มีโอกาสสูงมากที่เจ้าจะตกตาย ... เจ้าคิดเรื่องนี้ดีแล้วงั้นหรือ"

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำ

"เช่นนั้นข้าก็รับปากเจ้า"

ลี่อู๋ตอบรับและให้คำมั่นว่าจะปกป้องดูแลครอบครัวของหลิงเทียน

...

สมาคมผู้หลอมโอสถประจำเมืองออโรร่า

"เจ้าหนู ข้าคิดที่จะไปหาเจ้าอยู่พอดี"

เมื่อเห็นหลิงเทียนมาหา ซื่อโหมว่พลันยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี

สายตาของหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อยก่อนที่จะพิจารณาพลังงานที่แผ่ออกมของซื่อโหม่ว "ตาแก่ นี่เจ้า ... ยกระดับแล้วหรือ?"

ฟู่มมมม!

ซื่อโหม่วพลันหงายฝ่ามือขึ้นก่อนที่จะจุดเปลวเพลิงหลอมโอสถสีทองจะส่องสว่างขึ้นมาชั่วครู่ "ข้าพึ่งตัดผ่านระดับเมื่อวานนี้เอง"

"โอ้ยินดีกับเจ้าด้วย"

ต้วนหลิงเทียนยิ้ม

"ที่ข้าตัดผ่านไปได้ด้วยดี นี่ล้วนต้องขอบคุณเจ้าทั้งสิ้น... หลังจากที่ข้ายกระดับเป็นผู้หลอมโอสถขั้นที่ 7 แล้วข้าก็ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอกลับไปยังเมืองประจำมณฑลอีกครั้ง ข้าเองก็จะลงจากตำแหน่งหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถประจำเมืองออร่าในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว "

ตอนที่ซื่อโหม่วกล่าวถึงตำแหน่งผู้หลอมโอสถประจำเมืองออโรร่านั้น น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้างราวกับไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร

"ตาแก่ เช่นนั้นที่เจ้าบอกจะไปหาข้า ก็คิดจะไปบอกลาเช่นนั้นสิ "

ดวงตาของหลิงเทียนหรี่ลงเขาประหลาดใจเล็กน้อย

"ถูกต้อง"

ซื่อโหม่วพยักหน้ารับคำก่อนที่จะกล่าวถามว่า "แล้วที่เจ้ามาหาข้านี่ มีอะไรงั้นหรือ"

"ข้าเองก็จะมาบอกลาเจ้า ... เดือนหน้าข้าก็จะออกจากเมืองออโรร่าเช่นกัน ข้าจะมุ่งหน้าไปยังเมืองโลหิตเหล็กเพื่อทดสอบเข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะของกองกำลังโลหิตเหล็ก และคิดที่จะผ่านการเข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะของกองกำลังโลหิตเหล็ก จนได้สิทธิ์ในการเข้าไปร่ำเรียนในสถาบันบ่มเพาะขุนพลที่เมืองหลวง "หลี่หลิงเทียนกล่าวช้าๆ

"สถาบันบ่มเพาะขุนพลนับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เจ้าจะโดดเด่นในสถาบันบ่มเพาะขุนพล ... "

ซื่อโหม่วพยักหน้า

เขารู้อยู่แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่หลิงเทียนคิดจะกระทำ เป็นสิ่งที่อาจารย์ของหลิงเทียนแนะนำมา ตัวเขาเองไม่กล้าบอกกล่าวชี้นำอะไร หรือคิดที่จะนำพาหลิงเทียนเข้าสมาคมผู้หลอมโอสถอีกต่อไป

"เฮ่ตาแก่ หวังว่าในอนาคตพวกเราจะได้เจอกันอีก"

ต้วนหลิงเทียนอำลาซื่อโหม่วก่อนที่จะเดินออกมาจากสมาคมผู้หลอมโอสถ

ซื่อโหม่วเองก็เดินออกมาส่งหลิงเทียนที่ประตู แล้วเขาก็ได้แต่จ้องมองแผ่นหลังของหลิงเทียนที่กำลังเดินจากไปด้วยความรู้สึกขอบคุณจากหัวใจ

ต้องขอบคุณต้วนหลิงเทียน ที่สามารถทำให้เขายกระดับเปลวเพลิงจนกลายเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 7 ได้รวดเร็วเช่นนี้

หลังจากเสร็จสิ้นภาระทั้งหมดหลิงเทียนไม่ออกจากเขตที่พักของตระกูลลี่อีกเลย ในแต่ละวันเขาเพียงบ่มเพาะอยู่ที่เท่านั้น

และเขาก็ได้ใช้เวลาร่วมกับมารดาและเค่อเอ๋ออย่างเต็มที่ ...

วันแห่งการจากลาใกล้เข้ามาทุกขณะ

.....

"เฟย ปู่ต้องออกไปหาวัตถุดิบสักระยะหนึ่ง"

เสียงของชายชราดังขึ้นจากประตูด้านหน้า

เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้หลิงเทียนที่มาหาลี่เฟยถึงที่บ้าน พลันใช้ประกายตาวาวโรจน์มองไปยังสตรีที่งดงามเบื้องหน้า

"เสี่ยวเฟยวันนี้เจ้าไม่อาจหลบหนีข้าได้อีกแล้ว!"

ต้วนหลิงเทียนเผยยิ้มกว้างออกมา ทำให้หญิงสาวนั้นเขินอายจนหน้าแดงก่ำ....

ค่ำคืนแห่งความหฤหรรษ์ค่อยๆผ่านพ้นไปอย่างช้าๆ ...สองร่างประสานหลอมรวมผูกพันทั้งกายใจ...

เช้าวันต่อมา

ต้วนหลิงเทียนลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเช้าตรู่ของอีกวัน

มองไปยังดอกกุหลาบสีโลหิตที่เบ่งบานบนผืนผ้าสีขาวบนเตียง อดไม่ได้ที่หลิงเทียนจะเผยรอยยิ้มวาบหวามออกมา

และเมื่อเขาจ้องมองไปยังสตรีงดงามที่ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ปิดบัง เผยผิวขาวนวลลออสัดส่วนได้รูปงดงามปานนางฟ้าลงมาจุติ อดไม่ได้ที่เขาจะมีประกายตาทอแววความรักความเอ็นดูออกมาอย่างลึกล้ำ

สาวน้อยที่แสนงดงามยังคงหลับใหลอย่างไม่เดียงสา นี่คงเป็นผลพวงจากศึกรักที่หวานขจุงขจรที่บรรเลงในยามค่ำคืนที่ผ่านมา...ยามนี้ใบหน้าของนางยังคงฉายชัดถึงความสุขสม พวงแก้มที่งดงามและทุกองค์ประกอบบนใบหน้าของนางล้วนสะกดให้ หลิงเทียนหลงใหลไม่รู้จบ

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.