spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 277 เล่นงานน้องสาว น้องสาวจะเล่นงานเจ้าถึงตาย !
หวงซวนเพ่งมองและเห็นเฟิงเฉินหยูพร้อมกับเซียงเอ๋อบ่าวรับใช้ของนาง “ดูเหมือนว่าพวกเขาเพิ่งมาจากตำหนักหยานฟู่”
ผู้คนที่อยู่ข้างหน้าเปิดทางเฟิงเฉินหยูอย่างรวดเร็ว เฟิงหยูเฮงมองไปสักพักแล้วพูดพร้อมกับยิ้มว่า “ดูเหมือนว่านางจะอารมณ์เสีย”
ในเวลานี้เฟิงเฉินหยูก็เห็นพวกเขาเช่นกัน นางเดินไปหาเซียงเอ๋อ
เฟิงหยูเฮงลอบยิ้มในใจ ความคิดของพี่ใหญ่นี้เขียนไว้บนใบหน้าของนาง นางคิดเสมอว่าไม่มีใครเห็นมัน นั่นคือระดับความฉลาดของนาง อะไรเป็นเหตุให้เฟิงจินหยวนหวังที่จะส่งเสริมนางขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮา ?
ในขณะที่นางคิดอยู่นั้น เฟิงเฉินหยูก็พูดกับนางพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าว่า "น้องรองเพิ่งกลับมาจากตำหนักพระชายาหยุนใช่หรือไม่ ? พระชายาหยุนสบายยดีหรือไม่ ? ”
เฟิงหยูเฮงยิ้มแล้วพูดว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดี ข้าขอบคุณพี่ใหญ่แทนพระชายาหยุนสำหรับความห่วงใย”
“ดีมาก” เฟิงเฉินหยูมองหน้านางด้วยความเห็นอกเห็นใจ นางยืนพูดคุยกับเฟิงหยูเฮง “ข้ามาในพระราชวังในวันนี้ นอกจากของกำนัลที่เตรียมโดยตระกูลเฟิง น้องรองเตรียมของกำนัลให้ฮองเฮาและพระชายาหยุนด้วยใช่หรือไม่ ? ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ข้าได้ยินมาว่าน้องรองมีสิ่งของที่น่าสนใจ น่าเสียดายที่ข้าไม่โชคดีพอที่จะเห็นพวกมัน”
“อ๋อ” เฟิงหยูเฮงพยักหน้าและกล่าวอย่างไม่สุภาพ “มันเป็นของกำนัลสำหรับฮองเฮาและพระชายาหยุน พี่ใหญ่ไม่มีโชคที่จะได้เห็นพวกมัน”
เฟิงเฉินหยูเกือบจะสำลักจนตาย เพราะนางรู้สึกว่ามีหลายครั้งที่น้องรองของนางทำให้นางพูดไม่ออก แต่เฟิงเฉินหยูไม่หดหู่ใจขณะที่นางพูดต่อ “จื่อหรูไปกับท่านพ่อที่พระราชวังด้านหน้า แต่ข้าไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้จื่อหรูเป็นบุตรชายของฮูหยินใหญ่ และยังเป็นศิษย์น้องของฮ่องเต้อีกด้วย เขาควรได้รับการต้อนรับอย่างดีจากฮ่องเต้ ใช่หรือไม่ ? ”
“อ่า” เฟิงหยูเฮงพยักหน้าอีกครั้ง “เขาดีกว่าเฟิงจื่อเฮาแน่นอน”
เซียงเอ๋อกระตุกแขนเสื้อเฟิงเฉินหยู นางรู้ว่าเฟิงเฉินหยูมีบางสิ่งในใจตั้งแต่นางมาพูดคุยกับเฟิงหยูเฮง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเจ้านายของนางต้องการจะทำอะไร นางรู้สึกว่านางไม่ควรทำตามแผนต่อไป คุณหนูรองผู้เป็นองค์หญิงแห่งมณฑลผู้นี้เฉียบคมเกินไป คุณหนูใหญ่นั้นไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้เลย
แต่เฟิงเฉินหยูไม่ได้ตระหนักในเรื่องนี้เลย นางขยับมือของนางทำให้มือของเซียงเฮ๋อซึ่งกระตุกแขนเสื้อของนางอยู่หลุดออกไป “ความสามารถทางการแพทย์ของน้องรองนั้นน่าทึ่งมาก เป็นไปได้หรือไม่ที่เจ้าจะช่วยรักษาแผลบนศีรษะของข้าไม่ให้มีแผลเป็น ? ” นางพูดอย่างนี้แล้วมองไปรอบ ๆ นางกำลังมองหาใครบางคนอย่างชัดเจน
เฟิงหยูเฮงเห็นสิ่งนี้และหัวใจของนางเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เส้นทางนี้ไปที่ตำหนักหยานฟู่ นอกจากบรรดาฮูหยินและคุณหนู คนที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะปรากฏตัวเป็นคนสำคัญก็คือองค์ชายใหญ่
นับตั้งแต่องค์ชายใหญ่แสดงออกถึงความโปรดปรานที่มีต่อเฟิงเฉินหยู ทั้งสองไม่ได้พบกันเป็นการส่วนตัว แต่ตำหนักจิงยังคงส่งของกำนัลของไปยังเรือนของเฟิงเฉินหยู แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พบกัน แต่ตามความคิดของเฟิงเฉินหยู หัวใจขององค์ชายใหญ่เป็นของนาง
หัวใจของเฟิงหยูเฮงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ดวงตาของนางหัวเราะและมุมปากของนางขดตัว “พี่หวังให้ข้าบอกว่าข้ารักษาได้หรือไม่เล่าเจ้าคะ ? หรือพี่ใหญ่หวังให้ข้าบอกว่าข้าไม่สามารถรักษาได้ ? ถ้าข้าบอกว่าข้าทำได้ น้ำตาของท่านก็จะไหลและท่านก็หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่ข้าจะสามารถรักษาบาดแผลของท่านพี่ได้ เหมือนครั้งที่แล้วซึ่งท่านทำได้ดีมาก หากท่านหวังว่าข้าจะบอกว่าข้าทำไม่ได้ ฮิๆ พี่ใหญ่ค่อนข้างสวยด้วยรอยแผลเป็นบนหน้าผากของท่าน”
ใบหน้าของเฟิงเฉินหยูเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ นางรู้สึกขัดแย้งทางความคิดเล็กน้อย นางพูดเรื่องนี้เพียงเพราะนางคิดเรื่องอื่นไม่ออก แต่เมื่อเฟิงหยูเฮงพูดออกมานางก็เริ่มรู้สึกเสียใจ ความสามารถทางการแพทย์ของเฟิงหยูเฮงนั้นสูงส่ง จะทำอย่างไรดีหากเฟิงหยูเฮงสามารถรักษาแผลเป็นบนหน้าผากของนางได้ ?
แต่ก่อนที่นางจะคิดอะไรเพิ่มเติม เซียงเอ๋อดึงแขนเสื้อของนางอีกครั้ง จากนั้นให้เฟิงเฉินหยูดูว่าพวกเขาได้ตกลงกันก่อนหน้านี้
เฟิงเฉินหยูเข้าใจและหยุดคิดทันทีว่านางควรจะเสียใจหรือไม่ ทันใดนั้นนางก็ก้าวไปข้างหน้าและจับข้อมือของเฟิงหยูเฮง ในเวลาเดียวกันนางทำท่าหวาดกลัวและพูดว่า "น้องรอง เจ้าพูดว่าอะไร ? เจ้ากล้าที่จะสาปแช่งพระสนมเซียน ? น้องรองกล้าสาปแช่งพระสนมที่มีจิตใจดีงามได้อย่างไร ? ”
หวงซวนหายใจฟืดฟาดด้วยความโกรธ “คุณหนูได้พูดสาปแช่งพระสนมเซียนเมื่อใด ? ”
“น้องรอง เจ้าจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร ? ” การแสดงของเฟิงเฉินหยูเริ่มขึ้นและน่าตื่นเต้น เสียงของนางก็ดังขึ้นอีกเล็กน้อย ขณะที่นางตะโกนว่า “นี่คืออะไร ? ”
ตุ้บ
มีบางอย่างตกลงไปที่พื้น
เฟิงหยูเฮงมองข้าม นางเห็นตุ๊กตาผ้าสีขาวเท่านั้น ตุ๊กตานั้นเต็มไปด้วยเข็มและมันดูน่ากลัวมาก
ในเวลาเดียวกันอีกด้านหนึ่งของทางเดินเล็ก ๆ คนสองคนกำลังเดินข้าม หนึ่งในนั้นสวมเสื้อคลุมสีเขียวเข้ม ร่างของเขาค่อนข้างอ้วนแต่ก็ไม่ได้เบี่ยงเบนความสนใจจากความสูงส่งของเขา บริเวณรอบคิ้วของเขามีความคล้ายคลึงกับซวนเทียนหมิง
เฟิงหยูเฮงหันกลับมา และเผยความประหลาดใจ “พี่ใหญ่”
คนที่มาคือองค์ชายใหญ่ ซวนเทียนฉี
เมื่อเห็นว่าซวนเทียนฉีมาถึงแล้ว ใครจะรู้ว่าเฟิงเฉินหยูกำลังคิดอะไรอยู่ขณะที่นางล้มลงกับพื้นและคุกเข่าต่อหน้าเฟิงหยูเฮง น้ำตาไหลรินบนใบหน้าของนาง “น้องรอง มันเป็นความผิดของพี่สาวที่ทำหน้าที่ได้ไม่ดีในคฤหาสน์และทำให้น้องรองโกรธเคือง แต่น้องรองไม่ควรเอาความเกลียดชังไปลงที่พระสนมเซียน ! ไม่ต้องพูดถึงว่าไม่มีอะไรระหว่างพี่สาวกับองค์ชายใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมี เจ้าก็ไม่ควรเอาผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เจ้าโกรธข้าก็ควรระบายความโกรธที่ข้า ทำไมต้องทำร้ายพระสนมเซียนด้วย ? ”
เฟิงหยูเฮงเกือบจะหัวเราะออกมา นี่คือน้ำผึ้งเคลือบยาพิษ และนางก็วางกับดักไว้ที่พระสนมเซียน แม้ว่าสาวงามผู้นี้จะมีผ้าคลุมศีรษะในวันนี้ แต่ความงามของนางยังคงมี แค่ร้องไห้แบบนี้ก็ทำให้นางเป็นคนที่งดงาม นางสามารถดึงดูดความสงสารได้มากเท่าที่นางต้องการ หากองค์ชายใหญ่ทรงชื่นชอบเฟิงเฉินหยูจริง บางทีหัวใจของเขาอาจจะถูกบดขยี้เพียงแค่เห็นนางคุกเข่า
โชคร้าย โชคร้ายเสียจริง !
เฟิงหยูเฮงนั่งลงข้างหน้าเฟินเฟิงเฉินหยู นางใช้แขนเสื้อซึ่งกว้างของนางปกคลุมตุ๊กตาผ้าสีขาว เฟิงเฉินหยูพูดต่อไปว่า “ข้าขอให้น้องรองระบายความโกรธลงที่ข้าเท่านั้น และปล่อยพระสนมเซียนไป ! ” เฟิงเฉินหยูพูดอย่างนี้และคลานไปข้างหน้า และพยายามดึงมือของเฟิงหยูเฮงออกไป น่าเสียดายที่นางไม่ประสบความสำเร็จ
ในเวลานี้ซวนเทียนฉีมาถึงด้านข้างแล้ว เมื่อเห็นการนั่งยอง ๆ และคุกเข่า เขาถามด้วยความสับสนอย่างมาก “เจ้าสองคนกำลังทำอะไรอยู่ ? ”
เมื่อเห็นซวนเทียนฉี เฟิงเฉินหยูเริ่มร้องไห้อย่างสิ้นหวังในทันที แต่ดวงตาของนางจะมองไปที่ใบหน้าของซวนเทียนฉี มารยาที่ว่าสามารถจับหัวใจของบุคคลอย่างแท้จริง
“ฝ่าบาท” เฟิงเฉินหยูคว้าเสื้อคลุมของซวนเทียนฉี “มันเป็นความผิดของเฉินหยูเอง ฝ่าบาทอย่าโทษน้องรองเลยเพคะ ! ”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ” ใบหน้าของซวนเทียนฉีแสดงให้เห็นความขุ่นเคืองเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้ทำให้มันชัดเจน เฟิงหยูเฮงมองเห็นได้ แต่เฟิงเฉินหยูไม่สามารถสังเกตสิ่งต่าง ๆ ได้ “น้องสะใภ้ เกิดอะไรขึ้นตรงนี้ ? ”
เฟิงหยูเฮงเผยให้เห็นถึงท่าทีตื่นตระหนก ขณะที่มือของนางเคลื่อนไหวขยุกขยิกภายใต้แขนเสื้อขนาดใหญ่ของนาง แต่ดูเหมือนว่านางกำลังซ่อนอะไรบางอย่างไว้
“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ ไม่มีอะไรจริง ๆ พี่ชายจะไปหาพระสนมเซียนหรือเพคะ? รีบไปเถิดเพคะ” นางพูดอย่างไม่หยุด และยิ่งนางบอกว่าไม่มีอะไรเลย ผู้คนจำนวนมากยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
ซวนเทียนฉีได้รับข้อความซุกซนจากการมองในแววตาของเฟิงหยูเฮง เมื่อเห็นอย่างนี้เขาก็มีความสุขที่ได้เล่น ดังนั้นเขาจึงพูดอีกครั้ง “เจ้าซ่อนอะไรอยู่ใต้แขนเสื้อของเจ้า ? นำมันออกมาเพื่อให้ข้าดู ! ”
ซวนเทียนฉีขมวดคิ้วและสีหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความโกรธ “องค์ชายผู้นี้เพิ่งได้ยินคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิงเอ่ยถึงพระสนมเซียน แต่เป็นสิ่งที่เจ้าซ่อนไว้เกี่ยวข้องกับพระสนมเซียนหรือไม่ ? ”
“ฝ่าบาท” เฟิงเฉินหยูเริ่มสะอื้นอีกครั้ง “ฝ่าบาทอย่าตำหนิน้องรองเลยเพคะ เฉินหยูขอร้องฝ่าบาทเพคะ”
ก่อนที่ซวนเทียนฉีจะพูดอะไร พวกเขาได้ยินเสียงเฟิงหยูเฮงพูดด้วยเสียงประหลาดใจอย่างยิ่ง “โทษข้า ข้าทำอะไร? ทำไมท่านต้องกล่าวโทษข้า เป็นไปได้หรือไม่ว่าพี่ใหญ่เริ่มสับสนด้วยความกลัว?”
เฟิงเฉินหยูหันไปมองนาง “น้องรองพูดอะไรน่ะ ? ข้าจะสับสนได้อย่างไร ? ”
“แต่ถ้าเจ้าไม่สับสน ทำไมท่านต้องกล่าวโทษข้า ? ”
เฟิงเฉินหยูมองไปที่เฟิงหยูเฮงราวกับว่านางหมดหวัง “น้องรอง หากทำผิดไปสามารถแก้ไขได้ ข้าจะทูลขออภัยโทษจากองค์ชายให้”
เฟิงหยูเฮงส่ายหัว “นี่คือสิ่งที่ข้าควรจะพูดกับพี่ใหญ่ ตราบใดที่ท่านเปลี่ยนใจ น้องสาวจะทูลขอการให้อภัยให้พี่ใหญ่เอง”
เฟิงเฉินหยูกัดฟันด้วยความโกรธในขณะที่นางคิดว่าเฟิงหยูเฮงนั้นมีช่างหน้าไม่อายเสียจริง ๆ นางตอบโต้การใส่ร้ายของนางได้หมดจด
“ในเมื่อน้องสาวพูดเช่นนี้ ข้าก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้” เฟิงเฉินหยูถอนหายใจอย่างแผ่วเบา “แต่ข้าต้องพูดกับเจ้า ข้าคุกเข่าขอร้องเจ้าในวันนี้ให้เจ้าไม่เปลี่ยนความเกลียดชังของเจ้าที่มีต่อข้าไปยังพระสนมเซียน พระสนมผู้มีเมตตาไม่ควรถูกสาปแช่งเช่นนี้”
“สาปแช่งหรือ ? ” ซวนเทียนฉีโกรธมาก “บังอาจ ! ”
เฟิงเฉินหยูตัวสั่นเทาด้วยความกลัว เดิมนางจับมือของซวนเทียนฉีแต่นางก็ปล่อยมือไปโดยไม่รู้ตัว
ในเวลานี้เซียงเอ๋อผู้คุกเข่าอยู่กับนางก็พูดขึ้นมาว่า ”บ่าวรับใช้ผู้นี้ทนไม่ได้ที่จะเฝ้าดูคุณหนูใหญ่ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความไม่พอใจดังกล่าว แม้ว่าคุณหนูรองจะเป็นถึงองค์หญิงแห่งมณฑล แต่นางก็ยังคงเป็นน้องสาวของคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ได้คุกเข่าขอร้องนาง แต่นางก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนใจ บ่าวรับใช้จำต้องรายงานเรื่องนี้ต่อฝ่าบาทเพคะ”
“พูด” ซวนเทียนฉีพูดด้วยสีหน้าหนัก ๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เซียงเอ๋อกล่าวว่า “คุณหนูรองสาปแช่งพระสนมเซียนเพคะ นางพูดสิ่งเลวร้ายมากมายเกี่ยวกับพระสนมของจักรพรรดิ และคำพูดของนางช่างสกปรกมากจนบ่าวรับใช้คนนี้ไม่กล้าพูดซ้ำ แต่หลังจากนั้นตุ๊กตาผ้าสีขาวหล่นลงมาจากแขนเสื้อ ตุ๊กตาตัวนั้นเต็มไปด้วยเข็มและมีเขียนชื่อพระสนมเซียนบนตุ๊กตาเพคะ ! ”
“อะไรนะ ? ” ซวนเทียนฉีมองไปที่เฟิงหยูเฮง “นางพูดจริงหรือ ? ”
เฟิงหยูเฮงมีสีหน้าไม่สุภาพ “ข้าต้องการช่วยพี่สาวซ่อนสิ่งนี้ไว้ และเมื่อฝ่าบาทออกไป ข้าจะทำลายมัน แต่เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ข้าไม่สามารถทำอะไรได้เลยเจ้าค่ะ” นางพูดขณะหยิบตุ๊กตาที่เต็มไปด้วยเข็ม “สิ่งนี้หล่นลงมาจากร่างกายของพี่ใหญ่ แต่ทำไมพี่สาวถึงกล่าวโทษข้า ? ”
ซวนเทียนฉีให้นางกำนัลของเขารับสิ่งของ พลิกมันไปนั่นเองมีคำว่าพระสนมเซียน
“น้องรอง เจ้าโกหกหน้าตายเช่นนี้ได้อย่างไร ? ” เฟิงเฉินหยูยังคุกเข่าอยู่ แต่นางย้ายไปที่ฝั่งของซวนเทียนฉี นางดูน่าสงสารมาก
“พวกเจ้าทั้งคู่ต่างพูดในแบบของตัวเอง แต่ใครเล่าที่พูดความจริงและใครโกหก ? ” ซวนเทียนฉีถามด้วยความขมวดคิ้ว “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก องค์ชายผู้นี้จะรายงานสิ่งนี้ต่อฮ่องเต้อย่างแน่นอน เสด็จพ่อปฏิบัติต่อเสด็จแม่อย่างดี ข้าเชื่อว่าเสด็จพ่อจะสามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน”
เซียงเอ๋อตกใจเล็กน้อย นางมีความรู้สึกไม่ดี หากเรื่องนี้ถึงหูฮ่องเต้ มันเป็นไปได้ว่าคุณหนูรองจะได้เปรียบ ดังนั้นนางจึงรีบพูดว่า “ฝ่าบาท ไม่จำเป็นต้องมีปัญหามากมาย บ่าวรับใช้คนนี้ได้ยินว่าเมื่อทำตุ๊กตาคุณไสยแบบนี้ ผู้ที่ทำมันจะฝั่งกระดาษชิ้นเล็ก ๆ ไว้ในท้อง บนกระดาษแผ่นนั้นจะเขียนคำบางคำเพื่อสาปแช่งและชื่อของตนเอง ฝ่าบาทจะรู้เมื่อตุ๊กตาถูกผ่าออกมาดูเพคะ”
ซวนเทียนฉีไตร่ตรองเล็กน้อยแล้วมองไปที่เฟิงหยูเฮง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมองเขาด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ เขาก็เลิกกังวลและพยักหน้า “ดีมาก” จากนั้นเขาก็สั่งนางกำนัล “ผ่ามันออกมา”
มือของนางกำนัลนั้นเร็วมากและเปิดตุ๊กตาออกมา “ฝ่าบาท ข้างในมีกระดาษอยู่จริง ๆ เพคะ”
เขาได้รับชิ้นส่วนของกระดาษและอ่าน “พระสนมเซียนต้องไม่ตายอย่างเป็นธรรมชาติ”
เมื่อได้ยินอย่างนี้เฟิงเฉินหยูก้มหน้าลง และความเศร้าโศกปกคลุมใบหน้าของนาง ริมฝีปากของนางหยักขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นางยิ้มอย่างร้ายกาจ เฟิงหยูเฮง เจ้าจะกลายเป็นคนตายอย่างรวดเร็ว คนที่สาปแช่งพระสนมให้ตายคือเจ้า
นางกำนัลอ่านต่อ “ชื่อของผู้ส่งคือ…” รอยยิ้มที่ซ่อนอยู่ของเฟิงเฉินหยูนั้นกว้างขึ้น แต่ทันทีหลังจากนั้นนางได้ยินนางกำนัลอ่านชื่อ “เฟิงเฉินหยู?”