spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
หลังจากที่มื้อค่ำจบลงหลิงเทียนก็เดินมาส่งคู่ปู่หลานถึงที่บ้าน
ชายชรานั้นรู้งานดีนัก มันรีบกลับเข้าห้องของตัวเองไปในทันทีที่มาถึง
"เสี่ยวเฟย ตั้งแต่วันนี้ไปท่านก็เป็นภรรยาของข้าแล้ว ... "
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาเบาๆ
“เพ้ย! พวกเรายังไม่ได้แต่งงานกันเสียหน่อย "
ลี่เฟยจ้องหลิงเทียนอย่างเขินอาย
หลิงเทียนจับจ้องไปยังเรือนร่างที่แสนเย้ายวนของลี่เฟยจนตาเยิ้มเป็นมัน ก่อนที่มันจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วกล่าวออกมาด้วยความต้องการว่า "ปู่เจ้าบอกว่าจะให้พวกเราแต่งงานกันตอนข้าอายุ 18 นั่นช่างนานนัก เสี่ยวเฟยเหตุใดพวกเราไม่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันคืนนี้เลยเล่า? "
"ฝันไปเถอะ"
ลี่เฟยกล่าวออกมาด้วยความเขินก่อนที่นางจะเร่งรีบวิ่งเข้าห้องไปทั้งๆที่ใบหน้าแดงก่ำ พร้อมทั้งปิดประตูเสียงดัง
หลิงเทียนได้แต่หัวเราะอย่างขมขื่น
เมื่อหลิงเทียนกลับมาถึงบ้าน เขาพบว่าเค่อเอ๋อนั้นยังนั่งรอเขาอยู่
"เด็กโง่"
ต้วนหลิงเทียนยื่นมือไปโอบเอวเค่อเอ๋อก่อนที่จะกอดนางเอาไว้ แล้วพานางกลับเข้าไปในบ้าน
"นายน้อย"
เมื่อต้วนหลิงเทียนไปส่งนางที่ห้องและกำลังจะกลับไปห้องของตัวเอง เค่อเอ๋อก็เรียกเขาเอาไว้
"หืม?"
หลิงเทียนสงสัยเล็กน้อย
"นายน้อยนอนกับเค่อเอ๋อได้มั้ยเจ้าคะ?" เค่อเอ๋อค่อยๆถามออกมาด้วยความประหม่า
หลังจากที่ถอดเสื้อคลุมชั้นนอกแล้วหลิงเทียนก็เดินตรงมาที่เตียง ก่อนที่จะนอนลงไปแล้วดึงตัวเค่อเอ๋อมากอดพร้อมทั้งกล่าวถามออกมา "เด็กโง่เจ้ามีอะไรรึเปล่า?"
"นายน้อย ต่อไปเมื่อท่านมีพี่หญิงเฟยเป็นภรรยาแล้ว อย่าทอดทิ้งเค่อเอ๋อได้มั้ยเจ้าคะ?"
เด็กสาวกล่าวความกังวลของนางออกมา
"เด็กโง่เอ๊ย เจ้าจะเป็นเค่อเอ๋อที่น่ารักของข้าไปจนวันตายไม่มีผู้ใดมาทำลายเรื่องนี้ได้ ... ในใจข้านั้นจะมีที่ไว้สำหรับเจ้าเสมอหามีผู้ใดมาแทนที่เจ้าได้ เจ้าเข้าใจแล้วหรือไม่เด็กโง่?"
ต้วนหลิงเทียนกอดและปลอบโยนสาวน้อยในอกด้วยความอ่อนโยน เป็นเรื่องผิดปกติมากที่เขาไม่ทำอะไรอย่างอื่นกับนางเลย
"นายน้อย"
สาวน้อยกอดหลิงเทียนจนแน่นก่อนที่จะผล็อยหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น ในระหว่างที่รับประทานอาหารเช้าอยู่นั้น หลิงเทียนก็กล่าวขึ้นมา
"ท่านแม่ ,เค่อเอ๋อ ข้าจะไปข้างนอกสักระยะ ในเวลา 2-3 คืนหลังจากนี้ข้าอาจจะยังไม่กลับ พวกท่านเข้านอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอคอยข้า " หลิงเทียนกล่าวออกมา
"ระวังตัวด้วยนะลูก"
ลี่หลัวพยักหน้ารับ
ถึงแม้ว่าหลิงเทียนจะไม่ได้บอกว่าเขาจะไปทำอะไร แต่ลี่หลัวก็เชื่อมั่นว่าบุตรชายของนางจะสามารถรับมือได้
ลูกชายของนางเติบโตแล้ว เขาหาใช่ลูกนกอินทรีที่คอยซุกใต้ปีกของนางอีกต่อไป
"นายน้อยท่านจะกลับมาเมื่อไหร่เหรอเจ้าคะ" เค่อเอ๋อกล่าวถามออกมาด้วยเป็นห่วง
ต้วนหลิงเทียนครุ่นคิดก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า “ในอีกราวๆ 4 วัน ... ถ้าเสี่ยวเฟยมาหาข้า เจ้าก็บอกนางให้รู้ไว้ด้วย”
เขากำลังวางแผนที่จะไปยังเมืองชิงลี่
หากจะกล่าวถึงฐานะและตัวตนของเขาในตระกูลลี่แห่งนี้นั้น หลิงเทียนนั้นหาใช่สาวกธรรมดาอีกต่อไป อย่างน้อยๆผู้หลอมศาสตราระดับ 8 ลี่เต๋อย่อมยืนเคียงข้างมันจนถึงที่สุด และนั่นต่อให้ปลาที่เคยเล็ดรอดออกจากแห หรือไอตัวบัดซบหัวใจกลับด้านนั่นจะมาชี้ตัวเขา แต่พวกมันก็หาทำอะไรหลิงเทียนได้ไม่
แต่อย่างไรก็ตามหลิงเทียนไม่คิดเปิดเผยตัวเองต่อหน้าคนจากตระกูลหวัง
เมื่อเขาเปิดเผยตัวตนออกมาแล้วตระกูลลี่อาจจะช่วยเขาได้ แต่นั่นคงไม่ตลอดไป
เขาต้องขจัดต้นตอของปัญหาก่อนที่มันจะลุกลามบานปลายในอนาคต
หลังจากที่ออกจากตระกูลลี่แล้ว หลิงเทียนก็ได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เขาถอดชุดของตระกูลลี่ออกก่อนที่จะเก็บในแหวนมิติแล้วนำชุดอื่นมาใส่แทน
ตอนนี้แหวนมิติได้ถูกหลอมสร้างใหม่ โดยตัวแหวนกลายเป็นโลหะสีเทาหมองๆ แลดูธรรมดาสามัญ เขาจึงสามารถสวมใส่มันออกมาอย่างโจ่งแจ้งไม่ต้องกังวลว่าผู้ใดจะคิดว่ามันเป็นแหวนมิติ
หลังจากที่แวะไปในตลาด หลิงเทียนก็ทำการซื้อม้าตัวใหม่ แล้วก็อาหารไว้กินระหว่างทาง ก่อนที่จะออกจากเมืองออโรร่าไป
เมืองออโรร่า เมืองชิงลี่ และเมืองหมอกธารา นั้นไม่ต่างอะไรกับจุดยอดของรูปสามเหลี่ยม กึ่งกลางของทั้ง 3 เมืองคือป่าหมอกมรณะ
ระยะห่างจากเมืองชิงลี่กับเมืองออโร่ร่านี้ หากจะกล่าวไปก็คงเทียบเท่ากับ ระยะทางไปกลับจากเมืองออโรร่าไปยังป่าหมอกมรณะชั้นนอก
ถึงแม้เขาจะใช้ม้าเพื่อเดินทางไปยังเมืองชิงลี่ แต่นั่นก็ยังกินเวลาถึง 4 ชั่วยามโดยประมาณ
ต้วนหลิงเทียนนั้นเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้า และเขาก็ถึงป่าหมอกมรณะในยามเที่ยง หลังจากนั้นเขาก็เบี่ยงไปใช้เส้นทางอีกสายเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองชิงลี่
ยามพลบค่ำ
ภาพเมืองชิงลี่นั้นโผล่มาให้เห็นรำไรในสายตาของหลิงเทียน
หลิงเทียนรีบควบม้ามุ่งหน้าออกไปด้วยความเร่งรีบเล็กน้อย
"ไป!"
"ไป!"
แต่ทันใดนั้นเอง เสียง 2 เสียงก็ดังขึ้นจากด้านหลังเขา มันเป็นเสียงของ บุรุษสตรีคู่หนึ่ง
เมื่อหลิงเทียนหันไปมอง ก็พบว่าคนทั้งสองกำลังควบม้าพุ่งเขามาหาเขาด้วยความเร็ว ม้าของพวกมันนับว่ามีความเร็วเหนือล้ำกว่าม้าของเขามากนัก
ชายหนุ่มและหญิงสาวนั้นดูไปน่าจะมีอายุราวๆ 17 ปี
อีกทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของพวกมันนับว่าดูหรูหราและสวยงามอย่างมาก
"อาชาเหงื่อโลหิต!"
สายตาของหลิงเทียนจับจ้องไปยังม้าที่พวกมันขับขี่อยู่
เขาได้เห็นม้าทั้งสองนั้น หลังเหงื่อออกมาเป็นเลือด!
ในแง่ของความเร็วนั้นม้าที่เขาขี่อยู่หากเทียบกับอาชาเหงื่อโลหิตแล้วต่างกันมากนัก
"อาชาเหงื่อโลหิตนั้น ตัวหนึ่งก็มูลค่าถึง 10,000 เหรียญทองแล้ว อีกทั้งยังหายากยิ่งนัก ... " ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยความตะลึง
ในทวีปนี้ 1 เหรียญทองจะมีมูลค่าเท่ากับ 100 เหรียญเงิน
กล่าวอีกนัยหนึ่งนั่นก็คือ อาชาเหงื่อโลหิตนี้มีมูลค่าสูงถึง 1,000,000 เหรียญเงิน
แม้ประมุขของทั้งสามตระกูลใหญ่จากเมืองออโรร่าก็ยังไม่กล้าใช้จ่ายมือเติบเช่นนี้
เขาเดาได้ทันทีว่า ชายหนุ่มหญิงสาวคู่นี้ไม่ได้มาจาก 3 เมืองใกล้ๆป่าหมอกมรณะนี้อย่างแน่นอน
"หรือว่าพวกมันมาจากเมืองประจำมณฑลกัน?"
อาณาจักรวายุครามแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 18 มณฑล และเมืองประจำมณฑลนั้นก็นับว่าเป็นเมืองใหญ่ที่ด้อยกว่าเพียงเมืองหลวงของอาณาจักรเท่านั้น
และแต่ละเมืองประจำมณฑลนั้นจะมีเมืองเล็กๆใต้ปกครองอีก 81 เมือง
"หยุด"
หลิงเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะหยุดม้าที่ข้างทาง
เขาไม่อยากจะทำตัวให้เกิดปัญหาอะไรทั้งนั้นในยามนี้
แต่บางครั้งถึงแม้ตัวเขาจะไม่อยากมีปัญหามากสักแค่ไหนก็ตาม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่อยากมีปัญหาเช่นเดียวกับเขา
น้องหญิงหรู เจ้าเห็นชาวบ้านข้างหน้าหรือไม่? เมื่อมันเห็นพวกเรามันหวาดกลัวถึงกับรีบหลบเข้าข้างทางเสียอย่างนั้น... "
ชายหนุ่มกล่าวออกมาอย่างคึกคะนอง
"สงสัยมันหวาดกลัวที่จะปะทะกับอาชาเหงื่อโลหิตของพวกเรา"
หญิงสาวคนนั้นกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะด้วยเช่นกัน
ชายหนุ่มจ้องนางเขม็งก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างนึกสนุกว่า “น้องหญิงหรู เหตุใดพวกเราไม่แข่งขันกันสักหน่อยเล่า?”
"พวกเราจะแข่งอันใดกัน?"
หญิงสาวเองก็กล่าวถามออกมาด้วยความสนใจ
"พวกเรามาแข่งขันกันว่า ผู้ใดจะควบม้าไปถึงชาวบ้านผู้นั้นและหวดมันให้ตกลงมาจากหลังม้าด้วยแส้เฆี่ยนม้านี่ได้ก่อนกัน... เจ้าว่าการแข่งขันครั้งนี้ดีหรือไม่"
ชายหนุ่มหัวเราะ
"ดี! น่าสนุกนัก! ไป! " หญิงสาวเองก็เห็นดีด้วย นางเร่งรีบลงแส้อาชาเหงื่อโลหิตของนางทันทีเพื่อชิงความได้เปรียบ
เมื่ออาชาเหงื่อโลหิตถูกลงแส้ มันพลันกระโจนออกไปรวดเร็วยิ่งกว่าเสือดาวเสียอีก
"น้องหญิงหรู เจ้าขี้โกงข้านี่นา!" ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างไม่ยินยอมก่อนที่จะเร่งรีบตามไป
แน่นอนว่าระยะไกลขนาดนี้หลิงเทียนย่อมไม่ได้ยินคำที่พวกมันสนทนา
ต้วนหลิงเทียนมองจากระยะไกลก็เห็นหนุ่มสาวคู่นั้นกำลังควบม้ามาทางนี้ นับว่าเขาคิดถูกที่เลือกหลบมาข้างทางเพราะพวกมันควบมาค่อนข้างเร็วมากทีเดียว เมื่อพวกมันผ่านไปแล้ว เขาก็จะเร่งเดินทางอีกครั้ง
แต่ทันใดนั้นเอง
ฟุ่บ!
ในขณะที่หญิงสาวที่เป็นผู้นำกำลังควบม้าสวนกับเขานั้น หลิงเทียนพลันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังพุ่งแหวกสายลมมาจู่โจมเขาด้วยความเร็วสูง
ท่าทางของหลิงเทียนพลันเปลี่ยนเป็นจริงจังเพื่อตอบรับสภาวะการโจมตีนั้นทันที
เขาสังเกตได้ในพริบตาว่า มือของหญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยพลังงานต้นกำเนิดที่ถ่ายเทลงแส้ และหวดมายังเขา ที่สำคัญมันยังมีเป้าหมายจู่โจมที่ใบหน้าของเขาอีกด้วย...
เหนือศีรษะนางมีร่างช้างแมมมอธโบราณปรากฏออกมา 2 ตัว
อายุ 17 ปี สามารถตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 1!
ฟุ่บ!
แม้ว่าแส้นั้นจะยังไม่ได้ฟาดมาถูกใบหน้าเขา แต่อาศัยเพียงแรงอัดของกระแสลมที่เกิดจากการฟาดแส้แหวกอากาศมา ก็ทำให้หลิงเทียนรู้สึกแสบที่ใบหน้าเล็กน้อย
อารมณ์ของหลิงเทียนดิ่งลงทันที
พริบตานั้นเขาพลันสะบัดมือออกมาด้วยความเร็วสูง
เขาใช้ออกด้วยความแข็งแกร่งเกือบถึงขั้นช้างแมมมอธโบราณ 3 ตัว เพื่อให้มันแสดงภาพเงาร่างช้างแมมมอธโบราณเพียง 2 ตัวเท่านั้น...
หมับ!
หลิงเทียนคว้าแส้นั้นไว้ได้อย่างง่ายดาย
หญิงสาวนั้นตกตะลึงอย่างมากนางคาดไม่ถึงจริงๆว่าหลิงเทียนจะสามารถคว้าจับแส้ของนางได้ง่ายดายเช่นนี้ แม้นางจะตกตะลึงแต่นางก็ไม่ลืมที่จะดึงแส้ให้หลุดออกจากมือของหลิงเทียน
"ฮึ่ม!"
แววตาของหลิงเทียนแปรเปลี่ยนไปก่อนที่จะออกแรงกระชากอีกครั้ง
ผลั่กก!
อาชาเหงื่อโลหิตนั้นยังคงพุ่งทะยานต่อไปแต่หญิงสาวนั้น กลับถูกหลิงเทียนกระชากจนตกลงมาจากหลังม้าอย่างสิ้นท่า ลงไปนอนโอดครวญอยู่บนพื้น
"น้องหญิงหรู! หยุดด!"
ท่าทีของชายหนุ่มที่ตามมานั้นบิดเบี้ยวอย่างมากมันหันมาจ้องหลิงเทียนด้วยแววตาอำมหิตก่อนที่จะเร่งรีบไปดูอาการของสตรีที่มากับมันทันที
"พี่สาม ข้าเจ็บเหลือเกิน"
ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด
"ไอ่บ้านนอกรู้หรือไม่ว่าพวกเราเป็นใคร?"
ใบหน้าของชายหนุ่มตอนนี้พลันฉายแววอำมหิตออกมา อีกทั้งน้ำเสียงของมันยังเย็นชาอย่างมาก
ต้วนหลิวเทียนเพียงยักคิ้ว ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างไม่แยแสว่า "ข้าไม่รู้ และก็ไม่สนใจที่จะรู้ด้วย"
"ไอเด็กบัดซบ หาที่ตาย!"
ใบหน้าของชายหนุ่มบิดเบี้ยวก่อนที่มันงอร่างและพุ่งออกมาราวกับกระสุน
ทันใดนั้นเหนือศีรษะของมันก็ปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 4 ตัว บ่งบอกถึงระดับบ่มเพาะของมัน
ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 3
หลิงเทียนเอียงคอเล็กน้อย
มีอายุแค่ 17 ปี แต่สามารถถึงระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 3 ได้ ...
พรสวรรค์ของมันนั้นนับว่าเหนือกว่า อัจฉริยะในรอบ 100 ปี อย่างเซี่ยวหยูซะอีก!
ปัง!
ชายหนุ่มนั้นพุ่งร่างมาราวกับกระสุนและฟาดฝ่ามือไปยังหัวม้าของหลิงเทียน
ใบหน้าของหลิงเทียนพลันเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวทันที ก่อนที่มันจะรีบถีบม้ากระโดดออกมาทันที
ม้าตัวนั้นร้องโอดครวญออกมาหลังจากโดนฟาดฝ่ามือ หลังจากนั้นมันก็ล้มลงและแน่นิ่งไป
มันถูกฟาดตกตายแล้ว
"ตาย!"
สายตาอำมหิตของชายหนุ่มยังคงจับจ้องไปยังหลิงเทียนอย่างไม่ลดละ
ฟุ่บ!
ร่างของมันโน้มลงมาซัดฝ่ามือใส่หลิงเทียนอีกครั้ง
บังเกิดภาพมายาฝ่ามือของมันนับสิบ ล้อมรอบปิดกั้นหนทางหลบหนีของหลิงเทียนไว้
"วิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง อีกทั้งยังมีความสำเร็จในขั้นตอนแก่นแท้"
หัวใจของหลิงเทียนเต้นถี่ขึ้นเล็กน้อย ความสามารถในการโจมตีของชายหนุ่มคนนี้นั้นนับว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าฝ่ามือเอกะของเซี่ยวหยูแม้แต่น้อย
แต่เมื่อคิดถึงระดับบ่มเพาะก่อกำเนิดขั้นที่ 3 ของมีที่มีความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณ 4 ตัว แม้จะเป็นเซี่ยวหยูเองก็คงรับมือมันอย่างยากลำบาก
"แต่ในเมื่อเจ้ามาเจอกับข้า ก็คิดซะว่าเจ้าอับโชคอย่างยิ่ง!" ดวงตาของหลิงเทียนพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาลง ก่อนที่มันจะเริ่มลงมือ
เขาระเบิดออกด้วยความแข็งแกร่งจนเกือบถึงขีดสุดของ 5 ช้างแมมมอธโบราณ ...
วิชาวาดกระบี่!
ฉับ!
กระบี่อ่อนดาราม่วงพลันเปล่งประกายออกมาเพียงเสี้ยวพริบตาสะบั้นไปยังภาพมายาภาพหนึ่งที่พุ่งเข้ามา
“อ๊าคคคค!”
ชายหนุ่มคนนั้นกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวนเมื่อมันถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป เมื่อร่างของมันตกพื้น มันกลิ้งไปกลิ้งมาที่พื้นพร้อมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดใบหน้าของมันฉายแววเสียใจออกมาอย่างสุดซึ้ง
แขนของมันถูกตัดขาดจนเสมอไหล่..
"พี่สาม!"
หญิงสาวพลันตื่นตระหนกอย่างมาก
"ท่านปู่ หวย!"
หญิงสาวรีบร้องออกมาอย่างสุดเสียง เสียงของนางดังกังวานไปไกล
ทันใดนั้นหลิงเทียนสังเกตได้ในพริบตาว่ามีชายชราคนหนึ่งพุ่งตัวมาจากที่ไกลๆ...
ในสายตาของหลิงเทียนนั้น ตอนแรกที่เขาเห็นชายชราคนนั้นตัวมีขนาดเท่ามดเท่านั้น แต่พริบตาต่อมาร่างกายของมันพลันมีขนาดใหญ่จนเกือบจะเท่ากำปั้นและเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ...
นั่นหมายความว่ามันกำลังใกล้เข้ามาด้วยความเร็วสูง!
"แย่แล้ว!"
ท่าทางของหลิงเทียนแปรเปลี่ยนไปเป็นตื่นตระหนกอย่างมากทันที มันรู้ว่าตัวตนนี้ทรงพลังขนาดไหน มันรีบกระทืบพื้นพุ่งร่างออกไปยังอาชาเหงื่อโลหิตของชายหนุ่มเมื่อครู่ ก่อนที่จะควบขี่ออกไปด้วยความร้อนรนสุดชีวิต
หนี!
ขาของหลิงเทียนเตะไปที่เอวของอาชาเหงื่อโลหิตอีกทั้งยังฟาดมันด้วยความแรง ทำให้มันพุ่งร่างออกไปเร็วราวกับสายลม
เขามองไปยังเมืองชิงลี่ที่อยู่ไม่ไกล และหันกลับมามองชายชราที่กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ ท่าทางของหลิงเทียนพลันตกวูบลงทันที
ตอนนี้มันหวังเพียงว่าชายชราจะใช้เวลารักษาอาการบาดเจ็บ และเชื่อมต่อแขนที่ถูกตัดขาดของชายหนุ่มคนนั้นนานเพียงพอ
มิเช่นนั้นเขาต้องตายอย่างแน่นอน!
ความเร็วของชายชราคนนี้ จากที่เขาประเมินได้เมื่อครู่ มันรวดเร็วกว่าอาวุโสหลักตระกูลลี่อย่างลี่ไท่มากนัก
ในแง่ของความรวดเร็วของมันนับว่าไม่ได้ด้อยกว่า ตัวตนที่น่าพรั่นพรึงของเมืองหมอกธารา อาวุโสหลักของตระกูลเหอ เหอซื่อเต๋าแม้แต่น้อย
เห็นได้ชัดว่าชายชราผู้นี้นั้นเป็นตัวตนที่ทรงพลังระดับ วิญญาณแรกกอตั้ง
ในขณะที่ควบม้าออกไปด้วยความเร็วสูง ภายในใจของหลิงเทียนนั้นเต็มไปด้วยความวิตกกังวลอย่างถึงที่สุด มันกลัวว่าชายชราจะเลือกละเลยการรักษาชายหนุ่มผู้นั้นและหันมาจับตัวเขาก่อน ...
ด้วยความแข็งแกร่งระดับนั้นของชายชราเขาไม่มีทางหนีรอดเลยถ้ามันหวังจับตัวเขา
"เร็วอีก เร็วขึ้นอีก!"
ขาของหลิงเทียนพลันเตะกระตุ้นอาชาเหงื่อโลหิตอย่างหวั่นวิตกโดยไม่หยุดยั้ง อาชาเหงื่อโลหิตก็พุ่งไปสุดกำลังเท่าที่มันทำได้ แต่หัวใจของหลิงเทียนก็ยังเต็มไปด้วยความร้อนรนและกังวลถึงขีดสุด
แม้ว่าอาชาเหงื่อโลหิตตัวนี้จะรวดเร็วกว่าอาชาที่เขานั่งมามากถึง 2 เท่าตัว ...
แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่ามันช้ามาก!