spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
"ลี่ชิงผู้นี้เสียสติไปแล้วอย่างแท้จริง!"
"ประมุขอุตส่าห์กล่าวตัดสินโทษออกมาอย่างดุดัน เพื่อหวังให้มันยุติวาจา แต่มันยังกล้ากล่าวออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากทำถึงขนาดนี้แล้วมันยังไม่โดนลงโทษแล้วยังมีผู้ใดที่จะโดนลงโทษกันอีกเล่า? "
"ถ้านี่ถ้าอาวุโสหลักรู้ว่า หลานชายของมันกล่าววาจาเหลวไหลถึงเพียงนี้ออกมาหลังจากที่มันตายไป มันจะทำอย่างไรนะ ... "
"นั่นน่ะสิ ถึงแม้อาวุโสหลักจะคิดเข่นฆ่าหลิงเทียนจริง แต่ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะลี่ชิงทั้งสิ้น หากไม่เห็นแก่มันท่านจะไปสังหารหลิงเทียนทำไม...เฮ่อ...มีหลานชายเช่นนี้ข้าเกรงว่าอาวุโสหลักที่อยู่ในปรโลกคงมิได้พักผ่อนอย่างสงบแน่ๆ "
“ฮึ่ม! ข้าเคยเคารพและนำมันมาเป็นแบบอย่างด้วยซ้ำ น่าสมเพชนัก "
“เหอะ หากเจ้าคิดจะหาแบบอย่างเหตุใดมิเอาต้วนหลิงเทียนล่ะ ปีนี้เขาคว้าอันดับ 1 ในงานชุมนุมมังกรซ่อน ทั้งๆที่เขาอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น นี่หมายความว่าอะไร? หมายความว่าหลังจากนี้อีก 2 ปี เขาก็ยังคงครองอันดับ 1 อยู่อย่างไรเล่า ผู้ใดจะไปสู้เขาได้กัน?”
......
ในขณะที่พวกเขากำลังประณามลี่ชิงนั้น พวกเขาก็ไม่ลืมนำลี่ชิงมาเปรียบเทียบกับต้วนหลิงเทียนด้วย
ลี่ชิงนั้นยังพอหลงเหลือข้อดีอยู่บ้างก่อนหน้านี้
แต่เมื่อพวกเขานำลี่ชิงมาเปรียบเทียบกับต้วนหลิงเทียน ข้อดีของมันก็หายไปจนหมดสิ้น...
"นี่ตัวเลวร้าย! คิดไม่ถึงจริงๆ เจ้ากลับได้รับความนิยมมากถึงเพียงนี้!"
ลี่เฟยมองไปยังหลิงเทียนด้วยแววตากลมโต
"เพราะข้ามีความสามารถเช่นนี้ไงเล่า โชคชะตาจึงนำพาเจ้ามาเป็นภรรยาข้า"
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาเบาๆ
“เพ้ย!”
เมื่อลี่เฟยหันไปสบตากับเค่อเอ๋อนางพลันเขินอายขึ้นมา
"นายน้อยข้าควรเรียกพี่หญิงเฟยว่า นายหญิงน้อยเลยหรือไม่เจ้าคะ?"
เค่อเอ๋อยิ้มเบาๆ
"เค่อเอ๋ออย่าไปบ้าจี้ตามตัวเลวร้ายสิ"
แกมของลี่เฟยที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงหนักเข้าไปอีก มากจนพาลให้คิดไปว่าโลหิตของนางคงมารวมอยู่ที่พวงแก้มจนหมดตัวแล้ว
ต้วนหลิงเทียนไม่อาจระงับเสียงหัวเราะเอาไว้ได้
แต่ทันใดนั้นหางคิ้วเขาก็กระตุกเล็กน้อย
"ต้วนหลิงเทียน อีกครึ่งชั่วยามข้าจะไปหาเจ้าที่บ้านพัก"
นี่เป็นการบีบอัดพลังงานต้นกำเนิดก่อนที่จะแปรสภาพมันออกมาเป็นคลื่นเสียง ทำให้คำกล่าวนี้ของลี่อู๋ มีเพียง หลิงเทียนคนเดียวที่ได้ยิน
ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองลี่อู๋ก่อนที่จะพยักหน้าเบาๆ
เขาเตรียมใจเอาไว้แล้ว
ถึงแม้ลี่อู๋จะคิดว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่สังหารลี่ไท่ แต่จากคำกล่าวของลี่ชิง จะอย่างไรเขาคงไม่พ้นเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 จะอย่างไรลี่อู๋ก็ต้องมาหาเบาะแสที่เขาก่อนเป็นอันดับแรก
ผู้คนในลานฝึกซ้อมหลักค่อยๆแยกย้ายกันไป เมื่อไร้สิ้นเรื่องราวใดๆให้พวกมันรับชม
"เอาล่ะ พวกเราเองก็ไปกันเถอะ ข้าว่าจะไปซื้อของสักหน่อย" ลี่เฟยกล่าวแนะนำออกมา
"ข้าเกรงว่าคงไปกับเจ้าไม่ได้ซะแล้ว"
ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมาเจื่อนๆ
คิ้วที่สวยงามของลี่เฟยขมวดลงเพราะความสงสัยเล็กน้อย "เจ้าจะไปทำอันใดรึ?"
"ประมุขได้พูดผ่านการบีบอัดพลังงานต้นกำเนิดกับข้าเมื่อครู่ เขาบอกว่าเขาจะมาหาข้าที่บ้านพัก อีกครึ่งชั่วยามหลังจากนี้ ... เจ้าคงไม่คิดให้ข้าขัดคำสั่งท่านประมุขหรอกนะ?"
ต้วนหลิงเทียนทำได้เพียงหัวเราะอย่างขมขื่น
"อะไรนะ?! ประมุขอยากพบเจ้าเหรอ? เขาคงไม่ได้คิดว่าเจ้าฆ่าอาวุโสหลักจริงๆหรอกนะ "
ลี่เฟยพลันตื่นตระหนกขึ้นมา
เค่อเอ๋อเองก็แสดงใบหน้ากังวลออกมา
"ไม่ต้องกังวลไป ท่านประมุขคงแค่จะกล่าวถามเบาะแสจากข้า แม้แต่เจ้าสองคนที่ใกล้ชิดกับข้ายังไม่เชื่อเลยว่าข้าจะสามารถฆ่าลี่ไท่ได้ แล้วท่านประมุขจะไปเชื่อเรื่องไร้สาระนี้ได้อย่างไร" หลิงเทียนกล่าวด้วยท่าทีไม่ได้กังวลอะไร
ครึ่งชั่วยามต่อมา
ประมุขลี่อู๋มาถึงตรงตามเวลานัดพอดี
ต้วนหลิงเทียนก็ออกมารอต้อนรับเขาที่ โต๊ะหินอ่อนบริเวณลานบ้าน
"ต้วนหลิงเทียน ข้ารู้อย่างแน่นอนว่าระดับความแข็งแกร่งของเจ้านั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารผู้อาวุโสหลัก แต่เนื่องจากอาวุโสหลักนั้นกำลังติดตามเจ้าเข้าไปในป่าหมอกมรณะ ข้าเลยอยากถามว่าเจ้าพอมีเบาะแสอันใดไหม"
ลี่อู๋เข้าประเด็นทันที
เขานั้นมีความรู้สึกซับซ้อนกับหลิงเทียนไม่น้อย
ตอนแรกเขาคิดว่าต้วนหลิงเทียนคงแข็งแกร่งกว่าลี่ชิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าในงานชุมนุมมังกรซ่อน เขาถึงขนาดเอาชนะหลินฉวนของตระกูลหลิน อีกทั้งยังสามารถเอาชัยจากเซี่ยวหยูจากตระกูลเซี่ยวได้เช่นนี้
อันที่จริงจะกล่าวละเลยหลินฉวนไปเลยก็ย่อมได้
เพราะเซี่ยวหยูนั้นหาใช่อัจฉริยะในรอบ 100 ปีของตระกูลเซี่ยวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มันยังเป็นอัจฉริยะในรอบ 100 ปีของเมืองออโรร่าแห่งนี้อีกด้วย
แม้กระทั่งเขาเองที่เป็นประมุขยังต้องถอนหายใจเพราะความเสียดายบ่อยๆ
นี่เพราะเขามักคิดไปว่า หากเซี่ยวหยูเกิดมาในตระกูลลี่แล้วล่ะก็ ตระกูลลี่จะเป็นอย่างไร
แต่ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกลับสามารถเอาชนะเซี่ยวหยูได้ เขานั้นตกใจจนหัวใจเกือบหยุดเต้น
และที่สำคัญต้วนหลิงเทียนยังมีอายุเพียง 16 ปี!
เขาสามารถคาดเดาได้เลยว่าอีกหลังจากนี้ 2 ปียามที่ต้วนหลิงเทียนอายุ 18 ปี มันจะแข็งแกร่งขึ้นจนทิ้งห่างผู้อื่นถึงขนาดไหน คาดว่าคงไม่มีผู้ใดในหมู่รุ่นเยาว์ที่สามารถเทียบเทียมมันได้
"เอาล่ะท่านประมุข ข้าย่อมรู้ว่าท่านหมายความว่าอย่างไร ข้าเข้าป่าหมอกมรณะไปก็เพื่อต่อสู้กับสัตว์ดุร้าย แต่ข้าหาได้พบเจอสิ่งที่ผิดปกติไม่ ตัวอาวุโสหลักเองข้าก็ไม่ได้เจอเขา อันที่จริงด้วยความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสหลัก เกรงว่าถึงเขาจะติดตามข้าอยู่...ข้าก็คงไม่อาจรู้สึกตัวได้อย่างแน่นอน"
เมื่อกล่าวจบหลิงเทียนมีทีท่าผิดหวังเล็กน้อย
"ข้าเข้าใจเรื่องนี้ดีข้าเพียงแค่ถามเผื่อเอาไว้เท่านั้น แต่ถึงแม้เจ้าจะไม่สามารถจับสัมผัสของอาวุโสหลักได้เจ้าก็ไม่ต้องท้อแท้ไปหรอก ... จะอย่างไรเขาก็อยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 8 แล้ว ด้วยระดับพรสวรรค์ของเจ้าเกรงว่ายังอายุไม่ทันถึง 30 เขาก็หาใช่คู่ต่อสู้เจ้าไม่ "
ลี่อู๋พยักหน้ารับคำก่อนที่จะกล่าวปลอบใจออกมา
"ข้าจะขยันฝึกฝน"
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าก่อนที่จะเชิดหน้าขึ้นมาอย่างองอาจ
ลี่อู๋ลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมา "ยังมี... เรื่องก่อนหน้านี้ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ตำหนิข้า นี่เป็นเพราะข้าทำไปเพื่อรักษาหน้าตระกูลเท่านั้น "
ตอนนี้เขากังวลใจเล็กน้อย เพราะต้วนหลิงเทียนในวันที่เขาบอกให้ยอมแพ้ลี่ชิง กับต้วนหลิงเทียนในวันนี้นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เขาสามารถได้อันดับ 1 ในงานชุมนุมมังกรซ่อนด้วยวัยเพียง 16 ปี ...
นับตั้งแต่มีการจัดงานชุมนุมมังกรซ่อนมาอาจจะกล่าวได้ว่านี่เป็นผู้ชนะเลิศที่อายุน้อยที่สุด
ต้วนหลิงเทียนเรียกได้ว่าเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ขึ้นมาแล้ว
ถึงแม้ว่าตอนนี้หลิงเทียนนั้นจะมีสถานะเป็นเพียงคนจากตระกูลลี่สาขาซ้ำยังใช้แซ่อื่นอีกด้วย แต่ทว่าไม่ว่าจะเป็นใครยามพบหน้ามันก็ต้องไว้หน้าไม่น้อย
"ท่านประมุขท่านก็กังวลมากเกินไปแล้ว"
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัว
ลี่อู๋หยิบตั๋วเงินปึกใหญ่ออกมาก่อนที่จะวางไว้บนโต๊ะหินอ่อน "เงินนี้นับเป็นของรางวัลจากความประทับใจของตระกูล"
"ท่านประมุขนี่มัน ... "
ต้วนหลิงเทียนรู้สึกลิงโลดขึ้นมาในใจ
ตั๋วเงินนี่แต่ละใบนับว่ามีมูลค่าสูงสุดคือ 10,000 เหรียญเงิน
จากการประมาณด้วยสายตาหลิงเทียนบอกได้เลยว่าปึกนี้น่าจะมีเงินราวๆ 1,000,000 เหรียญเงิน
"เจ้าสามารถนำเกียรติยศมาสู่ตระกูลด้วยการคว้าชัยชนะเลิศในงานชุมนุมมังกรซ่อนมาได้ ... ข้าได้ไปบอกกล่าวกับผู้หลอมโอสถประจำตระกูลทั้ง 3 คนเอาไว้แล้ว หากเจ้าต้องการใช้โอสถอันใดบ่มเพาะหรือฝึกฝน เจ้าสามารถไปซื้อหาวัตถุดิบแล้วนำไปให้พวกเขาหลอมให้เจ้าได้ พวกเข้าจะไม่คิดเงินกับเจ้า "
ลี่อู๋ยิ้มบางๆ
หลายสิบปีที่ผ่านมานี้ ตำแหน่งอันทรงเกียรติรายนามอันดับ 1 ในงานชุมนุมมังกรซ่อนนี้ ตระกูลลี่พลาดมันมาเสมอ พวกมันได้แต่มองไปยังตระกูลเซี่ยวและตระกูลหลินด้วยความอิจฉามาตลอดเวลา
แต่ทว่าครานี้ต้วนหลิงเทียนกลับนำพาเกียรติยศนั้นมาสู่ตระกูล
หากจะมองนึกย้อนไปพวกมันก็อดละอายใจไม่ได้ ที่ยามพบกับเซี่ยวหยูหรือหลินฉวนนั้น พวกมันได้แต่อิจฉา และภาวนาอยากให้มีคนในตระกูลแข็งแกร่งเช่นนั้นบ้าง...
"ขอบคุณท่านประมุข"
ต้วนหลิงเทียนรีบกล่าวออกมาอย่างกตัญญู
"แล้วถ้าเจ้าต้องการหลอมสร้างอาวุธเจ้าสามารถไปหาผู้อาวุโสหลักลี่เต๋อได้ เจ้าเองก็มีสัมพันธ์อันดีกับลี่เฟย ดังนั้นข้าคิดว่าการที่เจ้าจะไปขอร้องให้เขาช่วยหลอมสร้างอาวุธวิญญาณให้เจ้า คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร" ลี่อู๋กล่าวออกมา
ลี่เต๋อ?
หลิงเทียนสงสัยเล็กน้อย
"ฮ่าฮ่า ท่านประมุข อย่าได้กังวลเรื่องนี้ หากหลิงเทียนต้องการอาวุธวิญญาณ ต่อให้เฒ่าชราผู้นี้ต้องเหน็ดเหนื่อยแทบตาย ข้าก็จะหลอมสร้างอาวุธให้มันอย่างดีที่สุด "
เสียงเบิกบานของคนผู้หนึ่งพลันดังขึ้นมา
ต้วนหลิงเทียนหันไปมองก็เห็นลี่เฟยและปู่ของนางกำลังเดินเข้ามา
ต้วนหลิงเทียนจึงคิดได้ในที่สุด
เช่นนั้น นามลี่เต๋อนี้ คือนามของปู่ลี่เฟยนั่นเอง และเป็นผู้หลอมสร้างศาสตราที่ประมุขพึ่งกล่าวออกมา
ตาของหลิงเทียนกระพริบเล็กน้อยด้วยมวลอารมณ์ตื้นตัน
เขารู้ดีว่าลี่เฟยกลัวว่าเขามีปัญหา จึงรีบไปพาปู่มาช่วยพูดกับประมุข
"ท่านผู้อาวุโสหลัก ลี่เต๋อ!"
เมื่อเห็นชายชราเดินมา ลี่อู๋รีบลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพทันที
ตระกูลลี่นั้นมีผู้หลอมโอสถ 3 คน
อย่างไรก็ตามหลังจากประมุขคนก่อนที่เป็นบิดาของเขาจากไป ตระกูลลี่ก็มีเพียงผู้อาวุโสหลักลี่เต๋อคนนี้ที่เป็นผู้หลอมศาสตราระดับ 9 เพียงคนเดียวเท่านั้น
"ท่านประมุข อย่าได้มากพิธีแล้ว" ลี่เต๋อกล่าวอย่างสบายอารมณ์
ทันใดนั้นท่าทางของลี่อู๋พลันตื่นตะลึง
เพราะสายตาเขาดันเหลือบไปเห็นตราประจำตัวผู้หลอมศาสตราของลี่เต๋อ
ตราสัญลักษณ์ที่สลักไว้ด้วยเลข 8 สีแดง ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้าน
ลี่อู๋สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย "ท่านผู้อาวุโสลี่เต๋อ ... ท่านสามารถเลื่อนระดับเป็นผู้หลอมศาสตราระดับ 8 ได้แล้วหรือ?"
"นับว่าสายตาของประมุขเองมีความแหลมคมไม่เบา"
ลี่เต๋อพยักหน้ารับเบาๆ
เมื่อได้รับการยืนยันลมหายใจของลี่อู๋พลันปั่นป่วนเล็กน้อย อีกทั้งในอกของเขายังสั่นสะเทือนราวกับมีวงกลองทุบกระหน่ำบรรเลงอยู่
เพราะจากที่เขารับรู้ ภายในเมืองออโรร่าแห่งนี้ มีผู้หลอมศาสตราระดับ 8 เพียงคนเดียวคือหัวหน้าสมาคมผู้หลอมศาสตราประจำเมืองออโรร่า
แต่ตอนนี้ตระกูลลี่ของพวกเขา ก็มีผู้หลอมศาสตราระดับ 8 เช่นกัน!
นี่เป็นข่าวดีที่น่าตื่นตะลึงนัก!!
"ผู้อาวุโสลี่เต๋อข้าขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย ที่สามารถบรรลุผู้หลอมศาสตราระดับ 8 ได้เช่นนี้ เอาล่ะ ตั้งแต่ท่านผู้อาวุโสหลักมีเรื่องที่จะกล่าวกับหลิงเทียน เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวก่อน ไม่รบกวนท่านแล้ว" ลี่อู๋กล่าวอำลาลี่เต๋อ ก่อนที่จะพยักหน้าให้กับหลิงเทียนและลี่เฟย ก่อนที่จะจากไปพร้อมความยินดี
"ตัวเลวร้าย เขาหาได้สร้างความลำบากให้เจ้าใช่หรือไม่?" ลี่เฟยถามอย่างกังวล
"ไม่เลย ท่านประมุขยังนำเงินมามอบให้ข้าอีกด้วย"
ต้วนหลิงเทียนชี้ไปยังปึกตั๋วเงินบนโต๊ะหินอ่อน
ลี่เฟยจ้องไปที่ตั๋วเงินด้วยดวงตากลมโตอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยความตกใจ "นะ 1,000,000 เหรียญเงิน! ... ประมุขช่างใจกว้างนัก!"
"หลิงเทียนดูเหมือนว่ายามนี้เจ้าจะร่ำรวยกว่าข้าเสียอีก"
ลี่เต๋อหัวเราะออกมา
"ท่านปู่ท่านจะเอาข้าไปเทียบกับท่านได้อย่างไร? ท่านเพียงหลอมสร้างอาวุธให้ผู้คนในตระกูลเอาไว้ใช้งาน หาได้หลอมขายผู้ใด อีกทั้งท่านยังมิได้เรียกเก็บเงินค่าหลอมที่มากมายอันใด มิเช่นนั้นเกรงว่าป่านนี้ท่านคงมั่งคั่งจนไม่อาจประมาณทรัพย์สินได้แล้ว "
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัว
นี่เป็นเรื่องที่เขาได้รู้จากลี่เฟย
"ไอ้หยา ดูเหมือนหลานสาวข้าจะขายเฒ่าชราผู้นี้มานานแล้ว เฮ่อ...จะอย่างไรหัวใจของเด็กสาวก็ไม่พ้นต้องอยู่กับบุรุษของมัน "
ขณะที่กล่าวจบลี่เต๋อยังกล่าวออกมาพร้อมถอนหายใจ "จะอย่างไรเมื่อหญิงสาวเติบโตแล้วก็ต้องจากบ้านไป... "
ลี่เฟยรีบคว้ามือของลี่เต๋อก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ท่านปู่ท่านกล่าวอันใดกัน? ข้าจะเป็นหลานสาวที่น่ารักของท่านตลอดไป "
"ท่านผู้อาวุโสลี่เต๋อ"
หลังจากที่ได้ยินเสียงสนทนาในสวน ลี่หลัวจึงเดินออกมาดู และเมื่อพบกับลี่เต๋อนางก็กล่าวออกมาด้วยความเคารพ
"เจ้าเป็นมารดาของหลิงเทียนใช่หรือไม่? เจ้าช่างมีลูกชายแสนประเสริฐนัก ... "
ลี่เต๋อพยักหน้ารับก่อนที่จะกล่าวชมออกมา ลี่หลัวนั้นยิ้มแย้มดีใจอย่างมาก
"อาวุโสท่านกล่าวชมเกินไปแล้ว " ลี่หลัวกล่าวออกมาอย่างสุภาพ
"เอาล่ะอันที่จริงข้ามาที่นี่ ก็เพื่อจะถามความเห็นของเจ้าด้วย... ดูเหมือนต้วนหลิงเทียนบุตรเจ้ากับลี่เฟยหลานข้าจะชอบพอกันไม่น้อย เหตุใดพวกเราไม่จัดงานแต่งให้พวกเขากันล่ะ? เจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง? "
“ท่านปู่!”
ลี่เฟยกล่าวออกมาด้วยความเขินอาย นางไม่นึกเลยว่าอยู่ๆปู่จะกล่าวเรื่องนี้
"อะไร เจ้าไม่ต้องการแต่งงานกับหลิงเทียนแล้วหรือ?"
ลี่เต๋อกล่าววาจาออกมาอย่างหยอกล้อ
"ท่านปู่ กลั่นแกล้งเฟยแล้ว!"
ลี่เฟยกล่าวออกมาเบาๆ ก่อนที่จะก้มหน้างุดลงไป นางไม่กล้ามองทั้งหลิงเทียนและลี่หลัว
"ท่านผู้อาวุโสข้าเองไม่คิดคัดค้านอันใด ตราบเท่าที่เป็นความสุขของบุตรข้า ข้าล้วนยินดียิ่ง แต่ข้าต้องบอกกล่าวแก่ท่านผู้อาวุโสไว้ก่อน หลิงเทียนลูกชายข้าได้หมั้นหมายไว้ก่อนหน้านี้แล้ว "หลี่ ลี่หลัวกล่าวออกมา
"ข้าย่อมรับทราบเรื่องนี้ เป็นแม่นางน้อยเค่อเอ๋อคนนั้นใช่รึไม่?"
ลี่เต๋อกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
"เค่อเอ๋อทำความเคารพผู้อาวุโสเจ้าค่ะ"
เค่อเอ๋อที่เดินตามเสียงออกมาเช่นกัน เมื่อเห็นผู้อาวุโสมองมา ก็รีบวิ่งมาทำความเคารพอย่างน่าเอ็นดู
"ไม่ผิดจากที่คาดช่างงดงามและจิตใจบริสุทธิ์นัก อา..น่าเอ็นดูยิ่ง ... หลิงเทียนผู้นี้นับว่ามีโชคยิ่งนัก"
ลี่เต๋อจ้องมองเค่อเอ๋ออยู่ครู่หนึ่ง แววตามันเต็มไปความเอ็นดู ยามที่มันจ้องเค่อเอ๋อ นางถึงกับเขินอายจนเดินไปหลบซ่อนหลังลี่หลัว นี่นับว่าช่างน่ารักนักน่าเอ็นดูนัก