spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
แต่อย่างไรก็ตามสถานะของซื่อโหมวนั้นเป็นถึง ผู้หลอมโอสถ ระดับ 8 อีกทั้งยังมีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถ ประจำเมืองนี้อีกด้วย แม้แต่อาวุโสหลักของ ทั้ง 3 ตระกูลใหญ่ที่มีไม่ต่างอะไรกับประมุขของตระกูล เมื่อพบหน้า ซื่อโหม่ว พวกมันยังต้องเรียกเขาว่า "หัวหน้า ซื่อ"
"นำบัตรคริสตัลของเจ้ามา"
ซื่อโหมวมองไปยังหลิงเทียนด้วยแววตาขมขื่นราวกับมันอยากจะร้องไห้ แต่จะอย่างไรมันก็ต้องเลือกหนทางประนีประนอมอันนี้เอาไว้
เพราะสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาเมื่อครู่ตัวมันนั้นเริ่มรู้สึกเช่นนั้นมาอยู่สักพักแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีประสบการณ์การเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 7 มาก่อน เขาจึงไม่รู้วิธีและไม่รู้ว่าควรก้าวเดินไปยังหนทางใดกันแน่ เมื่อเป็นเช่นนี้การเดินทางสายนี้ของเขาจึงมีพลาดบ้างสะดุดบ้างติดขัดบ้าง
และตอนนี้เขามีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้หลอมโอสถ ถึงแม้มันจะน้อยนิดอย่างไรเขาย่อมไม่พลาดมันอย่างแน่นอน
ตราบเท่าที่เขาสามารถกลายเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 7 ได้เขาไม่จำเป็นต้องกลัวผู้ใดในสมาคมหลอมโอสถหลัก อีกทั้งเขาจะได้ย้ายออกไปจากสถานที่โกโรโกโสนี่เสียที
เมืองออโรร่าของอาณาจักรเมฆาล่องนี้นับว่าเป็นเมืองเล็กๆ
ในอดีตเขาได้ล่วงเกินผู้มีอำนาจคนหนึ่ง เขาจึงถูกพวกมันส่งมาดักดารอยู่ในเมืองเล็กๆเช่นนี้
แต่ทว่าตราบใดที่เขาสามารถกลายเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 7 กลุ่มคนเหล่านั้นจะไม่สามารถทำกระไรเขาได้อีก
สำหรับผู้หลอมโอสถระดับ 7 และระดับ 8 นั้นมันอาจจะดูว่าต่างกันเพียงแค่ขั้นเดียว แต่ทว่าขั้นเดียวนี้มันเปรียบเสมือนฟ้ากับดิน
ในอาณาจักรเมฆาล่องแห่งนี้หากจะนับไปอาจจะมีผู้หลอมโอสถระดับ 8 ไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ที่มาลงทะเบียนกับสมาคมผู้หลอมโอสถอย่างเป็นทางการ
แต่ทว่าผู้หลอมโอสถระดับ 7 นั้นมีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น
ผู้หลอมโอสถระดับ 7 นั้นมีสถานะสูงส่งอย่างยิ่ง แม้แต่คนของราชวงศ์เมื่อพบเห็นพวกมัน ก็ไม่กล้าที่จะล่วงเกินอะไรซ้ำพวกมันยังต้องให้เกียรติด้วยซ้ำ
"ฮ่าๆ อย่ากังวลไปเลย รับรองท่านหาได้ขาดทุนอันไม่ เชื่อข้าสิ"
ต้วนหลิงเทียนฉีกยิ้มกว้างออกมาในขณะที่ยื่นส่งบัตรคริสตัลออกไป
ซื่อโหมวเองก็หยิบบัตรคริสตัลของมันออกมา ก่อนที่มันจะสะบัดเล็กน้อยเผยให้เห็นจำนวนแต้มภารกิจที่มันมี
แต้มภารกิจ 10,000 แต้ม
เมื่อหลิงเทียนเห็นแต้มภารกิจนี้เข้า มันอดไม่ได้จนถึงกับต้องเป่าปากออกมา
หลังจากที่เทียบราคา 10,000 เหรียญเงิน มีค่า 100 แต้ม
นั่นแสดงว่าหากแลกแต้ม 10,000 แต้มนี้ไป เท่ากับว่ามีเงินถึง 1,000,000 เหรียญเงิน...
เงิน 1,000,000 เหรียญเงินนั้น คิดว่ามันทำอะไรได้บ้างล่ะ?...
หลังจากที่ได้รับการถ่ายโอนแต้มภารกิจจากซื่อโหมว แต้มบนบัตรคริสตัลของต้วนหลิงเทียนก็กลายเป็น 5,060 แต้ม
ต้วนหลิงเทียนรับบัตรคริสตัลมาด้วยความพึงพ่อใจก่อนที่จะกล่าวออกมาพร้อมน้ำเสียงช่วยไม่ได้ "เฮ่อ ตอนแรกนั้นข้ากะจะคิดราคา ความช่วยเหลือนี้เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ... แต่ผู้ใดใช้ให้ท่านโกงข้าเรื่องเตาหลอมโอสถกันเล่า แค่เพียง 10 คะแนนท่านยังคิดเล็กคิดน้อยถึงเพียงนี้ ข้าเลยคิดว่าคงไม่อาจยินยอมช่วยเหลือท่านง่ายดายด้วยเช่นกัน"
ซื่อโหมวได้แต่ฝืนยิ้มออกมาอย่างสลดหดหู่
นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาเสียแต้มภารกิจไปราวๆ 2,000 แต้ม เพื่อแลกกับ 10 แต้มนั้นหรอกเหรอ?
แม้แต่ลำไส้ของเขายังถึงกับบิดเป็นเกลียวด้วยความเสียใจ!
“ฮิฮิ!”
ลี่เฟยส่งเสียงหัวเราะออกมาราวใบหน้านางแจ่มใสราวกับดอกไม้บาน ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าคำกล่าวของหลิงเทียนยามที่เขากล่าวว่า "แล้วท่านจะเสียใจ" นั้นหมายความว่าอย่างไร
ที่แท้เป็นเพราะเขาวางแผนเอาไว้เช่นนี้นี่เอง
"เอาล่ะตั้งแต่พรุ่งนี้ท่านก็เริ่มมาหาข้าที่ตระกูลลี่ได้เลย เอาเป็นยามเที่ยงแล้วกัน... อ่อใช่ อย่าได้ลืมกินข้าวก่อนมาด้วยล่ะ ข้าไม่คิดเลี้ยงอาหารท่านหรอกนะ บ้านข้ายากจน"
ต้วนหลิงเทียนคว้ามือลี่เฟยก่อนที่จะเดินจากซื่อโหมไปอย่างมีชัย...
ซื่อโหมวได้แต่มองหลิงเทียนและลี่เฟยจากไปด้วยสายตาละห้อย ก่อนที่มันจะหรี่ตาลงเล็กน้อย
ตระกูลลี่มันมีตัวประหลาดน้อยนี้โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ในระหว่างทางกลับ
"เจ้านับว่าโหดร้ายมาก ถึงกับเรียกร้องแต้มภารกิจมันตั้งครึ่ง"
ลี่เฟยมองไปยังต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส
หลังจากที่นางเห็นซื่อโหมวโดนหลิงเทียนตอกหน้ากลับไป นางช่างสะใจยิ่งนัก!
"เฮอะ ผู้ใดให้มันมาหลอกข้าก่อนเล่า ...มันเอาแต้มข้าไปตั้ง 10 แต้ม ข้าแค่ขอยืมใช้เตาหลอมมันเพียงชั่วครู่เท่านั้น 10 แต้มนั่นมันเป็นเงิน 1,000 เหรียญเลยนะ!"
ต้วนหลิงเทียนยังแสดงท่าทีเจ็บปวดออกมาในขณะที่พูดเรื่องนี้...
"มันได้เงินไป 1,000 เหรียญ แต่เสียเงินมา 500,000 เหรียญ ... ข้าสงสัยจริงๆคืนนี้มันจะนอนหลับหรือไม่"
ลี่เฟยหัวเราะคิกคัก
ต้วนหลิงเทียนได้แต่มองนางอย่างหลงใหล
"เจ้ามองอันใด?"
ลี่เฟยถามออกมาด้วยน้ำเสียงดุเล็กน้อย
"เสี่ยวเฟยภรรยาข้าช่างงามนัก" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างกระหาย
“เพ้ย! ผู้ใดเป็นภรรยาเจ้ากัน? ไปเลย ไปหาเค่อเอ๋อของเจ้านู่น "
"อะไร เจ้าหึงข้าถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่ยอมรับว่าเป็นภรรยาข้า?"
"ข้าไม่ยอมรับ!"
"ก็ได้เช่นนั้นข้าจะกลับไปหาแม่นางเซี่ยวหลัน ... "
"เจ้ากล้าเหรอ!"
......
ทั้งคู่เดินโต้เถียงกันมาอย่างสนุกสนานก่อนที่จะกลับถึงที่พักตระกูลลี่ ก่อนที่จะเดินมาบ้านพักของลี่เฟย
"หืม? เจ้าหลอมโอสถเสร็จไวถึงเพียงนี้?"
เมื่อชายชราเห็นต้วนหลิงเทียนยื่นขวดหยกบรรจุโอสถมา 3 เม็ดมันถึงกับตื่นตะลึง
"มันเป็นเพียงโอสถระดับ 9 เท่านั้น ท่านปู่จะให้ข้าใช้เวลานานถึงเพียงไหนกัน"
ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ
"แล้วเจ้าได้รับเตาหลอมมาจากที่ใด? อย่าได้บอกข้าเชียวนะ! ด้วยเวลาเพียงเท่านี้เจ้ากลับหลอมสร้างเตาหลอมโอสถขึ้นมาอีกด้วย "
ชายชราได้แต่มองหลิงเทียนด้วยสายตาราวกับเขาเป็นตัวประหลาด
"ฮ่าๆ ข้าเปล่านะท่านปู่"
ต้วนหลิงเทียนปฏิเสธออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ
"ท่านปู่ เขานั้นใช้เตาหลอมโอสถของหัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถประจำเมืองออโรร่าของเรา ซื่อโหมว... ฮึ่ม! แต่ซื่อโหมวผู้นั้นช่างตระหนี่นัก เขาเรียกร้องราคาต้วนหลิงเทียนมากถึง 1,000 เหรียญเงิน ทั้งที่เขาใช้เตาหลอมของมันเพียงแค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้น"
คิ้วที่สวยงามของลี่เฟยพลันขมวดเป็นปม ยามกล่าวเรื่องที่ซื่อโหมวบังอาจหลอกเอาเงินเด็กน้อยอย่างพวกนางไป ใบหน้านางไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรในขณะที่พูด
"เป็นเช่นนี้หรอกหรือ? อย่างไรก็เพียง 1,000 เหรียญเงินเท่านั้น? ปู่ย่อมจ่ายให้ได้ หามีปัญหาอันใดไม่"
แล้วชายชราก็กล่าวออกมาต่อในขณะที่หันไปมองต้วนหลิงเทียน "เด็กน้อยแล้วค่าโอสถทั้งสามเม็ดนี่เจ้าคิดราคาเท่าไร เจ้ารวมราคาทั้งหมดมาเถิดข้าจะหยิบเงินให้เจ้า"
"ไม่ๆ ท่านปู่นี่เป็นของขวัญที่ข้าตั้งใจมอบให้ท่าน จะให้ข้าคิดเงินท่านได้อย่างไรเล่า "
ในขณะที่ชายชรากล่าวถามมันเรื่องราคา หลิงเทียนเหลือบไปเห็นลี่เฟยจ้องขาด้วยสายตาราวกับแม่เสือสาว นางคงบอกเขาอยู่ในใจว่า "ลองเจ้ากล้าคิดเงินปู่ข้าดูสิ ข้าจะไม่มีวันยกโทษให้เจ้า"
"ฮ่า ๆ ... เอาล่ะๆ จะอย่างไรเงินของชายชราผู้นี้ในอนาคตก็ต้องเป็นของลี่เฟยทั้งหมดอยู่ดี"
ชายชราพยักหน้ารับและไม่เซ้าซี้อะไรต่อ
เพราะอย่างไรในหัวใจเขาก็มองว่าต้วนหลิงเทียนเป็นหลานเขยเขาไปแล้ว
"ท่านปู่ท่านกล่าวอันใดกัน? ท่านนั้นแน่นอนว่าต้องอยู่กับข้าไปอีกนาน สำหรับชายผู้นี้เขามิมีวันขาดเงินหรอก เขาพึ่งโกงซื่อโหมวมาตั้ง 500,000 เหรียญเงิน "
ลี่เฟยนั้นถึงกับเผาหลิงเทียนกับปู่ของนางออกมาต่อหน้าเจ้าตัว!
"อะไร !! 500,000 เหรียญเงิน?"
ชายชราถึงกับกล่าวออกมาอย่างตื่นตระหนก
ถึงแม้เขาจะเป็นผู้หลอมศาสตรา ระดับ 9 แต่ทรัพย์สมบัติที่เขาเก็บสะสมมาตลอดครึ่งชีวิตนี้ยังมีไม่ถึง 500,000 เหรียญด้วยซ้ำ ...
"เกิดอันใดขึ้นกันแน่ เล่ามาให้ข้าฟังทั้งหมด?"
ชายชรากล่าวถามออกมาด้วยความอยากรู้
ลี่เฟยก็เล่าเรื่องออกมาตามลำดับเหตุการณ์
"ฮ่าฮ่า ... ที่แท้เป็นเช่นนั้น ครานี้คงกล่าวได้ว่า เป็นหัวหน้าสมาคมซื่อหาเรื่องใส่ตัวเองแล้ว เจ้านี่ก็จริงๆเลย"
ชายชราไม่อาจระงับเสียงหัวเราะของเขาได้
หลังจากที่หัวเราะอยู่ครู่หนึ่งชายชราก็หยุดหัวเราะก่อนที่จะมองไปยังหลิงเทียนด้วยแววตาจริงจัง "เด็กน้อยครั้งนี้คงต้องบอกว่าเจ้าโชคดีมากแล้ว หัวหน้าสมาคมซื่อนั้นมีชื่อเสียงเรื่องเป็นคนจิตใจดีและซื่อตรง ... คราวหน้าเจ้าอย่าคิดใช้ลูกไม้แบบนี้กับผู้มีอำนาจคนอื่นเชียว มิเช่นนั้นยามที่พวกมันบรรลุเป้าหมายของพวกมันแล้ว มันอาจจะคุกคามชีวิตเจ้าเพื่อระบายโทสะได้ "
“ท่านปู่อย่าได้กังวล ข้ารู้ดีว่าควรทำเช่นไร”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำเตือนครั้งนี้มา
อย่างไรก็ตามภายในใจนั้นเขากลับคิดไปอีกอย่าง
เรื่องที่ชายชราพูด นับว่าเขาได้คิดเอาไว้มานานแล้ว และเขาก็คิดวิธีรับมือบุคคลจำพวกนี้เอาไว้แล้วด้วย
ในลานบ้าน
ปงง!
ร่างๆหนึ่งเคลื่อนไหวไปมาด้วยความเร็วก่อนที่มันจะรวมพลังไปที่นิ้วชี้แล้วส่งออกไปจู่โจมก้อนหินปลดปล่อยพลังทำลายออกมา
ดัชนีอุดรทมิฬ!
แน่นอนว่าคนผู้นี้ย่อมเป็นลี่ชิง
นิ้วชี้ขวาของมันได้รับการเชื่อมต่อโดยสมบูรณ์แล้ว และตอนนี้มันก็ออกมาทดสอบว่านิ้วของมันนั้นสามารถฟื้นตัวได้ถึงเพียงไหน
ตูมมม!
ดัชนีอุดรทมิฬพุ่งไปปะทะเสาหินในลานบ้าน
เมื่อมันบรรลุผล เสาหินถูกกระแทกจนเกิดรอยแตกร้าว ราวกับใยแมงมุมออกไปทั่วบริเวณรอบนิ้วชี้
“อา!”
ลี่ชิงร้องออกมา ก่อนที่มันจะจับนิ้วชี้ด้วยความเจ็บปวดก่อนที่เหงื่อจะไหล่ท่วมออกมา
"ลี่ชิงเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรผิดพลาดงั้นรึ?"
ร่างหนึ่งทะยานออกมาจากบ้านเพื่อพุ่งมาหาลี่ชิงที่ลานฝึกซ้อม ท่าทางของมันแลดูเป็นกังวลและห่วงใยลี่ชิงเป็นอย่างมาก
มันเป็นผู้อาวุโสหลักของตระกูลลี่ และเป็นปู่แท้ๆของลี่ชิง
ลี่ไท่
"ท่านปู่ ดัชนีอุดรทมิฬของข้าจบสิ้นแล้ว!"
ใบหน้าของลี่ชิงพลันเปลี่ยนเป็นสิ้นหวัง มันไม่คิดยอมรับความจริงข้อนี้
กว่าที่มันจะฝึกฝนวิชาดัชนีอุดรทมิฬนี้ได้นับว่ายากลำบากอย่างมาก อีกทั้งมันยังฝึกวิชานี้เพียงวิชาเดียว นั่นทำให้รู้ว่ามันทุ่มเทกับวิชานี้มากถึงเพียงใด
วิชาที่ใช้ดัชนีนั้นนอกจากจะอันตรายอย่างมากแล้ว วิธีฝึกฝนของพวกมันยังยากกว่าวิชาทั่วไปหรือวิชาอื่นๆในระดับเดียวกัน ถึง 10 เท่า
หากมันทุ่มเทความพยายามและฝึกฝนวิชาดัชนีอุดรทมิฬนี้จนถึงความสำเร็จในขั้นตอนแก่นแท้จะไม่มีวิชาโจมตีระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงวิชาไหนที่สามารถเอาชนะมันได้ในแง่ของพลังทำลาย เพราะวิชานี้นั้นว่าเป็นการรวบรวมพลังงานต้นกำเนิดเพื่อผนึกรวมศูนย์เป็นจุดๆเดียว ความหนาแน่นของพลังและความอันตรายอีกทั้งความสามารถในการทะลุทะลวงของมัน นับว่าน่าสะพรึงกลัวมากนัก
"โถ่หลานปู่ หากเจ้าไม่สามารถใช้มือขวาได้เชนนั้นก็ลองฝึกฝนมันด้วยมือซ้ายดูก่อน หลานปู่นั้นเก่งกาจยิ่ง ไม่นานเจ้าก็ต้องฝึกฝนจนมีความแข็งแกร่งที่เหนือล้ำกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน" ลี่ไท่กล่าวปลอบโยน
ลี่ชิงนั้นกล่าวออกมาอย่างคับแค้นใจและไม่อาจจะยอมรับได้ "เช่นนั้นหมายความว่าข้าต้องเริ่มฝึกฝนวิชาดัชนีอุดรใหม่ตั้งแต่เริ่มอีกครั้ง นอกจากนี้ข้ายังหาได้ถนัดมือซ้ายไม่ กว่าข้าจะฝึกฝนมันให้มีความสำเร็จขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญ ข้าจะต้องใช้เวลาอีกเท่าไรกัน"
"ทั้งหมดเป็นเพรามัน ไอ้บัดซบต้วนหลิงเทียนนั่น! ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะมันตัดนิ้วชี้ข้า ข้าจะจบสิ้นเช่นนี้ได้อย่างไร! ท่านปู่ข้าอยากให้มันตาย ข้าอยากฆ่ามันให้ตาย ข้าอยากให้มันตายอย่างทรมาน ... "
ลี่ชิงนั้นโกรธแค้นอย่างมาก มันโอดครวญออกมาด้วยความโกรธแค้น
ลี่ไท่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ประกายตาของมันพลันเย็นชาขึ้นมา
ต้วนหลิงเทียน!
"หลานปู่อย่าได้เสียใจ ปู่จะทวงความยุติธรรมให้เจ้าเอง... มันเป็นเพียงสาวกจากตระกูลสาขา หากข้าต้องการให้มันตาย มันก็ต้องตาย! "
เสียงของลี่ไท่กล่าวออกมาอย่างเย็นชา
"ท่านปู่ ท่านดียิ่ง"
เมื่อได้ยินวาจาของลี่ไท่ ลี่ชิงพลันอารมณ์สงบลงมาบ้าง
ทางด้านหลิงเทียน
หลังจากที่หลิงเทียนบอกกล่าวถึงวิธีใช้และข้อควรระวังในการใช้ยาหลิงพิสุทธิ์กับปู่ของลี่เฟยเสร็จสิ้น มันก็ทำการเดินทางกลับบ้านพักของมัน
หลิงเทียนเกือบเดินชนกับคนที่เดินสวนออกมาพอดี ในขณะที่เลี้ยวเข้าประตูบ้านพัก
"อ้าว นายน้อยต้วนหลิงเทียน"
คนผู้นั้นยิ้มให้ก่อนที่จะผงกศีรษะให้แก่หลิงเทียน
ต้วนหลิงเทียนจำชายคนนี้ได้ เขาเป็นคนเดียวกันกับชายที่นำเทียบเชิญเข้าร่วมงานชุมนุมมังกรซ่อนมาให้เขา คนจากตระกูลเซี่ยว
ต้วนหลิงเทียนย่อมเดาเหตุผลในการมาของมันได้
"อา นับว่าตระกูลเซี่ยวดำเนินการได้รวดเร็วนัก"
เมื่อต้วนหลิงเทียนเดินเข้ามา ก็เห็นมารดาของเขากำลังหยิบนู่นจับนี้อยู่อย่างตื่นเต้น สิ่งของที่นางหยิบจับอยู่นั้นคือของรางวัลที่รับหลังจากได้ตำแหน่งชนะเลิศงานชุมนุมมังกรซ่อน
"ลูกเทียน เจ้าได้ตำแหน่งชนะเลิศในงานชุมนุมมังกรซ่อนเช่นนั้นหรือ?"
เมื่อลี่หลัวพบว่าลูกชายนางกลับมาแล้ว นางก็กล่าวถามออกมาอย่างตื่นเต้น
ต้วนหลิงเทียนยิ้มในขณะที่กล่าวออกมา "ใช่แล้วท่านแม่ ท่านมีความสุขหรือไม่?"
"แน่นอนๆๆ ข้ามีความสุขยิ่งนัก ลูกเทียนของข้าเก่งกาจที่สุด ... "
ลี่หลัวพยักหน้าออกมาอย่างยินดี
นางยินดีอยู่ได้สักครู่ ก็พลันยิ้มเหม่อลอยเพราะคิดถึงสามี
ลูกชายของนางนับว่าได้พรสวรรค์ด้านเต๋าแห่งวรยุทธ์มาจากบิดามากมายจริงๆ
"เสี่ยวเฮย นั่นเจ้าจะหนีไปที่ใด?"
ทันใดนั้นเสียงของเค่อเอ๋อก็ดังออกมาจากห้องของนาง
ฟุ่บ!
สายอัสนีสีดำทมิฬพุ่งเข้ามาหาหลิงเทียนอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะไปรัดพันที่แขนของเขา
มันกลับเป็นเสี่ยวเฮยตัวจ้อยที่กินแกนสัตว์อสูรของงูเหลือมหิมะเหมันต์นิรันดร์เข้าไป นับคร่าวๆพวกมันนับว่าหลับไปเป็นเดือนเลยทีเดียว
ฟ่อออ *
เสียวเฮยแลบลิ้นทักทายหลิงเทียนอย่างน่าเอ็นดู ท่าทางของมันดูมีความสุขมาก
ต้วนหลิงเทียนสังเกตว่างูเหลือมตัวน้อยของเขามีความเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
ลายเส้นสีทองบนร่างของมันพลันเด่นชัดและเข้มมากขึ้น
จากสีทองจางๆ กลับกลายเป็นสีทองเข้มอีกทั้งยังดูทรงอำนาจกว่าเดิมเยอะทีเดียว
นอกจากนี้เมื่อครู่หลิงเทียนนั้นตระหนักได้ทันทีว่า ความเร็วของเสี่ยวเฮยนั้น เหนือล้ำไปกว่างูเหลือมทมิฬแม่ของมันไปแล้ว ...
“เสี่ยวเฮย ดูเหมือนเจ้าจะเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยเลยนะ”
หลิงเทียนลูบหัวงูตัวน้อยพร้อมรอยยิ้ม
"นายน้อย"
เค่อเอ๋อเองก็เดินออกมา อีกทั้งที่แขนของนางเองก็มีงูเหลือมสีขาวตัวน้อย เสี่ยวไป๋รัดพันอยู่เช่นกัน ท่าทางของมันก็ดูมีความสุขไม่ต่างอันใดกับเสี่ยวเฮย
นับว่างูเหลือมตัวน้อยนี้มีความเปลี่ยนแปลงไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร
ลายเส้นสีเงินของเสี่ยวไป๋เองก็เด่นชัดและดูทรงอำนาจมากขึ้นกว่าเดิม
มันเปลี่ยนเป็นสีเงินที่แลดูศักดิ์สิทธิ์และทรงอำนาจอย่างลึกลับ