spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 255 ไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย
ฮูหยินผู้เฒ่าสั่น ในขณะที่นางคิดว่าเฉินซื่อฟื้นคืนชีพขึ้นมา
ทันทีหลังจากนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นคนวิ่งเข้ามาในขณะที่ร้องไห้และตะโกน นางพุ่งไปหาเฟิงเฟินได
ข้างหลังนางมีบ่าวรับใช้ไม่กี่คนตามนางไปพูดว่า “อนุฮัน ! ระวังตัวด้วยเจ้าค่ะ ! ”
จากนั้นนางก็รู้ว่ามันเป็นฮันชิ ! แต่นางไม่คิดว่าแทนที่ฮันชิจะตรงไปหาเฟิงเฟินได นางกลับปรี่ไปหาเฟิงเฉินหยู นางยกมือพร้อมกรงเล็บหมายจะฟาดไปที่ใบหน้าของเฟิงเฉินหยู
ฮูหยินผู้เฒ่าที่หวาดกลัว ใบหน้าของเฟิงเฉินหยูนั้นเป็นสิ่งที่ตระกูลเฟิงภาคภูมิใจมาโดยตลอดแม้ว่าจะมีหลายครั้งที่นางรู้สึกว่าหลานสาวคนนี้จะกลายเป็นของเหลือเดนเพราะความงามของนาง นางไม่สามารถยอมให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเฟิงเฉินหยู ในขณะที่เฟิงจินหยวนไม่อยู่เมืองหลวง
ดังนั้นนางจึงรีบพูดว่า “หยุดนาง ! คุณหนูใหญ่จะเป็นอะไรไม่ได้ ! ”
บ่าวรับใช้พร้อมกับยายจาว ทุกคนช่วยกันห้ามฮันชิ เมื่อฮันชิเห็นว่าแผนของนางล้มเหลว นางก็เลิกล้มทันทีแล้วหันไปหาเฟิงเฟินได แต่เมื่อนางเห็นเลือดบนใบหน้าของเฟิงเฟินได นางก็ตกใจกลัวจนแทบหายใจไม่ออกและเป็นลมล้มลง
“พยุงนางขึ้นนั่ง ! ” ฮูหยินผู้เฒ่ากังวล นางเกือบจะลุกจากเตียง “นำพัดมาพัดนาง ลูบหลังนางด้วย อ่า ! เจ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่เจ้าจะทำแบบนี้ได้อย่างไร แม้ว่าเจ้าจะไม่คิดถึงตัวเองก็ควรคิดถึงเด็กที่อยู่ในท้องของเจ้าให้มากกว่านี้”
ฮันชิมีความสุขกับการใช้ชีวิตระหว่างการตั้งครรภ์ของนาง ดังนั้นนางจึงเลิกมาคารวะฮูหยินผู้เฒ่านานแล้ว เมื่อนางเริ่มได้สติขึ้นมา นางก็เริ่มคร่ำครวญทันทีว่า “คุณหนูสี่เป็นหนึ่งในลูกหลานของตระกูลเฟิง ท่านแม่สามี ทำไมท่านแม่ถึงยอมให้นางได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ ทำไมนางถึงไม่รู้จะรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจแทนนางบ้าง ? ”
“เมื่อไหร่ที่ข้าไม่รู้สึกเป็นทุกข์กับนาง ? ” ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธและต้องการที่จะตีฮันชิด้วยหมอนของนาง แต่คิดถึงเด็กที่อยู่ในท้องของนาง นางทำได้เพียงวางมันลง “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าตะโกนโวกเวกโวยวายขึ้นมาก่อน ข้ากำลังจะให้บ่าวรับใช้ไปเรียกหมอ ! ”
“ท่านแม่สามีโทษข้าว่าข้าโวยวายหรือเจ้าคะ?” ฮันชิชี้ไปที่เฟิงเฟินไดและพูดว่า “ใบหน้าคุณหนูสี่กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว ทำไมท่านแม่สามีถึงไม่ลงโทษคนทำ ? ”
ในเวลานี้ยี่หลินและเซียงเอ๋อกำลังยืนอยู่หน้าเฟิงเฉินหยูเพื่อป้องกันไม่ให้ฮันชิทำอะไร เฟิงเฉินหยูซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังบ่าวรับใช้สองคนอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้น นางก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า “อนุฮันกำลังเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ทำร้ายน้องสี่ ! มันเป็นน้องสี่ที่โยนแจกันในห้องของข้าทิ้ง จากนั้นด้วยความประมาทนางก็เหยียบเศษแจกันที่แตกและล้มลง นั่นคือสิ่งที่ทำให้นางได้รับบาดเจ็บ ! ”
เมื่อได้ยินนางพูดถึงแจกัน เฟิงเฟินไดพูดในทันทีว่า “ข้าทำลายแจกันแตกโดยบังเอิญ และนั่นคือเหตุผลที่เจ้าต้องการจะฆ่าข้า ! ” นางมองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าและกล่าวว่า "ท่านย่าไม่รู้หรอก มีอะไรบางอย่างอยู่ในแจกันของพี่ใหญ่ ! มีถุงผ้าแปลก ๆ อยู่ข้างในและข้าเห็นมัน ข้าจะไปเอามัน แต่พี่ใหญ่มาผลักข้าทำให้ข้าล้มลง บ่าวรับใช้ของนางหยิบมันขึ้นมาแล้ววิ่งหนีไป ด้วยบาดแผลที่ใบหน้าของข้า ข้าสั่งบ่าวรับใช้ของข้าตามไปเจ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่างงงวยกับสิ่งที่นางได้ยิน “เจ้าบอกข้าว่าแผลที่ใบหน้าของเจ้าถูกมีดบาดไม่ใช่หรือ ? ”
“ข้า…” เฟิงเฟินไดอึกอัก ทำไมนางถึงรีบพูดถึงมีดขึ้นมานะ ? “หลานสาวกลัวจนสับสนเจ้าค่ะ มันไม่ใช่มีด มันเป็นชิ้นส่วนของแจกัน”
“มันเป็นอะไรกันแน่ ? ” ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าก็มืดครึ้มทันที “เจ้าพูดจากลับไปกลับมา เจ้ายังบอกด้วยว่าพี่สาวคนโตต้องการฆ่าเจ้า แต่เท่าที่ข้าเห็นมันเป็นแค่เรื่องเหลวไหล ! ”
“ท่านย่า ! ” ดวงตาของเฟิงเฟินไดเบิกกว้าง “แต่การบาดเจ็บของหลานนั้นเป็นเรื่องจริง ! แล้วท่านย่าไม่อยากรู้ว่ามีอะไรในแจกันของพี่ใหญ่หรือเจ้าค่ะ ? ”
ขณะที่นางพูดสิ่งนี้ อันชิก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับเฟิงเซียงหรู เฟิงเซียงหรูถอยกลับด้วยความกลัวเมื่อเห็นใบหน้าของเฟิงเฟินได
เฟิงเฟินไดตระหนักแล้วว่าใบหน้าของนางจะต้องเปื้อนเลือดแดงมาก ความปรารถนาของนางที่จะทำร้ายเฟิงเฉินหยูค่อย ๆ หายไปในขณะที่นางเริ่มรู้สึกกลัว ตัวสั่น นางรู้สึกถึงความเจ็บปวดบนใบหน้าของนางเองและรู้สึกตกใจ
“กรี๊ดด ! ” ในท้ายที่สุดนางยังเป็นเด็กและเริ่มร้องไห้ทันที นางร้องไห้และพูดว่า "ใบหน้าของข้า ! ใบหน้าของข้าเสียโฉม ! ”
อันชิเตือนฮูหยินผู้เฒ่า “รีบส่งคนไปตามหมอก่อนเจ้าค่ะ ! ”
ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าและสั่งยายจาว “รีบนำหมอมาที่คฤหาสน์”
ยายจาวก็หวาดกลัวเช่นกันว่า “ถ้าเราส่งคนไปตอนนี้หมอจะมาถึงที่นี่เวลากี่โมงเจ้าค่ะ บาดแผลของคุณหนูสี่รุนแรง มันไม่สามารถรอได้ ตามที่บ่าวรับใช้เห็นมัน ... เราควรเรียกคุณหนูรองเจ้าค่ะ ! “
ฮูหยินผู้เฒ่าก็ตอบโต้และพูดว่า “รีบส่งคนไปตามนางมา ! ” มีบ่าวรับใช้คนหนึ่งวิ่งออกไปเรียกนางทันที
เมื่อได้ยินว่าเฟิงหยูเฮงจะถูกเรียกมา เฟิงเฟินไดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย นางไม่กังวลกับใบหน้าของตัวเองอีกต่อไป และเริ่มคิดว่าจะรับมือกับเฟิงเฉินหยูได้อย่างไร “พี่ใหญ่ยังไม่ได้บอกเลยว่าซ่อนอะไรไว้ในแจกันนั้น”
เฟิงเฉินหยูได้แต่ตอบว่า “น้องสี่ ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าพูด มีถุงผ้าอะไรอยู่ในแจกันของข้า บ่าวรับใช้ของเจ้าไล่ตามยี่หลินตอนไหน ? ”
ยี่หลินเห็นแบบนี้ นางคุกเข่าอย่างรวดเร็วเพื่อพูดกับฮูหยินผู้เฒ่า “ท้องของบ่าวรับใช้ผู้นี้ไม่ค่อยดี และไปเข้าห้องน้ำเจ้าค่ะ แต่เมื่อคุณหนูสี่มาหาคุณหนูใหญ่ คุณหนูสี่มาคนเดียว ไม่ได้นำบ่าวรับใช้มาด้วยเจ้าค่ะ ! ”
เซียงเอ๋อยังคุกเข่าลงโดยกล่าวว่า “เรียนท่านฮูหยินผู้เฒ่า บ่าวรับใช้ผู้นี้กำลังทำความสะอาดเรือน และข้าไม่เห็นคุณหนูสี่มากับบ่าวรับใช้เจ้าค่ะ”
“เจ้า…” เฟิงเฟินไดงงงวย นี่ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงหรือ นางฝันไปหรือไม่
อย่างไรก็ตามยี่หลินพูดขึ้นว่า “ข้าไม่รู้ว่าคุณหนูสี่ซึ่งหมายถึงบ่าวรับใช้คนใด แต่บ่าวรับใช้ผู้นี้ไปรับของว่างสำหรับคุณหนูใหญ่เมื่อคืนนี้ ในเวลานั้นบ่าวรับใช้ผู้นี้เห็นคุณหนูสี่ลงโทษบ่าวรับใช้ที่ชื่อเป่ยเอ๋อ ในเวลานั้นดูเหมือนว่าเป่ยเอ๋อจะพูดอะไร และคุณหนูสี่ตบหน้านางเจ้าค่ะ”
นี่คือความจริง เฟิงเฟินไดรู้สึกไม่พอใจเมื่อคืนก่อน และกล่าวว่า “การที่คุณหนูผู้นี้ลงโทษบ่าวรับใช้ นั่นมันผิดปกติหรือ ? ”
ยี่หลินตอบว่า “คุณหนูสี่พูดถูกเจ้าค่ะ บ่าวรับใช้ผู้นี้เพียงแต่นึกขึ้นมาได้และไม่ได้มีความหมายใดใด ”
ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปที่เฟิงเฟินได นางพูดว่า “ตอนนี้เจ้ายังไม่มีพยานและไม่มีหลักฐาน ใครจะเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด ? เพียงแค่เชื่อฟัง นั่งอยู่ด้านข้าง แล้วรอให้พี่รองมาและรักษาแผลของเจ้า”
เฟิงเฟินไดไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้น และนางก็ยังต้องการที่จะเถียงอีกเล็กน้อย อย่างไรก็ตามบ่าวรับใช้ของฮันชิคืออาจูลอบดึงแขนเสื้อของนางเป็นเชิงให้นางหยุด
แต่นางจะยอมแพ้อย่างไรเช่นนี้ นางอดไม่ได้ที่จะพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าทั้งน้ำตา “พี่ใหญ่พูดโดยไม่คิด แต่ท่านย่าก็ยังเชื่อนาง ทำไมถึงไม่เชื่อข้า นางซ่อนบางอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าได้มัน นางจึงผลักข้าล้มและทำร้ายใบหน้าของข้า ทำไมท่านย่าไม่เชื่อในสิ่งที่ข้าพูด ? ”
เฟิงเฉินหยูเริ่มร้องไห้พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้ามากกว่าเฟิงเฟินได “น้องสี่ช่วยหยุดกล่าวหาข้าได้หรือไม่ ? ข้าไม่ได้ปิดบังอะไรเลย และพี่สาวก็ไม่ได้ตำหนิเจ้าที่ทำแจกันข้าแตก ถ้าน้องสาวไม่พอใจเพราะบาดแผล ข้าก็จะทำให้ใบหน้าของข้ามีบาดแผลเหมือนเจ้า ดีหรือไม่ ? ”
หลังจากเฟิงเฉินหยูกล่าวเช่นนั้น นางก็เดินไปหยิบถ้วนน้ำชาขึ้นมาแล้วปาลงบนพื้น
ฮูหยินผู้เฒ่าส่งเสียงด้วยความกลัว “ไม่ ! หยุดนาง ! ”
บ่าวรับใช้ทุกคนรีบห้ามเฟิงเฉินหยู และขอร้องนางอย่างขมขื่น “คุณหนูใหญ่อย่าได้ทำเช่นนั้นเจ้าค่ะ!”
เฟิงเฉินหยูร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า “ไม่เป็นไรถ้าข้าได้รับบาดเจ็บ ตราบใดที่น้องสี่มีความสุข อย่าห้ามข้า ! ”
เฟิงเฟินไดกัดเล็บของนางอย่างดุเดือด !
เฟิงเฉินหยูแสดงเก่งมาก นางเสแสร้งได้เก่งมาก ! เฟินเฟิงไดใช้สิ่งของมีค่าและเงินเพื่อปรนเปรอฮูหยินผู้เฒ่า และนางคิดว่านางจะได้รับความโปรดปรานบ้าง แม้กระนั้นนางไม่คิดว่าเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นฮูหยินผู้เฒ่าจะยังคงไม่ชอบนาง
นางเต็มไปด้วยความโกรธ แต่นางก็รู้ว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการจัดการอย่างดี นางจึงกระซิบกับอาจู “ส่งคนไปหาเป่ยเอ๋อ ค้นหานางที่เรือนของเฟิงเฉินหยู”
อาจูปฏิบัติตามและกลับไปที่ข้างฮันชิเพื่อขอความช่วยเหลือ โชคดีที่ตั้งแต่ฮันชิตั้งครรภ์มีบ่าวรับใช้มากมายอยู่เคียงข้างนาง ในเวลานี้นางจะสามารถใช้ประโยชน์จากพวกเขาได้
เมื่อเห็นว่าเฟิงเฟินไดไม่ก่อให้เกิดปัญหาอีกต่อไป เฟิงเฉินหยูก็ค่อย ๆ หยุดร้องให้ แต่นางก็ยังเช็ดน้ำตา
เฟิงเซียงหรูยืนอยู่ที่นั่นรู้สึกอึดอัดใจมาก นางมองที่เฟิงเฟินไดจากนั้นก็มองที่เฟิงเฉินหยู นางได้แต่พูดว่า “ไม่ต้องกังวล ความสามารถทางการแพทย์ของพี่รองนั้นดีมาก นางจะสามารถรักษาบาดแผลที่ใบหน้าของน้องสี่ได้อย่างแน่นอน”
ในเวลานี้ฮันชิกังวลเรื่องแผลของเฟิงเฟินได เฟิงเซียงหรูพูดอย่างมีน้ำใจ แต่เมื่อนางได้ยินมัน มันฟังดูเหมือนเป็นคำพูดประชดประชัน นางพูดอย่างหยาบคายว่า “บาดแผลไม่ได้อยู่บนใบหน้าของเจ้า คุณหนูสามไม่ต้องเป็นกังวล”
อันชิขมวดคิ้ว “เจ้าไม่ควรพูดแบบนี้กับคุณหนูสาม นี่เป็นสิ่งที่ผิดกฎ”
“กฎหรือ ? ” ฮันชิเย้ยหยัน “กฎของคฤหาสน์นั้นยุ่งเหยิงมานานแล้ว ! ยิ่งกว่านั้นข้ากำลังตั้งครรภ์บุตรของตระกูลเฟิง เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์อารมณ์ของพวกเขาจะไม่มั่นคง แม้ว่าข้าจะพูดอะไรบางอย่างที่ขัดกับกฎก มันสามารถทำอะไรได้บ้าง”
เฟิงเซียงหรูไม่ต้องการให้ทะเลาะกันเพราะนาง ดังนั้นนางจึงรีบไปหาอันชิเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองพูด จากนั้นนางก็หันไปหาฮันชิและพูดว่า “ข้าไม่เป็นอะไร แม่รองอย่าได้สนใจ”
“แต่ข้าสนใจ” ฮันชิมองเฟิงเซียงหรู ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางเบี่ยงเบนความโกรธที่นางมีต่อเฟิงเฉินหยูไปหาเฟิงเซียงหรู และพูดว่า “คุณหนูสามจิตใจกว้างขวาง ในบรรดาคุณหนูของตระกูลเฟิงของเรามีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ยังไม่มีใครมาชอบพอ องค์ชายเจ็ดไม่ได้แสดงท่าทีใดใดหลังจากที่พระองค์ส่งชุดมาให้เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมา คุณหนูสามไม่มั่นใจว่าองค์ชายเจ็ดจะเป็นผู้สนับสนุนท่านใช่หรือไม่ ? ”
เฟิงเซียงหรูขมวดคิ้วและปิดกั้นจิตใจจากความคิดของนาง “ข้าไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อน อนุฮันอย่าได้พูดเหลวไหล”
ฮันชิพยักหน้า “มันก็ดีถ้าเจ้าไม่คิดอย่างนั้น แม้ว่าองค์ชายเจ็ดไม่ได้เลือกพระชายาเอก แต่บุตรสาวของอนุอย่างเจ้าไม่มีโอกาสได้เป็นพระชายาเอกหรอก อย่ารีบไปในทิศทางนั้น และทำให้เกิดปัญหาสำหรับตัวเจ้าเอง แต่…” ดวงตาของนางหันไปมองเฟิงเฉินหยู “แต่ยังมีอีกทางหนึ่ง หากเจ้าต้องการแต่งงานกับองค์ชาย เจ้าสามารถเลือกองค์ชายที่พระชายาเอกสิ้นพระชนม์แล้ว หลังจากแต่งงานแล้วเจ้าจะได้เป็นพระชายาเอก สิ่งเหล่านี้แทบจะถือได้ว่าเป็นการได้หน้า”
คำพูดเหล่านี้พูดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับองค์ชายใหญ่ และใบหน้าของเฟิงเฉินหยูก็ดูหดหู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามนางพยายามเก็บปากเก็บคำไม่ให้พูด
เฟิงเซียงหรูมักจะรู้สึกว่าฮันชินั้นคล้ายคลึงกับเฉินซื่อมาก ทั้งคู่เป็นคนที่พูดโดยไม่คิด พวกเขาสามารถพูดถึงสิ่งที่น่ารังเกียจได้ นางไม่อยากโต้เถียงกับฮันชิได้ แต่หัวใจของนางปวดร้าวจากการกล่าวถึงองค์ชายเจ็ด
อันชิเห็นสิ่งที่เฟิงเซียงหรูรู้สึกและถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าคำพูดของฮันชินั้นรุนแรง แต่นางก็ไม่ได้ตั้งใจจะหักล้างคำพูดของฮันชิ คำพูดของนางหยาบคายแต่เป็นความจริง หากการถากถางของฮันชินั้นสามารถทำให้เฟิงเซียงหรูเลิกหลงใหลองค์ชายเจ็ดได้จริง ๆ นางคงต้องขอบคุณฮันชิ
ในเวลานี้ฮูหยินผู้เฒ่าก็แค่หลับตา นางไม่ต้องการพูดอะไรและนางไม่ต้องการมองใคร ห้องนี้แออัดไปด้วยผู้คนทำให้นางไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบสุข นางเกลียดพวกเขาทั้งหมดและนางอยากจะทำให้พวกเขาทั้งหมดตาย ตอนนี้นางแค่หวังว่าเฟิงหยูเฮงจะมาเร็ว ๆ เพื่อที่ว่าฉากนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
ใครจะรู้ว่าเมื่อรอนี้พวกเขารอมา 1 ชั่วยามแล้ว
เมื่อบ่าวรับใช้ที่ไปเรียกเฟิงหยูเฮงกลับมา คนที่อยู่ข้างหลังนางก็ไม่ได้เป็นเฟิงหยูเฮงเลย แต่มันเป็นชายชราที่ไม่คุ้นเคย
บ่าวรับใช้พูดกับฮูหยินผู้เฒ่าด้วยสีหน้าขมขื่นว่า “คุณหนูรองไม่มาเจ้าค่ะ ! ”