หน้าแรก > War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 75 ความแข็งแกร่งระดับ ช้างแมมมอธโบราณ 4 ตัว

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

"อาวุธวิญญาณ?"

ลี่เฟยเองก็มองไปยังหลิงเทียนด้วยสายตาตกตะลึง

เขาเองก็มีอาวุธวิญญาณ?

"ไม่ ...ดูเหมือนนั่นจะมิใช่อาวุธวิญญาณ นั่นเพราะความแข็งแกร่งของเจ้าไม่ได้เพิ่มขึ้น จากคุณสมบัติขยายพลังที่อาวุธวิญญาณต้องมี นอกจากนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่อาวุธวิญญาณจะตัดผ่านพลังงานต้นกำเนิดของข้าได้ง่ายดายเช่นนี้ นี่เป็นกระบี่อะไรกันแน่? "

หลังจากที่ถอยหลบออกมาได้เซี่ยวหยูก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงยำเกรงต้วนหลิงเทียนเล็กน้อย

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าก่อนที่จะกล่าวตอบรับไปว่า "เจ้าคาดได้ถูกต้องกระบี่ของข้าไม่ใช่อาวุธวิญญาณ แต่กระบี่ของข้าถูกหลอมสร้างขึ้นมาจากวัตถุดิบที่มีคุณสมบัติเพิกเฉยพลังงานต้นกำเนิด มันสามารถตัดผ่านพลังงานต้นกำเนิดที่มีระดับต่ำกว่าระดับกำเนิดแก่นแท้ได้อย่างสบายๆ ไม่ต่างอะไรกับกระดาษ"

นี่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของสะเก็ดดาวตกม่วง

"เพิกเฉยพลังงานต้นกำเนิดที่มีระดับต่ำกว่ากำเนิดแก่นแท้?"

หลิงเทียนกล่าวออกมาราวกับมันไร้เรื่องราว แต่ทว่าคนอื่นรวมทั้งเซี่ยวหยูเมื่อได้ฟังถึงกับตกตะลึง เรื่องนี้มันน่าตื่นตระหนกมาก

เพิกเฉยพลังงานต้นกำเนิดที่มีระดับต่ำกว่ากำเนิดแก่นแท้

เรื่องนี้มันหมายความว่า หากต้วนหลิงเทียนต้องปะทะกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 9 หากมันมีโอกาส สามารถอาศัยช่องโหว่จู่โมได้เพียงครั้ง การปลิดปลงศีรษะของพวกมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร...นี่กล่าวได้ว่าทุกผู้ที่อยู่ใต้กำเนิดแก่นแท้หากเผลอเรอล้วนมีสิทธิ์ตกตายภายใต้คมกระบี่หลิงเทียน

"เช่นนั้นข้าจะเปลี่ยนกระบี่แล้วกัน"

ต้วนหลิงเทียนเริ่มมองหากระบี่ในชั้นวางอาวุธ

"ไม่จำเป็น ข้าจะใช้อาวุธเอง"

เซี่ยวหยูส่ายหัว ก่อนที่จะเดินไปหยิบหอกยาวออกมาจากชั้นวางอาวุธ เมื่อเขาควงหอกพร้อมกับถ่ายทอดพลังงานต้นกำเนิดลงไป หอกมันก็สั่นสะเทือนพร้อมเป็นประกายออกมาเล็กน้อย

"เข้ามา!"

เซี่ยวหยูจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียน

วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

วิชาวาดกระบี่!

กระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วง ถูกสะบัดพุ่งไปราวคมเคียวมัจจุราชตรงไปยังเซี่ยวหยู

ฝ่ามือเอกะ!

หอกยาวของเซี่ยวหยูสั่นสะเทือนหลังจากถูกถ่ายทอดพลังงานต้นกำเนิดลงไป มันควงหอกเป็นระลอกคลื่นเข้าปะทะกับกระบี่ของหลิงเทียน นี่หมายความว่าวิชาฝ่ามือเอกะนั้นถูกใช้ออกด้วยหอกอย่างสมบูรณ์

เคร้ง!

เสียงปะทะดังสนั่น

และนั่นเป็นเสียงกระบี่ของต้วนหลิงเทียนที่สะบั้นหอกของเซี่ยวหยูจนขาดสองท่อน กลายเป็นหอกสั้นเสียแล้ว...

ถึงแม้ว่าหอกนี้จะถูกหลอมสร้างจากเหล็กเนื้อดี แต่ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วงของหลิงเทียน มันไม่ตากอะไรไปจากหอกธรรมดาสามัญ

"ดูเหมือนว่าข้าจะไม่สามารถปะทะกับเจ้าตรงๆได้ "

แววตาของเซี่ยวพลันเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น มันกระชับหอกสั้นในมืออย่างแน่นหนา

ประกายแสงไร้เงา!

เซี่ยวอยู่ทุ่มพลังใช้ออกด้วยวิชาท่าร่างถึงขีดสุด

วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

ต้วนหลิงเทียนพลันสังเกตได้ว่ายามนี้ต่อให้เขาใช้กำลังเต็มที่ ก็ยังไม่อาจไล่ตามเซี่ยวหยูได้ทัน

“วิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง อีกทั้งยังมีความสำเร็จในขั้นตอนแก่นแท้”

หัวใจของหลิงเทียนสั่นไหวเมื่อมันเข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร

เขาคาดไม่ถึงจริงๆว่าเซี่ยวหยูจะสามารถฝึกฝนทั้งวิชาต่อสู้และวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงจนมีความสำเร็จในขั้นตอนแก่นแท้เช่นนี้

แม้กระทั่งวิชาป้องกันย้ายดาราของเขายังฝึกฝนจนมีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญ

ฌานหยั่งรู้ของมันนับว่าร้ายกาจอย่างถึงที่สุด!

"วิชาการต่อสู้ใดๆในใต้หล้าล้วนไร้ค่าเมื่อเผชิญกับความเร็วที่เหนือชั้น! หลิงเทียนระวังให้ดี ข้าจะเริ่มจู่โจมแล้ว"

เสียงเย็นเยียบของเซี่ยวหยูดังขึ้น

ต้วนหลิงเทียนเป็นคนเดียวที่บีบบังคับให้เขาต้องเอาจริงถึงขนาดนี้ เขาคู่ควรกับการยอมรับนับถือแล้ว

ได้ยินคำกล่าวของเซี่ยวหยู ใจของหลิงเทียนพลันเปลี่ยนจังหวะการเต้นเป็นระรัว

ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกกดดัน และ ตื่นตัวอย่างมาก

ฝ่ามือเอกะ!

เซี่ยวหยูปรากฏร่างออกมาราวภูตผีด้านหลังต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะแทงหอกสั้นออกมาด้วยวิชาฝ่ามือเอกะ หมายจะฟาดทุบไปที่แผ่นหลังของหลิงเทียน

ในขณะที่เขาคิดว่าต้วนหลิงเทียนจะถูกฟาดนั้นเอง

วูบ!

ร่างกายของหลิงเทียนพลันเอนหลบไปราวกับไร้กระดูกดั่งสัตว์จำพวกอสรพิษ หลบเลี่ยงการโจมตีของเซี่ยวหยูในระยะเผาขนได้อย่างอัศจรรย์

"ลูกเล่นเจ้ามีไม่น้อย!"

ตาของเซี่ยวหยูเปล่งประกายขึ้น ความตั้งใจของเขาถูกใช้ออกถึงขีดสุด

ถึงแม้หลิงเทียนจะหลบหอกของเซี่ยวหยูได้แต่นั้นก็ทำให้เขาเหงื่อตกเช่นกัน

หากไม่ใช่เพราะเขาลับประสาทตอบโต้และเสริมสร้างปฏิกิริยาตอบสนองมาทั้งชีวิตในสมัยที่ยังเป็นนักฆ่าเมื่อชาติที่แล้ว มันนับว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะหลบการโจมตีของเซี่ยวหยูที่มีความเร็วขนาดนี้โดยอาศัยเพียงวิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกายที่มีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

เซี่ยวหยูยังออกกระบวนท่าจู่โจมใส่หลิงเทียนอีก 3 กระบวนท่าติดต่อกัน

ทว่าทุกครั้งหลิงเทียนพลันเอนหลบหลีกได้ในระยะเผาขน ...

เมื่อเขาสังเกตว่าต้วนหลิงเทียนสามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้หมดจดถึงเพียงนี้ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า

สัญชาตญาณของต้วนหลิงเทียนผู้นี้เหนือล้ำกว่าเขาไปถึงระดับใดกัน?

แต่เขายังรู้อีกว่าการหลบหลีกการจู่โจมที่มีความเร็วเหนือกว่าตัวขนาดนี้มันต้องรีดเค้นสมาธิและใช้ประสาทการรับรู้ตอบสนองถึงขนาดไหน ไม่นานหลิงเทียนต้องเหนื่อยล้าจนทนไม่ไหวแน่ๆ

ฝ่ามือเอกะ!

เซี่ยวหยูโผล่มาที่หลังของหลิงเทียนอีกครั้ง พร้อมทั้งใช้ฝ่ามือเอกะในระยะประชิด บีบให้หลิงเทียนไม่สามารถหลบหลีกได้โดยง่าย

“อา!”

ตอนนี้หลิงเทียนที่ประสาทเริ่มล้าพลันตื่นตระหนกเมื่อไม่สามารถหลบการจู่โจมครั้งนี้ได้ทัน

แต่ทันใดนั้นเองขุมพลังบางอย่างพลันปะทุขึ้น! หลิงเทียนรีบกระทืบเท้าออกไปสุดแรง หลบการจู่โจมของเซี่ยวหยูได้พ้นในระยะเส้นยาแดงผ่าแปด

"นั่นมัน…"

เมื่อสังเกตพลังงานที่พวยพุ่งออกมาครอบคลุมร่างของต้วนหลิงเทียน ทุกคนได้แต่ตกตะลึงจนลืมหายใจ ไร้คำจะกล่าว

"นั่นมันพลังงานต้นกำเนิด พลังงานต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียนพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว!"

“โอ้สวรรค์ช่วย! ต้วนหลิงเทียนตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดแล้ว?”

"ต้วนหลิงเทียนกลับตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิด ในขณะที่ประลองกับเซี่ยวหยู มันสามารถพัฒนาพลังงานต้นกำเนิดได้ในห้วงเวลาแบบนี้จริงๆ... เหลือเชื่อยิ่งนัก!"

......

เสียงสนทนาดังอื้ออึงกระหึ่มไปทั่วลานประลอง

"เขาตัดผ่านระดับ?"

ลี่เฟยที่เฝ้าดูอยู่ถึงกับอ้าปากที่แสนงดงามค้างเอาไว้

"ข้าเกรงว่า พี่ใหญ่ต้องพ่ายแพ้เสียแล้ว"

รอยยิ้มขื่นขมปรากฏขึ้นบนริมฝีปากเซี่ยวหลัน

คิ้วสวยของเซี่ยวหยุนเองก็ขมวดเป็นปมก่อนที่จะกล่าวขึ้นมาว่า "ต้วนหลิงเทียนเป็นตัวประหลาดโลกใดกัน!"

“ฮ่าฮ่า! เซี่ยวหยู รับมือ! "

ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาดังลั่น ตอนนี้พลังงานต้นกำเนิดของเขาแผ่ออกมาครอบคลุมร่างกายอย่างหนาแน่น เหนือศีรษะของเขาปรากฏร่างช้างแมมมอธโบราณ 4 ตัวอย่างเห็นได้ชัด

วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

ความเร็วปัจจุบันของต้วนหลิงเทียนเหนือกว่าเซี่ยวหยูเล็กน้อย

ภายใต้ความกดดันและสถานการณ์บีบคั้นมันกลับพัฒนาพลังงานต้นกำเนิด ตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดได้ ...

แม้แต่ตัวหลิงเทียนเองยังคาดไม่ถึงเช่นกัน

เดิมทีเขาคิดว่าต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะสามาระตัดผ่านระดับได้เช่นนี้ เขาเองก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะตัดผ่านภายใต้สถานการณ์จนตรอกเช่นนี้

สุดท้ายแล้วทั้งหมดเขาต้องขอบคุณเซี่ยวหยู

ฟู่บบ!

ต้วนหลิงเทียนเคลื่อนร่างมาเผชิญหน้าเซี่ยวหยูในพริบตา ก่อนที่จะวาดกระบี่จู่โจมออกไป

ฝ่ามือเอกะ!

เซี่ยวหยูย่อมรู้ดีว่าตอนนี้ความเร็วของต้วนหลิงเทียนเหนือกว่าเขา เขาย่อมไม่มีทางเลือกนอกจากจะปะทะหักหาญตรงๆ!

โชคดีที่หลิงเทียนไม่คิดใช้คมกระบี่จู่โจมเขา

การจู่โจมประเภทนี้ไม่ถือว่าเป็นการใช้อาวุธเอาเปรียบ

แต่ถึงอย่างนั้น

ปัง!!

กระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วงปะทะกับหอกสั้นในมือของเซี่ยวหยูดังสนั่น

ครืนน!

หอกสั้นที่หักครึ่งนั้นกำลังสั่นสะเทือนอย่างหนัก

เซี่ยวหยูสังเกตได้ทันทีว่าคลื่นพลังงานต้นกำเนิดจากวิชาฝ่ามือเอกะของเขาถูกสยบลงอย่างสิ้นเชิง

อีกทั้งความเจ็บปวดที่แล่นวูบมาจากฝ่ามือของเขา บ่งบอกว่าพลังทำลายของต้วนหลิงเทียนนั้นฝ่าม่านพลังป้องกันของเขามาได้ จนทำร้ายฝ่ามือเขาบาดเจ็บ

"ข้าแพ้แล้ว" เซี่ยวหยูกล่าวยอมรับออกมาอย่างสงบ

"หากข้าไม่สามารถตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดได้ทันกาล ผู้แพ้คงจะเป็นข้า... "

ต้วนหลิงเทียนยิ้มออกมา

โชคเองก็นับเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถ

เซี่ยวหยูยิ้ม

ต้วนหลิงเทียนนั้นมีความแข็งแกร่งถึงระดับช้างแมมมอธโบราณ 4 ตัว ถึงความสำเร็จในวิชาท่าร่างมันจะด้อยกว่าเขา 1 ขั้น แต่เมื่อหลิงเทียนทุ่มเทความแข็งแกร่งใช้ออด้วยพลังทั้งหมด ความเร็วของมันก็เหนือกว่าเขา ในด้านพลังทำลายเองก็เช่นกัน

พลังทำลาย 1 ช้างแมมมอธโบราณที่เพิ่มขึ้นมา กลบความแตกต่างในขั้นตอนความสำเร็จของวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงลงจนหมด

"พัฒนาพลังงานต้นกำเนิดจนเสร็จสมบูรณ์ในขณะที่ทำการประลองอยู่ ซ้ำยังตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดเช่นนี้อีก ... มันเป็นไปได้อย่างไร?"

หลายคนต่างกล่าวออกมาด้วยความตื่นตระหนก

ถึงตอนนี้พวกมันยังทำใจรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนจนตรอก พวกมันคิดว่าจะอย่างไรชัยชนะครั้งนี้ต้องตกเป็นของเซี่ยวหยูเป็นแน่แท้แล้ว

แต่ใครจะไปคาดคิดว่าห้วงเวลาแห่งความคับขันเช่นนั้นต้วนหลิงเทียนกลับตัดผ่านระดับ? ระเบิดความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณ 4 ตัวออกมาจนมีชัยเหนือเซี่ยวหยู

...ได้รับชัยชนะไปในที่สุด

“ยอดเยี่ยมนัก!”

เมื่อสติกลับคืนมาอีกครั้งพวกเขาต่างตะโกนออกมาพร้อมเพรียงกัน

"ต้วนหลิงเทียน อันดับหนึ่งในงานชุมนุมมังกรซ่อนครั้งนี้ สมควรเป็นของเจ้าอย่างแท้จริง! สำหรับของรางวัลทางตระกูลเซี่ยวจะจัดส่งไปให้เจ้าภายหลัง "

เซี่ยวหยูพยักหน้าให้กับต้วนหลิงเทียน

ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เขายอมรับได้ เมื่อต้วนหลิงเทียนสามารถใช้ออกได้ถึงความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณ 4 ตัวเขาก็หมดสิทธิ์เอาชนะแล้ว

แต่ความตั้งใจและความคิดในการประลองกับต้วนหลิงเทียนหาได้หมดสิ้นไป

เมื่อเขาตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 3 เขาจะท้าต้วนหลิงเทียนมาประมืออีกครั้ง

“ขอบใจเจ้ามาก”

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม

ทันใดนั้นเองเซี่ยวหยูก็กล่าวขึ้นมา "ข้ามีคำถามที่คิดจะถามเจ้าเสียหน่อย แต่มิรู้วาเจ้าจะยินดีตอบคำถามนี้หรือไม่"

"เจ้าต้องการถามว่า เพราะเหตุใดข้าจึงมีความแข็งแกร่งถึงระดับ ช้างแมมมอธโบราณ 3 ตัว ในขณะที่มีเพียงระดับการบ่มเพาะร่างกาย ขั้นที่ 9 ใช่หรือไม่?"

ต้วนหลิงเทียนยิ้ม

เซี่ยวหยูพยักหน้า มันแปลกใจเล็กน้อยกับความปราดเปรื่องของหลิงเทียน

"มีอยู่วันหนึ่งในขณะที่ข้า ฝึกฝนอยู่ในป่าหมอกมรณะ ข้าบังเอิญไปเจอผลไม้วิญญาณลึกลับลูกหนึ่ง เมื่อข้ากินมันเข้าไป อยู่ดีๆ ร่างกายของข้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มันมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และตอนนั้นเองเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ ก็ปรากฏเพิ่มขึ้นมา 2 ตัว "

หลิงเทียนกล่าวอธิบายออกมา

เขาไม่คิดจะเปิดเผยเรื่องราวของวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดสงคราม เขาจึงสร้างเรื่องราวออกมาเพื่อรับมือเวลามีคนถามคำถามในลักษณะนี้

นอกจากนี้ บนทวีปเมฆาล่องแห่งนี้ ก็มีผลไม้วิญญาณเช่นนั้นอยู่จริงๆ

"ทีแท้กลับเป็นเช่นนี้นี่เอง นับว่าเจ้ามีโชคครั้งใหญ่นัก ... อีกทั้งเจ้ายังสามารถตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดทั้งๆที่มีอายุเพียง 16 ปี พรสวรรค์เช่นนี้นับว่าเจ้าเป็นคนแรกในรอบทศวรรษ แม้จะเป็นเมืองออโรร่าแห่งก็ไม่เคยปรากฏมาก่อนเป็นเวลานับร้อยปีแล้ว”

เซี่ยวหยูจ้องมองหลิงเทียนด้วยแววตาลึกซึ้ง

"หากจะกล่าวไป ที่ข้าตัดผ่านระดับเช่นนี้ก็เป็นเพราะเจ้า"

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม

หากเขาไม่ตกอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นจนตรอก ที่เซี่ยวหยูยัดเยียดมาให้ เขาคงไม่ประสบความสำเร็จถึงขนาดนี้

"เช่นนั้น ก็กล่าวได้ว่าเจ้าเป็นหนี้ข้างั้นสิ?"

เซี่ยวหยูคว้าโอกาสนี้ทันที

"ฮ่าฮ่า เจ้าจะกล่าวเช่นนั้นก็ไม่ผิด"

ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร

"งั้นเช่นนี้หากข้าชวนเจ้าและลี่เฟยมางานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนะ? " เซี่ยวหยูกล่าวถามออกมา

"เรื่องนั้นต้องขึ้นอยู่กับนางด้วย"

ต้วนหลิงเทียนหันไปมองยังลี่เฟย

ลี่เฟยที่เดินผ่านมาพอดี ได้ยินวาจาของหลิงเทียน ใบหน้าที่งดงามปานเทพธิดาของนางพลันเจือไปด้วยสีแดงระเรื่อ หัวใจนางสั่นไหวเล็กน้อย ...

นี่เพราะนางดันไปนึกถึงเรื่องราวและการเดิมพันที่ทำไว้กับหลิงเทียนก่อนหน้านี้ ตอนนี้นางแทบจะมุดหินหลบหนี หลิงเทียนเสียให้รู้แล้วรู้รอด

"เช่นนั้น พวกเรากลับก่อนแล้วค่อยพบกัน"

ลี่เฟยพยักหน้า

หลังจากนั้นเซี่ยวหยูก็ชวนพี่น้องตระกูลตระกุลหลินทั้งสองคนพร้อมกับเมิ่งฉวนด้วย

นอกจากเมิ่งฉวนที่บอกว่าจะรีบตามมา หลินฉวนกับหลินฉีก็เดินตามหลังเซี่ยวหยูมาทันที

ส่วนคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกลับบ้าน พวกมันไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้รับคำเชิญจากเซี่ยวหยู

การชุมนุมมังกรซ่อนของเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์แห่งเมืองออโรร่านับว่าสิ้นสุดลงแล้ว

สำหรับอันดับในงานชุมนุมมังกรซ่อนก็มีดังนนี้

อันดับแรก ต้วนหลิงเทียน

อันดับที่สอง เซี่ยวหยู

อันดับที่สาม หลินฉวน

อันดับที่สี่ เมิ่งฉวน

อันดับที่ห้า ลี่ชิง

อันดับที่หก ลี่อัน

อันดับเจ็ดและแปดคือ ลี่เฟย และ เซี่ยวหลัน

อันดับเก้าและสิบคือ เซี่ยวหยุนและหลิงฉี

คืนนั้นเซี่ยวหยูก็จัดงานเลี้ยงตรงลานกว้างขนาดใหญ่

นอกจาก ต้วนหลิงเทียน ​​ลี่เฟย, หลินฉวน และ หลินฉี มีเพียง เซี่ยวหยู, เซี่ยวหลัน และ เซี่ยวหยุน

ในงานเลี้ยงเซี่ยวหยูกล่าวถามหลินฉวนออกมาว่า "หลินฉวน ความแข็งแกร่งของเจ้าก็หาได้ด้อยกว่า เมิ่งฉวนไม่ เหตุใดเจ้าไม่คิด เข้าร่วมการทดสอบเข้าค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะของกองกำลังโลหิตเหล็กเล่า? "

เมื่อได้ยินคำถามนี้หลินฉวนได้แต่ยิ้มอย่างขื่นขมขื่น “เซี่ยวหยู ข้าเองก็อยากไป แต่บิดาข้าหายอมให้ข้าไปไม่ เจ้าก็รู้ หากทดสอบไม่ผ่านก็ไม่นับว่าเป็นอย่างไร แต่หากผ่านเข้าไปในค่ายบ่มเพาะอัจฉริยะของกองกำลังโลหิตเหล็กแล้ว ความเสี่ยงมันเพิ่มสูงขึ้นถึงเพียงใด ...โอกาสรอดชีวิตของข้านับว่าน้อยนัก แต่ทว่าข้าก็หาได้หวาดกลัวไม่ มีเพียงบิดาข้านี่ล่ะที่ไม่ยินยอม”

"ชีวิตคนเราจะไปมีค่าและมีความหมายได้อย่างไรหากไม่ฟันฝ่าอุปสรรค สำหรับข้า ข้าคิดว่านี่คือโอกาสที่ดีในชีวิตของข้า "

สายตาของเซี่ยวหยูเต็มไปด้วยความปรารถนา

หลินฉวนจ้องมองเซี่ยวหยูด้วยสายตาคาดไม่ถึง "ปู่ของเจ้า ยินยอมปล่อยเจ้าไปเช่นนั้นรึ?"

"หากเป็นเรื่องนี้นับว่าเขาใจกว้างกว่าบิดาข้าเสียอีก แต่ถึงแม้ท่านจะไม่ยินยอม ข้าก็ยังจะไป! ...เมืองออโรร่าแห่งนี้หาใช่เวทีของข้าไม่ หากข้ายังอยู่ในเมืองออโรร่าต่อไป ไม้พ้นคงเดินตามรอยเท้าของท่านปู่ ชีวิตนี้ข้าคงจบสิ้นเพียงระดับวิญญาณแรกก่อตั้งเท่านั้น หาได้มีความก้าวหน้าหรืออันใดเหนือล้ำท่านปู่ นี่คงเป็นเหตุผลสำคัญของท่านปู่กระมัง ที่ไม่คิดหยุดยั้งข้าให้จมอยู่ที่แห่งนี้ "

เซี่ยวหยูหัวเราะออกมา

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.