หน้าแรก > War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 73 ข้าจะตัดนิ้วเจ้า!!

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ผลการประลองระหว่างเซี่ยวหยูและลี่ชิงนั้น ผลปรากฏออกมาว่าเซี่ยวหยูสามารถเอาชนะลี่ชิงได้อย่างง่ายดาย เขาแทบไม่ได้เปลืองเรี่ยวแรงหรือพลังงานต้นกำเนิดมากมายซะด้วยซ้ำ

สายตาของเซี่ยวหยูมองไปยังเมิ่งฉวนที่กำลังหยิบติ่มซำขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย

“เฮ่ เมิ่งฉวนเจ้ากินเสร็จแล้วหรือไม่?”

เซี่ยวหยูพลันเอ่ยออกปากท้าเมิ่งฉวนด้วยตัวเอง

เมิ่งฉวนหยิบติ่มซำอีกลูกก่อนที่จะเอาเข้าปากพร้อมเดินออกมายังเวทีประกายดารา

"ข้าขอใช้อาวุธสู้กับเจ้าแล้วกัน หากข้าใช้มือเปล่าเกรงว่าข้าคงไม่ต่างอันใดกับลี่ชิง ที่ไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้แม้แต่น้อย"

เมิ่งฉวนแจ้งเซี่ยวหยู ก่อนที่จะเดินไปหยิบพลองสีดำออกมา

"เชิญ"

เซี่ยวหยูพยักหน้า

เมิ่งฉวนหยิบพลองออกมาจากชั้นวางอาวุธก่อนที่มันจะเดินมาเผชิญหน้ากับเซี่ยวหยู ตอนนี้รอยยิ้มขี้เล่นหายไปจากใบหน้าเมิ่งฉวน ความจริงจังถูกฉายชัดออกมา

"แม้ข้าจะรู้ตัวดีว่าหาใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าไม่ แต่ข้าก็อยากลองดู ...ข้าอยากรู้ความแตกต่างระหว่างข้ากับเจ้าที่เป็นถึงอัจฉริยะที่ร่ำลือกันในเมืองออโรร่าแห่งนี้”

เมิ่งฉวนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

แล้วมันก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที

เงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 3 ตัวปรากฏอยู่เหนือศีรษะมัน

เพียงพริบตาเมิ่งฉวนก็พุ่งมาถึงหน้าเซี่ยวหยู มันควงพลองราวจักรผันส่งเสียงดังหวีดหวิวฝ่าอากาศ ทั้งยังโคจรพลังงานต้นกำเนิดพร้อมป้อนกระบวนท่าจู่โจมออกไปโดยพลัน

พลองพันเงา!

พลองแตกตัวแยกออกมาเป็นจำนวนนับสิบแยกย้ายจู่โจมไปยังเซี่ยวหยูทุกทิศทาง

เซี่ยวอยู่ยังคงสงบนิ่ง มันยืนตั้งมั่นดั่งภูผา

เมิ่งฉวนที่เผชิญหน้ากับสภาวะตั้งมั่นของเซี่ยวหยูหาได้หวั่นเกรง มันเกร็งพลังพร้อมทั้งทุ่มเทเรี่ยวแรงซัดไปยังเซี่ยวหยูโดยหวังให้อีกฝ่ายไม่สามารถรับการจู่โจมอันหนักหน่วงครั้งนี้ไหว

ฝ่ามือเอกะ!

เซี่ยวหยูสะบัดมือส่งแขนเสื้อออกไปพัวพันกับพลอง ที่แท้จริงของเมิ่งฉวน

พลองเหล็กสีดำของเมิ่งฉวนพลันเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศอย่างน่าพิศวงราวกับรอคอยเวลานี้อยู่แล้ว มันหักหลบแขนเสื้อของเซี่ยวหยูได้อย่างอัศจรรย์ก่อนที่จะบรรลุไปถึงบริเวณเอวของเซี่ยวหยู

ฟู่มมม!

คลื่นสั่นสะเทือนและแรงอัดอากาศที่เกิดจากการแกวงพลองของเมิ่งฉวนนั้นรุนแรงมาก เกรงว่าหากพลองนี้ฟาดลงไปในลักษณะนี้ คงต้องพิกลพิการกันบ้างแล้ว

หากเป็นคนอื่นถูกพลองนี้แน่นอนว่าสถานเบาก็พิการ สถานหนักก็ตกตาย!

"หืม? เซี่ยวหยู่ไม่คิดหลบ ... "

ต้วนหลิกเทียนประหลาดใจเล็กน้อย มันสังเกตว่าพลองนี้ของเมิ่งฉวน หากเซี่ยวหยูคิดจะหลบจริงๆย่อมไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร

แต่มันไม่คิดหลบหลีก อีกทั้งยังไม่ได้ใช้ออกด้วยฝ่ามือเอกะเพื่อป้องกัน

ราวกับว่ามันกำลังรอให้พลองของเมิ่งฉวนบรรลุผล

"นายน้อยหยู คิดจะรับพลองนี้ตรงๆ เช่นนั้นหรือ?"

หลายคนเบิกตากว้างออกมาด้วยความตกตะลึง

ในบรรดาคนทั้งหมด มีเพียง 4 คนจากตระกูลเซี่ยวที่นิ่งสงบไร้อาการแตกตื่น อีกทั้งเซี่ยวหลันและเซี่ยวหยุนยังเผยรอยยิ้มออกมาด้วย เมื่อเห็นภาพดังกล่าว

ปัง!

พลองของเมิ่งฉวนบรรลุลงบนเอวของเซี่ยวหยูอย่างจัง เสียปะทะดังสนั่นขึ้น แต่ทว่าสัมผัสนี้หาใช้พลองเหล็กหวดปะทะกายเนื้อไม่ มันเป็นเสียงพลองเหล็กปะทะกับ เกราะพลังงานต้นกำเนิดของเซี่ยวหยู

เกราะป้องกันเริ่มสั่นสะเทือน

พริบตาต่อมามันก็แตกสลายไป

และในขณะที่เกราะป้องกันสลายตัวลงไปนั้นเอง เมิ่งฉวนกลับกรีดร้องก่อนที่จะกระเด็นออกมา ทั้งตัวมันและไม้พลองต่างลอยละลิ่วก่อนจะปลิวไปกระแทกพื้นเวทีพร้อมๆกัน

"นี่มัน…"

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

นี่ไม่ใช่วิชาป้องกัน พลังเคลื่อนย้ายจักรวาลของเขาหรอกเหรอ?

เซี่ยวหยูรู้จักมันได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้นพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลของเซี่ยวหยูก็ฝึกฝนจนมีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญแล้ว ซึ่งมันมากกว่าของเขาอีก

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่คิดหลบการโจมตีของเมิ่งฉวน

อย่างไรก็ตามวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงทั้งสองวิชาของเขามีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญแล้วทั้งคู่

"ย้ายดารา! ข้าได้ยินว่าตระกูลเซี่ยวมีวิชาป้องกันระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงสูงที่สามารถสะท้อนแรงของสู้ต่อสู้กลับไปทำร้ายตัวมันเองได้... มิผิดแน่ นายน้อยเซี่ยวหยูได้ใช้ย้ายดารารับพลังทำลายของพลองพันเงาจากเมิ่งฉวน ก่อนที่จะสะท้อนกลับไปทำร้ายตัวมันเอง นี่หมายความว่านายนายหยูฝึกฝนมันไปจนมีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญแล้ว! "

"โอ้สวรรค์ช่วย... ฝ่ามือเอกะระดับแก่นแท้ ยังมีย้ายดาราระดับผู้เชี่ยวชาญอีก ความสามารถในด้านหยั่งรู้ของนายน้อยหยูนับว่าน่าตกตะลึงโดยแท้จริง"

หลายคนนั้นยอมรับนับถือเซี่ยวหยูอย่างยิ่ง

"ย้ายดารา? เป็นเช่นนั้นเองรึ ... " ต้วนหลิงเทียนคิดในใจ

พลังเคลื่อนย้ายจักรวาลที่เขาฝึกฝนและย้ายดาราของเซี่ยวหยูนั้น เป็นวิชาที่ให้ผลลัพธ์แทบจะเหมือนกัน

"วิชาป้องกันที่เจ้าฝึกคือ ย้ายดารางั้นหรือ?"

ไม่ได้ยินเสียงสนทนาของผู้คน ลี่เฟยก็เดินเข้ามากล่าวถามหลิงเทียน

นางเคยประลองกับหลิงเทียนและได้รับรู้ถึงความพิศวงของวิชาป้องกันของหลิงเทียนที่ อาศัยพลังทำลายของตัวนางเองย้อนกลับมาจู่โม ซึ่งมันคล้ายคลึงกับย้ายดารานี่นัก

"ไม่ใช่ มีเพียงลักษณะที่คล้ายคลึงกันเท่านั้น วิชาป้องกันของข้าเรียกว่าพลังเคลื่อนย้ายจักรวาล"

"เฮ่ เหตุใดเจ้าถึงโหดร้ายถึงเพียงนี้กันเล่า? แค่ฝ่ามือเอกะของเจ้าที่ทำให้ลี่ชิงพ่ายแพ้ข้าก็ลำบากใจและไม่คิดว่าจะเอาชนะเจ้าได้แล้ว..นี่ยังมีวิชาป้องกันระดับนั้นอีก โอ๊ยถ้าข้ารู้ว่าเจ้าเป็นตัวประหลาดขนาดนี้ ข้าไม่มาสู้กับเจ้าให้เจ็บตัวหรอก แย่จริงๆ "

เมิ่งฉวนลุกคนด้วยใบหน้ามอมแมม ก่อนที่มันจะเหลือบมองเซี่ยวหยูด้วยแววตาขื่นขมราวกับลูกหมาตกน้ำ

เมื่อทุกคนเห็นภาพมอซอกับสายตาน่าสงสารของเมิ่งฉวน พวกมันต่างระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

"เฮ้ เมิ่งฉวน เจ้าทำให้นายน้อยใช้ย้ายดาราได้ ก็นับว่าเจ้าร้ายกาจไม่เบาแล้ว เจ้าน่าจะภูมิใจนะ! "

“ใช่ๆ อย่างน้อยเจ้าก็แข็งแกร่งกว่า ตัวขี้แพ้ที่เรียกผู้อื่นว่าบ้านนอกมากนัก”

หลายคนต่างหัวเราะออกมาต่างได้ยินคำกล่าวนี้

"เฮ่ พวกเจ้าอย่าเอาข้าไปเทียบกับคนที่แพ้ข้าไปแล้วเซ่ นี่มันดูถูกข้าอยู่นา ฮ่าฮ่าฮ่า"

เมิ่งฉวนโวยวายขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะ

ลี่ชิงที่อยู่ด้านข้างได้แต่ยืนกำหมัด ตอนนี้สีหน้ามันบิดเบี้ยว และเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ...

"เฮ้ ต้วนหลิงเทียนข้าต้องการสู้กับเจ้า!"

เมิ่งฉวนมองไปยังต้วนหลิงเทียน

เซี่ยวหยูหันกลับไปก่อนที่จะเดินไปหาเซี่ยวหลันทันที เมื่อหมดเรื่องของมันแล้ว

"ทำไมถึงเลือกข้างั้นรึ?"

แน่นอนว่าหลิงเทียนย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เขาเดินออกไปกลางเวที พร้อมกับกล่าวถามขึ้นมา

เพราะจะอย่างไรเป้าหมายของเขาก็คืออันดับ 1 ในการจัดอันดับงานชุมนุมมังกรซ่อนอยู่แล้ว

หากเขาอยากได้อันดับที่ 1 ก็หมายความว่าเขาต้องสามารถเอาชนะเหล่าอัจฉริยะให้ได้ทั้งหมดนั่นเอง

แต่เขาสับสน ว่าทำไมเมิ่งฉวนถึงเลือกเขาโดยตรง?

เพราะดูเหมือนเขาก็ยังไม่ได้สู้กับหลินฉวนเช่นกัน?

"ในตอนแรกนั้นข้าคิดว่านอกเหนือจากเซี่ยวหยูแล้ว ฝ่ายตรงข้ามที่พอจะสู้กับข้าได้ก็มีแค่ ลี่ชิง และก็หลินฉวน...ตอนนี้หากไม่นับรวมเซี่ยวหยูที่ข้าพ่ายแพ้ไป ทางด้านลี่ชิงนั่นข้าก็เอาชนะมันไปเรียบร้อยแล้ว และในเมื่อเจ้าเอาชนะหลินฉวนลงได้ แน่นอนว่าจะอย่างไรข้าก็ต้องเลือกเจ้าเป็นคู่ประลอง! เพราะถ้าข้าเอาชนะเจ้าได้ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องไปประลองกับหลินฉวนให้เสียเวลา!”

ต้วนหลิงเทียนตกตะลึงเล็กน้อย

หากคิดตามคำกล่าวของมันแล้ว ก็พบว่าเป็นจริงดังนั้น

"เฮ่ เจ้าฉลาดเหมือนกันนี่"

ต้วนหลิงเทียนยิ้ม

หลังจากนั้น เมิ่งฉวนก็เริ่มจู่โจม

มันระเบิดพลังความแข็งแกร่งออกมาทั้งหมด ปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 3 ตัว!

มันพุ่งมาจู่โจมหลิงเทียนราวกับพายุบุแคม เงาของพลองที่ใช้ออกด้วยวิชา พลองพันเงา ปิดล้อมหลิงเทียนไปทุกทิศทาง

วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

ต้วนหลิงเทียนเอนตัวหลบพลองของเมิ่งฉวนได้อย่างพริ้วไหวไม่ต่างอะไรกับกิ่งหลิวลู่ลม

เมื่อเมิ่งฉวนเลือกที่จะแทงพลองมาหาหลิงเทียนหลังจากที่มันฟาดอากาศมาสักพัก หลิงเทียนพลันแสยะยิ้มแล้วพุ่งตัวสวนออกไป

ร่างกายของหลิงเทียนราวกับอสรพิษเลื้อยม้วนตามพลองไปจนถึงหน้าเมิ่งฉวน

มีคำกล่าวไว้ว่า อย่าตีอสรพิษด้วยไม้ มันจะเลื้อยตามไม้มาฉกมือ

ตอนนั้นคำกล่าวนั้นกำลังจะเป็นจริงตอนนี้

หมัดทะลวง!

หลิงเทียนใช้โอกาสที่เข้าประชิดตัวเมิ่งฉวนมันเอนตัวซัดหมัดทะลวงเข้าไปที่กลางอกของเมิ่งฉวนอย่างจัง จนเมิ่งฉวนกระเด็นถอยหลังออกไปหลายสิบก้าว

พรวด!

เมิ่งฉวนถ่มน้ำเลือดที่กระอักขึ้นมาค้างในลำคอ ก่อนที่จะกล่าวถามออกมา "วิชาท่าร่างอันใดกัน? เหตุใดข้ารู้สึกว่ามันมีเอาไว้เพื่อทำลายวิชา พลองพันเงา ของข้าโดยเฉพาะ"

"วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย"

ต้วนหลิงเทียนหัวเราะพร้อมกล่าวออกมา ‘เจ้าไม่เคยไม่เคยได้ยินเรื่อง 'อย่าตีอสรพิษด้วยไม้ มันจะเลื้อยตามไม้มาฉกมือ หรอกรึ?’

"อะไร มีเรื่องเช่นนี้ด้วย?"

เมิ่งฉวนยิ้มอย่างขื่นขมก่อนที่จะฝืนลุกขึ้นยืน แล้วเดินกลับไปพักผ่อน

"อย่าตีอสรพิษด้วยไม้ มันจะเลื้อยตามไม้มาฉกมือ... วิชาท่าร่างของต้วนหลิงเทียนที่ชื่อ วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกายนั่นดูราวกับว่าเกิดมาเพื่อ ทำลายวิชาพลองพันเงาของเมิ่งฉวนจริงๆ"

"อา เมิ่งฉวนช่างน่าสงสารนัก"

หลายคนได้แต่ยิ้มออกมาเจื่อนๆ ดูเหมือนพวกมันจะรับรู้ความไม่พอใจของเมิ่งฉวนได้

"ต้วนหลิงเทียน!"

ทันใดนั้นเองลี่ชิงเดินมาหาหลิงเทียนด้วยท่าทางแข็งกร้าว

"หืม?"

หลิงเทียนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย "ลี่ชิงดูเหมือนเจ้าจะยังบาดเจ็บอยู่เล็กน้อย ... อย่าบอกข้านะว่า เจ้าคิดจะสู้กับข้าทั้งสภาพเช่นนี้"

"เหลือเฟือที่จะเอาชนะเจ้า!"

ลิ่ชิงกล่าวออกมาอย่างดุร้าย

"แค่วาจาโอ้อวด ผู้ใดก็กล่าวได้ ...เข้ามาสิ"

หลิงเทียนยืนนิ่งๆรอลี่ชิงเข้ามา

"ช้าก่อน"

แต่ทว่าลี่ชิงกลับกล่าวออกมาอย่างไม่คาดคิด

"มีอะไรอีกเล่า?"

หลิงเทียนขมวดคิ้ว ลี่ชิงนี่น่ารำคาญจริงๆ

"เหตุใดพวกเราไม่เดิมพันกันสักหน่อยเล่า?"

ลี่ชิงหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่มันจะกล่าววาจาออกมาพร้อมสายตาที่เรืองวูบ

"เดิมพันอะไร?"

หลิงเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อย

"ผู้ใดพ่ายแพ้ในการประลองครั้งนี้ต้องห้ามยุ่งกับ เฟยเฟย อีกตลอดชีวิต และหากเห็นนางเดินมาไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็ต้องหลบออกไปไม่เจอหน้าอีกเป็นอันขาด ... เจ้ากล้ารับเดิมพันครั้งนี้หรือไม่?" ลี่ชิงกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

ท่าทางของหลิงเทียนพลันเปลี่ยนเป็นโง่งม

ไอ่เขาก็นึกว่าลี่ชิงจะเดิมพันด้วยเงินหรือโอสถล้ำค่าหรืออาวุธวิญญาณอะไรทำนองนั้น

ต้วนหลิงเทียนเริ่มหัวเราะออกมา

"เจ้าหัวเราะอะไร?"

ลี่ชิ่งรู้สึกเสียหน้าจนโมโหอย่างมาก

"ก็ไม่มีอะไร ข้าแค่คิดว่ามันน่าขันเท่านั้นเอง ... เจ้าเป็นใครกัน? เจ้าอาศัยอะไรในการนำลี่เฟยมาเดิมพัน? เจ้าได้ถามความเห็นของนางแล้วหรือไม่? นอกจากนี้ ตัวนางย่อมมีความนึกคิดมีชีวิตจิตใจหาใช่สิ่งของไม่ เจ้าฝันกลางวันไปหรือไรที่คิดว่านางจะเห็นด้วยกับการเดิมพันของเจ้า? เจ้าเห็นนางเป็นเพียงแค่สิ่งของที่สามารถจัดการเช่นไรตามใจตัวได้เช่นนั้นหรือ? "

คำถามที่หลิงเทียนถามออกมานั้นฉีกหน้าของลี่ชิงเสียกระจุย ตอนนี้มันถึงกับหน้าตาบิดเบี้ยวไร้คำจะกล่าว

“ข้า ... ข้า ...”

ลี่ชิงรู้สึกโมโหและอับอายมาก แต่มันไม่รู้จะปฏิเสธคำกล่าวหรือโต้แย้งอย่างไรดี

"พูดได้ดี!"

เมิ่งฉวนกล่าวชมเชยออกมาเสียงดังสนั่น

ส่วนสายตาของทุกคนที่ส่งไปยังลี่ชิงนั้นมีแต่ความรังเกียจและเหยียดหยาม การที่ลี่ชิงกล่าวเรื่องนำคนมาพนันราวกับเป็นของเล่นเช่นนี้ ทำให้ราคาของตัวมันนั้นต่ำตมลงไปอย่างมาก

และหากสังเกตดีๆไม่ว่าผู้ใดย่อมมองออกว่าลี่เฟยนั้นชื่นชอบต้วนหลิงเทียน

"ดูเหมือนว่า เขาจะชอบลี่เฟยจริงๆ"

ดวงตาที่กระจ่างใสของเซี่ยวหลันหลับลงช้าๆก่อนที่จะลืมออก ยามนี้หากมองลึกลงไปจะสัมผัสถึงความเสียใจเล็กๆบนแววตาของนางได้

ในขณะที่ลี่ชิงกล่าวถึงการนำลี่เฟยมาพนันขันต่อนั้น ใบหน้าของนางพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง แต่เมื่อนางได้ฟังวาจาของหลิงเทียนใบหน้าเย็นชาพลันแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนลง

นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่าหลิงเทียนผู้นี้เป็น 'สุภาพบุรุษ' ...

นางพลันอบอุ่นในหัวใจ

"ต้วนหลิงเทียน ข้าจะให้เจ้าไม่ตายดี!"

ลี่ชิงที่ไม่อาจระงับโทสะได้อีกได้ระเบิดมันออกมา จนตอนนี้มันไม่เหลือสติยั้งคิดอีกแล้ว

เหนือศีรษะของมันพลังงานฟ้าดินหลอมรวมกับพลังงานต้นกำเนิดจนสร้างเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 3 ตัว

มังกรแหวกนภา!

ดัชนีอุดรทมิฬ!

ลี่ชิงจู่โมอย่างบ้าคลั่ง ทุกจุดที่มันจู่โจมออก ล้วนแต่เป็นจุดตายของหลิงเทียนทั้งสิ้น ยามนี้มันเต็มไปด้วยความอำมหิตไม่คิดยั้งมือ หรือมองว่าเป็นการประลองอีกต่อไป

วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

ในขณะที่หลิงเทียนใช้วิชาท่าร่างหลบหลีก ท่าทางของมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ

แม้อรหันต์ก็บันดาลโทสะได้หากโดนยั่วยุมากเกินไป!

"ลี่ชิง เจ้าล้ำเส้นเกินไปแล้ว!"

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมเสียหัวเราะเยือกเย็น มือของมันพลันเลื่อนไปที่เอว ชักกระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วงออกมาด้วยความเร็วราวกับเส้นสายอัสนี

วิชาวาดกระบี่!

กระบี่ที่รวดเร็วสะบัดไปเตรียมปะทะกับดัชนีอุดรทมิฬ สกัดกั้นหนทางจู่โจมเอาไว้ได้อย่างหมดจดในเสี้ยวพริบตา

ฟุ่บ!

ลี่ชิงถอยหลังหลบกระบี่ของต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะใช้ดัชนีอุดรทมิฬจี้ไปที่ใบดาบกระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วงเพื่อหวังทำลายกระบี่ของหลิงเทียน

ฟึ่บ!

ทว่าดัชนีของมันกลับจี้ได้เพียงอากาศธาตุ

ต้วนหลิงเทียนนั้นตวัดกระบี่กลับมาด้วยความเร็วสูงล้ำ

"ในเมื่อเจ้าคิดจะฆ่าข้า เช่นนั้นข้าจัดตัดนิ้วของเจ้าเสีย!"

น้ำเสียงไม่แยแสของต้วนหลิงเทียนดังขึ้น มันสั่นสะท้านใจผู้ฟังเป็นอย่างมาก

และเมื่อสิ้นคำนั้น มันราวกับมีสายอัสนีบาตผ่าลงมาจากสวรรค์

ฟั่บ!

กระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วงเคลื่อนที่รวดเร็วกว่าครั้งใด ประกายแสงสีม่วงลากผ่านห้วงอากาศในพริบตา

วิชาวาดกระบี่ สะบั้นดัชนี!

ฉัวะ!! “อ๊าคคคคคคคคคคค!”

ลี่ชิงร้องโหยหวนออกมา มือซ้ายของมันกุมไปยังมือขวาที่ตอนนี้ ไร้ซึ่งนิ้วชี้ โลหิตหลังไหล่ราวกับน้ำพุ

นิ้วของมันถูกสะบั้นกลิ้งตกลงอยู่ตรงพื้นด้านหน้า

มันฝืนทนความเจ็บปวดก่อนที่จะหยิบนิ้วชี้ที่ขาดพร้อมทั้งรีบพุ่งตัวออกจากเวทีประกายดาราไปราวกับเหินบิน

ยามนี้ไม่ว่าจะการจัดอันดับงานชุมนุมมังกรซ่อนหรือลี่เฟย? ก็ไม่มีความสำคัญอันใดกับมันทั้งนั้น

มันย่อมรู้ดีว่าหากไม่รีบกลับไปรักษาเชื่อมต่อนิ้ว วิชาดัชนีอุดรทมิฬที่มันทุ่มเทฝึกฝนอย่างยากลำบากเป็นเวลาหลายปีอาจจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ได้

เพราะความแข็งแกร่งทั้งหมดของดัชนีอุดรทมิฬนั้นล้วนแล้วแต่มาจากนิวชี้ขวานี้ทั้งสิ้น

"ต้วนหลิงเทียน ข้าจะกลับมาล้างความอับยศนี้และให้เจ้าได้ชดใช้ ร้อยเท่า พันทวี!

ในขณะที่เคลื่อนร่างจากไป ลี่ชิงยังไม่ลืมหันกลับมากล่าวอาฆาต

หลิงเทียนนั้นเพียงยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ใบหน้าของมันหาได้ปรากฏร่องรอยหวาดหวั่นจากคำขู่ลี่ชิงแม้แต่น้อย

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.