spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
เขาไม่ได้เป็นเพียงผู้บ่มเพาะระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 1 ...
แต่เขากลับมีระดับบ่มเพาะถึงระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 ที่เทียบเท่ากับ เซี่ยวหยู หลินฉวน และ ลี่ชิง!
"ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2!"
ท่าทางของลี่ชิงพลันตื่นตระหนกอย่างมาก มันไม่อยากจะเชื่อว่าเมิ่งฉวนจะมีระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 เช่นเดียวกับมัน
เพลงหมัดวัวคลั่ง!
เมิ่งฉวนชกหมัดออกด้วยพลังต้นกำเนิดทั้งหมด หมัดของมันพุ่งออกไปเกรี้ยวกราดกว่าที่เคย
ดัชนีอุดรทมิฬ!
หลังงานต้นกำเนิดหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของลี่ชิงก่อนที่มันจะหมุนวนควบแน่นอยู่ตรงปลายนิ้วชี้ของลี่ชิง พลังงานที่อัดแน่นมันอัดแน่นหมุนวนอยู่รอบๆนิ้วชี้ของลี่ชิง ราวกับสว่าน
ดัชนีปะทะกับกำปั้น
ทันใดนั้นท่าทางของเมิ่งฉวนเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่มันจะถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็วจนเกิดลมกรรโชก
ดวงตาของเมิ่งฉวนเรืองวูบก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "อย่างที่คิดเอาไว้เลยวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงของตระกูลลี่ ดัชนีอุดรทมิฬนี้ร้ายกาจนัก เจ้านับว่ามีความเข้าใจในวิชาสูงมากทีเดียว ถึงสามารถฝึกฝนมันจนมีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญได้ ... แต่หากยังเป็นดัชนีอุดรทมิฬที่มีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญอย่าหวังว่าจะทำอะไรข้าได้! "
“หยุดพล่ามเหลวไหล!”
ลี่ชิงตะโกนออกมาอย่างรุนแรงก่อนที่จะเคลื่อนร่างไปยังเมิ่งฉวนด้วยความเร็วสูงสุด
ทว่าในทันใดนั้นเองเมิ่งฉวนกลับฉีกร่างออกไปด้านข้าง ก่อนที่มันจะมุ่งหน้าไปยังชั้นวางอาวุธ
"เขาคิดจะใช้อาวุธ!"
ทันใดนั้นทุกคนรู้ทันทีว่าเมิ่งฉวนคิดอันใดอยู่
เมิ่งฉวนมุ่งหน้าไปยังชั้นวางอาวุธ
"เฮอะ!"
เห็นได้ชัดว่าลี่ชิงไม่คิดขัดขวาง มันเลือกที่จะยืนรอยู่ตรงกลางเวที
ถึงแม้ว่ามันจะไล่ตามมาและเอาชนะเมิ่งฉวนได้ แต่มันก็เป็นเพียงชัยชนะธรรมดาๆ หาได้มีเกียรติยศใดๆไม่
สิ่งเดียวที่มันคิดจะทำคือ เอาชนะคู่ต่อสู้ยามที่พวกมันทุ่มเทใช้ออกทุกสิ่ง!
เมื่อมันต่อให้ศัตรูใช้อาวุธแล้วยังสามารถเอาชัยได้ หมายความว่ามันได้เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของอีกฝ่าย สำหรับลี่ชิงนิสัยของมันเป็นคนเช่นนี้ มันอยากเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเมิ่งฉวนต่อหน้าทุกคนเพื่อความพอใจของมัน
“ฟุ่บๆ!”
เมิ่งฉวนมาถึงชั้นวางอาวุธก่อนที่จะเลือกอาวุธขึ้นมา 1 ชิ้น
ไม้พลองสีดำ!
ทันใดนั้นลี่ชิงพลันเคลื่อนไหวทันที
วิชาท่าร่าง มังกรแหวกนภา!
มันพุ่งร่างไปยังเมิ่งฉวนราวกับมังกรกำลังแหวกว่ายด้วยความเร็วสูงดุดันไม่ต่างอะไรกับพายุสายฟ้า
"เข้ามา!"
เมิ่งฉวนตะโกนเสียงดังก่อนที่จะปักหลักไม่ไปไหนพร้อมควงพลองขึ้นมาตอบโต้ทันที
พลองพันเงา!
ไม้พลองสีดำวูบไหวออกมาเป็นภาพติดตา มือที่ควงพลองของเมิ่งฉวนรวดเร็วจนมองด้วยตาเปล่าแทบไม่ทัน มันฟาดพลองออกมาพร้อมกับมีภาพติดตาจำนวนมหาศาลพุ่งมาจากทุกทิศทาง พุ่งไปรวมกัน ณ จุดปะทะที่ดัชนีของลี่ชิง
"เฮอะ! นั่นคือทั้งหมดของเจ้าแล้วรึ?"
เท้าของลี่ชิงงอลงเล็กน้อยก่อนที่มันจะเคลื่อนร่างหลบเงาลวงของพลอง อ้อมไปด้านข้างพร้อมจี้ดัชนีไปยังเมิ่งฉวนที่โจมตีพลาดทันที
ดัชนีอุดรทมิฬ!
หากนิ้วที่หลอมรวมพลังงานต้นกำเนิดทั้งร่างจนหมุนวนราวกับพายุใต้ฝุ่นของลี่ชิง กระทบถูกร่างเมิ่งฉวนแล้วส่งพลังทำลายทั้งหมดถ่ายทอดไปยังร่างกายมันแล้วล่ะก็..
"อย่าด่วนดีใจเร็วเกินไปนัก"
เมิ่งฉวนแสยะยิ้มออกมา
ทันใดนั้นหัวใจของลี่ชิงพลันสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์อันตราย
ฟุ่บบบ!
มีลมกรรโชกรุนแรงพัดมาจากด้านหลังของลี่ชิง
สี่หน้าของลี่ชิงพลันแปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว มันเริ่มสลายพลังงานต้นกำเนิดทั้งหมดที่รวบรวมไปยังปลายนิ้วเพื่อแบ่งครึ่งหนึ่งมาใช้เสริมวิชาท่าร่างทันที
มังกรแหวกนภา!
อีกทั้งมันยังนำพลังงานต้นกำเนิดส่วนที่เหลือทุ่มเทโคจรใช้ออกด้วยวิชาป้องกันอย่างสุดกำลัง
ระฆังทองคลุมกาย!
ปัง!!
ไม้พลองสีดำลึกลับฟาดปะทะไปกลางหลังของลี่ชิงเข้าอย่างจัง มันทำลายพลังงานต้นกำเนิดที่ป้องกันร่างกายของลี่ชิงจนหมดสิ้น พร้อมทั้งปะทุไปยังกลางหลังของลี่ชิงอย่างหนักหน่วง ส่งลี่ชิงลอยกระเด็นออกไปอย่างสิ้นท่า
ตุบบบ!!
ลี่ชิงไม่สามารถรักษาสมดุลของร่างกายได้ทันจึงไม่อาจพลิกตัวเพื่อลงพื้นอย่างปลอดภัยได้ หลังของมันหันขึ้นไปหาท้องฟ้า ส่วนหน้าของมัน...ไถลไปกับพื้นดิน อีกทั้งมีเศษดินบางส่วนกระเด็นเข้าไปในปากของมัน น่าสมเพชนัก
เมิ่งฉวนเหลือบมองลี่ชิงอย่างไม่แยแสก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "อาศัยวิชาป้องกันระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางหาได้มีความสามารถเพียงพอที่จะป้องกันไม้พลองพันเงาของข้าได้ แต่ยังถือว่าเจ้าโชคดีที่โคจรพลังงานต้นกำเนิดใช้ออกด้วยวิชาระฆังทองคลุมกายนั่นทัน จึงลดพลังทำลายของพลองพันเงาข้าไปกว่าครึ่ง อีกทั้งเจ้ายังสลายพลังในดัชนีอุดรทมิฬไปเสริมพลังป้องกัน ทั้งยังพุ่งตัวสลายแรงปะทะได้ทันท่วงที มิฉะนั้นป่านนี้กระดูกสันหลังของเจ้าคงแตกเป็นเสี่ยง พิการไปแล้ว! "
"ทีหลังเจ้าก็จดจำใส่สมองของเจ้าเอาไว้ ว่าอย่าได้เที่ยวดูถูกเหยียดหยามผู้อื่นให้มากนัก ... เพราะหากเกิดเหตุการณ์ดั่งเช่นวันนี้ วันที่เจ้าพ่ายแพ้ผู้ที่เจ้าเรียกว่าขยะ ตัวเจ้านั้นย่อมไร้ค่ายิ่งกว่าขยะเสียอีก"
เปลวเพลิงแห่งโทสะเริ่มจางหายไปจากดวงตาของเมิ่งฉวน ก่อนหน้านี้มันเจ็บใจกับคำดูถูกเหยียดหยามของลี่ชิงในตอนแรกมาก แต่ยามนี้ประกายตาของมันเริ่มกลับมาเป็นปกติหาได้ใส่ใจอะไรอีก
หากคนอื่นไม่ได้ไปคุกคามหรือกล่าววาจาหยามหยันอะไรมันก่อน มันก็ไม่คิดที่จะลงมือด้วยอำมหิตอะไรถึงเพียงนี้ เพราะเมื่อครู่หากลี่ชิงไม่คิดป้องกันมันคงพิการไปแล้ว
"เจ้า!"
ลี่ชิงที่เริ่มฟื้นตัวจากการใช้เม็ดยาทองประสานกายระดับ 9 ได้แต่สบถออกมาด้วยโทสะหลังจากที่ได้ฟังวาจาของเมิ่งฉวน
"ข้าคาดไม่ถึงจริงๆว่าเมิ่งฉวนจะมีความสำเร็จในวิชาป้องกันและวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางจนมีความสำเร็จในขั้นตอนแก่นแท้เช่นนี้ อีกทั้งพลองพันเงาของมันที่เป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงมันกลับมีความสำเร็จถึงขั้นผู้เชี่ยวชายอีกด้วย สวรรค์"
"ข้าจำได้ว่าในเมืองออโรร่าของเรามีเพียงตระกูลลี่เท่านั้นไม่ใช่หรือไง ที่ครอบครองวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงพลองพันเงา? เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลลี่? "
"เหอะ มันแทบจะกินเลือดกินเนื้อกับลี่ชิงถึงเพียงนั้น เจ้าว่ามันมีความสัมพันธ์อันใดอยู่ไหมเล่า?
"ข้าเกือบลืมไปเสียแล้ว"
“สะใจยิ่งนัก! ก่อนหน้านี้ลี่ชิงมันดูถูกคนจากตระกูลเล็กๆว่าเป็นเพียงขยะ แต่ว่ายามนี้มันพ่ายแพ้ให้แก่คนจากตระกูลเล็กๆ .... ทำได้ดี เมิ่งฉวน ทำได้ดียิ่ง ฮ่าฮ่าฮ่า "
"ฮ่าฮ่าฮ่า!"
......
ตอนนี้เหล่าอัจฉริยะจากตระกูลเล็กๆทั้งหมดล้วนสาแก่ใจที่ได้เห็นสภาพอดสูหน้าคลุกดินของลี่ชิง มันพ่ายแพ้แก่คนที่มันเรียกว่าขยะ จะมีอันใดสะใจมากไปกว่านี้อีก?
ตอนนี้อารมณ์ของลี่ชิงพลันเอ่อล้นออกมาด้วยความไม่พอใจ ราวกับเขื่อนแตก
ลี่ชิงมองไปยังเมิ่งฉวนด้วยแววตาอำมหิต "เมิ่งฉวนอย่าให้มันได้ใจมากไปนัก ที่เจ้าบังเอิญเอาชนะข้าได้ ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะข้าประมาทเจ้าเท่านั้น หาไม่แล้วน้ำหน้าอย่างเจ้าไม่มีวันเอาชนะข้าได้"
จากที่เขาพิจารณาระดับวิชาและความสำเร็จของเขากับเมิ่งฉวนไม่ได้ด้อยไปกว่าเมิ่งฉวนแม้แต่น้อย
สาเหตุแห่งความพ่ายแพ้ มาจากความประมาทและเลินเล่อของเขาอย่างแท้จริง
"อะไร เหตุใดคนจากตระกูลลี่จึงทำตัวต่ำช้าไร้ยางอายเช่นนี้? หากนี่เป็นสงครามที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพันป่านนี้คนที่ตกตายหาใช่ข้าแต่เป็นเจ้า เจ้าคิดว่าชีวิตของเจ้ามีโอกาสมากมายเช่นนั้นหรือ! "
เมิ่งฉวนกล่าวจบก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
"ถูกแล้ว ในเมื่อเจ้าประมาทนั่นก็เป็นเพราะเจ้าโง่งมและความผิดพลาดของเจ้าเอง จะมาโทษผู้อื่นได้อย่างไร"
หนึ่งในอัจฉริยะจากตระกูลเล็กๆอดไม่ได้ที่จะกล่าววาจาสนับสนุนเมิ่งฉวนออกมาอย่างไม่เกรงกลัว
"เฮอะ! ไม่ต้องห่วง การจัดอันดับรายนามมังกรซ่อนนั้นตัดสินจากการประลองเพียง 1 ครั้งข้าย่อมทราบดี ข้าไม่ได้คิดทักท้วงผลการประลองอันใด ... แต่หลังจากวันนี้ข้าจะไปตามหาเจ้า และล้างความอัปยศครั้งนี้ด้วยความตายของเจ้า! "
ลี่ชิงประกาศกร้าวออกมา
"เช่นนั้นเจ้าคิดว่าข้าอ่อนแอกว่าเจ้าหรือ ข้ากลัวเจ้าหรือไม่? ไร้สาระ! ข้าไปหาอะไรกินยังมีสาระเสียกว่า"
เมิ่งฉวนเดินกลับไปยังซุ้มโดยไม่ได้แยแสอะไรลี่ชิงอีก มันรีบกลับไปหยิบของว่าง กับน้ำชาขึ้นมาดื่มกินอย่างเอร็ดอร่อย
เมิ่งฉวนผู้นี้แท้จริงมันเป็นเพียงปีศาจหิวโหยปลอมตัวมาใช่หรือไม่?
"เมิ่งฉวนผู้นี้นับว่าน่าสนใจนัก"
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวพร้อมหัวเราะออกมา
"รีบบอกข้ามาเร็วเข้า เจ้ารู้แต่แรกแล้วใช่ไหม ว่ามันมีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 "
ลี่เฟยใช้สายตาจับจ้องไปยังหลิงเทียนราวกับจะบอกมันว่า "โอนอ่อนตอบมาเจ้าอยู่ ต่อต้านหรือขัดใจข้า เจ้าเจ็บตัว!"
หลิงเทียนถอนหายใจออกมาก่อนที่จะกล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว "เสี่ยวเฟยเจ้ายังไม่ทันได้เป็นภรรยาของข้ากลับข่มเหงรังแกข้าแล้ว ... นี่หากเจ้าเป็นภรรยาข้า ข้ามิถูกเจ้ากดขี่จนตายหรือ? "
"ข่มเหงนรกเจ้า!"
ลี่เฟยตวาดหลิงเทียนก่อนที่จะพุ่งมือที่งดงามราวกับหยกไปยังต้นขาของมันพร้อมบิดเนื้ออย่างรุนแรง
หน้าหลิงเทียนพลันปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที ...
ในซุ้มด้านในสุดของเวทีประกายดารา
"พี่หยูท่านมองระดับบ่มเพาะของเมิ่งฉวนออกแต่แรกใช่หรือไม่? เหตุใดท่านไม่เตือนข้าเล่า ปล่อยให้ข้าออกไปอับอายเสียได้ " เซี่ยวหยุนกล่าวออกมาด้วยความน้อยใจ
"หยุนน้อย สัญชาติญาณของข้าเพียงบอกว่าเขาอันตรายไม่น้อย ... ในเรื่องระดับการบ่มเพาะก่อกำเนิดขั้นที่ 2 นั้นข้าเองก็พึ่งรู้ยามที่เขาประลองกับลี่ชิงนั่นแหล่ะ"
เซี่ยวหยูส่ายหัวไปมา
"ต้วนหลิงเทียน!"
ทันใดนั้นเองมีเสียงชายหนุ่มคนหนึ่งประกาศเรียกชื่อหลิงเทียนออกมาอย่างหนักแน่น
หลินฉีกระโดดขึ้นมาบนเวทีประกายดาราก่อนที่จะตะโกนเรียกชื่อต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม
หลิงเทียนหันไปสบตากับมันก่อนจะยิ้มออก แล้วเริ่มเดินออกมา
ภายใต้การจับจ้องของทุกคนต้วนหลิงเทียนเดินขึ้นไปยังเวทีประกายดาราอย่างปลอดโปร่งไม่มีทีท่าว่ามันหวั่นเกรงแม้แต่น้อย ท่าทางของมันดูราวกับมั่นใจอย่างมาก แต่ทว่าระดับบ่มเพาะ...
เมื่อเทียบกับหลินฉีมันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
"ระดับบ่มเพาะร่างกาย..มันเป็นเพียงระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 จริงๆ" ถึงแม้ข่าวลือหลายๆอย่างอาจจะดูเกินจริงไปบ้างแต่ความจริงที่ว่าหลิงเทียนนั้นมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย
ส่วนอัจฉริยะจากตระกูลเล็กๆนั้นได้แต่จ้องมองไปยังหลิงเทียนด้วยแววตารังเกียจ
และแน่นอนว่านอกจากความรังเกียจแล้วสายตาของพวกมันยังเต็มไปด้วยความอิจฉา
มุมปากของหลิงเทียนพลันยกขึ้นฉีกยิ้มออกมา แน่นนอนว่ามันย่อมรู้ว่าเหตุใดคนพวกนี้จึงอิจฉาและรังเกียจมัน
สาวน้อยลี่เฟยนั้นเอง ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ...
"ต้วนหลิงเทียน ข่าวลือที่บอกว่าเจ้าสามารถใช้ออกด้วยความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณถึง 3 ตัวโดยอาศัยเพียงระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ... วันนี้ข้าจะขอพิสูจน์มันด้วยตนเอง"
หลินฉีมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาที่กระหายในการต่อสู้
"นั่นก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าด้วย ว่าจะบีบบังคับให้ข้าใช้ออกด้วยความแข็งแกร่งถึงระดับ 3 ช้างแมมมอธโบราณหรือไม่"
ต้วนหลิงเทียนยิ้ม
ท่าทางของหลินฉีพลันเปลี่ยนเป็นจริงจัง มันไม่ตอบคำหลิงเทียน มันเลือกที่จะระเบิดความแข็งแกร่งเต็มกำลังระดับช้างแมมมอธโบราณ 2 ตัวออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้าหาหลิงเทียน!
ก้าวย่างเงาเลือน!
ต้วนหลิงเทียนสังเกตได้ว่าหลินฉียามที่มีระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 1 นี้สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วกว่าครั้งที่มันยังอยู่ระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ตอนที่ประลองกับเขาที่ตลาดไม่ต่ำกว่า 2 เท่า
แต่ทว่าวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงของหลินฉี ก้าวย่างเงาเลือนนั้น ยังมีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้น!
ในขณะที่วิชาท่าร่างของหลิงเทียนนั้นมีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญแล้ว!!
วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!
ต้วนหลิงเทียนนั้นควบคุมความแข็งแกร่งตนเองอย่างแยบยลมันใช้ออกเพียงความแข็งแกร่งระดับ 19,000 ปอนด์เท่านั้น ทำให้เงาร่างช้างแมมมอธโบราณตัวที่ 2 ไม่ได้ปรากฏออกมา!
สำหรับผู้ที่เฝ้าดูการประลองอยู่ จะรับรู้ได้ว่ามันอาศัยเพียงความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณ 1 ตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งที่มันใช้ออกนั้น นับว่าด้อยกว่าหลินฉียามนี้เพียง 1,000 ปอนด์ เท่านั้น
แต่ทว่าในแง่ของความรวดเร็ว...
วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกายนั้นรวดเร็วกว่าก้าวย่างเงาเลือนของหลินฉีราวสวรรค์กับนรก!
“บัดซบ นรกอันใดกัน! พอๆๆ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ "
หลินฉีพยายามไล่ตามอยู่ครู่หนึ่งแต่ทว่าหลิงเทียนกลับเคลื่อนกายถอยห่างออกไปโดยที่หลินฉีไม่มีโอกาสแม้แต่จะสัมผัสชายเสื้อของหลิงเทียน ในเมื่อมันไล่ไม่ทันจะให้มันทำอย่างไรได้
และมันรู้ดีว่าหลิงเทียนเชี่ยวชาญด้านการโจมตีขนาดไหน กระบี่ที่ว่องไวนั่น...
ภายใต้เงื่อนไขที่ความเร็วของวิชาท่าร่างน้อยกว่าหลิงเทียน เขาไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีของหลิงเทียนได้อย่างแน่นอน
ในเมื่อรู้ว่าอยู่ไปก็ทำอะไรไม่ได้มันจะวิ่งไล่ไปให้เหนื่อยทำไม
ยิ่งนานมันยิ่งเสียหน้ามากขึ้นอีกด้วย สู้มันยอมแพ้เสียตอนนี้ประเสริฐกว่า
"หลิงเทียนดูเหมือนว่าความสำเร็จในวิชาท่าร่างของเจ้าจะมีขั้นตอนเหนือล้ำกว่าก้าวย่างเงาเลือนของข้าซะแล้ว"
หลินฉีได้แต่มองด้วยสายตาเศร้าๆไปยังหลิงเทียน
"เจ้าเข้าใจถูกต้อง"
ต้วนหลิงเทียนยิ้มกว้าง
"มันเพียงใช้ความแข็งแกร่งที่ไม่ถึงระดับ 2 ช้างแมมมอธโบราณด้วยซ้ำ ... " หลินฉีคิดในใจ
ตอนนี้มันตระหนักได้ว่าต้วนหลิงเทียนยังตั้งใจปกปิดความสามารถที่แท้จริงเอาไว้
"สวรรค์ วิชาท่าร่างอันใดที่หลิงเทียนฝึกฝน? มันใช้ความแข็งแกร่งเพียง 1 ช้างแมมมอธโบราณในการเคลื่อนไหวกลับรวดเร็วกว่าหลินฉี ที่มีความแข็งแกร่ง 2 ช้างแมมมอธโบราณเช่นนี้! "
"ความเร็วของข้าด้อยกว่าเขาอย่างยิ่ง"
"อย่าว่าแต่เจ้า ข้าเองก็ด้อยกว่า"
......
ตอนนี้เหล่าอัจฉริยะจากตระกูลเล็กๆไม่กล้าดูแคลนหลิงเทียนอีกต่อไป
"มีผู้ใดคิดจะขึ้นมาประลองกับข้าต่อหรือไม่"
ไหนๆเขาก็ขึ้นมาบนเวทีประลองแล้ว เขาก็ไม่ได้คิดที่จะกลับไปนั่งพักอะไรในทันที
เวลาผ่านไปสักพักแต่หามีผู้ใดกล้าก้าวขึ้นมา ...
ท่าทางของลี่ชิงพลันหม่นหมองลง
เขาต้องการที่จะสู้กับต้วนหลิงเทียน แต่ทว่าอาการบาดเจ็บของเขายังคงต้องการเวลาเพื่อรักษาตัว
"หลิงเทียน เจ้าเหลือเวลามีความสุขอีกไม่นานนักหรอก" ลี่ชิงหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะกล่าวอาฆาตหลิงเทียนออกมา
"ข้าจะลองดู!"
ร่างหนึ่งพลันเคลื่อนที่ออกมายืนตรงหน้าของหลิงเทียน
หลินฉวน!
"มีคำกล่าวที่ว่า หากจะล่าพยัคฆ์ พี่น้องต้องสมัครสมานร่วมประสานใจ ... ดูเหมือนว่าวันนี้เจ้าจะได้พิสูจน์คำกล่าวนั่นซะแล้ว"
หลิงเทียนพลันยิ้มออกมาเบาๆ
หลินฉวน พี่ชายของหลินฉี
ฉันดับที่ 9 ในรายนามมังกรซ่อนปีที่แล้ว