spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
"เมิ่งฉวนผู้นี้ไม่ธรรมดา"
ท่าทางของเซี่ยวหยูเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
"พี่หยูท่านคงไม่บอกว่าคนผู้นี้ ก็มีความแข็งแกร่งที่หยั่งไม่ถึงเช่นเดียวกับหลิงเทียนหรอกนะ?"
เซี่ยวหยุนกล่าวออกมาอย่างไม่ใส่ใจมากนัก
แต่ตอนนี้เอง
เมิ่งฉวนและเซี่ยวยงก็เริ่มต้นประลองกัน
ฟุ่บ!
ร่างกายของเซี่ยวยงพลันวูบไหวอย่างเลื่อนลอยราวกับเป็นการร่วงหล่นของใบไม้ พุ่งตรงไปยังเมิ่งฉวน
วิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง ใบไม้เริงระบำ!
"ฮาย เจ้าเป็นผู้ชายแท้ๆเหตุใดจึงฝึกฝนวิชาท่าร่างของอิสตรีกันเล่า"
เมิ่งฉวนส่ายหัวไปมา
ปัง!!
ขาของเมิ่งฉวนกระแทกพื้นอย่างแรงส่งร่างของเขาพุ่งไปยังเซี่ยวยงราวกับกระสุนปืนใหญ่
ความเร็วของเขานับว่าเหนือกว่าเซี่ยวยง!
ฝ่ามือวังวนสะท้าน!
ร่างกายของเซี่ยวยงบิดตัวเล็กน้อย เมื่อร่างของเมิ่งฉวนพุ่งสวนเข้ามา เขาก็ควบรวมพลังงานต้นกำเนิดก่อนที่จะโคจรด้วยเคล็ดวิชาจนเกิดคลื่นพลังหมุนวนรอบฝ่ามือของเขาซัดไปยังเมิ่งฉวนทันที
เพลงหมัดกระทิงคลั่ง!
เมื่อเมิ่งฉวนกำหมัดแน่นและต่อยออกไปอย่างแรง พลังงานต้นกำเนิดที่ควบแน่นนั้นฉีกอากาศจนแตกออกก่อให้เกิดพลังไร้สภาพประการหนึ่ง พุ่งไปเตรียมปะทะกับฝ่ามือวงวนของเซี่ยวยง
เหนือศีรษะของคนทั้งสอง ปรากฏเงาร่างแมมมอธโบราณขึ้นมา 2 ตัว
ร่างกายของเมิ่งฉวนสั่นสะท้านไปเล้กน้อย
“อา!”
ทว่าเซี่ยวยงกลับถูกพลังทำลายซัดจนกระเด็นถอยหลังไป
"ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า"
เซี่ยวยงลุกขึ้นมาพยักหน้า ก่อนที่จะกล่าวออกมาต่อเมิ่งฉวนด้วยความจริงใจ
"เฮ่ มันเป็นการต่อสู้ที่ดีนะ"
เมิ่งฉวนเพียงเกาศีรษะอย่างโง่งมและกล่าวตอบกลับไป
แต่ประกายตาของมันเรืองวูบขึ้นมาแวบหนึ่งโดยที่ไม่มีผู้ใดทันสังเกตเห็น
"เจ้ารู้แต่แรกแล้วเช่นนั้นรึว่าเซี่ยวยงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา?"
ลี่เฟยมองไปยังหลิงเทียนด้วยสายตาคาดหวัง ราวกับนางอยากรู้ว่าเหตุใดหลิงเทียนจึงล่วงรู้ได้
"เมิ่งฉวนผู้นั้นซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ หากมันเอาจริงความแข็งแกร่งของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าลี่ชิง "
หลิงเทียนกล่าวออกมาในขณะที่เขายังหรี่จับจ้องไปยังเมิ่งฉวน
มันเป็นเรื่องยากมากที่จะระบุความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับก่อกำเนิดขึ้นไป ด้วยการสังเกตไปที่พลังงานต้นกำเนิดเพียงอย่างเดียว วิธีเดียวที่ผู้คนทั่วไปสามารถกำหนดความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์ได้คือการสังเกตภาพเงาร่างช้างแมมมอธโบราณที่ปรากฏขึ้นหลังพวกมันใช้ออกด้วยความแข็งแกร่ง จนพลังงานฟ้าดินทำปฏิกริยาก่อเป็นเงาร่างช้างแมมมอธโบราณขึ้นมา ...
แต่ต้วนหลิงเทียนนั้นได้รับความทรงจำและการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยมจากประสบการณ์อันยาวนานของจักรพรรดิกลับขาติมาเกิดถึง 2 ชาติภพ
กล่าวได้ว่า สายตาของเขานั้นหาผู้ใดเสมอเหมือนไม่
เขาสามารถมองออกอย่างชัดเจนว่าความสามารถของเมิ่งฉวนไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 1
แต่ความรู้สึกความกดดันและสภาพร่างกายของเขา นั้นคล้ายๆ เซี่ยวหยู หลินฉวน และ ลี่ชิง
ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2
“ถึงแม้ว่าเขาจะเอาชนะเซี่ยวยงได้ แต่นั่นเพราะเขาใช้ออกด้วยวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงที่มีขั้นตอนความสำเร็จมากกว่า ส่วนระดับพลังและความแข็งแกร่งเขาก็ใช้ออกเพียงแค่ระดับช้างแมมมอธโบราณ 2 ตัวเท่ากัน แล้วเจ้ามองเห็นระดับบ่มเพาะเขาได้อย่างไรกัน?”
ลี่เฟยนั้นเห็นได้ชัดว่ายังไม่เชื่อคำกล่าวของหลิงเทียน
หลิงเทียนทำเพียงยิ้มแล้วส่ายหัวเบาๆ ราวกับขี้เกียจอธิบายเรื่องยิบย่อยเช่นนี้
เพราะอีกไม่นานเวลาและความจริงจะเป็นตัวพิสูจน์เอง
"เป็นเช่นนี้นี่เอง"
มุมปากของเซี่ยวหยูขดเป็นรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็สัมผัสได้
"เซี่ยวยงนี่ไร้ประโยชน์นัก!"
คิ้วที่สวยงามราวกับหยกของเซี่ยวหยุนขมวดขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่นางจะพุ่งร่างขึ้นไปยืนเผชิญหน้ากับเมิ่งฉวน
เซี่ยวหยูอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่นเมื่อได้เห็นภาพนี้
"ท่านพี่ เซี่ยวหยุนจะเอาชนะได้หรือไม่?" เซี่ยวหลันกระซิบถามออกมา
"จากการประเมินของข้า บนเวทีประกายดาราแห่งนี้ผู้ที่สามารถเอาชนะเมิ่งฉวนได้มีไม่เกิน 3 คน ... และนอกเหนือจาก 3 คนที่ข้าคิดไว้ผู้อื่นไม่น่าเอาชนะเขาได้"
เซี่ยวหยูส่ายหัว
ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของเซี่ยวหลันอดไม่ได้ที่จะฉายความประหลาดใจออกมา นางคาดไม่ถึงจริงๆว่าวันนี้นอกจากต้วนหลิงเทียนแล้วพี่ชายนางยังให้ความสำคัญกับคนผู้อื่นอีก
"เจ้าตัวโต ข้าจะเป็นคนสู้กับเจ้าเอง" เซี่ยวหยุนกล่าวตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“สตรี? ข้าไม่คิดรังแกสตรี" เมิ่งฉวนกล่าวออกมาพร้อมทำสีหน้าเคร่งเครียด
"เจ้า!"
ใบหน้าของเซี่ยวหยุนพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงเนื่องมาจากโทสะ ร่างกายบอบบางของนางเริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง
"หรือเมิ่งฉวนมันจะคิดว่าการเอาชนะเซี่ยวยงได้ ถือว่าไร้เทียมทานภายใต้สวรรค์แล้ว? เมื่อเดือนที่แล้วในการประลองประจำปีของตระกูลเซี่ยว เซี่ยวยงยังไม่สามารถเอาชนะเซี่ยวหยุนได้ด้วยซ้ำ แต่เขากลับกล้าดูแคลนเซี่ยวหยุน "
"สงสัยเจ้าบ้านนอกนี้คงไม่รู้จัก เซี่ยวหยุน"
"เมิ่งฉวนผู้นี้ กล้าทำตัวโอหังเช่นนี้ได้อย่างไร?"
......
เหล่าสาวกจากตระกูลเล็กๆ เริ่มจับกลุ่มกันสนทนาถึง ความกล้าของเมิ่งฉวน
"ไปตายซะ!"
เซี่ยวหยุนตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ก่อนที่ร่างของนางจะสั่นไหวอย่างรุนแรงแล้วพุ่งไปยังเมิ่งฉวน
ในด้านความเร็วนางนับว่าเหนือกว่าเวี่ยวยง จนถึงขั้นสูสีกับความเร็วก่อนหน้านี้ของเมิ่งฉวน
“หืม”
เมิ่งฉวนแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดประมาทอีกต่อไป เขารีบเคลื่อนร่างไปรับการปะทะกับเซี่ยวหยุนทันที
เพลงหมัดกระทิงคลั่ง!
ครานี้การปะทะของเซี่ยวหยุนกับเมิ่งฉวนถือว่าเสมอกัน
"ความแข็งแกร่งของเซี่ยวหยุนนี่นับว่าใช้ได้"
ต้วนหลิงเทียนประหลาดใจเล็กน้อย
"แน่อยู่แล้ว หากนับในแง่พรสวรรค์ของเยาว์ชนในตระกูลเซี่ยวแล้ว นางหาได้ด้อยกว่าเซี่ยวหลันไม่ "ลี่เฟยกล่าว
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาก่อนที่จะถามว่า "แล้วหากเทียบกับเจ้าล่ะเป็นเช่นไร?"
“ ใกล้เคียง...” ลี้เฟยกล่าว
"เซี่ยวหยุนกำลังจะพ่ายแพ้"
ทันใดนั้นเองพร้อมๆกันกับคำกล่าวของหลิงเทียน ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเมิ่งฉวนพลันเพิ่มสูงขึ้นในชั่วพริบตา
‘เจ้าบ้านั่นสุดท้ายก็ไม่สามารถกดความแข็งแกร่งไปได้นานกว่านี้ ...’
หลิงเทียนสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าพลังงานต้นกำเนิดที่ถูกส่งมาควบแน่นในกำปั้นของเมิ่งฉวนครานี้มันมีปริมาณมหาศาลกว่าพลังงานต้นกำเนิดของระดับก่อกำเนิดขึ้นที่ 1
แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นจะสร้างเงาร่างช้างแมมมอธโบราณได้ถึง 3 ตัวอย่างระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2
ทว่าเพียงเท่านี้เซี่ยวหยุนก็ไม่อาจต้านทานได้
เพลงหมัดกระทิงคลั่ง!
เมิ่งฉวนซัดกำปั้นอออกมาอีกครั้ง และครานี้มันรวดเร็วและรุนแรงกว่าเดิม
ปัง!!
เซี่ยวหยุนถูกซัดกระเด็นกลับหลังไปหลายก้าว ใบหน้าของนางซีดลงเล็กน้อย ความเหลือเชื่อฉายชัดอยู่บนแววตาของนาง
นางสังเกตว่าเพียงเสี้ยวพริบตาเมื่อครู่ อยู่ดีๆกำปั้นของชายตรงหน้าก็มีความแข็งแกร่งพุ่งขึ้นมาในฉับพลัน มันสะกดข่มจนนางไม่สามารถตอบโต้กลับไปได้
"เอาอีกหรือไม่"
เมิ่งฉวนยิ้ม
เซี่ยวหยุนหันกลับมามองไปยังเซี่ยวยวหยูและเซี่ยวหลัน ก่อนที่นางจะตัดใจเดินเข้ามาหาทั้งสอง
"ยอดเยี่ยม!"
บรรดาอัจฉริยะจากตระกูลเล็กๆ อดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางคาดไม่ถึงออกมา และอดไม่ได้ที่พวกมันจะส่งเสียงเชียร์เมิ่งฉวนออกมา
ถึงแม้ว่าการลงมือครั้งนี้จะกล่าวได้ว่ารังแกสตรี แต่ทว่าเมิ่งฉวนเองก็เป็นอัจฉริยะที่มาจากตระกูลเล็กๆเฉกเช่นเดียวกับพวกมัน เมื่อเมิ่งฉวนได้ชัยตระกูลเล็กๆอย่างพวกมันย่อมดีใจด้วย
"ข้าจะสู้กับเจ้า!"
ร่างกายที่กระโดดออกมา
กลับกลายเป็น ลี่ซ่ง นี่เอง
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของลี่ซ่งจะไม่ธรรมดา แต่ก็ยั้งด้อยไป หากคิดจะรับการโจมตีจากเมิ่งฉวน มันจึงพ่ายแพ้ภายในไม่กี่กระบวนท่า
"เอาล่ะ พวกเจ้าเล่นกันไปก่อน ข้าขอออกไปพักสักครู่"
หลังจากเอาชนะลี่ซ่งได้ เมิ่งฉวนก็เดินกลับมายังซุ้มที่พัก เพื่อรับประทานของว่างและน้ำชาที่ทางตระกุลเซี่ยวจัดเตรียมเอาไว้
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ...
คนส่วนใหญ่ก็ทำการสู้รบกันไปหมดแล้ว
เหลือเพียงไม่กี่คนจากในสามตระกูลใหญ่เท่านั้นที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหว
และในหมู่คนเหล่านั้นย่อมมีหลิงเทียนและลี่เฟยรวมอยู่ด้วย
ฟุ่บ!
ลี่เฟยกระโดดขึ้นมายืนกลางเวทีประกายดารา นับว่าดึงดูดสายตาร้อนแรงจากบุรุษทุกคนไม่น้อย
ในแง่ความงดงามลี่เฟยกับเซี่ยวหลันนับว่าไม่มีผู้ใดยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
เพียงแต่งดงามกันไปคนละแบบเท่านั้น
หากเปรียบเซี่ยวหลันเป็นเทพธิดาบริสุทธิ์ที่เหนือโลกียวิสัย ลี่เฟยก็แตกต่างกันไปอีกขั้ว
ราวกับนางมีร่างอันเย้ายวนของปีศาจและใบหน้าที่งดงามเช่นเดียวกับเทพธิดาที่จะสะกดบุรุษทุกผู้
"เซี่ยวหลัน"
สายตาของลี่เฟยจับจ้องไปยังเซี่ยวหลันก่อนที่จะเอ่ยนามของนางออกมา
ทั้งสองนับเป็น 1 ในสามของสตรีที่งดงามประจำเมืองออโรร่าแห่งนี้ ความงามของนางทั้งสองนั้นทุกสายตาล้วนประจักษ์แจ้ง
ไม่นานสายตาของทุกผู้คนล้วนจับจ้องไปยังร่างงดงามทั้งสองบนเวที
แน่นอนว่าศึกสาวงามย่อมเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับบุรุษอย่างยิ่ง
พวกเขารู้สึกว่าการมาร่วมงานครั้งนี้นับว่าคุ้มค่าแล้ว
เซี่ยวหลันค่อยย้ายร่างออกมาอย่างสง่างาม มาเผชิญหน้ากับลี่เฟย
ด้วยความงดงามของสตรีทั้งสองที่ก้าวออกมาประชันกันบนเวทีประกายดารา ทุกสรรพเสียงพลันสงบเงียบ ไม่มีใครอยากเอ่ยอะไรออกมาทำลายบรรยากาศนี้
ต้วนหลิงเทียนเองย่อมไม่มีทางพลาดการประลองของทั้งคู่อย่างแน่นอน
ประกายแสงไร้ลักษณ์!
ร่างงดงามเย้ายวนราบกุหลาบแดงของลี่เฟยพลันเลือนหายไปในพริบตา
เมฆาทะยาน!
เซี่ยวหลันพลันเคลื่อนร่างเช่นกัน ร่างกายที่งดงามของนายราวกับติดปีก
เหนือศีรษะของสตรีทั้งคู่ปรากฏร่างเงาช้างแมมมอธโบราณออกมา 2 ตัวราวกับพวกมันกำลังหยอกล้อกันอยู่
ในแง่ของความเร็วทั้งสองหามีใครได้เปรียบไม่
หมัดดาวตก!
กำปั้นของลี่เฟยซัดออกมาเต็มกำลัง พลังงานต้นกำเนิดของนางปะทุ ออกมาจนครอบคลุมกำปั้นของนางก่อนที่จะพุ่งทะยานฝ่าอากาศมาราวกับดาวตก
ฝ่ามือทะลายเมฆา!
ฝ่ามือของเซี่ยวหลันเองพลันปะทุพลังงานต้นกำเนิดออกมาอย่างมหาศาลราวกับกระแสไฟฟ้าก่อนที่มันจะเริ่มปกคลุมฝ่ามือของนางราวกับมีเมฆาห่อหุ้มเอาไว้ แม้มันจะดูเงียบสงบไร้เรื่องราว แต่ก็เปี่ยมไปด้วยรังสีสังหารที่ดุดัน
ปัง!!
เงาที่ราวกับดาวตกของกำปั้นลี่เฟยปะทุออก ส่งพลังงานมหาศาลผลักดันออกไปด้านหน้า
ฟู่มม!
กลุ่มเมฆที่ครอบคุลมฝ่ามือของเซี่ยวหลันเองก็พลันแตกออกแผ่พลังทำลายกระจายออกมาอย่างมหาศาล
ปัง!!
หมัดและฝ่ามือปะทะกันอย่างจัง
ร่างกายของหญิงสาวทั้งสองสั่นสะท้านก่อนที่จะกระเด็นถอยหลังกันไปคนละ 3 ก้าว
ด้านเซี่ยวหลันและลี่เฟยที่ต่างเห็นอีกฝ่ายกระเด็นออกไป พวกนางทั้งคู่ก็เกร็งกำลังขึ้นเตรียมจะจู่โจมออกไปอีกครั้ง
"เสี่ยวเฟยหยุดมือเถอะ ถึงแม้ว่าจะสู้กันต่อไป แต่พวกเจ้าทั้งสองคนก็ทำได้เพียงคู่คี่สูสีกันเท่านั้น จะบาดเจ็บกันเสียเปล่าๆ เหตุใดไม่หยุดกันแต่เพียงเท่านี้เล่า? "
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
ลี่เฟยนั้นจ้องหลิงเทียนพร้อมกับทำตาดุดันออกมา
แต่นางรู้ว่าสิ่งที่หลิงเทียนกล่าวย่อมเป็นความจริง
เซี่ยวหยูเองก็ก้าวออกมาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มรอยยิ้ม "ถูกแล้ว พวกเจ้าทั้งสองนับว่าฝีมือเท่าเทียมกัน หากฝืนประลองต่อไป คงไม่พ้นต้องบาดเจ็บหนักทั้งคู่ "
หลังจากที่ลี่เฟยกลับมายืนข้างหลิงเทียนนางก็กล่าวออกมาอย่างหยอกล้อ "เจ้ากลัวว่าข้าจะทำร้ายนางงั้นหรือ?"
"ใส่ความสามีแล้ว... ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น ข้าเพียงกลัวเจ้าถูกนางทำร้าย เดี๋ยวจะบาดเจ็บจนส่งผลกับอันดับรายนามมังกรซ่อนเสียเปล่าๆ "
ต้วนหลิงเทียนรีบอธิบายออกมา
"จริงรึ?"
ท่าทางของลี่เฟยฉายแววคาดคั้นออกมาเล็กน้อย
"แน่นอน!" หลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง
"เอ๊ะ เมิ่งฉวน ... "
ทันใดนั้นลี่เฟยเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปไกลๆ
หลิงเทียนเองก็มองตามไปเช่นกัน
เมิ่งฉวนที่กินของว่างอิ่มแล้ว ตอนนี้มันเดินขึ้นมากลางเวทีประกายดาราอีกครั้ง
สายตาของมันจับจ้องไปยังร่างที่ยืนแยกตัวออกไปไกลๆอย่างเด่นชัด
"หากข้าจำได้ไม่ผิด เจ้าคือ... ลี่ชิง จากตระกูลลี่? เจ้ากล่าวว่าหากผู้ใดไม่พอใจก็ให้ท้าทายเจ้าใช่หรือไม่ ตอนนี้ข้าจะเป็นตัวแทนของคนจากตระกูลเล็กๆ ท้าทายอัจฉริยะของตระกูลลี่อย่างเจ้าเอง "
เมิ่งฉวนกำลังกล่าววาจากับลี่ชิง
ท่าทางของลี่ชิงพลันเปลี่ยนเป็นอำมหิตเล็กน้อยก่อนที่จะก้าวออกมา
"เจ้าแน่ใจหรือว่าจะท้าทายข้า?"
มุมปากของลี่ชิงฉีกขึ้นราวกับมันอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เพราะได้ยินเรื่องราวชวนหัวที่สุดในรอบร้อยปี
"หรือเจ้าไม่กล้า? แน่จริงก็เข้ามา!"
ราวกับเมิ่งฉวนจะกระหายอย่างมาก
"ดี ดีมาก... ข้าจะทำให้เจ้าสำนึกเสียใจสำหรับความโอหังครั้งนี้ ในไม่กี่อึดใจ"
ลี่ชิงกล่าวออกมาด้วยโทสะจากความหยิ่งผยอง
ฟุ่บ!
ร่างกายของลี่ชิงกระพริบวูบก่อนที่จะไปปรากฏตัวตรงหน้าเมิ่งฉวนเหนือศีรษะของมันปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณออกมา 3 ตัว
ความเร็วของมันน่าตื่นตระหนกมาก
"ข้าได้ยินคำร่ำลือมานานแล้ว ว่าอัจฉริยะหมายเลข 1 ของตระกูลลี่ปีนี้ ได้ฝึกฝนวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง มังกรแหวกนภา จนมีความสำเร็จขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญ! "
"เมิ่งฉวนผู้นี้นับว่ามีความกล้าหาญยิ่งนักที่มันกล้าท้าประลองเช่นนี้ ... น่าเสียดายที่ลี่ชิงอยู่ในระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 แล้ว อาศัยเพียงแค่ความกล้าอย่างเดียวหาทำอันใดได้ไม่"
"ช่างเถิด จะอย่างไรยามนี้เมิ่งฉวนมันก็ต่อสู้เพื่อพวกเราอยู่"
......
เหล่าอัจฉริยะของตระกูลเล็กต่างสนทนากันอย่างออกรส
"ในที่สุดข้าก็เจอศัตรูที่คู่ควร"เมิ่งฉวนกล่าวออกมาอย่างคาดหวังเล็กน้อย ก่อนที่มันจะระเบิดความแข็งแกร่งออกมา
ซู่มมมม!
ทันใดนั้นเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ ถึง 3 ตัวกลับปรากฏอยู่เหนือศีรษะของมัน...
ปัง!!
เมิ่งฉวนพลันกระทืบเท้าอย่างแรง ส่งร่างพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วไม่ยิ่งหย่อน สวนทางไปยังลี่ชิงเพื่อปะทะหักหาญอย่างไม่หวาดหวั่น
"ความแข็งแกร่ง ระดับ ช้างแมมมอธโบราณ 3 ตัว ... "
ทุกคนบนเวทีประกายดารายกเว้น เซี่ยวหยูและหลิงเทียน ล้วนแสดงใบหน้าเหรอหราราวกับตัวโง่งมออกมา
เมิงฉวนผู้นี้กลับเป็นผู้บ่มเพาะระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2!