หน้าแรก > แพทย์เทวะหัตถ์ปีศาจ
ตอนที่ 236 การยืนยันตัวตน

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ตอนที่ 236 การยืนยันตัวตน

เมื่อนางพูดกับเฟิงเฉินหยูเรียบร้อยแล้ว นางก็หันไปบอกบ่าวรับใช้ "กลับไปรายงานที่เรือนซูหยาว่าวันนี้อาเฮงไม่สบายและจะกลับไปพักผ่อน ข้าจะไปดูนางในวันอื่น”

บ่าวรับใช้ไม่ได้คิดว่าเฟิงหยูเฮงจะปฏิเสธคำเชิญของฮูหยินผู้เฒ่า ดังนั้นนางจึงตกตะลึง หลังจากที่เฟิงหยูเฮงเดินออกไป นางคำนับและกลับไปรายงานอย่างรวดเร็ว

สำหรับเฟิงเฉินหยู นางเริ่มไตร่ตรองเรื่องที่เฟิงหยูเฮงพูดและนางก็อดไม่ได้ที่จะคิดเสียใจที่เชื่อฟังองค์ชายสาม และมอบต่างหูให้เฟิงเฟินได

ในเวลานี้ในห้องโถงของเรือนซูหยา ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกเฟิงหยูเฮงมาเพื่ออยากจะคุยด้วย แต่เฟิงหยูเฮงกลับปฏิเสธ เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกขุ่นเคือง

ตอนนี้ คำพูดของข้าเริ่มมีคนเชื่อฟังน้อยลง” นางถอนหายใจด้วยอารมณ์ “คนแล้วคนเก่า พอเขาเริ่มบินได้ ก็เริ่มหารังของตัวเอง แต่พวกเขาไม่รู้ว่ารากฐานของพวกเขาอยู่กับตระกูลเฟิง แม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกับองค์ชาย หากพวกเขาปราศจากรากฐาน พวกเขาก็จะไม่ได้รับความชื่นชม”

ท่านพูดถูกต้องเจ้าค่ะ” ยายจาวเห็นด้วยขณะปลอบนาง “ไม่ว่าทางใดท่านใต้เท้าก็จะกลับมาอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เมื่อถึงเวลานั้นการตัดสินใจท่านใต้เท้าจะเป็นคนจัดการเจ้าค่ะ”

บอกข้าทีเมื่อจินหยวนกลับมา เขาจะโทษว่าเป็นความผิดของข้าหรือไม่” นางเป็นห่วงเรื่องการแต่งงานขององค์ชายห้า “เฟิงเฟินไดเป็นบุตรสาวของอนุ แต่บุตรสาวของอนุได้รับการชื่นชม จะเป็นอย่างไรถ้าจินหยวนจัดการอย่างอื่น ไม่ใช่ว่าข้าทำลายพวกเขาหรือ ?

ยายจาวถอนหายใจ “เราไม่มีทางเลือกอื่นเจ้าค่ะ คนขององค์ชายห้าเสด็จมาในทันทีและเราไม่ได้เตรียมอะไรเลย ย้อนกลับไปแม้ว่าเราจะเตรียมการ ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอะไรพระองค์ก็ยังเป็นองค์ชายอยู่ดีเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าเข้าใจเหตุผลนี้ แต่นางยังกังวลว่า “จดหมายที่เราส่งไปเมื่อครั้งที่แล้ว จินหยวนตอบกลับมาหรือยัง ? ”

ยายจาวส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ ถนนอาจจะใช้งานไม่ได้ในช่วงที่หิมะตกทำให้การเดินทางไปกลับช้าลงเจ้าค่ะ”

เป็นเรื่องดีที่มันช้าตราบใดที่มันไปถึง หาคนไปส่งจดหมายอีกฉบับ บอกเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้ ข้ารู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหวังว่าจินหยวนจะกลับมาเร็วกว่านี้”

ยายจาวปฏิบัติตามและให้คนเขียนจดหมายถึงจินหยวน

ในคืนนั้นอาการไข้ของเฟิงหยูเฮงสูงมากขึ้น และนางก็ดึงยาออกมาอย่างไร้ประโยชน์อีกครั้ง แต่สิ่งนี้ทำให้นางมีความคิด

นางดูแลร้านขายยาและข้างในมีห้องผ่าตัดที่ทันสมัย นางสามารถมีอะไรก็ได้ที่นางต้องการ ไม่ว่านางจะดึงยาอะไรออกมา มันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจในยุคนี้

แต่นางเป็นผู้ประกอบการเพียงคนเดียว โดยไม่จำเป็นต้องพูดถึงการขาดความช่วยเหลือเมื่อทำการผ่าตัดผู้อื่น ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถช่วยนางได้เมื่อนางต้องให้น้ำเกลือตัวเอง

เฟิงหยูเฮงคิดเกี่ยวกับมัน ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดนางสามารถฝึกฝนผู้ช่วยได้ แต่คนผู้นั้นต้องเชื่อถือได้และไม่ทรยศต่อความไว้วางใจของนาง

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงความคิดในแง่ดี ถ้านางต้องการฝึกคนจากยุคนี้ในเรื่องการแพทย์แผนปัจจุบันมันจะง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร นอกจากความภักดีพวกเขาจะต้องมีความสามารถที่แข็งแกร่งในการเรียนรู้พร้อมกับความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ผู้ใหญ่นั้นไม่ดีเพราะพวกเขามีแนวทางของพวกเขา ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะเปลี่ยนนิสัยของพวกเขา สำหรับเด็กก็ไม่ดีเช่นกัน คนที่ยังเด็กเกินไปมีความเชี่ยวชาญในการเรียนรู้น้อยกว่า ดังนั้นพวกเขาจะไม่สามารถให้ผลลัพธ์ได้ในสองสามปี

เฟิงหยูเฮงรู้สึกว่าถ้านางต้องการที่จะรับการรักษาที่ทันสมัยในยุคนี้ นั่นจะเป็นเพียงแค่จินตนาการ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากความคิดนี้ก็ฝังลึกอยู่ในใจของนาง ในวันต่อมานางมักจะมองหาคนที่จะเลือก

บางทีได้ยินว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ภายในห้อง หวงซวนคอยเฝ้าทั้งคืนเปิดประตูแล้วเข้ามา เมื่อเห็นว่าเฟิงหยูเฮงกำลังนั่งอยู่บนเตียง นางก็อดไม่ได้ที่จะเดินไปหา “คุณหนูรู้สึกดีหรือยังเจ้าคะ ? ทำไมถึงลุกมากลางดึกเจ้าคะ ?

นางโบกมือ “ข้าทานยาไปแล้ว ทุกอย่างปกติดี ข้าแค่คิดถึงเรื่อยเปื่อย ทำให้ข้าหายง่วงไปเลย”

คุณหนูคิดเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ ? บ่าวรับใช้นี้จะช่วยคุณหนูคิดเกี่ยวกับมัน ! ” ไม่ว่าด้วยวิธีใดนางก็เบื่อที่จะเฝ้าดูข้างนอกตอนกลางคืน

มีบางสิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าทำ” เฟิงหยูเฮงมองหวงซวนและพูดว่า “ช่วยข้าค้นหาแผนที่ขนาดใหญ่ของราชวงศ์ต้าชุนโดยทำเครื่องหมายเขตชายแดนทั้งหมดไว้ มันจะยากหรือไม่”          

หวงซวนตกตะลึงเล็กน้อย “คุณหนูต้องใช้แผนที่เพื่ออะไรเจ้าค่ะ? สิ่งเหล่านี้จะถูกใช้เมื่อเคลื่อนย้ายทหารเพื่อต่อสู้ แต่มันก็ไม่ยากมาก องค์ชายเก้ามีเจ้าค่ะ พรุ่งนี้บ่าวรับใช้คนนี้จะไปขอจากพระองค์เจ้าค่ะ”

ได้ยินนางพูดแบบนี้เฟิงหยูเฮงก็สงบลง

นางะต้องการที่จะดูว่าภูมิศาสตร์ของราชวงศ์ต้าชุนเป็นอย่างไร สิ่งนี้จะช่วยให้นางเปรียบเทียบกับศตวรรษที่ 21 เพื่อดูว่ามีความคล้ายคลึงกันอย่างไร และแตกต่างกันอย่างไร นางส่งวังซวนและฉิงหยูไปยังเสี่ยวโจวเพื่อเปิดร้านห้องโถงสมุนไพรสาขาที่สอง ดังนั้นแผนต่อไปของนางก็คือการขยายไปยังมณฑลอื่น ๆ รวมถึงมณฑลจี่อัน เฟิงหยูเฮงได้วางแผนไว้แล้วว่าจะเป็นสำนักงานใหญ่ของการศึกษาทางการแพทย์ของนาง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตยาหรือการพัฒนาบุคลากร มันสามารถจัดการได้ในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีกวางโจว นับตั้งแต่ซวนเทียนหมิงบอกนางว่ามันเป็นฐานขององค์ชายสาม เฟิงหยูเฮงสนใจในสถานที่นั้นมาก

หากนางไม่สามารถดำเนินการในกวางโจวได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น นางก็สามารถเห็นการทำงานวงในของศัตรูอย่างแท้จริง

กล่าวโดยย่อคือถึงเวลาที่ต้องใช้แผนการของนางในการสนับสนุนระบบการแพทย์และเครือข่ายข่าวกรอง

เช้าตรู่ของวันต่อมา เฟิงเฉินหยูกับยี่หลินมาถึงก่อนที่เฟิงหยูเฮงตื่น

หวงซวนช่วยนางอาบน้ำขณะที่พูดพึมพำ “การขอความช่วยเหลือในเรื่องใดก็ตาม แต่พวกเขามาเร็วมาก พวกเขาไม่รู้จักเห็นใจผู้อื่นบ้างเลย”

อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงไม่ได้คิดแบบนี้ “เมื่อมีคนรีบนำเงินมาให้เรา ทำไมเจ้าถึงรู้สึกว่าพวกเขามาเร็วเกินไป ? ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขามาในตอนเช้าแม้ว่าพวกเขาจะมาในกลางดึก ตราบใดที่ 3,000,000 เหรียญเงินวางอยู่ข้างหน้าข้า ข้าจะรีบทำงานทันที”

หวงซวนเผชิญกับความเหนื่อยล้า “คุณหนูขาดแคลนเงินหรือเจ้าคะ ? ”

ใช่แล้ว” นางพยักหน้าอย่างจริงจัง “3,000,000 นี้ยังไม่มากพอ”

“3,000,000 ยังไม่พอ ? เมื่อคิดจากเงินก่อนหน้านี้นั้นมีทั้งหมด 5,000,000 คุณหนูให้เสนาบดีเฟิงยืม 1,000,000 เหรียญเงิน ตอนนี้เหลือ 4,000,000 เหรียญเงินก็ไม่น้อยนะเจ้าค่ะ ! ” หวงซวนเดาะลิ้น คุณหนูของนางต้องการทำอะไร? ต้องการเงินจำนวนนี้ จริง ๆ แล้วนางได้ร่วมมือกับศัตรูในการขายชาติหรือไม่ ?

น้อยเกินไป ! น้อยเกินไป ! ” เฟิงหยูเฮงถอนหายใจแล้วยืนขึ้น “ไปกันเถอะ เราจะเก็บเงินนั้น”

เงินจะถูกใช้เพื่อแบ่งเบาภัยพิบัติ เฟิงเฉินหยูมอบตั๋วแลกเงิน 3,000,000 ให้ และเฟิงหยูเฮงพานางเข้าไปในห้องเก็บยา

หวงซวนยืนเฝ้าระวังอยู่ข้างนอกเนื่องจากยี่หลินพยายามที่จะแอบดูจากรอยแยกระหว่างประตูและขอบประตู แต่นางพบว่ามีม่านอยู่ภายในปิดกั้นมุมมองของนาง นางไม่เห็นอะไรเลย

มันจะดีที่สุดถ้าเจ้าเชื่อฟังมากกว่านี้ มิฉะนั้นข้าจะเรียกบ่าวรับใช้ทั้งหมดของเรือนตงเซิงมาเฝ้า สิ่งนี้จะทำให้บ่าวรับใช้ทุกคนรู้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิงอยู่ข้างในเพื่อรับการรักษาอะไร”

ไม่ต้อง ไม่จำเป็น ! ” ยี่หลินโบกมือด้วยความกลัว “ไม่จำเป็นต้องเรียกพวกเขามา อย่าเรียกมา ข้าไม่อยากดูแล้ว ? บ่าวรับใช้กระทืบเท้าและรออยู่ข้างนอกกับหวงซวน

หวงซวนยิ้มเยาะและคิดในใจตัวเองว่า อาชญากรมีสำนึกผิดชอบชั่วดี เมื่อมีปัญหาที่ต้องการรักษา แต่ก็กลัวว่าคนอื่นจะรู้ พวกเขาไม่ควรทำเช่นนี้ตั้งแต่แรก !

2 ชั่วยามต่อมาเฟิงหยูเฮงออกจากห้องเก็บยาพร้อมกับเฟิงเฉินหยู

ยี่หลินรีบประคองเฟิงเฉินหยูอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าสีหน้าของนางไม่ดีมาก นางก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความกังวล “คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ?

เฟิงเฉินหยูส่ายหน้าและดึงแขนเสื้อของยี่หลินเพียงพูดว่า “กลับกันเถอะ” ในขณะที่พูดสิ่งนี้นางเริ่มเดินจากไป ราวกับว่าเรือนตงเซิงมีภูตผีที่พวกเขาต้องหลบหนี

หวงซวนรู้สึกงงงวยและถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ ? คุณหนูยังไม่ได้รักษานางหรือเจ้าค่ะ ?

เฟิงหยูเฮงยักไหล่ “ข้ารักษานางแล้ว แต่เจ้าต้องเข้าใจว่ามีบางคนที่เก่งในการเผาสะพานหลังจากที่พวกเขาข้ามไปแล้ว นางถามข้าในห้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้แน่ใจว่านางจะมีสุขภาพที่ดีสมบูรณ์ จุดประสงค์ของนางคือเพื่อให้นางสามารถออกจากสถานที่ที่มีปัญหานี้ทันทีเมื่อนางออกมา เมื่อนางกลับไป นางสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพยายามหาวิธีจัดการข้า เพื่อที่นางจะได้ปิดผนึกแผลได้อย่างสมบูรณ์”

หวงซวนเกือบจะหัวเราะ “จัดการกับคุณหนู ? ขึ้นอยู่กับนาง ? แต่นางก็ยังถามด้วยความกังวล “คุณหนูรู้ว่าจิตใจของนางไม่ปกติ ทำไมคุณหนูยังช่วยนางเจ้าค่ะ”

เฟิงหยูเฮงยิ้ม และพูดว่า “เพราะบางคนเหมาะสม เพราะข้ายังต้องการความงามที่ทำลายล้างของพี่ใหญ่เพื่อล่องูออกมาจากรู เราไม่ควรพลาดที่นางจะเดินไปรอบ ๆ ”

แต่การรักษานางจะเป็นชัยชนะที่มากเกินไปสำหรับนางมากหรือไม่เจ้าคะ ? ”

มันเป็นชัยชนะหรือไม่ ? ฮ่า ๆ ! ” เฟิงหยูเฮงหัวเราะเสียงดัง “การรักษามันไม่ได้หมายความว่านางจะรู้สึกปลอดภัย นางต้องการขจัดความจริงออกไปไม่ใช่หรือ ? นางมองโลกในแง่ดีเกินไป ! ”

เฟิงเฉินหยูเดินนำยี่หลินออกจากเรือนตงเซิง ตลอดทางนางแอบดูรอบ ๆ ราวกับว่านางเป็นขโมย เมื่อใช้เส้นทางทางลัด นางกลับไปที่เรือนของนางเอง หลังจากนางเข้าไปในห้องของนางและนางปิดประตู นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

นางกลัวว่านางจะเจอเฟิงเฟินไดหรือฮันชิตลอดทาง ใครก็รู้ว่าคนแบบนั้นที่สามารถสร้างภูเขาให้ออกมาจากเนินเขาจะพูดถึงผิวขาวซีดของนางได้อย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะไม่สงสัยอะไรเลยเพียงยืนอยู่ที่นั่นเยาะเย้ยนางก็มากเกินไปสำหรับนางที่จะจัดการ !

ยี่หลินเห็นว่านางรู้สึกไม่ค่อยดีนัก นางช่วยเฟิงเฉินหยูนอนบนเตียงอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันนางถามว่า “คุณหนูจะให้ยายเข้ามาในคฤหาสน์ทันทีหรือไม่เจ้าค่ะ ?

เฟิงเฉินหยูส่ายหัว “แผลยังไม่หายดี อีกสามวันข้าไม่สามารถลุกจากเตียงได้ในอีกสองสามวันข้างหน้ าบอกพวกเขาว่าข้างนอกหนาวเกินไปและข้าเป็นหวัด ข้าจะไม่ไปคารวะท่านย่าในเวลานั้น หลังจากสามวันเชิญยายคนนั้นเข้ามาในคฤหาสน์ จำไว้ว่าเจ้าจะต้องให้เป็นความลับ เจ้าอย่าให้ใครรู้“

ยี่หลินช่วยนางด้วยผ้าห่ม ขณะพยักหน้า “คุณหนูไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ ผู้คุ้มกันลับของนายท่านสามบอกว่าเขาจะพายายนั้นไป เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ควรจะเป็นเวลากลางคืน ดังนั้นคุณหนูพักผ่อนมาก ๆ เจ้าค่ะ”

เฟิงเฉินหยูพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้นนางก็นอนลงบนเตียงและหลับไปในเวลาไม่นาน

อีกสามวันต่อมาในเวลาเที่ยงคืน เฟิงเฉินหยูนั่งอยู่ข้างเตียงของนางอย่างประหม่า รอผู้คุ้มกันลับของเฉินเหลียงมาถึง

ยี่หลินเปิดหน้าต่างด้านหลังเล็กน้อย และตอนนี้ยืนอยู่ที่นั่นเพื่อฟังเสียงของการเคลื่อนไหว

ไม่นานนางก็เห็นเงาดำเข้ามาในห้อง ดวงตาของยี่หลินเบลอเพราะนางเห็นคนหนึ่งสวมชุดสีดำยืนอยู่กลางห้องพร้อมกับหญิงชราคนหนึ่ง

นางได้รับความหวาดกลัวและวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้านางเป็นผู้คุ้มกันที่คุ้นเคย นางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เมื่อนางมองไปที่ยาย นางเห็นว่ายายถูกอุ้มโดยยามลับ นางจึงตกใจและถามออกมาว่า “นางยังมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว ?

เฟิงเฉินหยูยืนขึ้นจากเตียง “แน่นอนว่านางยังมีชีวิตอยู่ ข้าคิดว่านางถูกเจ้าจี้จุดใช่หรือไม่ ?

ขณะที่นางพูดสิ่งนี้นางกระพริบตาสองสามครั้ง แต่ผู้คุ้มกันลับไม่แม้แต่จะมองนาง สิ่งนี้ทำให้เฟิงเฉินหยูรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

เอาล่ะ เรามาปลุกยายก่อน” นางสงบสติอารมณ์และออกคำสั่ง

นางเห็นผู้คุ้มกันลับยื่นมือออกมาและคลายจุดให้ยาย จากนั้นยายก็ตื่นขึ้นทันที เมื่อเห็นคนตรงหน้านาง นางจึงถามว่า “นี่คือหญิงสาวที่จะตรวจใช่ไหม”

ผู้คุ้มกันลับพยักหน้า “ใช่ ข้าจะรออยู่ข้างนอก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ข้าจะจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้"

ดี” ยายก็กระตือรือร้น เมื่อเห็นผู้คุ้มกันลับหายไปในพริบตา นางก็หันหลังกลับและมองดูเฟิงเฉินหยู

เมื่อมองดี ๆ แล้ว แต่มันทำให้นางตกใจอย่างแท้จริง นางอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “บ่าวรับใช้คนนี้ทำงานในพระราชวังมาครึ่งชีวิต และได้เห็นนางสนมที่ฮ่องเต้ทรงเลือก ดังนั้นผู้หญิงที่เลือกเข้าไปในพระราชวังล้วนแต่มีสาวงาม แต่ข้าไม่เคยเห็นใครที่งดงามกว่าเจ้าเลย"

ดวงตาของหญิงชราคนนี้คม เมื่อคำเหล่านี้ออกมานางก็เข้าใจ

ว่ากันว่าคุณหนูใหญ่ของเสนาบดีเฟิงนั้นงดงามล่มเมือง ควรบอกว่านางเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดในเมืองหลวงนั้นไม่ใช่การพูดเกินจริง บางทีอาจจะไม่มีผู้หญิงคนอื่นที่งดงามกว่าในราชวงศ์ต้าชุนอีกเลย

และนั่นก็น่าจะเป็นคนที่อยู่ตรงหน้านาง

 

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.