spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ทันใดนั้นอัจฉริยะจากตระกูลเล็กๆทั้งหลายก็หันมามองเขา
"อะไร ไม่ชอบคำกล่าวของข้าหรือไง? หากพวกเจ้าไม่พอใจเมื่อการประลองเริ่มขึ้นก็ท้าทายข้ามาสิ! "
กล่าวจบลี่ชิงก็ค่อยๆหันหลัง ก่อนเดินจากไป เหล่าผู้ที่ไม่พอใจก็ได้แต่มองมันเดินจากไป
หลิงเทียนที่เห็นภาพนี้ก็ส่ายหัวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มันรู้สึกขายหน้าแทนตระกูลนัก
ลี่ชิงนี่มันคิดว่าสองมือตัวเองปิดแผ่นฟ้าได้หรือไรถึงเที่ยวดูถูกผู้อื่นไปทั่ว
ลี่อันที่มองมาจากที่ไกลๆ ก็ได้แต่มองด้วยสายตารังเกียจ
"จองหอง!"
ลี่อันเอ่ยออกมาด้วยเสียงกระซิบ โดยมีมันได้ยินเพียงคนเดียว
"เอาล่ะ ในเมื่อทุกท่านอยากทราบถึงเพียงนี้ เช่นนั้นข้าจะบอกให้ฟัง... "
เมื่อเสียงของเซี่ยวหยูดังขึ้น ความสนใจของทุกคนก็กลับมาที่มันอีกครั้ง
แม้แต่ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
เหตุผลเดียวที่มันมาร่วมงานชุมนุมมังกรซ่อนอะไรนี่หาใช่การจัดอันดับชื่อเสียงหรืออะไรทำนองนั้น มันไม่คิดสนใจเรื่องพวกนั้นแม้แต่นิดเดียว
สิ่งเดียวที่มันสนใจคือของรางวัล!
"เอาล่ะหลังจากผ่านการพิจารณาระหว่างประมุขของทั้ง 3 ตระกูลใหญ่ พวกท่านก็เห็นสมควรว่า ผู้ที่ได้รับการจัดอันดับเป็นลำดับที่ 1 ในงานชุมนุมมังกรซ่อนจะได้รับ วิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง 3 วิชา ,10 เม็ดยาประสานก่อกำเนิด ,10 เม็ดยาทองประสานกายระดับ 8 , โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปี 3 ชั่ง แล้วสุดท้ายก็เงิน 300,000 เหรียญเงิน"
เสียงสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บของทุกคนดังขึ้นก่อนที่จะเงียบไป
รางวัลปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว ...
"ก็ดูไม่เลวร้ายเท่าไร"
ดวงตาของหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนที่จะส่องประกายความโลภออกมาวูบหนึ่ง แล้วกลับเป็นปกติ
วิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง 3 วิชานับว่ามีค่าอย่างมาก
อีกทั้งยาประสานก่อกำเนิดที่มีไว้เพื่อลดระยะเวลาในการตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดก็มีค่าสูงนัก
โอสถทองประสานกายระดับ 8 ที่ตระกูลลี่สาขาเมืองวายุโปรยก็มีเพียงแค่ 2 เม็ดเท่านั้น และยังถือว่าเป็นสมบัติของตระกูล หลังจากที่หลิงเทียนใช้ไปแล้วเม็ดนึงก็นับว่ามันเหลืออีกเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น นี่บ่งบอกได้ว่ามันมีค่าขนาดไหน
โลหิตหลิตซี่อายุ 300 ปี ก็เพียงพอที่จะนำไปใช้ส่งเสริมการฝึกฝนวิชาป้องกันให้มีความสำเร็จในขั้นตอนที่สูงขึ้น
เหรียญเงิน 300,000 เหรียญ นั้นนับว่ามหาศาลนัก
"ไม่เลวอะไรเล่า อยากได้ก็ต้องเอาชนะผู้อื่นเสียก่อน"
ลี่เฟยกระแนะกระแหน หลิงเทียนออกมา
"เสี่ยวเฟย หากข้าได้ลำดับที่ 1 ในรายนามมังกรซ่อนอะไรนั่น เจ้าจะยอมเป็นภรรยาข้าหรือไม่เล่า ว่ากระไร? "
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาเบาๆ
"เจ้าจะมีสิทธิ์เอ่ยถามเรื่องนั้นได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าเป็นผู้ชนะเลิศ"
ลี่เฟยกล่าวออกมาอย่างไม่ได้จริงจังนัก
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนจะมหัศจรรย์มาก แต่ลี่เฟยก็คิดว่ามันคงแข็งแกร่งกว่าลี่ชิงเล็กน้อย บางทีอาจจะเท่าเทียมหลินฉวนจากตระกูลหลิน แต่ว่าย่อมด้อยกว่าเซี่ยวหยู ของกระกูลเซี่ยวอย่างแน่นอน
แน่นอนนางย่อมเชื่อมั่นอีกเช่นกันว่าในอนาคตหลิงเทียนย่อมเหนือล้ำกว่า เซี่ยวหยูและหลินฉวนไปไกลโข
เหตุเพราะตอนนี้หลิงเทียนยังมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น
แต่ทางด้านหลินฉวนและเซี่ยวหยูกลับอายุมากกว่ามันถึง 2 ปี!
หากเป็นงานชุมนุมมังกรซอนของปีหน้าแน่นอนลี่เฟยเชื่อมั่นว่าหลิงเทียนย่อมเป็นผู้ชนะเลิศอย่างไร้ข้อกังขา
แต่สำหรับปีนี้นางยังไม่คิดว่าหลิงเทียนจะสามารถกระทำได้
"เอาล่ะเช่นนั้นข้าจะนำมันมามอบให้เจ้า"
ต้วนหลิงเทียนยิ้ม
เขามองไปยังร่างกายของลี่เฟยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเพลิงปรารถนาอีกครั้ง ส่วนล่างของเขาพลันละอุและเริ่มตั้งขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้
หญิงสาวนางนี้นับว่ามีเสน่ห์และน่าสนใจอย่างแท้จริง
"อะไรกัน หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่ยุติธรรมกับข้าสิ?"
ดวงตาของลี่เฟยฉายแววซุกซนออกมา
"ไม่ยุติธรรมอย่างไร ไหนเจ้าลองบอกข้าดู?"
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมา
"ฮิฮิ เจ้าต้องสัญญากับข้าด้วย ว่าถ้าหากเจ้าไม่ได้อันดับที่ 1 ในงานชุมนุมมังกรซ่อนครั้งนี้ ของรางวัลทั้งหมดไม่ว่าเจ้าจะได้อันดับใดก็ตาม ต้องมอบให้ข้า "
ลี่เฟยกระพริบตาปิ๊งๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างท้าทาย "มาดูกันซิ ว่าเจ้ามีความกล้าพอหรือไม"
"เสี่ยวเฟย ไม่คิดเลยว่าเจ้าก็มีความโลภเช่นนี้ อ่า..เมื่อเจ้าแต่งงานกับข้านะ เจ้าจะไม่ต้องกังวลหรือขัดสนอันใดอีกต่อไปเลย ... เอาล่ะ ตกลง ข้ารับคำท้าเจ้า"
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวออกมาอย่างสนุกสนาน
เมื่อเห็นหลิงเทียนมีทีท่าขบขันอีกทั้งยังกล่าวรับคำออกมาอย่างไรกังวล ลี่เฟยพลันตกตะลึง
คนผู้นี้หาเงินเก่งขนาดนั้นเชียว?
หรือเขาจะมั่นใจว่าสามารถกระทำได้จริงๆ?
หรือว่า…
เขาปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้?
ตอนนี้ลี่เฟยรู้สึกช่วยไม่ได้ที่พลั้งปากออกไป นางเสียใจเล็กน้อยที่ท้าทายเขาออกไปอย่างไม่ไตร่ตรองให้ดี
ต้วนหลิงเทียนนั้นยืนยิ้มกรุ้มกริ่มสังเกตท่าทางการแสดงออกของลี่เฟยที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตั้งแต่แรก อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน "เสี่ยวเฟย เจ้าคงไม่คิดกลับคำหรอกใช่ไหม?"
"ฮึ่ม! เราจะมากล่าวถึงเรื่องนี้กัน ยามที่เจ้าได้ตำแหน่งชนะเลิศเสียก่อน" ลี่เฟยรีบกล่าวออกมาอย่างตะกุกตะกัก
และในขณะนี้เองอารมณ์ของเหล่าอัจฉริยะบนเวทีประกายดาราเริ่มที่จะสงบลงแล้ว
"นายน้อยหยู แล้วรางวัลสำหรับ 2 ตำแหน่งที่เหลือ สำหรับผู้แข็งแกร่ง 3 อันดับแรก คืออันใดกันหรือ" อีกเสียงหนึ่งกล่าวถามออกมา
"ผู้ที่ได้อันดับ 2 และ 3 ของการจัดอันดับงานชุมนุมมังกรซ่อนปีนี้จะได้รับวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง 2 วิชา ,5 เม็ดยาประสานก่อกำเนิด ,5 เม็ดยาทองประสานกายระดับ 8 , โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปี 2 ชั่ง แล้วสุดท้ายก็เงิน 200,000 เหรียญเงิน" เซี่ยวหยูกล่าวตอบ
แม้ว่ารางวัลที่สองและสามมีค่าน้อยกว่าอันดับแรก แต่สำหรับสถานะสาวกตระกูลเล็กๆในเวทีนี้ก็ยังนับว่าเป็นสิ่งล่อตาล่อใจ ...
“ส่วนสำหรับผู้ที่สามารถติด 7 อันดับ ของการจัดอันดับงานชุมนุมมังกรซ่อนปีนี้จะได้รับวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง 1 วิชาโดยสามารถเลือกสายวิชาได้ ,3 เม็ดยาประสานก่อกำเนิด ,3 เม็ดยาทองประสานกายระดับ 8, โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปี 1 ชั่ง แล้วสุดท้ายก็เงิน 100,000 เหรียญเงิน”
เหล่าสาวกบนเวทีประกายดาราล้วนทวีความมุ่งมั่นมากขึ้น
ตราบใดที่พวกเขาสามารถติดอันดับรายนามในงานชุมนุมมังกรซ่อนครั้งนี้ นอกจากชื่อเสียงเกียรติยศแล้ว พวกเขายังได้ของรางวัลที่มีค่ามหาศาลสำหรับพวกเขา ...
ทุกคนต่างถูไม้ถูมืออย่างกระตือรือร้น แต่ละคนต่างมุ่งหวังในของรางวัลอย่างมาก
"เช่นนั้นข้าขอเริ่มงานชุมนุมครั้งนี้"
หลังจากเสร็จสิ้นการประกาศ เซี่ยวหยู เดินกลับไปยังยังซุ้มที่พักที่อยู่ด้านในสุดของเวทีประกายดารา เพื่อไปรับชมการแข่งขันพร้อมกันกับเซี่ยวหลัน น้องสาวของเขา
"ท่านพี่ หากไม่มีอันใดผิดพลาด ตำแหน่งผู้ชนะเลิศปีนี้ย่อมต้องเป็นของท่าน"
เซี่ยวหลันหัวเราะออกมาเบาๆ นางช่างงดงามนัก
"หากเป็นเดือนที่แล้วข้าก็คิดว่า หามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ ... ทว่ายามนี้กลับมีตัวแปรที่ไม่คาดคิดโผล่ขึ้นมาแล้ว"
เซี่ยวหยูส่ายหัวไปมา
สายตาของมันกลับจ้องไปยังชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดสีม่วงในที่ห่างไกล
"เขาคือผู้ใดกัน?"
เซี่ยวหลันเองก็หันไปมองตามพี่ชายของนางเช่นกัน
"ต้วนหลิงเทียน!"
เซี่ยวหยูกล่าวออกมาพร้อมกับกลิ่นอายกระหายการต่อสู้ที่เริ่มแผ่ออกมา
"ต้วนหลิงเทียน? สาวกที่มีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ที่ได้อันดับที่ 2 ในการประลองประจำตระกูลของตระกูลลี่? ตามข่าวลือเขาเล่ากันว่า มันสามารถใช้ออกด้วยความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณถึง 3 ตัวโดยอาศัยเพียงระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เท่านั้น ... ท่านพี่ ท่านไม่คิดว่ามันเกินจริงไปหน่อยหรือ? "เซี่ยวหลันวิเคราะห์ออกมา
“เซี่ยวหลันข่าวลือนั้นย่อมมีมูลความจริงอยู่ไม่น้อย มิเช่นนั้นผู้คนคงไม่ร่ำลือกันถึงขนาดนี้ ... ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเสียงยืนยันจากสาวกของตระกูลลี่อีกนับร้อยที่เห็นด้วยสองตาของพวกมันวันนั้น เรื่องนี้เจ้าคิดว่ามันจะเกินจริงไปได้อย่างไร? นอกจากนี้เจ้าย่อมรู้ถึงสัญชาติญาณของข้าดี มันไม่เคยผิดพลาดมาก่อน ...” เซี่ยวหยูค่อยๆกล่าวออกมา
"ท่านพี่ อย่าบอกนะว่า ... "
ใบหน้าของเซี่ยวหลันพลันเปลี่ยนเป็นตื่นตกใจ
สัญชาติญาณของพี่ชายฝาแฝดของนางคือสิ่งที่นางยอมรับ อาจถือได้ว่าเป็นความสามารถมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ตั้งแต่ทั้งสองคนยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ สัญชาติญาณของพี่ชายนางไม่เคยผิดพลาดมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว
"อย่างที่เจ้าคิดสัญชาติญาณของข้ามันร่ำร้องว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้อันตรายนัก อันตรายถึงขนาดที่หลินฉวนไม่สามารถเทียบได้เลย"
เซี่ยวหยูพยักหน้า พร้อมกล่าวออกมา
"แต่ ... เขาดูเหมือนจะอายุเพียงสิบหกปี"
ใบหน้าของเซี่ยวหลันแดงขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้นางรู้สึกตื่นเต้นมาก
"เขาอายุ 16 ปีแล้วอย่างไร? ในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเมฆาล่อง มีเยาวชนอัจฉริยะหลายคนที่ตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี การปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดอย่างต้วนหลิงเทียน ก็หาใช่เรื่องที่แปลกใหม่อันใดไม่"เซี่ยวหยูค่อยๆกล่าวออกมา
ในขณะนี้เองเซี่ยวหยุนที่ยืนอยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่นางจะกล่าวแทรกออกมา "พี่หยู ไม่ใช่ว่าการประลองประจำตระกูลปีนี้ หลิงเทียนคนนี้พ่ายแพ้ลี่ชิงหรอกหรือ?"
"ข้าก็ได้ยินมาเช่นนั้น"
เซี่ยวหลันพยักหน้าตอบรับ
"พ่ายแพ้ลี่ชิง? ใครบอกเจ้า? เป็นเขาที่ยอมรับความพ่ายแพ้เองต่างหาก "
เซี่ยวหยูส่ายหัวไปมา ราวกับเขาล่วงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันงานประลองประจำปีของตระกูลลี่
"แล้วถ้าหากเขาคิดว่าสามารถเอาชนะลี่ชิงได้ เหตุใดเขาจึงต้องยอมแพ้กันล่ะ?"
เซี่ยวหยุนไม่อาจจะยอมรับได้โดยง่ายดาย
"หยุนน้อยข้าขอถามเจ้าสักคำ ... หากผู้ที่ได้รับชัยชนะเลิศประจำตระกูลของตระกูลเซี่ยวเรา เป็นศิษย์จากตระกูลสาขา ซ้ำยังไม่ได้ใช้แซ่เซี่ยว เจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกัน?"
เซี่ยวหยูไม่ได้ตอบคำถามเซี่ยวหยุน หากแต่เขาเลือกที่จะถามกลับแทน
"ท่านพี่ท่านหมายความว่า ... ใครบางคน บังคับให้หลิงเทียนยอมแพ้?"
เซี่ยวหลันกล่าวออกมา เมื่อเอะใจได้
"นั่นคือสิ่งที่ข้าคาดเดาเอาไว้"
เซี่ยวหยูพยักหน้า
"พี่หยู แต่สิ่งที่ท่านกล่าว ก็เป็นเพียงการคาดเดาของท่านมิใช่หรือ"
เซี่ยวหยุนยังคงไม่เต็มใจที่จะยอมรับ
ในชีวิตของนางคนเดียวที่นางชื่นชมว่าเป็นอัจฉริยะภาพด้านเต๋าแห่งการต่อสู้ คือเซี่ยวหยู
แต่เซี่ยวหยูกำลังกล่าวออกมาอย่างลังเล
เซี่ยวหยูกล่าวออกมาราวกับว่ามีคนที่กำลังจะเอาชนะเขาได้ นอกจากนี้คนผู้นั้นยังเป็นเพียงเยาวชนที่มีอายุ 16 ปีเท่านั้น นางทำใจรับเรื่องเช่นนี้ไม่ได้จริงๆ
"หยุนน้อย การคาดเดาของข้าถูกหรือผิด อีกไม่นานก็จะได้รู้"
เซี่ยวหยูทำเพียงส่ายหัวไปมา เขาไม่คิดเถียงเรื่องนี้กับเซี่ยวหยุนอีกต่อไป
บนเวทีประกายดาราในปัจจุบัน มีสาวกจากตระกูลเล็กๆคนหนึ่งสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 3 ครั้งติดต่อ นี่ทำให้เขาโดดเด่นเป็นอย่างมาก
ชายหนุ่มมองไปรอบๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "มีผู้ใดที่ต้องการประลองกับข้าอีกหรือไม่?"
"ข้าเอง!"
สาวกของตระกูลเซี่ยวคนหนึ่งกระโจนขึ้นไปบนเวที เตรียมพร้อมประลองทันที
หลังจากที่ทั้งสองเริ่มสู้กัน
เพียงแค่ 1 กระบวนท่า
สาวกจากตระกูลเซี่ยวก็เอาชนะชายหนุ่มคนนั้น
"มันเป็นการต่อสู้ที่ดี"
สาวกของตระกูลเซี่ยวยื่นมือไปจับกับชายหนุ่มอย่างไม่ถือตัว
"เซี่ยวยงผู้นี้เห็นว่าได้อันดับที่ 5 ในงานประลองประจำตระกูลเซี่ยวเมื่อเดือนที่แล้ว... กล่าวได้ว่าในหมู่นักสู้ห้าคนของตระกูลเซี่ยว ความแข็งแกร่งของเขานับว่าอ่อนด้อยที่สุด"
“อย่างที่คาดไว้ไม่ผิด ขนาดผู้ที่อ่อนแอที่สุดของตระกูลใหญ่ ยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้”
"ดูเหมือนข้าคงหมดหวังที่จะติดอันดับในรายนามมังกรซ่อนเสียแล้ว"
"อย่าได้คิดมาก เพียงแค่ได้ประลองกับเหล่าอัจฉริยะของตระกูลใหญ่ ก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่หาไมได้อีกแล้ว อันดับอะไรนั้นให้เป็นเพียงเป้าหมายในการพยายามอย่างเต็มที่ก็พอ"
......
สาวกอัจฉริยะจากตระกูลเล็กๆ บางคนได้แต่หดหู่ใจ
แน่นอนว่าย่อมมีอัจฉริยะจากตระกูลเล็กๆที่ขึ้นไปท้าทายเซี่ยงยงบนเวที
แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน เซี่ยงยงก็เก็บชัยชนะไปได้อีก 3 ครั้ง
ลี่เฟยกล่าวออกมาว่า "เซี่ยวยงผู้นี้ความแข็งแกร่งหาได้ด้อยกว่า ลี่ซ่งไม่"
"ก็ไม่เลว"
ต้วนหลิงเทียนตอบก่อนที่จะหาวออกมา
"เมื่อคืนเจ้านอนไม่ค่อยหลับรึ?"
ลี่เฟยสงสัยเล็กน้อย
"อ่า แน่นอนว่าข้าย่อมหลับไม่ค่อยสบาย เพราะข้าไม่มีภรรยาเช่นเจ้าให้กอดนี่นา"
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ตัวเลวร้าย”
ลี่เฟยได้แต่กล่าวค้อนหลิงเทียนออกไป
เพียงแค่ไม่นานเซี่ยวยงก็เอาชนะได้อีก 1 คน
"มีผู้ใดที่สนใจกับข้า เซี่ยวยงอีกบ้าง?" เซี่ยวยงกล่าวถามออกมาอย่างสุภาพ
"ข้าเอง!'
เสียงจากซุ้มหนึ่งของตระกูลเล็กดังขึ้น
ชายหนุ่มอายุประมาณ 18 ปี สวมชุดสีเขียวเดินออกมา
ชายคนนี้มีโครงสร้างร่างกายที่ดูแข็งแกร่งและมีลักษณะที่ตรงไปตรงมา หากมองเพียงลักษณะภายนอกโดยผิวเผินอาจจะกล่าวได้ว่าชายคนนี้เป็นคนซื่อๆผู้หนึ่ง
แต่หากมองให้ลึกลงไปจะพบว่าปรากายตาของมันนับว่าส่องประกายฉลาดเฉลียวออกมาไม่น้อย
เซี่ยวยงกล่าวถามออกมาพร้อมรอยยิ้ม "พี่ชายท่านนี้มีนามว่า กระไร?"
ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวออกมา "เมิ่งฉวน"
"พี่ชายเมิ่ง โปรดชี้แนะผู้น้องด้วย"
เซี่ยวยงเริ่มตั้งท่า
“หืม”
ต้วนหลิงเทียนที่มีทีท่าหาวนอนในตอนแรก ตอนนี้เขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นสดใสยามที่แลเห็นเมิ่งฉวน
"เมิ่งฉวนผู้นี้มีอะไรน่าสนใจงั้นหรือ" ลี่เฟยที่เห็นหลิงเทียนมีท่าทีเปลี่ยนไปกล่าวถามออกมา
"น่าสนใจไม่น้อย ... เซี่ยวยงกำลังจะแพ้"
ต้วนหลิงเทียนเผยรอยยิ้มออกมาบางๆ
"เจ้าสังเกตเห็นอันใดรึ?"
ลี่เฟยถาม
"เรียกข้าท่านพี่ แล้วข้าจะบอกเจ้า"
“เพ้ย! เจ้ามัน... ไร้ยางอาย! ตัวเลวร้ายโจรราคะ! "