spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนที่ 228 งานเลี้ยงที่รอคอย
หวงซวนตัวแข็งขณะที่เฟิงหยูเฮงชี้ลงไปที่ข้างล่าง จากนั้นนางจึงสงบสติและตั้งใจฟัง พวกนางได้ยินเสียงเบา ๆ ที่ดังเข้ามาในหูของพวกเขา ด้านล่างของรถทั้งสองอยู่ในนั้นมีเสียงเงียบมาก หากพวกเขาไม่ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และมีหูที่ดีกว่าคนปกติ พวกเขาคงไม่ได้ยินอะไรเลย
“มันไม่ใช่คน” เฟิงหยูเฮงพูดขึ้น “มันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างอื่น” เมื่อนางพูดสิ่งนี้ นางก็ลุกมาจากที่นั่งและเริ่มมองใต้ที่นั่งของนาง
หวงซวนหยุดนางอย่างรวดเร็วด้วยความกลัว “คุณหนู ระวังเจ้าค่ะ ! ”
แต่นางก็ยังสายไปก้าวหนึ่ง มือของเฟิงหยูเฮงเอื้อมเข้าไปและดึงน้ำเต้าออกมา น้ำเต้านั้นค่อนข้างใหญ่ มันใหญ่กว่าแขนของนาง หวงซวนตกตะลึงด้วยขนาดของมัน “นี่คืออะไร? ทำไมมีน้ำเต้าที่รถม้าของเราเจ้าคะ ? ”
เฟิงหยูเฮงส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มีบางอย่างในน้ำเต้านี้” นางพูดขณะที่เขย่า มีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน
หวงซวนตกใจและตัวสั่น อย่างไรก็ตามผิวของนางเปลี่ยนไปเกือบจะทันที “หรือจะเป็นงูเจ้าค่ะ มีงูอยู่ข้างใน”
“จะใช่หรือ ? ”
“ข้าเคยถูกงูกัด นับตั้งแต่นั้นเป็นข้าก็ไวต่องูมาก ข้าสามารถรับประกันได้ว่ามีงูอยู่ข้างในเจ้าค่ะ” หวงซวนขมวดคิ้วเมื่อพูดสิ่งนี้ เห็นได้ชัดว่านางรู้สึกกลัวสิ่งที่อยู่ข้างในน้ำเต้าอย่างมาก
เฟิงหยูเฮงยังรู้สึกว่าเนื้อของน้ำเต้านั้นยังอ่อนนุ่ม แต่นางก็ไม่ได้พูดว่ามีงูอยู่ข้างใน แต่นางไม่กลัวงู ไม่ใช่ว่านางไม่ได้กลัวพิษงู แต่นางเคยเรียนแพทย์มาก่อน ดังนั้นนางจึงไม่รู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งเหล่านี้เหมือนกับคนอื่น ๆ
“เราต้องหั่นมันออกมาดูหรือไม่เจ้าคะ ? ” หวงซวนถามนางแล้วพูดว่า “การเคลื่อนไหวของงูตัวนี้ค่อนข้างไว ข้ากลัวว่ามันจะเลื้อยออกเมื่อเราตัดน้ำเต้า”
เฟิงหยูเฮงไตร่ตรองเล็กน้อยแล้วเอื้อมมือเข้าไปในแขนเสื้อของนาง จากในมิติของนาง นางดึงเข็มฉีดยาชาออกมา
“ถ้าอย่างนั้นเรามาทำให้มันไม่มีความสามารถในการต่อสู้” นางพูดขณะเคลื่อนไหว นางสอดเข็มเข้าไป นางจึงฉีดยาชาอย่างช้า ๆ เมื่อฉีดหมดแล้วนางก็เขย่าน้ำเต้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในครั้งนี้นางก็ไม่ได้ยินเสียงที่อยู่ข้างในน้ำเต้าอีกต่อไป
สายตาของหวงซวนจ้องตรงไปที่มัน สาวน้อยของนางมีเข็มติดตัวตลอดหรือ ? นางวางไว้ที่ไหน นางไม่กังวลเกี่ยวกับการถูกเข็มแทงหรือ ?
เฟิงหยูเฮงรู้ดีว่าหวงซวนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่นางไม่ต้องการอธิบายอะไร ด้วยการโบกมือของนาง นางเก็บเข็มกลับไปยังมิติของนางซึ่งทำให้หวงซวนจ้องมองด้วยความตกใจ
“ตัดดูข้างในเถอะ” นางพูดอย่างนี้ในขณะที่เปิดน้ำเต้า เทเนื้อออกมา มีงูสีเขียวที่มีหัวรูปสามเหลี่ยมปรากฏขึ้น
งูนั้นยาวเท่าข้อศอกของเฟิงหยูเฮง ลำตัวเป็นสีเขียวและมีดวงตาสีแดง ปลายหางเป็นสีแดงและมีหัวรูปสามเหลี่ยมที่มีเกล็ดละเอียดที่ส่วนบนสุดของหัว
“งูไผ่เขียว” เฟิงหยูเฮงกล่าวออกมา เมื่อนางอยู่กับทหาร นางเคยเห็นงูชนิดนี้
หวงซวนกลัวงู เมื่อนางเห็นเฟิงหยูเฮงถืองูไว้ในมือของนางโดยไม่รู้สึกอะไรเลย นางรู้สึกว่าตัวชาไปหมด แต่นางก็ยังรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกเกินไป “ใครกันที่นำสิ่งนี้มาไว้ในรถม้าของเราเจ้าคะ ? ” นางพูดเช่นนี้และหันมองออกไปนอกหน้าต่างที่คนขับรถม้า
อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงหยุดนาง “ไม่ต้องตามหา การจัดสิ่งของนี้ในรถเจ้าก็ทำเอง ไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นจะเป็นใครได้อีกเจ้าคะ ? ” หวงซวนคิดไม่ออก แต่ข้างในนางโกรธมาก
เฟิงหยูเฮงวางงูกลับเข้าไปในน้ำเต้าและปิดมัน จากนั้นนางก็วางมันลงบนขาของนาง “ดูสิ ข้าไม่ได้ดูเท่ห์ด้วยน้ำเต้าขนาดใหญ่นี้หรือ ? ”
“คุณหนู ! ” กวงชวนรู้สึกอับจนหนทาง “คุณหนูเล่นมุกตลกในเวลาเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ”
“ข้าจะทำอะไรได้นอกจากเล่นมุกตลก ตอนนี้เราออกจากรถม้าเพื่อต่อสู้กับผู้ร้ายหรือไม่ ? ” นางตบน้ำเต้าที่ขาของนาง “หวงซวน ลองคิดดู ใครเป็นคนเอามาวางบนรถม้าของข้าโดยไม่มีใครรู้เรื่องนี้”
หวงซวนไตร่ตรองเล็กน้อยแล้วเดาว่า "คนที่อยู่กับคุณหนูหรือเจ้าคะ ? "
เฟิงหยูเฮงส่ายหัว “คิดอีกแง่หนึ่ง ถ้าน้ำเต้านี้เป็นของเราและวางไว้ในรถ ใครจะเอามันไปได้อย่างไร”
คราวนี้หวงซวนเข้าใจ “คุณหนูหมายถึง…โจร หรือฉิงซวงหรือเจ้าค่ะ?”
“มือเทพอัศจรรย์มีเพียงคนอย่างนางเท่านั้นที่สามารถทำสิ่งนี้ได้” เมื่อนางพูดสิ่งนี้ดวงตาของนางโค้งเป็นเส้นบาง ๆ ในเมื่อฉิงซวงออกมาทำงานก็หมายความว่าซวนเทียนเย่ปล่อยนางออกมา นางวางแผนไว้ทางหนึ่งแต่ไม่บรรลุผลตามที่ต้องการ นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี
“ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มีคำพูดที่เจียงฮู่ได้กล่าวเสมอว่ามือเทพอัศจรรย์นั้นเป็นขโมยที่เก่งที่สุดในโลก ตราบใดที่นางไปทำงานที่ไหนก็ไม่มีอะไรที่นางจะขโมยไม่ได้ แต่ข้าไม่คิดว่าองค์ชายสามจะรับบุคคลนี้เข้าร่วม ข้าไม่คิดว่านางจะเข้าไปในเรือนตงเซิง” หวงซวนกล่าวโทษ เมื่อคิดอีกเล็กน้อยนางพูดอย่างมีความสุข “คำพูดที่พูดไปมันต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อปัดความชั่ว สำหรับคนที่ทรงพลังเช่นนี้ทำกับคุณหนู นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณหนูมีพลังมากที่สุด”
เฟิงหยูเฮงยิ้มแย้มแจ่มใส นางจะถือว่าทรงพลังได้อย่างไร นางมีประสบการณ์ส่วนตัวในความสามารถของฉิงซวง หากนางไม่มีมิติที่แขนซ้ายของนางก็ไม่มีทางที่นางจะป้องกันตัวเองได้ บางทีปิ่นหงส์เพลิงคงจะหายไปแล้ว
“คุณหนูวางแผนจะทำอย่างไรต่อจากนี้เจ้าค่ะ ? ” หวางชวนมองที่น้ำเต้าที่ขาของนาง “คุณหนูจะเอาน้ำเต้าขนาดใหญ่นี้เข้าไปในตำหนักหยวนหรือไม่เจ้าค่ะ ? ”
นางเลิกคิ้ว “มีเหตุผลอะไรที่ข้าไม่สามารถทำได้? เจ้าเคยได้ยินคำพูดว่าพิษของงูดีกว่ายาหรือไม่ องค์ชายสามได้มอบส่วนผสมหลักให้แก่เรา องค์หญิงแห่งมณฑลนี้จะไม่สุภาพเกินไปหากไม่เชิญให้เขาดื่มสุราทางการแพทย์ที่ทำจากงูไผ่เขียว ? " นางม้วนริมฝีปากของนางด้วยรอยยิ้ม "ข้ากำลังตั้งหน้าตั้งตารองานเลี้ยงครั้งนี้ ! ”
ในที่สุดรถม้า 4 คันก็หยุดลงก่อนที่ทางเข้าตำหนักหยวน เมื่อนางยกม่านขึ้นและลงจากรถ นางเห็นองค์ชายใหญ่ซวนเทียนฉีเดินไปที่รถม้าอีกคัน ด้วยมารยาทที่ยอดเยี่ยม เขาหยุดห่างจากรถม้า 3 ก้าวแล้วป้องมือของเขาโดยพูดว่า “องค์ชายผู้นี้ดีใจที่คุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิงมา ข้าหวังว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิงจะให้เกียรติข้าด้วยการมากับข้า”
หวงซวนเอนตัวใกล้เฟิงหยูเฮงและกระซิบว่า “องค์ชายใหญ่แสดงได้สมจริงมากเจ้าค่ะ”
เมื่อมองไปในทิศทางของซวนเทียนฉี ม่านของรถม้าเฟิงเฉินหยูเพิ่งยกขึ้น แต่เขายื่นมือไปข้างหน้า เฟิงเฉินหยูผู้ที่กำลังจะลงจากรถม้ารออยู่ครู่หนึ่งตัวแข็งทื่อ แต่นางก็ยังยอมรับความช่วยเหลือจากองค์ชายใหญ่ การกระทำนี้ทำให้บรรดาฮูหยินและคุณหนูที่อยู่ประตูทางเข้าเพื่อสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ
คุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิงพัฒนาความสัมพันธ์กับองค์ชายใหญ่ตั้งแต่เมื่อใดกัน
เฟิงหยูเฮงพาหวงซวนไปที่ประตูของตำหนักโดยไม่มองไปในทิศทางนั้น นางได้ยินเพียงเสียงเฟิงเฟินไดที่ลงจากรถม้าของนาง และเริ่มตะโกนว่า “พี่ใหญ่วางตัวให้เหมาะสมด้วย”
ซวนเทียนฉีตอบ “องค์ชายผู้นี้ได้เชื้อเชิญอย่างเปิดเผยและจริงใจและคุณหนูใหญ่ก็ตอบรับ สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับความเหมาะสมอย่างไร เจ้ายังจำได้หรือไม่ ถึงแม้องค์ชายผู้นี้จะมีอารมณ์ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้คนจะพูดจาล่วงเกินได้”
เฟิงเฟินไดนิ่งเงียบและหวงซวนก็หัวเราะ “คุณหนูสี่ตระกูลเฟิงไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริง ๆ ”
ในเวลานี้นางกำนัลของตำหนักหยวนก็พาพวกเขาเข้าไป ทั้งคู่เดินไปดึงดูดสายตาของผู้คนไม่กี่คนและสายตาส่วนใหญ่จับจ้องน้ำเต้าขนาดใหญ่ที่เฟิงหยูเฮงสะพายมา
“พี่นางฟ้า ! ” ทันใดนั้นเสียงเด็กดังขึ้นมา และเฟิงหยูเฮงเห็นก้อนเนื้อกลม ๆ พุ่งไปตามทางจากนั้นจึงเข้าไปหานาง “พี่นางฟ้า ทำไมเจ้าเพิ่งมาถึง ? เฟยหยูคิดถึงท่านมาก ! ”
นางเอื้อมมือไปหยิกแก้มของซวนเฟยหยู “เจ้าดูอ้วนท้วนขึ้น ! ”
หวงซวนยิ้มและพูดว่า “ถวายบังคมเพคะ” จากนั้นนางก็ดึงบางสิ่งบางอย่างออกจากแขนเสื้อคลุมของนาง “นี่คือของขวัญจากพี่นางฟ้าเตรียมไว้ให้พระองค์ แกะดูสิเพคะ ไม่รู้ว่าพระองค์ชอบหรือไม่เพคะ” หลังจากที่พูดเสร็จนางก็ส่งของให้เฟยหยู ในขณะเดียวกันนางก็ไม่ลืมที่จะกล่าวเพิ่ม “ของขวัญที่เตรียมโดยตระกูลเฟิงนั้นได้ถูกมอบให้กับนางกำนัลของตำหนักแล้วเพคะ”
เฟยหยูเปิดของกำนัลและกล่าวว่า “ของขวัญที่เตรียมโดยตระกูลเฟิงข้าไม่สนใจ ส่วนใหญ่พวกมันไร้ค่า ข้าสนใจเฉพาะของกำนัลที่พี่นางฟ้าให้เท่านั้น”
ของขวัญของเฟิงหยูเฮงถูกเก็บไว้ในกล่องไม้ มันถูกห่อด้วยกระดาษที่นางพบในร้านขายยาของนาง ทำให้มันดูสวยงามมาก
ในที่สุดเมื่อซวนเฟยหยูเปิดกล่อง เขาก็งุนงงกับสิ่งที่อยู่ข้างใน “มันคืออะไร ? ”
“ลองชิมดูสิ” เฟิงหยูเฮงมองเด็กตัวน้อยด้วยรอยยิ้ม “ลองชิมดู”
ในความเป็นจริง นางเอาขนมขบเคี้ยวทั้งหมดในมิติของนางใส่ไว้เต็มกล่องนี้
ซวนเฟยหยูเคยกินช็อกโกแลตจากเฟิงหยูเฮงเท่านั้น ส่วนขนมอื่น ๆ เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ซวนเฟยหยูลองชิมดูก่อนที่จะทำราวกับว่าเขาได้พบสมบัติ เขากอดไว้ เขาไม่อยากจะกินมัน
“เจ้าเป็นนางฟ้าจริง ๆ ” เขาถอนหายใจ “สิ่งที่อร่อยเช่นนั้นมีแต่ที่สวรรค์ใช่หรือไม่ ? ”
“ก็คงจะเป็นเช่นนั้น” เฟิงหยูเฮงยิ้มและลูบแก้มของเขา “ไปกันเถอะ พาพี่สาวไปสถานที่จัดงานเลี้ยง”
“ได้” ซวนเฟยหยูจับมือเฟิงหยูเฮงแล้วเดินไปข้างหน้า แต่เขาหันความสนใจไปที่น้ำเต้าลูกใหญ่ เขาถามอย่างสงสัย “ในนั้นมีอะไรหรือ ? ”
นางยิ้ม และตอบว่า “ข้าเตรียมมาให้ลุงสามของเจ้า”
“โอ้” เขายังเป็นเด็กอยู่ ดังนั้นเขาจึงจัดการง่าย เมื่อได้ยินว่ามันไม่ใช่สำหรับเขา เขาไม่ได้ถามอะไรอีก เขากอดกล่องที่เต็มไปด้วยขนมขบเคี้ยวแน่น
ตำหนักหยวนจัดงานเลี้ยงที่ห้องโถวเฟยหยวน เมื่อพวกเขามาถึงแขกส่วนใหญ่นั่งอยู่แล้ว เฟิงหยูเฮงมองไปรอบ ๆ และเห็นองค์ชายสามซวนเทียนเย่, องค์ชายสี่ซวนเทียนยี่, และองค์ชายห้าซวนเทียนหยันใกล้กับที่นั่งหลัก นางปฏิเสธคำเชิญของซวนเฟยหยูและนั่งลงในตำแหน่งไม่เด่น จากนั้นนางก็พูดกับซวนเฟยหยู “รีบกลับไปหาองค์ชายและเสด็จแม่ของเจ้า วันนี้เป็นวันเกิดของเจ้า ทุกคนมาเพื่อฉลองวันเกิดของเจ้า เจ้าต้องเป็นผู้นำงานเลี้ยง ดังนั้นเจ้าอยู่กับข้าไม่ได้ เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเจ้าได้”
ซวนเฟยหยูเข้าใจเรื่องนี้ เขาจึงแนะนำนางเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ตัวเล็ก ๆ “ดูแลตัวเอง ข้าจะมาหาพี่สาวหลังจากนี้" พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป
ในเวลานี้องค์ชายใหญ่ซวนเทียนฉีและกลุ่มของเขามาถึงแล้ว คนที่อยู่ข้างเขาคือเฟิงเฉินหยู
ทุกคนลุกขึ้นยืนคำนับเขา และซวนเทียนฉีกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันเกิดหลานชายของข้า ไม่จำเป็นที่ทุกคนจะสุภาพกับองค์ชายผู้นี้มาก" พูดอย่างนี้เขามองไปที่เฟิงเฉินหยูและพูดว่า "เรามาถึงห้องโถงใหญ่แล้ว คุณหนูใหญ่ถอดหมวกไม้ไผ่ออกได้แล้ว”
เฟิงเฉินหยูโค้งคำนับเขา “เฉินหยูถูกลงโทษโดยฮองเฮาและต้องใช้ผงสีดำทุกครั้งที่ข้าออกจากคฤหาสน์ ข้าหวังว่าองค์ชายจิงจะไม่รังเกียจเพคะ”
“ไม่เป็นไร” ซวนเทียนฉีโบกมือ “ความงามของคุณหนูใหญ่ไม่สามารถปกปิดได้ง่าย ๆ เพียงแค่ผงสีดำ”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ” ขณะที่นางพูดเช่นนี้ เฟิงเฉินหยูค่อย ๆ ถอดหมวกไม้ไผ่ออก
เมื่อถอดหมวกไม้ไผ่ออกแล้ว เครื่องประดับแก้วผลึกก็เผยออกมาให้ทุกคนเห็น ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีคุณหนูบางคนถึงกับกรีดร้อง
จิตใจของเฟิงเฉินหยูพองฟูขึ้นถึงระดับสูงสุด ความอัปยศทั้งหมดที่นางได้รับจากเฟิงหยูเฮงในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาดูเหมือนจะถูกกำจัดไป ความรุ่งโรจน์ที่นางสัมผัสได้ในฐานะบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ตระกูลเฟิงเข้ามาเติมเต็มในจิตใจของนางไปอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่นางไม่รู้ก็คือมีการจ้องมองที่แปลกประหลาดมาในทิศทางของนาง...