spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ประกายตาที่แหลมคมของอสรพิษตัวน้อยเรืองวูบขึ้นมาโดยไร้ความหวาดกลัวสมิงอำมหิตตรงหน้าแม้แต่น้อย มันจ้องมองราวกับสัตว์อสูรตรงหน้านั้นเป็นแค่ข้าทาสบริวาร
ลิ้นของพวกมันสะบัดรวดเร็วราวกับเส้นสายอัสนี
หงิงงง ~
ทันใดนั้นเองสมิงอำมหิตราวกับกลายเป็นลูกแมวน้อยเชื่องๆ มันหมอบคลานลงไปติดพื้นดินทั้ง 4 ขาของมันแนบชิดกับลำตัว
ร่างอันใหญ่โตของมันสั่นเล็กน้อยราวกับ พบเจอตัวตนที่ทรงอำนาจกว่ามากๆ
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
งูน้อยทั้งสองตัวหาได้สนใจอะไรสมิงอำมหิตอีกต่อไป พวกมันเคลื่อนไหวร่างราวกับอัสนีบาตสีขาวและดำพุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็วอย่างยิ่ง
"รีบตามไปเถอะ!"
ต้วนหลิงเทียนระงับความตกใจแล้วรีบพุ่งตัวตามไป
ลี่เฟยกับเค่อเอ๋อยังคงมีทีท่าตกตะลึง
สมิงอำมหิตที่โผล่มาขวางทาง กลับถูกงูน้อยทั้งสองสยบเพียงแค่กวาดสายตามองเท่านั้น นี่มันน่าเหลือเชื่ออย่างมาก
แต่หลิงเทียนกลับคิดว่ามันก็เป็นไปได้ ...
เพราถ้าหากงูน้อยทั้งสองตัวเป็นลูกหลาน งูเหลือมหิมะนิรันดร์จริง สายเลือดที่ไหลวนอยู่ในร่างของพวกมัน ย่อมมีกลิ่นอายของงูเหลือมหิมะนิรันดร์อยู่บ้าง
สัตว์อสูรระดับ วิญญาณแรกก่อตั้งเช่น งูเหลือมหิมะนิรันดร์นั้น เป็นชนชั้นผู้ปกครองของป่าหมอกมรณะแห่งนี้ มันจึงไม่แปลกอะไรที่สัตว์อสูรทั้งหลายจะหวาดกลัว
เพราะกลิ่นอายของ งูเหลือมหิมะนิรันดร์ ย่อมมีอำนาจที่สามารถข่มขู่สัตว์อสูรตนอื่นได้
แล้วถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง งูน้อยทั้งสองตัวที่มีกลิ่นอายงูเหลือมหิมะนิรันดร์อยู่บ้าง สมิงอำมหิตย่อมรับรู้ถึงตัวตนของมัน แล้วมันจะกล้าล่วงเกินได้ยังไง
ต้องบอกว่าเรื่องราวครานี้เป็นโชคของกลุ่มหลิงเทียน
ระหว่างการเดินทางเข้าไปยังส่วนลึกของป่าหมอกมรณะ พวกเขาไม่ต้องปะทะสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งใดๆทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าในเส้นทางที่งูน้อยทั้งสองมุ่งไปนั้นจะพบเจอสัตว์อสูรที่อันตรายและแข็งแกร่งบ้าง แต่ทว่าเมื่อพวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของงูน้อยพวกมันล้วนแล้วแต่สยบทั้งสิ้น
ทุกครั้งที่พวกเขาเจอ สัตว์อสูรเหล่านั้นจะหมอบคลานแทบทุกตัว
ถ้าไม่มาเห็นด้วยตา หลิงเทียนเองก็ยากที่จะเชื่อเรื่องราวเกินจริงนี้
ในที่สุด ภายใต้การเดินทางที่นำด้วยงูน้อยทั้งสองตัว หลิงเทียนและพรรคพวกก็เดินทางมาถึงส่วนลึกที่สุดของป่าหมอกมรณะ
ปัง!!
ทันใดนั้นเสียงดัง เสียงหนึ่ง ก็ดังขึ้นมาจากที่ห่างไกล มันดังเสียจนทำให้พื้นดินและเนินเขาถึงกับสั่นสะเทือน
ต้นไม้ตรงหน้ากลุ่มของหลิงเทียนสั่นไหวราวจะล้มลง แต่ทว่าพวกมันก็ยังสามารถพยุงลำต้นเอาไว้ได้
มุ่งหน้าเข้าไปอีกนิด
บริเวณด้านหน้าของพวกเขากลับเป็นพื้นที่โล่งอย่างมาก
ฉากที่น่าตกใจเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
ข้างหน้าที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ ราวกับถูกการโจมตีที่หนักหน่วงและรุนแรงกวาดทุกอย่างจนราบพนาสูร
กลับมีงูเหลือมขนาดใหญ่ที่ร่างกายเป็นสีขาวราวกับหิมะ และมีความยาวประมาณ 20-30 เมตรกำลังต่อสู้กับชายชราที่สวมเสื้อชุดคลุมสีเทา
ร่างของงูเหลือม เต็มไปด้วยคราบโลหิต เห็นได้ชัดว่าได้มันรับบาดเจ็บสาหัส
ชายชราก็อยู่ในสภาพที่น่าเวทนา กลิ่นอายของมันดูปั่นป่วนเล็กน้อย ราวกับมันกำลังอ่อนแออย่างถึงขีดสุด
ฟึ่บ!
แววตาของชายชราเปล่งประกายเรืองวูบขึ้นมา ก่อนที่มันจะสะบัดมือออกมาปล่อยการจู่โจมออกในเสี้ยวพริบตา
คลื่นพลังราวกับคมมีด ขนาดประมาณ 3 ฟุต นับพัน ก่อตัวขึ้นมากลางอากาศอย่างน่าตื่นตะลึง
ก่อนที่มันจะพุ่งไปหลอมรวมเป็นกระบี่เล่มหนึ่ง แผ่นกลิ่นอายกดดันออกมาจนหลิงเทียนถึงกับใจสั่น แล้วก็ฟาดฟันไปยังงูเหลือมหิมะนิรันดร์
ในเวลาเดียวกันกับที่ชายชราใช้กระบวนท่าออกมา พลังงานฟ้าดินก็หลอมรวมกับพลังงานต้นกำเนิดของมัน บังเกิดเป็นเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ บนศีรษะของมันเป็นฝูงๆ ...
อย่างน้อยก็มีนับร้อยๆตัว!
ฟุ่บ!
หางของงูเหลือมตัวเขื่องสะบัดออกมาราวกับประกายอัสนีพุ่งเข้าไปปะทะกับ กระบี่พลังงานต้นกำเนิดอย่างไม่หวั่นเกรง
และเมื่องูเหลือมขนาดยักษ์นั้นสะบัดหางจนราวกับเส้นแสงอัสนี เหนือร่างของมันพลันปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณนับร้อยๆตัวด้วยเช่นกัน หาได้ยิ่งหย่อนไปกว่าชายชราไม่
ปัง!!!
กระบี่พลังงานต้นกำเนิดปะทะกับหางดังสั่นหวั่นไหว
ทั้งคนและงูเหลือม หามีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน
"การปลดปล่อยพลังงานต้นกำเนิดออกจากร่าง ... ผู้ฝึกยุทธ์ ระดับวิญญาณแรกก่อตั้ง"
ใบหน้าของลี่เฟยเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ และลมหายใจของนางก็หอบถี่ขึ้นเล็กน้อย
เฉพาะตัวตนระดับ วิญญาณแรกก่อตั้งเท่านั้น ที่สามารถควบแน่นพลังงานต้นกำเนิดแล้วปลดปล่อยออกมานอกร่างกายได้
"แย่แล้ว!"
ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ทีท่าของมันพลันเปลี่ยนเป็นตื่นตัวขึ้น ก่อนที่จะขยับออกไปราวกับสายฟ้า
วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!
ก่อนที่งูเหลือมตัวน้อยทั้งสองตัวจะพุ่งเข้าไปในสนามรบ หลิงเทียนพลันพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วเหนือล้ำจับพวกมันทั้งสองเอาไว้ได้ทัน
ฟ่อ ฟ่อ
งูทั้งสองตัวหันกลับมามองหลิงเทียนที่รั้งมันไว้ด้วยความกระวนกระวายใจ
"เจ้าตัวน้อย ข้ารู้ว่าพวกเจ้าเป็นห่วงบิดาเจ้า แต่หากพวกเจ้าเข้าไปตอนนี้ บิดาเจ้าจะพลันเป็นห่วงและศัตรูอาจจะใช้พวกเจ้าเป็นจุดอ่อนในการทำร้ายบิดาเจ้าได้"
แม้เขาจะไม่รู้ว่างูเหลือมตัวน้อยสองตัวจะเข้าใจหรือไม่ แต่หลิงเทียนก็เลือกที่จะกล่าวคำอธิบายออกมา
ฟ่อออ!
งูเหลือมสองตัวหยุดดิ้นรน และหันมาเฝ้ามองเหตุการณ์ด้วยสายตาที่เป็นกังวล
ทันใดนั้นเองเค่อเอ๋อและลี่เฟยก็ติดตามมาถึง
พวกนางมาหลบหลังต้นไม้ใหญ่เฝ้าชมดูสถานการณ์อยู่ด้านข้างต้วนหลิงเทียน
"งูเหลือมหิมะนิรันดร์เจ้าจำศีลอยู่เฉยๆก็ดีอยู่แล้ว นี่กลับกล้าออกมาเข่นฆ่าคนตระกูลเหอของข้า เจ้าบังอาจสังหารผู้ฝึกยุทธ์ระดับ กำเนิดแก่นแท้ไปมากมาย นั่นทำให้อำนาจของตระกูลข้าต้องเสื่อมถอยลง!! ...วันนี้ข้า ซื่อเต๋าจะสังหารเจ้าอย่างแน่นอน เพื่อนำเลือดและเนื้อของเจ้าไปเซ่นสังเวยคนของตระกูลข้า! "
ดาบของชายชราที่สวมชุดคลุมสีเทากระพริบเหมือนฟ้าผ่า ขณะที่เขาต่อสู้กับงูเหลือมหิมะนิรันดร์ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและไม่แยแส
"มันคือ ซื่อเต๋า!"
ลี่เฟยคำรามเสียงต่ำออกมาราวกับมีความแค้นอะไรบางอย่าง
"เจ้ารู้จักมันงั้นหรือ?"
หลิงเทียนถามออกมา
"ข้าเคยได้ยินท่านปู่พูดถึงมัน มันเป็นผู้อาวุโสหลักของตระกูลเหอ แห่งเมืองหมอกธารา และนับเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ทรงอำนาจ มันมีระดับสูงถึง วิญญาณแรกก่อตั้ง ... ข้าคาดไม่ถึงจริงๆว่ามันจะลงมือด้วยตัวเองเช่นนี้เพื่อล้างแค้นให้กับคนของตระกูลเหอ! "
น้ำเสียงของลี่เฟยดูร้อนรนเล็กน้อย
ตะรกูลเหอ ของเมืองหมอกธารา?
ตอนนี้เอง ที่หลิงเทียนพลันนึกออกถึงข่าวลือ งูเหลือมหิมะที่ฆ่าล้างคนของตระกูลเหอ ที่มันได้ยินในลานฝึกซ้อมวันนั้น
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
......
การรบยังคงดำเนินต่อไป
กลุ่มของหลิงเทียนได้แต่เฝ้ามองด้วยความนับถือ
ไม่ว่าจะเป็นซื่อเต๋าหรืองูเหลือมหิมะนิรันดร์ การเคลื่อนไหวของทั้งคู่นั้นรวดเร็วเกินไป
"ดูเหมือนว่าหากข้าต้องการเอาชีวิตเจ้าในวันนี้คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเสียเงินจำนวนมาก... เหอะ จงดีใจเสียเถิดที่ได้ตกตายภายใต้อาคมจารึกอาคมนี้!"
น้ำเสียงเย็นชาและไม่แย่แสของซื่อเต๋าดึงขึ้น ตอนนี้น้ำเสียงมันพลันแฝงไปด้วยความเชื่อมั่นไม่น้อย
ฟึ่บ!
มันพุ่งร่างไปยังงูเหลือมหิมะนิรันดร์ด้วยความรวดเร็วราวเส้นแสง เป้าหมายของมันคือปากที่ชุ่มไปด้วยเลือด
"ตาย!"
เสียงของซื่อเต๋าพลันแฝงความอำมหิตออกมา คมมีดพลังงานต้นกำเนิดของมันหลอมรวมกับเลือดที่ถูกสร้างโดยอาคมจารึกแล้วทั้งสองอย่างพลันประทับไปยังกระบี่ที่เป็นอาวุธวิญญาณ ก่อนที่จะเคลื่อนที่พุ่งไปยังปากที่ชุ่มไปด้วยเลือดของงูเหลือมหิมะนิรันดร์
"ไม่ได้การแล้ว!"
การแสดงออกของหลิงเทียนเปลี่ยนเป็นน่ากลัว
ตัวมันย่อมรู้จักอาคมจารึก ที่ผสานการจู่โจมกับอาวุธวิญญาณครั้งนี้ดี
ปัง!!
เสียงปะทะดังขึ้น บริเวณศีรษะของงูเหลือมหิมะนิรันดร์บังเกิดฝนโลหิตปะทุออกมา
พลังงานที่น่าสะพรึงกลัวจากอาคมจารึกแล่นไปทั่วเส้นโลหิตทั่วร่างกายของงูเหลือมหิมะนิรันดร์ก่อนที่มันจะระเบิดออก ตอนนี้งูเหลือมหิมะนิรันดร์รู้สึกราวกับโลหิตของมันเดือดพล่าน มันย่อมรู้ดีว่ามันคงไม่มีชีวิตรอดไปได้แล้ว
นี่เป็นการจู่โจมชุดสุดท้ายก่อนมันตาย
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
......
งูเหลือมหิมะนิรันดร์ฟาดหางอันใหญ่โตของมันกระหน่ำลงไปบนร่างของซื่อเต๋าที่สิ้นเรี่ยวแรงจากการฝืนโจมตีเมื่อครู่ออกมาเช่นกัน
หางของมันกระแทกเข้าไปทั่วร่างกายของซื่อเต๋าจนพลังงานต้นกำเนิดของมันก็สลายไปหมดสิ้นไม่มีเหลือ
กลิ่นอายของมันตอนนี้นับว่าใกล้ตายไม่ต่างอะไรกับงูเหลือมนิรันดร์
หลังจากนั้นร่างของทั้งสองสิ่งมีชีวิตก็ร่วงหล่นไปยังพื้นดินก่อนที่จะหมดสภาพไป ทางด้านซื่อเต๋าเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
เขาประสบความสำเร็จ!
การแลกเปลี่ยนชีวิตของงูเหลือมนิรันดร์ กับอาการบาดเจ็บสาหัสของมันครั้งนี้นับว่าคุ้มค่า
เพราะตราบใดที่มันฝืนอีกนิด แล้วสามารถหยิบโอสถทองประสานกายระดับ 7 ออกมากินได้ อาการของมันก็จะดีขึ้นอย่างมาก
ฟึ่บ! ฟุ่บ!
ทันใดนั้นงูน้อยทั้งสองตัวก็ดินหลุดออกจากการจับของหลิงเทียน มันพุ่งตัวไปยังร่างของงูเหลือมหิมะนิรันดร์ที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นด้วยความเร็วเต็มที่
ฟ่ออ
เมื่อพวกมันมาถึงตรงหน้าของงูเหลือมหิมะนิรันดร์ ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยน้ำตา
หลังจากที่งูน้อยสองตัวปรากฏขึ้นสู่สายตาของงูเหลือมนิรันดร์ ความเคียดแค้นและไม่พอใจของมันก็พลันสลายไปสิ้น อารมณ์ที่เย็นชาของมันพลันเปลี่ยนเป็นอบอุ่นในพริบตา ...
หลังจากนั้นมันก็ไม่เหลืออะไรที่ติดค้างในใจอีกต่อไป
มันสามารถเห็นว่าลูกน้อยของมันก่อนตายได้ มันก็ไม่มีความเสียใจใดๆอีกแล้ว
ในช่วงเวลานี้เองลี่เฟยกับเค่อเอ๋อมาถึง และเมื่อมาถึงเค่อเอ๋อก็อุ้มงูเหลือมสีขาวตัวน้อยขึ้นมาด้วยความรัก ก่อนที่นางจะกล่าวกับงูเหลือมหิมะนิรันดร์ว่า "เราจะดูแลพวกเขาอย่างดี"
แววตาของงูเหลือมหิมะนิรันดร์ฉายแววขอบคุณอย่างสุดซึ้งออกมาก่อนที่จะดับลง
ฟ่ออ!!
ดวงตาของงูเหลือมตัวน้อยทั้งสองเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
ส่วนซื่อเต๋าที่อาการบาดเจ็บสาหัสอยู่ไม่ไกล เมื่อได้ยินคำกล่าวของพวกเค่อเอ๋อ มันก็หวาดกลัวอย่างมาก
ตอนนี้มันบาดเจ็บสาหัส และอ่อนแออย่างมาก คนธรรมดาก็สามารถสังหารมันได้ง่ายดาย ...
ทันใดนั้นเองมันพลันสังเกตเห็นถึงเด็กหนุ่มชุดสีม่วงเดินมาตรงหน้าของมัน
สายตาของมันจับจ้องไปยังหน้าอกของเด็กหนุ่มผู้นั้น
"เจ้าเป็นสาวกของตระกูลลี่ประจำเมืองออโรร่า? ข้าเป็นสหายทีดีกับลี่เจี๋ย อาวุโสหลักของพวกเจ้า เร็วเข้ารีบหยิบเม็ดยาบนฝ่ามือข้าแล้วป้อนให้ข้ากินโดยเร็ว... ข้าจะให้รางวัลเจ้า ไม่ว่าอะไรที่เจ้าต้องการข้าล้วนบันดาลให้ได้เร่งมือเข้า "
น้ำเสียงของซื่อเต๋าไม่มั่นคงเล็กน้อยาวกับมันหวาดกลัวว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะลงมือทำร้ายมัน
ตอนนี้มันไม่แม้แต่จะยกมือขึ้นมาได้
ต้วนหลิงเทียนก้มลงไปแล้วมอง
บนฝ่ามือของซื่อเต๋าพลันปรากฏเม็ดยาสีเขียวราวกับหยกออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่า
แววตาของหลิงเทียนพลันส่องประกายขึ้นมา
ไม่ใช่เพราะว่าเขาตกใจกับโอสถระดับ 7
ถึงแม้โอสถระดับ 7 จะทรงคุณค่า แต่ด้วยความทรงจำของจักรพรรดิสองชาติภพโอสถระดับ 7 นี่ไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนัก สักวันมันย่อมหลอมสร้างได้หากต้องการ
แต่ความสนใจของมันกลับเป็นที่แหวนรูปทรงเรียบๆบนนิ้วของมันต่างหาก
นั่นเป็นแหวนมิติ ไม่ผิดเพี้ยน
แหวนมิติ นั้นแตกต่างกับแหวนธรรมดาอย่างมาก มันหาใช่เป็นเพียงเครื่องประดับเท่านั้น แต่มันเป็นแหวนที่มีช่องว่างมิติและสามารถเปิดปิดหยิบใส่สิ่งของได้
บนทวีปเมฆาล่องแห่งนี้มีแต่ช่างหลอมอาวุธระดับ 7 ขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถหลอมสร้างแหวนมิติเช่นนี้ได้
แม้แต่ประมุขตระกูลลี่เองก็ไม่มีแหวนมิติใช้
อาจจะมีเพียงอาวุโสสูงสุดของตระกูลลี่เท่านั้นที่มีใช้
หลิงเทียนก้มลงก่อนที่จะหยิบเม็ดยาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
"เร่งมือเข้า ... นำมัน ... ให้ข้า ... กิน ... "
ประกายตาของซื่อเต๋าเรืองวูบด้วยความปรารถนา
ทว่าดวงตาของหลิงเทียนพลันหรี่ลงก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาว่าว่า "หากข้ายินยอมป้อนโอสถเม็ดนี้แก่ท่าน ท่านจะยกเลิกการเป็นเจ้าของแหวนมิติแล้วส่งมันมาให้ข้าได้หรือไม่"
เมื่อหยดเลือดลงบนแหวนมิติ จะทำให้มีเพียงเจ้าของเลือดมีสิทธิ์ใช้มันแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
เว้นแต่เจ้าของเก่าจะถอดถอนสิทธิ์ในการใช้งาน หรือตกตายลงเท่านั้น ผู้อื่นถึงจะมีสิทธิ์ใช้แหวนมิติวงนี้ได้
ทันใดนั้นซื่อเต๋าพลันหรี่ตาลง
สิ่งของที่มีค่าที่สุดในร่างกายของเขาย่อมเป็นแหวนมิติอย่างไม่ต้องสงสัย ...
ลมหายใจของเขากระชั้นขึ้นและความปรารถนาในการสังหารเริ่มบังเกิดขึ้นมา
แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็กล่าวออกมาด้วยความดีใจ
"ได้ ... ข้าจะให้มันเป็นของขวัญแก่เจ้า"
ซื่อเต๋าตอบรับออกมา
แล้วต้วนหลิงเทียนคือใครกัน?
คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบและความเป็นตายอย่างเขามาตลอดชีวิต มีหรือจะสัมผัสจิตสังหารเมื่อครู่ไม่ได้
ต้วนหลิงเทียนได้แต่หัวเราะเย้ยหยันในใจ เขาพลันเลื่อนมือลงไปกระชับกระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วงที่เอว
ในขณะที่เขาเตรียมจะฆ่าซื่อเต๋าเพื่อปล้นแหวนมิตินั้นเอง
"อย่าได้เชื่อวาจาของมัน!"
ลี่เฟยพลันรีบตะโกนขัดเขาขึ้นมา พร้อมเดินเข้ามาหาเขา
"หืม?"
ต้วนหลิงเทียนพลันสงสัยขึ้นมาทันที
"มันซื่อเต๋าผู้นี้หาไว้ใจได้ไม่ หกสิบปีที่แล้ว ตอนที่มันออกไปผจญภัยท่องเที่ยว มันสามารถฆ่าคนที่เรียกว่าสหายอย่างไม่ลังเลเพียงเพื่อต้องการอาวุธวิญญาณเท่านั้น" ลี่เฟยกล่าวออกมา
"จะ เจ้าเป็นผู้ใดกัน ... "
ตอนนี้ซื่อเต๋าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ความลับนี้ สมควรมีเขาคนเดียวเท่านั้นบนโลกที่รู้
"บางทีเจ้าอาจจะยังไม่ทราบ แต่คนที่เจ้าเรียกว่าสหายและหักหลังโดยการสังหารเขาอย่างเลือดเย็นเพราะความโลภนั้น ได้เขียนจดหมายเลือดและแอบมันเอาไว้ในช่องเก็บของบนตัวเขาอย่างดีก่อนสิ้นลม... คนผู้นั้นเป็นบิดาของท่านปู่ข้า... เจ้าอาจจะลืมท่านได้ แต่พวกข้าไม่มีวันลืมเจ้าไปจนชั่วชีวิต "
ในแววตาของลี่เฟยเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
"ละ...ลี่หัว?"
เมื่อมองไปที่เสื้อผ้าของเด็กสาวและใบหน้า ซื่อเต๋าพลันเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด
"ดูเหมือนว่าเจ้าจะเดาออกแล้ว"
ลี่เฟยหัวเราะเยาะ
"อา กลับกลายเป็นว่าเจ้าเป็นผู้สังหารทวดของว่าที่ภรรยาในอนาคตของข้า เรื่องมันน่าเศร้าว่าไหม? เจ้าคงได้แต่โทษโชคชะตาแล้วล่ะ ที่วันนี้ดวงเจ้าถึงเลวร้ายเช่นนี้... "
ใบหน้าของต้วนหลิงเทียนตอนนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
ไม่คิดเลยว่าเวลาแบบนี้ จะมีช่องให้เขาใช้โอกาสจากสถานการณ์เช่นนี้อีก
ฉึก!
กระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วงถูกชักออกมา ก่อนที่หลิงเทียนจะค่อยๆบรรจงแทงลงกลางอกของซื่อเต๋าอย่างช้าๆ จนคมกระบี่ตัดผ่านขั้วหัวใจออกมัน