spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
หัวของลี่เฟยปะทะกับหน้าอกของหลิงเทียนอย่างจัง ตัวนางนั้นไม่เป็นอะไรแม้แต่นิดเพียงรอยขีดข่วนเล็กๆก็หามีไม่ นางเงยหน้าขึ้นมองหหลิงเทียนก่อนที่จะกล่าวถามออกมาอย่างห่วงใย
ท่าทางที่ที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวที่จะช่วยนางและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปรารถนาจะปกป้องของชายตรงหน้า ได้ประทับตราตรึงสลักลงไปกลางหัวใจของนาง
สายตานั้นของมัน..ปรารถนาที่จะช่วยเหลือนางอย่างแท้จริง
"เฮ่ พี่สาวตัวใหญ่ท่านช่วยลงจากตัวข้าก่อนได้หรือไม่..ท่านนี่นับว่าหนักไม่น้อยเลย...ข้าว่าท่านควรลดน้ำหนักลงบ้างนะ "
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น ตอนนี้ความเจ็บปวดที่แล่นมาจากด้านหลังนั้นทำให้มันหน้าซีดเหงื่อตก
โชคดีที่ร่างกายของมันพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงที่ตัดผ่านไปยังระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ตามรูปแบบพญาอสรพิษ ซึ่งนับว่ามีความเหนือล้ำกว่าความแข็งแกร่งของระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ตามปกติอย่างล้นเหลือ อาการบาดเจ็บครั้งนี้จึงไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อกล้ามเนื้อและกระดูกของมันเลย
ใบหน้าของลี่เฟยพลันแดงขึ้นทันที
นางรู้สึกสับสนขึ้นมาในใจ นี่นางตัวหนักจริงๆงั้นหรือ?
ภายใต้การจ้องมองจากใบหน้าหล่อเหลาของหลิงเทียน ลี่เฟยจึงค่อยๆลุกขึ้นจากตัวมันอย่างเขินอาย
"เจ้า ... อาการบาดเจ็บเจ้าเป็นไรหรือไม่?"
นางยื่นมือออกมาดึงหลิงเทียนเพื่อช่วยให้มันลุกขึ้น เมื่อนางสังเกตบาดแผลด้านหลัง...ที่เนื้อของหลิงเทียนถลอกไปอย่างน่ากลัว สีหน้าของนางพลันแปรเปลี่ยนไปเป็นซีดเผือด
"ไม่ต้องกังวล แค่นี้ข้าไม่ตายหรอก"
หลิงเทียนตอบออกมาอย่างไม่ยี่หระ ก่อนที่มันจะค่อยๆลุกขึ้น
ลี่เฟยเงียบไปสักครู่ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้ามาก!"
"เฮ่ ข้าควรได้อะไรมากกว่าคำขอบคุณนะ ... "
ต้วนหลิงเทียนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"เจ้าต้องการสิ่งใดกัน?"
ลี่เฟยสับสนเล็กน้อย
"มอบร่างกายของท่านให้ข้าเป็นอย่างไร ... "
สายตาของหลิงเทียนเต็มไปด้วยความปรารถนาอีกครั้ง
“เพ้ย!”
ลี่เฟยกล่าวสบถออกมา ใบหน้าของนางกลับกลายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อหลิงเทียนอีกครั้ง อีกทั้งใบหูของนางยังแดงแจ๋อย่างมาก
"แฮ่ม แฮ่ม ... "
เสียงกระแอมเบาของผู้ตัดสิน ทำลายบรรยากาศหวานแหวนรอบๆตัวของพวกมันลงเสียสิ้น
"พวกเจ้าทั้งคู่ยังต้องการประลองต่อหรือไม่?"
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ผู้ตัดสินไม่อาจทนฟังพวกมันพลอดรักกันต่อไปได้อีกแล้ว
"ไม่จำเป็นแล้ว ข้าขอยอมรับความพ่ายแพ้"
ลี่เฟยส่ายหัวก่อนที่จะกล่าวออกมา เพื่อช่วยเหลือนางทั้งๆที่ยังทำการประลองแข่งขันกันอยู่ อีกทั้งหลิงเทียนไม่ลังเลที่จะทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยเหลือนางกลับเปิดเผยความแข็งแกร่งออกมาทั้งหมด อีกทั้งมันยังทุ่มเทสุดตัวเพื่อช่วยเหลือนางโดยไม่กังวลว่าตนเองจะได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิด
"นายน้อย!"
"เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?"
เค่อเอ๋อและลี่ฉีฉีรับวิ่งมาดล่าวถามหลิงเทียนด้วยความห่วงใย ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความกังวล
เพียงพริบตาเดียวหลิงเทียนพลันถูกล้อมรอบไปด้วยสตรีที่งดงามถึง 3 คน
ตอนนี้ความอิจฉาและริษยาต้วนหลิงเทียนนั้น...ถูกส่งออกมาทั่วทุกทิศทาง
พวกมันอยากเป็นผู้ที่บาดเจ็บแทนต้วนหลิงเทียนนัก หากมีสาวๆมารุมล้อมเช่นนี้พวกมันยินยอม ...
"เฟยเฟย เจ้าเป็นไรหรือไม่?" ลี่ฉิงรีบโผล่มาข้างกายลี่เฟยก่อนที่จะกล่าวถามออกมาด้วยความห่วงใย
"ลี่ฉิง ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่า อย่าได้เรียกข้าว่า เฟยเฟย?"
ลี่เฟยรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ตอนนี้นางกำลังตั้งใจทำแผลให้กับหลิงเทียนพร้อมกันกับเค่อเอ๋ออย่างระมัดระวัง...
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนจบนางไม่ได้หันไปมองลี่ฉิงสักครั้ง
ท่าทางของลี่ฉิงพลันร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ มันค่อยๆสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
"ต้วนหลิงเทียน ข้าหวังว่าอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านี้ จะไม่มีปัญหาใดๆต่อการประลองหลังจากนี้"
ความโกรธแค้นของลี่ฉิงพลันย้ายไปลงที่หลิงเทียน
"ไม่ต้องห่วง เป้าหมายของข้าคือผู้ชนะเลิศ"
ต้วนหลิงเทียนหันไปมองลี่ฉิงด้วยสายตาไร้ความหวาดกลัว
"เฮอะ!"
หลังจากแค่นเสียออกมาอย่างเย็นชา ลี่ฉิงก็หันกายจากไป
เขากลัวว่าหากยังยืนอยู่ตรงนั้น จะไม่อาจระงับความต้องการตนเองและลงมือสังหารหลิงเทียนลงเสียตรงนั้นได้
หลังจากที่วิกฤตของลี่เฟยถูกหลิงเทียนแก้ไขสถานการณ์ ตอนนี้ความสนใจของทุกคนล้วนมุ่งตรงไปยังหลิงเทียน
วันนี้ต้วนหลิงเทียนทำให้พวกมันตกตะลึงแทบตายแล้ว
ประการแรก คือเอาชนะ สาวกระดับก่อกำเนิดด้วยระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เท่านั้น
หลังจากนั้นเขาก็เผยความแข็งแกร่งถึงขนาดปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณถึง 2 ตัว ...
อาศัยระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 แต่ทว่ากลับมีความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณถึง 2 ตัว!!
นี่เป็นเรื่องที่พวกมันไม่เคยได้ยินมาก่อนทั้งชีวิต
ทว่านี่เรื่องราวสะท้านขวัญยังไม่จบสิ้นแต่เพียงเท่านี้
ในตอนท้าย เพื่อช่วยเหลือลี่เฟยจากอันตราย
ต้วนหลิงเทียนพลันระเบิดพลังสะท้านแดนดินออกมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้มันกลับเปิดเผยระดับความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณถึง 3 ตัวออกมา!!! ...
และตั้งแต่ต้นจนจบ พวกมันไม่เคยเห็นต้วนหลิงเทียนใช้พลังงานต้นกำเนิดเพื่อหลอมรวมกับพลังงานฟ้าดิน เพื่อฉายเงาร่างช้างแมมมอธเลยสักครั้ง
หากจะกล่าวให้กระจ่าง
ต้วนหลิงเทียนอาศัยเพียงความแข็งแกร่งของร่างกายตัวเองด้วยระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เท่านั้นในการสร้างเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ
หากพวกมันไม่เห็นเรื่องนี้ด้วยตาตนเองแล้วล่ะก็ ต่อให้พวกมันถูกซ้อมจนตายเพื่อให้ยอมรับว่าเชื่อ พวกมันก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าเรื่องราวเช่นนี้กลับบังเกิดขึ้นมาได้
“ไม่น่าแปลกใจสักนิดเพราะเหตุใดหลิงเทียนจึงกล้าประกาศว่าเขาจะคว้าตำแหน่งชนะเลิศ นั่นเพราะเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้นั่นเอง”
"ถูกแล้ว แม้ว่าลี่ฉิงจะอยู่ในระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2 แต่ทว่าความแข็งแกร่งทั้งหมดของมันก็เทียบเท่ากับช้างแมมมอธโบราณ 3 ตัวเท่านั้น ... หากนับจากเรื่องนี้ ต้วนหลิงเทียนก็นับว่าไม่ได้ด้อยกว่ามันแม้แต่น้อย”
“นอกจากนี้วิชาทั้งหมดของต้วนหลิงเทียนนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างแท้จริง การเอาชนะลี่ฉิงนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้”
"ยามนี้ข้ากลับเชื่อมั่นในตัวของหลิงเทียน ว่ามันจักเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน"
......
ท่ามกลางเสียงกระซิบเหล่านั้น ทุกเรื่องราวกลับเป็นเรื่องของต้วนหลิงเทียน
คำพูดเหล่านี้ลี่ฉิงเองก็ล้วนได้ยินอย่างชัดแจ้ง
ท่าทางของเขาพลันเปลี่ยนเป็นมืดมนและทวีความโกรธแค้นมากขึ้นเรื่อยๆ แววตาของมันตอนนี้เต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะฆ่าหลิงเทียนให้ตกตาย มันกำหมัดแน่นจนเส้นโลหิตปูดไปทั่วกำปั้นของมัน ...
"ต้วนหลิงเทียน!"
ถึงแม้เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมีความแข็งแกร่งถึงระดับช้างแมมมอธโบราณ 3 ตัวนั้นจะทำให้มันแปลกใจเล็กน้อย แต่ทว่ามันยังคงดูแคลนหลิงเทียนอยู่ดี
จากความเข้าใจของมัน สุดท้ายแล้วต้วนหลิงเทียนก็ยังเป็นแค่เด็กน้อยเท่านั้น มันคงได้รับโชควาสนาบางอย่างด้วยความบังเอิญจึงทำให้มันมีความแข็งแกร่งสูงถึงขนาดนี้
มันเป็นแค่สาวกจากตระกูลสาขาอันต่ำต้อยที่นับว่ามีโชคอยู่บ้างก็เท่านั้น
จะยกมันมาเทียบกับอัจฉริยะประจำตระกูลหลักอย่างมันได้อย่างไร
"ข้าคาดไม่ถึงจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้กลับซุกซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ถึงเพียงนี้ การพ่ายแพ้ต่อมันไม่ใช่เรื่องราวเลวร้าย หรือเสียหายอะไร"
ลี่ซ่งจ้องมองหลิงเทียนด้วยแววตาซับซ้อนก่อนที่มันจะกล่าวออกมาอย่างอ่อนใจ
หลังจากนั้นมันก็หันกลับไปมอง ลี่เซียวที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยสายตาเป็นห่วง
"เจ้าก็ปรับปรุงตัวให้ดีเสียหลังจากนี้ อย่าได้ไปสร้างปัญหาหรือความวุ่นวายอะไรให้มันอีก! มันไม่ใช่คนที่เราสามารถสร้างปัญหาด้วยได้ "
ลี่ซ่งกล่าวเตือนน้องชายของมัน
"ข้าจะทำตามที่ท่านพี่กล่าว"
ลี่เซียวได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นในขณะที่พยักหน้าตอบรับ
"ข้าคาดไม่ถึงจริงๆว่าที่แท้มันกลับแข็งแกร่งถึงปานนี้ ข้ากลับคิดที่จะเป็นคู่แข่งกับมันได้ในตอนแรก"
เป็นเวลานานกว่าที่ลี่หยวนจะสามารถสงบใจได้ หลังจากมองไปยังเด็กหนุ่มสวมชุดคลุมสีม่วงที่อยู่ในระยะห่างไกล
ในตอนแรกนั้นมันคิดว่า ขอเพียงตัวมันฝึกฝนก้าวย่างล่องลอยให้มีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญคงเพียงพอให้เอาชนะต้วนหลิงเทียนได้
แต่หากมาย้อนคิดตอนนี้...นับว่าเป็นเรื่องราวตลกที่แสนเพ้อฝันเท่านั้น
บนแท่นสูง
"ข้ากลับคาดไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าเรื่องราวเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้วนหลิงเทียนผู้นี้อาศัยเพียงระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 กลับมีความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณถึง 3 ตัว ข้าฝึกฝนใช้ชีวิตมาอยู่นานกลับไม่เคยพบเรื่องราวอัศจรรย์ถึงเพียงนี้มาก่อน... "
ตอนนี้การแสดงออกของลี่อู๋ ยิ่งมายิ่งตกตะลึง
ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน เหนือกว่าที่มันประเมินเอาไว้ไกลโข
"หากคิดไปแล้วคงเป็นไปได้แค่ทางเดียว คือมันต้องได้รับโชควาสนาไม่ธรรมดาบางอย่าง จนทำให้มันมีความแข็งแกร่งมากมายถึงเพียงนี้" อาวุโสที่อยู่ด้านข้างคาดเดาออกมา
"ข้าเองก็คิดเช่นนั้น"
ชายชราคิ้วขาวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
การประลองประจำตระกูลยังคงดำเนินต่อไป
"ลี่ฉิง ลี่เฟย!"
เสียงของผู้ตัดสินดังขึ้นอีกครั้ง
เพียงอึดใจเดียวหลังจากเสียงกล่าว สายตาของทุกคนล้วนแต่จับจ้องมายังลี่เฟย ที่ดูเหมือนว่านางกำลังช่วยทำแผลให้กับต้วนหลิงเทียนอยู่อย่างเคร่งเครียด
"ข้ายอมรับความพ่ายแพ้"
ลี่เฟยไม่แม้แต่จะยกศีรษะแล้วหันกลับมามองผู้ตัดสิน นางยังคงตั้งอกตั้งใจในการทำแผลให้กับหลิงเทียนอย่างมีสมาธิ
"ลี่ฉิง เป็นผู้ชนะ!"
ถึงแม้ว่าลี่ฉิงจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แต่ทว่าบนใบหน้าของมันกลับไม่ฉายแววความสุขออกมาแม้แต่น้อย
มันยังคงใช้สายตาอำมหิตจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มชุดสีม่วงอย่างไม่คลาดสายตา
ไม่ไกลจากตรงนั้นสักเท่าไร
"ข้าหวังว่า หลิงเทียนคงพบกับลี่ฉิงก่อน"
หัวใจของลี่อันกลับเต็มไปด้วยความกังวล
ในขณะที่ หลิงเทียนเผยความแข็งแกร่งออกมาถึงระดับช้างแมมมอธโบราณ 3 ตัวเพื่อใช้วิชาท่าร่างไปช่วยเหลือลี่เฟย มันรับรู้ได้ทันทีถึงความแข็งแกร่งที่ไม่อาจต้านทานได้ของหลิงเทียน
มันย่อมรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี
ต้วนหลิงเทียนหาใช่บุคคลที่มันต่อกรได้แม้แต่น้อย
"ท่านพี่ หลิงเทียนผู้นี้จริงๆแล้วกลับซ่อนความแข็งแกร่งขนาดนี้เอาไว้"
ชายหนุ่มชุดสีเขียวที่อยู่ด้านข้างกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด มันคิดย้อนไปถึงวันนั้น ที่มันเกือบลงมือทำร้ายหลิงเทียนด้วยความโกรธ
เมื่อมันคิดถึงเรื่องราวครั้งนั้น ทำให้มันถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นออกมาด้วยความหวาดกลัว
ฟู่!
หลังจากที่เค่อเอ๋อและลี่เฟยช่วยกันทำแผลให้ต้วนหลิงเทียนอย่างตั้งใจ บวกกับเม็ดยาทองประสานกายโอสถระดับ 9 ที่หลิงเทียนกินเข้าไป อาการบาดเจ็บของมันก็ดีขึ้นอย่างมากในเวลาสั้นๆ
เพราะว่าบาดแผลมันไม่ได้ร้ายแรงจนทำให้กระดูกหรือกล้ามเนื้อบาดเจ็บ อาการบาดเจ็บของมันจึงหายไปอย่างรวดเร็วแต่ถึงแม้จะไม่หายมันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับการต่อสู้สักเท่าไร
"ต้วนหลิงเทียน ลี่อัน!"
ทันใดนั้นเสียงของผู้ตัดสินก็ดังขึ้น
ใบหน้าของลี่อันหันไปมองอย่างตกตะลึง
สิ่งที่มันกังวลเอาไว้มากที่สุด กลับกลายเป็นความจริงเสียแล้ว
"ระวังตัวด้วย"
ในขณะที่หลิงเทียนกำลังจะขึ้นเวที ลี่เฟยพลันกล่าวเตือนออกมาด้วยความเป็นห่วง
"โอ้ ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้ข้าจะได้กำไรนัก อย่าได้กังวลข้าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรไปเด็ดขาด เพราะข้ายังมีสิ่งที่ต้องการกระทำอีกมากมายนัก... "
หลิงเทียนกลับกล่าวหยอกล้อออกมาพร้อมกับจับจ้องไปยังลี่เฟยด้วยสายตาปรารถนาอย่างร้อนแรงอีกครั้ง และในขณะที่นางกำลังจะต่อว่ามัน หลิงเทียนก็รีบกระโดดขึ้นไปยังเวทีประลองอย่างรวดเร็ว
ลี่ฉีฉีจับมือเค่อเอ๋อก่อนที่จะลากนางออกไปที่มุมหนึ่งที่อยู่ห่างไกลลี่เฟย ก่อนที่จะถามออกมาด้วยน้ำเสียงเบาราวกับกระซิบว่า "เค่อเอ๋อ หลิงเทียนเจ้าชู้ถึงเพียงนี้เจ้าไม่โกรธหรือไร? "
"พี่หญิงฉีฉี ตราบเท่าที่นายน้อยยังมีข้าอยู่สักเสี้ยวหนึ่งในหัวใจ ไม่ว่าเรื่องราวใดๆที่นายน้อยกระทำ ข้าล้วนยอมรับได้ทั้งสิ้น"
เค่อเอ๋อกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ แววตานางนั้นบ่งบอกว่านางกล่าวออกมาจากใจจริง
หลังจากได้ยินคำตอบของนาง ลี่ฉีฉีถึงกับอับจนคำพูด
‘หลิงเทียนมันใช้ยาเสน่ห์อันใดกันแน่ถึงล่อลวงเค่อเอ๋อให้งมงายในตัวมันได้ถึงเพียงนี้?’
บนเวทีประลอง
ต้วนหลิงเทียนมองไปยังลี่อันด้วยสายตาไม่แยแส
ลี่อันได้แต่สูดหายใจเข้าลึกๆด้วยความหนาวเหน็บ ในใจของมันฉายภาพหลิงเทียนระเบิดความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณออกมา 3 ตัวซ้ำไปซ้ำมา ...
ความแข็งแกร่งของหลิงเทียนนั้นเทียบเท่ากับระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 2!
สำหรับความสำเร็จในขั้นตอนวิชาต่างๆ หลิงเทียนเองก็ไม่ได้ด้อยกว่ามันแม้เพียงนิด
"ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!"
ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่ลี่อันก็ทำได้เพียงเท่านี้
หากพวกมันทำการต่อสู้กันจริง ลี่อันก็ไม่รู้ว่าหลิงเทียนจะลงมือกับมันเช่นไรบ้าง หากมันลงมือด้วยอำมหิตแล้วไซร้มันต้องบาดเจ็บหนักเป็นแน่
มันไม่กล้าเสี่ยงเอาชีวิตเป็นเดิมพันเช่นนี้ได้
ทันใดนั้นรอบๆ กลับเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องของผู้คน
ความแข็งแกร่งของลี่อันนั้น พวกมันยอมรับกันอย่างเป็นวงกว้างว่าคือผู้แข็งแกร่งอันดับที่ 2 ของตระกูลลี่
แต่ทว่าตอนนี้มันกลับไร้ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับหลิงเทียน
"ไอ้ลูกเต่า !" (Too pussy นี่จะแปลว่าหน้าฮี๋ย์ก็กลัวจะหยาบไป - -)
“ขี้ขลาดนัก อายุก็มากกว่าระดับการบ่มเพาะก็มากกว่า เพ้ยย”
......
..
เมื่อสังเกตไปรอบๆถึงท่าทีผิดหวังและเสียงก่นด่าอย่างเหยียดหยาม ลี่อันไม่สามารถทำกระไรได้ มันเพียงต้องยอมรับคำตราหน้าและความอัปยสอดสูในครั้งนี้อย่างไร้หนทางหลีกเลี่ยง
สายตาของมันตอนนี้เต็มไปด้วยความแค้น และความรังเกียจที่มีต่อต้วนหลิงเทียนอย่างสุดขั้วหัวใจ
“ลี่อัน ลี่ฉิง!”
หลังจากการประลองอีกไม่กี่ครั้ง เสียงผู้ตัดสินก็ดังขึ้นเรียกชื่อลี่อันอีกครั้ง
และคราวนี้ลี่อันก็ยอมรับความพ่ายแพ้ ออกมาทันทีอีกครั้ง
“ลี่ฉิงเป็นผู้ชนะ!”
กาลเวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆ ในที่สุดยามค่ำคืนก็มาถึง
"ลี่ฉิง ต้วนหลิงเทียน!"
ในที่สุดช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง
สาวกสองคนที่มีความแข็งแกร่งถึงระดับช้างแมมมอธโบราณ 3 ตัวกำลังจะประลองตัดสินกัน เพื่อหาผู้ชนะเลิศในการประลองประจำตระกูลปีนี้ ...
ชุดคลุมสีขาวของลี่ฉิงโบกสะบัดหยอกเย้ากับสายลม มันยืนรอหลิงเทียนอย่างสงบนิ่งบนเวทีประลอง
ท่าทางของมันเต็มไปด้วยความยโสโอหัง สายตาของมันเต็มไปด้วยความดูแคลนยามมองมาที่หลิงเทียน
"ลี่ฉิงผู้นี้นับว่าหยิ่งเสียจริง!"
ท่าทางของหลิงเทียนเริ่มไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
แต่ในขณะที่เขากำลังจะเดินขึ้นเวทีประลองนั้นเอง ...
"ต้วนหลิงเทียน!"
เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นเรียกชื่อเขา
แต่ทว่าด้วยความเป็นนักฆ่า เขาพลันสังเกตได้ในเสี้ยววินาทีว่าผู้อื่นกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเสียงนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเป็นเขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยินเสียงนี้
และจากความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ที่ใช้ชีวิตมาถึง 2 ชาติภพนั้น พบว่า
มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ ขั้นที่ 7 ขึ้นไปเท่านั้น ที่มีความสามารถบีบอัดพลังงานต้นกำเนิดแล้วส่งออกมาอยู่ในรูปคลื่นเสียงที่สามารถเจาะจงเป้าหมายได้เช่นนี้
เห็นได้ชัดว่าเจ้าของเสียงนี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกเหนือจาก ผู้นำตระกูลลี่ ลี่อู๋
ต้วนหลิงเทียนเงยหน้าขึ้นไปมองลี่อู๋ที่อยู่บนแท่นสูงเล็กน้อยด้วยความสงสัย ประมุขตระกูลมีเรื่องอะไรกันแน่?
ลี่อูเองก็กำลังมาที่มันเช่นกัน
"ต้วนหลิงเทียน การประลองครั้งนี้ ข้าอยากให้เจ้ายอมรับความพ่ายแพ้...จะได้หรือไม่ "
สิ่งที่ลี่อู๋กล่าวกลับออกมากลับทำให้หลิงเทียนถึงกับขมวดคิ้ว
ยอมรับความพ่ายแพ้ได้หรือไม่?
นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้!
เป้าหมายของมันคือของรางวัลจากตำแหน่งผู้ชนะเลิศ โลหิตหลิงซี่อายุ 350 ปี แล้วจะให้มันรามือลงในลักษณะเช่นนี้มันไม่มีทางกระทำได้อย่างแน่นอน
"ข้ารู้ว่าเรื่องที่ขอครั้งนี้มันยากสำหรับเจ้าอย่างยิ่ง แต่ทว่า ข้าขอให้คำสัตย์กับเจ้าว่า ข้าจะมอบของรางวัลที่มีค่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตำแหน่งผู้ชนะเลิศแก่เจ้า ว่าอย่างไร? "
เสียงของลี่อู๋ดังขึ้นมาในโสตประสาทการรับฟังของเขาอีกครั้ง...