spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
หลังจากที่เอาชนะลี่ควง หลิงเทียนก็มีคะแนนรวม 74 คะแนน
หลังจากนั้นเขาก็เจอกับสาวกสายในอีกหลายคน แต่ทว่าเขาก็เอาชนะมาได้เรื่อยๆโดยไม่ยากลำบากอะไร
อันที่จริงไม่มีสาวกสายในคนไหนสามารถทานทนเพียง 1 กระบวนท่าของหลิงเทียนได้!
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนได้รับการขนานนามจากตระกูลลี่ทุกคนที่รับชมการประลองแล้วว่า ไร้พ่ายใต้ก่อกำเนิด ...
ไม่นานนักคะแนนสะสมหลิงเทียนก็ขึ้นมาอยู่ที่ 79 คะแนน
สำหรับเค่อเอ๋อ
นางมี 77 คะแนน และตั้งแต่แข่งขันมานางยังพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
นางปราชัยให้แก่ลี่ควง..
ถึงแม้เค่อเอ๋อจะมีระดับบ่มเพาะเทียบเท่าลี่ควง ทว่าลี่ควงนั้นลับคมและสั่งสมประสบการณ์ต่อสู้มาอย่างหนักภายใต้การต่อสู้เป็นตายในป่าหมอกมรณะ มันผ่านการต่อสู้เป็นตายมาหลายครั้งหลายคราจนสัญชาติญาณคมกริบ ส่วนเค่อเอ๋อนั้นแม้จะนับว่าเป็นอัจฉริยะ..แต่น่าเสียดายนางนั้นไม่ค่อยได้ต่อสู้กับผู้ที่มีระดับใกล้เคียงกันสักเท่าไร ทำให้ไร้ประสบการณ์ต่อสู้อย่างมาก นั่นส่งผลทำให้นางพ่ายแพ้ลี่ควงไปในลักษณะนี้
ในแง่ของประสบการณ์ต่อสู้และการช่วงชิงจังหวะ ลี่ควงเหนือกว่าเค่อเอ๋ออย่างเห็นได้ชัด
"นายน้อย"
หลังจากที่พ่ายแพ้ลี่ควง เค่อเอ๋อรู้สึกเศร้าอย่างมาก
"เค่อเอ๋อสาเหตุที่เจ้าแพ้นั้น เพราะเจ้าอ่อนด้อยกว่ามันในเรื่องของประสบการณ์ หลังจากจบการประลองประจำตระกูลพวกเราจะเข้าไปในป่าหมอกมรณะกัน เมื่อเจ้ามีประสบการณ์ต่อสู้มากพอ ต่อไปเจ้าจะไม่แพ้มันหรือผู้ใดเช่นนี้อีกในอนาคต ดีหรือไม่"
ต้วนหลิงเทียนกล่าวปลอบโยนนาง
"เจ้าค่ะ"
เด็กสาวพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
เมื่อเวลาผ่านไปในที่สุด การประลองประจำตระกูลก็เข้าสู่ช่วงสุดท้าย และทวีความดุเดือดมากยิ่งขึ้น
"ต้วนหลิงเทียน ลี่ซ่ง!"
เสียงผู้ตัดสินดังก้องขึ้นมา
"ลี่ซ่ง รึ?"
ดวงตาของหลิงเทียนทอประกายสว่างขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมา มันรีบเคลื่อนร่างไปยังเวทีประลองราวกับเส้นแสง
ลี่ซ่งที่ตามขึ้นมายังเวทีประลองกล่าวเย้ยหยันออกมาว่า "ต้วนหลิงเทียน ในที่สุดเจ้าก็ได้มาเจอกับข้าเสียที ข้าจะได้รู้เสียทีว่าเจ้าจะมีความสามารถเท่าเทียมกับที่ลั่นวาจาโอหังไว้ได้หรือไม่ ที่กล้าบอกว่า เจ้าจะเป็นผู้ชนะเลิศการประลองประจำตระกูลครั้งนี้! "
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกำลังจะปะทะกับสาวกสายในอย่างลี่ซ่งที่มีระดับก่อกำเนิด นั่นดึงดูดความสนใจจากทุกผู้คนอย่างมาก ทำให้พวกมันตั้งใจรับชมและรับฟังจนไร้ซึ่งบทสนทนาใดๆ ทำให้พวกมันได้ยินคำพูดของลี่ซ่งเต็มสองรูหู
และ หลังจากได้ฟังคำกล่าวของลี่ซ่ง ...ทุกผู้คนต่างก็ตกตะลึงและตกอยู่ในอารมณ์ยากคาดเดา
"ไม่คาดคิดจริง ... ว่าหลิงเทียนจะกล้าฝันไกลถึงเพียงนี้! มันคิดจริงๆหรือว่าจะสามารถกวาดล้างสาวกทุกคนแล้วได้ตำแหน่งผู้ชนะเลิศไปครอง?
"มันคิดจริงๆหรือว่า อาศัยระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 จะมีชัยเหนือสาวกสายในที่มีระดับก่อกำเนิด?"
“เพ้ย! ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่หากยังอยู่ในระดับการบ่มเพาะร่างกาย เจ้าไม่มีวันแข็งแกร่งเหนือไปกว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดได้ แม้จะเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นแรก แต่ทว่าความแข็งแกร่งของพวกหลังจากพัฒนาพลังงานต้นกำเนิดแล้ว อย่างต่ำก็อยู่ที่ระดับ ช้างแมมอธโบราณ 1 ตัว”
"ใช่แล้วระดับความแข็งแกร่งช้างแมมมอธโบราณ 1 ตัวคือน้อยที่สุดเท่าที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดจะมี ถึงแม้หลิงเทียนจะกล้าแกร่งเพียงไรก็คงไม่มีทางเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดที่ใช้พลังงานต้นกำเนิดจนถึงขั้นหลอมรวมกับพลังงานฟ้าดินจนก่อร่างช้างแมมมอธโบราณ 2 ตัวได้ "
"เขาโอหังเกินไป เขาคิดจริงๆเหรอว่าสาวกชั้นในทั้ง 5 คนนั้น เป็นแค่ เสือกระดาษ? "
"ตอนนี้ปล่อยให้ลี่ซ่งสั่งสอนเขาให้รู้ถึงความเป็นจริงเถิด มันจะได้สำนึกตัวเสียที!"
......
แม้แต่ตัวหลิงเทียนเองก็คาดไม่ถึงเลยว่า เพียงคำพูดเดียวของลี่ซ่งจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่กลับตาลปัตรเช่นนี้
แต่เขาก็เข้าใจดี
ตอนนี้มีเพียง แสดงให้ทุกคนได้รับรู้ด้วยสองตา และตบหน้าพวกมันด้วยความแข็งแกร่งที่แท้จริงเท่านั้น ถึงจะทำให้พวกมันหุบปากได้..
ตำแหน่งผู้ชนะเลิศการประลองประจำตระกูลปีนี้
เขาจะเอามันมาให้ได้!
เขาจะใช้ความแข็งแกร่งของเขาพิสูจน์ให้ทุกคนสำนึก
หลิงเทียนจ้องลี่ซ่งอย่างไม่เกรงกลัวก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยท่าทางเฉยชาราวกับไม่แยแส “ลี่ซ่ง ความสามารถของข้าเพียงพอหรือไม่ เหตุใดเจ้าไม่ลองพิสูจน์ด้วยตัวเจ้าเองเล่า”
"ข้าลองแน่! อย่าว่าแต่เอาชนะเจ้า ข้าจะให้เจ้าได้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างก่อกำเนิดและระดับบ่มเพาะร่างกาย และข้าจะอาศัยการลงมือจู่โจมเพียง 1 กระบวนท่าเท่านั้น เพื่อล้มเจ้า! "
ลี่ซ่งกล่าวออกมาพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะดูแคลน
หนึ่งกระบวนท่า?
ตาของหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อย
ฟุ่บ!
ลี่ซ่งโคจรพลังงานต้นกำเนิดก่อนที่จะปะทุมันออกมาตรงฝ่าเท้า มันตัดสินใจใช้ออกด้วยความแข็งแกร่งระดับช้างแมมมอธโบราณ 2 ตัว เคลื่อนร่างราวกับจรวดพุ่งไปจู่โจมหลิงเทียนทันที
ความเร็วของมันเหนือกว่ายามที่ลี่ควงใช้ออกด้วยวิชาท่าร่างถึง 2 เท่า!
วิชาท่าร่างของลี่ซ่งนั้นเป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง หลิวทะยานผ่านลำน้ำ!
นี่เป็นวิชาที่มันได้มาหลังจากที่ได้รับรางวัล เมื่อติด 1 ใน 10 ของการประลองประจำตระกูลปีที่แล้ว
มันใช้เวลาถึง 1 ปีเต็มฝึกฝนบ่มเพาะ จนมีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้น
ความสำเร็จนี้ตัวมันภาคภูมิใจอย่างมาก..
"การเคลื่อนไหวของเจ้าก็นับว่ารวดเร็วใช้ได้"
สายตาของหลิงเทียนที่จับจ้องอยู่กระจ่างวูบออกมาในเสี้ยวพรอบตา ก่อนที่ร่างของเขาจะเคลื่อนไหวราวกับไร้กระดูกบิดเอนไปด้านหลังในแง่มุมแปลกประหลาด
พริบตานั้นเอง
ปัง!!
ต้วนหลิงเทียนพลันกระทืบเท้าดังสนั่น พร้อมพุ่งทะยานออกไปราวกระสุนปืน
ภาพเงาร่างของช้างแมมมอธโบราณ 1 ตัวปรากฏเหนือศีรษะเขาลางๆ
วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!
หลิงเทียนพุ่งออกไปราวกับเส้นสายอัสนี เตรียมพร้อมปะทะกับลี่ซ่งซึ่งๆหน้า
ไม่ว่าประมุขตระกูลลี่ ลี่อู๋ หรืออาวุโสคุมกฎและผู้อาวุโสต่างๆ อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
เมื่อดูจากการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของหลิงเทียน มันเลือกที่จะปะทะกับลี่ซ่งอย่างตรงไปตรงมาไม่ผิดแน่...
ในขณะที่ร่างของหลิงเทียนพุ่งตัวไปหาลี่ซ่งอยู่นั้น ท่อนบนของมันพลันเอนไปด้านหลังอีกครั้งราวกับไร้กระดูก
ทว่าทางด้านลี่ซ่งเองก็ทำท่าทางแบบเดียวกันออกมา...
หมัดทะลวง!!
ต้วนหลิงเทียนพลิกตัวกลับมาซัดหมัดทะลวงออกไปราวกับ ลูกปืนใหญ่!
หมัดพยัคฆ์คำรน!
ลี่ซ่งพลันใช้ออกด้วยหมัดพยัคฆ์คำรนที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกับหมัดทะลวงอย่างมาก
ปัง!!
กำปั้นของทั้งคู่ปะทะกันอย่างหนักหน่วง
ลี่ซ่งหัวเราะเยาะในขณะที่เขาเกร็งกำปั้นขึ้น!
หากเทียบในระดับเดียวกันแล้ว วิชาหมัดทะลวงของต้วนหลิงเทียนนั้นเพียงมีระดับอยู่ที่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น..
แต่ทว่าหมัดพยัคฆ์คำรนของลี่ซ่งนั้นอยู่ในขั้นแก่นแท้
ในแง่ความแข็งแกร่งของร่างกายและพลังงานต้นกำเนิดนั้น เมื่อลี่ซ่งใช้ออกอย่างเต็มที่มันสูงถึงระดับช้างแมมมอธโบราณ 2 ตัว!
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของหลิงเทียนจะไม่อ่อนด้อย แต่ทว่าก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะเทียบเท่าช้างแมมมอธโบราณ 2 ตัวได้...นั่นทำให้เขาเสียเปรียบอย่างมาก
และตอนนี้
ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงกระดูกแขนของต้วนหลิงเทียนป่นปี้
ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของหลิงเทียนถูกซัดกระเด็นลอยไปไกล
"เหอะ!!"
เมื่อสังเกตเห็นรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากของลี่ซ่ง คนอย่างต้วนหลิงเทียนมีหรือจะไม่รู้ว่าตอนนี้ในหัวของมันคิดเรื่องอะไรอยู่?
ทันที่ที่กำปั้นของทั้งคู่ปะทะกันหลิงเทียนก็รู้ได้ทันทีว่ากำปั้นของลี่ซ่งแข็งแกร่งกว่าและแฝงพลังงานต้นกำเนิดมากกว่าเขา
นั่นทำให้พลังทำลายของกำปั้นลี่ซ่งสลายพลังหมัดของหลิงเทียนจนไม่มีเหลือ และมันยังพุ่งตรงมาหวังจะทำลายแขนของหลิงเทียนอีกด้วย
หากตอนนี้หลิงเทียนไม่คิดจะแก้ไขสถานการณ์แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าพลังทำลายของหมัดพยัคฆ์คำรนจากลี่ซ่งต้องป่นกระดูกแขนขวาของเขาเป็นผุยผง สถานหนักก็เสียแขนสถานเบาก็พิการ!!
พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล!
ต้วนหลิงเทียนที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ทันใดนั้นก็ใช้ออกด้วยวิชาป้องกันออกมา
หลังจากที่พลังหมัดของลี่ซ่งหักล้างพลังหมัดของเขาไปแล้ว ถึงแม้จะเหลือพลังงานที่ทำลายแขนของเขาได้แต่ทว่ามันก็อ่อนกำลังลงอย่างมาก
อาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายหลังฝึกวิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลขั้นตอนเริ่มต้นนั้น นับว่าเหลือเฟืออย่างยิ่งที่จะป้องกันกำปั้นนี้
แต่ทว่า หลิงเทียนไม่คิดเพียงป้องกัน มันคิดจะส่งพลังทำลายของลี่ซ่งให้ย้อนกลับไปทำร้ายมันเอง ...
ดาบนั้นคืนสนอง!
ตอนนี้นั้นภาพเหตุการณ์บนเวทีนับว่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง
พวกมันคิดว่าจะได้เห็นกำปั้นของลี่ซ่งทำลายกำปั้นของหลิงเทียนและ ภาพหลิงเทียนถูกซัดจนลอยกระเด็น เพราะความต่างชั้นของพลัง ...
แต่ทว่า...
ร่างกายของหลิงเทียนเพียงสั่นไหวเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรอีก
แต่ในทางตรงกันข้าม ลี่ซ่งที่กำลังจะได้ชัย กลับกระเด็นลอยละลิ่วไปไกล พร้อมทั้งกระอักเลือดออกมาเป็นสายกลางอากาศ
ไรซึ่งสำเนียงสรรพเสียงใดๆ ราวกับทั้งลานตกอยู่ในสภาวะสุญญากาศ
คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรลี่ซ่งถึงเป็นฝ่ายกระเด็นออกไปเช่นนี้
เป็นไปได้หรือไม่ที่มันกำลังล้มมวย?
บนแท่นสูง
"วิชาป้องกันระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง ที่หลิงเทียนฝึกฝนนั้นแตกต่างจากวิชาป้องกันระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงของสาวน้อยที่อยู่ข้างกายของมันนางนั้นอย่างสิ้นเชิง .... "
ประกายตาของลี่อู๋ ประมุขตระกูลลี่ถึงกับสว่างโรจน์ขึ้นมา
ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขา ย่อมเห็นถึงเบื้องลึกเบื้องหลังการปะทะกันครั้งนี้
"พวกเขาเป็นคนจากตระกูลลี่สาขาเมืองวายุโปรยจริงๆงั้นหรือ? เหตุใดพวกมันจึงมีวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงมากมายถึงเพียงนี้ พวกมันไปได้รับมาจากที่ใดกัน? ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนวิชาต่อสู้ที่พวกมันใช้อยู่ ดูจะเหนือชั้นกว่าวิชาต่อสู้ ของทางตระกูลหลักเช่นพวกเราอีกต่างหาก... "
ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็แสดงทีท่าตกตะลึงออกมาอย่างมาก
“ต้องไม่ลืมว่าต้วนหลิงเทียผู้นี้ใช้แซ่อื่นด้วยหาใช่แซ่ลี่ของตระกูลเราไม่... อืม...ต้วนหลิงเทียน หรือว่า! จะเป็นตระกูลต้วนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในอาณาเมฆาล่องของเรา!!" ชายชราคิ้วขาวกล่าวออกมาด้วยความตื่นตระหนก
"เจ้าหมายความว่า ... มันคือคนของตระกูลต้วนที่อยู่ในเมืองหลวงของอาณาจักรเรา?"
"หากต้วนหลิงเทียนผู้นี้เป็นคนจากตระกูลต้วน ที่มาจากเมืองหลวงของอาณาจักรจริง นับว่าการที่มันมีวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงมากมายถึงเพียงนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ข้าสงสัยและใคร่รู้เป็นอันมาก หากมันเป็นคนของตระกูลต้วนจริงแล้วเหตุใดมันจึงไปอยู่ที่ตระกูลลี่สาขาเมืองวายุโปรย อีกทั้งทางสาขานั้นจึงส่งมันมาในนามคนของตระกูลของพวกมันอีกด้วย? "
"เรื่องนี้คงต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังบางอย่าง เมื่อจบการประลองประจำตระกูลข้าคิดว่า ควรส่งคนไปขุดคุ้ยประวัติของมันที่เมืองวายุโปรยท่าจะดี "
......
บริเวณมุมของเวทีประลอง
"เฮอะ พวกสวะ ไร้ค่า! ทำเสื่อมเสียหน้าผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดจริงๆ "
ชายหนุ่มที่สวมชุดคลุมปักลายเงิน กล่าวสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อเห็นลี่ซ่งถูกซัดกระเด็น
"ลี่อัน ดูเหมือนเจ้าจะไม่ถูกชะตาหรือพอใจ ต้วนหลิงเทียนคนนี้สักเท่าไร"
คำกล่าวพร้อมหัวเราะหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลังไม่นานเจ้าของเสียงที่อยู่ในชุดคลุมสีเขียวก็เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของลี่อัน
"ลี่หู!"
ทีท่าของ ลี่อันเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อ พบว่าผู้พูดเมื่อครู่เป็นใคร
ลี่หูนั้นเป็น 1 ใน 5 สาวกชั้นในที่อยู่ในระดับ ก่อกำเนิด เช่นเดียวกับเขา
"มีอะไรผิดพลาดเช่นนั้นหรือ? หรือเจ้าไม่เชื่อมั่นว่าจะเอาชนะมันได้? "
ลี่หูกล่าวออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ
"เฮอะ เรื่องเช่นนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร? สิ่งที่มันทำได้มีเพียงเอาชนะขยะอย่างลี่ซ่งเท่านั้น "
ลี่อัน แค่นเสียงหัวเราะเย้ยหยันออกมา
ทางด้านอื่น
"ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนผู้นี้นับว่าสูงนัก" สาวน้อยหน้าตาอ่อนโยนสวมชุดคลุมสีม่วงกล่าวออกมาอย่างตกตะลึง ริมฝีปากสีแดงชาติเจือไปด้วยเสน่ห์ของนางถึงกับเผยอขึ้นมาด้วยความตกใจ
แววตาของนางและฟันสีขาวสวยส่องประกายออกมาอย่างน่าหลงไหล
"เหอะ! แค่ระดับผู้บ่มเพาะร่างกายเท่านั้น"
ข้างสาวน้อยพลันมีน้ำเสียงดูถูกดังขึ้น มันเป็นชายหนุ่มผู้หนึ่งที่สวมชุดคลุมสีขาว
จากลักษณะการพูดจาของมัน บ่งบอกได้ว่ามันดูแคลนทุกคน
"หลิงเทียนหาใช่ผู้บ่มเพาะร่างกายธรรมดาทั่วไปไม่ ยามเจ้ามีระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เจ้ามีความสำเร็จและความแข็งแกร่งเทียบเท่ามันหรือไม่? น่าสนใจนัก ตอนนี้ข้าสนใจเขาไม่น้อยทีเดียว "
สาวน้อยยิ้มอย่างอ่อนหวานประกายตาของนางฉายแววซุกซนราวกับพบเจอเรื่องราวสนุกสนาน
แต่ทว่าชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวที่ด้านข้างของนางเมื่อได้ฟัง สีหน้ามันกลับกลายเป็นปิดเบี้ยวดวงตาของมันฉายแววอำมหิตออกมา
และแววตาอำมหิตนั้น จับจ้องไปยังชายหนุ่มที่สวมชุดคลุมสีม่วงบนลานประลอง...ราวกับจะอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้
บริเวณใกล้ๆสนามประลอง
"น้องหญิงเค่อเอ๋อเจารู้มาก่อนหรือ ว่าหลิงเทียนเป็นตัวประหลาดเช่นนี้?"
ลีชิชิสังเกตเห็นว่าเด็กสาวที่อยู่ข้างเธอไม่รู้สึกตกตะลึงหรือทึ่งกับสิ่งที่หลิงเทียนกระทำแม้แต่น้อย
"พี่หญิงฉีฉี ทำไมท่านพูดจา กล่าวว่านายน้อยเป็นตัวประหลาดอย่างนั้นล่ะเจ้าคะ?"
ท่าทางของสาวน้อยแง่งอนขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
"เอาล่ะๆ ข้าผิดเอง เค่อเอ๋อตัวน้อย อย่าโกรธข้าเลย ข้าไม่ว่านายน้อยของเจ้าอีกแล้ว"
ลี่ฉีฉีริบยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมเขย่าแขนสาวน้อย ก่อนที่นางจะหันกลับไปจ้องต้วนหลิงเทียนที่อยู่บนลานประลอง ชุดคลุมสีม่วงของเขาพริ้วไสวหยอกล้อสายลมอย่างสง่างาม
"เฮ่อ ต้วนหลิงเทียนนะต้วนหลิงเทียน ชาติที่แล้วเจ้าทำบุญด้วยอะไรกัน ถึงได้มีเด็กสาวแสนดีอย่างเค่อเอ๋อ ที่มีแต่เจ้าหมดหัวใจ มาอยู่เคียงข้างกายเจ้า"
ลี่ฉีฉีถอนหายใจออกมาเบาๆ
นางเข้าใจดีว่า เพราะสาเหตุนี้นี่เองหลิงเทียนจึงดูแลนางอย่างดีไว้ข้างกายเสมอมา และมอบความรักให้แต่นางเพียงเท่านั้น...
“ท่านพี่ ...”
ตอนนี้สีหน้าลี่เซี่ยวพลันบิดเบี้ยวอย่างมาก มันไม่คิดเลยว่าพี่ชายของมันจะเสียท่าให้กับต้วนหลิงเทียนเช่นนี้
บนเวทีประลอง
ลี่ซ่งค่อยๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้อารมณ์ที่คุกรุ่นของมันเริ่มสงบลงแล้ว
"ต้วนหลิงเทียน ข้าต้องยอมรับนับถือวิชาป้องกันของเจ้าจริงๆ มันนับว่าเป็นวิชาที่ใช้ได้ทีเดียว ... แต่ทว่าทุกสิ่งจะจบสิ้นเพียงเท่านี้!!"
ไม่ทันสิ้นเสียงคำกล่าว ลี่ซ่งพลันเคลื่อนร่างทันที
หลิวทะยานผ่านลำน้ำ!
ร่างกายของมันวูบไหวราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสายลม ...
"หากความเร็วของข้าเหนือกว่าเจ้า ข้าก็จะอยู่ในตำแหน่งที่เจ้าไม่มีวันทำอันตรายใดๆข้าได้ และเมื่อข้าพบจุดอ่อนของเจ้าเมื่อไหร่ ชัยชนะจะเป็นของข้า! "
เสียงของลี่ซ่งดังกังวานออกมาจากรอบทิศทาง
รางกายของมันกระพริบวูบไหว วนไปมาอยู่รอบตัวหลิงเทียนด้วยความเร็วมหาศาล
"เจ้ามั่นใจเช่นนั้นจริงๆรึ?"
ต้วนหลิงเทียนเริ่มหัวเราะออกมา