spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
นี่แสดงให้เห็นว่า ผลจิตวิญญาณธาตุทมิฬนั้นหายากถึงเพียงไหน
หากผลจิตวิญญาณธาตุทมิฬนี้ ถูกบริโภคโดยคนธรรมดาแล้วล่ะก็ คนผู้นั้นสามารถเลื่อนไปอยู่ในระดับการบ่มเพาะร่างกาย ขั้นที่ 9 แม้วาจะไม่เคยฝึกฝนหรือบ่มเพาะร่างกายมาก่อนเลยก็ตาม ในเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น ...
นี่นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายสวรรค์อย่างมาก!
"เนื่องจากข้ายังไม่สามารถตัดผ่านไปยังระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ได้ในเร็วๆนี้เพราะ วิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบพญาอสรพิษนั้นมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ..นี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนชะตาของข้าก็ได้ "
หลิงเทียนแทบจะไม่สามารถระงับความตื่นเต้นในหัวใจของเขาได้
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าโชคของเขาจะดีถึงเพียงนี้
ลาภลอยครั้งนี้นับว่าราวกับอภินิหาร
สำหรับผลไม้จิตวิญญาณอีก 2 ชนิดนั้นก็นับว่ามันหาได้ยากเช่นกัน
ผลหนามประกายม่วง
ผลไม้จิตวิญญาณตัวนี้ มีผลที่น่าพิศวงนัก หากมันถูกกินโดยมนุษย์ มันจะเป็นพิษร้ายแรงที่สามารถคร่าชีวิตได้ในเวลาเพียงไม่นาน
แต่ทว่าหากสัตว์อสูรที่มีพิษร้ายได้กินมันแล้วละก็จะเป็นการยกระดับความสามารถของมันอย่างมาก
"นายน้อย ได้โปรดเก็บพวกมันไว้ด้วย"
เด็กสาวที่หยิบไข่ทั้งสองใบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ กำลังกล่าวอ้อนวอนกับหลิงเทียนด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความสงสาร
"แม่พวกมันก็จากไปแล้ว เช่นนั้นพวกเรานำมันกลับไปเลี้ยงที่บ้านเถอะ"
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า
เหตุผลที่ผลประกายม่วงยังเหลืออยู่ถึง 2 ลูก โดยที่ งูเหลือมทมิฬไม่ได้ใช้งาน อาจจะเป็นเพราะมันเตรียมไว้ให้ลูกๆของมันนั่นเอง...นี่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่เดรัจฉานก็ยังรักและห่วงใยบุตรของมัน
หลังจากเก็บผลประกายม่วงทั้ง 2 ผล และ ผลจิตวิญญาณธาตุทมิฬเรียบร้อยแล้ว หลิงเทียนก็เตรียมตัวออกจากถ้ำ เพื่อกลับไปยังตระกูลลี่ทันที
สายตาของเค่อเอ๋อนั้นจับจ้องไปยังไข่ทั้งสองอย่างไม่ลดละ แววตาของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนราวกับเป็นสัญชาติญาณของสตรีที่มีความเป็นมารดาอยู่ในตัวโดยธรรมชาติ ...
"เค่อเอ๋อ เจ้ารอข้าตรงนี้สักครู่หนึ่ง"
ต้วนหลิงเทียนเดินไปยังศพของชายคนหนึ่ง พร้อมกับทีท่าที่เปลี่ยนไปเป็นจริงจัง
นั่นเพราะตัวเขาสามารถสัมผัสได้ถึงเศษเสี้ยวจิตสังหารที่ซากศพนั้นเผอเรอปล่อยให้เล็ดรอดออกมา
ที่สำคัญจิตสังหารที่ว่านั่นกลับพุ่งมายังเขาอีกด้วย!
"เลิกเสแสร้งแกล้งทำ เป็นระงับลมหายใจได้แล้ว มันไร้ประโยชน์ "ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยเสียงต่ำและเย็นชา ทันใดนั้นประกายแสงสีม่วงก็วูบไหวขึ้นมา กระบี่อ่อนสะเก็ดดาวตกม่วงถูกแทงไปที่หัวใจของร่างตรงหน้าในทันที
ตอนแรกหลิงเทียนไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้
เขาและเค่อเอ๋อเลยไม่ได้เปลี่ยนชุดที่แสดงว่าเป็นคนของตระกูลลี่...
ตอนนี้มีแต่ความตายของคนตรงหน้าเท่านั้น ถึงจะเป็นหลักประกันไม่ให้ความวุ่นวายมากล้ำกรายเขาได้ในอนาคต
ในฐานะมือสังหารอันดับ 1 ของโลกเก่า หลิงเทียนค่อนข้างไวต่อสัมผัส เรื่องเจตนาฆ่าหรือจิตสังหารเป็นอย่างมาก
ยิ่งกว่านั้นจิตสังหารของชายที่พึ่งกลายเป็นศพตรงหน้า ยังกล้าพุ่งเป้ามาที่เขาอีก...ขนาดสไนเปอร์ที่อยู่ห่างออกไปเป็นกิโลเขายังรับรู้ได้ นับประสาอะไรกับห่างไปเพียงไม่กี่เมตรเช่นนี้
หลังจากที่เดินวนสำรวจรอบบริเวณ หลิงเทียนก็รับรู้ได้ถึงความจริงข้อหนึ่ง งูเหลือมทมิฬเพียงสังหารคนไปเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น...หากนับรวมกับคนที่เขาพึ่งสังหารไป นับว่าตอนนี้ มีผู้เสียชีวิตรวม 5 คน ...
นั่นเพราะ...จิตสังหารแผ่วเบา 2 สายได้เล็ดรอดออกมาให้หลิงเทียนสัมผัสได้อีกครั้ง ...แม้มันเป็นการคิดเพียงแค่เสี้ยวกระพริบตา แต่ทว่าหลิงเทียนกลับสามารถสัมผัสเจตนาฆ่านี้ได้อย่างชัดเจน
เห็นได้ชัดว่าพวกมันแกล้งตายมาอย่างยาวนาน แต่ทว่าพวกมันกลับพลาดเมื่อเห็นหลิงเทียนสังหาร คนที่แกล้งตายก่อนหน้านี้ไป
หูของหลิงเทียนนั้นสามารถได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบาที่ยิ่งกว่าการกระซิบของแมลง ได้ในทันที มันสามารถระบุเป้าหมายได้ในชั่วพริบตา...การเคลื่อนไหวของหลิงเทียนอำมหิตไร้ซึ่งความลังเลใดๆ
2 กระบี่พุ่งทะลวงหัวใจทั้งสองร่างที่แกล้งนอนตายอยู่ ราวกับสายอัสนีบาต!
หลังจากที่ลงมือแทงกระบี่ซ้ำไปทั้ง 2 ร่างที่แกล้งตายอยู่เสร็จสิ้น หลิงเทียนก็จัดการชิงทรัพย์จากศพทั้งหมด
เมื่อเก็บสิ่งของหมดสิ้นแล้วลิงเทียนก็เหลือบไปมองซากร่างงูเหลือมทมิฬพร้อมกับครุ่นคิดเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเลิกความคิดชำแหละร่างของมัน เพื่อเก็บอวัยวะที่สำคัญหรือชิ้นส่วนมีค่า หลังจากนั้นเขาก็เดินไปหาเค่อเอ๋อที่กำลังรอคอยเขาอยู่
ครึ่งชั่วโมงหลังจากที่หลิงเทียนและเค่อเอ๋อจากไป
ร่างของชายหนุ่มที่ต้วนหลิงเทียนได้เสือกแทงกระบี่ไปยังหัวใจนั้น อยู่ๆก็กระตุกขึ้น ก่อนที่มันจะพยายามเอื้อมมือที่สั่นเทาเข้าไปในอกเสื้อเพื่อหยิบซองโอสถออกมา และรีบใช้โอสถภายในซองอย่างเร่งด่วน
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ลมหายใจ
เลือดที่ไหลออกจากกลางอกของชายหนุ่มก็หยุดไหล
"ตระกูลลี่... หึสมาชิกตระกูลลี่ที่เป็นตระกูลใหญ่ของเมืองออโรร่าเช่นนั้นรึ เจ้าคงคาดไม่ถึงล่ะสิ ว่าหัวใจของข้านั้นอยู่อีกด้านตั้งแต่กำเนิดไม่เหมือนผู้ใด อั่ค"
ชายหนุ่มพยายามลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล
เหตุเพราะหัวใจของมันอยู่อีกด้าน ซึ่งต่างจากคนทั่วไป นั่นทำให้มันยังมีลมหายใจอยู่
แต่ทันใดนั้นเองราวกับมันสังเกตเห็นถึงอะไรบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัว มันพยายามฝืนร่างที่บาดเจ็บสาหัสหลบหนีออกจากจุดนั้นอย่างเร่งร้อนทันที ราวกับว่าสิ่งที่กำลังจะมานั้นร้ายแรงเป็นอย่างมาก
หลังจากที่มันจากไปได้ไม่นาน
ร่างมหึมาที่มีอยู่ห่างไปราวๆ หนึ่งพันเมตรก็เคลื่อนที่มายังถ้ำด้วยความเร็วเพียงเสี้ยวพริบตา มันคำรามเปล่งเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะอย่างมากออกมเมื่อพบเห็นสภาพเหตุการณ์รอบๆ ...
ณ ที่พักตระกูลเซี่ยวแห่งเมืองออโรร่า
ในลานกว้างมีชายหนุ่มคนหนึ่งแต่งตัวภูมิฐานเร่งรีบเดินออกมา มันกำลังมุ่งหน้าไปยังที่แห่งหนึ่ง ทีท่าของมันเต็มไปด้วยความร้อนรนอย่างมาก
“ไม่คิดเลยว่าโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนจะล้ำเลิศถึงเพียงนี้! หากให้ข้าใช้เม็ดยาบ่มเพาะร่างกาย มันต้องใช้เวลากว่า 5 วันกว่าจะดูดซับได้สำเร็จ แต่โอสถน้ำนั่นข้าใช้เวลาเพียงสองวันก็ได้ผลเท่ากันแล้ว มันยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ หากเป็นเช่นนี้ข้าสามารถตัดผ่านได้ทันเวลาอย่างแน่นอน!”
ชายหนุ่มคนดังกล่าวรีบนำพาผู้ติดตามมายังร้านโอสถ ด้วยความร้อนรน
"ผู้ดูแล ไปนำโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน มาให้ข้า 100 ชุดโดยเร็วที่สุด!"
ชายหนุ่มคนนั้นเมื่อมาถึงมันรีบเอ่ยความต้องการออกมาทันที
ตอนแรกเมื่อเห็นชายหนุ่ม ผู้ดูแลก็คิดว่ามันจะไม่ค่อยพอใจผลลัพธ์ของโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกายสักเท่าไร เพาะราคาต่างกันถึงสิบกว่าเท่าแต่ผลลัพธ์นั้นดีกว่ากันแค่เท่าตัวเท่านั้น...มันเตรียมใจรับคำก่นด่าเอาไว้แล้ว
แต่มันไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มจะกล่าวออกมาเช่นนี้
ร้อยชุด?
หัวใจของผู้ดูแลแทบจะเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินคำพูดของมัน
"นายน้อยเซี่ยวข้าเกรงว่าจะเป็นตอนนี้ไม่ได้ เพราะโอสถนั้นถูกจำหน่ายไปหมดสิ้น ท่านสามารถรอสัก 2 วันได้หรือไม่? "
ผู้ดูแลได้แต่กล่าวออกมาพร้อมยิ้มแห้งๆ
"เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร ข้าคิดว่าท่านจะไม่มีเสียอีก โอสถสรรพคุณเลิศล้ำถึงเพียงนี้เพียงแค่ 2 วันข้ารอได้ นี่เป็นเงินมัดจำไว้ก่อน 5,000 เหรียญเงิน อีกสองวันข้าจะมารับโอสถกับท่านอีกครั้ง พร้อมกับจ่ายเงินส่วนที่เหลือ"
ชายหนุ่มตระกูลเซี่ยวล้วงเงินมัดจำ 5,000 เหรียญเงินออกมาโดยไม่ลังเลและมันก็จากไปพร้อมรอยยิ้มในทันที
"สองวัน…"
ผู้ดูแลเริ่มเครียดเล็กน้อย
เขาพึ่งจะกล่าวหาทางเอาตัวรอดออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า นายน้อยหลิงเทียนจะกลับมาอีกทีเมื่อไหร่
ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก หากเขารู้ว่าโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนเป็นที่ต้องการขนาดนี้ เขาไม่ลังเลที่จะรับมันไว้จำนวนมากๆเลย
"อ้าว ท่านผู้ดูแลเกิดอะไรขึ้นกัน? เหตุใดทำหน้าตาเศร้าสร้อยถึงเพียงนั้นกันเล่า? "
แต่ทว่า ในขณะนั้นเอง เสียงๆหนึ่งกลับดังขึ้น
แววตาของผู้ดูแลพลันเปลี่ยนเป็นสดใสราวกับว่าพระแม่กวนอิมได้ลงมาโปรด มันรีบวิ่งไปหาเจ้าของเสียงทันที
คนที่พึ่งมาถึงและทักทายมันเมื่อครู่ คือต้วนหลิงเทียนที่มันคิดถึงอยู่พอดีนั่นเอง!
หลังออกจากรังของงูเหลือมทมิฬทั้งสองคนก็ตัดสินใจกลับมาเมืองออโรร่าทันที
พวกเขาไปขายวัตถุดิบที่ล่ามาได้ก่อนเป็นอันดับแรก และทั้งหมดที่ทั้งค่าล่ามาได้ในช่วงสองวันนี้ ก็มีมูลค่า 3,000 เหรียญเงิน
หลังจากนั้นหลิงเทียนก็อยากรู้ว่า โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนของเขา ยอดขายเป็นอย่างไรบ้างเขาจึงคิดแวะเข้ามาถามไถ่ผู้ดูแลดู
"ผู้ดูแลท่าน ... "
หลิงเทียนมองไปยังผู้ดูแลที่ทำสีหน้าราวกับดีใจอย่างมากเมื่อพบเขา นั่นทำให้หลิงเทียนสงสัยเล็กน้อย
"นายท่าน โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนของท่าน ถูกขายไปหมดสิ้นแล้ว"
ผู้ดูแลรีบหยิบเงิน 1,000 เหรียญเงินส่งให้หลิงเทียนด้วยความดีใจ
ต้วนหลิงเทียนยิ้มเบาๆ ก่อนที่จะกล่าวถาม "แล้วผู้ดูแลสนใจ ทำธุรกิจร่วมกับข้าอีกหรือไม่?"
"ย่อมสนใจ! ข้าต้องการโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกายจำนวนมากที่สุดเท่าท่านมีอยู่!" ผู้ดูแลรีบกล่าวออกมา ราวกับมันกลัวว่าหลิงเทียนจะเลิกทำธุรกิจร่วมกับมัน
"เช่นนั้นท่านมีห้องว่างให้ข้าใช้งานหรือไม่?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามผู้ดูแลออกมา
"แน่นอนว่ามี นายท่านต้องการห้องว่างหรือ?"
ผู้ดูแลกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
"ถูกแล้ว ข้าคิดที่จะผสมโอสถให้ท่านที่นี่เสียเลย จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา"
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าพร้อมกับกล่าวออกมา
ผู้ดูแลที่ได้ฟังถึงกับรีบถามออกมาด้วยความประหลาดใจ "นายท่าน โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนนั้นท่านผสมเองเช่นนั้นหรือ?"
"เพียงแค่โอสถที่เกิดจากการผสมสมุนไพธรรมดาทั่วไปไม่ได้ทำยากเย็นอะไร เหตุใดท่านจึงแตกตื่นเช่นนั้นเล่า? "
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมกับยิ้มอย่างไม่แยแส
มุมปากของผู้ดูแลถึงกับกระตุก นายท่านตัวน้อยตรงหน้าพึ่งพูดออกมาว่ามันทำได้ง่ายดายเช่นนั้นหรือ...
โอสถน้ำที่เป็นที่ต้องการเหนือกว่าเม็ดยาบ่มเพาะร่างกายนั้น เป็นแค่การนำสมุนไพรธรรมดาๆ มาผสมกันอย่างที่นายท่านผู้นี้กล่าวจริงๆงั้นหรือ?
"เอาล่ะไหนๆข้าก็อยู่ที่ร้านค้าแล้ว เช่นนั้นท่านช่วยไปจัดหาสมุนไพรพวกนี้ให้ข้าที ข้าจะซื้อพวกมันเพื่อนำมาผสมโอสถ แต่ตอนนี้ท่านพาข้าไปยังห้องว่างก่อน ข้าจะต้องเตรียมการเล็กน้อย "
ผู้ดูแลรีบทำตามคำขอของหลิงเทียนอย่างรวดเร็ว
หลังจากการผ่านไประยะหนึ่ง... ผู้ดูแลก็เตรียมวัตถุดิบในรายการเสร็จสิ้น
เมื่อมันมองไปยังกองสมุนไพรราคาถูกแสนถูกที่กองอยู่ตรงหน้า มุมปากของมันก็เริ่มกระตุกอีกครั้ง
จากรายการทั้งหมดและจำนวนวัตถุดิบและสมุนไพร...ราคาต้นทุนของมันเรียกได้ว่าถูกจนไม่น่าเชื่อ
และด้วยวัตถุดิบกับหม้อยาที่นำมาเตรียมไว้ ทั้งหมดนั่นมันจะกลายเป็น โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย ประมาณ 2,000 ชุดไม่ใช่หรือ...นี่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่ฝันไปแน่นะ?
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนและเค่อเอ๋อกำลังปรุงยาอยู่ด้านในห้อง ผู้ดูแลที่รออยู่ด้านนอก มันก็ทำได้แต่เดินวนไปวนมาอย่างร้อนรน ตอนนี้ในหัวของมันเต็มไปด้วยคำถาม มันสงสัยอย่างมากว่าต้นทุนที่ใช้มันมีเพียงเท่านั้นจริงๆหรือ
ด้วยความช่วยเหลือของเค่อเอ๋อ หลิงเทียนสามารถปรุงโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน ได้เสร็จสิ้นเต็ม 2 หม้อภายในเวลา 1 ชั่วโมงเท่านั้น
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินออกมาและเรียกผู้ดูแล
"ผู้ดูแล ข้าเกรงว่าจะต้องลำบากท่านในการแบ่งโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนออกเป็นชุดๆ เสียแล้ว"
ต้วนหลิงเทียนยิ้มเบาๆ พร้อมกล่าวกับผู้ดูแล
ผู้ดูแลเมื่อได้ฟังก็รีบเข้าไปดู โอสถในห้องด้วยความเร่งรีบ
"นะ..นายท่านทั้งหมดนี่ สามารถจัดแบ่งโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนได้ถึง 2,000 ชุด ... เช่นนั้นข้าจะจ่ายราคาสำหรับ โอสถจำนวน 2,000 ชุดให้แก่ท่านไปก่อน หากมีอะไรขาดเหลือพวกเราค่อยมาคุยกันในภายหลังดีหรือไม่" ผู้ดูแลกล่าวถามออกมา
"ได้ไม่มีปัญหา ท่านหักเงินค่าวัตถุดิบแล้วชำระให้ข้าได้เลย"
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าก่อนที่จะรับเงินจากผู้ดูแล
แม้จะเป็นตั๋วเงิน แต่ทว่ามูลค่ามากถึง 200,000 มันก็ย่อมหนักไม่ใช่น้อย
"ฮายๆ เรื่องค่าวัตถุดิบท่านไม่จำเป็นต้องจ่ายข้าหรอก แค่ไม่ถึงพันเหรียญเงินหากเทียบกับส่วนแบ่งที่ข้าได้รับแล้ว มันไม่นับว่าเป็นอะไรได้ ข้ายินดีดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มใจ "
ผู้ดูแลที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนรีบแสดงน้ำใจของเขาออกมาทันที ประสบการณ์ครั้งนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไป
หากในอดีต มีคนมาบอกผู้ดูแลคนนี้ว่า สามารถใช้เงินไม่ถึง 1,000 เหรียญเพื่อสร้างสิ่งของที่สามารถขายได้ถึง 220,000 เหรียญ ต่อให้คนผู้นั้นจะอมทั้งวิหารมาพูดมันย่อมไม่มีวันเชื่อถืออย่างเด็ดขาด...
แต่ทว่าตอนนี้เรื่องที่ราวกับเป็นอภินิหารพลันบังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตามัน หากไม่เชื่อมันก็ต้องเชื่อแล้ว
"เอาล่ะผู้ดูแล เห็นท่านตรงไปตรงมาและมีน้ำใจเช่นนี้ ข้าคิดว่าส่วนแบ่งและราคาคงต้องปรับสักเล็กน้อย เอาเป็นว่าข้าจะมอบหมายให้ท่านตั้งราคาโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน ตามที่ท่านเห็นชอบไปด้วยเลยจะดีกว่า เพราะดูแล้วท่านน่าจะมีประสบการณ์ด้านนี้มากกว่าข้า แล้วก็รายได้ที่ได้รับ ข้ามอบให้ท่านนำไป 20% ส่วนที่เหลือ 80% ค่อยมอบให้ข้า ท่านคิดเห็นอย่างไรบ้าง "
ต้วนหลิงเทียนมองที่ผู้ดูแลด้วยสายตาล้ำลึกพร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงใจ
"ข้าขอขอบคุณนายท่านเป็นอย่างมาก!"
ผู้ดูแลถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะมีโอกาสตั้งราคาโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนได้เช่นนี้
"โอใช้ ข้าคงจะไม่มาที่นี่อีกแล้วจนกว่าจะจบการประลองกระชับมิตรของสามตระกูลจะจบลง เรื่องนี้ท่านผู้ดูแลคงเข้าใจดีว่าหมายความว่าอย่างไร ... ท่านก็คาดเดาถึงมูลค่าโอสถตัวนี้ด้วยประสบการณ์ของท่านได้เลย เพราะข้าดูก็รู้แล้วว่าท่านย่อมเป็นคนฉลาด "
หลังจากที่หลิงเทียนกล่าวคำพูดทิ้งท้ายไว้ เขาก็นำเค่อเอ๋อกลับตระกูลลี่ทันที ทิ้งผู้ดูแลที่เบิกตากว้าง ราวกับเจอเรื่องน่าเหลือเชื่อเอาไว้ด้านหลัง
"นายน้อย ข้าไม่คิดเลยว่าเงินจะหาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้"
ใบหน้าของเค่อเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีแดง เพราะตอนนี้นางรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
"เฮ้ ... เค่อเอ๋อ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถหาเงินได้อย่างเช่นนายน้อยของเจ้าน่ะ ฮ่าฮ่า"
ต้วนหลิงเทียนหัวเราะเสียงดังลั่น
ในทวีปเมฆาล่องแห่งนี้ คงมีแค่เขาและ อาวุโสหลักของตระกูลลี่สาขาเมืองวายุโปรย ลี่หัว เท่านั้นที่รู้วิธี ผสมโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน
นี่ยังไม่นับว่าเขารู้วิธีผสม โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวน อีกด้วย...หากนำออกมาขายล่ะก็
หลังจากกลับมาถึงบ้าน หลิงเทียนรีบเข้าห้องพักก่อนจะนำ ผลจิตวิญญาณธาตุทมิฬ ออกมากลืนกินทันที
ทันใดนั้นเองหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ค่อยๆร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไหลเวียนอยู่ภายในตัวของเขา
เส้นเลือดและเส้นพลัง รวมทั้งไขกระดูกอีกทั้งโลหิตของเขา กำลังแข็งแกร่งขึ้นด้วยความเร็วที่น่าตื่นตระหนก ผลลัพธ์ของมันสามารถสัมผัสได้ด้วยตาเปล่า ตอนนี้เขากำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด...
ภายในลานบ้าน
"เค่อเอ๋อ นี่คือไข่อันใดรึ?"
ลี่หลัวกล่าวถามออกมาด้วยความใคร่รู้เมื่อเห็นไข่สองใบที่เค่อเอ๋อจัดเก็บเอาไว้อย่างทะนุถนอม
"นายหญิง นี่เป็นไข่ของงูเหลือมทมิฬเจ้าค่ะ"
เค่อเอ๋อ กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
"อะไรนะ งูเหลือมทมิฬ?"
ลี่หลัวรู้สึกตกตะลึงถึงกับเผลอตะโกนออกมา
แน่นอนว่านางย่อมรู้จักสัตว์อสูรที่อันตรายและเป็นตำนานอย่างเช่นงูเหลือมทมิฬ
"เค่อเอ๋อรีบบอกข้ามาเร็วเข้า เกิดอันใดขึ้นกันแน่?" ลี่หลัวรีบถามออกมาด้วยความสงสัย
เค่อเอ๋อก็เชื่อฟังนางมาก เรื่องราวทั้งหมดที่นางเดินทางไปกับหลิงเทียนถูกบอกเล่าออกมาจนหมดสิ้นไม่มีตกหล่นแม้แต่นิดเดียว
"ฮ่าฮ่า ดูเหมือนพวกเจ้าทั้งสองจะได้รับโชคอย่างมหาศาลเพียงออกไปไม่กี่ครั้งเช่นนี้"
ลี่หลัวหัวเราะออกมาอย่างยินดี
"นายหญิงเจ้าค่ะ การที่นายน้อยไม่ออกไปช่วยเหลือ คนพวกนั้น เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกันแน่เจ้าคะ?
ริมฝีปากบอบบางสีชมพูน้อยๆ ของเค่อเอ๋อกล่าวถามลี่หลัวออกมาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ...ทั้งหมดนี่เป็นเพราะนางไม่ล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้ว่าเค่อเอ๋อจะไม่ได้กล่าวอะไรออกมาต่อหน้าหลิงเทียน แต่ว่าในใจของนางยังคงสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวในครั้งนี้
นางนั้นกล่าวได้ว่าเป็นหญิงสาวที่มีหัวใจบริสุทธิ์ จึงไม่แปลกที่นางจะคิดว่า ควรร่วมมือกับคนกลุ่มนั้นเพื่อเอาชนะงูเหลือมทมิฬจะได้ไม่มีใครต้องบาดเจ็บ แต่นายน้อยของนางกลับปฏิเสธ นางจึงอยากรู้ว่าเพราะเหตุใด
“เค่อเอ๋ออันที่จริงเรื่องนี้ลูกเทียนเป็นฝ่ายตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงว่าพวกเจ้าสามารถร่วมมือจนเอาชัยงูเหลือมทมิฬแล้วจะแบ่งผลประโยชน์กันอย่างยุติธรรมเลย ข้าเกรงว่า ทันทีที่สังหารงูเหลือมทมิฬได้ ด้วยความโลภ พวกมันคงรวมหัวกันสังหารเจ้าและหลิงเทียนเพื่อแย่งชิงทรัพย์สมบัติเสียมากกว่า อีกทั้งยังไม่ต้องเสียส่วนแบ่งให้แก่พวกเจ้าอีกด้วย "
ลี่หลัวค่อยๆกล่าวออกมาให้เค่อเอ๋อฟัง ...เรื่องโหดร้ายเช่นนี้จะอย่างไรนางก็ต้องสั่งสอนให้เค่อเอ๋อรู้เอาไว้ ลี่หลัวเองมีประสบการณ์ชีวิตมาไม่น้อย นางจึงรับรู้เหตุผลของหลิเทียนอย่างแจ่มแจ้ง
เพื่อผลประโยชน์แล้วขนาดเป็นญาติสนิทมิตรสหายยังฆ่าแกงกันได้ลงคอ นับประสาอะไรกับคนนอก
"เจ้าค่ะ เค่อเอ๋อช่างแย่จริงๆที่ไม่สามารถคิดได้ในตอนนั้น ต่อไปในอนาคตเค่อเอ๋อจะตั้งใจเชื่อฟังสิ่งที่นายน้อยกล่าวเจ้าค่ะ "
เค่อเอ๋อพยักหน้าเบาๆ อย่างน่าเอ็นดู ตอนนี้นางรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก
หลังจากวันนี้ไป เค่อเอ๋อไม่คิดจะสงสัยในคำพูดหรือการกระทำของหลิงเทียนในอนาคตอีกแล้ว ...
ตอนนี้ในโลกของนาง หลิงเทียนนั้นไม่ต่างอะไรกับเทพสวรรค์ ...นายน้อยคือทุกสิ่งทุกอย่างของนาง