spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ตอนนี้พวกเขาเริ่มคุ้นเคยกับตระกูลลี่แห่งเมืองออโรร่านี่แล้ว หลิงเทียนและเค่อเอ๋อก็เริ่มสนิทสนมกับสาวกทั้งหลายในตระกูลลี่
ในโลกใบนี้ หากเป็นผู้แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีแต่คนต้อนรับ และอยากทำความสนิทสนม
เพียงพริบตาเดียว เวลาก็ได้ล่วงเลยไปครึ่งเดือน
ถึงแม้ว่าหลิงเทียนและเค่อเอ๋อจะยังไม่ได้ตัดผ่านระดับชั้น แต่ทว่า...ความแข็งแกร่งของทั้งคู่ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
อันดับแรกเลยคือความก้าวหน้าในด้านวิชาป้องกัน
ด้วยการช่วยเหลือของโอสถน้ำ โลหิตหลอมกายา ที่สร้างมาจากเลือดหลิงซี่อายุ 50 ปี ตอนนี้วิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลของหลิงเทียน และ วิชา สี่ตำลึงปาดพันชั่งของเค่อเอ๋อ มีความก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก
ส่วนทางด้านวิชาต่อสู้นั้นตอนนี้หลิงเทียนไม่มีความสนใจที่จะฝึกวิชาอะไรเพิ่มเลย และ เค่อเอ๋อเองก็ตั้งหน้าตั้งตาฝึกแต่วิชา วาดกระบี่เท่านั้น
ความสำเร็จของวิชาวาดกระบี่ของหลิงเทียนนั้นอยู่ในขั้นตอนแก่นแท้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะมันเป็นผู้สร้างวิชามันย่อมรู้ตื้นลึกหนาบางดีกว่าใคร และตอนนี้เค่อเอ๋อเองก็อยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญแล้ว อีกไม่นาน นางคงสามารถบรรลุขั้นแก่นแท้ได้
เหตุผลที่เค่อเอ๋อก้าวหน้าได้รวดเร็วขนาดนี้ ล้วนเป็นเพราะความขยันหมั่นเพียรของนาง
นับตั้งแต่ที่นางเริ่มฝึกฝนวิชานี้ ไม่มีวันใดเลยที่นางใช้เวลาฝึกฝนวิชาวาดกระบี่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง
คนที่เพียรพยายามมักได้รับผลตอบแทนเป็นรางวัลล้ำค่าเสมอ
แต่ก็มีเรื่องที่หลิงเทียนคาดไม่ถึงอีกเช่นกัน
นั่นคือในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ลี่ฉีฉี อยู่ๆก็เริ่มเข้าหาพวกมัน พร้อมทั้งมาร่วมฝึกฝนกระบี่ด้วย และเมื่อนางมีข้อสงสัยในเชิงกระบี่นางก็มักจะถามหลิงเทียน โดยที่ไม่สนใจสักนิดว่าหลิงเทียนมีระดับบ่มเพาะด้อยกว่านาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ เค่อเอ๋อกับลี่ฉีฉี นั้นสนิทสนมกันราวกับพี่น้อง
..บริเวณลานฝึกซ้อม
ร่างของหลิงเทียนวูบไหวไปมา ราวกับไร้กระดูก เขามักจะหยุดร่างครู่หนึ่งก่อนที่จะเคลื่อนไปอยู่อีกจุดหนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ความเร็วของเขานับว่าเหนือกว่าเมื่อเดือนที่แล้วอย่างมาก ...
วิชาท่าราง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย มีความก้าวหน้าอย่างคาดไม่ถึง!
เด็กสาวที่ร่ายรำกระบี่เสร็จสิ้นมายืนมองหลิงเทียนด้วยแววตาน่ารักสดใส ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความภูมิใจ
"น้องหญิงเค่อเอ๋อ"
เสียงเรียกเจื้อยแจ้วดังมาแต่ไกล
สตรีหน้าตางดงามไม่ได้ด้อยกว่าเค่อเอ๋อสักเท่าไรปรากฏกายขึ้น ท่าทางของนางดูองอาจไม่แพ้บุรุษ ในมือถือกระบี่เอาไว้อย่างทะมัดทะแมง แลดูเข้มแข็งราวกับวีรสตรี
"พี่หญิงฉีฉี"
เค่อเอ๋อกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มบางๆ
"น้องหญิงเค่อเอ๋อ ข้าจะไปเดินซื้อสิ่งของที่ตลาด เจ้าต้องไปด้วยกันกับข้านะ"
นางคือลี่ฉีฉีนั่นเอง
เมื่อได้ยินคำกล่าวของลี่ฉีฉี เค่อเอ๋อหันไปมองเงาร่างที่กำลังวูบไหวของหลิงเทียนทันที แต่นางก็ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนอะไรออกมา นางเฝ้ารอให้หลิงเทียนหยุดเคลื่อนไหว..
"ต้วนหลิงเทียน ข้าขอยืมตัวเค่อเอ๋อสักครู่หนึ่ง เจ้าไม่ว่าอันใดใช่หรือไม่? "
ลี่ฉีฉีเองก็ส่งสายตากดดันมายังหลิงเทียน
ฟึ่บ!
ร่างของหลิงเทียนๆค่อยเคลื่อนที่ช้าลงก่อนที่จะหยุดนิ่ง ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ แต่ทว่ายังคงหล่อเหลาไม่น้อย
ในขณะที่เขาหยุดร่างเพื่อจะตอบคำ ทันใดนั้นเขาก็ได้กลิ่นหอมโชยเข้าจมูก ปรากฏว่ามันมาจากสตรีที่กำลังเดินเข้ามา เพื่อซับเหงื่อบนใบหน้าให้แก่เขา
เค่อเอ๋อทำตัวราวกับภรรยาที่น่ารักตัวน้อยๆของเขา
"เฮ่อ ข้าจะต่อต้านพวกท่านสองคนได้อย่างไรเล่า"
ลี่ฉีฉี เบ้ปากออกมาอย่างน่ารัก
แต่ในแววตาของนางปรากฏความอิจฉาออกมาวูบหนึ่งเมื่อเห็นภาพตรงหน้า แต่ทว่ามันเกิดขึ้นเพียงเสี้ยวพริบตาเท่านั้น
"เค่อเอ๋อเจ้าไปเถิด ดูแลตัวเองด้วยล่ะ "
ต้วนหลิงเทียนยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะกล่าวกับเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง
นอกจากเขาแล้วเค่อเอ๋อก็ไม่เคยมีเพื่อนสตรีที่อายุไล่เลี่ยกันมาก่อน เป็นธรรมดาที่หลิงเทียนก็อยากให้เค่อเอ๋อได้มีความสุขตามประสาสตรีบ้าง
"ฮึ เจ้าอย่ากังวลนักเลยรับรองยุงสักตัวข้าก็จะไม่ให้กัดนาง"
ลี่ฉีฉีกล่าวออกมาอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่จะจูงมือเค่อเอ๋อไป
ตลอดเส้นทางที่ทั้งคู่เดินผ่าน หากผู้ใดเป็นบุรุษล้วนต้องมองจนเหลียวหลังแทบทั้งสิ้น..
หลังจากที่ทั้งสองคนจากไป หลิงเทียนก็ก้มหน้าก้มตาฝึกฝนต่อ ...
วิชาวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!
และหากใครที่มีสายตาที่แหลมคมสักหน่อยจะเห็นว่า แม้ในขณะที่หลิงเทียนกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงอยู่นั้น บริเวณผิวหนังของเขากลับมีพลังงานเคลือบไว้เป็นชั้นบางๆจนแทบจะมองไม่เห็น
นี่เป็นผลมาจากวิชาป้องกันพลังเคลื่อนย้ายจักรวาล!
ต้วนหลิงเทียนใช้เวลาทุกวินาทีของเขาฝึกฝนทุกอย่าง ...
ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหวร่างกายไปมา เขาก็ไม่ลืมที่จะกระตุ้นพลังงานให้ปกคลุมผิวกายของเขาไปด้วย
"ต้วนหลิงเทียน!"
ทันใดนั้นเอง เสียงตะโกนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นขัดขวางการฝึกฝนของหลิงเทียน
หลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อพบว่าสองร่างที่มาเป็นใคร คนคุ้นเคยนี่เอง...
ลี่เซียวและลี่หยวน
เป็นเวลาครึ่งเดือนแล้วที่พวกมันไม่โผล่หน้ามาให้หลิงเทียนเห็น
ตอนแรกเขาก็คิดว่าพวกมันหวาดกลัวเขา และไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาอะไรให้เขาอีกครั้ง หลังจากที่เขาใช้จิตสังหารจัดการสั่งสอนไปคราวก่อน
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น
"มีอะไรอีก?"
หลิงเทียนมองทั้งสองคนด้วยสายตาเย็นชา
"ต้วนหลิงเทียน หากวันนี้เจ้าไม่อยากคลานกลับบ้าน รีบส่งมอบทุกอย่างที่เจ้ามีออกมาให้พวกเรา แต่โดยดี" ลี่เซียวกล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่
"ต้องการสมบัติข้ารึ? ย่อมได้ ...”
หลิงเทียนยิ้มออกมาอย่างดูแคลน
"หา?"
ลี่เซียวและลี่หยวน ถึงกับแสดงสีหน้าโง่งมออกมา
ต้วนหลิงเทียนมันว่าง่ายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ต้วนหลิงเทียนที่เงียบไป ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมา "หากพวกเจ้ามีปัญญาเอาชนะข้า!"
"เฮอะ สุราคารวะไม่ยอมรับดีๆเช่นนี้ลองสุราจับกรอกดูแล้วกัน"
ลี่เซียวเดินออกมาเผชิญหน้ากับหลิงเทียนอย่างไม่เกรงกลัว
ในขณะนี้เหล่าสาวกที่อยู่ในสนามฝึกซ้อมต่างมารวมตัวชมดูเหตุการณ์
มุมที่เคยไร้ผู้คนสนใจของสนามฝึกซ้อมกลับเต็มไปด้วยผู้คนในเวลาไม่นาน
"นั่นลี่หยวน!"
"ลี่หยวน เองก็เป็น 1 ใน 3 ผู้แข็งแกร่งของสาวกฝ่ายนอก เขาคิดจะต่อสู้กับหลิงเทียนหรือ ขนาดลี่ฉีฉียังยอมรับหมดใจว่าด้อยกว่าหลิงเทียนในเชิงกระบี่? "
"น่าจะเป็นเช่นนั้น ... "
"ถึงแม้หลิงเทียนจะเป็นแค่คนจากตระกูลสาขา แต่ทว่าขนาดลี่ฉีฉีเองยังไม่สามารถสู้มันได้ในเชิงกระบี่ วิชากระบี่ของมันนับว่าอยู่ในขั้นแก่นแท้แล้ว ถึงแม้ระดับการบ่มเพาะของมันจะน้อยกว่าลี่หยวนขั้นนึง ทว่าข้าคิดว่ามันคงสามารถเอาชัยได้อย่างงายดาย "
"เจ้ากล่าวถึงแต่กระบี่ ... แล้วเจ้าไม่สังเกตบ้างหรือไร ว่าตอนนี้หลิงเทียนพกกระบี่มาหรือไม่?"
"หรือว่า เขาคิดจะต่อสู้กับลี่หยวนด้วยมือเปล่า? ถึงแม้หมัดพยัคฆ์คำรนของหลิงเทียนจะมีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญ แต่ทว่า ฝ่ามือขยี้ใจ ที่อยู่ในระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางของลี่หยวนเองก็อยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน"
"ใช่ หากเป็นเช่นนี้หลิงเทียนก็ไม่ได้เปรียบอะไร ซ้ำต้องอย่าลืมว่ามันมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 เท่านั้น ทางลี่หยวน อยู่ในระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 มาเนิ่นนานแล้ว!"
......
การสนทนาของสาวกรอบๆ ต่างกล่าวถึง เรื่องที่หลิงเทียนไร้กระบี่
บางคนอยากจะยื่นกระบี่พวกมันให้หลิงเทียน แต่ทว่าก็กลัวผิดใจกับลี่หยวน
ลี่หยวนนั้นไม่เพียงเป็น สาวกตระกูลหลักเท่านั้น แต่เขายังเป็นลูกหลานของผู้อาวุโสในตระกูลหลักอีกด้วย
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาที่เป็นแค่สาวกฝ่ายนอกแต่ยังได้ฝึกฝนวิชาต่อสู้ ฝ่ามือขยี้ใจ วิชาป้องกัน ระฆังทองคลุมกาย และวิชาท่าร่าง ย่างก้าวล่องลอย ที่เป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางทั้งสิ้น!
เรื่องนี้ทำให้ผู้คนอิจฉาแทบตายแล้ว
"พวกเจ้าเข้ามาทั้งคู่เลยก็ได้ ข้าไม่อยากเสียเวลา" หลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส ก่อนที่จะเหลือบไปมองลี่เซียวและลี่หยวน
“เด็กน้อยอย่าได้โอหัง แค่ข้าคนเดียวเจ้าก็ไม่มีปัญญารับมือแล้ว” ลี่หยวนโกรธอย่างมากเมื่อถูกหลิงเทียนมองด้วยสายตาดูแคลน
ร่างกายของเขาวูบไหวหายไปในพริบตา ...
ย่างก้าวล่องลอย!
ขาของลี่หยวนสลับไปสลับมาอย่างน่าฉงน เพียงเสี้ยวพริบตาตัวมันก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าหลิงเทียน
ฝ่ามือขยี้ใจ!
ฝ่ามือที่แฝงไปด้วยความอำมหิต ถูกลี่หยวนใช้ออกมาจู่โจมไปยังทรวงอกของหลิงเทียนทันที
บนศีรษะของมันยามนี้ปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 1 ตัว
“บ้าน่า ก้าวย่างล่องลอย มีความสำเร็จขั้นตอนเริ่มต้น อีกทั้งฝ่ามือขยี้ใจ ยังมีขั้นตอนความสำเร็จอยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญ!”
เสียงอุทานจากฝูงชนดังกระหึ่มขึ้น
ตาของหลิงเทียนเปล่งประกายขึ้นมา ก่อนที่ร่างกายท่อนบนของเขาจะเอนไปด้านหลัง ส่องหมัดรั้งไปสุดแขน ตอนนี้ร่างกายของเขาโค้งราวกับคันธนูที่ง้างจนสุดสาย
หมัดทะลวง!
หมัดทะลวงของหลิงเทียนถูกส่งไปปะทะกับฝ่ามือขยี้ใจของลี่หยวน
ปัง!!
ฝ่ามือและกำปั้นปะทะกันเสียงดังสนั่น!
ทันใดนั้นเองหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงพลังทำลายที่เหนือกว่าของฝ่ามือขยี้ใจ มันกลืนกินพลังทำลายของหมัดทะลวงเขาจนหมดสิ้น
นอกจากนี้พลังทำลายทั้งหมดกำลังไหลมาจู่โจมแขนของเขา อีกทั้งพลังงานต้นกำเนิดของลี่หยวนกำลังจะระเบิดมันเป็นจุล ...
พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล!
หลิงเทียนตัดสินใจใช้วิชาป้องกันของเขาออกมาอย่างไม่ลังเล พลังทำลายและพลังงานต้นกำเนิดของลี่หยวนที่แฝงมากับฝ่ามือขยี้ใจถูกหลิงเทียนชักนำให้ไหลไปตามร่างกายของมันอย่างไม่มีสูญเปล่า ก่อนที่มันจะหมุนวนในร่างครบหนึ่งรอบแล้วถูกส่งออกไปทางเดิม
นี่เรียกว่าดาบนั้นคืนสนอง
ปัง!!
หลิงเทียนยืนตั้งมั่นราวกับภูผา แต่ลี่หยวนกลับถอยหลังไปสองก้าว...ผลแพ้ชนะเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกผู้คน
"นี่เป็นไปได้อย่างไร!?"
ลี่หยวนมั่นใจอย่างยิ่งฝ่ามือของเขาเมื่อครู่นั้นแข็งแกร่งกว่าหมัดของหลิงเทียนแน่ๆ และพลังทำลายของฝ่ามือขยี้ใจ ก็ถูกถ่ายทอดออกไปทำลายร่างของอีกฝ่ายแล้วแท้ๆ ...
แต่ร่างกายของหลิงเทียนกลับไม่เป็นอะไร มิหนำซ้ำมันยังป้องกันพลังทำลายและพลังงานต้นกำเนิดของเขาได้ ก่อนที่จะชักนำพลังนั้นย้อนมาจู่โจมกลับเขาอีกด้วย!
นี่มันราวกับว่าเขากำลังสู้กับกระจกเงาไม่มีผิด
"วิชาป้องกันผีสางอันใดกัน?"
ลี่หยวนแตกตื่นอย่างมาก เกิดมาเขาไม่เคยเห็นวิชาป้องกันที่มหัศจรรย์ขนาดนี้
"โอ้ ดูเหมือนว่าระฆังทองคลุมกายของเจ้าจะมีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นแล้วสินะ" หลิงเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมา
ฝ่ามือขยี้ใจของลี่หยวนเหนือกว่าหมัดทะลวงของเขา ระดับการบ่มเพาะของคนตรงหน้าก็เหนือกว่าเขา พละกำลังและพลังงานต้นกำเนิดของอีกฝ่าย ที่สามารถแสดงเงาร่างแมมมอธโบราณออกมาได้ ก็ย่อมเหนือกว่าเขา
แต่ทว่าด้วยวิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาล ทำให้ชัยชนะในการปะทะกันครั้งแรกตกเป็นของเขา
ถึงแม้ว่าพลังทำลายของฝ่ามือขยี้ใจที่เขาส่งกลับไป จะถูกป้องกันไว้ด้วยระฆังทองคลุมกายของอีกฝ่ายก็เถอะ
สำหรับภาพรวมของสาวกฝ่ายนอกที่รับชมเหตุการณ์ อาจจะกล่าวได้ว่าทั้งคู่ยังสูสีกันอยู่
แต่พวกมันก็ไม่รู้ว่า บุรุษทั้งคู่ยังมีไพ่ตายอะไรแอบซ่อนไว้อีกหรือไม่ ...
“วิชาป้องกันของลี่หยวนมีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นแล้วด้วย? เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรืออย่างไร!”
ผู้คนต่างส่งเสียงอื้ออึงออกมาด้วยความตกใจ
"ถ้าลี่หยวนเป็นสัตว์ประหลาด แล้วหลิงเทียนเป็นอันใดเล่า? เขาแข็งแกร่งกว่าลี่หยวนเสียอีก พวกเจ้าไม่มีตาหรือไร เห็นไหมว่าผู้ใดเป็นฝ่ายถอย "
เมื่อได้ฟังคำนี้ ทุกคนต่างเงียบกริบ
เป็นความจริงที่ลี่หยวนอาจจะเป็นสัตว์ประหลาดแต่ทว่ามันที่เริ่มจู่โจมก่อน กลับพ่ายแพ้ให้หลิงเทียนในการลงมือครั้งแรก ทั้งๆที่อีกฝ่ายปะทะกับมันตรงๆ
หากไม่โง่งมย่อมรู้ได้ทันทีว่าใครเหนือกว่า
ในแง่ของการโจมตีลี่หยวนด้อยกว่าหลิงเทียน
"พี่ลี่หยวนข้าจะช่วยท่าน!"
ลี่เซียวก็มีความคิดไม่ต่างจากสาวกรอบๆ มันกล่าวออกมาด้วยความร้อนรน
"ไม่จำเป็น"
ลี่หยวนกล่าวห้ามลี่เซียวออกมา
ตัวเขานั้นย่อมรู้ดีที่สุดว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น และเป็นเพราะสาเหตุอะไรที่ทำให้เขาพ่ายแพ้การปะทะตรงๆกับหลิงเทียน... นี่ถ้าหากเขาไม่ได้ฝึกฝนวิชาระฆังทองคลุมกายมาป่านนี้เขาอาจจะต้องพ่ายแพ้อีกฝ่ายอย่างหมดท่าไปแล้ว
"ข้าต้องยอมรับว่าวิชาป้องกันของเจ้านั้น น่าตื่นตาตื่นใจมาก แต่มันก็เท่านั้น ... "
ลี่หยวนกล่าวออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ
ก้าวย่างล่องลอย!
ขาของเขาขยับส่งร่างของเขาเคลื่อนไปยังหลิงเทียนด้วยความรวดเร็วอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้จู่โจมออกไปในทันที เขาเคลื่อนตัวอยู่รอบๆ หลิงเทียนเพื่อหาโอกาส
"ก้าวย่างล่องลอยของลี่หยวนเป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง ถึงแม้เขาจะมีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้น แต่หากเทียบกับวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นต่ำมันก็เทียบเท่าขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญแล้ว... หากหลิงเทียนไม่มีความสำเร็จเหนือกว่านั้น เช่นนั้นเขาต้องแพ้ลี่หยวนแน่! "
มีเสียงวิจารณ์ดังขึ้นจากผู้ชม
และมันตรงกับความในใจของทุกคนที่กำลังดูการประลองอยู่รอบๆ
การต่อสู้ของระดับวิชาที่ตำกว่าขั้นสวรรค์นั้น ความเร็วนับว่าสำคัญที่สุด!
ลี่หยวนสามารถฝึกวิชาทั้งสามด้านให้อยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นเป็นอย่างต่ำ พรสวรรค์นี้ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ
ในหมู่สาวกสายนอกมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่สูสีกับลี่หยวน และพวกมันทั้ง 3 ก็คือผู้แข็งแกร่ง 3 อันดับแรกในสาวกฝ่ายนอก
หลิงเทียนนั้นถึงแม้จะมีวิชาจู่โจมและวิชาป้องกันที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าลี่หยวน...
แต่ทว่าพวกเขากลับไม่เห็นหลิงเทียนใช้วิชาท่าร่าง นี่หมายความว่า หลิงเทียนยังมีจุดอ่อนในเรื่องความเร็วและการเคลื่อนไหว
"เจ้าอยากแข่งขันเรื่องความรวดเร็วกับข้าเช่นนั้นหรือ"
หลิงเทียนหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
ร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหวไปมา ก่อนที่ขาของเขาจะขยับในแง่มุมแปลกๆ
วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!
ด้วยความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นของวิชาทาร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง มันเทียบเท่ากับความสำเร็จขั้นผู้เชี่ยวชาญในระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง..แล้วลี่หยวนที่มีวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางที่มีความสำเร็จแค่ขั้นตอนเริ่มต้นเท่านั้นจะไปเทียบได้ยังไง
ฟึ่บ!
ร่างของหลิงเทียนวูบไหวไปมาก่อนที่จะหายไปจากสายตาของทุกคนมันไปโผล่ด้านหลังลี่หยวนในพริบตาโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวได้ทัน
ลี่หยวนพยายามซัดฝ่ามือตอบโต้ไป แต่ทว่าไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งมันก็สัมผัสได้แต่ความว่างเปล่า แม้แต่ชายเสื้อของหลิงเทียนมันก็ไม่อาจแตะต้องได้สักครั้ง!
เหล่าสาวกรอบๆได้แต่ยืนเหม่ออย่างโง่งม
ต้วนหลิงเทียน นี่มัน ...
ความเร็วขนาดนี้ ...
เขาเป็นเทพเซียนปลอมตัวมาหรือไม่ เหตุใดเด็กหนุ่มอายุเพียง 16 ปีจึงทำได้ขนาดนี้?
"ลี่เซียว มาช่วยข้าเร็ว!"
ตอนนี้สีหน้าของลี่หยวนบิดเบี้ยวอย่างมาก แม้ว่ามันจะไม่เต็มใจและไม่อยากเสียหน้า แต่ตอนนี้มันสิ้นไร้หนทางไม่มีปัญญาจะทำอะไรหลิงเทียน เลยต้องบากหน้าตะโกนขอความช่วยเหลือจากลี่เซียว