หน้าแรก > War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 42 สัตว์ประหลาด

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

หลังจากวันนั้น หลิงเทียนมักจะนำเค่อเอ๋อ ไปฝึกวิชาท่าร่างกับเขาที่สนามฝึกซ้อมเป็นประจำ

ตอนนี้พวกเขาเริ่มคุ้นเคยกับตระกูลลี่แห่งเมืองออโรร่านี่แล้ว หลิงเทียนและเค่อเอ๋อก็เริ่มสนิทสนมกับสาวกทั้งหลายในตระกูลลี่

ในโลกใบนี้ หากเป็นผู้แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีแต่คนต้อนรับ และอยากทำความสนิทสนม

เพียงพริบตาเดียว เวลาก็ได้ล่วงเลยไปครึ่งเดือน

ถึงแม้ว่าหลิงเทียนและเค่อเอ๋อจะยังไม่ได้ตัดผ่านระดับชั้น แต่ทว่า...ความแข็งแกร่งของทั้งคู่ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

อันดับแรกเลยคือความก้าวหน้าในด้านวิชาป้องกัน

ด้วยการช่วยเหลือของโอสถน้ำ โลหิตหลอมกายา ที่สร้างมาจากเลือดหลิงซี่อายุ 50 ปี ตอนนี้วิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลของหลิงเทียน และ วิชา สี่ตำลึงปาดพันชั่งของเค่อเอ๋อ มีความก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก

ส่วนทางด้านวิชาต่อสู้นั้นตอนนี้หลิงเทียนไม่มีความสนใจที่จะฝึกวิชาอะไรเพิ่มเลย และ เค่อเอ๋อเองก็ตั้งหน้าตั้งตาฝึกแต่วิชา วาดกระบี่เท่านั้น

ความสำเร็จของวิชาวาดกระบี่ของหลิงเทียนนั้นอยู่ในขั้นตอนแก่นแท้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะมันเป็นผู้สร้างวิชามันย่อมรู้ตื้นลึกหนาบางดีกว่าใคร และตอนนี้เค่อเอ๋อเองก็อยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญแล้ว อีกไม่นาน นางคงสามารถบรรลุขั้นแก่นแท้ได้

เหตุผลที่เค่อเอ๋อก้าวหน้าได้รวดเร็วขนาดนี้ ล้วนเป็นเพราะความขยันหมั่นเพียรของนาง

นับตั้งแต่ที่นางเริ่มฝึกฝนวิชานี้ ไม่มีวันใดเลยที่นางใช้เวลาฝึกฝนวิชาวาดกระบี่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง

คนที่เพียรพยายามมักได้รับผลตอบแทนเป็นรางวัลล้ำค่าเสมอ

แต่ก็มีเรื่องที่หลิงเทียนคาดไม่ถึงอีกเช่นกัน

นั่นคือในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ลี่ฉีฉี อยู่ๆก็เริ่มเข้าหาพวกมัน พร้อมทั้งมาร่วมฝึกฝนกระบี่ด้วย และเมื่อนางมีข้อสงสัยในเชิงกระบี่นางก็มักจะถามหลิงเทียน โดยที่ไม่สนใจสักนิดว่าหลิงเทียนมีระดับบ่มเพาะด้อยกว่านาง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ เค่อเอ๋อกับลี่ฉีฉี นั้นสนิทสนมกันราวกับพี่น้อง

..บริเวณลานฝึกซ้อม

ร่างของหลิงเทียนวูบไหวไปมา ราวกับไร้กระดูก เขามักจะหยุดร่างครู่หนึ่งก่อนที่จะเคลื่อนไปอยู่อีกจุดหนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ความเร็วของเขานับว่าเหนือกว่าเมื่อเดือนที่แล้วอย่างมาก ...

วิชาท่าราง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย มีความก้าวหน้าอย่างคาดไม่ถึง!

เด็กสาวที่ร่ายรำกระบี่เสร็จสิ้นมายืนมองหลิงเทียนด้วยแววตาน่ารักสดใส ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความภูมิใจ

"น้องหญิงเค่อเอ๋อ"

เสียงเรียกเจื้อยแจ้วดังมาแต่ไกล

สตรีหน้าตางดงามไม่ได้ด้อยกว่าเค่อเอ๋อสักเท่าไรปรากฏกายขึ้น ท่าทางของนางดูองอาจไม่แพ้บุรุษ ในมือถือกระบี่เอาไว้อย่างทะมัดทะแมง แลดูเข้มแข็งราวกับวีรสตรี

"พี่หญิงฉีฉี"

เค่อเอ๋อกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มบางๆ

"น้องหญิงเค่อเอ๋อ ข้าจะไปเดินซื้อสิ่งของที่ตลาด เจ้าต้องไปด้วยกันกับข้านะ"

นางคือลี่ฉีฉีนั่นเอง

เมื่อได้ยินคำกล่าวของลี่ฉีฉี เค่อเอ๋อหันไปมองเงาร่างที่กำลังวูบไหวของหลิงเทียนทันที แต่นางก็ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนอะไรออกมา นางเฝ้ารอให้หลิงเทียนหยุดเคลื่อนไหว..

"ต้วนหลิงเทียน ข้าขอยืมตัวเค่อเอ๋อสักครู่หนึ่ง เจ้าไม่ว่าอันใดใช่หรือไม่? "

ลี่ฉีฉีเองก็ส่งสายตากดดันมายังหลิงเทียน

ฟึ่บ!

ร่างของหลิงเทียนๆค่อยเคลื่อนที่ช้าลงก่อนที่จะหยุดนิ่ง ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ แต่ทว่ายังคงหล่อเหลาไม่น้อย

ในขณะที่เขาหยุดร่างเพื่อจะตอบคำ ทันใดนั้นเขาก็ได้กลิ่นหอมโชยเข้าจมูก ปรากฏว่ามันมาจากสตรีที่กำลังเดินเข้ามา เพื่อซับเหงื่อบนใบหน้าให้แก่เขา

เค่อเอ๋อทำตัวราวกับภรรยาที่น่ารักตัวน้อยๆของเขา

"เฮ่อ ข้าจะต่อต้านพวกท่านสองคนได้อย่างไรเล่า"

ลี่ฉีฉี เบ้ปากออกมาอย่างน่ารัก

แต่ในแววตาของนางปรากฏความอิจฉาออกมาวูบหนึ่งเมื่อเห็นภาพตรงหน้า แต่ทว่ามันเกิดขึ้นเพียงเสี้ยวพริบตาเท่านั้น

"เค่อเอ๋อเจ้าไปเถิด ดูแลตัวเองด้วยล่ะ "

ต้วนหลิงเทียนยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะกล่าวกับเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง

นอกจากเขาแล้วเค่อเอ๋อก็ไม่เคยมีเพื่อนสตรีที่อายุไล่เลี่ยกันมาก่อน เป็นธรรมดาที่หลิงเทียนก็อยากให้เค่อเอ๋อได้มีความสุขตามประสาสตรีบ้าง

"ฮึ เจ้าอย่ากังวลนักเลยรับรองยุงสักตัวข้าก็จะไม่ให้กัดนาง"

ลี่ฉีฉีกล่าวออกมาอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่จะจูงมือเค่อเอ๋อไป

ตลอดเส้นทางที่ทั้งคู่เดินผ่าน หากผู้ใดเป็นบุรุษล้วนต้องมองจนเหลียวหลังแทบทั้งสิ้น..

หลังจากที่ทั้งสองคนจากไป หลิงเทียนก็ก้มหน้าก้มตาฝึกฝนต่อ ...

วิชาวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

และหากใครที่มีสายตาที่แหลมคมสักหน่อยจะเห็นว่า แม้ในขณะที่หลิงเทียนกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงอยู่นั้น บริเวณผิวหนังของเขากลับมีพลังงานเคลือบไว้เป็นชั้นบางๆจนแทบจะมองไม่เห็น

นี่เป็นผลมาจากวิชาป้องกันพลังเคลื่อนย้ายจักรวาล!

ต้วนหลิงเทียนใช้เวลาทุกวินาทีของเขาฝึกฝนทุกอย่าง ...

ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหวร่างกายไปมา เขาก็ไม่ลืมที่จะกระตุ้นพลังงานให้ปกคลุมผิวกายของเขาไปด้วย

"ต้วนหลิงเทียน!"

ทันใดนั้นเอง เสียงตะโกนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นขัดขวางการฝึกฝนของหลิงเทียน

หลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อพบว่าสองร่างที่มาเป็นใคร คนคุ้นเคยนี่เอง...

ลี่เซียวและลี่หยวน

เป็นเวลาครึ่งเดือนแล้วที่พวกมันไม่โผล่หน้ามาให้หลิงเทียนเห็น

ตอนแรกเขาก็คิดว่าพวกมันหวาดกลัวเขา และไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาอะไรให้เขาอีกครั้ง หลังจากที่เขาใช้จิตสังหารจัดการสั่งสอนไปคราวก่อน

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น

"มีอะไรอีก?"

หลิงเทียนมองทั้งสองคนด้วยสายตาเย็นชา

"ต้วนหลิงเทียน หากวันนี้เจ้าไม่อยากคลานกลับบ้าน รีบส่งมอบทุกอย่างที่เจ้ามีออกมาให้พวกเรา แต่โดยดี" ลี่เซียวกล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่

"ต้องการสมบัติข้ารึ? ย่อมได้ ...”

หลิงเทียนยิ้มออกมาอย่างดูแคลน

"หา?"

ลี่เซียวและลี่หยวน ถึงกับแสดงสีหน้าโง่งมออกมา

ต้วนหลิงเทียนมันว่าง่ายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ต้วนหลิงเทียนที่เงียบไป ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมา "หากพวกเจ้ามีปัญญาเอาชนะข้า!"

"เฮอะ สุราคารวะไม่ยอมรับดีๆเช่นนี้ลองสุราจับกรอกดูแล้วกัน"

ลี่เซียวเดินออกมาเผชิญหน้ากับหลิงเทียนอย่างไม่เกรงกลัว

ในขณะนี้เหล่าสาวกที่อยู่ในสนามฝึกซ้อมต่างมารวมตัวชมดูเหตุการณ์

มุมที่เคยไร้ผู้คนสนใจของสนามฝึกซ้อมกลับเต็มไปด้วยผู้คนในเวลาไม่นาน

"นั่นลี่หยวน!"

"ลี่หยวน เองก็เป็น 1 ใน 3 ผู้แข็งแกร่งของสาวกฝ่ายนอก เขาคิดจะต่อสู้กับหลิงเทียนหรือ ขนาดลี่ฉีฉียังยอมรับหมดใจว่าด้อยกว่าหลิงเทียนในเชิงกระบี่? "

"น่าจะเป็นเช่นนั้น ... "

"ถึงแม้หลิงเทียนจะเป็นแค่คนจากตระกูลสาขา แต่ทว่าขนาดลี่ฉีฉีเองยังไม่สามารถสู้มันได้ในเชิงกระบี่ วิชากระบี่ของมันนับว่าอยู่ในขั้นแก่นแท้แล้ว ถึงแม้ระดับการบ่มเพาะของมันจะน้อยกว่าลี่หยวนขั้นนึง ทว่าข้าคิดว่ามันคงสามารถเอาชัยได้อย่างงายดาย "

"เจ้ากล่าวถึงแต่กระบี่ ... แล้วเจ้าไม่สังเกตบ้างหรือไร ว่าตอนนี้หลิงเทียนพกกระบี่มาหรือไม่?"

"หรือว่า เขาคิดจะต่อสู้กับลี่หยวนด้วยมือเปล่า? ถึงแม้หมัดพยัคฆ์คำรนของหลิงเทียนจะมีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญ แต่ทว่า ฝ่ามือขยี้ใจ ที่อยู่ในระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางของลี่หยวนเองก็อยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน"

"ใช่ หากเป็นเช่นนี้หลิงเทียนก็ไม่ได้เปรียบอะไร ซ้ำต้องอย่าลืมว่ามันมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 เท่านั้น ทางลี่หยวน อยู่ในระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 มาเนิ่นนานแล้ว!"

......

การสนทนาของสาวกรอบๆ ต่างกล่าวถึง เรื่องที่หลิงเทียนไร้กระบี่

บางคนอยากจะยื่นกระบี่พวกมันให้หลิงเทียน แต่ทว่าก็กลัวผิดใจกับลี่หยวน

ลี่หยวนนั้นไม่เพียงเป็น สาวกตระกูลหลักเท่านั้น แต่เขายังเป็นลูกหลานของผู้อาวุโสในตระกูลหลักอีกด้วย

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาที่เป็นแค่สาวกฝ่ายนอกแต่ยังได้ฝึกฝนวิชาต่อสู้ ฝ่ามือขยี้ใจ วิชาป้องกัน ระฆังทองคลุมกาย และวิชาท่าร่าง ย่างก้าวล่องลอย ที่เป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางทั้งสิ้น!

เรื่องนี้ทำให้ผู้คนอิจฉาแทบตายแล้ว

"พวกเจ้าเข้ามาทั้งคู่เลยก็ได้ ข้าไม่อยากเสียเวลา" หลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส ก่อนที่จะเหลือบไปมองลี่เซียวและลี่หยวน

“เด็กน้อยอย่าได้โอหัง แค่ข้าคนเดียวเจ้าก็ไม่มีปัญญารับมือแล้ว” ลี่หยวนโกรธอย่างมากเมื่อถูกหลิงเทียนมองด้วยสายตาดูแคลน

ร่างกายของเขาวูบไหวหายไปในพริบตา ...

ย่างก้าวล่องลอย!

ขาของลี่หยวนสลับไปสลับมาอย่างน่าฉงน เพียงเสี้ยวพริบตาตัวมันก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าหลิงเทียน

ฝ่ามือขยี้ใจ!

ฝ่ามือที่แฝงไปด้วยความอำมหิต ถูกลี่หยวนใช้ออกมาจู่โจมไปยังทรวงอกของหลิงเทียนทันที

บนศีรษะของมันยามนี้ปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 1 ตัว

“บ้าน่า ก้าวย่างล่องลอย มีความสำเร็จขั้นตอนเริ่มต้น อีกทั้งฝ่ามือขยี้ใจ ยังมีขั้นตอนความสำเร็จอยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญ!”

เสียงอุทานจากฝูงชนดังกระหึ่มขึ้น

ตาของหลิงเทียนเปล่งประกายขึ้นมา ก่อนที่ร่างกายท่อนบนของเขาจะเอนไปด้านหลัง ส่องหมัดรั้งไปสุดแขน ตอนนี้ร่างกายของเขาโค้งราวกับคันธนูที่ง้างจนสุดสาย

หมัดทะลวง!

หมัดทะลวงของหลิงเทียนถูกส่งไปปะทะกับฝ่ามือขยี้ใจของลี่หยวน

ปัง!!

ฝ่ามือและกำปั้นปะทะกันเสียงดังสนั่น!

ทันใดนั้นเองหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงพลังทำลายที่เหนือกว่าของฝ่ามือขยี้ใจ มันกลืนกินพลังทำลายของหมัดทะลวงเขาจนหมดสิ้น

นอกจากนี้พลังทำลายทั้งหมดกำลังไหลมาจู่โจมแขนของเขา อีกทั้งพลังงานต้นกำเนิดของลี่หยวนกำลังจะระเบิดมันเป็นจุล ...

พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล!

หลิงเทียนตัดสินใจใช้วิชาป้องกันของเขาออกมาอย่างไม่ลังเล พลังทำลายและพลังงานต้นกำเนิดของลี่หยวนที่แฝงมากับฝ่ามือขยี้ใจถูกหลิงเทียนชักนำให้ไหลไปตามร่างกายของมันอย่างไม่มีสูญเปล่า ก่อนที่มันจะหมุนวนในร่างครบหนึ่งรอบแล้วถูกส่งออกไปทางเดิม

นี่เรียกว่าดาบนั้นคืนสนอง

ปัง!!

หลิงเทียนยืนตั้งมั่นราวกับภูผา แต่ลี่หยวนกลับถอยหลังไปสองก้าว...ผลแพ้ชนะเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกผู้คน

"นี่เป็นไปได้อย่างไร!?"

ลี่หยวนมั่นใจอย่างยิ่งฝ่ามือของเขาเมื่อครู่นั้นแข็งแกร่งกว่าหมัดของหลิงเทียนแน่ๆ และพลังทำลายของฝ่ามือขยี้ใจ ก็ถูกถ่ายทอดออกไปทำลายร่างของอีกฝ่ายแล้วแท้ๆ ...

แต่ร่างกายของหลิงเทียนกลับไม่เป็นอะไร มิหนำซ้ำมันยังป้องกันพลังทำลายและพลังงานต้นกำเนิดของเขาได้ ก่อนที่จะชักนำพลังนั้นย้อนมาจู่โจมกลับเขาอีกด้วย!

นี่มันราวกับว่าเขากำลังสู้กับกระจกเงาไม่มีผิด

"วิชาป้องกันผีสางอันใดกัน?"

ลี่หยวนแตกตื่นอย่างมาก เกิดมาเขาไม่เคยเห็นวิชาป้องกันที่มหัศจรรย์ขนาดนี้

"โอ้ ดูเหมือนว่าระฆังทองคลุมกายของเจ้าจะมีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นแล้วสินะ" หลิงเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมา

ฝ่ามือขยี้ใจของลี่หยวนเหนือกว่าหมัดทะลวงของเขา ระดับการบ่มเพาะของคนตรงหน้าก็เหนือกว่าเขา พละกำลังและพลังงานต้นกำเนิดของอีกฝ่าย ที่สามารถแสดงเงาร่างแมมมอธโบราณออกมาได้ ก็ย่อมเหนือกว่าเขา

แต่ทว่าด้วยวิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาล ทำให้ชัยชนะในการปะทะกันครั้งแรกตกเป็นของเขา

ถึงแม้ว่าพลังทำลายของฝ่ามือขยี้ใจที่เขาส่งกลับไป จะถูกป้องกันไว้ด้วยระฆังทองคลุมกายของอีกฝ่ายก็เถอะ

สำหรับภาพรวมของสาวกฝ่ายนอกที่รับชมเหตุการณ์ อาจจะกล่าวได้ว่าทั้งคู่ยังสูสีกันอยู่

แต่พวกมันก็ไม่รู้ว่า บุรุษทั้งคู่ยังมีไพ่ตายอะไรแอบซ่อนไว้อีกหรือไม่ ...

“วิชาป้องกันของลี่หยวนมีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นแล้วด้วย? เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรืออย่างไร!”

ผู้คนต่างส่งเสียงอื้ออึงออกมาด้วยความตกใจ

"ถ้าลี่หยวนเป็นสัตว์ประหลาด แล้วหลิงเทียนเป็นอันใดเล่า? เขาแข็งแกร่งกว่าลี่หยวนเสียอีก พวกเจ้าไม่มีตาหรือไร เห็นไหมว่าผู้ใดเป็นฝ่ายถอย "

เมื่อได้ฟังคำนี้ ทุกคนต่างเงียบกริบ

เป็นความจริงที่ลี่หยวนอาจจะเป็นสัตว์ประหลาดแต่ทว่ามันที่เริ่มจู่โจมก่อน กลับพ่ายแพ้ให้หลิงเทียนในการลงมือครั้งแรก ทั้งๆที่อีกฝ่ายปะทะกับมันตรงๆ

หากไม่โง่งมย่อมรู้ได้ทันทีว่าใครเหนือกว่า

ในแง่ของการโจมตีลี่หยวนด้อยกว่าหลิงเทียน

"พี่ลี่หยวนข้าจะช่วยท่าน!"

ลี่เซียวก็มีความคิดไม่ต่างจากสาวกรอบๆ มันกล่าวออกมาด้วยความร้อนรน

"ไม่จำเป็น"

ลี่หยวนกล่าวห้ามลี่เซียวออกมา

ตัวเขานั้นย่อมรู้ดีที่สุดว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น และเป็นเพราะสาเหตุอะไรที่ทำให้เขาพ่ายแพ้การปะทะตรงๆกับหลิงเทียน... นี่ถ้าหากเขาไม่ได้ฝึกฝนวิชาระฆังทองคลุมกายมาป่านนี้เขาอาจจะต้องพ่ายแพ้อีกฝ่ายอย่างหมดท่าไปแล้ว

"ข้าต้องยอมรับว่าวิชาป้องกันของเจ้านั้น น่าตื่นตาตื่นใจมาก แต่มันก็เท่านั้น ... "

ลี่หยวนกล่าวออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ

ก้าวย่างล่องลอย!

ขาของเขาขยับส่งร่างของเขาเคลื่อนไปยังหลิงเทียนด้วยความรวดเร็วอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้จู่โจมออกไปในทันที เขาเคลื่อนตัวอยู่รอบๆ หลิงเทียนเพื่อหาโอกาส

"ก้าวย่างล่องลอยของลี่หยวนเป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง ถึงแม้เขาจะมีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้น แต่หากเทียบกับวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นต่ำมันก็เทียบเท่าขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญแล้ว... หากหลิงเทียนไม่มีความสำเร็จเหนือกว่านั้น เช่นนั้นเขาต้องแพ้ลี่หยวนแน่! "

มีเสียงวิจารณ์ดังขึ้นจากผู้ชม

และมันตรงกับความในใจของทุกคนที่กำลังดูการประลองอยู่รอบๆ

การต่อสู้ของระดับวิชาที่ตำกว่าขั้นสวรรค์นั้น ความเร็วนับว่าสำคัญที่สุด!

ลี่หยวนสามารถฝึกวิชาทั้งสามด้านให้อยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นเป็นอย่างต่ำ พรสวรรค์นี้ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ

ในหมู่สาวกสายนอกมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่สูสีกับลี่หยวน และพวกมันทั้ง 3 ก็คือผู้แข็งแกร่ง 3 อันดับแรกในสาวกฝ่ายนอก

หลิงเทียนนั้นถึงแม้จะมีวิชาจู่โจมและวิชาป้องกันที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าลี่หยวน...

แต่ทว่าพวกเขากลับไม่เห็นหลิงเทียนใช้วิชาท่าร่าง นี่หมายความว่า หลิงเทียนยังมีจุดอ่อนในเรื่องความเร็วและการเคลื่อนไหว

"เจ้าอยากแข่งขันเรื่องความรวดเร็วกับข้าเช่นนั้นหรือ"

หลิงเทียนหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

ร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหวไปมา ก่อนที่ขาของเขาจะขยับในแง่มุมแปลกๆ

วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

ด้วยความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นของวิชาทาร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง มันเทียบเท่ากับความสำเร็จขั้นผู้เชี่ยวชาญในระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง..แล้วลี่หยวนที่มีวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางที่มีความสำเร็จแค่ขั้นตอนเริ่มต้นเท่านั้นจะไปเทียบได้ยังไง

ฟึ่บ!

ร่างของหลิงเทียนวูบไหวไปมาก่อนที่จะหายไปจากสายตาของทุกคนมันไปโผล่ด้านหลังลี่หยวนในพริบตาโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวได้ทัน

ลี่หยวนพยายามซัดฝ่ามือตอบโต้ไป แต่ทว่าไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งมันก็สัมผัสได้แต่ความว่างเปล่า แม้แต่ชายเสื้อของหลิงเทียนมันก็ไม่อาจแตะต้องได้สักครั้ง!

เหล่าสาวกรอบๆได้แต่ยืนเหม่ออย่างโง่งม

ต้วนหลิงเทียน นี่มัน ...

ความเร็วขนาดนี้ ...

เขาเป็นเทพเซียนปลอมตัวมาหรือไม่ เหตุใดเด็กหนุ่มอายุเพียง 16 ปีจึงทำได้ขนาดนี้?

"ลี่เซียว มาช่วยข้าเร็ว!"

ตอนนี้สีหน้าของลี่หยวนบิดเบี้ยวอย่างมาก แม้ว่ามันจะไม่เต็มใจและไม่อยากเสียหน้า แต่ตอนนี้มันสิ้นไร้หนทางไม่มีปัญญาจะทำอะไรหลิงเทียน เลยต้องบากหน้าตะโกนขอความช่วยเหลือจากลี่เซียว

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.