spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนจะถูกต้วนหลิงซิงสังหาร เสียงทรงอำนาจเสียงหนึ่งกลับดังขึ้น
ฝ่ามือยักษ์ที่สร้างจากพลังงานต้นกำเนิดห่อหุ้มร่างหลิงเทียน ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายมันหลบฝ่ามือของต้วนหลิงซิง ได้อย่างทันท่วงที
ทำให้ฝ่ามือของต้วนหลิงซิงนั้นปะทะกับอากาศธาตุ ทำลายพื้นที่ๆหลิงเทียนเคยอยู่
ฝ่ามือที่ช่วยเหลือหลิงเทียนเมื่อครู่นี้ ถูกใช้ออกด้วย บุคคลที่เดินนำหน้าคนกลุ่มหนึ่งที่พึ่งมาถึงห้องโถงหลัก
ชายคนนั้นกำลังเดือดดาลไปด้วยโทสะอย่างถึงที่สุด ระดับการบ่มเพาะของชายคนนี้คือ..
วิญญาณแรกก่อตั้ง!
ลี่หนันเฟิงที่เดินเข้ามานั้นหน้าตาบิดเบี้ยวอย่างถึงที่สุด
การก่อร่างพลังงานแท้จริงเพื่อหยิบจับหรือสัมผัสวัตถุนั้น ต้องบรรลุถึงขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งเสียก่อน
"ลูกเทียน"
ร่างบอบบางใบหน้างดงามร่างหนึ่งพุ่งไปยังหลิงเทียนด้วยสีหน้าห่วงใยอย่างถึงที่สุด
หลังจากทำการตรวจสอบสภาพอาการบาดเจ็บของบุตรชายด้วยตาเปล่าแล้ว ลี่หลัวก็หันไปจ้องต้วนหลิงซิงด้วยแววตาเอาเรื่อง "ต้วนหลิงซิง เหตุใดเจ้าถึงลงมือด้วยความอำมหิตเช่นนี้ จะอย่างไรหลิงเทียนก็นับได้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า!"
ต้วนหลิงซิงแค่นเสียงหัวเราะก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยโทสะว่า "ป้า 3 ท่านอย่าได้ลืมเลือนเรื่องที่สามีท่านได้กระทำไว้ ในปีนั้นหากไม่ใช่เพราะเขาบิดาข้าคงไม่ต้องทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายจากการถูกทำลายตันเถียน "
"พอได้แล้ว!"
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าวตะโกนออกมาด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวคิ้วขมวดเป็นปมด้วยเสียงแห้งๆ "หลิงซิงหากเจ้ายังประพฤติตัวเช่นนี้อีก ข้าจะส่งเจ้ากลับตระกูลต้วน!"
ต้วนหลิงซิงหัวเราะออกมาก่อนที่จะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "เช่นนั้นข้าจะไม่พูดแล้วกัน ลุงสี่"
ต้วนหลิงเทียนรีบหันไปมองลี่หนันเฟิงก่อนที่จะกล่าวว่า "ท่านประมุข รีบไปดูอาการลี่ซวนเร็วเข้า!"
เมื่อได้ยินคำกล่าวของหลิงเทียนลี่หนันเฟิงก็พึ่งสังเกตเห็นลี่ซวนที่นอนสลบห่างออกไป สีหน้าเขาพลันเปลี่ยนไปเมื่อสำรวจอาการลี่ซวน เขาก็รีบอุ้มลี่ซวนวิ่งไปยังบ้านพักของอาวุโสหลักลี่หัวทันที
"เค่อเอ๋อ เค่อเอ๋อ... "
หลังจากนั้นหลิงเทียนรีบเรียกชื่อของเค่อเอ๋อก่อนที่จะตะเกียกตะกายไปหานางที่กำลังมองมาทางเขา เมื่อหลิงเทียนมาถึงเขาก็กุมมือนางไว้พร้อมกล่าวถามออกมา "เค่อเอ๋อ อาการเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?"
"นายน้อยข้าไม่เป็นไร"
เด็กสาวส่ายหน้าออกมา
ลี่หลัวมองหลิงเทียนที่กำลังกุมมือเค่อเอ๋ออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเรียกหลิงเทียนพร้อมชี้ไปทางชายวัยกลางคนผู้ด้านข้างพร้อมกล่าวแนะนำออกมาว่า "ลูกเทียน นี่คือลุง 4"
"ท่านแม่! ข้าไม่อยากรู้จักกับมัน!"
ต้วนหลิงเทียนมองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยสีหน้ารังเกียจก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างแข็งขัน
"ลูกเทียนอย่าได้ล่วงเกินท่านลุง!" ลี่หลัวขมวดคิ้วก่อนที่จะกล่าวตักเตือนบุตรชายออกมา
"ท่านแม่การทำความเคารพและนอบน้อมผู้หลักผู้ใหญ่นั้นเป็นเรื่องดี ... แต่ทว่ากับคนที่ปฏิบัติตัวอย่างไร้ซึ่งคุณธรรมเช่นนี้มันน่านับถือตรงไหน?"
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมกับจ้องไปยัง ลุง 4 ด้วยสายตาเย็นชา
ตั้งแต่ที่มันปรากฏตัวขึ้นมา หลิงเทียนยังไม่เห็นมันกล่าวตำหนิต้วนหลิงซิงสักครึ่งคำ คนที่ไร้คุณธรรมเอนเอียงเช่นนี้ อย่าหวังว่าเขาหลิงเทียนจะให้ความเคารพ!
"พี่ 4 ข้าขออภัยแทนบุตรชายของข้าด้วย" ลี่หลัวมองไปยังชายวัยกลางคนก่อนที่จะกล่าวออกมา
“น้องสะใภ้ 3 ข้าเข้าใจเหตุผลของหลิงเทียนดี เจ้าไม่จำเป็นต้องตำหนิเขา”
ชายวัยกลางคนถอนหายใจก่อนที่จะกล่าวออกมา "ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความผิดของข้าทั้งหสิ้น หากเพียงข้าไม่คิดนำเขามาพบน้อง 3 ในขณะที่กำลังเดินทางผ่านเมืองวายุโปรยแห่งนี้ เรื่องราวพวกนี้คงไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ข้าควรจากไปเสียมากกว่า "
ชายวัยกลางคนมองมายังหลิงเทียนด้วยแววตาขออภัย ก่อนที่เขาจะหันไปหาต้วนหลิงซิง พร้อมชักชวนมันให้จากไป
ก่อนที่ต้วนหลิงซิงจะจากไป มันมองมายังหลิงเทียนด้วยแววตาเย็นชา มุมปากของมันแสยะยิ้มออกมาราวกับจะเย้ยหยันหลิงเทียน ...
กร๊อบ ... กร๊อบ ... กรอด ... กรอด
หลิงเทียนได้แต่กำหมัดแน่น เสียงกระดูกดังลั่นออกมาจากหมัด มันกังวาลก้องไปพร้อมกันกับเสียงขบกัดฟันที่มาจากความเคียดแค้น ตอนนี้ในใจของหลิงเทียนเต็มไปด้วยความต้องการสังหารหลิงซิงอยู่เต็มอก ...
รวมทั้งสองชาติภพที่เขาได้ใช้ชีวิตมา ไม่มีครั้งไหนเลยที่หลิงเทียนจะพบกับความอัปยศอดสูดังเช่นวันนี้
ความเกลียดชังของเขานั้น เรียกได้ว่า ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกเดียวกันกับหลิงซิงได้อีก!
ในไม่ช้าเขาจะให้มันต้องชดใช้มากเป็น 100 เท่า 1,000 เท่า อย่างสาสม!
ไม่ว่าต้วนหลิงซิงจะมีสถานะอะไร ไม่ว่ามันจะเกี่ยวพันธ์กับเขาทางสายเลือดยังไง หลิงเทียนไม่สนใจอีกต่อไป ...
ทันใดนั้นหลิงเทียนก็เอะใจอะไรได้บางอย่าง ก่อนที่จะหันไปกล่าวกับมารดาอย่างเร่งรีบ "ท่านแม่ ข้าจะไปบ้านพักของผู้อาวุโสหลัก เพื่อดูอาการของลี่ซวน"
"ลูกเทียนแม่เข้าใจความห่วงใยของเจ้า แต่ว่าตอนนี้ ...เจ้าและเค่อเอ๋อควรกลับบ้านไปรักษาตัวก่อน" ลี่หลัวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใยนางเอื้อมมือไปคว้าแขนของหลิงเทียนเอาไว้
"ท่านแม่อาการของข้าย่อมไม่มีใครรู้ดีกว่าข้า เพียงข้าได้รับโอสถทองประสานกาย ที่เป็นโอสถระดับ 9 จากอาวุโสหลัก อาการข้าคงหายดีอย่างแน่นอน ข้าว่าท่านแม่นำเค่อเอ๋อไปพักที่บ้านก่อน ข้าจะนำโอสถจากอาวุโสหลักไปรักษานางเอง หากนางได้รับโอสถทองประสานกาย อาการของนางย่อมดีขึ้นเช่นกัน "
หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆหลิงเทียนก็ละจากลี่หลัว ก่อนที่จะรุดไปบ้านอาวุโสหลัก
"นายน้อยเช่นนั้นข้าจะไปกับท่านเอง" เด็กสาวกล่าวออกมาอย่างดื้อดึง
"เค่อเอ๋อเรื่องนี้เจ้าต้องเชื่อฟังข้านะ เจ้าควรกลับไปพักฟื้นกับท่านแม่ก่อน"
ต้วนหลิงเทียนใช้สายตาอ่อนโยนมองไปที่เด็กสาวที่ยังฉายแววดื้อรั้น
แต่หลังจากฟังคำกล่าวของหลิงเทียน เด็กสาวก็พยักหน้ายอมรับออกมา ก่อนที่จะกลับบ้านพักด้วยกันกับลี่หลัว
เมื่อหลิงเทียนรุดมาถึงบ้านพักของอาวุโสหลัก และได้รับโอสถทองประสานกาย อาการบาดเจ็บของเขาก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่เมื่อเขาสังเกตได้ถึงสีหน้าหม่นหมองของลี่หัวเขาก็ใจเสียขึ้นมาทันที ก่อนที่จะรีบถามออกมาอย่างร้อนรน “อาวุโส อาการของลี่ซวนร้ายแรงมากงั้นรึ?"
"ลูกซวน!"
ในขณะที่ลี่หัวจะกล่าวตอบหลิงเทียน ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วราวกับสายลม เมื่อชายคนนั้นสังเกตเห็นลี่ซวนที่กำลังกระอักเลือดเสียออกมา เขาก็รีบหันไปทางลี่หัวก่อนที่จะกล่าวถามออกมาอย่างร้อนรน "ท่านอาวุโสหลัก อาการของบุตรชายข้า... "
"ยังโชคดีที่เด็กน้อยมีผิวหนังที่หนาและชั้นไขมันที่เยอะมาก มันจึงยังมีลมหายใจได้อยู่ถึงบัดนี้ แต่ทว่ากระดูกหน้าอกของมันนั้นแตกสลายจนไม่มีเหลือชิ้นดี หากเป็นเช่นนี้ข้าเกรงว่า ...คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน "
ลี่หัวถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า
"อะไรกัน?"
สีหน้าของหลิงเทียนและอาวุโส 5 ล้วนกังวลอย่างมาก พร้อมกับหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
"อาวุโสหลักท่านพอมีหนทางช่วยเหลือบุตรข้าหรือไม่?"
ลี่ติงหันไปกล่าวถามลี่หัวด้วยความความหวัง
"หากมีเม็ดยา ฟื้นฟูกระดูก เด็กน้อยนี่นับว่ามีโอกาสรอดชีวิตสูง หากแต่ตำหรับโอสถนี้ได้สูญหายไปเนิ่นนานแล้ว แม่แต่ข้าเองทำได้เพียงพบเจอมันในหนังสือโบราณเท่านั้น"
ลี่หัวส่ายหัวออกมาอย่างจนปัญญา
โอสถฟื้นฟูกระดูก?
เมื่อหลิงเทียนได้ยินชื่อนี้ มันรีบทำการค้นหาข้อมูลในความทรงจำ 2 ชาติภพของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดทันที
และในที่สุดเขาก็พบสูตรการหลอม โอสถฟื้นฟูกระดูก
ต้วนหลิงเทียนหันไปทางลี่หัวก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า “อาวุโสหลัก ข้ามีสูตรของโอสถฟื้นฟูกระดูก”
"ดียิ่งนัก!" ลี่ติงกล่าวออกมาด้วยความดีใจ
"เจ้าอย่าพึ่งดีใจไป โอสถฟื้นฟูกระดูก จัดเป็นโอสถระดับ 8 การจะหลอมสร้างมันนั้นต้องอาศัยนักหลอมโอสถ ระดับ 8 ขึ้นไป แม้จะมีสูตรยาก็ไม่ใช่ว่าจะหลอมสร้างโอสถได้อย่างง่ายดาย ..." ลี่หัวกล่าวออกมาพร้อมกับถอนหายใจ ความแตกต่างของผู้หลอมโอสถ ระดับ 9 กับระดับ 8 นั้นช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
ลี่หัวพลันหันมามองทางหลิงเทียน "เด็กน้อยภายใน 3 วันนี้เจ้าสามารถติดต่ออาจารย์ของเจ้าได้หรือไม่?"
อาจารย์?
หลิงเทียนถึงกับตะลึง
ผู้หลอมโอสถระดับ 7 ที่เขาแต่งเรื่องว่าเป็นอาจารย์ของเขานั้น ไร้ตัวตนบนโลกนี้
เขาได้แต่หัวเราะอย่างขมขื่น "อาวุโสหลัก เรื่องนี้เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้ อาจารย์ของข้าเมื่อสั่งสอนข้าเสร็จสิ้น เขาก็จากเมืองวายุโปรยแห่งนี้ไปเสียแล้ว เขามักเดินทางท่องเที่ยวไปทั่ว โดยไม่ได้ทิ้งร่องรอยอันใดไว้ให้สืบสาว"
"เช่นนั้นข้าคงไม่สามารถทำอะไรได้อีก" ลี่หัวได้แต่ส่ายหน้า กล่าวคำออกมาพร้อมถอนหายใจ
"อาวุโสหลัก บุตรชายข้าสามารถอยู่ในอีกนานหรือไม่?" ลี่ติงกล่าวถามออกมาพร้อมน้ำเสียงสั่นเครือ
"มากสุดเพียง 3 วัน" ลี่หัวกล่าวออกมาพร้อมหลับตา
"เพียง 3 วัน?" ใบหน้าของลี่ติงพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก "เวลาเพียง 3 วันข้าคงไม่สามารถแจ้งข่าวให้ปู่ของเขาได้ทันการณ์ ... อาวุโสหลักท่านพอมีวิธียืดเวลาหรือพยุงชีวิตบุตรชายข้าได้หรือไม่?"
"เฮ่อ ตัวข้าไร้สามารถนัก" ลี่หัวส่ายหัวออกมาอย่างช่วยไม่ได้
"ข้าคิดว่าข้าพอมีหนทาง" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมา ก่อนที่จะหันไปทางลี่ติงแล้วกล่าวต่ออกมาว่า "อาวุโส 5 ข้าพอมีหนทางที่จะยืดชีวิตของลี่ซวนได้อีกราวๆ 1 เดือน เพียงแต่เวลาเท่านี้จะเพียงพอให้ปู่ของลี่ซวนค้นหาผู้หลอมโอสถระดับ 8 ได้หรือไม่?"
ต้วนหลิงเทียนได้รับรู้มาสักพักแล้วว่าปู่ของหลิงเทียนไม่น่าจะเป็นคนธรรมดาสามัญ เขาย่อมมีหนทางเชิญผู้หลอมโอสถระดับ 8 มาได้อย่างแน่นอน
"ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึง 1 เดือน ข้าต้องการเพียงแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น หลิงเทียนชีวิตบุตรชายข้าขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว"
ลี่ติงไม่คิดกล่าวคำอันใดอีกมันรีบพุ่งออกไปทันที ก่อนไปมันกล่าวทิ้งท้ายฝากฝังชีวิตลี่ซวนไว้กับหลิงเทียน
เห็นท่าทางร้อนรนของเขา หลิงเทียนรู้สึกผิดต่อเขาอย่างมาก
"เด็กน้อยเจ้ามีวิธีจริงๆรึ?" ลี่หัวกล่าวถามออกมาอย่างสงสัย
"อาวุโสหลัก ข้ายังมีสูตรโอสถน้ำอีกชนิดหนึ่ง เพียงนำร่างของลี่ซวนไปแช่ในโอสถนี้ มันสามารถพยุงชีพจรของลี่ซวนไว้ได้ราวๆ 1 เดือนโดยไม่มีปัญหาอันใด" หลิงเทียนกล่าวออกมา
"วัตถุดิบมีอันใดบ้าง ข้าจะรีบไปซื้อหามา" ลี่หัวจ้องมองหลิงเทียนด้วยแววตาสว่างวูบ
ต้วนหลิงเทียนรีบเขียนสูตรตำหรับโอสถพร้อมทั้งอธิบายสัดส่วนให้แก่ลี่หัวโดยทันที ตอนนี้เขาไม่คิดที่จะปิดบังอะไรกับเรื่องพวกนี้ นอกจากนี้โอสถนี้ก็เป็นเพียงโอสถระดับต่ำๆที่เขารู้เท่านั้น
ลี่หัวมองสูตรยารวมถึงกระบวนการและผลลัพธ์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึงอย่างมาก "ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก ความสามารถของโอสถนี่วิเศษราวกับปาฏิหาริย์!"
"อาวุโสหลักเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว"
หลังจากกล่าวจบและหมดเรื่องราวของเขาแล้ว หลิงเทียนก็กล่าวขอโอสถทองประสานกายจากลี่หัวก่อนที่จะเร่งรีบเดินทางกลับบ้านของเขา
หลังจากที่นำโอสถทองประสานกายให้เค่อเอ๋อกิน อาการของนางก็ดีขึ้นจนไร้เรื่องราวให้กังวล เมื่อเห็นนางไม่เป็นอะไรมาก หลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเค่อเอ๋อ เขาจะไม่มีวันยกโทษให้ตัวเองไปตลอดชีวิต
ด้วยความช่วยเหลือของพลังงานต้นกำเนิดของลี่หลัว คอยช่วยกระตายโอสถให้ไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเค่อเอ๋อ ทำให้อาการของนางดีขึ้นทันตาเห็น
แต่อาการบาดเจ็บของหลิงเทียนนั้นรุนแรงกว่านางมาก เขาต้องใช้เวลาในการพักฟื้นถึง 2-3 วัน
"ลูกเทียน อาการลี่ซวนเป็นเช่นไรบ้าง?"
เมื่อนางรู้ว่าทั้งเค่อเอ๋อและลี่ซวนต่างได้รับบาดเจ็บเพราะพยายามปกป้องหลิงเทียน นางก็อดห่วงใยพวกมันทั้งสองและสำนึกบุญคุณอันใหญ่หลวงสำหรับการกระทำครั้งนี้ไม่ได้
และหากไม่ใช่เพราะลี่ซวนนางคงไม่ได้เห็นบุตรชายของนางนั่งอยู่ตรงหน้าอย่างมีชีวิตเช่นนี้
"ไม่ต้องห่วงท่านแม่ เขาจะต้องหายดีอย่างแน่นนอ" หลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"แม่เชื่อเจ้า" ลี่หลัวพยักหน้า
"ท่านแม่…"
หลิงเทียนหันไปมองมารดาเล็กน้อย แต่เขากลับลังเลที่จะพูดออกมา
เขาอยากรู้เรื่องบิดาของเขา แต่ทว่าเขากลับไม่กล้าเอ่ยมันออกมา
"ลูกเทียนข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดอะไร วันนี้เจ้ากลับไปพักฟื้นก่อน พรุ่งนี้ข้าจะเล่าทุกอย่างให้เจ้าได้รับรู้"
ลี่หลัวย่อมเข้าใจความคิดของบุตรชายนาง
"ได้ครับ" หลิงเทียนพยักหน้ารับคำมารดาก่อนที่จะกลับไปพักผ่อน
ยามดึกหลิงเทียนที่ยังนอนไม่หลับได้แต่มองดูเพดาน ประกายตาของเขาวาวโรจน์ขึ้นมา "ข้าผยองมากเกินไป ข้าคิดว่าด้วยระดับการเพาะปลูกยามนี้ของข้า ทั่วทั้งเมืองวายุโปรยและคนวัยเดียวกันกับข้า คงไม่มีใครสามารถเทียบเคียงข้าได้ ... "
"ต้วนหลิงซิงนั่นมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น แต่ระดับการบ่มเพาะของมันกลับอยู่ที่ ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 6 ซ้ำมันยังสามารถใช้ออกด้วยความแข็งแกร่งสูงสุดในระดับขั้น กำลังที่มันเรียกใช้ได้มีสูงถึง 8 แมมมอธโบราณ หากยามนั้นข้าไม่ได้ใช้วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย เอนตัวหลบหลีกฝ่ามือแรกของมันได้ทันเวลา ข้าคงตกตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว! "
ตอนนี้หลิงเทียนตระหนักได้ว่าเขายังอ่อนแอแค่ไหนในโลกใบนี้
ถึงแม้เข้าจะสามารถอาศัยโชคและแผนการปลิดปลงชีวิตของผู้บ่มเพาะระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 1 ได้ แต่ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 6 เขาไม่สามารถตอบโต้ได้แม้แต่น้อย
แม้แต่ตอนที่เขาใช้ วิชาวาดกระบี่ จู่โจมหลิงซิง มันทำแค่เพียงใช้มือเปล่ารับได้อย่างไม่ลำบากอะไร
ตอนนี้ความแตกต่างของเขากับมันยังห่างชั้นกันราวฟ้ากับดิน
"ต้วนหลิงซิง ... "
เมื่อไหร่ก็ตามที่หลิงเทียนคิดถึงชื่อนี้ ในใจของเขาจะเต็มไปด้วยโทสะ และความกระหายในการฆ่า!
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา ที่กระหายอยากจะฆ่าใครสักคนมากถึงขนาดนี้
ความกระหายนี้ แม้แต่ที่โลกเก่าในยามที่เขาเป็นสุดยอดนักฆ่าเขาก็ไม่เคยมี
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็นึกถึงลี่ซวน
ตอนแรกนั้นเขาก็ยอมรับเล็กๆว่ามองลี่ซวนเหมือนน้องชายคนหนึ่ง แต่มันก็ไม่ได้มีวคามสำคัญอะไรมากมายในใจเขา
หลังจากที่เขาพลาดเสียท่าในชีวิตก่อนหน้านี้จนต้องตายเพียงเพราะคำว่าพี่น้อง คำๆนี้สำหรับหลิงเทียนมันก็ไม่มีความสำคัญอะไรกับเขาอีกต่อไป
แต่ภาพวินาทีที่ลี่ซวนกระโจนเข้ามารับฝ่ามือของหลิงซิงแทนมันโดยไม่ห่วงใยแม้แต่ชีวิตตัวเอง นั้นตราตรึงในหัวใจของหลิงเทียนอย่างมาก เขาสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยจากมันได้อย่างชัดเจน มันเป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์ และอบอุ่นจนสลายอคติในใจของเขาจนหมดสิ้น...
ตอนนี้เขาเป็นห่วงลี่ซวนราวกับมันเป็นน้องชายในสายเลือดของเขา!