หน้าแรก > ราชันสามภพ
บทที่ 420: ความขัดแย้งภายใน

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

"ไป,ฆ่าเขา!"

 

นักรบทั้งสี่คนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีเสมอมา. ลำแสงสี่ดวงพุ่งเข้าสู่ท้องฟ้าด้วยความสว่างอันวิจิตร,ซึ่งแต่ละคนมีอาวุธเป็นของตัวเอง.

 

การโจมตีแบบง่ายๆเช่นนี้ดูเหมือนจะถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน,ทำให้ปิดผนึกพื้นที่ทั้งหมด. นี่เป็นกลยุทธ์ทั่วไปที่พวกเขาใช้.

 

แม้ว่าจะไม่นับเป็นความลึกลับของการรวมค่ายกล,พวกเขาร่วมมือกันเป็นอย่างดี,และความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงมีมหาศาล.

 

เจี้ยงเฉินพ่นลมทางจมูกเบาๆขณะที่เขากำลังอยู่ในที่สูงกว่า,เขาโบกมือ,ส่งแสงสีทองไปสี่ดวง.

 

แสงสีทองพุ่งผ่านอากาศ,เปลี่ยนเป็นดาวตกสี่ดวง,และหายตัวไปในอากาศ.

 

ทันใดนั้นนักรบทั้งสี่รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาเริ่มเย็น,แสงสีทองประกายอยู่ข้างหน้าดวงตาของพวกเขา. อากาศหนาวเย็นพัดกระหน่ำ,ทำให้รู้สึกหนาวสั่น.

 

ไม่!

 

ในช่วงเวลาที่สำคัญ,เมื่อพวกเขาตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ,แสงสีทองสี่ดวงได้กระพริบผ่านคอของพวกเขาไปแล้ว.

 

แสงสีทองปั่น !

 

เสียงแหลมคมที่คล้ายกับการหักก้านไม้ครึ่งท่อนดังขึ้นมา,มันคมมากจนทำให้พวกเขากลัวจนลนลาน.

 

ในนาทีถัดไป,แรงผลักดันของนักรบทั้งสี่หยุดลงขณะที่พวกเขาหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ.

 

แสงสี่ดวงท่วมเลือดสาดส่องออกมาเกือบจะในเวลาเดียวกับที่ศีรษะทั้งสี่ทะยานสูงขึ้นไป. สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อขณะที่พวกเขามองไปที่พื้นด้านล่าง,เฝ้าดูหัวของตัวเองแยกออกจากร่างอย่างพิลึกพิกล.

 

ความคิดทุกอย่างที่พวกเขามีในขณะนั้นมลายหายไปกลายเป็นความทุกข์ยากที่น่าสยดสยอง.

 

พวกเขารู้ว่านี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เห็นในชีวิต.

 

ปัง,ปัง,ปัง,ปัง !

 

ซากศพทั้งสี่ร่วงลงมาก่อน. มันกระแทกลงในฝุ่นอย่างสิ้นหวังขณะที่เลือดไหลพุ่งอกมาจากคอ.

 

ต่อไป,หัวทั้งสี่ที่พุ่งขึ้นไปยังจุดสูงสุดบนท้องฟ้าก็เริ่มดิ่งลงมาเช่นกัน.

 

ปัง,ปัง,ปัง,ปัง ! มันปะทะกับพื้นในเวลาเดียวกัน.

 

ตายด้วยความไม่พอใจและเสียใจไปตลอดกาล.

 

นักรบสี่คนที่อยู่ในระดับอาณาจักรปราณจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรชางหยางถูกสังหารบนท้องฟ้าเหนือพระราชวังด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว.

 

ทั้งพระราชวังซึ่งมีผู้เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างน้อยหนึ่งแสนคน,พวกเขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น.

 

ในช่วงเวลานั้น,วูฮ่องแทบล้มคุกเข่าลงบนพื้น. นักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรทั้งสี่คนถูกสังหารในเวลาเพียงเสี้ยววินาที !

 

ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมากจนน่ากลัว.

 

สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าคือฝ่ายตรงข้ามคนนี้มาหาวูฮ่อง.

 

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้,เขาจะเป็นเป้าหมายหลักในการปกป้องเพราะเขาเป็นองค์ชายรัชทายาท. แม้กระทั่งนักรบผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่คนจะต้องร่วมกันปกป้องเขา.

 

มันยากที่จะบอกได้ว่าความจงรักภักดียังเหลืออยู่แค่ไหนหลังจากที่นักรบทั้งสี่คนถูกตัดหัวด้วยจังหวะเดียว.

 

ศัตรูของพวกเขาทรงพลังมากเกินไป. เขาแข็งแกร่งมากจนไม่มีใครสามารถสู้กับเขาได้.

 

องค์ราชาวูตั๋นรู้สึกคอแห้ง. เขาคิดว่าอย่างน้อยถึงนักรบทั้งสี่อาจจะไม่สามารถเอาชนะเจี้ยงเฉินได้,บางทีพวกเขาก็อาจถ่วงเวลาได้สักระยะหนึ่ง.

 

แต่สถานการณ์การสู้รบเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว,เร็วมากจนเขาไม่ได้มีเวลาตอบโต้.

 

ศีรษะของทั้งสี่คนถูกแยกออกจากร่างของพวกเขาในชั่วพริบตา.

 

พวกเขาอยู่ในระดับอาณาจักรปราณจิตวิญญาณที่เจ็ด! พวกเขาคือระดับที่สูงที่สุดของผู้ฝึกฝนบ่มเพาะของนิกายตะวันม่วง. ถ้าวูตั๋นไม่ใช่คนมีหน้ามีตา,เขาก็จะไม่สามารถระดมผู้ฝึกฝนบ่มเพาะทั้งสี่คนให้ฝึกจนกลายเป็นนักรบของอาณาจักรได้!

 

แน่นอนว่าวูตั๋นมีพลังมากกว่าพวกเขา,ซึ่งเขาเองก็มีตัวคนเดียว. ถ้าทั้งสี่คนแสดงพลังร่วมกัน, วูตั๋นคิดว่าเขาจะไม่สามารถรับมือกับการโจมตีได้.

 

และตอนนี้พวกเขาถูกสังหารอย่างไม่น่าเชื่อ.

 

ด้วยเหตุนี้จิตวิญญาณการต่อสู้ของวูตั๋นและผู้เชี่ยวชาญของราชวงศ์จึงเกือบจะแตกหักหายไปทันที.

 

ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญของราชวงศ์มีผู้ฝึกฝนบ่มเพาะมากมาย,แต่แม้กระทั่งคนที่มีฝีมือที่สุดก็ไม่แข็งแกร่งเท่านักรบทั้งสี่คน.

 

ตอนนี้นักรับทั้งสี่ถูกสังหาร,แล้วคนที่เหลือจะทำอะไรได้อีก ?

 

องค์ราชา,ขอทรงโปรดกลับไปที่พระราชวัง! "

 

"คุ้มกันองค์ราชา ! ปกป้องราชวงศ์. จงถอยทัพไปยังพระราชวัง,และเสริมกำลังป้องกัน! "

 

ปากของวูตั๋นเต็มไปด้วยความขมขื่น. การกลับไปที่พระราชวังหมายถึงการยอมก้มหัวให้เจี้ยงเฉิน. ในฐานะผู้ปกครองอาณาจักร,การก้มศีรษะของเขาตอนนี้อาจเป็นอันตรายทั้งในด้านกำลังใจและอำนาจ.

 

เมื่อที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเห็นองค์ราชาลังเล,ทุกคนแนะนำว่า "องค์ราชา,คนเลวคนนี้แข็งแกร่งและเราไม่สามารถต้านทานเขาได้. เราต้องหาความช่วยเหลือในพระราชวังและปกป้องชีวิตของเราจนกว่ากำลังเสริมของนิกายจะมาถึง! "

 

"ท่านพ่อ,เราต้องหลบก่อนตอนนี้." วูฮ่องมีสีหน้าบึ้งตึง. เขารู้ว่าเขาทำตัวเองเดือดร้อนในครั้งนี้.

 

แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว,วูฮ่องรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะมัวมานั่งเสียใจ. เขารู้ว่าทั้งหมดนี้ได้รับการอนุมัติจากนิกายตะวันม่วง,เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามที่พวกเขาบอก.

 

ถ้าเขาปฏิเสธที่จะฟังความตั้งใจของผู้บริหารระดับอาวุโส,ตำแหน่งของราชวงศ์วูจะเป็นอันตรายเช่นกัน.

 

ดังนั้นเขารู้ดีว่าเขาต้องทำในสิ่งที่เขาทำ,และไม่มีทางย้อนกลับเมื่อเขาเลือกเส้นทางนั้น.

 

อย่างไรก็ตาม,ฝันร้ายที่สุดของเขาก็เกิดขึ้น,เจี้ยงเฉินสามารถหนีออกมาจากภูเขาอมตะ,และปลดปล่อยความโกรธลงที่อาณาจักรชางหยางโดยปราศจากความเมตตา!

 

"ท่านพ่อ,วันอื่นเราค่อยกลับมาสู้ ! ชายสารเลวคนนี้จองหองมาก,ข้าแน่ใจว่านิกายตะวันม่วงจะทำลายเขา. เราแค่ได้รับคำสั่งจากนิกายตะวันม่วงและเป้าหมายที่แท้จริงของเจี้ยงเฉินคือพวกเขา. ผู้บริหารอาวุโสของนิกายจะไม่นิ่งเฉย. การที่เราต้องเสียหน้าให้โจรชั่วคนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต. อัจฉริยะอย่างหลงยู่ซื่อยังสู้มันไม่ได้เลย "

 

วูฮ่องไม่ได้คิดมากเท่ากับวูตั๋นในตอนนี้.

 

เขาเพียงต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ในขณะนี้และยืดเวลาไว้จนกว่ากำลังเสริมจากนิกายตะวันม่วงจะมาถึง.

 

เจี้ยงเฉินจ้องลงมาด้านล่าง.

 

"วูตั๋น,ข้าให้โอกาสเจ้า,และเจ้าไม่ได้ให้ความสำคัญกับมัน. นับจากนี้ไป,ไม่ว่าราชวงศ์วูจะอยู่ที่ใด,ข้าจะปลิดทุกชีวิตให้สูญสิ้น ! ข้าจะเอาคืนพวกเจ้าสิบเท่าของจำนวนสมาชิกในตระกูลเจี้ยงที่พวกเจ้าฆ่า! "

 

เสียงของเจี้ยงเฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนาร้ายแรง.

 

วูตั๋นหน้าซีด,เขาตะโกนตอบว่า "เจี้ยงเฉิน,ทุกเรื่องราวมีที่มาและทุกบาปต้องมีคนรับผิดชอบ! ถ้าเจ้ามีความสามารถจริงๆ,เจ้าควรไปยังนิกายตะวันม่วง ! เจ้ามัวทำอะไรที่นี่,เจ้ากำลังสร้างความยุ่งยากในอาณาจักรสามัญของเราอย่างนั้นหรือ? สาวกของนิกายไม่ควรแทรกแซงในเรื่องของอาณาจักรสามัญ. นี่เป็นกฎของพันธมิตรทั้งสิบหกอาณาจักร !

 

กฎรึเจี้ยงเฉินหัวเราะเสียงดัง. "ราชวงศ์วูเคยคิดถึงกฎบ้างไหมตอนที่พวกเขาเชือดคนในตระกูลเจี้ยงอย่างเลือดเย็น? เจ้าพูดถึงกฎบ้างหรือไม่ในตอนที่เจ้ายึดหอโอสถด้วยตัวเอง? "

 

อย่าพูดกับข้าเรื่องกฎ! กฎของพันธมิตรสิบหกราชอาณาจักรจะไม่มีค่าให้เหลียวมอง ! ข้ามีเพียงกฎเดียวเท่านั้น,ข้าจะไม่โจมตีจนกว่าข้าจะถูกโจมตี,และถ้าข้าถูกทำร้ายก่อน,ข้าจะเอาคืนเป็นสิบเท่า! "

 

เจี้ยงเฉินชี้ไปที่คูเมืองวงกลม. "ต่อจากนี้ทุกคนจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพระราชวังชางหยางและไม่มีใครสามารถออกมาได้. คนที่กล้าข้ามคูเมืองนี้จะถูกประหารชีวิต! "

 

เมื่อเขาพูดเสร็จ,เขาก็โบกมือหลังจากนั้นฝูงนกหงส์ก็พุ่งลงอย่างฝนดาวตก. เขาได้นำกองทัพนกหงส์ที่แข็งแกร่งหลายล้านตัวมาคราวนี้,และมันก็ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัว.

 

ภายใต้การนำทัพของนกหงส์ทองนับร้อย,กลิ่นอายของกองทัพนกหงส์น่าประทับใจและน่าเกรงขามมากกว่าสงครามกับตระกูลหลงที่หุบเขาบรรจบถึงสิบเท่า.

 

นกหงส์นับล้านตัวเริ่มกรีดร้องอย่างพร้อมเพรียงกัน. พวกมันสร้างกระแสที่กวาดเข้าไปในชั้นเมฆอย่างคึกคัก. ท้องฟ้าตอนบนของอาณาจักรชางหยางเต็มไปด้วยเมฆพายุมืดในทันที,ราวกับว่าท้องฟ้าพร้อมที่จะระเบิดเป็นพายุใหญ่.

 

ฉากแบบนี้ราวกับว่าภัยพิบัติร้ายแรงกำลังจะลงมาสู่อาณาจักรชางหยาง. มันก่อให้เกิดความกดดันต่อทุกคนในราชอาณาจักร,และทุกคนก็กลัวกันอย่างสุดขีด.

 

เมื่อวูตั๋นเห็นเจี้ยงเฉินแสดงพลัง,เหมือนมีแสงเต้นบนใบหน้าที่มืดมนของเขา. ในที่สุดเขาก็ยกมือและกัดฟันพูดว่า. "หนีเข้าไปในพระราชวัง,และเตรียมการป้องกันระดับสูงสุด. เปิดอุโมงค์ใต้ดินและเตรียมพร้อมคุ้มกันการหลบหนีของเด็กๆและเหล่าสาวกของราชวงศ์. เรียกทั้งสามวิหารให้มาช่วยเหลือและประสานงานกับเราจากภายใน "

 

วิหารภายนอกทั้งสามของนิกายตะวันม่วงอยู่ในอาณาจักรชางหยาง. การเดินทางไม่ไกล,และพวกเขาจะมาถึงที่นี่ทันทีที่ถูกเรียก.

 

เจี้ยงเฉินเฝ้าดูวูตั๋นหนีกลับเข้าไปในพระราชวังด้วยรอยยิ้มอันเยือกเย็น,เขาไม่รีบไล่ตามวูตั๋น.

 

เขามีความมั่นใจอย่างมากว่าคนเหล่านี้กำลังดิ้นรนอยู่บนขอบแห่งความตายในสายตาของเขา.

 

เนื่องจากราชวงส์วูอยากจะแข็งกระด้างไปจนสุดปลายทาง,เจี้ยงเฉินจะไม่เหลือความเมตตาสงสารให้พวกเขาอีก.

 

เพราะอย่างไรก็ตามนิกายตะวันม่วงไม่เคยแสดงความเมตตากรุณาใด ๆ เมื่อพวกเขาปราบปรามเขา.

 

ราชวงศ์วูก็เป็นเช่นเดียวกัน,พวกเขามีส่วนร่วมในการสังหารหมู่ตระกูลเจี้ยงและยึดครองหอโอสถ.

 

เนื่องจากพวกเขาเป็นศัตรูและเป็นโจร,พวกเขาจึงควรถูกกำจัดให้หมดไป. ไม่จำเป็นต้องแสดงความปรานีให้กับพวกเขา.

 

ตอนนี้เจี้ยงเฉินกำลังจะปฏิบัติแบบเดียวกับที่พวกเขาเคยทำ.

 

นิกายตะวันม่วงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่และดูถูกคนอื่นว่าไร้ค่าเหมือนเช่นหญ้า. พวกเขามักคิดว่าตัวเองเข้มแข็ง,และเป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะปราบปราม,กดขี่,และแย่งชิงทรัพย์สินจากคนอื่น.

 

สำหรับนิกายตะวันม่วง,ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่างและพวกเขามีสิทธิตามกฎหมาย.

 

คนที่ด้อยกว่าพวกเขาเป็นเพียงมด,และควรจะเหยียบย่ำ,บดขยี้และฆ่า.

 

เพราะฉะนั้นเจี้ยงเฉินจะเอาคืนนิกายตะวันม่วงโดยใช้วิธีเดียวกับที่พวกเขาทำ.

 

หัวใจของเขาสงบนิ่งเหมือนน้ำ,ไม่มีคลื่นใดๆมารบกวน.

 

เขาทนนิกายตะวันม่วงมามากพอ. คราวนี้,เขากำลังจะแกะสลักภาพของเขาให้พวกเขาเห็นเต็มตาซึ่งจะทำให้พวกเขาชาจนกลืนไปกับความมึนงงและขนหัวลุกเมื่อใดก็ตามที่มีคนนึกถึงเขา!

 

การคุ้มกันรอบลานด้านในของพระราชวังแน่นหนามาก. กลไกและการป้องกันทั้งหมดของพระราชวังถูกเปิดใช้งาน.

 

แต่ถึงอย่างนั้น,วูตั๋นและลูกชายก็ยังไม่มีความรู้สึกปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย.

 

ศัตรูของพวกเขาแข็งแกร่งเกินไปจนถึงจุดที่พวกเขาไม่สามารถคาดเดาถึงความสามารถของเขาได้.

 

"ท่านพ่อ,กำลังเสริมของนิกายตะวันม่วงจะมาถึงเมื่อไหร่?" หัวใจของวูฮ่องอยู่ในลำคอ,เขากำลังสัมผัสกับความกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อน.

 

วูตั๋นเครียดมาก,เขาส่ายหัวโดยไม่มีอะไรจะพูด. ตอนนี้เหตุการณ์บานปลายมาถึงขั้นนี้,พวกเขาทำได้เพียงฝากกชะตากรรมของตนไว้กับสวรรค์เท่านั้น. มันยากที่จะบอกได้ว่าพวกเขาจะสามารถป้องกันพระราชวังได้จนถึงเวลาที่กองกำลังจากนิกายมาถึง.

 

คู่พ่อลูกมักจะควบคุมชีวิตและความตายของผู้อื่นอย่างสบายใจในการปกครองประจำวันของอาณาจักรชางหยาง.

 

อย่างไรก็ตาม,พวกเขาได้มาถึงข้อสรุปร้ายแรงที่ชะตากรรมของพวกเขาในขณะนี้ขึ้นอยู่กับความเมตตาของคนอื่น.

 

พวกเขามักจะเป็นคนที่ออกล่า,และคนอื่นๆมักเป็นเพียงอาหาร. แต่ตอนนี้พวกเขากลายเป็นเหมือนสัตว์ที่ถูกล่าแทน.

 

"องค์ราชา,สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีเลยพะยะค่ะ ! มีคนโจมตีคฤหาสน์ขององค์ชายวูซุน ! สมาชิกราชวงศ์วู ... "

 

"เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?" นัยน์ตาของวูตั๋นขยายกว้างขึ้นเมื่อเขารู้สึกตัวชา. องค์ชายวูซุนคือน้องชายของเขา.

 

"ไม่มี ... ไม่มีใครสามารถหนีรอดออกมาได้" ผู้ส่งสาสน์แทบไม่กล้าสบตาวูตั๋น.

 

"องค์ราชา,มีอีกหนึ่งข่าวร้าย ! องค์ชายสามถูกฆ่าตายในคฤหาสน์ของเขา! "

 

"องค์ราชา,องค์ชายสี่ถูกซุ่มโจมตี,และตอนนี้ยังไม่มีใครเจอตัวองค์ชายเลย... "

 

"องค์ราชา ... "

 

ข่าวร้ายถาโถมเข้ามาเหมือนคลื่นยักษ์. อันตรายเกิดขึ้นทั้งพระราชวังเหมือนเช่นน้ำฝนที่ท่วมในบ้านเก่าโทรมในช่วงฝนตก.

 

"องค์ราชา,สมาชิกญาติพี่น้องของราชวงศ์,และเหล่านางสนมจำนวนมากมาขอความคุ้มครอง !"

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องนอนของวูตั๋น,ซึ่งวูฮ่องไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่ในสถานการณ์ปกติ. อย่างไรก็ตาม,วูฮ่องได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่ชั่วคราวเนื่องจากวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้น.

 

เขาไม่เคยคิดว่าเมื่อความตกใจได้เข้าสู่หัวใจของทุกคน,พวกเขาจะแห่กันไปที่ห้องของวูตั๋นกันหมดเพราะพวกเขารู้ว่าการป้องกันห้องของเขานั้นแข็งแกร่งที่สุด.

 

วูตั๋นอยู่ในสภาพยุ่งยากอย่างฉับพลัน. ไม่มีที่ว่างเพียงพอสำหรับทุกคน,และความสับสนวุ่นวายจะเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อมีผู้คนจำนวนมาก.

 

แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับพวกเขา,นั่นหมายความว่าเขาลอยแพญาติเหล่านี้ซึ่งจะส่งสัญญาณที่ไม่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย.

 

"เจี้ยงเฉิน,เจ้ากล้าผลักไสข้าจนเหลือสภาพเช่นนี้!" ไฟแค้นลุกออกมาจากดวงตาของวูตั๋น.

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.