spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 434: สัตว์เลี้ยงของจางเทีย
จางเทีย มอง เซตตอน หายไป หลังจากนั้นเขาก็ได้หันกลับมามองที่ผู้หญิงคนนั้น
เธอยังคงมองมาที่เขาแต่คิดจากคำขู่ก่อนหน้านี้ของ จางเทีย เธอก็เงียบทันที
จางเทีย ยืนยิ่งแต่เขาไม่ได้ปล่อยเธอไป เขายังคงยืนอยู่อย่างนี้กว่า 10 นาทีด้วยรอยยิ้ม
ตอนนั้น จางเทีย ได้ยินเสียงคำรามออกมาพร้อมกับที่ เซตตอน ได้โผล่มาอีกรอบ
“ ปีเตอร์ ไอ้บัดซบ.. “
“ จำไว้ถ้ากล้าหลอกข้าอีก ข้าจะกรีดหน้าเธอ “ - จางเทีย ตะโกนใส่
หลังจากที่หมดคำด่า จางเทีย แล้ว เซตตอน ก็ได้หายไปอีกครั้ง จางเทีย รู้ว่าครั้งนี้ เซตตอน ได้ไปจริงๆ
“ เจ้ารู้ได้ยังไงว่า เซตตอน ยังไม่ไป ? “ – แม้ว่าจะโดนจับ เธอก็อดสงสัยไม่ได้จนถามออกมา
“ เอาจริงๆข้าเองก็ไม่รู้ ข้าก็แค่ลอง ไม่ว่ายังไงข้าก็ไม่เสียหายอะไรอยู่แล้ว ! “ - จางเทีย ยักไหล่
เมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็กัดฟันแน่น
ไม่นาน จางเทีย ก็จับคอเธอด้วยมือหนึ่งข้างและใส่โซ่เข้าที่คอและข้อมือของเธอ
โซ่นี่ถือว่าเป็นเครื่องมือจับกุม แม้ว่าจะดูเหมือนว่าจะทำขึ้นมาง่ายๆแต่ก็มีพลังอย่างมาก ด้วยการที่เป็นโซ่รวมข้ากับอุปกรณ์รูน มันไม่ใช่ของที่ตำรวจธรรมดาจะหาได้แต่สำหรับพวกนักล่าระดับสูง พวกเขามักจะมีของแบบนี้เพื่อที่จะได้เอาเป้าหมายกลับไปเป็นๆได้ เขาถือมันไว้แล้วยิ้มออกมา เพราะของนี่ทำขึ้นมาจากวังไฮหยวน มันจึงล้ำค่า จางเทีย เห็นมันมาในเกาะมังกรลับ มันเกินกว่าที่เขาคาดไว้ที่ได้มันมา
เมื่อโดนโซ่นี้รัดที่คอและข้อมือ ผลของมันเมื่อรวมกับรูนบนตัวก็ได้แสดงผล ด้วยวิธีนี้ก็จะจำกัดการเคลื่อนไหวและกดความแข็งแกร่งลง
ในตอนที่โดนใส่โซ่นี่ เธอได้ดิ้นไปมาแต่ จางเทีย ไม่ได้สน เขาเอามันใส่คอและข้อมือเธออยู่ดี หลังจากนั้นเขาก็เอากุญแจออกมาจากโซ่และ
เริ่มค้นตัวเธอ
“ เจ้าทำอะไรน่ะ .. อ๊าก ! “ - เธอกังวลและกรีดร้องออกมา เมื่อคิดว่า จางเทีย จะคุกคามเธอ
“ แน่นอนว่าข้าจะค้นตัวเจ้า ข้าไม่อยากโดนเจ้าจัดการด้วยอาวุธลับอะไร ดูจากความสามารถของเจ้าแล้ว ข้าต้องค้นตัวเจ้าก่อนจะปล่อยเจ้าสิ ! “
จางเทีย ไม่ได้สนท่าทีของเธอ เขาดึงมีดออกมาจากเอว หลังจากนั้นเขาก็พบกับถุงเก็บของที่มาของมากมายรวมไปถึงกุญแจโซ่อีกอันด้วย แน่นอนว่า จางเทีย ก็เอามันไป
จางเทีย ค้นอย่างระมัดระวัง หลังจากที่จับไปที่เอวของเธอ เขาก็เริ่มตบตูดและต้นขาของเธอ
เธอน่ะเหมือนกับเสือตัวเมีย เมื่อเห็น จางเทีย นั่งยองๆจับต้นขาของเธอ เธอก็ยกเข่าขึ้นเพื่อโจมตีหน้าของ จางเทีย
หลังจากที่ใส่โซ่นี้ไปแล้ว พลังต่อสู้ของเธอลดลงอย่างมาก พลังต่อสู้ของเธอตอนนี้อยู่แค่ระดับ 5 รึ 6 เมื่อเห็นเธอทำแบบนั้น จางเทีย ก็เอาศอกของเขารับมันไว้
ครั้งนี้เธอรู้สึกเจ็บขึ้นมา เธอพึมพำออกมาก่อนจะล้มลงไปที่พื้น
จางเทีย คว้าตัวเธอไว้ หลังจากที่ปะทะกับเธอมาแล้ว เขาก็ยังคงค้นต่อตั้งแต่ต้นขาไปจนถึงหน้าอก แม้ว่า จางเทีย จะไม่ได้ตั้งใจที่จะคุกคามเธอแต่เขาก็ค้นทั่วทุกที่บนร่างกายรวมถึงส่วนลับด้วย
เธอตัวสั่นเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิด โดยเฉพาะตอนที่ จางเทีย จับหน้าอกของเธอ เธอน่ะตัวแข็งทื่อไปทันที
เสื้อผ้าของเธอน่ะก็ดี แม้ว่าจะถูกกระตุ้นนิดหน่อยแต่ จางเทีย ไม่ได้เห็นแก่ตัวแบบั้น หลังจากที่ค้นตัวอย่างรวดเร็ว จางเทีย ก็หยุด เมื่อรู้ว่าเขาค้นตัวเสร็จแล้ว เธอก็ได้สติเล็กน้อย อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้กรีดร้องอีกแต่ก่อนที่ จางเทีย จะถอดหน้ากากเธอ เธอก็กรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง
“ ถ้าเจ้ากล้าถอดหน้ากากข้า ข้าสาบานว่าจะฆ่าเจ้าไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน ! “
เมื่อเห็นความตั้งใจอันแน่วแน่ จางเทีย ก็อึ้งและหยุด หลังจากที่มองไปยังหน้ากากนั้นสองรอบ เขาก็พึมพำออกมา – “ บางทีเธออาจจะน่าเกลียด ดังนั้นเธอจึงกลัวที่จะแสดงใบหน้าที่แท้จริงออกมา อื้ม มันเป็นไปได้ คนสวยน่ะมักจะรอไม่ไหวที่จะได้แสดงหน้าออกมา ถ้าเธอซ่อนใบหน้าไว้ คิดง่ายๆเธอคงไม่มีอาวุธซ่อนในหน้ากาก มันบ่องบอกว่าเธอน่ะมีปัญหาไม่มากก็น้อย “
“ ดี งั้นดูจากการที่เจ้าเป็นผู้หญิง ข้าจะไม่ถอดหน้ากากเจ้า ถือว่าเป็นการดูแลพิเศษแล้วกัน ข้าจะไม่คุกคามเจ้า หลังจากที่การตามล่าข้าถูกยกเลิกไปแล้ว ข้าจะปล่อยเจ้าไป ข้าต้องเตือนเจ้าก่อน ถ้าเจ้ามีลูกเล่นอะไร ข้าจะไม่ดูแลเจ้าอย่างสุภาพอีกต่อไป !”- จางเทีย จริงจังขึ้นมา
...
จางเทีย เก็บหอกสองอันแล้วออกจากหุบเขาไปพร้อมกับเธอ
จางเทีย เร่งเธอให้เดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้กับเขา แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจแต่เธอก็ต้องตาม จางเทีย ไปอยู่ดี
ดูจากสีหน้าเธอแล้ว จางเทีย ไม่ได้ดึงโซ่ที่แหวน ถ้าเขาดึงโซ่ มันจะเหมือนกับดึงตัวคนร้าย เธอรู้ว่า จางเทีย ได้เหลือเกียรติของเธอเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงร่วมมือกับแผนของ จางเทีย ไม่ว่าเธอจะเกลียดเขาแค่ไหนก็ตาม
หลังจากที่ออกจากหุบเขามาได้สักพักด้วยความเร็วปานกลาง จางเทีย ก็เกาหัว – “ เราคงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าข้าวิ่งด้วยความเร็วปกติ ข้าสามารถวิ่งได้อย่างน้อย 400-500 กม.ต่อวัน แต่ถ้าข้าวิ่งด้วยความเร็วสูง ข้าจะไปได้ไกลกว่าเดิมและไปถึงเขตทางใต้ของป่าน้ำแข็งหิมะในไม่กี่วันแต่ด้วยผู้หญิงคนนี้ ความเร็วของข้าได้ลดลงไปมาก “
แม้ว่าจะโดนโซ่นั้นกดความแข็งแกร่งเอาไว้แต่ความสามารถของเธอก็ยังมีระดับหนึ่งและมันแค่ห้ามไม่ให้เธอใช้พลังฉีออกมา เธอไม่ได้เสียความสามารถในการเคลื่อนที่ จางเทีย เริ่มสงสัยว่าเธอจะวิ่งได้เร็วแค่ไหน
“ เจ้าวิ่งได้เร็วแค่ไหน ? “ – จางเทีย ถามออกมา
“ เจ้าอยากเร็วแค่ไหนล่ะ ?”
“ เพราะข้าอยากไปที่ทางใต้ของป่าน้ำแข็งหิมะ ด้วยความเร็วตอนนี้เราคงต้องใช้เวลาเป็นเดือน ดังนั้นข้าอยากเร่งความเร็วขึ้นอีก ! “
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย เธอก็ตาเป็นประกายขึ้นมา – “ เจ้าหมายถึงรอยแตกไฮเดลาเหรอ ? “
“ ใช่ !” - จางเทีย ไม่ได้กลัวกับการบอกเป้าหมายของเขา เขาไม่ได้ห่วงเรื่องกับดักเธอด้วย
เธอค่อยๆพูดอออกมา – “ ถ้าเจ้าปลดโซ่นี่ออก ข้าวิ่งได้เร็วเท่าที่เจ้าวิ่งได้ ! “
“ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึไง ? “ - จางเทีย ฮึดฮัด – “ เจ้าก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะข้าไม่ได้โง่ ข้ารู้ว่ามันลดความสามารถของเจ้าไประดับหนึ่งแต่เจ้าก็ยังเทียบเท่าได้กับนักสู้ระดับ 6 อีกอย่างเจ้าน่ะไม่ได้หมดความต้านทานและแรงเลย ! ดังนั้นข้าอยากจะเล่นเกมกับเจ้า ! “
“ เกมอะไร ? “
จางเทีย ยิ้มออกมา เขามองไปที่ผมสีม่วงของเธอแล้วตอบกลับ – “เกมนี้คือเกมตัดผม ข้าจะนำหน้าเจ้า ถ้าเจ้าห่างจากข้า 30 ม. ข้าจะตัดผมเจ้าจนกว่าเจ้าจะหัวล้าน.. “
จางเทีย อธิบายแล้วเลียปาก ในขณะเดียวกันตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา – “ ข้าชอบผู้หญิงหัวล้านที่สุด ผู้หญิงหัวล้านน่ะดูดี หัวกลมๆเรียบๆเหมือนหน้าอก โดยเฉพาะตอนที่ผมค่อยๆโดนตัดออก มันเหมือนกับน้ำตาที่ร่วงลงมา ได้ยินว่าผู้หญิงน่ะจะตัดผมเพื่อคนที่ชอบ ฮี่ฮี่.. “ - จางเทีย ยิ้มออกมาแปลกๆ –“ ถ้าเจ้าช้า เจ้าก็ต้องชดใช้ข้าแบบนั้น ! “
“ อ่ะ ! “ – เธอกรีดร้องออกมา – “ อยู่ให้ห่างจากข้าเลย ไอ้โรคจิต ! “
“ มันขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า ! “
หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็เริ่มวิ่ง เธอรีบตามเขาไปทันที จางเทีย พอใจกับเกมนี้มากแต่เขาไม่ได้เห็นสายตาที่เป็นประกายของเธอหลังจากที่เขาหันกลับแล้วเริ่มวิ่ง
หลังจากที่ตัดผมเธอไปสองรอบ ในที่สุด จางเทีย ก็รู้ความเร็วสูงสุดของเธอ มันอยู่ประมาณ 30-35 กม./ชม. แม้ว่าจะช้านิดหน่อยแต่ จางเทีย ก็พอใจกับมัน
แน่นอนว่ามันคงเป็นเรื่องตลกที่เธอจะโจมตีรึหนีได้
...
เส้นทางส่วนมากนั้นอยู่ในป่า เพราะพวกเขาไปยังทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ พวกเขาจึงเห็นป่ามากมาย
ตกเย็นพวกเขาวิ่งมาได้กว่า 200 กม. ในที่สุดพวกเขาก็มาเจอบ้านเล็กๆที่ตีนเขา เมื่อเห็นบ้านนั้น จางเทีย ก็ได้วิ่งเข้าไป
ดูเหมือนว่าจะสร้างขึ้นมาโดยพวกคนตัดไม้ไม่ก็คนล่าสัตว์ แม้ว่าจะไม่ดีแต่อย่างน้อยก็มั่นคงและเป็นที่พักพิงได้ มีเตาไฟที่ใจกลางบ้าน รอบๆนั้นก็มีก้อนหินวางไว้
พื้นมีฝุ่นหนาๆ ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีคนมาอยู่นานแล้ว หลังจากที่มองไปรบอๆ จางเทีย ก็ตัดสินใจที่จะใช้ที่นี่พักในคืนนี้
“ เราจะพักที่นี่คืนนี้ ! “ - จางเทีย บอกกับเธอ
แม้ว่าหน้าเธอจะถูกซ่อนไว้แต่หลังจากที่วิ่งกับ จางเทีย มาทั้งวัน หน้าอกของเธอก็เริ่มขยับขึ้นลงบอกได้ว่าเธอเหนื่อยแต่เธอไม่ได้พูดมันออกมา
“ ข้าต้องการไปฉี่ ! “ – หลังจากนั้นสักพักเธอก็ได้พูดมันออกมา
จางเทีย ยิ้มและชี้ไปที่พุ่มไม้ – “ เจ้าไปตรงนั้นก็ได้ ข้าสัญญาว่าจะไม่แอบดู เจ้าน่ะปรบมือรึร้องเพลงก็ได้ อย่างให้เงียบเกิน 10 วินาที แน่นอนเจ้าหนีได้แต่ข้าจะตามจับเจ้าและเจ้าจะรู้ว่าเป็นยังไงกับการหัวล้าน ! “
เธอมองมาที่ จางเทีย แล้วฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา หลังจากนั้นเธอก็เดินไปที่พุ่มไม้ใกลๆ หลังจากที่มองเธอไปยังพุ่มไม้ จางเทีย ก็ได้ยินเสียงเธอปรบมือจริงๆ
หลังจากมองไปรอบๆ จางเทีย ก็ได้ยิ้มออกมา เขาเดินไปด้านหลังบ้าน ในเสี้ยวพริบตาเขาก็ได้เอาเนื้อหนูปิศาจออกมา
ถ้ามันถูกเก็บไว้ที่อื่นนานแบบนี้ มันคงแข็งไปแล้วแต่ถ้ำน้ำแข็งใน Castle of Black Iron ได้รับการปรับโดย เฮลเลอร์ ความชื้นและอุณหภูมิในถ้ำน่ะเหมาะอย่างมาก อีกอย่างแล้วหลังจากที่ได้ค่าออร่าไป เนื้อนี้น่ะก็สดราวกับเพิ่งเอาไปเก็บ
เนื้อนี้ยังสด จางเทีย เอามันไปล้าง หลังจากนั้นเขาก็ใช้ไม้สองอันแทงเข้าไปก่อนจะเอามันเข้ามาในบ้าน จางเทีย เอามันไปย่างข้างในบ้านต่อ
แม้ว่าจะยังไม่ได้ปรุงแต่มันก็ได้ส่งกลิ่นหอมออกมา
“ นี่มื้อเย็นเจ้า ! “ - จางเทีย ส่งให้กับเธอ เธอรับมันโดยไม่ลังเลและทำการย่างต่อตรงข้ามกับ จางเทีย
“ เนื้อหนูปิศาจ ? “ – หลังจากที่ย่างสักพัก เธอก็ได้ดมกลิ่นมันสองรอบและรู้ว่าเป็นเนื้ออะไร
“ ฮี่ฮี่ จมูกดีนิ ! “ - จางเทีย ยิ้มออกมา
เธอมองมาที่ จางเทีย ด้วยท่าทีจริงจัง – “ หนูปิศาจน่ะไม่ค่อยออกมาด้านนอกตัวเดียว พวกมันออกมาตอนกลางคืนเท่านั้น เจ้าได้มันมาได้ยังไง ? “
เมื่อได้ยินคำถามของเธอ จางเทีย ก็ตื่นตัวเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเธอจะฉลาดแบบนี้แต่ จางเทีย ก็ทำท่าไม่สนใจ – “ ข้าเกือบลืมบอกเจ้า ข้าเองก็เป็นผู้ควบคุมสัตว์ด้วย ! “
เมื่อได้ยินคำอธิบายของ จางเทีย เธอก็ฮึดฮัดออกมา ชัดแล้วว่าเธอไม่เชื่อคำพูดของ จางเทีย จางเทีย ไม่ได้อธิบายอะไรอีก เขาแค่ยิ้มรับเท่านั้น
“ โอลอร่า เจ้าพูดถึงนักล่าอย่างเจ้าได้รึเปล่า ? อาชีพนี้ฟังดูน่าสนใจดี ! “
“ มันไม่มีอะไรต้องพูด เราได้เงินจากการไปฆ่าคน ! “ – เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว ดูเหมือนว่าเธอขมวดคิ้วอยู่หลังหน้ากากนั้น – “ ข้าต้องเตือนเจ้าก่อน แม้ว่าข้าจะอยู่ในกำมือเจ้า เพราะเราไม่ได้สนิทกัน อย่าเรียกชื่อข้า ! “
หลังจากที่โดนปฏิเสธ จางเทีย ก็ได้ถูจมูกตัวเอง เขาไม่ได้อายกับเรื่องนี้ เขากับรู้สึกสนใจขึ้นมาแทน – “ ได้ ข้าจะไม่เรียกเจ้า โอลอร่า แต่ข้าจะเรียกเจ้าอย่างอื่นแทน โดยเฉพาะสุภาพบุรุษแบบข้าแล้วไม่ควรเรียกเจ้าด้วยของอย่างอื่น ข้าไม่อยากหยาบคาย เจ้าอยากให้ข้าเรียกเจ้าว่าสุดสวยรึพี่สาวหน้ากากเหล็กล่ะ ?”
หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็มองไปที่เธอ ในขณะเดียวกันหน้าอกของเธอก็ขยับไปมา หลังจากที่มองมาที่ จางเทีย แล้ว เธอก็หันหนีและเงียบไป
“ เจ้าไม่เลือกงั้นข้าจะช่วยเลือกเอง ดูจากที่เจ้าชอบใส่หน้ากากและยังทำตัวโหดร้ายเย็นชากว่าผู้ชาย ข้าจะเรียกเจ้าว่าสาวน้อยหน้ากากเหล็กละกัน !”
เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับ...
“ เจ้าบอกข้าเรื่องป่าน้ำแข็งหิมะหน่อยได้มั้ย ? “
เธอก็ยังคงไม่ตอบอะไร ...
“ บอกข้าเรื่องตอนเด็กของเจ้า ! เจ้าเริ่มใส่หน้ากากตอนไหน ? “
เธอก็ยังคงเงียบ...
“ เจ้าไม่พอใจกับชื่อนี้เหรอ ? ข้าเข้าใจ ข้ากลัวว่าเจ้าจะแก่กว่าข้า มันคงไม่เหมาะที่เรียกเจ้าว่าสาวน้อยแต่มันก็ฟังดูดีนะ .. “
หน้าอกของเธอขยับขึ้นลงเล็กน้อย...
...
หลังจากนั้นไม่กี่นาที..
“ ข้าถามเจ้าได้รึเปล่า ? เจ้าล้างหน้ามั้ยน่ะ ? “
“ หุบปาก ! “ - ในที่สุดเธอก็หมดความอดทน เธอเอาเนื้อแทงใส่อกของ จางเทีย จางเทีย หัวเราะออกมาแล้วหลบ
...
หลังจากมื้อเย็นดวงจันทร์ก็ได้โผล่ขึ้นมาบนฟ้า เมื่อมองไปยังท้องฟ้าที่มืดขึ้นเรื่อยๆ เธอก็ได้พิงตัวเข้ากับกรอบประตูแล้วหรี่ตาลงด้วยท่าทีสงสัย จางเทีย คุกเข่าลงที่พื้นด้านนอกและพึมพำบทสวดของผู้ปกป้องออกมา
แต่ จางเทีย กำลังใช้สูตรป่าเถื่อนในส่วนการอัญเชิญในชั้นแรกของเจดีย์และกดมันเข้ากับดินตรงหน้าเขาตามขั้นตอนของสูตรป่าเถื่อน
ในตอนที่เขากดลงไปในดิน เขารู้สึกว่ามันจมลงไปในดินเหมือนกับโยนหินลงในบ่อแล้วเกิดคลื่นขึ้นมา
หลังจากนั้นสักพักภายใต้การจับตาดูของเธอก็ได้มีดวงตาสีเขียวโผล่ออกมาในพุ่มหญ้า ในตอนที่พวกมันเข้ามาใกล้ โอลอร่า ก็เห็นว่ามันเป็นหมาป่า มันมาตรงหน้าบ้านและมายืนยิ่งมองไปยัง จางเทีย ..
สัตว์อื่นๆเริ่มตามมาอย่างงู,เม่น,หมี,แมวเสือ สัตว์ทุกตัวต่างก็เงียบยืนมอง จางเทีย
เมื่อเห็นว่ามีสัตว์มากมายมารวมตัวกัน เธอก็ค่อยๆแสดงสีหน้าช็อกออกมา..
จางเทีย เองก็ช็อก เขาต้องกลืนน้ำลายลง เขาไม่คิดว่าการอัญเชิญนี้จะมีผลสุดยอดแบบนี้ มันได้เชิญสัตว์ระดับ 0 มาได้มากมาย
มีนกฮูกขาวบินมานแล้วมาเกาะที่หลังคาบ้านด้วย
จางเทีย สงสัยว่าจะมีสัตว์อะไรอีกที่จะมาถ้าเขายังรอต่อ เมื่อเห็นนกฮูก ตาของ จางเทีย ก็เป็นประกายขึ้นมา เขายกแขนขึ้นเล็กน้อยแล้วส่งคำสั่งในใจ เมื่อได้รับคำสั่ง นกฮูกก็ได้บินมาเกาะที่แขน จางเทีย ...
จางเทีย ใช้งานผนึกส่วนขับเคลื่อนทำให้เจดีย์เปล่งแสงออกมา เขาได้กดผนึกลงในนกฮูกตัวนี้ ในเสี้ยววินาที จางเทีย ก็รู้สึกได้ถึงการเชื่อมต่อทางวิญญาณกับนกฮูก
“ นี่คือสัตว์เลี้ยงตัวแรกของข้าเหรอ ? “ - จางเทีย คึกอย่างมากในใจแม้ว่าหน้าตาเขาจะนิ่งตามเดิมก็ตาม แม้ว่าเขาได้ใช้ผนึกสองอันไปแต่ จางเทีย ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดาย เขากับคึกขึ้นมาแทน - “ ช่างเป็นทักษะที่ดีจริงๆ ! “
“ ไป ! ไปที่หน้าอกของดินแดนแม่ ! “ – เมื่อต้องเจอกับเธอ จางเทีย ได้สั่งพวกสัตว์ด้วยภาษาแปลกๆ แน่นอนว่าจริงๆแล้วเขาสั่งในใจต่างหาก เมื่อได้ยินคำสั่งเขา พวกสัตว์ทุกตัวก็วิ่งหนีทันที
ยกเว้นแค่นกฮูกขาวที่ซึ่งเอาหัวถูกกับแขน จางเทีย
“ จับตาดูผู้หญิงคนนี้ให้ข้า ถ้าเธอหนีตอนกลางคืน อย่าลืมเตือนข้า ถ้าคนอื่นมาก็เตือนข้าด้วย ! “ - หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ยกแขนขึ้นปล่อยให้นกฮูกบินขึ้นไปบนฟ้าแต่มันไม่ได้บินหนี มันกลับไปเกาะต้นไม้ที่ห่างไป 20 ม. หลังจากนั้นมันก็ได้มองมาที่ผู้หญิงคนนั้นด้วยตามที่เป็นประกาย
เธออึ้ง เธอมองไปยัง จางเทีย แล้วถามออกมาด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ – “ เจ้าเป็นผู้ควบคุมสัตว์จริงเหรอ ? “
“ ข้าสัญญาเลยว่าข้านี่แหละของจริง บทสวดของโรงเรียนผู้ปกป้องเป็นไงบ้าง ? “ - จางเทีย ยิ้มโชว์ฟันออกมา...
เมื่อมองไปที่นกฮูกนั่น เธอก็เงียบทันที่ เธอตาเป็นประกายเหมือนกับคิดบางอย่าง....