spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
กล้าดีเกินไปแล้ว !
การแสดงออกของคนที่อยู่ภายในอาณาจักรชางหยางมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงนี้.
ผู้บุกรุกพูดว่าเขาต้องการทำลายราชวงศ์. ทัศนคติแบบนี้ทำให้ทุกคนเดือดดาลด้วยความโกรธ.
เกียรติยศของราชวงศ์วูคือเกียรติของอาณาจักรชางหยาง,และยังเป็นตัวแทน,เป็นหน้าเป็นตาให้กับนิกายตะวันม่วง.
และตอนนี้ผู้บุกรุกที่ไม่มีใครรู้จักคนนี้กำลังบอกให้ตระกูลราชวงศ์ส่งตัววูฮ่องให้เขา,ถ้าไม่ยอมทำตาม,เขาจะสังหารล้างตระกูล !
ได้มีการกล่าวว่าประชาชนยอมตายดีกว่าให้ราชาของพวกเขาถูกทำให้อับอาย.
เมื่อมีคนดูถูกราชวงศ์,บรรดาข้าทาสบริพารจ้องมองด้วยความโกรธอย่างรุนแรง,พวกเขารีบคุกเข่าลงบนพื้น.
"องค์ราชา,เราขอไปจัดการเขา !"
"ขอทรงโปรดอนุญาตให้ข้านำกองทหารผู้เชี่ยวชาญร่วมกับข้าเพื่อไปปราบคนชั่วช้า !"
ต้องบอกว่าราชวงศ์วูได้ยึดใจทุกคนในอาณาจักรชางหยาง. พวกเขาประสบความสำเร็จในการล้างสมองประชาชน. แม้แต่นักรบที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ของอาณาจักรกำลังเดือดด้วยความโกรธและยังอยากจะลงไปต่อสู้ด้วยตัวเอง.
องค์ราชาวูตั๋นรู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นสิ่งนี้,และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับสถานการณ์ที่กระตือรือร้น. อย่างน้อยก็พิสูจน์ให้เห็นว่าอำนาจของราชวงศ์ยังคงยิ่งใหญ่,และข้าทาสบริพารเหล่านี้มีความจงรักภักดีอย่างแท้จริง.
เขาสามารถปลุกเร้าอารมณ์ของฝูงชนได้ !
วูตั๋นพูดเบาๆ. "คนที่มาไม่ใช่มิตรและคนที่เป็นมิตรก็ยังไม่ถึง. เขากล้าปิดล้อมพระราชวัง,แสดงว่าเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดา. จะเป็นได้ไหม... "
"องค์ราชา,จะเป็นใครไปได้?" นักรบทั้งสี่คนถาม.
แสงแปลกๆประกายผ่านสายตาวูตั๋นขณะที่เขาหันไปหาวู่ฮ่อง "ฮ่องเอ๋อ,พวกตระกูลเจี้ยงได้สารภาพอะไรบ้างหรือเปล่า?"
วูฮ่องส่ายหัวอย่างไม่พอใจ. "พวกเขาเป็นพวกโง่เง่าที่จงรักภักดี. พวกเขาไม่ยอมสารภาพอะไรเลยไม่ว่าเราจะทรมานพวกเขามากแค่ไหน. ข้าสงสัยว่าพวกเขาไม่รู้ว่าสมบัติของเจี้ยงเฉินอยู่ที่ไหน "
"เจี้ยงเฉิน?" นักรบทั้งสี่คนประหลาดใจอย่างมากเมื่อได้ยินชื่อนี้.
แสงประหลาดใจกระพริบผ่านสายตาวูฮ่อง. "ท่านพ่อ,คนที่มาบุกประตูทางเข้าของเราคือเจี้ยงเฉินเหรอ?"
วูตั๋นส่ายหน้าทันที. “เป็นไปไม่ได้ ! เขาติดอยู่ในภูเขาอมตะ. ถ้าคนข้างนอกไม่เปิดผนึก,เขาจะไม่สามารถออกมาได้ไม่ว่าเขาจะมีศักยภาพมากแค่ไหน "
"หรือว่าจะเป็นลูกศิษย์ของเจี้ยงเฉิน? หรือคนของนิกายพฤกษาสวรรค์? " วูฮ่องเดา?
"ไม่ต้องจินตนาการให้ยุ่งยาก. ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม,ข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาได้มาที่อาณาจักรชางหยางและประพฤติตัวอย่างทารุณก็หมายความว่าพวกเขากำลังรุกรานนิกายตะวันม่วง. พวกเขาต้องตาย. เสียงของวูตั๋นโหดเหี้ยมและเย็นชา.
สายตาของเขากวาดมองนักรบที่มีฝีมือทั้งสี่คน. "นักรบทั้งสี่,ชายคนนี้ทำให้ศักดิ์ศรีของอาณาจักรชางหยางต้องหม่นหมอง. พวกเจ้าทั้งสี่คนเป็นนักรบที่ดีที่สุดของอาณาจักรของเรา. ถึงเวลาแล้วที่พวกเจ้าจะแบกภาระของราชวงศ์และนิกายตะวันม่วง. พวกเจ้ายินดีที่จะออกไปตรวจสอบหรือไม่? "
นักรบทั้งสี่คนมองหน้ากันอย่างรวดเร็วและพยักหน้า.
"พวกเรายินดีพะยะค่ะ!"
ความพยายามร่วมกันของนักรบทั้งสี่ของอาณาจักรทำให้ความเชื่อมั่นของทุกคนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง. นักรบทั้งสี่คนเป็นนักรบที่แข็งแกร่งในระดับอาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภา. แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับปราณจิตวิญญาณระดับที่เจ็ด,แต่ในการต่อสู้พวกเขาแข็งแกร่งมาก,ถึงพวกเขาจะต้องสู้กับคนที่อยู่ในอาณาจักรปราณจิตวิญญาณระดับแปด,พวกเขาก็จะสามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย.
เว้นเสียแต่ว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกายพฤกษาสวรรค์มาถึง,มิฉะนั้นผู้บุกรุกจะไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีหลังจากสร้างปัญหาให้กับอาณาจักรชางหยาง !
นิกายพฤกษาสวรรค์เป็นพวกหัวโบราณที่ชอบเก็บตัวเงียบ,พวกเขาคงไม่กล้าบุกรุกอาณาเขตของนิกายตะวันม่วง.
คนส่วนใหญ่ครุ่นคิดและรู้สึกว่านี่เป็นผู้สนับสนุนของเจี้ยงเฉินที่เหลือ. หากสี่นักรบที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเข้าไปจัดการ,พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวล !
วูตั๋นหัวเราะอย่างเต็มที่. "จะกลัวกันทำไม,หากนักรบสี่คนที่ดีที่สุดของอาณาจักรของเรากำลังจัดการเรื่องนี้อยู่ ? มาเถิด,มาดื่มสุรามงคลเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของนักรบทั้งสี่คนล่วงหน้า!
เทียนเชายกมือ"องค์ราชา,อย่าเพิ่งรีบดื่มเลยพะยะค่ะ" จะไม่สายเกินไปที่จะกลับมาดื่มหลังจากที่เราได้สังหารผู้บุกรุก! "
นักรบทั้งสี่คนพยักหน้าและเลือกกลุ่มทหารประมาณหนึ่งร้อยคน. พวกเขาเป็นนักบ่มเพาะ. ทุกคนวิ่งไปทางด้านนอก.
วูตั๋นโบกมือให้. "เราจะตั้งแถวให้นักรบที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่คนเอง"
คนอื่นๆไม่กล้ารีรอเมื่อองค์ราชากำลังก้าวเข้ามา. ผู้นำของบรรดานักรบผู้เชี่ยวชาญของราชวงศ์ล้อมรอบวูตั๋นและลูกชายของเขาไว้ด้วยความจงรักภักดี
มีคูน้ำลึกอยู่รอบด้านนอกของราชวังซึ่งกว้างลึกประมาณสามสิบเมตร. มันล้อมรอบพระราชวังเหมือนเช่นแม่น้ำ.
นักรบทั้งสี่คนได้แสดงออกอย่างหนักใจขณะที่พวกเขามองไปที่คูน้ำลึก.
คูน้ำนี้ทั้งกว้างและลึก. พวกเขาไม่เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่ามันเกิดขึ้นจากที่ไหน!
แม้แต่ผู้พิทักษ์เทพวิญญาณในระดับจุดสูงสุดของอาณาจักรปราณจิตวิญญาณก็ไม่อาจะพบว่าไม่สามารถแกะสลักคูเมืองได้อย่างง่ายดาย
อาจเป็นได้ว่าผู้บุกรุกเป็นผู้บ่มเพาะระดับอาณาจักรต้นกำเนิด?
ในขณะนั้นนักรบทั้งสี่คนเริ่มเสียใจกับการกระทำที่ไม่รอบคอบของตนเอง เกิดอะไรขึ้นถ้าคู่ต่อสู้เป็นผู้บ่มเพาะระดับอาณาจักรต้นกำเนิด? ทั้งสี่คนยังไม่พอที่จะตอบโต้คู่ต่อสู้!
อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่มีคนจำนวนมากกำลังจ้องมองพวกเขา,พวกเขาจึงตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน.
เทียนเชาขมวดคิ้วขึ้นและมองขึ้นไปบนฟ้า "เจ้าเป็นใคร? เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่เป็นเขตห้ามของพระราชวัง? "
"คนที่ไม่เกี่ยวข้องที่ไม่ต้องการตายไสหัวกลับไปได้เลย!"
คำสั่งที่เข้มงวดลงมาจากฟากฟ้าในขณะที่แสงสีทองส่องประกาย,จางลงตกอยู่ในความงดงาม แสงไฟประกายลงมาตรงหน้าเทียนเชา,เพียงไม่กี่ก้าวห่างจากเท้าของเขา.
เป็นแสงที่น่าเกรงขามมาก ! เทียนเชาแทบมองไม่เห็นว่าแสงมาจากไหน.
เขารู้สึกเพียงว่าแสงได้มาถึงใต้เท้าของเขาแล้วทันทีที่มันกระพริบ. ถ้าอีกฝ่ายอยากจะฆ่าเขา,เขาก็คงจะเป็นซากศพไปนานแล้ว.
เขาหน้าซีดด้วยความตกใจ,และถอยหลังกลับไปด้วยความระมัดระวัง.เหงื่อเย็นหยดลงหลังของเขา,ในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีหลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ.
"ข้าจะพูดอีกครั้ง,ข้ามาเอาตัววูฮ่อง. คนที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่อยากตาย, ไสหัวไปซะ ! "
เสียงของเจี้ยงเฉินลงมาจากฟากฟ้าราวกับว่าเขาเป็นเทพที่ปกครองทุกสิ่งมีชีวิต,เต็มไปด้วยความสง่างาม.
นับตั้งแต่ที่เขาได้ฝึกสายตาสาปอำมหิต,ทุกคำพูดและทุกการกระทำของเขาดูสง่าผาเผยมากขึ้น.
เมื่อเขาพูดคำเหล่านี้,ความกดดันจึงครอบงำนักรบทั้งสี่โดยธรรมชาติ,พวกเขารู้สึกราวกับว่ามีใบมีดโผล่ขึ้นเหนือมือของพวกเขา,ทำให้พวกเขาตัวสั่นทั้งๆที่อากาศไม่ได้หนาว.
"ฟังข้าให้ดี,ราชวงศ์วู. สิบห้านาที,ข้าจะให้เวลาสิบห้านาที. ถ้าข้าไม่เห็นวูฮ่องภายในสิบห้านาที,ราชวงศ์วูจะหมดเกลี้ยงไปจากโลกใบนี้ "
ท่าทางนี้ทำให้วูฮ่องตัวสั่น. เขาเป็นคนที่ไม่กลัวอะไรและทำสิ่งต่างๆอย่างเลวร้าย. เขาทำทุกวิธีการเพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ.
เขาเป็นคนที่สั่งให้ทำลายล้างตระกูลเจี้ยง.
เขายังเป็นคนที่คิดแผนบุกยึดหอโอสถ.
อย่างไรก็ตาม,ไม่ว่าเขาจะเป็นคนที่ใจโหดรุนแรงแค่ไหน,หนังศีรษะของเขายังรู้สึกชาเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับฉากเช่นนี้. เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย.
"นักรบทั้งสี่คน,นิกายตะวันม่วงปลูกฝังพวกเจ้า,ราชวงศ์เป็นผู้สนับสนุน,และตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะต้องชดใช้ให้กับนิกายตะวันม่วงและราชวงศ์"
วูตั๋นรู้สึกโกรธเคืองเมื่อเห็นว่าทั้งสี่นักรบมีความตั้งใจที่จะถอยกลับ. เขาส่งคำเตือนไปให้พวกเขาเงียบๆ.
วูตั๋นเป็นอาวุโสกิติมศักดิ์ของนิกายตะวันม่วง. ระดับการบ่มเพาะของเขาสูงกว่านักรบทั้งสี่. ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกหวาดหวั่น,แต่เขาก็ไม่กระวนกระวาย.
เขารู้ดีว่าคู่ต่อสู้ค่อนข้างแข็งแกร่ง.
แต่ถ้าพวกเขามีจิตใจที่มั่นคงและทนการโจมตีไม่กี่ชั่วโมง,ทั้งหมดจะเบาลงเมื่อมีกำลังเสริมมาจากนิกายตะวันม่วง.
นักรบทั้งสี่คนตกใจหลังจากได้ยินคำเตือนของวูตั๋น. ความหมายขององค์ราชาค่อนข้างชัดเจน. ถ้าพวกเขาถอยกลับไม่ยอมรบในตอนนี้,พวกเขาก็จะต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินของนิกายในภายภาคหน้า.
ถ้าพวกเขาพ่ายแพ้,เท่ากับว่าพวกเขาทำให้นิกายตะวันม่วงต้องขายหน้า. แม้ว่าองค์ราชาจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้ก็ตาม,กฎที่เข้มงวดของพวกนิกายก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ. การลงโทษอาจเกี่ยวข้องกับครอบครัวของพวกเขาด้วย !
พวกเขากำลังขี่หลังเสือ,จะลงตอนนี้มันก็ยากเกินไป.
สำหรับผู้ฝึกฝนบ่มเพาะอาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภา,ผู้ที่สามารถก้าวไปสู่ระดับนี้คือบุคคลที่ไร้ความปรานี. เมื่อพวกเขาคิดถึงผลกำไรและสิ่งที่ต้องสูญเสีย,พวกเขารู้ว่าจะไม่มีใครให้อภัยหากพวกเขาถอยหนี.
พวกเขามองหน้ากัน,ดิ่งตรงไปที่คูเมืองด้วยความพร้อมเพรียง.
"เจ้าบ้า,เจ้าคนอวดดี,เจ้ากล้ามารุกรานอาณาเขตของนิกายตะวันม่วง,ข้าท้าให้เจ้าออกมาต่อสู้ซึ้งๆหน้า !"
"เจ้ามีความสามารถแบบไหนกันถึงซ่อนตัวเองแบบนี้? ออกมาต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญของนิกายตะวันม่วงถ้าเจ้ากล้าพอ ! "
"อันที่จริงเราควรสู้รบอย่างเป็นธรรมและเป็นสาธารณะถ้าเจ้ากล้า. เจ้าเป็นคนแบบไหนถึงเล่นลูกไม้แบบนี้? "
นักรบทั้งสี่กำลังถอยหลังและถอยออกไปพร้อม ๆ กัน,เห็นได้ชัดว่าพวกเขาวางแผนโจมตีเป็นทีม. พวกเขาตระหนักดีว่าไม่มีใครที่จะสามารถจัดการกับผู้บุกรุกคนนี้ได้หากต่อสู้ตัวต่อตัว.
เสียงนกหวีดร้องขึ้นในอากาศขณะที่นกหงส์ทองของเจี้ยงเฉินพุ่งลงมา.
เมื่อเขาลงมาประมาณ 10 ฟุต,เขาก็จ้องมองที่นักรบทั้งสี่คนที่อยู่ข้างใต้. เขาหัวเราะอย่างเย็นชา "นิกายตะวันม่วงมีความหมายอะไรอย่างนั้นหรือ?"
"เจ้าคนบ้า,เจ้าเป็นใตร?"
เจี้ยงเฉินหัวเราะอย่างฉุนเฉียวสายตาของเขาดูโหดเหี้ยม. เขามองไปในทิศทางของวูตั๋น. "ข้าเป็นใคร? พวกเจ้าทำหลายสิ่งหลายอย่างในอาณาจักรตะวันออก,มันเกี่ยวกับข้าไม่ใช่หรือ? "
"ข้ามาตามคำเรียกร้อง"
หน้าอกของวูตั๋นและวูฮ่องกระตุกเมื่อได้ยินเช่นนั้น,การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนแปลงอย่างมาก.
เจี้ยงเฉิน !
ใช่เจี้ยงเฉินจริงๆด้วย !
ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงที่นี่,พวกเขาสงสัยว่าเจี้ยงเฉินติดอยู่ในภูเขาอมตะ,เขาไม่น่าจะออกมาได้.
บรรพบุรุษนักล่าตะวันเป็นคนบอกเองว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะออกมาโดยไม่มีการประสานงานของทั้งสี่บรรพบุรุษ.
อย่างไรก็ตาม,เจี้ยงเฉินหลุดออกมาจากภูเขาอมตะแล้ว,ตอนนี้เขาบุกมาถึงบันไดหน้าประตูของอาณาจักรชางหยางด้วยแรงอาฆาตพยาบาท !
ตัดสินจากท่าทางของเขา,เขามาที่นี่โดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด.
ความเสียใจกระพริบผ่านหัวใจวูตั๋นในขณะนั้น. มันกระพริบเพียงผ่านหัวใจของเขาเท่านั้น,เขาไม่ได้แสดงมันออกมาบนใบหน้า. เขาพูดเบาๆว่า "ถ้าเราจะจัดการเขา,เราควรทำให้ดีที่สุด. เจี้ยงเฉินและนิกายอาทิตย์สีม่วงได้สร้างความเสียใจจากความตายเป็นเวลานาน เราต้องยื้อเขาไว้ที่นี่จนกว่ากองกำลังของนิกายตะวันม่วงจะมาถึง. พวกเขาจะปราบปรามชายคนนี้และขจัดความกังวลของเรา ! "
วูตั๋นรู้ดีว่าทั้งนิกายตะวันม่วงเกลียดชังเจี้ยงเฉินมาก. โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรพบุรุษนักล่าตะวัน,เขารอคอยโอกาสที่จะกินเนื้อของเจี้ยงเฉิน.
วูฮ่องเริ่มเรียกเสียงดังในขณะนี้ว่า "นักรบทั้งสี่,เจี้ยงเฉินคนนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของนิกายตะวันม่วง. ถ้าเราสามารถฆ่าเขาได้ในวันนี้,บรรพบุรุษจะต้องให้รางวัลแก่เราอย่างดีที่สุด! "
เขาค่อนข้างคิดถึงแต่ตัวเองและเชี่ยวชาญในการจูงใจคนอื่น.
อันที่จริงนักรบทั้งสี่ก็มีความคิดนี้,พวกเขานึกถึงความแค้นต่างๆระหว่างเจี้ยงเฉินกับนิกายตะวันม่วง. นี่ถือเป็นโอกาสทอง !
ถ้าพวกเขาสามารถฆ่าเจี้ยงเฉินและปล่อยให้บรรพบุรุษได้รู้,บรรพบุรุษนักล่าตะวันต้องพอใจมาก. เขาอาจจะส่งเสริมทั้งสี่คน,วันแห่งโชคลาภและมงคลมาถึงแล้ว !
เจี้ยงเฉินแข็งแรงมากพอที่สังหารหลงยู่ซื่อได้,เพราะนางมีเพียงคนเดียว,พวกเขามีกันถึงสี่คนและยังทำงานร่วมกัน.
ฝีมือการสู้รบทั้งการโจมตีแลการป้องกันตัวเป็นสิ่งที่หลงยู่ซื่อไม่สามารถเทียบได้!
หลงยู่ซื่อจัดการเจี้ยงเฉินไม่สำเร็จ,แต่พวกเขาอาจจะทำสำเร็จ!