spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
“ห๊า? เกิดอะไรขึ้น ? ข้าไม่สามารถขยับมือได้! "
"ข้าก็ขยับไม่ได้ ... นี่ ... ชายคนนี้รู้วิชาปีศาจหรือ?"
"นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ,นี่เป็นพลังของผู้ฝึกฝนอาณาจักรปราณจิตวิญญาณ! ทุกคนช่วยกันฆ่าเขา ! "
"ฆ่าเขา ! เขามีสมุนเพียงไม่กี่คน,เรามีกันหลายร้อยคน,ทำไมเราต้องกลัวเขา! "
ผู้ฝึกฝนหลายร้อยคนจัดแถวหน้าประตูหอโอสถอย่างพร้อมเพรียงกัน,พวกเขากำลังเยาะเย้ยอย่างหยิ่งผยอง.
สายตาของเจี้ยงเฉินเย็นเยือก,เขาจ้องมองอย่างฉับพลันด้วยสายตาสาปอมหิต,ส่งลำแสงประกายจัดการพวกเขา.
พัพ !
ลำแสงยิงเข้าไปในสายตาของผู้ฝึกฝนอันธพาล. พวกเขาตกตะลึงเมื่อสายตาของพวกเขาสัมผัสกับแสง,ร่างกายของพวกเขาสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดอย่างรวดเร็ว.
มันเหมือนกับดวงวิญญาณของพวกเขาถูกแช่แข็ง. การขยับตัวมากขึ้นทำให้ร่างกายของพวกเขาแข็งขึ้น. ไม่นานหลังจากนั้น,พวกเขากลายเป็นรูปปั้น,ราวกับว่ามีใครบางคนได้เททองสัมฤทธิ์หรือเหล็กให้กับรูปปั้นเสมือนจริง.
เจี้ยงเฉินโบกมือให้. "เราไปกันเถอะ"
โกวยู่วและฮ่วงเอ๋อมองหน้ากันด้วยสายตาที่ตกตะลึง. ผู้ชายคนนี้กำลังโกรธมาก !
วิชาแบบนี้ทำให้ฮ่วงเอ๋อประหลาดใจ. ในช่วงเวลานั้น,นางรู้สึกเหมือนกับว่านางมองไม่ออกว่าเจี้ยงเฉินกำลังจะทำอะไร.
โกวยู่วตกใจมากกว่า.
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเจี้ยงเฉินและรีบเดินตามหลังเขาไปโดยไม่ลังเล.
"ใครเป็นคนดูแลหอโอสถตอนนี้? ออกมา ! "
เสียงของเจี้ยงเฉินกระหึ่มออกมาเหมือนฟ้าร้อง,โยกทั้งด้านในและด้านนอกของหอโอสถ. การปรากฏตัวของเขาน่าเกรงขาม,เสียงของเขาสะท้อนออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด.
"ใครกล้าล่วงละเมิดและส่งเสียงดังในหอโอสถ?"
"ฆ่าเขา !"
"อ๊า!"
เสียงสองเสียงตอบสนองอย่างรวดเร็วก่อนพวกเขาจะส่งเสียงร้องอันน่าสยดสยอง. พวกเขาล้มลงกับพื้น,เห็นได้ชัดว่าเจี้ยงเฉินได้โจมตีพวกเขาทันที่ที่พวกเขารับคำสั่ง.
เจี้ยงเฉินยกมือขึ้นเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงไร้ความเมตตา "ข้าจะนับหนึ่งถึงห้า. หลังจากห้า,ถ้าคนที่ควบคุมหอโอสถไม่ออกมาให้ข้าเห็นหน้า,ข้าจะกำจัดพวกเจ้าทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น! "
"ห้า !" เจี้ยงเฉินเริ่มนับถอยหลัง.
“สี่ ”
"สาม !" เสียงของเจี้ยงเฉินถอยลงอย่างช้าๆ. รัศมีอันยิ่งใหญ่ของเขายังคงแผ่ขยายไปทั่วทุกมุมของหอโอสถ.
"สอง !"
เมื่อเขานับถอยหลังถึงสอง,คนที่อยู่ภายในหอโอสถเดินออกมาจากเงามืดเพราะไม่สามารถรับแรงกดดันจากพลังของเขาได้อีกต่อไป. พวกเขาเดินออกไปที่ห้องโถงหลัก.
พวกเขาตระหนักดีว่าถ้าพวกเขายังดื้อด้านอยู่ข้างใน,ชายที่แข็งแกร่งคนนี้จะทำลายทุกชีวิตในหอโอสถ.
พวกเขาเป็นผู้ฝึกฝนบ่มเพาะ. พวกเขาสามารถรับรู้ถึงความโกรธที่อยู่เบื้องหลังพลัง. นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้.
"หนึ่ง !"
เจี้ยงเฉินชี้นิ้วให้กับทุกคนที่ก้าวออกมา. เขาจ้องมองผู้ฝึกฝนบ่มเพาะเหล่านั้นอย่างเย็นยะเยือก.
"เจ้า. ก้าวออกมา." เจี้ยงเฉินชี้ไปที่คนในเสื้อคลุมสีเงิน. เขาดูเหมือนเป็นผู้นำระดับกลาง.
เขายืนก้มตัวด้วยความกลัวขณะที่ขาของเขาสั่น. เขาไม่กล้าออกมาเผชิญหน้ากับเจี้ยงเฉิน,เขาเริ่มพูดเสียงสั่นกึกๆ.
“สวัสดี.” ชายชุดคลุมสีเงินพูดจาตะกุกตะกักเมื่อเผชิญกับรัศมีอันน่าเกรงขามของเจี้ยงเฉิน.
"เจ้าคือคนดูแลหอโอสถรึ?" เสียงของเจี้ยงเฉินแข็งทื่อ.
"ไม่ ... " ชายชุดคลุมเสื้อสีเงินกลัวมากจนหมอบตัวเองลง. "คือว่า ... ผู้นำลี้คือคนควบคุม."
"เขาอยู่ที่ไหน?" เจี้ยงเฉินยังคงกดดันต่อไป.
ชายชุดคลุมสีเงินยังคงกัดฟันดังกึกๆขณะที่เหงื่อเย็นไหลท่วมตัว. เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองภายใต้แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวของเจี้ยงเฉิน. มันเหมือนกับว่ามีพลังมหาศาลในสายตาของชายหนุ่มคนนี้ที่บังคับให้เขายอมจำนน.
"เขา ... เขาไม่ได้อยู่ในห้องโถง. เขาอาจจะยังไม่ออกมา "
เจี้ยงเฉินพยักหน้าเบา ๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีความหมาย. เขาใช้สติของตัวเองและเริ่มค้นหา.
เมื่อถึงระดับที่เฉพาะเจาะจงของทักษะญาณทิพย์,ทำให้การค้นหาคนในหอโอสถเป็นเร่องง่ายมากไม่มีใครสามารถหลบหนีการเข้าถึงของจิตสัมผัสของเขาได้. เขาค้นเจออีกสามคนที่ยังไม่ปรากฏตัว,พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของหอโอสถ.
ฮ่วงเอ๋อที่ยืนอยู่ข้างเจี้ยงเฉินยิ้มอย่างฉับพลัน. เห็นได้ชัดว่าจิตสัมผัสของนางก็ตรวจเจอในขณะนั้นว่ามีบางคนที่ยังไม่ยอมออกมา.
"ท่านเจี้ยง,ข้าเคยอยู่ที่หอโอสถ. ให้ข้าช่วยเถอะ "
ฮ่วงเอ๋อกางมือออกหลังจากพูดจบ. พิณกู่เจิงปรากฏขึ้นต่อหน้านาง.
นิ้วเรียวยาวสีขาวหยกของฮ่วงเอ๋อบบรรเลงเสียงเพลงบนเครื่องดนตรี.
บทเพลงเต็มไปด้วยความตั้งใจในการฆ่าคนในตอนเริ่มต้น,แต่ได้เปลี่ยนเป็นการควบคุมอย่างรวดเร็วเหมือนทะเลเดือด. มันพุ่งไปที่มุมทั้งสาม,บ่งบอกถึงที่หลบซ่อนตัวของชายสามคน.
ฮ่วงเอ๋อเพียงใช้นิ้วดีดเท่านั้น. แม้แต่โกวยู่วก็ไม่สามารถมองเห็นความลึกลับลึกลับภายใน.
เจี้ยงเฉินตกใจมาก.
การใช้วิชานี้ดูเรียบง่าย,แต่มันมีทฤษฎีลึกลับมากมายภายในตัวมัน. ฮ่วงเอ๋อสามารถควบคุมทิศทางของบทเพลงได้. การควบคุมเสียงแบบนี้เป็นสิ่งที่เจี้ยงเฉินยังไม่เคยทำ.
คลื่นจากเสียงกระหึ่มที่น่ากลัวดังขึ้นจากห้องลับหลายแห่งไม่นานหลังจากนั้น. ทั้งสามคนปิดหูของพวกเขาขณะที่พวกเขาวิ่งออกมาในสภาพที่กรีดร้องคร่ำครวญ. จากสภาพในตอนนี้ราวกับว่าพวกเขาจะหมดสติได้ทุกวินาที.
ฮ่วงเอ๋อยิ้มอย่างนุ่มนวลและหยุดดีดพิณเมื่อนางบรรลุเป้าหมาย,นางไม่ได้ตั้งใจจะเป็นจุดเด่น. นางยิ้มอย่างอ่อนโยน "ท่านเจี้ยง,ข้าทำได้แค่นี้. ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับท่าน ! "
"ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของเจ้า."
ไม่ใช่ว่าเจี้ยงเฉินไม่สามารถบังคับให้ทั้งสามคนนี้ออกมา,แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้อย่างง่ายดายเหมือนกับที่ฮ่วงเอ๋อทำ.
หนึ่งในสามคนสวมเสื้อคลุมสีทองและเขาดูค่อนข้างร่ำรวย. ในช่วงเวลานี้เขารู้สึกแย่และสยดสยอง.
"เจ้าคือผู้นำลี้ใช่มั้ย?" เจี้ยงเฉินจ้องมองชายคนที่สวมเสื้อคลุมสีทอง.
เมื่อเพลงสิ้นสุดลงผู้นำลี้รู้สึกตัว,สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว. เขามองไปที่เจี้ยงเฉินและพูดว่า "เจ้าเป็นใคร?"
เจี้ยงเฉินส่ายศีรษะเบา ๆ. "ข้าเป็นคนถามคำถามในวันนี้. ตอนนี้ถ้าเจ้าไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจสำหรับคำถามของข้า,ข้าจะช่วยลดภาระความหนักอึ้งบนร่างกายของเจ้าด้วยการตัดสักส่วนออกไป "
"คำถามแรกคือ,ซงเทียนซ่งและคนอื่นๆอยู่ที่ไหน ?"
จิตสัมผัสของเจี้ยงเฉินขังเขาไว้อย่างแน่นหนา,เขาจะไม่ยอมปล่อยให้คำโกหกผ่านริมฝีปากของชายคนนี้ออกมา.
ผู้นำลี้พูดตะกุกตะกัก "พวกเขา ... พวกเขาทั้งหมดไปแล้ว,พวกเขาขายหอโอสถให้กับเราในราคาสูง ... อ๊า !! "
เขากรีดร้องอย่างโหยหวนขณะที่เขาตบมือไปทางหูซ้ายแล้วค้นพบว่ามันหายไป.
เจี้ยงเฉินยิ้มให้,และจ้องเขาด้วยสายตาที่น่ากลัว "พูดอีกครั้งสิ. ซงเทียนซ่งและคนอื่นๆไปไหน ? "
ผู้นำลี้กลัวจนหัวหดในขณะที่เขาพยายามที่จะหยุดเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากหูซ้ายของเขา. เขาเกือบจะเป็นลม. "พวกเขา.... พวกเขา ... "
พัพ !
เจี้ยงเฉินยกแขนขึ้น. พลังโลหะมากมายพุ่งออกมาจากแขนของเจี้ยงเฉินเหมือนใบมีด,มันตัดหูข้างขวาของผู้นำลี้ขาดอย่างรวดเร็วเหมือนดาวตก.
“อ๊า !!” เสียงกรีดร้องน่ากลัวดังขึ้นอีกครั้ง. กางเกงของผู้นำลี้เปียกแฉะ,เขาฉี่ราดด้วยความตกใจ.
"โอกาสสุดท้าย. ถ้าเจ้ายังไม่ยอมพูดความจริง,สิ่งต่อไปที่จะตกลงบนพื้นจะไม่ใช่หูของเจ้า,แต่มันจะเป็นหัวของเจ้า " ไม่มีอะไรที่ทำให้อารมณ์ของเจี้ยงเฉินเบาลง.
"ข้า ... ข้าจะบอกแล้ว ! ข้าจะบอกเจ้า ! ข้าจะบอกทุกอย่าง! "
ไม่ว่าผู้นำลี้จะยโสแค่ไหน,เขาก็ไม่สามารถทนการเผชิญหน้ากับความตายได้อีกต่อไป. เขาไม่สงสัยเลยว่าผู้นำของความตายที่อยู่ตรงหน้าเขากำลังพูดความจริง.
"เรา ... เข้ามายึดหอโอสถ. ซงเทียนซ่งไม่ยอมร่วมมือ,เราจึงฆ่าเขา "
"เจ้า?" เจี้ยงเฉินหัวเราะอย่างเย็นชา. "เจ้าคงไม่กล้าทำอย่างนั้นด้วยตัวเอง. ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้? "
"เราได้รับคำสั่งให้มาเอาสูตรโอสถสามชนิดจากหอโอสถ. คนที่สั่งให้เราคือองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรชางหยาง "
อาณาจักรชางหยาง?
เจี้ยงเฉินมองหน้าโกวยู่ว. เขาไม่รู้เรื่องของสหพันธ์อาณาจักรทั้งสิบหกดีเท่าโกวยู่ว.
"ราชอาณาจักรชางหยางเป็นหนึ่งในสี่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับราชอาณาจักรนภาจันทร์. ความสัมพันธ์ของอาณาจักรชางหยางกับนิกายตะวันม่วงก็เหมือนกับอาณาจักรนภาจันทร์กับนิกายพฤกษาสวรรค์ "
ใบหน้าของเจี้ยงเฉินดุดันมากเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้. "นิกายตะวันม่วง !"
คิ้วของเจี้ยงเฉินโค้งขึ้น,เขายับยั้งความฉุนเฉียวในหัวและถามว่า "ทำไมองค์รัชทายาทของอาณาจักรชางหยางอยากได้หอโอสถ?"
ผู้ดูแลลี้ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันได้. เขาบอกทุกอย่างที่เขารู้เหมือนเช่นการเทถั่วจากภาชนะไม้ไผ่.
"ราชอาณาจักรชางหยางอิจฉาหอโอสถที่เห็นพวกเขาเก็บเกี่ยวความมั่งคั่งอย่างบ้าคลั่งจากสูตรโอสถทั้งสามชนิดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา. องค์รัชทายาทตั้งเป้าหมายไว้นานแล้ว. เขาได้รับคำใบ้จากนิกายตะวันม่วงในครั้งนี้ซึ่งบอกว่าหอโอสถสูญเสียผู้สนับสนุน,เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องกลัวเรื่องที่จะถูกแก้แค้น. องค์รัชทายาทจึงรวบรวมอำนาจเต็มรูปแบบหลังจากวางแผนไว้เป็นเวลานานมากเพื่อที่จะได้ยึดทรัพย์สินของหอโอสถ "
เป็นเรื่องปกติที่คนมักตั้งเป้าอยากได้สถานที่ที่มั่งคั่ง. อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาประสบความสำเร็จในการยึดหอโอสถแล้ว,ทำไมต้องกวาดล้างตระกูลเจี้ยง?
เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลซ่อนอยู่.
"พวกเจ้าก็ยึดหอโอสถและสูตรโอสถทั้งสามเรียบร้อยแล้ว. ทำไมต้องสังหารตระกูลเจี้ยง? "
ผู้ดูแลลี้ตอบอย่างรวดเร็ว "ข้าไม่ได้มีส่วนร่วมในการสังหาร. ข้าเป็นเพียงคนรับคำสั่ง,ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะสอบถามเกี่ยวกับเหตุผลเบื้องหลังเรื่องนี้. มีคนบอกว่าคนเหล่านี้ไม่พอใจที่ได้เพียงสูตรโอสถทั้งสาม. ดูเหมือนพวกเขาจะรู้สึกว่าจะมีสมบัติอื่นในตระกูลเจี้ยง,นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ... "
เบาะแสต่างๆที่มีเริ่มทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น.
เมื่อลองพิจารณาดูอีกครั้ง,ครึ่งปีนี้คือช่วงเวลาที่เขาติดอยู่ในภูเขาอมตะ.
อีกฝ่ายลงมืออย่างแม่นยำในเวลาที่เขาหายไป. เจี้ยงเฉินไม่เชื่อว่านิกายตะวันม่วงจะไม่ได้อยู่เบื้องหลังปัญหาทั้งหมดนี้.
นิกายตะวันม่วง,อาณาจักรชางหยาง...
ความโกรธเกรี้ยวกราดในหัวใจของเขา. เขากวาดสายตาอันหนาวเย็นไปทั่วหอโอสถ "คำถามสุดท้าย. เจี้ยงเซิงอยู่ที่ไหน? "
เจี้ยงเซิงรึ? เขาถูกนำตัวไปยังอาณาจักรชางหยาง. ดูเหมือนว่ามีคนที่ต้องการสอบปากคำเขาโดยเฉพาะ "
เจี้ยงเซิงเป็นคนสนิทและเป็นพ่อบ้านของเจี้ยงเฉิน,เขายังมีชีวิตอยู่และถูกจับไป. นี่หมายถึงอะไร ? นั่นหมายความว่าเรื่องทั้งหมดนี้ชี้มาที่เขา,เจี้ยงเฉิน !
"เราจะไปอาณาจักรชางหยาง" เจี้ยงเฉินกล่าว.
โกวยู่วกับฮ่วงเอ๋อมองหน้ากัน. พวกเขารู้ว่าเปลวไฟแห่งความโกรธได้รับการกระตุ้นอย่างทั่วถึงในหัวใจของเจี้ยงเฉิน.
มีแนวโน้มว่าอาณาจักรชางหยางจะต้องอยู่ในช่วงเวลาที่แย่มากหลังจากนี้. มีแนวโน้มอีกว่าคนหลายคนของนิกายตะวันม่วงต้องหัวขาด.
คนที่อยู่ในหอโอสถรู้สึกไม่อยากเชื่อเมื่อเจี้ยงเฉินและคนอื่น ๆ เดินออกไป. พวกเขาเดินออกไปง่ายๆแบบนี้เลยหรือ?
หนึ่งในนั้นหัวเราะอย่างเย็นชา. “ไอ้คนชั่ว ! ทำข้ากลัวเกือบตาย. เขาเป็นแค่หัวหอกเงิน,คนที่ชอบโอ้อวดพลัง,จริงๆแล้วไม่มีอะไรดี. หึ,เขาคงกลัวจนหัวหดเมื่อได้ยินชื่อของนิกายตะวันม่วง? "
"แน่นอน. มันก็จริง,ในพันธมิตรสิบหกอาณาจักรมีใครกล้ารุกรานนิกายตะวันม่วงบ้างล่ะ?
พวกที่ไม่มีปัญญาจะสู้,พวกที่ตกใจสุดขีดก่อนหน้านี้,พวกเขาพ่นลมออจากกทรวงอกและเริ่มพูดจาเยาะเย้ยราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ตัวสั่นเลยเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา.
ทันใดนั้น,มีเสียงดังขึ้นมาว่า. "หยุดพูด,พวกเจ้าได้ยินหรือไม่?"
ทุกคนเงียบและจดจ่ออยู่กับการได้ยิน. พวกเขาได้สินเสียงอึกทึกที่ดังมาจากใต้ดิน.
ทันใดนั้นพื้นดินเริ่มสั่นอย่างรุนแรง !
ปัง !
แผ่นพื้นแตกออก,มีสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ,กระจายออกมาราวกับตั๊กแตน.
หนูเขี้ยวทองจำนวนมากตะเกียดตะกายกันออกมา,พวกมันกินทุกคนที่เห็น.
เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันที,เช่นเดียวกับเลือดที่ไหลท่วมไปทั่วหอโอสถ.