หน้าแรก > ราชันสามภพ
บทที่ 414: จดหมายของด่านเฟย

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

ทุกคนตื่นตัวแม้กระทั้งองค์ราชาของราชอาณาจักรนภาจันทร์นำประชาชนและทหารนับร้อยไปยังคฤหาสน์เจี้ยงเพื่อแสดงความยินดี.

 

แม้ว่าวัตถุประสงค์ก็เพื่ออวยพร,แต่ความเป็นจริงความคิดของทุกคนก็เหมือนกัน. พวกเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเจี้ยงเฉิน,ประจบสอพลอและให้บรรณาการ.

 

ไม่มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้. ตำแหน่งของเจี้ยงเฉินสูงกว่าองค์ราชาเสียอีก.

 

เนื่องจากสถานะและความมั่นคง,องค์ราชาของอาณาจักรนภาจันทร์ไม่ใช่คนที่จะเกรงกลัวอาวุโสของนิกายพฤกษาสวรรค์.

 

อย่างไรก็ตาม,อัจฉริยะเช่นเจี้ยงเฉินไม่ใช่คนธรรมดาที่อาวุโสของนิกายธรรมดาสามารถเทียบได้.

 

ในช่วงครึ่งปีนี้,มีตำนานต่างๆมากมายที่ล้อมรอบเจี้ยงเฉิง,ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลงานของเขาในการคัดเลือกที่มีนับไม่ถ้วนเหมือนดอกไม้ที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า,เหมือนมีเวทมนต์ที่อธิบายไม่ได้.

 

แม้ว่าตำนานเหล่านี้ได้ถูกเพิ่มเสริมเติมแต่งไปบ้างแล้วก็ตาม,แต่มันก็มีเค้าโครงเรื่องจริงอยู่.

 

แชมป์ของการคัดเลือกสาวกสามัญ,แชมป์ของพื้นที่ส่วนลึกลับและส่วนปฐพี,และผู้ชนะของการแข่งขันรอบสุดท้าย,เขากลายเป็นแชมป์คนสุดท้ายที่ไม่มีใครสงสัยในความแข็งแกร่งผ่านการสังหารศัตรูตัวฉกาจอย่างหลงยู่ซื่อ.

 

หลงยู่ซื่อกลายเป็นอัจฉริยะในตำนานของราชอาณาจักรทั้งสิบหกอันเนื่องมาจากร่างฟีนิกซ์สวรรค์ของนาง.

 

อย่างไรก็ตามอัจฉริยะในตำนานนี้ไม่สามารถหลบหนีชะตากรรม,ร่างของนางแยกออกเป็นสองซีกด้วยกระบี่ของเจี้ยงเฉิน.

 

การโจมตีจังหวะเดียวนั้นเพียงพอที่จะอธิบายทุกอย่าง.

 

ไม่ต้องกล่าวถึงว่าบรรพบุรุษพันใบ,คนที่ไม่เคยกังวลเรื่องของโลก,เขาได้พูดด้วยตัวเองว่านิกายจะปกป้องตระกูลเจี้ยงโดยไม่คำนึงว่าเจี้ยงเฉินจะมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วก็ตาม.

 

จากสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเจี้ยงเฉินมีค่ามากสำหรับนิกายพฤกษาสวรรค์.

 

และตอนนี้ที่เจี้ยงเฉินโผล่ออกมาจากการคุมขัง,ราวกับว่าเขาเป็นมังกรกลับไปยังทะเล,ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อประกาศตำนานใหม่ของอัจฉริยะตัวจริงในสหราชอาณาจักรทั้งสิบหก.

 

ทุกคนจึงรีบไปเอาอกเอาใจอัจฉริยะหมายเลขหนึ่ง.

 

ถ้าพวกเขาพลาดโอกาสนี้,ใครจะไปรู้เจี้ยงเฉินอาจจะไม่มาเยือนอาณาจักรนภาจันทร์อีกเลยก็ได้. ถึงเขาจะกลับมาก็ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่?

 

นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทำให้พวกเขามีหน้ามีตา.

 

เจี้ยงเฉินเองก็ไม่ได้คาดว่าจะมีคนมามากมายขนาดนี้.

 

คฤหาสน์เจี้ยงที่กว้างขวางกลับดูแคบลงเมื่อขุนนางและผู้มีอำนาจของราชอาณาจักรทั้งหมดมาถึงบันไดหน้าประตูและทุกคนก็พาลูกๆของพวกเขามาด้วย. ทุกคนพาเด็กๆมาเพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้จากเจี้ยงเฉิน. หากได้คำชี้แนะสักหนึ่งคำหรือสองคำ,มันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ไปตลอดชีวิต.

 

พระราชวงศ์ต้องก้าวเข้ามาและรักษาความสงบเรียบร้อยเนื่องจากเสียงอึกทึกครึกโครม. พวกเขาเตรียมงานจัดเลี้ยงไว้เพื่อต้อนรับเจี้ยงเฉิน,เชิญชวนให้บรรดาขุนนางชั้นสูงของราชอาณาจักรเข้าร่วม, แต่ละครอบครัวถูกจำกัดให้มาได้แค่สองคน.

 

ถึงกระนั้นบรรยากาศก็ค่อนข้างครึกครื้น.

 

เจี้ยงเฉินคุ้นเคยกับเสียงแบบนี้. เป็นเรื่องปกติที่เห็นผู้คนพากันมาหาผู้มีอำนาจ.

 

เขาไม่ได้ปฏิเสธงานจัดเลี้ยงนี้และมีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับองค์ชายเย่หลงในงานเลี้ยงอาหารค่ำโดยใช้การการยอมรับของเขาเพื่อเป็นสื่อในประกาศต่อผู้คนที่มาร่วมงานว่าเขายังคงสนับสนุนเย่หลงและจะยังคอยช่วยเหลือเขา.

 

เย่หลงคือคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด. ทุกคนในเมืองหลวงรู้ว่าตอนนี้ไม่มีใครสามารถแย่งตำแหน่งองค์รัชทายาทไปจากเย่หลงได้อีก.

 

แม้กระทั่งองค์ราชาเองก็ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของเย่หลงอีกต่อไป.

 

วิหารทักษิณคราสวรรค์,หุบเขาชิงหยาง,และวิหารหมื่นสมบัติมีช่วงเวลาที่สนุกสนานในงานเลี้ยง,เนื่องจากพวกเขามีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจี้ยงเฉิน.

 

โดยเฉพาะยิ่งประมุขหนิงที่ปลาบปลื้มมาก. นางรู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่นางไม่ได้ให้ลูกสาวของนางแต่งงานกับเซี่ยวหยูแห่งวิหารอุดรครามสวรรค์,นางมีความสุขที่ได้เลือกเซี่ยวไป๋ฉี. มิฉะนั้นตอนนี้นั่งคงมัวแต่นั่งเสียใจและถูกความเศร้าหมองกลืนกินจนทำให้ภายในกลายเป็นสีเขียว.

 

วิหารหมื่นสมบัติสนิทสนมกับเจี้ยงเฉินเพราะเจี้ยงยู. รองประมุขชีเซี่ยวหยาวมักชื่นชมเจี้ยงเฉินเสมอ.

 

เฟยซวนกลายเป็นผู้อาวุโส,ตอนนี้หุบเขาชิงหยางมีอิทธิพลมากกว่าทั้งสามวิหารเสียอีก. ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณและยกความดีความชอบให้กับเจี้ยงเฉิน,ดังนั้นเขาจึงถือโอกาสนี้เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเจี้ยงเฉิน.

 

นอกเหนือจากวิหารทั้งสี่,จอมทัพเช็นกันยี่แห่งหน่วยเขี้ยวมังกรยังชื่นชมและรู้สึกปลื้มใจอย่างมากที่เขาไม่เสียท่าไปเข้าข้างรองจอมทัพหยางเซา. มิฉะนั้นแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนในงานเลี้ยงวันนี้?

 

เขาคงจะไม่ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการ.

 

งานจัดเลี้ยงสิ้นสุดลงท่ามกลางบรรยากาศเบาสบาย,ทุกคนอยากเพิ่มความสัมพันธ์กับเจี้ยงเฉิน. เจี้ยงเฉินไม่ได้วางอำนาจทำตัวหยิ่ง,เขาตอบทุกคนอย่างสุภาพ.

 

เมื่อแขกทุกคนกลับกันไปหมดแล้ว,เจี้ยงเฉินไปนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนสนิทอีกครั้ง.

 

องค์ชายเย่หลงถอนหายใจ "เจี้ยงเฉิน,นับว่าข้าเป็นคนที่ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของเจ้ามากที่สุดในราชอาณาจักรนภาจันทร์,ข้าต้องขอยอมรับว่าข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะมาไกลถึงจุดนี้"

 

เทียนโชไม่ได้พูดอะไรมาก,เขามีเพียงรอยยิ้มแจ่มใสที่เห็นด้วยกับองค์ชายเย่หลง.

 

พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทที่เจออะไรด้วยกันมามากจึงทำให้บรรยากาศรอบๆค่อนข้างอบอุ่น.

 

เจี้ยงเฉินยกจอกของเขาขึ้นมา "เรามาดื่มให้กับช่วงเวลาลำบากที่เคยมีร่วมกัน"

 

ทุกคนหัวเราะอย่างเต็มที่และยกจอกขึ้น.

 

เทียนหลงนั่งอยู่ติดกับเทียนโช. หลังจากไม่กี่ปี,เขาพัฒนาตัวเอง,เติบโตขึ้นและได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้บัญชาการ. ถึงกระนั้นเขาก็ยังให้เกียรติเจี้ยงเฉินอย่างมาก.

 

ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงเพราะเจี้ยงเฉิน. คนระดับรากหญ้าอย่างเขากลายเป็นผู้บัญชาการของหน่วยเขี้ยวมังกร,มันเกือบจะเหมือนกับความฝัน.

 

หลินเฉียนลี้จากวิหารทักษิณครามสวรรค์,ซึ่งเป็นคนสนิทขององค์ชายเย่หลงก็อยู่ที่นี่. เขาเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของอาจารย์เย่ชองหลิวพร้อมกับเจี้ยงเฉิน.

 

ครั้ังแรกที่หลินเฉียนลี้ได้พบกับเจี้ยงเฉิน,เขาไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับเจี้ยงเฉินอีกทั้งยังดูถูกเจี้ยงเฉิน. ตอนนี้สภาพการณ์เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา,เขาทำได้เพียงถอนหายใจให้กับเรื่องราวในอดีต.

 

"นายน้อยเฉิน,ข้า,หลินเฉียนลี้ไม่เคยยอมรับใครมาก่อนในชีวิต, ข้าชื่นชมท่านจากใจจริงและขอยอมรับท่าน " หลินเฉียนลี้เป็นคนหยิ่ง,แต่เขาต้องยอมรับสถานการณ์ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง.

 

ทุกคนหัวเราะอีกครั้งและยกจอกขึ้นมาดื่ม.

 

ทุกคนตระหนักดีว่าเจี้ยงเฉินกำลังจะย้ายออกจากที่นี่หลังจากคืนนี้,และวิถีชีวิตของพวกเขาจะแตกต่างกันมากในอนาคต.

 

แม้ว่ามิตรภาพของพวกเขาจะไม่มีวันจางหายไป,แต่โอกาสที่จะพบปะพูดคุยกันคงน้อยมาก.

 

หลังจากที่พวกเขาดื่มกันเสร็จ,องค์ชายเย่หลงพูดด้วยความจริงใจว่า. "เจี้ยงเฉิน,อนาคตของเจ้าไม่มีที่สิ้นสุดกับการเดินทางครั้งนี้. ถ้าเจ้ามีเวลาว่างในอนาคต,ข้าขอให้เจ้ากลับมาเยี่ยมพวกเราในในราชอาณาจักรนภาจันทร์. ประตูสู่เมืองหลวงเปิดกว้างสำหรับเจ้าเสมอ "

 

เจี้ยงเฉินมองเย่หลง,เทียนโชและเทียนหลงทีละคน.

 

เขาเห็นว่าใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ.

 

"เราผ่านทุกข์ผ่านสุขร่วมกันมามาก. ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น,ไปตามหาตัวข้าที่นิกายพฤกษาสวรรค์ " เจี้ยงเฉินต้องการหารือเกี่ยวกับข้อเสียเปรียบของพันธมิตรทั้งสิบหกอาณาจักรกับพวกเขา.

 

อย่างไรก็ตาม,การบอกเรื่องราวทั้งหมดกับพวกเขาตอนนี้จะทำให้พวกเขากังวล. ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน.

 

อย่างไรก็ตามหากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคต,มันก็ไม่ใช่สิ่งที่สาวกสามัญสามารถรับมือได้.

 

หลังจากที่เขาอำลาทุกคน,เขาก็มุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ของท่านอาจารย์. หลังจากผ่านไปสองปี,เจี้ยงเฉินอยากจะรู้ว่าท่านอาจารย์ประสบความสำเร็จในการตัดผ่านอาณาจักรต้นกำเนิดหรือไม่.

 

เมื่อเขามาถึง,เขาไม่เห็นใครนอกจากผู้คุ้มกันส่วนตัวของท่านอาจารย์.

 

"ท่านเจี้ยงเฉิน? ท่านอาจารย์ยังปิดประตูสนิทอยู่ในการฝึกฝนบ่มเพาะและท่านยังไม่ปรากฏตัวออกมาเลย " ผู้คุ้มกันเคยได้ยินตำนานของเจี้ยงเฉินและพูดอย่างสุภาพ.

 

“จริงรึ? ท่านอาจารย์ยังไม่ออกมา? " เจี้ยงเฉินยิ้มเจือจาง. "ดูเหมือนว่าท่านอาจารย์ได้รับประโยชน์มากจากการฝึกซ้อมประตูปิด"

 

จากนั้นเขาก็มองเข้าไปข้างในแต่ไม่เห็นด่านเฟย. เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย. ด่านเฟยกับท่านอาจารย์อยู่ด้วยกันตลอดเวลา. ทำไมนางถึงไม่อยู่?

 

"ด่านเฟยก็ไม่อยู่ใช่หรือเปล่า ?" เจี้ยงเฉินอยากรู้.

 

ผู้คุ้มกันส่วนบุคคลตบหน้าผากของตัวเอง. "ความจำของข้าเหมือนปลาทอง. ข้าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นท่านเจี้ยงเฉินและเกือบจะลืมเรื่องที่สำคัญที่สุด. แม่นางด่านเฟยได้ออกไปจากเมืองหลวงมาเกือบปีแล้ว "

 

"ออกไปจากเมืองหลวง?" เจี้ยงเฉินไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าด่านเฟยจะออกจากเมืองหลวงในช่วงที่ท่านอาจารย์ปิดประตูทำการฝึกฝนบ่มเพาะ.

 

"ใช่,แม่นางด่านเฟยยังทิ้งจดหมายไว้ให้ท่าน,หากท่านมาหานาง. ถ้าท่านไม่มา,เราจะต้องเผามันหลังจากครบสามปี "

 

ผู้คุ้มกันเอาจดหมายที่ปิดผนึกออกมาจากเสื้อของเขาและมอบให้เจี้ยงเฉิน.

 

เจี้ยงเฉินรับมันมา,เขาไม่ได้เปิดทันที. เขาตอบว่า. "ถ้าท่านอาจารย์ออกมาจากการบ่มเพาะประตูปิดหรือถ้าแม่นางด่านเฟยกลับมา,โปรดบอกพวกเขาว่าข้ากลับมาเข้าร่วมนิกายพฤกษาสวรรค์แล้ว"

 

ผู้คุ้มกันส่วนบุคคลพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ได้ขอรับ"

 

เจี้ยงเฉินไม่ต้องการรบกวนการฝึกบ่มเพาะของท่านอาจารย์. เขารู้สึกใจหายเล็กน้อยขณะที่เดินใต้แสงจันทร์,เดินวนผ่านตรอกซอกที่เต็มไปด้วยเงาจากต้นไม้. ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาตกอยู่ในอารมณ์เศร้าหมอง.

 

จู่ๆเขาก็นึกถึงจดหมายของด่านเฟยและเปิดมันใต้แสงจันทร์.

 

จดหมายฉบับนั้นเรียบง่ายมากมีเพียง -

 

แม้กระทั่งคำพูดนับพัน ๆ คำก็ไม่เพียงพอ,แต่ข้าก็ไม่เคยเสียใจที่ได้มอบความรัก.

 

ปลายนิ้วของเจี้ยงเฉินสั่น. ทำไมเขาจะไม่เข้าใจคำเหล่านี้ ? ด่านเฟยแสดงความรู้สึกและความรักของนางผ่านจดหมาย.

 

ในเวลานั้นเขาพูดไม่ออก. เมื่อเขาคิดถึงลำดับเหตุการณ์ต่างๆที่เขามีร่วมกับนางในราชอาณาจักรนภาจันทร์เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย. พูดอย่างมีเหตุผล,ด่านเฟยคนที่หัวรั้นยอมเปิดเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้หรือ?

 

มีข้อความลับอยู่เบื้องหลังของคำพูดง่ายๆเหล่านี้,ดูเหมือนมันจะมีความหมายลึกที่ซ่อนอยู่ภายในที่เจี้ยงเฉินยังไม่เข้าใจ.

 

จากตัวอักษรของคำเหล่านี้,ดูเหมือนจะปิดบังเรื่องนับพันเรื่องที่ทำให้นางหนักใจ,เช่นสถานการณ์ที่ไม่สามารถพูดถึงและน่าอับอายที่สุด. ราวกับว่าคนเขียนอยากจะบอกเรื่องราวมากมาย,แต่ในที่สุดก็สามารถเขียนได้ไม่กี่คำ.

 

เจี้ยงเฉินพยายามอ่านทั้งหมดถึงเขาจะไม่ค่อยเข้าใจ. เกิดอะไรขึ้นกับด่านเฟย,นางถึงสารภาพความรู้สึกของนางด้วยความกระตือรือร้นและเปิดเผย.

 

คำพูดเหล่านี้เห็นได้ชัดว่ามีอารมณ์ลึกซึ้งอยู่เบื้องหลัง,และมันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนสองคนมีความสัมพันธ์กัน.

 

อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่เคยจะก้าวหน้าไปถึงขั้นนั้น. ใบหน้าและคำพูดของด่านเฟยลอยขึ้นมาในหัวของเจี้ยงเฉิน,แต่เขาก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้.

 

อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนใจกว้าง. เขาไม่ได้ดูหมิ่นหรือสบประมาทความรู้สึกของด่านเฟย. เขาวางจดหมายและเก็บมันไว้ในแหวนจัดเก็บของเขา.

 

เขากลับมาที่คฤหาสน์เจี้ยงในช่วงค่ำมืด.

 

ถึงจะดึกมาแล้วยังไม่มีใครหลับ. หยูตงเป็นคนแรกที่รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสองปีที่เจี้ยงเฉินไม่อยู่.

 

"นายน้อย,หอโอสถแห่งราชอาณาจักรตะวันออกจะส่งส่วนแบ่งผลกำไรทุกสามเดือนเนื่องจากสูตรโอสถทั้งสามที่ท่านมอบให้พวกเขา. อย่างไรก็ตาม,ในครึ่งปีที่ผ่านมานี้มันได้หยุดลงอย่างกะทันหัน. บางทีอาจมีบางสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา? เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาตรงเวลามาตลอด "

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.