หน้าแรก > ราชันสามภพ
บทที่406 ทางตัน

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

เมื่อนิกายตะวันม่วงเห็นภาพของความสับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นในนิกายพฤกษาสวรรค์,อารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาดีขึ้นเล็กน้อย. ถ้ามีใครติดอยู่ในภูเขาอมตะหลังจากที่มันถูกปิด,ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลยพวกเขาต้องตายแน่ๆ.

 

ถ้าพวกเขาไม่สามารถเปิดภูเขาได้อีกในเร็วๆนี้,เจี้ยงเฉินจะพินาศอย่างแน่นอน.

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ง่ายเลยที่จะเปิดภูเขาอีกครั้ง.

 

การเปิดผนึกของภูเขาครั้งแรกต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลจากทั้งสี่นิกาย,รวมทั้งความพยายามของทั้งสี่บรรพบุรุษ.

 

เหตุใดทั้งสี่นิกายจึงต้องเปิดภูเขาอมตะอีกครั้ง?

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันเยาะเย้ยขณะที่เขามองภูเขาอมตะอย่างเย็นชา,เขารู้สึกปลดปล่อยขึ้นมาบ้าง.

 

"พวกเราไปกันเถอะ."

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันโบกมือให้หลังจากที่ได้สังเกตดูอยู่พักใหญ่. การเสียชีวิตของหลงยู่ซื่อทำให้นิกายตะวันม่วงเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า. พวกเขาไม่ต้องการที่จะอยู่ในสถานที่ที่น่าปวดใจแห่งนี้.

 

ดีที่นิกายตะวันม่วงยังมีเล่ยกงหยุน.

 

ตอนนี้เจี้ยงเฉินถูกผนึกอยู่ในภูเขาอมตะ,เล่ยกงหยุนจึงกลายเป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่อีกครั้งหนึ่ง. ภาพนี้ทำให้นิกายตะวันม่วงรู้สึกสดชื่นเล็กน้อย.

 

หัวหน้าชูอยู่อาจจะเป็นคนเดียวในนิกายที่ดูไม่กระตือรือร้น,และกระสับกระส่าย,ใบหน้าของนางซีดเผือดราวกับศพเดินได้ที่สูญเสียวิญญาณ. การแสดงออกของนางแข็งทื่อ,และจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจในเกียรติยศหายไป.

 

"บรรพบุรุษนักล่าตะวัน,โปรดหยุดสักครู่"

 

บรรพบุรุษพันใบทำหน้าผากย่นขณะที่เขาเรียก.

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันหยุดด้วยเสียงหัวเราะเย็นชา "อะไรเหรอ?"

 

"วัตถุประสงค์หลักที่สี่นิกายจัดการคัดเลือกก็เพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของสิบหกอาณาจักร. ตอนนี้เจี้ยงเฉินถูกขังไว้และในอีกหนึ่งเดือนเขาจะตายถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือ. บรรพบุรุษนักล่าตะวันจะไม่ช่วยคนที่กำลังจะตายรึ? "

 

“ฮ่าๆ !” บรรพบุรุษนักล่าตะวันหัวเราะราวกับว่าเขาได้ยินเรื่องตลกที่งี่เง่าที่สุด. "เจ้าคิดว่าข้าควรจะให้ความช่วยเหลืออย่างกระตือรือร้นอย่างนั้นหรือ? เจ้าวางแผนที่จะให้นิกายตะวันม่วงของข้านำทรัพยากรมาให้และเราต้องพยายามที่จะช่วยชีวิตเจี้ยงเฉิน? "

 

บรรพบุรุษพันใบรู้ว่าบรรพบุรุษนักล่าตะวันจะพูดแบบนั้น,แต่เขาก็เก็บอารมณ์ขุ่นเคืองไว้และหัวเราะออกมาด้วยความเสียใจ. "เราไม่ต้องการให้ท่านจัดหาทรัพยากรหรอก,เราไม่ได้จะเปิดภูเขานานขนาดนั้น. นิกายพฤกษาสวรรค์ของข้าจะดูแลค่าใช้จ่ายของหินวิญญาณ,ข้าเพียงอยากขอให้ท่านใช้พลังของท่านช่วยเราเปิดก็เท่านั้น. โปรดบอกมาได้เลยว่า,ท่านต้องการอะไรตอบแทนบ้าง. ไม่ว่าท่านอยากได้อะไร,หากเป็นสิ่งที่นิกายของเราหามาได้,ข้าจะไม่ขัดท่านเลย.”

 

ถ้าบรรพบุรุษพันใบไม่ได้ถูกบังคับให้ทำตามสถานการณ์นี้,เขาจะไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากบรรพบุรุษนักล่าตะวันเด็ดขาด.

 

อย่างไรก็ตามการเปิดค่ายกลจำเป็นต้องให้ทั้งสี่คนร่วมมือกัน.

 

หากขาดไปหนึ่งคนจะทำให้มันยากสำหรับพวกเขาที่จะประสบความสำเร็จ.

 

ตอนนี้บรรพบุรุษพันใบขาดคนไม่ใช่ทรัพยากร. ถ้าเกี่ยวกับทรัพยากร,นิกายตะวันม่วงย่อมหามาได้อยู่แล้ว.

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันเยาะเย้ยด้วยเสียงแปลกประหลาด "หึ,หึ,ใครจะคิดว่าท่านให้ความสำคัญกับศิษย์ราคาถูกที่เพิ่งได้รับมาอย่างมาก? ท่านคิดว่าข้าจะสนใจเกี่ยวกับการชดเชยเล็กๆน้อยๆของท่านหรือ "

 

"บรรพบุรุษนักล่าตะวัน,อย่าใจร้ายไปเลย. เป้าหมายหลักของการคัดเลือกก็เพื่อค้นหาอัจฉริยะไม่ใช่หรือ? เจี้ยงเฉินเป็นอัจฉริยะหมายเลขหนึ่งในกลุ่มสหราชอาณาจักรทั้งสิบหก. ท่านจะโยนอนาคตของสิบหกอาณาจักรทิ้ง,เพราะความแค้นส่วนตัวอย่างนั้นหรือ? "

 

บรรพบุรุษเก้าสิงโตเดินผ่านมาและพูดว่า "ข้า,บรรพบุรุษเก้าสิงโต,ยินดีที่จะช่วยเหลือหากบรรพบุรุษพันใบขอ. ข้าแน่ใจว่าบรรพบุรุษละอองน้ำแข็งก็คงทำเช่นเดียวกัน "

 

บรรพบุรุษละอองน้ำแข็งยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้าเบา ๆ "บรรพบุรุษนักล่าตะวัน,ทำไมท่านไม่ปล่อยอคติให้ออกไป,และพยายามทำสิ่งที่ดีกว่าเพื่ออนาคตของสหพันธ์ทั้งสิบหกอาณาจักร?"

 

"พยายามรึ? ฮ่าๆ,ดูเหมือนว่าพวกเจ้ายังไม่รู้จักข้าดีพอ. พวกเจ้าคิดว่าข้าเป็นคนประเภทที่จะชดใช้ความเจ็บปวดด้วยความเมตตาปรานีหรือ? เจี้ยงเฉินฆ่าอัจฉริยะของนิกายตะวันม่วง. นี่ข้าก็ยับยั้งชั่งใจอย่างมากแล้วข้าถึงยังไม่ได้คว้านไส้พุงเขาออกมา. ตอนนี้พวกเจ้าต้องการให้ข้าช่วยเขา? ช่างสิ้นคิด !”

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้.

 

ถ้าเขาทำได้,เขาก็จะยินดีมากที่จะจะฆ่าเจี้ยงเฉินด้วยมือของเขาเอง. สำหรับเขาอนาคตอันโหดร้ายของพันธมิตรทั้งสิบหกอาณาจักรเป็นเพียงแค่การชุมนุมของคนโง่เท่านั้น.

 

พูดตามความจริงก็คือเขาไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย.

 

เขาแค่อยากจะใช้ประโยชน์จากการชุมนุมเพื่อรับสมัครอัจฉริยะเพิ่มให้นิกายตะวันม่วง.

 

" ช่างเห็นแก่ตัว !" บรรพบุรุษเก้าสิงโตกัดฟันพลางสาปแช่ง. "ในอนาคตถ้าพันธมิตรถูกเนรเทศ,เราจะมีอิสระภาพได้อย่างไร? เจ้าคิดว่านิกายตะวันม่วงสามารถดูแลกันเองได้โดยไม่ต้องคิดถึงคนอื่น,ถ้าพันธมิตรสิบหกถูกปฏิเสธล่ะพวกเจ้าจะทำอย่างไร?

 

“หึ,ข้าเริ่มรำคาญกับคำบรรยายของเจ้าแล้วล่ะ ! ถ้าพันธมิตรของราชอาณาจักรทั้งสิบหกทรุดโทรมจนถูกปฏิเสธ,นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจี้ยงเฉินสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยพลังของเขาเพียงลำพัง. ข้าก็กังวลเกี่ยวกับอนาคตของนิกายของข้า,ถ้าพวกเจ้าเป็นข้าก็คงทำเช่นเดียวกัน. จริงๆแล้วข้าก็ไม่ได้รีบไปไหนหรอก. แต่ข้าไม่อยากทำ,ข้าขอให้คนที่กล้าสัมผัสภูเขาอมตะในวันนี้โชคดี.”

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้ยางอาย.

 

.......

 

ภายในภูเขาอมตะ,เจี้ยงเฉินไม่ทราบว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อเห็นตราประทับค่อยๆปิดลง. เขาพุ่งลงไปบนก้อนหินที่อยู่ใกล้ ๆ และมองไปยังชูชิงหานที่อยู่ข้างๆเขา.

 

"ข้าไม่สามารถออกไปได้จริงเหรอ?" เจี้ยงเฉินมองไปที่ตราประทับ. มันปิดไปแล้ว,และไม่สามารถเปิดได้หากบรรพบุรุษอาณาจักรต้นกำเนิดไม่ร่วมมือกัน.

 

ถ้าเขาโจมตีมันอย่างรุนแรง,เขาจะถูกแรงสะท้อนของตราประทับโจมตีกลับ.

 

ฝูงหนูเขี้ยวทองจะมีหนอนออกทางหรือไม่?

 

เจี้ยงเฉินมองไปที่ตราประทับ,นอกจากจะส่งหนูเขี้ยวทองไปตายแล้ว,มันจะไม่มีผลใด ๆ กับตราประทับเลย.

 

เจี้ยงเฉินสำรวจอยู่ครู่หนึ่งและได้ข้อสรุปว่าเขาไม่สามารถออกไปได้.

 

ความเข้มข้นของฉีวิญญาณในภูเขาอมตะดูเหมือนจะลดลงอย่างมากหลังจากภูเขาถูกปิดผนึก.

 

"ข้าต้องหาทางออก. ข้าอาจมีชีวิตอยู่ได้บนภูเขาที่ถูกปิดผนึกสองสามเดือน. หากนานกว่านั้นข้าต้องตายแน่ๆ "

 

เจี้ยงเฉินรู้ดีว่าความตายคือสิ่งเดียวที่รอเขาอยู่ถ้าเขายังอยู่ที่นี่.

 

อย่างไรก็ตาม,เขาไม่มีพลังเพียงพอที่จะออกไปด้วยตัวเอง.

 

"ข้าสงสัยว่าบรรพบุรุษพันใบยังอยู่ข้างนอกหรือไม่? ข้าอาจมีหวังหากบรรพบุรุษอาณาจักรต้นกำเนิดพร้อมที่จะช่วย "

 

เจี้ยงเฉินไม่เคยฝากความหวังไว้กับคนอื่น,แต่เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น,เขาถูกบังคับให้คิดถึงความคิดเหล่านี้.

 

"สวรรค์มักเปิดประตูไว้เสมอ. ข้าต้องมีความหวัง "

 

เจี้ยงเฉินนั่งทำสมาธิเพื่อสงบจิตสงบใจและให้ความสำคัญกับตัวเองสักครู่.

 

สามวันผ่านไป,และไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น. ไม่มีรอยแตกจากการเปลี่ยนแปลงของตราประทับ. เห็นได้ชัดว่าผู้ที่อยู่ในโลกภายนอกยังไม่ได้พยายามที่จะเปิดผนึก.

 

เขารู้สึกเคลื่อนไหวเล็กน้อยจากตราประทับในวันที่หก,แต่ความแรงของคลื่นก็เห็นได้ชัดว่าไม่เพียงพอที่จะทำลายตราประทับ.

 

"ดูเหมือนว่าพวกเขายังไม่หมดหวังในตัวข้า !" แม้ว่าเต๋าหัวใจของเจี้ยงเฉินเปรียบเสมือนเหล็ก,แต่ตอนนี้รู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย. เขาสามารถบอกได้ว่าคนที่อยู่ข้างนอกกำลังพยายาม.

 

ในวันที่เจ็ดและแปดยังคงมีเสียงอึกทึกจากภายนอก,พวกเขากำลังพยายามเปิดผนึกแต่ดูเหมือนมันไม่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเลย.

 

ระลอกคลื่น,แรงสั่นสะเทือนจากโลกภายนอกหยุดลงที่สุดในวันที่เก้าและสิบ.

 

เจี้ยงเฉินยิ้มอย่างหยาบคาย "ดูเหมือนว่าพวกเขาก็หมดหนทางหลังจากพยายามอย่างสุดความสามารถ "

 

บางคนอาจยอมแพ้,แต่เจี้ยงเฉินไม่มีทางยอม. เขาฝึกฝนบ่มเพาะและนั่งสมาธิทุกวัน,ใคร่ครวญหาทางออกจากภูเขาอมตะ.

 

อย่างไรก็ตามวิธีการที่เขาคิดว่าควรทำ,มันจำเป็นต้องใช้กำลังมหาศาลในการดำเนินการ.

 

เขายังอยู่ห่างไกลจากวิธีเหล่านั้นมากเกินไปในระดับการบ่มเพาะในปัจจุบัน.

 

ไม่มีวิธีการใดของเขาจะทำงานได้เว้นแต่ระดับการบ่มเพาะของเขาจะเกินกว่าสี่บรรพบุรุษ.

 

ในวันนี้,เจี้ยงเฉินกำลังนั่งสมาธิ,จู่ๆหูของเขาก็กระตุก "พวกเขาเป็นใคร?"

 

เขาได้ยินเสียงฝีเท้า,มันคือเสียงของฝีเท้ามนุษย์ !

 

พวกเขาไม่ใช่สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่น,ฝีเท้านั้นเป็นของมนุษย์.

 

เสียงฝีเท้าที่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นของชูชิงหาน. เขายังอยู่ในอาการขั้นวิกฤต,และถ้าไม่ใช่เพราะเจี้ยงเฉินใช้โอสถเพื่อรักษาชีวิตของเขาไว้,ชูชิงหานน่าจะตายไปนานแล้ว.

 

"อย่ากระวนกระวายใจไปเลยชายหนุ่ม" มันเป็นเสียงที่ราบรื่น.

 

คนสองคนเดินออกจากถนนโค้ง - ผู้สูงอายุหนึ่งคนและอีกคนยังเด็ก. ผู้สูงอายุเหมือนมาจากโลกอื่น,ผมของเขามีทรงแหลมเป็นสีขาวหิมะ. เด็กคนนั้นเป็นหญิงสาวที่ทำท่าก้มหน้าก้มตา. ดวงตาข้างหนึ่งของนางใหญ่กว่าอีกข้าง,จมูกของนางไม่ค่อยเข้ารูป,และปากของนางก็ยังเอียงไปทางซ้ายเล็กน้อย,น่าตาของนางดูไม่สวยงาม,นางช่างแตกต่างกับผู้สูงอายุที่มากับนางอย่างสิ้นเชิง.

 

"ท่านเป็นใคร?" เจี้ยงเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและก้าวถอยหลังไปข้างหลังโดยอัตโนมัติ,เขากำลังอยู่ในสภาวะระวังตัว. เขารีบมองไปยังตำแหน่งที่ชูชิงหานนอนอยู่.

 

"ชายหนุ่ม,ข้าไร้พิษสง. ในความเป็นจริง,ข้าค่อนข้างชื่นชมเจ้า. เจ้าเป็นคนซื่อสัตย์,ใจกล้า,และยังมีจิตใจอ่อนโยนเมตตา. ข้ามีสาเหตุที่ชมเชยเจ้า,เจ้ายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคนของนิกายที่เป็นศัตรูกับเจ้า. สหราชอาณาจักรทั้งสิบหกไม่คู่ควรกับชายหนุ่มเช่นเจ้าเลย "

 

เจียงเฉินไม่ได้วอกแวกเพราะคำชม,เขายังคงระวังตัวอยู่.

 

เขาพยักหน้าเบาๆและถามว่า " ผู้อาวุโส,ท่านเป็นใคร? ดูเหมือนท่านจะรู้ดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่? "

 

"อันที่จริงข้ารู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่,และภูมิหลังของเจ้าด้วย,เจี้ยงเฉิน"

 

ผู้อาวุโสคนนี้ก็คืออาวุโสชุน. เขาไม่ได้ต้องการที่จะพบกับใครในสี่นิกาย,เขาจึงขับไล่พวกเขาให้ออกไปจากภูเขาด้วยการกระตุ้นค่ายกล.

 

เขาวางแผนที่จะเอาตัวเจี้ยงเฉินไปในช่วงที่ทุกคนกำลังโกลาหล,แต่เขาก็ค้นพบว่าเจี้ยงเฉินยังไม่ได้ออกไป,เพราะเขารีบไปช่วยชูชิงหาน.

 

การกระทำของเจี้ยงเฉินทำให้อาวุโสชุนชื่นชมเขาสุดหัวใจ.

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเจี้ยงเฉินได้ยินคำพูดเหล่านี้,เขายกคิ้วขึ้นและจ้องเขม็งไปยังอาวุโสชุน,เผยให้เห็นความตกใจในสายตา.

 

"เจ้าขึ้นมายิ่งใหญ่ในราชอาณาจักรตะวันออกผ่านหอโอสถด้วยสูตรโอสถชะตากรรมสวรรค์ ... "

 

"เจ้าจัดการกับผู้ควบคุมดูวลู่ไห่อย่างรุนแรงและกลายเป็นสาเหตุให้ทรัพย์สินของเขาถูกยึด ... "

 

"ต่อสู้กับบุตรของขุนนางในการทดสอบมังกรซ่อนอย่างดุเดือดและเจ้ายังฆ่าทายาทของตระกูลหลง,หลงยินเย ... "

 

"เจ้าใช้พลังที่มีเพื่อปราบปรามการกบฏของตระกูลหลงและเกือบจะฆ่าหลงยู่ซื่อที่หุบเขาบรรจบ... "

 

"เมื่ออาณาจักรจันทราทมิฬรุกรานเจ้าได้ร่วมมือจากองค์ชายเย่หลงแห่งอาณาจักรนภาจันทร์เพื่อฆ่าแม่ทัพหมายเลขหนึ่งของอาณาจักรศัตรู!"

 

"เมื่อเจ้าเข้ามาในราชอาณาจักรนภาจันทร์,เจ้าทำให้รองจอมทัพหยางเซาแห่งหน่วยเขี้ยวมังกรพ่ายแพ้และเจ้ายังถอนรากถอนโคลนเขาอีกด้วย"

 

"ในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเทพวิญญาณ,เจ้าใช้สุราน้ำค้างเก้าแดนสรวงหนึ่งคนโทเพื่อเอาชนะของขวัญชิ้นอื่นๆและรับความสนใจจากเย่ชองหลิว "

 

"ในการต่อสู้ระหว่างองค์ชาย,องค์ชายเย่หลงกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามของเขาทั้งหมดอย่าง่ายดายและกลายเป็นองค์รัชทายาทด้วยความช่วยเหลือของเจ้า"

 

"ตระกูลเหล็กแห่งนิกายพฤกษาสวรรค์ยั่วยุเจ้าหลายครั้ง,เจ้าก็เลยจับตัวเหล็กต้าฉีไว้และเรียกเก็บค่าไถ่.”

 

"และตอนนี้การคัดเลือกในอาณาเขตโบราณ,เจ้าเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดในการทดสอบทั้งห้าครั้งในการคัดเลือกรอบสามัญ,และยังเป็นผู้ชนะในพื้นที่ส่วนลึกลับ,พื้นที่ส่วนปฐพี,และพื้นที่ส่วนนภา. เจ้าเอาชนะคู่แข่งทั้งหมดและกลายเป็นคนแรกในหมู่คนรุ่นใหม่ในสิบหกอาณาจักร "

 

อาวุโสชุนยิ้มขณะที่เขาเล่าลำดับเหตุการณ์น่าทึ่งในชีวิตของเจี้ยงเฉิน.

 

"เจ้าใช้เวลาเพียงสามปีในการทำทั้งหมดนี้. ชายหนุ่ม,ข้าต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องแปลกใจกับข้าเหลือเกินที่เจ้าเกิดในสถานที่เล็กๆอย่างพันธมิตรสิบหกสหราชอาณาจักร "

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.