spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 378: ไม่คิดที่จะก้มหัว
ยานที่จอดอยู่ที่พื้นนั้นเหมือนกับตึกสูงหลายสิบชั้น เหล็กหนาๆของมันถูกดึงออกจากตัวยานและปักลงกับพื้นเหมือนกับตะปูเพื่อรั้งเต็นท์เอาไว้ ถ้าไม่ฝังที่พื้นดีๆ ของแบบนั้นต้องอันตรายอย่างมากแน่เมื่อเจอลมแรงๆ
การจอดยานที่พื้นใช้เทคนิคการจอดแบบเดียวกับท่าอากาศยาน จางเทีย เพิ่งได้เรียนรู้วิธีจอดยานมาเมื่อไม่นาน เมื่อมองไปที่ยานซึ่งทำให้เขารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ จางเทีย ก็เริ่มคิดบางอย่างในหัว
‘ข้ายังไม่ได้ไปใน Castle of Black Iron เพื่อกินผลไม้มาหลายวันแล้ว ข้าสงสัยว่าจะมีผลไม้อะไรบ้างเกิดขึ้นมาหลังจากที่ฆ่าซอมบี้ไปแล้ว หวังว่าจะได้ Trouble-Reappearance Fruit จากนั้นข้าจะได้สามมารถที่จะเอายานนี้ไปลองขับดูได้ ‘
ยานนี้จอดไว้ที่พื้นที่กว้างขวาง มีหลายคนเดินไปเดินมาที่ประตูของยาน มันกลายเป็นหน่วยชั่วคราวของวังไฮหยวน เป็นของส่วนตัว ! ทหารใส่เกราะสองแถวจากวังไฮหยวนยืนอยู่ที่นอกประตูห้องนั้น ถ้าไม่ได้รับอนุญาต จะไม่มีนักเรียนคนไหนที่เข้าไปในยานนี้ได้
ภายใต้การนำทางของเจ้าหน้าที่ทั้งสอง จางเทีย ก็ได้เข้าไปในยานและไปถึงห้องด้านนอกของชั้นสองยาน
หลังจากที่เคาะประตู เจ้าหน้าที่สองคนก็พูดขึ้นมาอย่างเคารพ –“ ท่านครับ จางเทีย มาถึงแล้ว ! “
“ ให้เขาเข้ามา ! “ – เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังประตู
เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูออกแล้วผายมือให้กับ จางเทีย จางเทีย ได้เข้าไปในห้องด้วยคำถามมากมายที่มีในหัว
ห้องนี้ถูกจัดไว้อย่างสวยงามและเรียบง่าย ชายชรานั่งคุกเข่าและดื่มชาอยู่ เขาดูน่าสนใจและมีราศีอย่างมาก ทุกท่วงท่าของชายคนนี้ทำให้ จางเทีย รู้สึกสบายใจอย่างมาก
จางเทีย มองไปที่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดของตัวเอง จากนั้นก็มองไปรอบๆห้อง เขารู้สึกเหมือนหมาที่มางานเลี้ยงใหญ่ซึ่งตัดกันอย่างมาก
จางเทีย เกาหัว เขาไม่ได้เดินไปไหนแค่ยืนอยู่เฉยๆ เอาจริงๆแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ได้เจอกับผู้อาวุโสของวังไฮหยวน ผู้อาวุโสผู้นี้น่ะไม่ใช่แค่มีอำนาจที่น่ากลัวแต่ยังอยู่ในวังไฮหยวนด้วย ยิ่งกว่านั้นชายคนนี้น่าจะเป็นปู่ทวดของ จางเทีย ได้
แน่นอน จางเทีย เริ่มกังวลเมื่ออยู่ต่อหน้าชายคนนี้
“ มานั่งสิ ! “ – ชายคนนั้นใจดีอย่างมาก เขาดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ จางเทีย คิดตอนนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดกับ จางเทีย – “ ทำตัวเหมือนอยู่บ้าน คนเราน่ะคือชนชั้นสูงของจักรวาล ของอาจจะเทียบกับคนไม่ได้แต่คนน่ะมีสิทธิเทียบเท่าได้กับของทุกอย่าง ! “
‘ ของเทียบเท่ากับคนไม่ได้แต่คนมีสิทธิเทียบเท่าได้กับของทุกอย่าง ? ‘ จางเทีย ช็อกกับความหมายของคำพูดนี้ ดังนั้นแล้ว จางเทีย เลยไม่ได้ลังเลอีกต่อไป เขาเดินเข้าไปแล้วนั่งลงต่อหน้าชายคนนั้น
“ ลองกินดูสิ !” - ผู้อาวุโสผลักแก้วชาให้กับ จางเทีย
ในตอนที่แก้วชาถูกผลักมาตรงหน้า จางเทีย ก็ได้กลิ่นพิเศษซึ่งห่อมและสดชื่นอย่างมาก จากนั้นเขาก็คิดถึงฉากภูเขาหลังจากที่ฝนตก
จางเทีย ดื่มไปทั้งแก้วและรู้สึกช็อก เขาไม่ได้รสชาติอะไรเลย ชานี่น่ะหวานแค่เล็กน้อยแค่นั้นเอง
“ รู้สึกยังไง ? “ – ผู้อาวุโสถาม จางเทีย ด้วยท่าทีคาดหวัง
“ มันจะดีกว่านี้ถ้าใส่น้ำตาลลงไปอีกนิด ! “ - จางเทีย ตอบตามจริง
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ สายตาของผู้อาวุโสก็สั่นไหว จากนั้นเขาก็ได้มองไปยังแก้วชาของตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา – “ เจ้าเคยได้กินชาแบบนี้มาก่อนเหรอ ? มันคือชาระดับสูงของทวีปตะวันออก เจ้าจะมาเติมน้ำตาลใส่มันได้ไง ? “
“ ผมยังไม่เคยลองชาแบบนี้มาก่อน ผมเคยได้กินแค่จากใบชา ! “ - จางเทีย พูดด้วยท่าทีอายๆ
เมื่อคิดถึงชีวิตในเมืองแบล็คฮ็อตของ จางเทีย แล้ว ผู้อาวุโสก็ได้ส่ายหน้าและหยิบแก้วชามาดมกลิ่นชาด้านใน หลังจากนั้นเขาก็จิบไปนิดหน่อยและถาม จางเทีย ออกมาตรงๆ - “ เจ้าพาคนนอกเข้าไปในเมืองวันนี้ใช่มั้ย ? “
เมื่อได้ยินแบบนั้นใจของ จางเทีย ก็เต้นรัว ชายชรายังคงจิบชาต่อไปแต่ จางเทีย รู้สึกว่าชายชรานี้กับตัวสูงขึ้นและเหมือนกับภูเขาซึ่งทำให้เขาอึดอัด
นี่น่ะคือความรู้สึกทางวิญญาณ มันคือสถานะจากสนามพลังฉี, วิญญาณ,ความสามารถ,จิตใจและด้านอื่นๆ
ตอนนั้น จางเทีย ก็เหมือนกับมดตัวเล็กๆ ไม่ว่าเขาจะโดดสูงแค่ไหนแต่เขาก็ยังคงเป็นแค่มด ในทางกลับกันชายชรานี้เป็นภูเขาซึ่งยากที่จะผ่านรึแข่งได้ จางเทีย ถึงกับรู้สึกว่าชายชราน่ะสามารถทำลายเขาได้ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที่ จางเทีย ก็ได้ตระหนักว่าเขาควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ ตอนนี้เขาอยู่ในสนามพลังฉีที่แข็งแกร่ง สนามพลังนี้เหมือนกับแทงมาที่ตัวเขาและยังสามารถกดทับประสาทและสมองเขาไว้เพื่อไม่ให้ส่งคำสั่งให้ร่างกาย
ภายใต้ความกดดันแบบนี้หลังของ จางเทีย เริ่มโค้งลงมา ตอนนั้นเองเซลล์ของเขานั้นเหมือนจะบังคับให้เขาก้มหัวและคุกเข่าเพื่อยอมแพ้
ผู้อาวุโสยังคงจิบชาโดยที่ไม่มองมาที่ จางเทีย เลยสักนิด
‘ นี่คือพลังของอัศวินงั้นเหรอ ? พลัง 3 ใน 1 ที่อาจารย์เคยพูดถึงมาก่อน ? ‘ จางเทีย ช็อกอย่างมาก แม้ว่าเขาจะได้สติแต่เขาก็รู้สึกหมดหนทางเพราะเขาได้แต่แค่ดูร่างกายของเขาค่อยๆก้มลงกับพื้นช้าๆ หัวของเขาเริ่มเข้าใกล้พื้น ในเวลาเดียวกันลายที่พื้นก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
‘ ไม่ ข้าจะไม่ยอมแพ้กับเรื่องนี้..แม้ว่าจะตายก็ตาม.. ‘ จางเทีย ตะโกนออกมาในใจด้วยความหงุดหงิด ในเวลาเดียวกันเส้นเลือดที่หน้าผากก็เริ่มพองขึ้นมา ด้วยพลังวิญญาณและแรงที่มี เขาต้องการที่จะควบคุมร่างกายตัวเองให้ได้ตามเดิม
จางเทีย เห็นภาพบางอย่างในหัว เด็กหนุ่มที่ซึ่งโดน ฮัค และ สเนซ ลักพาตัวและโดนกระทืบแล้วมองเขาอย่างไม่พอใจ หมาป่าเจ็ดตัวที่เกือบฆ่าเขาได้ ...ลูกดอกที่ใส่พิษน้ำแข็งฟ้าที่ถูกยิงใส่เขา....ตาที่เหมือนหมาป่าของ แฟรนก้า ..และการรอบฆ่าของพวกตระกูลเฉินในถ้ำมังกร...
‘ ไม่...ข้าจะไม่.... ‘ ตาของ จางเทีย เริ่มแดงขึ้นมา
พลังวิญญาณในหัวลุกไหม้
เลือดก็เริ่มที่จะลุกไหม้ไปด้วย
กล้ามเนื้อทุกส่วนเริ่มแข็งราวกับเหล็ก..
ในตอนที่หน้าผากของเขานั้นห่างจากพื้นในระยะเพียงไข่ใบเดียว มือของเขาที่วางไว้ที่เข่าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นหมัด
เหงื่อหยดลงมาที่พื้นทีละหยดๆ เพราะระยะทางที่สั้นนั้น จางเทีย ได้ยินเสียงเหงื่อที่หยดไปที่พื้น
ในที่สุด จางเทีย ก็ควบคุมหัวของเขาได้ หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและกลับมานั่งหลังตรงอีกครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นการเคลื่อนทีง่ายๆแต่มันก็มีเสียงกล้ามเนื้อและกระดูกที่ดังราวกับเหล็กที่ถูกงอมานาน
ใช้เวลากว่าสองนาทีกว่าที่ จางเทีย จะเงยหน้าขึ้นมาและนั่งหลังตรงได้
แต่หลังจากนั้นสักพัก จางเทีย ก็ตัวชุ่มเหงื่อราวกับไปตกน้ำมา ชุดของเขาเริ่มชื้น เขารู้สึกเหนื่อยยิ่งกว่าการต่อสู้มาทั้งวันอีก
จนกระทั่ง จางเทีย เงยหน้าและนั่งหลังตรงได้ ผู้อาวุโสจึงเงยหน้ามามองที่เขา
จางเทีย หอบ แม้ว่าจะเพิ่งดื่มชาแต่เขาก็รู้สึกคอแห้ง เขามองไปที่คนฝั่งตรงข้าม - “ ใช่ ผมเอาคนสี่คนไปในเมืองวันนี้ ! “
“ เจ้าไม่รู้คำสั่งรึไง ? “ – ผู้อาวุโสมองมาที่ จางเทีย แล้ววางแก้วลง ในเวลาเดียวกันสายตาของเขาก็หรี่ลงคมกริบราวกับลูกดอกที่ยิงมาในหัวของ จางเทีย – “ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นข้อยกเว้นรึไง ? “