spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
บทที่ 405: อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน.
ผู้บริหารระดับสูงของนิกายตะวันม่วงเกือบจะเริ่มก่อจลาจลในทันทีที่หลงยู่ซื่อล้มลง. พวกเขาเพิ่งเป็นพยานว่านิกายตะวันม่วงได้รับอัจฉริยะขั้นเทพ,ตอนนี้อัจฉริยะคนนั้นถูกสับลงไปต่อหน้าพวกเขา !
โดยเฉพาะหัวหน้าชูอยู่ที่ดูอ่อนเพลียและแทบจะล้มตัวลง,นางเกือบจะล้มลงบนพื้นดิน.
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา,นางใช้ความพยายามลำบากตรากตรำเพื่อดึงความรู้ความสามารถของนางมาสู่การบ่มเพาะของหลงยู่ซื่อ. เป้าหมายของนางคือการทำให้หลงยู่ซื่อทะยานขึ้นไปข้างบนด้วยการโจมตีที่น่าจดจำและกลายเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้.
หัวหน้าชูอยู่ส่งมอบสุดยอดแห่งชีวิตอุดมการณ์และความฝันทั้งหมดที่นางไม่สามารถทำให้มันเป็นจริงเมื่อตอนที่นางเป็นสาวให้กับหลงยู่ซื่อ.
นางหวังว่าหลงยู่ซื่อจะสามารถตัดผ่านอาณาจักรต้นกำเนิดก่อน อายุ25 ปี,กลายเป็นคนแรกในกลุ่มพันธมิตรสิบหกอาณาจักร. นางต้องการให้ชื่อของหลงยู่ซื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกอาณาจักร.
ต้องบอกว่าทุกเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ดำเนินไปตามทิศทางที่นางได้คิดไว้. สิ่งที่นางวางแผนเอาไว้นั้นอยู่ในสายตาตลอดมา.
อย่างไรก็ตาม-
การโจมตีครั้งเดียวของเจี้ยงเฉินได้ทำลายล้างภาพลวงตาของหัวหน้าชูอยู่อย่างไร้ความปราณี,ทำลายความปรารถนาที่ไม่สมจริงของนาง,ปล่อยให้นางจมทุกข์กับภาพที่หลงยู่ซื่อถูกฟันเป็นสองท่อน,เป็นความทรงจำน่ากลัวที่จะถูกฝังลึกในใจของนางตลอดไป.
ทุกความฝันที่สวยงามของนางแตกออกเป็นเสี่ยงๆทันที.
นางพยายามอย่างหนักเพื่อความฝันอันสวยหรูนี้,นางยอมทิ้งความเป็นมนุษย์และความเมตตา. สาวกคนหมายเลขสี่ของนางฮัวหวิ๋นพิการ,สาวกหมายเลขสามไห่เทียนตาย,ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชูชิงหาน,ที่แย่ไปกว่านั้นสาวกหมายเลขหนึ่งเสี่ยงชี่ก็หันมาทรยศต่อนิกาย.
ทั้งหมดนี้เพื่อหลงยู่ซื่อ.
ร่องรอยของความเสียดายกระพริบผ่านหัวใจของนาง.
บรรพบุรุษนักล่าตะวันดึงสติตัวเองด้วยการสูดลมหายใจขณะที่ความขุ่นเคืองปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา. เขาตะโกนว่า "ใครกันที่กล้าโจมตีข้า? ข้าขอให้เจ้าออกมาเจอกันซึ่งๆหน้า "
เจี้ยงเฉินได้ล้างอารมณ์ความรู้สึกที่หลงทางของเขาเมื่อเขาได้ฆ่าหลงยู่ซื่อในขณะนี้. ตอนนี้เขากำลังอยู่ในช่วงเตรียมพร้อมและเฝ้าระวังเผื่อว่าบรรพบุรุษนักล่าตะวันจะไร้ยางอายพอที่จะโจมตีเขาเพราะความแค้น.
อย่างไรก็ตามบรรพบุรุษนักล่าตะวันก็ระวังตัวเนื่องจากสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น. เขาโกรธและจ้องมองสังเวียน,แต่ก็ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า.
เห็นได้ชัดว่าลูกสนที่ถูกนำมาใช้เพื่อหยุดยั้งเขาทำงานได้ดีเกินคาด,ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวและประหม่า.
"เจี้ยงเฉิน,มาหาข้า" บรรพบุรุษพันใบแสดงความประทับใจอันสูงส่งในขณะนี้.
นิกายตะวันม่วงควรทำความเข้าใจ. การฆ่าคู่ต่อสู้ระหว่างการแข่งขันเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล.
ทำไมบุคคลอื่นของนิกายต้องยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการปะลอง? ด้วยแบบอย่างที่ไม่ดีดังกล่าว,ใครจะเคารพรักษากฏระเบียบของนิกายในอนาคต?
บรรพบุรุษนักล่าตะวันคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่จึงชอบเอาเปรียบคนอื่น.
ดีที่มีเรื่องบังเอิญที่ไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น,เมื่อเขาเข้าใกล้สังเวียนเขาจึงโดนโจมตีจนกระเด็นไปไกลจากพลังไร้เทียมทานที่ไม่มีที่มา.
บรรพบุรุษพันใบไม่สนใจเรื่องของบรรพบุรุษนักล่าตะวันเลยในขณะนี้. เขารู้เพียงว่านิกายพฤกษาสวรรค์ได้เก็บทรัพย์สมบัติ,มันจะเป็นสมบัติที่จะคงอยู่เนิ่นนาน.
จะไม่มีอันตรายอันใดเกิดขึ้นกับอัจฉริยะที่มีค่าคนนี้.
นี่เป็นจุดเปลี่ยนที่นิกายพฤกษาสวรรค์จะได้เคลื่อนไปสู่ความรุ่งโรจน์.
อัจฉริยะที่สามารถสังหารร่างฟีนิกซ์สวรรค์ได้อย่าง่ายดาย.
มูลค่าของอัจฉริยะคนดังกล่าวจะต้องถูกพิจารณาอย่างถี่ถ้วน.
แม้แต่บรรพบุรุษเกาสิงโตก็รู้สึกอิจฉา. อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงมีความสุขเพราะเขาเหลือทนกับการบ้าอำนาจของนิกายตะวันม่วง,ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่อันดับหนึ่งอีกต่อไป.
พวกเขาไม่ใช่นิกายที่มีอัจฉริยะที่แข็งแกร่งอีกแล้ว.
"บรรพบุรุษพันใบ,ข้าขอแสดงความยินดีด้วย" เสียงของบรรพบุรุษละอองน้ำแข็งมีความอิจฉา,ถึงกระนั้นนางรักษาภาพพจน์ที่ดีเอาไว้และแสดงความยินดีกับเจี้ยงเฉิน.
นิกายพฤกษาสวรรค์ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้.
เทียนฮงรีบพูดว่า "ลูกพี่,ท่านควรมายืนใกล้ๆบรรพบุรุษของเราเผื่อว่าจะมีใครสิ้นคิดพรวดพราดเข้ามาโจมตีท่านอีก."
พูดตามความจริง,มีบางคนในหมู่ผู้บริหารอาวุโสของนิกายม่วงต้องการทำเช่นนั้น.
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าทั้งสามนิกายได้ตกลงกันไว้แล้ว. ถ้านิกายตะวันม่วงทำตัวหยาบคาย,พวกเขาจะกระตุ้นความโกรธจากอีกสามนิกาย.
ในทำนองนี้,นิกายตะวันม่วงจะมีปัญหาขัดแย้งกับอีกสามนิกาย.
เจี้ยงเฉินหัวเราะเบาๆและกระโจนออกจากสังเวียน.
แรงสั่นสะเทือนครั้งยิ่งใหญ่เขย่าพื้นดินอีกครั้ง.
ความรุนแรงของการสั่นสะเทือนนี้มหาศาลและมีพลังมากขึ้นกว่าที่เป็นมาก่อน.
"นี่ไม่ใช่เรื่องดี,ค่ายกลกำลังสั่นคลอน !" บรรพบุรุษเก้าสิงโตเป็นคนแรกที่ตอบสนอง.
ใบหน้าของบรรพบุรุษนักล่าตะวันที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นเปลี่ยนไปเมื่อเขาสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือน. คิ้วของเขาร่องลงเล็กน้อยขณะที่มองไปยังอากาศ,เขาจ้องมองเจี้ยงเฉินอย่างถมึงทึงอยู่ชั่วครู่. เขากัดฟันแน่น,แต่ตัดสินใจที่จะดำเนินการ. "ค่ายกลของภูเขากำลังจะแตก,ทุกคนหนี !"
ไม่มีใครสองจิตสองใจ. ทุกคนรู้ดีว่าเมื่อพลังวิญญาณที่เปิดใช้งานค่ายกลนั้นหมดลง,ภูเขาอมตะจะถูกปิดตลอดกาล.
เมื่อมันปิดแล้วก็เกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีออกไป.
ฝูงชนชุมนุมและพุ่งลงมาที่ภูเขา.
เจี้ยงเฉินไม่ตามพวกเขาไป,ร่างของเขากระพริบและรีบไปยังอีกส่วนหนึ่งของภูเขา.
“ลูกพี่? ทำไมท่านไม่รีบหนี? " เทียนฮงรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเจี้ยงเฉินแหวกตัวไปอีกทาง.
"เทียนฮง,พวกเจ้าออกไปก่อน,ข้ายังมีบางเรื่องต้องสะสาง"
เจี้ยงเฉินนึกถึงสิ่งที่เขาต้องทำ.
เทียนฮงลากเท้าขนาดใหญ่ตามเจี้ยงเฉินและพูดว่า "ลูกพี่,ข้าดูเหมือนกับคนที่กลัวความตายและยังหนีเอาชีวิตรอดคนเดียวอย่างนั้นหรือ?"
หลิวเวิงคัยก็หยุดและกำลังจะพูดทันใดนั้นบรรพบุรุษเก้าสิงโตก็คว้าตัวเขาไว้,เขาพูดเสียงดังว่า "ไม่ต้องพูดพล่าม,ออกไปกับข้าเดี๋ยวนี้ !"
ตอนนี้บรรพบุรุษเก้าสิงโตมองว่าหลิวเวิงคัยเป็นสมบัติที่มีค่ามากที่สุดของเขา,เขาจะยอมให้คนของเขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
ราวกับว่ามีหมุดเหล็กปิดล้อมหลิวเวิงคัยไว้,ขณะที่บรรพบุรุษเก้าสิงโตคว้าตัวเขาไป. เขาไม่สามารถขยับได้เลย. บรรพบุรุษเก้าสิงโตเอาหูไปนาเอาตาไปไร่,เขาไม่สนใจและจะไม่ปปล่อยหลิวเวิงคัยไว้ที่นี่.
บรรพบุรุษพันใบต้องการจะหยุดเทียนฮง,แต่เหล็กหลงดึงเขาไว้. "บรรพบุรุษ,ท่านไม่ควรเสี่ยง. เราควรรีบออกไป ! "
บรรพบุรุษพันใบตอบกลับด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง"เจี้ยงเฉินยังไม่ออกไป,ทำไมข้าต้องรีบร้อนด้วย?”
เหล็กหลงรีบแย้ง "นิกายพฤกษาสวรรค์อยู่ได้โดยไม่มีเจี้ยงเฉิน,แต่ไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีท่าน. ! บรรพบุรุษ,เราจะถูกรุกรานและถูกกดขี่ในอีกไม่กี่นาทีหากไม่มีท่านอยู่ ! "
บรรพบุรุษพันใบขยับตัวเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้,เขามองไปตามทางของเจี้ยงเฉินพลางถอนหายใจ. เขาพึมพำกับตัวเองว่า "เจี้ยงเฉิน,เจี้ยงเฉิน,เจ้าต้องดูแลตัวเอง."
ไม่ใช่ว่าเขากลัวความตาย,แต่เขารู้ดีว่าเขาสำคัญกับนิกายแค่ไหน. ถ้าเขาหายตัวไปในภูเขาอมตะ,นิกายตะวันม่วงจะเผาผลาญนิกายพฤกษาสวรรค์จนสูญสิ้นอย่างรวดเร็ว.
ซี่เทียนชูและเหล็กหลงเป็นผู้อาวุโสที่ไม่สมควรที่จะปกครองนิกาย,ไม่ต้องพูดถึงการตอบโต้และการแก้แค้นที่เลวร้ายจากนิกายตะวันม่วง.
เขาหยุดชั่วคราว,และบินลงจากภูเขาอย่างไม่เต็มใจ.
เขาหันหลังกลับไปหลายครั้งเพื่อดูว่าเจี้ยงเฉินตามพวกเขามาหรือไม่,แต่เขาก็ไม่เห็นใคร.
เทียนฮงก้าวเท้ายางไปตามเจี้ยงเฉิน,จู่ๆมีพลังอันแข็งแกร่งผลักตัวเขาอย่างฉับพลัน.
ดูเหมือนว่าเทียนฮงจะกระเด้งเข้าสู่กำแพงที่มองไม่เห็น,เนื่องจากร่างของเขาผลักตกลงมาเหมือนว่าวที่เชือกขาด.
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ? ข้าตายแน่ ! " เทียนฮงถอนหายใจอย่างโศกเศร้า,เขาคิดว่าความตายอยู่ตรงหน้าเขา.
อย่างไรก็ตาม,เขาได้ลงจอดอย่างมั่นคงด้วยสองเท้าในเขตด้านนอกของภูเขาอมตะ,โดยไม่มีความเสียหายหรืออันตรายใดๆ,ราวกับว่าเขากระโดดลงมาเองอย่างนุ่มนวล.
"อะไร ... เกิดอะไรขึ้น ?" เทียนฮงงุนงงหลังจากที่เขาตกใจ,ใบหน้าของเขามึนตึง.
"เทียนฮง? เจ้าลงมาแล้ว? เจี้ยงเฉินอยู่ที่ไหน? " บรรพบุรุษพันใบรีบเข้ามาถาม.
เทียนฮงเกาศีรษะของตัวเอง,เขาไม่อยากจะยอมรับ. "บรรพบุรุษ,อย่าถามข้า,ตัวข้าเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำ !"
สมองของเขายุ่งเหยิง,เทียนฮงต้องการกลับขึ้นไปบนภูเขาทันใดนั้นเองบรรพบุรุษก็คว้าแขนเขาไว้. "เจ้าอยากตายหรือ? ค่ายกลกำลังจะพัง,และภูเขาจะถูกปิด "
เทียนฮงร้องว่า "แต่ลูกพี่ของข้ายังไม่ออกมา !"
"เจี้ยงเฉิน ... เจี้ยงเฉิน,ข้าหวังว่าเขาจะสามารถสร้างปาฏิหารได้อีกครั้งอย่างที่เขาทำมาตลอด" บรรพบุรุษพันใบถอนหายใจ.
มีคนอยู่ในสถานที่ที่เจี้ยงเฉินกำลังรีบวิ่งไปหา,นั่นก็คือชูชิงหาน !
ชูชิงหานต้องการตายมากกว่าละเมิดหลักการของตัวเอง. เขาไม่เลือกที่จะระเบิดมหาสมุทรวิญญาณของเขาเพื่อจะฆ่าเจี้ยงเฉิน,เพราะฉะนั้นเจี้ยงเฉินจึงได้แก้ไขความคิดเห็นของเขาหลังจากการต่อสู้.
นี่เป็นเหตุผลที่เขาใช้ดอกบัวเพื่อช่วยชีวิตชูชิงหานอย่างลับๆ.
เจี้ยงเฉินรีบเข้าไปในบ้านพัก,เขาวางชูชิงหานลงในผ้าห่มและวิ่งไปที่หน้าภูเขา.
เขารู้ว่าการก่อตัวของค่ายกลกำลังจะหายตัวไป,และถ้าเขายังช้าอยู่,เขาจะออกไปไม่ทัน.
อย่างไรก็ตาม,เขาก็รู้สึกแปลก ๆ. พูดด้วยเหตุผล,การก่อตัวของค่ายกลถูกทำลายไปก็จริง,มันน่าจะเปิดค้างอยู่ได้ถึงหนึ่งปีครึ่ง. ควรจะมีเวลาอีกพอสมควร,มิฉะนั้นนิกายทั้งสี่ก็คงจะไม่จัดการแข่งขันรอบสุดท้ายในวันนี้.
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดว่ายังมีเวลาเหลือเฟือ.
อย่างไรก็ตาม,ป้อมปราการป้องกันทั้งหมดดูเหมือนจะหายไปในช่วงเวลาสั้น ๆ. ค่ายกลได้รับความเสียหายอีกครั้งหรือ?
ตอนนี้เขาไม่สามารถคิดถึงเรื่องนี้ได้มากนัก,เขาใช้กำลังทั้งหมดของเขาที่สำรองไว้ในการรีบลงภูเขา.
ปัง !
เขายังคงวิ่งอยู่บนเส้นทางของภูเขา,ลำแสงสว่างทะลุไปถึงฟ้าที่ทางออก. เงาเปล่งประกายราวกับว่าโลกที่อยู่ข้างหน้าของเขากำลังจางหายไปและไม่มีชีวิตอยู่.
"แบบนี้,ไม่ดีซะแล้ว ! ค่ายกลเสียประสิทธิภาพและจะปิดตัวลงแล้ว! "
เจี้ยงเฉินตกใจมาก. แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง,แต่เขาก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับภูเขาอมตะในเวลานี้.
เมื่อมันปิดแล้ว,เขาก็ไม่สามารถออกไปได้นอกจากว่าบุคคลจากภายนอกจะมาช่วยเขา. มิฉะนั้นเขาจะติดอยู่ที่นี่ตลอดไป.
การก่อตัวของคลื่นระลอกกลายเป็นเงาที่มีเสียงดังและปิดเข้าด้วยกัน.
ตอนที่มันปิดตัว,เจี้ยงเฉินก็ยังคงอยู่บนเนินเขา.
เมื่อบรรพบุรุษพันใบเห็นภูเขาปิดตัวลง,เขาอึ้งเป็นเวลานาน. สายตาของเขาซึมเซาขณะที่เขามองไปยังค่ายกลที่ปิดตัว,เขาอยากร้องไห้,แต่หาน้ำตาไม่ได้.
อัจฉริยะที่เขาเพิ่งได้รับมาบินหนีไปจากเขาแล้วหรือ?
"บรรพบุรุษ,ลูกพี่ยังไม่ได้ออกมาเลย,ค่ายกลกลับปิดไปแล้ว. ตอนนี้ลูกพี่จะออกมาได้อย่างไร? " เทียนฮงกังวลในขณะที่เขากระโดดขึ้นและลง,เขาเกือบจะเป็นบ้าเพราะความกังวล.
เหล็กหลงรู้สึกรำคาญจึงพูดว่า, "ความพยายามของมนุษย์ไม่สามารถหยุดค่ายกลไม่ให้ปิดได้,เจ้าจะมาตะโกนโหวกเหวกให้มันได้อะไร"
เทียนฮงที่อารมณ์เสียอยู่แล้วและรู้สึกโกรธมากขึ้นเมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านี้. "เจ้าคนสารเลว,เจ้าอิจฉาที่ลูกพี่มีพรสวรรค์. เจ้าต้องการให้อัจฉริยะทั้งหมดในนิกายตายเพื่อให้หลานชายของเจ้าเหล็กต้าฉีสามารถครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างใช่หรือไม่? เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สุนัขขี้เรื้อนอย่างเหล็กต้าฉีไม่สามารถช่วยตัวเองให้ข้ามผ่านกำแพงได้ ! "
การแสดงออกของเหล็กหลงเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้. คำพูดของเทียนฮงดูเหมือนจะเป็นมีดที่แทงทะลุเข้าไปในหัวใจของเขา.