หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 368: การเปลี่ยนแปลงตอนรุ่งเช้า

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 368: การเปลี่ยนแปลงตอนรุ่งเช้า
เมืองได้รับการโจมตีแบบกะทันหัน ผลก็คือพวกคนธรรมดาต่างก็ปิดบ้าน แม้แต่ร้านค้าก็ยังต้องปิด พวกคนที่มีความกล้าพอแอบโผล่หัวออกมาส่องจากหน้าต่างแต่เมื่อเห็นยานที่ยิงลงมา พวกเขาต่างก็รีบถอยกลับไป

ตอนนั้นพวกคนที่ยังอยู่ตามท้องถนนล้วนแต่เป็นพวกระดับสูงจากวังไฮหยวนรึไม่ก็ตระกูลเฉิน

การต่อสู้มีให้เห็นทั่วทุกที่ของเมืองแต่ที่ที่ดุเดือดนั้นคือส่วนในเมืองที่ซึ่งเป็นรังของตระกูลเฉิน

ส่วนด้านในเมืองมีพื้นที่ 1 ตร.กม.ซึ่งมันเหมือนกับวังที่มีกำแพงล้อมรอบ  มันถูกคุ้มกันโดยกองทัพระดับสูงของตระกูลเฉิน นอกจากแบ่งกองทัพไปประจำที่ป้อมหินฟ้า  พวกที่แข็งแกร่งส่วนมากนั้นจะมารวมตัวกันที่นี่

ตอนแรกของการโจมตี ยานของวังไฮหยวนได้ทำลายการป้องกันทางปราสาทและกำแพงส่วนรอบป

วังไฮหยวนได้ส่งคนมาที่เมืองนี้กว่า 4000 คนจากพวกกองทัพและนักเรียนระดับสูงของวังมังกรลับ พวกเขาจัดการหน่วยป้องกันทางอากาศได้ในเวลาอันสั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ฝ่ากำแพงสองชั้นเข้าไปและเข้าใกล้ส่วนในของตระกูลเฉินได้

ใจกลางเมืองนั้นคือศาลาของตระกูลเฉิน ที่พักของพวกศูนย์กลางและพวกสาขาต่างๆและตำแหน่งใจกลางสิทธิต่างๆ  การออกแบบนี้ซับซ้อนมีพื้นที่กว่า 135,000 ตร.ม. หลังจากที่นักเรียนเข้าโจมตีป้อมหินฟ้าได้สำเร็จ  กองทัพระดับสูงของวังไฮหยวนก็ได้พุ่งเข้าโจมตีรังของตระกูลเฉินทันที
...
หลานหยุนซี ที่ซึ่งอยู่อันดับหนึ่งเรื่องความแข็งแกร่งได้แสดงพลังอันน่ากลัวในฐานะอันดับหนึ่งของวังมังกรลับออกมา ในชุดเกราะที่สง่านั้น หลานหยุนซี ได้เหวี่ยงแส้ของเธอไปมา ผลก็คือไม่มีศัตรูคนไหนเข้ามาใกล้ในระยะ 15 ม.ได้

เมื่อเจอกับลูกดอกที่กระหน่ำเข้ามา  หลานหยุนซี ได้รับมันไว้ด้วยแส้ของเธอ  เธอเหวี่ยงมันไปด้านหน้าและสร้างวงกลมป้องกันขึ้นมา แม้แต่หยดน้ำก็ไม่อาจจะเข้ามาได้ซึ่งในที่สุดลูกดอกต่างก็แตกกระจายตกไปตามพื้น

หลานหยุนซี พุ่งไปข้างหน้าราวกับสายฟ้าและไปถึงที่ตีนกำแพงได้ในเสี้ยววินาที เธอฟาดแส้ของเธอเข้าใส่พวกพลยิงที่อยู่บนกำแพงและตัดพวกนั้นให้ขาดราวกับเศษฟาง  สุดท้ายพวกนั้นก็ตกลงมาจากกำแพงและตายไป

แม้ว่า จางเทีย จะมาอยู่ที่นี่แต่เมื่อเห็นท่าการเคลื่อนที่ที่ดุดัน เขาก็ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

หลานหยุนซี พุ่งขึ้นไปตามกำแพง ไม่นานหลังจากนั้นทหารเกราะดำก็ต้องร้องโหยหวนออกมาแล้วตกลงมาจากกำแพง ในไม่กี่วินาที ด้านบนกำแพงที่ยาวหลายสิบเมตรก็ถูกจัดการโดย หลานหยุนซี ...

ในอีกด้านกองทัพของวังไฮหยวนเองก็ต้องเผชิญหน้ากับลูกดอกที่ยิงเข้ามาในตอนที่เข้าไปใกล้กำแพง

เมื่อเห็นลูกดอกที่ยิงเข้ามา จางวูมู ที่ซึ่งถือขวานอันใหญ่ก็คลั่ง หลังจากที่โบกขวานเขาสับลูกดอกทั้งหมดแล้ว เขาก็ได้วางขวานเขาลงและดึงหน้าไม้ออกมาจากหลัง

“ บัดซบ พวกแกกล้ามาเล่นยิงธนูต่อหน้าข้าเนี้ยนะ ... “ – จางวูมู ตะโกนออกมาอย่างกับเสือ

ไม่นานหลังจากที่คำราม เขาก็ได้ยิงลูกดอกของเขาออกไปด้วยความเร็วที่เทียบกับสายฟ้า  ลูกดอกสี่ลูกแต่ละครั้งถูกยิงออกมา เขายิงได้ 6 ครั้งใน 1 วินาที บอกเลยว่า 24 ลูก  ไม่มีใครเห็นว่าเขาเคลื่อนที่ยังไง  ในเสี้ยววินาที่ก่อนที่พลยิง 6 แถวนั้นจะได้ยิงลูกดอกอันที่สองออกมา พวกเขาต่างก็ถูกยิงโดยลูกดอกที่เหมือนกับเปลือกหอย  ด้วยเสียงร้องที่ร้องออกมา ตัวของพวกเขาได้ชุ่มไปด้วยเลือดและมีรูอยู่ที่ตัวแล้วกระเด็นออกไป

ลูกดอกของ จางวูมู นั้นทรงพลังมากซะจนพวกที่ยืนเรียงแถวอยู่ด้านบนนั้นโดนแทงทะลุแล้วกระเด็นออกไป ตราบใดที่ลูกดอกนั้นไปโดนตัว มันจะเกิดรูขึ้นมา

ในเสี้ยวพริบตา จางวูมู ก็ได้จัดการพวกพลยิงที่อยู่บนกำแพงได้ ในทางกลับกัน ยูเสี่ยวเทียน ในชุดขาวก็ได้กระโดดขึ้นไปบนกำแพงสูงตรงหน้า

ในเสี้ยวพริบตาแสงดาบก็ได้ปรากกฎขึ้นซึ่งดูเหมือนแสงจากพระจันทร์เสี้ยวและทำให้ศัตรูนั้นตกลงมาทีละคนๆโดยแต่ละคนต่างก็เอามือกุมคอตัวเอง ใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นทหารธรรมดารึเจ้าหน้าที่ กำลังทำการโจมตีรึป้องกันต่างก็ตายทันทีด้วยดาบของ ยูเสี่ยวเทียน....
เมื่อเห็น ยูเสี่ยวเทียน กระโดดขึ้นไปบนกำแพงก่อน จางวูมู ก็ด่าขึ้นมาในใจ หลังจากที่เก็บหน้าไม้ใส่หลังไว้แล้ว จางวูมู ก็ได้ยกขวานของตัวเองขึ้นและวิ่งไปที่ประตูที่อยู่ด้านล่างกำแพง  ด้วยการยังไปไม่ถึงเขายกขวานขึ้นมาแล้วโยนมันออกเข้าไปใส่ประตูจนเกิดเสียงดังแปลกๆออกมา

แม้ว่าจะตีด้วยตะปูทองแดงแต่ประตูหนาๆนั้นก็แตกกระจายเป็นชิ้นๆพร้อมกับเสียงร้องที่ดังขึ้นมาจากข้างหลังประตู  จางวูมู รีบพุ่งเข้าไปทันที...

ทหารจำนวนมากของวังไฮหยวนได้ตามเข้าไป..
ในเสี้ยวนาที บาเรียอันสุดท้ายของส่วนในตระกูลเฉินก็พังทลายลง

“ พวกคนที่ไม่ใช่ตระกูลเฉินจะรอดถ้าคุกเข่าลงกับพื้น !  “- บางคนตะโกนออกมา
...
พวกคนที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งได้สังเกตการณ์สงครามด้านล่างผ่านทางอุปกรณ์คริสตัลที่อยู่ด้านล่างยาน

“ พวกนักเรียนที่อยู่อันดับสูงของรายชื่อความแข็งแกร่งนี่สุดยอดจิรงๆ หลังจากที่ได้รับการแนะนำนิดหน่อย พวกเขาก็จะนำทัพได้ในอนาคต ! “ – เจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้พยักหน้าและพูดออกมา

“ นักสู้สูงกว่าระดับ 10 ในตระกูลเฉินมีกี่คน ? “ – เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามคนที่อยู่ข้างๆ

“ ตามที่ตรวจสอบมาแล้ว ตระกูลเฉินมีนักสู้ 12-15 คนที่อยู่สูงกว่าระดับ 10  เฉินซวน หัวหน้าคนก่อนของตระกูลเฉินอาจจะเป็นอัศวินไปแล้ว ! “ – เจ้าหน้าที่คนก่อนหน้านี้ตอบกลับด้วยท่าทีจริงจัง

“ เฉินซวน ? ข้ารู้จักเขา ตอนเขายังเด็ก เขาเองก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมในจินหนวน มันเกินกว่าที่คาดจริงๆที่เขาเป็นคนของกลุ่มปิศาจสามตา หวังว่าเขาจะเป็นอัศวินที่ข้าสู้ได้ “ - เจ้าหน้าที่คนนั้นโบกมือและถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นเขาก็ได้สติ – “ จางยี เจ้าลงไปได้แล้ว ถ้าพวกนักสู้สูงกว่าระดับ 10 ยังซ่อนตัวอยู่ พวกนั้นจะไม่มีโอกาสออกมาอีก อย่าให้เด็กๆต้องได้สูญเสีย พวกเขาคือเสาหลักของตระกูลในอนาคต แค่นี้ก็พอสำหรับพวกเขาแล้ว ! “

“ ได้ครับ !” – ชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่งตอบรับ เขาโบกมือและกระโดดลงจากยานพร้อมคนอีกกว่า 10 คน

พวกเขากระโดดลงไปโดยสูงกว่าร้อยเมตรอย่างกับอุกกาบาต ในตอนที่พวกเขาใกล้ถึงพื้น พวกเขาก็ได้ปล่อยพลังฉีต่อสู้ออกมาซึ่งส่ายไปมาราวกับมังกร หลังจากนั้นพวกเขาก็ลงไปที่พื้นโดยอากาศศรอบตัวนั้นได้สั่นเครือทำให้ความเร็วของพวกเขาลดลงและไปถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย
...
ในตอนที่พวกเขามาถึงพื้น พวกเขาเห็น จางวูมู นั้นกำลังโดนอัดและถูกอัดจนปลิวออกมาโดยคนที่อยู่ๆก็โผล่มาตรงหน้า  ในเวลาเดียวกันพวกนักเรียนที่แข็งแกร่งรวมไปถึง หลานหยุนซี และ ยูเสี่ยวเทีย ก็ตองถอยกลับมาเพราะพวกแข็งแกร่งที่สวมชุดดำ

ในตอนที่พวกนั้นโผล่ออกมา พวกนักเรียนต่างก็ต้องกลัว

ยูเสี่ยวเทียน แทงดาบไปที่อกของอีกฝ่ายแต่ชายคนนั้นดูเหมือนจะไม่ได้สน เขากลับพุ่งมาข้างหน้าแล้วฟันเข้าใส่ ยูเสี่ยวเทียน

ยูเสี่ยวเทียน ทิ้งดาบของตัวเองแล้วดีดตัวกลับออกมา คนที่ไล่ตามนั้นแม้ว่าจะโดนดาบของ ยูเสี่ยวเทียน แทงไปแต่น่าทึ่งที่เขาไม่ได้เลือดออกเลยสักนิด

เทียบกันแล้วคนที่ทำให้ หลานหยุนซี ต้องถอยกลับนั้นแข็งแกร่งกว่า หลังจากสู้กันได้ 3 รอบ ชายคนนั้นก็ทำให้ หลานหยุนซี ต้องถอยมากว่า 10 ม. หลังจากเคลื่อนที่อีกสองครั้ง  เขาก็ได้ทำลายการป้องกันของแส้ได้และเอื้อมมือสีดำออกมาใส่ที่อกของ หลานหยุนซี

“ ระวัง รุ่นพี่ซี พวกนี้แข็งแกร่งและไม่รู้สึกเจ็บด้วย  !” – เด็กคนหนึ่งมีสีหน้ากระอักกระอ่วนได้ตะโกนออกมาหาเธอโดยที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร

หลังจากที่ปะทะกับหมัด หลานหยุนซี ได้กระเด็นไปกว่า 10 ม.ในเสี้ยวพริบตา  ในขณะเดียวกันแส้ของเธอก็กลับไปขดที่เอว  จากนั้น หลานหยุนซี ก็ปลดหน้าไม้ที่หลังออกมา

หน้าไม้นี้เล็กและดูเหมือนเอาไว้ใช้สำหรับเด็ก  มันยาวแค่ 22 ซม. เมื่อเห็นมันแล้วทุกคนต่างก็จะพากันสงสัยในพลังของมัน

หลานหยุนซี ดึงหน้าไม้ของเธอออกแล้วเล็งไปที่ชายคนนั้น

ชายคนนั้นได้พุ่งเข้าใส่ หลานหยุนซี  ในเสี้ยวพริบตาเขาก็อยู่ห่างจากเธอแค่ 3 ม.ในตอนที่เธอเพิ่งจะดึงลูกธนูออกมา

ในตอนที่เขาเห็นว่าโดนเล็งอยู่ สีหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนไป เขาเริ่มถอยด้วยท่าทีแปลกๆสลับซ้ายขวาเพื่อหลบการโจมตีของ หลานหยุนซี ไม่นานเขาก็ได้ถอยห่างออกไปกว่า 40 ม.

ตอนนั้น หลานหยุนซี ได้ยิงหน้าไม้ของเธอออกไป

เกือบจะทันทีที่เธอยิง ชายคนนั้นได้ร้องโหยหวนออกมา ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นลูกไฟและเผาไหม้เป็นเถ้าในทันที

นี่ทำให้ทุกคนช็อกแต่ หลานหยุนซี ไม่ได้หยุดแค่นั้น เธอใส่ลูกดอกเข้าไปอีกครั้งแล้วยิงออกมาเป็นครั้งที่สอง

ชายชุดดำที่ไล่ตาม ยูเสี่ยวเทียน เองก็เปลี่ยนเถ้าในวินาทีนั้น  ยูเสี่ยวเทียน หันกลับมาและมองไปที่ หลานหยุนซี   เขาพบว่า หลานหยุนซี น่ะดูหน้าซีดในตอนที่จะยิงลูกดอกลูกที่สาม ผลก็คือชายชุดดำที่ไล่ตาม จางวูมู ก็เปลี่ยนเป็นเถ้าไปด้วย

“ ยิงได้สวย ! “- จางยี ถอนหายใจออกมา คนอื่นๆเองก็โล่งใจไปด้วย พวกคนแข็งแกร่งของวังไฮหยวนใช้โอกาสนั้นเข้าโจมตีทันที

หลังจากยิงลูกดอกไปสามครั้ง หน้าของ หลานหยุนซี ซีดสนิท เธอเซไปมา ไม่ใช่แค่ ยูเสี่ยวเทียน และ จางวูมู ที่ซึ่งรีบวิ่งเข้ามาหาเธอ พวกคนที่โด่งดังในรายชื่อความแข็งแกร่งต่างก็พากันพยายามมาปกป้องเธอ

ในตอนที่ ยูเสี่ยวเทียน ใช้มือของเขาประคองเธอไว้ หลานหยุนซี ได้มองไปที่เขาแบบไม่รู้สึกอะไร  จากนั้นเขาก็ได้เอามือของเขาออกและถอนหายใจ

“ รุ่นพี่ซี เธอเป็นไรมั้ย ? “ - คนหนึ่งได้ถามออกมา

หลานหยุนซี สูดลมหายใจเข้าลึกๆและพยายามทนี่จะยืนและส่ายหน้า – “ ข้าไม่เป็นไร .. “

ตอนนั้นนักเรียนทุกคนจากวังมังกรลับต่างก็มองไปที่ หลานหยุนซี ด้วยความชื่นชม ความแข็งแกร่งที่  หลานหยุนซี ได้แสดงออกมาตะกี้นั้นทำให้ทุกคนเลิกคิดที่จะไต่ขึ้นไปอันดับหนึ่งของรายชื่อความแข็งแกร่ง

จางวูมู จ้องไปที่ หลานหยุนซี ด้วยอารมณ์มากมาย ‘ นี่คือพลังของลูกดอกทำลายอาทิตย์ เชื้อสายที่แข็งแกร่งที่สุดในสายเลือดของตระกูลจางเหรอ ?  แม้ว่าลูกดอกแทงทะลุเมฆของข้าจะถือว่าเป็นสายเลือดที่ยอดเยี่ยมในด้านธนูแต่มันก็ยังคงอ่อนแอกว่ามาก  ถ้าเอามาเทียบกัน..ทำไม ทำไมสายเลือดแบบนี้ถึงได้ชอบผู้หญิงแทนที่จะเป็นข้า ? ‘

ต่อหน้าทุกคน หลานหยุนซี ได้เอาขวดยารักษารอบด้านออกมาและดื่มมันจนหมดขวด

หลังจากที่ดื่มไปแล้วเธอพักแค่เพียงเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าของเธอก็ดีขึ้น ทุกคนตระหนักได้ว่าลูกดอกสามลูกนั้นได้กินแรงเธอไปมหาศาล แม้ว่าเธอจะฟื้นตัวขึ้นมาแต่พลังต่อสู้เธอก็จะลดลง ดังนั้นแล้วพวกระดับสูงของวังมังกรลับก็จะอยู่ข้างๆเพื่อคอยปกป้องเธอ

หลานหยุนซี ถือขวดยาไว้และเริ่มพยายามฟื้นตัว ในตอนที่เธอคิดถึง จางเทีย  เธอก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ
...

เพราะพวกแข็งแกร่งพวกสุดท้ายที่สูงกว่าระดับ 10 นั้นโดนฆ่า การต่อสู้ที่เขตหลักของเมืองจึงสงบลง ผลก็คือเขตหลักของเมืองนั้นโดนล้อมไว้ด้วยพวกวังไฮหยวน เหลือเพียงแค่พวกที่อยู่ในศาลาของตระกูลเฉิน

ในศาลานั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่ากลัว ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าเขาไปโจมตี พวกเขายืนห่างจากที่นั่นกว่า 50 ม.
...
“ ถ้าพวกเจ้าไม่ตอบโต้ ตระกูลเฉินจะโดนกำจัดในวันนี้ ! “ – ชายวัยกลางคนคนหนึ่งได้ตะโกนออกมาด้านนอกศาลา ส่วนคนอื่นๆที่ยังรอดต่างก็ร้องโอดครวญ

“ แม้ว่าจะตอบโต้แต่ตระกูลเฉินก็ต้องโดนกำจัดในวันนี้อยู่ดี  !”

ประตูศาลาได้เปิดออกจากด้านใน ชายชรา เคราสีเงินเดินออกมา หลังจากที่มองไปยังลูกหลานตัวเองที่คุกเข่าอยู่ด้านนอก เขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังยาน – “ ข้าสงสัยว่าพวกผู้ใหญ่ของวังไฮหยวนจะมามั้ย เรามาคุยกันได้มั้ย ?”

“ หลังจากที่แยกกันจากเมืองเซียจิงเมื่อสี่สิบปีก่อน ข้าไม่คิดว่าข้าจะได้เจอเจ้าอีก พี่เฉิน น่าเสียดายจริงๆ ! “

เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากยานด้านบน  มันเป็นธรรมดาที่ทุกคนจะได้ยินมันอย่างชัดเจน

พร้อมกับเสียงนั้นมีชายคนหนึ่งได้เดินออกมาจากยานในอากาศแล้วเดินลงมาเหมือนกับลงบันไดทีละก้าวๆ

สมาชิกวังไฮหยวนต่างก็มีกำลังใจเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นผู้นำเดินลงมาแบบนี้ ในทางกลับกันพวกตระกูลเฉินต่างก็หน้าซีด บางคนถึงกับตัวสั่นเลยก็มี

แม้ว่าพวกเขาจะกล้าเผชิญหน้ากับวังไฮหยวน ในตอนที่พวกเขาเจอความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกผู้นำวังไฮหยวน ทุกคนในตระกูลเฉินต่างก็กลัว

“ พี่เมี่ยนนี่เอง ! “ - เมื่อเห็นผู้นำของวังไฮหยวน เฉินซวน ก็ได้ถอนหายใจ – “ ผู้แข็งแกร่งร้อยปีของตระกูลเฉินจะต้องถูกทลายวันนี้  น่าเสียดายจริงๆ ! “

“ ถ้าเจ้ารู้แบบนี้แต่แรกแล้วเจ้าจะทำไปทำไม ?”  - จางเมี่ยน มองไปที่ เฉินซวน และพูดออกมาอย่างใจเย็น

“ ผู้แพ้มักจะผิด ! เพราะสงครามครั้งที่สามกำลังมา ทุกอย่างจึงวุ่นวาย แน่นอนว่าเราเองก็อยากจะลอง น่าเสียดายที่ตระกูลเฉินน่ะโชคร้ายและแพ้การต่อสู้ ! วังไฮหยวนมีอัศวินสี่คน ทำไมตระกูลเฉินจะมีอัศวิน 9 คนไม่ได้ในอนาคต  !”  - เฉินซน ยิ้มออกมา

“ เพราะเจ้าน่ะเป็นแค่ลูกน้องปิศาจ มันไม่มีความหายที่ตระกูลเฉินจะมีอัศวิน 9 คนหรอก ! “

“ ข้าไม่เห็นด้วยกับเจ้า พี่เมี่ยน ก่อนภัยพิบัติ มนุษย์ถูกปิศาจปกครอง ในยุคนั้นหลายคนรู้เรื่องปิศาจ แม้แต่คนจีนก็ยังร่วมมือกับปิศาจก็มีและได้เป็นตัวแทนของปิศาจในการปกครองคนจีนมาหลายปี มันไม่ได้มีอะไรแย่แม้ว่าเราจะอยู่แบบนั้น ! เอาจริงๆไม่ว่าโลกนี้จะเปลี่ยนไปยังไง มันก็ต้องมีจนและรวย เจ้านายและทาส, ผู้ดูแลและบริวาร  กฎทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “

“ คนจีนที่ยังรอดมาได้ถือว่ามีเกียรติ บางตระกูลอยู่มาอย่างน้อยพันปีและได้เป็นผู้นำของเผ่ามนุษย์ แล้วเรื่องคนที่ทรยศซึ่งได้ร่วมมือกับปิศาจจะมาเกี่ยวอะไรด้วย ? ตระกูลพวกนั้นไปไหนกันแล้วล่ะ ? “ – จางเมี่ยน ถาม

หลังจากที่เงียบสักพัก เฉินซวน ก็ได้พูดขึ้น – “ หลังจากที่ตาย ข้าก็ไม่สนเรื่องคนอื่น ! “

“ นั่นแหละว่าทำไมตระกูลเฉินต้องตายในวันนี้ ! “

“ ยังมีทหารอีกนับหมื่นในเมือง ข้ายกพวกนั้นให้วังไฮหยวนกับเมืองนี้เพื่อให้พวกนั้นรอด ข้ายืนยันได้ว่าหลังจากที่เราตระกูลเฉินออกจากเมืองนี้ไป เราจะเปลี่ยนชื่อและไปอยู่ในที่ห่างไกลแบบเก็บตัวตลอดกาล ! “

จางเมี่ยน ส่ายหน้า – “ ถ้าเจ้ายอมฆ่าตัวตายตอนนี้ ข้าจะเก็บร่างของเจ้าไว้แล้วไปฝังให้ เพราะตระกูลเฉินร่วมมือกับปิศาจและต่อต้านวังไฮหยวน เจ้าควรที่จะโดนกำจัดนานแล้ว ! ถ้าเจ้าต้องการให้ยกโทษ  วังไฮหยวนคงทำไม่ได้ ถ้าวังไฮหยวนต้องการจะยกโทษให้เจ้าแต่พวกคนอื่นคงไม่.. “

“ ตระกูลเฉินมีทหารนับหมื่นในเมือง เราก็ยังสามารถสู้กับเจ้าได้ เจ้าคิดว่าจะทำลายกองทัพหมื่นคนได้ด้วยคนพวกนี้เหรอ  แม้ว่าพวกนั้นจะเป็นพวกที่แข็งแกร่งทั้งหมดก็เถอะ ? “

จางเมี่ยน ยิ้มออกมา – “ เราได้ยึดจุดเหนือเมฆและหินฟ้าเอาไว้แล้ว ประตูเมืองทั้งสองก็อยู่ในกำมือแล้ว ข้ากลัวว่าทหาร 40,000 คนของตระกูลไทชิในเขตแลงอาจจะเข้ามาในเมืองตอนนี้แล้วก็ได้   กองทัพของตระกูลเฉินในเมืองน่ะต้องรับมือกับพวกนั้นในไม่ช้า  ข้าได้ยินมาว่า เฉินซวน ได้ขึ้นเป็นอัศวินแล้ว ข้าสงสัยว่าถ้าเจ้ารู้เรื่องพลัง 3 ใน 1 จริง ถ้าเจ้าอยากสู้ ข้าก็จะสู้ด้วย ! “

“ กลับเป็นว่าวังไฮหยวนยึดเมืองนี้ไว้แล้วและร่วมมือกับตระกูลไทชิ แผนที่ดีจริงๆ ! กลยุทธที่ดีใช้ได้  !” – เฉินซวน ถอนหายใจออกมาและมองขึ้นไปบนฟ้า

“ ขอบคุณ เจ้าอยากที่จะตายเองรึสู้ล่ะ พี่เฉินซวน ? “”

“ ข้ารู้ความแข็งแกร่งเจ้าแล้ว พี่เมี่ยน แม้ว่าข้าอยากจะสู้จนตายแต่ข้าก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะชนะ ข้ามีคำถามสุดท้าย วังไฮหยวนรู้เรื่องของเราในเขตไฮหยวนได้ยังไง ? ถ้าข้าไม่รู้ ข้าคงตายตาไม่หลับ ! “

เมื่อได้ยินคำถามนั้น จินเมี่ยน ก็ได้ลังเลไปสักพัก ‘ ถ้าไม่ใชเพราะผู้กำจัดความมืด ข้ากลัวว่าวังไฮหยวนอาจจะอยู่ในความมืดต่อแต่ใครกันที่ใช้ชื่อนี้ ? เขาตัวคนเดียวรึเป็นกลุ่ม ? วังไฮหยวนยังคงสับสนเรื่องนี้จนถึงตอนนี้เลยก็ว่าได้  สิ่งที่วังไฮหยวนยืนยันได้กับผู้กำจัดความมืดก็มีเพียงแค่ว่าเขาเป็นผู้ชายรึเป็นหนึ่งในคนที่สร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตได้ ‘

วังไฮหยวนยังคงตามหาผู้กำจัดความมืดอยู่

แน่นอนว่าในฐานะผู้นำของวังไฮหยวน เขาคงไม่บอกความจริงกับ เฉินซวน เรื่องนี้ ดังนั้นแล้ว จางเมี่ยน จึงเงียบไป

เมื่อเห็นแบบนั้น  เฉินซน จึงคิดหาเหตุผลอื่น

“ ข้ารู้แต่เมืองสวรรค์น่ะเป็นของตระกูลเฉิน มันสร้างขึ้นมาโดยตระกูลเฉินรุ่นสู่รุ่น ไม่มีใครเอามันไปได้ แม้ตระกูลเฉินจะตายในวันนี้แต่เมืองนี้ก็จะถูกฝังไปกับเราด้วยจะให้คนอื่นมาแย่งไปไม่ได้ ! “ – เมื่อพูดจบ เฉินซวน ก็ได้เผยรอยยิ้มอันบ้าคลั่งออกมา

เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเมี่ยน ก็ได้เปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย – “ เจ้าหมายความว่าไง ?”

เขามองไปรอบๆ เฉินซวน ได้เอาหนอนไหมสีดำออกมาจากแขนเสื้อ  มันกว้างพอๆกับแขนเด็ก มันใหญ่กว่าหนอนไหมธรรมดาหลายสิบเท่า

ในตอนที่เขาเอามันออกมา หนอนไหมได้เริ่มบิดตัว หน้าของ จางเมี่ยน เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาได้คำรามออกมาด้วยความหงุดงหิด – “ สมาชิกทุกคนของวังไฮหยวน ถอยออกจากเมืองเดี๋ยวนี้  ! “

“ ให้เมืองนี้ของตระกูลเฉินได้เป็นของขวัญจากปิศาจ ที่มอบให้ทวีปไว่ ! ฮาฮา ... “  - ด้วยเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่ง เขาได้ทำลายหนอนในมือ

ในตอนที่หนอนตัวแตกออก พวกตระกูลเฉินที่ยังรอดต่างก็ตาถลนและกลิ้งไปมากับพื้นและร้องโหยหวนออกมา ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงร้องแบบเดียวกันดังไปทั่วทั้งเมืองซึ่งทำให้มันเหมือนกับเป็นนรก


จางเมี่ยน คำรามออกมาแล้วพุ่งเข้าใส่ เฉินซวน ด้วยหมัดเดียวที่มีแสงสีแดงส่องออกมา  ศาลาและพวกคนของตระกูลที่กลิ้งอยู่กับพื้นนั้นได้แตกออกเป็นชิ้นๆ

เฉินซยน กระโดดขึ้นและหลบการโจมตีของ จางเมี่ยน  ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ดึงดาบยาวออกมาและเริ่มสู้กับ จางเมี่ยน..
...

หลังจากที่สั่งการแล้ว ไม่มีใครสักคนในวังไฮหยวนที่มามัวถามว่าทำไม พวกเขาได้ออกจากส่วนในของเมืองให้เร็วที่สุด ไม่มีใครกล้าที่จะอยู่รอเลย

หลังจากนั้นพวกนักเรียนก็ได้ตามไป  หลานหยุนซี เองก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว น้อยคนที่รู้ว่าหนอนนั่นคืออะไรแต่ทุกคนรู้ว่าผู้ใหญ่ของตระกูลจางน่ะคงไม่มีทางสั่งการแบบนี้ออกมาถ้าไม่เจอกับสถานการณ์ร้ายแรง

ไม่นานหลังจากที่พวกวังไฮหยวนออกจากเขตหลักไปได้ พลังฉีที่ทรงพลังได้แผ่ออกมาจากที่ศาลาไปทั่วทุกทิศทางทำให้เกิดแผ่นดินไหว  ผลก็คือบ้านและตึกมากมายเริ่มที่จะถล่ม  พวกคนที่ตอบโต้ช้าต่างก็ได้รับบาดเจ็บ

การต่อสู้ระหว่างอัศวินทั้งสองนั้นทรงพลังจริงๆ ในตอนที่พวกเขาวิ่งหนีออกจากเขตด้านใน  เขตด้านในนันก็ถูกทำลาย ตามมาติดๆด้วยเสียงระเบิด

...
จางเทีย ที่ซึ่งอยู่ที่ป้อมหินฟ้าเองก็เห็นสถานการณ์ผิดปกติในเมือง แม้ว่าจะห่างไปหลายสิบเมตรแต่ จางเทีย ก็ยังเห็นพลังฉีต่อสู้สองอันที่ปรากฏขึ้นมาบนฟ้าเป็นเสาสองต้นที่แทงทะลุขึ้นไป....

 

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.