spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 363: ลงมือ
หลานหยุนซี มีสนามพลังฉีที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าเธอจะทำตัวยังไงตอนที่อยู่กับ จางเทีย แต่ในที่สาธารณะแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้น่ะยังกับราชินี ในตอนที่เธอมาถึง พวกคนแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ต่างก็พ่ายแพ้ไปหมด
เหตุผลที่คนส่วนมากเรียก หลานหยุนซี ว่ารุ่นพี่ซีนั้นก็เพราะรุ่นพี่หลานและรุ่นพี่หยุนซีก็เพราะเคารพเธอ ในสายตาของพวกเขานั้นเพราะเธอน่ะส่องประกายอย่างกับดวงอาทิตย์ตอนเช้าที่ซึ่งไม่ได้รู้สึกกดดันเลยสักนิด ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงเรียกเธอว่ารุ่นพี่ซี
ตอนนั้นหลานหยุนซีไม่ได้ใส่กระโปรง เธอใส่เกราะมาแทน
ที่หลังเกราะของเธอนั้นเป็นธนูยาวสีเดียวกับแส้ที่ขดไว้ที่เอว นี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย เห็นอาวุธและเกราะของเธอ เธอดูเหมือนฮีโร่ เมื่อใส่เกราะที่ขาวราวกับหิมะและผิวเนียน,ผมดำแล้วเธอดูสวยยิ่งกว่าเดิม
จางเทีย จำได้ว่าเขาเคยหาทางลัดที่จะพิชิตใจ และจูบจากเธอมาก่อนบนยอดปราสาท ซึ่งมันตัดกันกับของขวัญที่เธอให้เขามา ตอนนั้นน้ำลายของ จางเทีย ก็เริ่มไหลออกมา
หลานหยุนซี ไม่ได้มาคนเดียว เธอมาพร้อมกับทหารจำนวนมากของวังมังกรลับ เพราะพวกระดับสูงบางคนของวังมังกรลับได้ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องตระกูลจาง มันจึงไม่แปลกที่ หลานหยุนซี จะมาที่นี่พร้อมกับพวกทหาร
เมื่อเห็นเธอเข้ามา พวกคนที่อยู่ตรงหน้าต่างก็หลีกทางให้กับเธอ เมื่อเห็น หลานหยุนซี ยูเสี่ยวเทียน ก็ได้ยิ้มออกมา เขาพยักหน้าให้กับเธอเล็กน้อย
จางวูมู ที่ซึ่งปิดตาและกอดอกได้ลืมตาขึ้นมาในตอนที่เขาได้ยินการมาถึงของ หลานหยุนซี ในเวลาเดียวกันดวงตาของเขาก็เป็นประกายราวกับไฟ สำหรับพวกคนอื่นๆโดยเฉพาะผู้ชาย พวกเขาต่างก็แสดงสายตาชื่นชม
หลังจากที่มองไปทั่วห้องแล้ว จางเทีย รู้สึกเครียดเพราะคู่ปรับเรื่องความรักของเขามีอยู่เยอะไปหมด อีกอย่างแล้วไม่มีสักคนเลยที่เป็นคนธรรมดา ยกเว้นแค่บางคน ผู้ชายกว่าครึ่งที่อยู่ในอันดับรายชื่อนั้นต่างก็มองไปที่ หลานหยุนซี
ไม่ใช่แค่ผู้ชาย แม้แต่ผู้หญิงก็แสดงสีหน้าต่างออกไปเมื่อมอง หลานหยุนซี หม่าไอหยุน และ กูไคดี ที่อยู่ข้างๆ จางเทีย ต่างก็บูชาและชื่นชมรุ่นพี่ของเธอ ในทางกลับกันก็มีคนที่แสดงท่าทีอิจฉา ผู้หญิงน่ะขี้อิจฉาแบบนี้แหละ
ผู้หญิงสองคนทียืนอยู่ไม่ไกลจาก จางเทีย อ้าปากค้างเล็กน้อยและกุมอกในตอนที่พวกเธอเห็น หลานหยุนซี เดินเข้ามา พวกเธอน่ะมาก่อน หลานหยุนซี สองนาที บอกได้เลยว่าพวกเธอต่างก็มีอันดับที่สูงในรายชื่อและเป็นที่รู้จักกันดีในแผนกทำลายสวรรค์ ในตอนที่พวกเธอมาถึงตะกี้ พวกนี้ยังคงวุ่นวายกันอยู่แต่เมื่อ หลานหยุนซี มาถึง ทุกคนต่างก็เป็นใบ้กันไปหมด
หลานหยุนซี เดินตรงไปที่ลานสูงของห้อง ตาของเธอนั้นนิ่งมองไปด้านหน้า จางเทีย ยังคงจ้องไปที่เธอ แม้ว่า หลานหยุนซี จะเห็นเขาแต่เธอก็หันสายตาหนีทันทีซึ่งทำให้ จางเทีย ผิดหวังเล็กน้อย
“ รุ่นพี่ซี น่ะเป็นต้นแบบสำหรับสาวๆทุกคนในวังมังกรลับ ข้าจะสวยและแข็งแกร่งให้ได้แบบเธอ ! “ - หม่าไอหยุน พึมพำออกมา สาวๆคนอื่นข้างๆต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็เอามือลูบหน้าและยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
ในตอนที่ หลานหยุนซี ขึ้นไปยืนอยู่บนลานสูง เธอเหมือนนายพลมากกว่าผู้หญิงธรรมดา หลังจากที่มองไปที่คนรอบๆด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เธอก็ส่งเสียงออกมาทันที
“ กูไบ ออกจากตำแหน่ง ! “ – น้ำเสียงของ หลานหยุนซี ดังก้องไปทั่ว
เมื่อได้ยิน หลานหยุนซี เรียก กูไบ ไม่ใช่แค่ จางเทีย คนหลายคนต่างก็แปลกใจเพราะพวกเขาไม่รู้ว่า กูไบ คือใคร ผลก็คือพวกเขาต่างก็มองไปรอบๆ
“ รุ่นพี่ซี ท่านเรียกข้าทำไม ? “
กูไบ เดินออกมาด้วยรอยยิ้มที่แข็งทื่อ
เมื่อเห็น กูไบ เดินออกมา หลานหยุนซี ได้หรี่ตาลงเล็กน้อยและได้สั่งออกมา – “ เอาเขาออกไป ! “
เมื่อได้รับคำสั่ง เจ้าหน้าที่สองคนที่มีสีหน้าจริงจังก็ได้พุ่งเข้าหา กูไบ ก่อนที่ กูไบ จะได้ตอบโต้ พวกเขาก็ค้น กูไบ ไปทั่วทั้งตัวรวมทั้งปาก,ไหล่, ศอกโดยการตบ,ฉีก,ดึง,บิด ภายใต้สายตาที่อึ้งของ จางเทีย กระดูกและข้อต่อของ กูไบ นั้นบิดไปมาอย่างกับของเล่น ในเวลาเดียวกันก็ได้มีขวดยาและมีดมากมายที่ถูกค้นเจอ
‘ พวกเขาแข็งแกร่ง ‘ ความคิดนั้นแว็บขึ้นมาในหัว นี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย เห็นคนจัดการอีกฝ่ายได้เร็วแบบนี้
ผลก็คือ กูไบ ได้ล้มลงไปที่พื้นอย่างกับปลาไหลที่โดนเลาะกระดูกออกหมด
ทุกคนต่างก็อึ้ง หลังจากที่ กูไบ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ได้ตะโกนออกมาด้วยความกลัว – “ รุ่นพี่ซี ท่านจะทำอะไรกัน ? “ – แม้ว่ากระดูกรามของเขาจะหลุดแต่เขาก็ยังพูดได้
หลานหยุนซี ไม่ได้มองอีกฝ่ายเลยสักนิด เธอกลับมองไปที่ทางเข้าห้องแทน เจ้าหน้าที่สองคนรีบเดินเข้ามาพร้อมกับของสองอย่าง
“ เราพบเครื่องสื่อสารและนี่หนังสือโค้ดที่ได้จากห้องใต้ดินที่ลานของบ้าน กูไบ ที่เมืองมังกรฟ้า ! “
แต่เมื่อเห็นของสองอย่างนั้น หน้าของ กูไบ ก็ซีด – “ ขะ...ข้า...ข้า..อธิบายได้ ! “
หลานหยุนซี มองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา –“ อธิบาย ? เจ้าอยากอธิบายว่าเจ้าได้เปิดเผยความลับของเกาะและวังมังกรลับให้กับคนนอกยังไงงั้นเหรอ ? เจ้ารู้มัยว่าวังไฮหยวนสูญเสียไปเท่าไหร่เพราะเจ้า ? เจ้ารู้มั้ยว่ามีกี่คนที่โดนฆ่าเพราะการกระทำของเจ้า ? เจ้าต้องการอธิบายอะไรอีก ? ลากเขาออกไป.. “
กูไบ ถูกลากออกไปจากวังมังกรลับโดยเจ้าหน้าที่ทั้งสอง
“ ข้าอยากพูดบางอย่าง...ข้าอยากพูดบางอย่าง ! “ -กูไบ ตะโกนออกมาในตอนที่โดนลาก
“ กูไบ นักเรียนของวังมังกรลับได้ร่วมมือกับปิศาจและขายข้อมูลของตระกูลจาง ตามคำสั่งผู้นำของตระกูลจาง เรามาที่นี่เพื่อจับกุม กูไบ ตามกฎของวังไฮหยวน ใครก็ตามที่ร่วมมือกับปิศาจจะต้องได้รับโทษถึงตายพร้อมกับสมาชิกในครอบครัว ! “ – เจ้าหน้าที่ข้างๆ หลานหยุนซี เดินออกมาแล้วประกาศออกมาดังๆ
เมื่อได้ยินแบบนั้น กูไบ แทบจะเป็นลม คนอื่นๆต่างก็ช็อก คนส่วนมากไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นยกเว้นแค่ จางเทีย ‘ เรื่องในเมืองสตาร์วิวในที่สุดก็ปะทุแล้ว ‘
หลังจากที่เงียบสงบมาสองวัน การตอบรับของวังไฮหยวนเกินกว่าที่ จางเทีย คาดเอาไว้ กูไบ โดนลากออกไปซึ่งหมายความว่าพวกมีอำนาจในวังไฮหยวนทำการค้นหาสายลับตามเบาะแสที่ได้มาในสองวันนี้ กูไบ น่าจะเป็นคนที่บอกเรื่องยารักษารอบด้านของ จางเทีย ให้กับคนนอกรู้
แน่นอนว่าวังมังกรลับได้เรียกทุกคนกลับมานั้นไม่ใช่เพื่อจะจับกุมเขา จางเทีย คาดว่าต้องมีเรื่องน่าแปลกใจกว่านี้เกิดขึ้น
จางเทีย คิดถูก
“ จากนี้พวกระดับ 6 จากแผนกทำลายสวรรค์จะอยู่ในห้องนี้คืนนี้ นักเรียนทุกคนระดับ 7 มีสิทธิที่จะเข้าร่วมกองทัพของตระกูลจางคืนนี้ได้ ใครก็ตามที่เข้าร่วมจะได้คะแนน 200 คะแนน ถ้าไม่อยากเข้าร่วมก็อยู่ที่นี่ด้วย ! “ - หลานหยุนซี ประกาศออกมา
“ รุ่นพี่ซี ไปทำอะไรงั้นเหรอ ? “ - ยูเสี่ยวเที่ยน ถามออกมาแทนทุกคน
“ ตระกูลเฉินในเมืองสวรรค์ เขตแยงได้ร่วมมือกับปิศาจ พวกเขาเป็นกลุ่มสามตาของปิศาจ ตามการตัดสินของกลุ่มผู้นำของวังไฮหยวน เราจะเริ่มสงครามคืนนี้และบดขยี้ตระกูลเฉินเป็นชิ้นๆ ! ไม่ใช่แค่ในเกาะ แม้แต่เขตไฮหยวนก็รวมอยู่ด้วย นักเรียนที่เข้าร่วมคืนนี้จะเข้าโจมตีเมืองสวรรค์พร้อมกับคนอื่นๆของตระกูลจางโดยเดินทางผ่านยาน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับปิศาจ พวกเจ้าอาจจะเจออันตรายที่คาดไม่ถึง ดังนั้นแล้วจึงมีแค่ระดับ 7 ที่อาสาไปได้ ! “
ในตอนที่ หลานหยุนซี พูดจบ จางวูมู ก็ได้กระทืบพื้นจนทำให้เกิดแผ่นดินไหว จากนั้นเขาก็ได้หัวเราะออกมา – “ ดี นับข้าเข้าไปด้วย ในที่สุดข้าก็ได้มีโอกาสฆ่าพวกเหี้ยแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าข้าทำไม่ได้จนกว่าจะได้เข้ากองทัพ มันเกินกว่าที่ข้าคาดไว้จริงๆที่ตระกูลเฉินคือพวกกลุ่มปิศาจสามตา แน่นอนว่าข้าจะไปฆ่าพวกมันในคืนนี้ ! “
“ นักเรียนที่เข้าร่วมคืนนี้สามารถเลือกอาวุธได้ พวกเจ้ามีเวลาเตรียมตัวสิบนาที ในสิบนาทีนี้เราจะออกจากเกาะนี้เป็นกลุ่มๆไป การลงมือนี้อันตรายและสำคัญอย่างมาก อย่าประมาท โชคชะตาอยู่ในมือพวกเจ้าเอง ! “
หลังจากที่พูดจบ ประตูของคลังที่ติดกับห้องนี้ก็ได้เปิดออก หลานหยุนซี เป็นคนแรกที่เดินเข้าไป เมื่อเห็นแบบนั้นคนจำนวนมากก็ได้เดินเข้าไปตามโดยไม่ลังเล รวมถึงพวกคนที่อยู่ในอันดับบนๆของรายชื่อด้วย
หลังจากที่มองหน้ากัน จางเทีย และเพื่อนก็ใจเต้นรัว
สงครามอะไร ?
“ ไปรึเปล่า ?” - จางเทีย ถาม หลิวซู และ หยางหยวนคัง
“ แน่นอน ทุกคนควรไปฆ่าพวกกลุ่มบ้านั่น ครั้งนี้ด้วยพวกระดับสูง แน่นอนว่าเราต้องทำลายพวกนั้นได้ ถ้าเราไม่ไปที่นั่น มันก็น่าเสียดาย ! “ - ตาของ หลิวซู เป็นประกาย
“ แน่นอน เราน่าจะฆ่าพวกลูกน้องของปิศาจ ! “ – หยางหยวนคัง เงยหน้าและพูดขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ
“ เจ้าล่ะ ? “ - หลิวซู ถาม จางเทีย
จางเทีย จับไปที่จมูกตัวเอง เอาจริงๆแล้วเขาได้ฆ่าคนจากตระกูลเฉินไปตั้งเยอะ จางเทีย รู้สึกว่าเขาได้ทำส่วนที่เขารับผิดชอบไปแล้ว เขาไม่สนใจที่จะไปจัดการเรื่องนี้แต่เพราะ หลานหยุนซี ไปด้วย แน่นอนว่าเขาคงซ่อนอยู่ในเกาะและให้ผู้หญิงของเขาไปสู้ไม่ได้
“ งั้นข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วย !” - จางเทีย ยิ้มแห้งๆออกมา หยางหยวนคัง และ หลิวซู มองหน้ากันก่อนจะหัวเราะ
“ ข้าเองก็จะไปด้วย ! “ - หม่าไอหยุน และสาวๆคนอื่นต่างก็ตื่นเต้น
เมื่อได้ยินแบบั้น จางเทีย ก็มองไปที่พวกเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม –“ พวกเจ้าควรคิดให้ดีๆ การต่อสู้นี้ไม่เหมือนกับการแข่งกันในแผนกทำลายสวรรค์ ในสนามรบจะมีเลือดและเนื้อสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่ พวกเจ้าจะทนมันไหวมั้ย ? บางคนน่ะอ้วกหลายวันแม้ว่าจะมองเพียงแค่แว๊บเดียว “
“ รุ่นพี่ซี ก็จะไปที่นั่นด้วย เราเองก็จะไปที่นั่น !” - หยวนซียี หน้าซีดเล็กน้อยและถามขึ้นมา – “ เจ้าก็จะไปด้วยไม่ใช่เหรอ ? “
“ เจ้าไม่รู้จักชื่อเล่นข้ารึไง ? “ - จางเทีย ยิ้ม – “ ข้าเคยถูกเรียกว่าตัวล่าเนื้อในสนามรบ ข้าฆ่าเจ้าหน้าที่มาหลายสิบคนและทหารมากมายในไม่กี่วัน ข้าชินกับเรื่องแบบนั้นแล้ว ! “
“ เจ้ากำลังโม้ ! “- หม่าไอหยุน ยิ้มออกมา
“ นี่ไม่ใช่เวลามาตลก ผู้หญิงน่ะไม่ควรเข้าร่วมสงคราม ! “- จางเทีย ตอบกลับด้วยท่าทีจริงจัง
หม่าไอหยุน และสาวๆคนอื่นมองหน้ากันและเริ่มลังเลเล็กน้อย
“ จางเทีย เจ้าไปเลือกของก่อน หลิวซู กับข้าจะไปบอก จางเซ่า และ เหมยหลิง เราจะไปเจอกันด้านนอก “ – หยางหยวนคัง บอกกับ จางเทีย ก่อนจะออกไปพร้อมกับ หลิวซู
ตอนนั้นมีคนรักมากมายล่ำลากันอยู่ คนรักบางคู่ได้เข้าไปในคลังด้วยกัน เพราะแฟนของ หลิวซู และ หยางหยวนคัง นั้นอยู่แค่ระดับ 6 พวกเธอจึงไม่มีสิทธิที่จะเข้าร่วม ก่อนที่พวกเขาจะออกไป พวกเขาจึงรีบไปบอกพวกเธอก่อน
คลังนั้นมีสองประตู หลังจากที่เข้าไปที่ประตูจากห้องโถงแล้ว พวกเขาก็จะไปเลือกอาวุธและอุปกรณ์ก่อนจะออกไปจากอีกประตู หลังจากนั้นพวกเขาก็จะไปรวมตัวกันด้านนอกคลังและเตรียมที่จะขึ้นยาน เพราะ หลานหยุนซี ให้เวลาเตรียมตัวแค่สิบนาที พวกเขาจึงรีบเลือกอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ
คลังนี้มีพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. มันมีอาวุธและอุปกรณ์มากมาย มันมากพอสำหรับกองทัพพันคนได้เลย แน่นอนว่ามันต้องพอสำหรับนักเรียนในแผนกทำลายสวรรค์แน่ๆ
เมื่อคิดจากร่างกายตัวเอง จางเทีย ได้เลือกเกราะที่ดูน่าสนใจและหนักซึ่งดูมีความสามารถการป้องกันที่สูงและยืดหยุ่นแต่มันหนักกว่า 150 กก. เหล็กอัลลอยบนอกและหลัง หมวกที่หนากว่า 20 มม. เกราะนี้ยาวไปจนถึงเท้า แน่นอนว่ากลายเป็นมนุษย์ถังไปได้เลย ใครก็ตามที่อยู่ในเกราะป้องกันแบบนี้น่ะต้องเป็นชายที่กำยำน่ากลัวแน่ๆ
ด้วยการที่เคยผ่านสงครามมาก่อน จางเทีย รู้ดีว่าความสามารถในการเคลื่อนที่นั้นสำคัญมากกว่าความสามารถในการป้องกัน คนธรรมดาคงไม่เลือกเกราะน่ากลัวแบบนี้แต่มันเสียเปล่าแน่ถ้า จางเทีย ที่ซึ่งมีแรงจำนวนมากที่จะไม่เลือกเกราะที่มีพลังป้องกันที่สูง อีกอย่างแล้ว จางเทีย รู้สึกว่ามันก็ไม่เลวที่ได้สู้กับตระกูลเฉินที่เกี่ยวข้องกับปิศาจ เพราะตระกูลเฉินอาจมีไพ่ตายซึ่งต้องมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงอย่างมาก
หลังจากที่ใส่อุปกรณ์ต่างๆแล้ว จางเทีย ก็ได้โผล่มาแค่ตาผ่านทางหมวก
ในตอนที่ จางเทีย กำลังจะเลือกดาบที่คล้ายกับดาบยักษ์ที่เคยใช้ เขาก็เห็น หม่าไอหยุน และสาวๆคนอื่นเข้ามาในคลัง เขาเงยหน้าขึ้นแล้วถอนหายใจก่อนจะเลือกแค่หอกสูง 1.7 ม.และโล่ที่หนักกว่า 100 กก.
หลังจากนั้นเขาก็เลือกซองเหล็กที่มีหอกเก้าอันอยู่ข้างในแล้วแบกใส่หลังไว้ จากนั้นเขาก็เดินไปหา หม่าไอหยุน และสาวๆคนอื่น
ในตอนที่สาวๆกำลังใส่เกราะ พวกเธอก็เห็นสัตว์ประหลาดเดินเข้ามาหา พวกเธอตกใจกับเกราะของ จางเทีย
“ ตอนเจ้าสู้กับพวกนั้น จำเกราะของข้าไว้ดีๆและตามข้ามา ด้วยโล่หนักนี่ ข้าสามารถปกป้องพวกเจ้าได้ถ้าจำเป็น ! “ - เสียงของ จางเทีย ดังออกมาจากช่องอากาศ
“ จางเทีย ? “ - ตาของสาวๆแทบถลนออกมา
“ อื้ม ! “ - จางเทีย พยักหน้า – “ เพราะความแข็งแกร่งของพวกเจ้ามีจำกัด พยายามเลือกอาวุธและอุปกรณ์ที่คล่องตัว อีกอย่างแล้วพวกเจ้าไม่ควรแยกกัน พยายามอยู่รวมกลุ่มกันเป็นสามคน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเจ้าไปสนามรบ พวกเจ้าควรจำไว้ว่าเมื่อเห็นศัตรูให้แทงทันทีโดยไม่ต้องสนว่าพวกนั้นจะบาดเจ็บมารึเปล่า สนใจพวกที่มีหน้าไม้,หอกรึมือลดต่ำลงมาที่ส่วนล่างของตัว “
จางเทีย ได้ความรู้มากมายจากสนามรบโดยแลกด้วยเลือดกับชีวิต หลังจากที่พูดแบบนั้น จางเทีย ก็หันกลับแล้วเดินออกมา หลังจากที่สาวๆมองหน้ากันและมองแผนหลังของ จางเทีย พวกเธอก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ
หลังจากที่ออกจากคลังแล้ว จางเทีย ก็ได้รับยาฟื้นฟูระดับกลางและยาแก้พิษระดับกลางมาอย่างละขวด เขาคิดขึ้นมาในใจ – “ นี่ถือว่าใจกว้างมากจากตระกูลใหญ่อย่างวังไฮหยวน ! “
หลานหยุนซี ที่ยืนอยู่ด้านนอกจ้องไปยังประตูของคลัง เพราะไม่เห็น จางเทีย เธอเลยรู้สึกวางใจและผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อย
ตอนนั้นชายคนหนึ่งที่เหมือนเต่าเหล็กก็ได้เดินออกมาจากคลัง ตอนแรก หลานหยุนซี ไม่ได้สนใจอะไรมากมายจนชายคนนั้นได้ผ่าน หลานหยุนซี ไป เธอจึงตัวสั่น
“ ข้าจะตบก้นเธอตอนข้ากลับมา ! “ - จางเทีย พึมพำ
หลานหยุนซี มองไปที่เขา จากนั้นเธอก็เผยรอยยิ้มออกมา -- ไอ้บ้าเอ้ย
หลายนาทีต่อมา ด้วยการมาถึงของยานสงคราม นักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมต่างก็ขึ้นไปบนยานเป็นกลุ่มๆไป หลังจากนั้นยานก็ได้บินออกจากเกาะไปยังทิศเหนือภายใต้แสงที่สลัวนั้น....