หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 362: การรวมตัวกันของพวกชั้นสูง

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 362: การรวมตัวกันของพวกชั้นสูง

บางครั้งเกาะมังกรลับเองก็เป็นที่โดดเดี่ยวเกินไปเพราะ จางเทีย ไม่ได้ยินข่าวเรื่องเมืองสตาร์วิวเลยทั้งวัน ดังนั้นเขาจึงสนุกกับวันที่เงียบสงบและแค่พักผ่อนที่ปราสาทจินวู

ยารักษารอบด้านนั้นส่งผลต่อทั้งแผลภายในและภายนอกแต่มันก็ยังได้ผลน้อยกว่ายาฟื้นฟูระดับต้นซึ่งโฟกัสไปที่กำรรักษาแผล ยารักษารอบด้านสองขวดนั้นมีผลมากกว่ายาฟื้นฟูระดับต้นขวดหนึ่ง

แต่ยารักษารอบด้านนั้นมีอย่างหนึ่งที่ดีกว่ายาอื่นๆ มันไม่มีผลข้างเคียงไม่ว่าจะดื่มไปเท่าไหร่ก็ตาม ในทางกลับกันถ้าดื่มยารักษาอื่นๆมากไป คุณอาจจะดื้อยาก็ได้

ในวันเดียวกัน จางเทีย ได้กินยารักษารอบด้านไปกว่า 20 ขวดไม่ต่างจากดื่มน้ำ ประโยชน์และการฟื้นตัวของร่างกายเขาเองนั้นทำให้บาดแผลภายนั้นนั้นเกือบจะหายดีในวันเดียว

ที่เกาะในวันที่ 5 มิถุเจ้าน นั้นเงียบสงบ ไม่มีข่าวจากเมืองสตาร์วิวเลย  จางเทีย เริ่มทึ่งเล็กน้อย ‘ มันน่าจะรู้กันแล้วนิ ทำไมมันถึงเงียบแบบนี้ได้อยู่ ? ‘

ถ้าไม่ใช่เพราะความสงสัยอื่นๆที่มี จางเทีย อยากที่จะไปที่เมืองสตาร์วิวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น

สำหรับ จางเทีย  มันเหมือนกับการไม่ได้ยินเสียงระเบิดหลังจากที่จุดระเบิดไปแล้วซึ่งทำให้ จางเทีย กังวล

‘ เป็นไปได้มั้ยว่าคนของตระกูลเฉินได้ไปที่แมนชั่นหลังจากที่ข้าออกมาจากที่นั่นแล้วกำจัดหลักฐานทิ้ง?  รึคนที่อยู่ในวังไฮหยวนมีอำนาจมากว่าที่ข้าคิดและพวกนั้นก็ปกปิดเรื่องนี้ ? รึวังไฮหยวนรอบางอย่างอยู่... ‘

จางเทีย คิดแบบนั้นในตอนกลางวันของวันที่ 6

ในตอนเย็นของวันที่ 6 หลังจากที่กลับมาจากท่าเรือเมื่อปล่อยปลาเสร็จ  จางเทีย ก็วนรอบปราสาทจินวูเพื่อเช็คการป้องกัน  หลานหยุนซี ได้บอกช่องโหว่หลายที่ให้ จางเทีย  ฟัง  ถ้าเขาต้องการที่จะทำให้ปราสาทนี้แข็งแกร่ง เขาต้องแก้ไขช่องโหว่พวกนั้น นอกจากเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทหารทาสในเวลาสั้นๆแล้ว เขาต้องหาทางลัดอย่างอื่น  การซื้อทหารทาสใหม่มาเพิ่ม

ถ้ามีคนที่แข็งแกร่งมีประสบการณ์มากพอจะแก้ไขเรื่องนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่นถ้ามียามสามกะบนกำแพง แม้แต่แมลงวันก็ยังเห็นได้ นี่ไม่ต้องนับถึงคนเลย

จางเทีย ประมาณว่าเขาต้องซื้อทาสระดับ 2 สักร้อยคนมาเป็นยามตามตำแหน่งช่องโหว่ต่างๆ ในตอนสงครามต้องมียามอย่างน้อยพันคนไว้ป้องกันปราสาท  ปราสาทนี้ยังไงซะก็ใส่ทหารได้อย่างน้อย 100-200 คนได้สบายๆอยู่แล้ว

ตกเย็น จางเทีย ได้ยืนอยู่ที่หลังคาปราสาท  เขากินเหล้าแล้วดูพระอาทิตย์ตกดินแล้วพึมพำออกมา ‘ ถ้ายังไม่มีข่าวในวันพรุ่งนี้ ข้าจะไปที่เมืองสตาร์วิวโดยบอกว่าจะไปซื้อทาส ‘ ด้วยความสงสัยที่มี  จางเทีย จึงมักจะอึดอัดเล็กน้อย

“ เจ้าเจ้า อาหารเย็นพร้อมแล้ว ! “ - โซเนีย พูดขึ้นแล้วโผล่มาด้านหลัง จางเทีย

แม้ว่ากลุ่มสาวใช้นั้นจะไม่ได้สูงส่งอะไรแต่พวกเธอก็ดูดีกว่าคนธรรมดา ในตอนที่พวกเธอใส่เสื้อผ้าใหม่และแต่งตัวเหมือนผู้หญิงในบาปีนั่นทำให้พวกเธอดูดีขึ้นและมีเสน่ห์มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะ โซเนีย ที่ดูเป็นผู้ใหญ่และน่าดึงดูดกว่าเดิม

“ ดี ! “ - จางเทีย พูดแล้วมองไปที่หน้าอกของเธอ ในเสี้ยววินาทีเขาก็เริ่มคิดเหมือนที่ผู้ชายคนอื่นคิด

จางเทีย มองไปทั่วตัวของเธอตั้งแต่อกจนไปถึงด้านล่าง ในเวลาเดียวกันภาพของ แฮนนา และ ลินดา ก็โผล่มาในหัว

‘ บางทีข้าควรที่จะหาชุดทำงานแบบนั้นให้กับพวกเธอ ‘ ความคิดชั่วร้ายโผล่มาในหัวของ จางเทีย ‘ แม้ว่าจะเห็นพวกเธอเดินผ่านตรงหน้าด้วยชุดที่รัดก้นแต่อย่างน้อยมันก็สบายตา ‘

ภายใต้สายตาของ จางเทีย  หน้าของ โซเนีย ได้แดงขึ้นมาเล็กน้อย  เธอก้มหน้าลงแบบอายๆและพูดด้วยเสียงสั่นๆ – “ ถ้า...ถ้าเจ้าเจ้าต้องการ  ข้าจะจัดคนสองคนไว้รับใช้คุณในตอนเย็น ! “

‘ รับใช้ข้า ? ‘ จางเทีย ร้องออกมาเหมือนกับเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลก  เขาตรงเข้าไปตบก้นของเธอและยิ้มออกมา – “ ไม่จำเป็นหรอก ! ชุดนี้มันเหมาะดีมั้ย ? ข้าคิดว่าจะหาชุดอื่นมาให้เจ้าใส่ทำงานอีก ! “

“ มันสบายมาก  ตอนนี้เรามีคนละสามชุดแล้ว แค่นี้เราก็ดีใจกันมากแล้ว ! “ – โซเนีย พูด

“ ช่างเถอะ ช่างตัดผ้าบนเกาะน่ะไม่ได้เก่งเท่าไหร่ ถ้าเป็นเรื่องการออกแบบ เจ้าสามารถเลือกชุดทำงานสวยๆได้ โอ้และการแต่งหน้า ข้าไม่รู้เรื่องเครื่องสำอางเท่าไหร่แต่ดูเหมือนสาวๆทุกคนจะชอบ พวกเจ้าซื้อเครื่องสำอางตามที่ชอบได้เลยนะพรุ่งนี้น่ะและส่งไปให้สาวๆทุกคน ถ้าพวกเจ้าต้องการอย่างอื่นก็บอกข้ามาได้เลย... “

“ ขอบคุณค่ะ เจ้าเจ้า ! “ - โซเนีย ตอบออกมาอย่างดีใจ

“ ฮาฮา...ไม่ต้องขอบคุณหรอก ยิ่งพวกเจ้าสวยมากเท่าไหร่ ข้ายิ่งมีความสุขมากเท่านั้น ! “ - จางเทีย ตอบออกมาตรงๆและโบกมือให้

ในตอนที่ จางเทีย กำลังจะลงจากหลังคาไปพร้อมกับ โซเนีย  ควันสีฟ้าก็ระเบิดขึ้นมาในอากาศ หลังจากนั้นมันก็ได้เปลี่ยนเป็นลูกศรสีฟ้าที่ห้อยอยู่ในอากาศอยู่นาน แล้วตามมาด้วยเสียงระฆังเจ็ดครั้งจากวังมังกรลับที่อยู่บนยอดภูเขา

เมื่อเห็นแบบนั้น  จางเทีย ก็ช็อกในใจ ‘ นี่เป็นเรื่องด่วนที่เรียกตัวนักเรียนทุกคนในเกาะกลับไปที่วังมังกรลับ ‘ ตั้งแต่ที่ จางเทีย มาที่เกาะ เขาไม่เคยเห็นมันถูกใช้เลย  เขาได้ยินมาว่ามันจะโผล่มาก็ต่อเมื่อมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น วิธีนี้คือวิธีเรียกรวมนักเรียนทุกคน

“ ข้าจะไปที่วังมังกรลับ ไม่มีเวลากินมื้อเย็นแล้ว ! “ - หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็พุ่งออกนอกปราสาทไป

จางเทีย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกแค่ว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่

ก่อนที่จะออกจากปราสาทจินวู  จางเทีย ได้เรียก เลน็อก มาและได้สั่งการ – “ จุดหม้อต้มการป้องกันหลักเอาไว้และเตรียมรับมือเหตุฉุกเฉิน ! “

ระหว่างทางที่ไป จางเทีย ได้เจอกับนักเรียนหลายคนที่พากันแห่ไปที่วังมังกรลับ พวกนั้นต่างก็ถามกันเองว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่มีคนรู้เรื่อง

“ จางเทีย เจ้ามาแล้ว .. “ – ในตอนที่เขาเกือบไปถึงวังมังกรลับ  จางเทีย ก็ได้เจอกับ หยางหยวนคัง  หลังจากที่ทักทายกัน พวกเขาก็วิ่งไปด้วยกัน

“ เกิดอะไรขึ้น? “

“ ไม่รู้เหมือนกัน ลูกศรสีฟ้านี้ไม่ได้ปรากฏมาหลายปีแล้ว ! ตะกี้ข้าอยู่ที่เมืองมังกรขาว เมื่อเห็นลูกศรนี่ ข้าก็รีบมาที่นี่ทันที “ - หยางหยวนคัง ขมวดคิ้วและทั้งสองก็ได้วิ่งไปข้างหน้าต่อ

ในตอนที่พวกเขามาถึงทางเดินด้านล่างปราสาทมังกรลับก็ได้มีทหารใส่เกราะยืนเรียงแถวสองแถวที่นั่น ทั้งปราสาทนี้ดูกดดันอย่างมาก  เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ตามทางเดินนั้นเหน็บดาบไว้ที่เอวและตานั้นต่างก็จับจ้องไปที่พวกนักเรียน

ในตอนที่เขาผ่านทางเดินนั้นมาและไปถึงที่ป้อมด้านล่าง  จางเทีย ก็เงยหน้าขึ้นไปมองส่วนป้องกันทางอากาศของปราสาท ครั้งนี้ จางเทีย ก็ต้องช็อกอีกครั้งเมื่อพบว่ามันได้เปิดออกและได้มีปืนใหญ่ที่ชี้ขึ้นไปบนฟ้าอย่างกับดาบที่ชี้ไปที่สวรรค์

หลังจากที่แสดงบัตรแล้ว ทุกคนก็ได้เข้าไปในวังมังกรลับ

ในตอนที่ จางเทีย ได้เข้าไป  จางเทีย ได้พบกับสาวๆและเพื่อนอย่าง จางคีเหลียง ที่ออกมาจากแผนกซีซิงด้วยสีหน้าแปลกๆและได้เดินเข้าไปที่ปราสาทกลาง

“ รุ่นพี่จาง... “

“ รุ่นพี่จางมาแล้ว.. “

“ รุ่นพี่.. “

“ จางเทีย... “

เมื่อเห็น จางเทีย  นักเรียนจำนวนมากในแผนกซีซิงทั้งชายและหญิงต่างก็ได้ทักทายเขาซึ่งทำให้คนที่เดินมากับ จางเทีย ด้วยนั้นแปลกใจ  พวกเขามองมาที่ จางเทีย หลายครั้งและต่างก็สงสัยว่าทำไม จางเทีย ถึงได้ดังขนาดนี้ในแผนกซีซิง

“ พวกเจ้าจะไปไหนกัน ? “ - จางเทีย ถาม

“ ข้าไม่รู้ ตอนที่เรากินข้าวเย็นอยู่ตะกี้ พวกคนของวังมังกรลับได้บอกเราให้ไปรวมตัวกันที่ป้อมกลางและอยู่ที่นั่นคืนนี้แต่พวกเขาไม่ได้บอกว่าทำไม “ – จางหงเชง อธิบาย

 

“ เจ้ารู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น ? “ – ลียู่โหรว ถาม จางเทีย  เมื่อได้ยินแบบนั้นคนอื่นๆต่างก็มองมาที่ จางเทีย  หลังจากที่ไปปาร์ตี้กับ จางเทีย เมื่อวันก่อน สาวๆต่างก็เริ่มสนิทกับ จางเทีย  สายตาของพวกเธอน่ะเหมือนเพื่อนที่ทั้งเคารพและยังใจดี

แน่นอนว่ายังมีบางคนที่อาย  ทุกครั้งที่เธอคิดถึงตอนที่เธอมาจูบ จางเทีย ในคืนนั้นแล้วโยนเขาลงไปในสระ หลิวชาช่า จะรู้สึกร้อนขึ้นมาที่หน้า ดังนั้นเธอจึงแอบไปหลบหลังคนอื่น แม้ว่าคืนนั้นมันจะสุดเหวี่ยงแต่เธอก็ผ่อนคลายและสนุกกับมันอย่างมาก เธอได้ปลดปล่อยความเครียดทั้งหมดไปในคืนนั้น

จางเทีย มองไปที่สาวๆที่มองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่ต่างจากเดิม  สองสาวในหมู่พวกนี้เงียบแต่สีหน้าของพวกเธอก็ทำให้ จางเทีย ดีใจ  ดูยู่ห่าน ปกติเป็นคนพูดเปิดเผยตอนนี้กลับอาย ส่วน กูเหลียงหยิง ที่ซึ่งปกติมักจะอายกลับดูเปิดเผย

“ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รอฟังคำสั่งดีกว่า ถ้ามีสงคราม เราก็จะอยู่ในป้อม มันจะปลอดภัยกว่าในแผนกซีซิง ! “

“ เจ้าพูดมาก็ถูก !”

“ พวกเจ้าน่าจะฝึกให้หนักเพื่อสร้างพลังฉีต่อสู้ให้เร็วที่สุด ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสรอดเมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรู  บางทีเราจะรู้ถึงความสำคัญของมันในไม่ช้า ! “ - จางเทีย พูดออกมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม

สงครามศักดิ์สิทธิ์กำลังจะมา เมื่อมองไปยังสีหน้าของทุกคน จางเทีย ก็สงสัยว่าจะมีสักกี่คนที่รอดไปได้

...

เมื่อเข้าแผนกทำลายสวรรค์แล้ว จางเทีย รู้ว่าไม่ใช่แค่นักเรียนในแผนกซีซิง แม้แต่แผนกทำลายสวรรค์ต่างก็เริ่มเดิน จางเทีย เห็นเด็กแปลกหน้ามากมาย ในบรรดาเด็ก 700 คนต่างก็มารวมตัวกันที่หอประชุมต่อสู้ของแผนกทำลายสวรรค์

หลิวซู, จางเฟง, หม่าไอหยุน , กูไคดี ต่างก็มาถึงแล้วด้วย เมื่อเห็น จางเทีย และ หยางหยวนคัง พวกเขาก็เดินไปรวมตัวกันด้วย

นอกจากเพื่อนพวกนี้แล้ว จางเทีย ก็เห็นสองคนที่คุ้นหน้า จางไห่ และ จางไฮซิน ที่ซึ่งไปทำงานตั้งแต่ที่เสียเงิน 900 ทองให้กับ จางเทีย  มันผิดคลาดจริงๆที่เห็นพวกนี้กลับมา

เมื่อเห็น จางเทีย  จางไฮซิน ก็ดูเหมือนป่วยๆ เขาถึงกับฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา ในทางกลับกัน  จางไห่ ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิมในครึ่งปีมานี้ เขาได้พยักหน้าให้กับ จางเทีย     จางเทีย เองก็ทักทายอีกฝ่ายด้วยการพยักหน้าด้วย

นอกจากสองคนนั้นแล้ว จางเทีย ก็เห็นชายอีกสองคน  จางฉิงกู่ ที่ซึ่งเคยโดน จางเทีย อัดเอาหลังจากที่ดูถูกพ่อของ จางเทีย และ กูไบ่ ที่ซึ่งมาท้าทาย จางเทีย  สิ่งที่ จางเทีย ไม่คิดคือสองคนนั้นเข้ากันได้ดี

เมื่อเห็น จางเทีย  กูไบ ก็ได้ทำสีหน้าขมขื่น ส่วน จางฉิงกู่ ก็ก้มหน้า  ทั้งคู่เหมือนจะแอบไปในฝูงคนและหายไปจากสายตาของ จางเทีย

เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็คิ้วขมวดเล็กน้อยและใจก็เริ่มเต้นรัวขึ้นมานิดๆ

“ อ๊าก รุ่นพี่ ยูเสี่ยวเทียว “ – ผู้หญิงคนหนึ่งอุทานออกมา  จางเทีย มองไปยังทางเข้าห้องและพบชายหน้าตาหล่อเหลาวัย 20 เดินเข้า เขามีหน้าตาที่น่าดึงดู  ในตอนที่เขาเข้ามาให้ห้อง สาวๆหลายคนต่างก็ทักทายเขา

เมื่อเห็น หม่าไอหยุน และสาวๆที่รู้จักต่างก็มองไปที่นั่น จางเทีย ก็ถาม หลิวซู ออกมา – “ นั่นใคร ?”

“ ยูเสี่ยวเทียน ที่มีชื่อเล่นว่า ดาบเสี่ยวเทียน อยู่อันดับสามของความแข็งแก่งและอยู่อันดับสองของคะแนน  เขาคือคนเพอร์เฟ็คของแผนกทำลายสวรรค์ มีคนบอกกันว่าเขาไปถึงระดับ 9 แล้ว  เจ้าไม่รู้จักคนดังแบบนี้ได้ไง ? “ – หลิวซู ถามออกมาด้วยความสงสัย

จางเทีย คิดสักพักและในที่สุดก็จำได้

“ อ๊าก รุ่นพี่ จางวูมู ! “ – นี่เป็นตา หยางหยวนคัง บ้างที่ตะโกนออกมา

ชายที่ซึ่งน้ำหนักมากว่า จางเทีย 2 เท่าและสูงกว่า 1.5 เท่าได้เดินเข้ามา  ชายคนนั้นเปลือยอกและแบกเอาธนูอันใหญ่และขวาอันน่ากลัวที่ยาวกว่า 2 ม.เข้ามา  เขาเดินเหมือนรถถังทำให้พื้นดินสะเทือน  บางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าเหมือนกระเด้งขึ้นบนฟ้าด้วย

เมื่อเห็นคนแบบนั้นเข้ามา ทุกคนต่างก็รีบถอยห่างจากเขาไปสามเมตร

ชายคนที่ชื่อ จางวูมู ได้เดินเข้ามาในห้อง จากนั้นเขาก็ได้วางขวานของเขาลงที่พื้นทำให้เกิดเสียงอันดัง ในเวลาเดียวกันก็มีรอยแตกกระจายที่พื้น

หลังจากที่วางขวานลง  จางวูมู ได้กอดอกแล้วยืนอยู่อย่างกับกำแพงและหลับตา

เมื่อเห็นขวานนั้น นัยน์ตาของ จางเทีย หดลงเล็กน้อย จากประสบการณ์การใช้ดาบยักษ์ของเขา  จางเทีย บอกได้เลยว่าขวานนั่นต้องหนักอย่างน้อย 600 กก.

‘ เหี้ย ! มีตัวประหลาดแบบนี้ในวังมังกรลับด้วย ! ‘

“ ชื่อเล่นของเขาคือคิงคองไฟ เขาอยู่อันดับสองของความแข็งแก่งและอยู่อันดับสามในคะแนน เขาเป็นนักรบที่กล้าหาญ พ่อของเขาคือหัวหน้าของเมืองฟูโบ  !”- เมื่อรู้ว่า จางเทีย ไม่คุ้นกับคนพวกนี้ หลิวซู ก็ทำการแนะนำให้ทันที

เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็พยักหน้า ‘ พวกคนอันดับสูงนี่พิเศษจริงๆ พวกนี้ถือว่าเป็นคนระดับสูงในระดับสูง !’

“ ทำไมข้าไม่เคยเห็นพวกนี้มาก่อน ? “

“ พวกรุ่นพี่น่ะมีทักษะต่อสู้ระดับสูง พวกเขามักจะบ่มเพาะไม่ก็ไปทำงานด้านนอกเกาะ ดังนั้นเราจึงไม่เห็นพวกเขาง่ายๆ ! แม้ว่ารุ่นพี่วูมูจะอยู่บนเกาะแต่เขาก็ได้อยู่ในกองทัพพายุแล้ว ทันทีที่เขาออกจากเกาะ เขาก็จะเป็นหัวหน้าหน่วย เขาน่ะมีอนาคตที่สดใส ! “ - หลิวซุ พูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม

ไม่กี่นาทีต่อมาก็เริ่มมีคนมารวมตัวกันมากกว่าเดิม  พวกคนในรายชื่อต่างก็ทยอยกันมาทีละคนๆทำให้เริ่มมีเสียงเอะอะดังขึ้นเรื่อยๆ  คนส่วนมากในท็อป 10 ได้มาถึงแล้ว

“ รุ่นพี่ซี .. “ – ตอนที่คนด้านนอกอุทานออกมา ทุกคนในห้องต่างก็เงียบ....

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.