spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 357: การฆ่าล้างในตอนเย็น
เมืองสตาร์วิวคือเมืองแห่งแสง ในตอนที่ผู้คนไปนอนกันแล้ว หลายที่ของเมืองก็เริ่มคึกคัก หลังจากที่เข้ามาในเมืองแล้ว จางเทีย ก็ลดความเร็วลง เขาเห็นโสเภณีอยู่ทุกที่ข้างถนนซึ่งกำลังหาลูกค้า ในตอนกลางวันที่นี่จะเงียบแต่กลางคืนนี้จะคึกคักกันอย่างมาก
Faerie Dragon T9 สีดำค่อยๆผ่านไปตามถนน มันได้ผ่านโรงแรมมิลค์เวย์และในที่สุดก็ได้ไปจอดที่หน้าร้านอาหารห่างจากโรงแรมไป 500 ม.ทางทิศตะวันออก
ในตอนที่จอดรถ จางเทีย ได้มองไปที่นาฬิกา 02.16 am เลขไมล์ได้บอกว่ารถเดินทางมาได้ 278 กม.ซึ่งเกือบจะเท่ากับระยะทางจากจินไห่มายังเมืองสตาร์วิว
ในตอนที่ จางเทีย จอดรถ บริกรนอกร้านก็ได้เปิดประตูให้เขา จางเทีย ลงมาจากรถและป้ายจอดรถมา
“ เติมเชื้อเพลงด้วย ข้าต้องการห้องส่วนตัว ! “
บริกรพยักหน้า เขารีบเดินดูรอบๆรถว่ามีรอยอะไรรึเปล่า หลังจากนั้นเขาก็ได้ขับรถออกไปจอดก่อนจะเติมเชื้อเพลิงให้เต็ม
“ ตามผมมาได้เลย ! “
บริกรคนหนึ่งได้พา จางเทีย เข้าไปในร้านอาหาร
ร้านอาหารนี้แต่งเหมือนกับสวน ห้องกินข้าวทุกห้องนั้นมีศาลาและห้องส่วนตัวในสวนเพื่อที่จะได้ให้แขกไม่ต้องรบกวนกัน มีระยะห่างระหว่างศาลาและห้องส่วนตัว ที่นี่ถูกออกแบบมาโดยคิดถึงความเป็นส่วนตัว นอกจากโคมไฟตามศาลาและห้องส่วนตัวแล้ว ทั้งสวนนั้นดูสลัวอย่างมาก เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็แอบพยักหน้า
การออกแบบอย่างนี้ไม่ใช่แค่ตรงความต้องการของพวกที่ต้องการความสงบแต่ยังสะดวกกับการทำอย่างอื่นนอกจากกินข้าวด้วย
จากประสาทสัมผัสอันเฉียบคม จางเทีย ได้ยินเสียงมาจากศาลาอื่นซึ่งไม่ใช่เสียงกินข้าว เสียงผู้หญิงหัวเราะและคราง ที่นี่น่ะเป็นที่ที่ดีให้คนที่รักมาเดตกัน
บริกรได้พา จางเทีย ไปยังห้องส่วนตัว หลังจากที่เช็คสภาพแวดล้อมที่นั่นแล้ว จางเทีย ก็พยักหน้าอีกครั้ง
“ ท่านครับ ค่าห้องส่วนตัวของเราคือ 30 เงิน ถ้าค่าบริการน้อยกว่า 30 เงิน คุณควรที่จะจ่าย 30 เงิน เวลาที่ใช้ก็ 2 ชม. ถ้าอยู่นานก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 2 เงินต่อชั่วโมง ! “
จางเทีย พยักหน้า
ไม่กี่นาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้สั่งอาหารและเหล้ามา จากนั้นเขาก็นั่งพักอยู่ในห้อง
จางเทีย ไม่ได้สั่งอะไรมามากซึ่งทุกอย่างถูกเอาเข้ามาใน 10 นาที
“ ตามสบายนะครับ ! “
“ เจ้าบอกข้าได้มั้ยว่าจะเลือกผู้หญิงได้จากไหน ?” - จางเทีย เผยรอยยิ้มแบบ ดอนเดอร์ ออกมา
ด้วยการที่ชินกับคำถามแบบนี้ บริกรได้ตอบกลับไป - “ ถ้าคุณต้องการบริการแบบนั้น คุณสามารถออกไปทางประตูหลังของร้าน จากนั้นก็เลี้ยวซ้าย เดินไป 100 ม.แล้วเลี้ยวขวา ที่นั่นจะมีแมนชั่นนางฟ้า คุณเลือกได้ตามสบาย ! “
จางเทีย โยนเงินหนึ่งเงินให้ บริกรรับมันไปทันที หลังจากนั้นเขาก็ออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม
จางเทีย มองไปที่นาฬิกาอีกครั้ง มันได้เวลา 02.24 am
หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จางเทีย ก็นั่งลง เมื่อมองไปที่อาหารและเครื่องดื่มบนโต๊ะ จางเทีย ก็หลับตาลง
‘ ถ้าเจ้าอยากทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ เจ้าก็ต้องลงมือ ‘ จางเทีย เตือนตัวเองในใจ ‘ ตอนวิกฤตเจ้าต้องอดทน ‘
หลังจากที่หลับตาลงสักพัก จางเทีย ก็ลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นอาหารและเหล้าตรงหน้า เขาก็เริ่มหยิบตะเกียบขึ้นมา...
สิบนาทีต่อมา จางเทีย ลุกขึ้นยืนแล้วถอดเสื้อคลุมออกแล้วแขวนไว้ข้างๆโต๊ะ
ด้วยการที่ถามว่าจะหาผู้หญิงได้จากที่ไหน เขากินอาหารไปแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดเหล้า เขาทิ้งเสื้อคลุมเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นแค่เบาะแสเล็กๆแต่ถ้ามีคนเข้ามาในห้องหลังจากที่ จางเทีย ออกไป พวกนั้นคงได้ข้อสรุป จางเทีย อาจจะไปหาผู้หญิง เขาอาจจะกลับมา ด้วยวิธีนี้ จางเทีย ยืนยันว่าคงมีข้อสรุปอย่างเดียวที่คนอื่นจะคิดได้
หลังจากที่จัดเตรียมทุกอย่างในห้องแล้ว จางเทีย โฟกัสพลังวิญาณและใช้สกิลเคลื่อนที่ หลังจากที่ใช้มันแล้วตัวรูน 6 อันของสกิลได้ส่องแสงสีทองออกมาทันที รูนได้หมุนไปตามตัวของ จางเทีย ผลก็คือแต่ละเซลล์ของเขานั้นเหมือนกับได้ดื่มพลังงานเข้าไป
ด้วยสกิลนี้ จางเทีย รู้สึกได้ว่าตัวของเขาเบาอย่างมากเหมือนกับสปริง ถ้าเขาใช้แรงออกไปเขาจะเคลื่อนที่ได้ระยะที่ไกลมาก
ผลของสกิลนี้เพิ่มความเร็วขึ้น 120% จากปกติ ผลของสกิลในการต่อสู้จะลดลง 80% ซึ่งหมายความว่า จางเทีย สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น 24% ในการต่อสู้
จางเทีย เปิดหน้าต่างห้องออกและมองไปที่กำแพงสูงของร้าน เขาเอามือไปค้ำที่หน้าต่างก่อนจะกระโดดอกไปสูงกว่า 4 ม.อย่างกับเสือดาว หลังจากที่ไปยืนบนกำแพงได้ เขาก็โดดลงทันทีแล้วหายไปในความมืด
มันไม่ถึง 600 ม.จากที่นี่ไปยังแมนชั่นเฉิน จากที่เขาจำได้ จางเทีย ได้ผ่านซอยมืดๆไป ไม่ถึงนาที จางเทีย ก็ได้ไปถึงที่กำแพงด้านทิศตะวันออกของแมนชั่น ในเสี้ยววินาทีเขาได้โดดเข้าไปในสวนของแมนชั่นอย่างกับติดปีก
ตอนนั้น จางเทีย ได้สวมชุดสีดำที่เหมือนของนักสำรวจ เขาเผยให้เห็นแค่ตาอันเย็นชา นอกจากนี้แล้วเขายังสวมกางเกงและเสื้อแบบนักสำรวจและยังมีดาบของนักสำรวจในมือด้วย
ดาบนี้ทั้งยาวและคม มันมีพลังทำลายที่มหาศาล อีกอย่างแล้วตัวดาบของมันก็ผ่านการเคลือบมา มันจะไม่สะท้อนแสงในที่มืด
ชัดแล้วว่า จางเทีย ได้เปลี่ยนตัวเองให้เป็นนักฆ่า
แมนชั่นเฉินน่ะคงไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้มาที่นี่
ลานของแมนชั่นนั้นมีพื้นที่หลายพันตารางเมตร ใจกลางลานมีตึก 5 ชั้น ตอนนั้นข้างในนั้นมืดสนิท ยกเว้นแค่บางส่วนที่มีโคมไฟติดอยู่
ด้วยผลของหนึ่งก้าวหนึ่งฉากและสกิลที่มีจางเทีย ได้พุ่งผ่านไปในความมืดอย่างกับเงาสีเทา ในเสี้ยววินาทีเขาก็ได้ผ่านไป 100 ม.และไปถึงที่น้ำพุของลาน
ในเสี้ยววินาทีโซ่ผูกมัดได้ลอยออกมาจากหว่างคิ้วของเขา ในขณะเดียวกัน จางเทีย ก็ได้แทงดาบไปที่น้ำพุทำให้เลือดจำนวนมากได้กระเซ็นออกมาจากน้ำพุ
‘ จัดการไปแล้วหนึ่ง มีอีกหนึ่ง ‘ จางเทีย พึมพำออกมาพร้อมกับหายไปในความมืดอีก ในไม่กี่วินาทีเขาก็ได้มาถึงที่ต้นสน จางเทีย ได้ใช้โซ่ผูกมัดอีกครั้งและกระโดดขึ้นมาจากพื้น
หนึ่งวินาทีต่อมา จางเทีย ก็คว้าเอาลูกดอกที่ไม่มีหางออกมาแล้วแทงเข้าไปที่หัวใจของชายคนนั้นและปักเขาเข้ากับลำต้น
ชายคนนั้นตาเบิกกว้างและมองมาที่ จางเทีย ด้วยความกลัว เขาสงสัยว่า จางเทีย รู้ได้ยังไงว่าเขาซ่อนอยู่ตรงไหนและ จางเทีย โผล่มาหาเขาแบบนี้ได้ยังไง ในเวลาเดียวกันเขาก็กระอักเลือดออกมา
ก่อนที่ชายคนนั้นจะตาย ตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความสงสัย จางเทีย มองไปที่หูของชายคนนั้นอีกครั้ง
‘ เหี้ย อย่างที่ข้าเดาไว้เลย พวกนี้เป็นนักฆ่า ! ‘ หลังจากที่ด่าในใจ จางเทีย ก็ค่อยๆลงมาจากต้นไม้และพุ่งเข้าไปในตึกแมนชั่นด้วยความเร็วที่น่ากลัว
...
ที่ทางเข้าตึก มีห้องหนึ่งที่ไฟสลัวๆที่ซึ่งมียามคอยเฝ้าอยู่
“ เฉินยี, เฉินสง พวกเจ้าต้องไปดูด้านนอก ตอนนี้เราต้องระวังเป็นพิเศษ หัวหน้าได้สั่งมาแล้ว เราต้องดูแลดีๆ “
ในตอนที่ จางเทีย ไปถึง เขาได้ยินเสียง ตอนนั้นเขาก็หยุดที่นอกหน้าต่างห้องนั้น แม้ว่าข้างในห้องจะไม่เห็นเขาแต่เขาก็ได้ยินบทสนทนาของพวกนั้นอย่างชัดเจน
กลิ่นหอมของเนื้อที่ลอยมาจากในห้อง จางเทีย ได้เดาว่าพวกนั้นคงกินอะไรกันอยู่ข้างใน
“ ข้าไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในเมืองสตาร์วิว ตระกูลเฉินของเราน่ะได้ธุรกิจแบบนี้มาหลายปีแล้วแต่เราก็ไม่ได้เจอปัญหาอะไรเลย มีแค่พวกกะหรี่และทาสที่นี่ อีกอย่างแล้วเราก็มีคนอีกสองคนด้านนอก เราเพิ่งเช็คไปเมื่อสิบนาทีก่อน มันปลอดภัยดี ! “ - จางเทีย ได้ยินเสียงที่ฟังดูขี้เกียจเล็กน้อยตามมาด้วยเสียงเคี้ยว
“ มันก็บอกยาก หลายวันก่อนสมาชิกของเราบางคนไปที่เกาะเพื่อสร้างพลังฉีต่อสู้ ทำไมพวกเขาถึงกลับมาเร็วนัก ? พวกเขาได้สร้างพลังฉีต่อสู้ได้ในเวลาสั้นๆแบบนั้นเหรอ ? ข้าได้ยินว่า..”
“ หุบปาก เฉินสง เจ้าลืมข้อห้ามของเจ้านายไปแล้วรึไง ? ไม่มีใครในที่นี้พูดถึงเรื่องของตระกูลเฉิน! “- เสียงเดิมดังขึ้นมา – “ เจ้านายช่วงนี้ก็อารมณ์ไม่ดี ถ้าเขาได้ยินว่าเจ้าพูดถึงเรื่องนี้ เจ้าคงมีปัญหาแน่ เจ้าอยากเข้าคุกหนอนรึไง ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นอีกสองคนก็เงียบ พวกเขาหยุดกิน บรรยากาศข้างในเหมือนกับหยุดนิ่ง ไม่กี่วินาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้ยินเสียงชายคนเดิมหัวเราะออกมา – “ ฮี่ฮี่ ข้าก็แค่พูด มีแค่เราสามคนแหละที่รู้ อีกอย่างนี่ก็อยู่ในแมนชั่น มันไม่ได้มีกฎอะไรมากแต่ พี่เบลด ก็พูดถูก ข้าจะระวังไว้ เล่ายี ไปตรวจกันอีกรอบดีกว่า ! “
ด้วยเสียงขยับเก้าอี้ที่ดัง ดูเหมือนจะมีบางคนลุกขึ้นยืนแต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ออกมา จางเทีย ก็พุ่งเข้าไป เขาได้ใช้โซ่ผูกมัดรัดพวกนั้นเอาไว้ในเสี้ยววินาที
ก็อย่างที่ จางเทีย เดาเอาไว้ นักสู้ระดับ 8 น่ะไม่ใช่สิ่งทั่วไปสำหรับทุกที่ ตระกูลเฉินก็ไม่ได้หรูหราอะไรที่จะใช้นักสู้ระดับ 8 มาเป็นยาม นี่มันก็ถือว่าเสียเงินเยอะแล้วที่จะจ้างนักสู้ระดับ 6 และ 7 แต่เมื่อต่ำกว่าระดับ 8 ก็ไม่ต่างอะไรกับไก่เมื่ออยู่ต่อหน้าโซ่ผูกมัด
สองคนในห้องยืนขึ้นมาแล้วและกำลังจะออกจากห้อง คนที่เหลืออยู่นั้นกำลังจับตะเกียบ ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะโดนโจมตี ตาพวกนั้นเบิกกว้างและมองมาที่ จางเทีย ที่ซึ่งใส่ชุดดำแต่พวกเขาขยับรึส่งเสียงออกมาไม่ได้ พวกเขาดูช็อกอย่างมาก
พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายพวกเขาเพราะมันแข็งทื่อขึ้นมา นอกจากกรอกตาและกระพริบตาแล้ว พวกเขาทำอย่างอื่นไม่ได้เลย
ภายใต้หน้า จางเทีย หัวเราะออกมา หลังจากที่พลังวิญญาณเขาเพิ่มขึ้น พลังของโซ่เองก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้พวกนี้ตัวแข็งกันนานกว่าเดิม ในตอนที่โซ่อัดเข้าที่พวกนี้ จางเทีย รู้ว่าแม้แต่คนที่มีพลังวิญญาณมากที่สุดก็ต้องรออย่างน้อย 8 นาทีก่อนที่จะเคลื่อนที่ได้
‘ ช่วงนี้พอให้ข้าทำได้ตั้งหลายอย่าง ‘
“ ข้ารู้ว่าพวกเจ้าได้ยินข้า พวกเจ้าเลือกที่จะกระพริบตาในการตอบก็ได้ ถ้าอยากตอบ เจ้าก็กระพริบตาถี่ๆหลายครั้ง.. “
ทั้งสามคนมองมาที่เขาแต่ไม่มีใครกระพริบตา จางเทีย สะบัดดาบเข้าใส่คอชายที่อยู่บนเก้าอี้ ทำให้เลือดนั้นไหลออกมาอย่างกับเปิดท่อ ในไม่กี่วินาที ชายคนนั้นก็ตัวชุ่มไปด้วยเลือดและตายไป
อีกสองคนตาถลนออกมาและแสดงความกลัวออกมาที่สายตา
“ ข้าจะถามอีกรอบ ใครจะตอบคำถามข้าให้กระพริบตาถี่ๆ.. “
คนหนึ่งด้านซ้ายตอบโต้ช้ากว่า เขาดูเหมือนว่าจะยังลังเล จางเทีย ก็ใช้ดาบแทงเข้าไปที่หัวใจของชายคนนั้นทันที..
คนสุดท้ายที่ยังรอดคือ เฉินสง
“ ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ใครที่จะตอบคำถามข้าให้กระพริบตาถี่ๆ... “ - จางเทีย ถามออกมา
เฉินสง รีบกระพริบตาของตัวเองทันที