หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 353: ปราสาทจินวู

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 353: ปราสาทจินวู

วันที่ 3 มิถุเจ้าน หนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ จางเทีย กลับมาที่เกาะมังกรลับแล้วอยู่ที่นั่นโดยไม่ได้สร้างปัญหาอะไร...

วันนี้มีเรื่องน่าแปลกใจสองอย่างสำหรับนักเรียนในวังมังกรลับ

อย่างแรกชื่อของ จางเทีย อยู่ๆก็ขึ้นเป็นอันดับของรายชื่อความรวยด้วยเงิน 400,000 ทอง  ค่านี้น่ะถึงกับเป็นสองเท่าของที่สองเลยด้วย

ในตอนที่ผู้คนมากมายในวังมังกรลับต่างก็ช็อกกับข่าวนี้ ข่าวที่สองก็ได้มาถึง

ปราสาทบนภูเขาหยุนจูบนเกาะในที่สุดก็ได้มีป้ายและโฆษณาบอกถึงเจ้าของซึ่งอยู่ในอันดับหนึ่งในรายชื่อตะกี้

ในตอนที่ปราสาทนั้นกำลังก่อสร้าง หลายคนในวังมังกรลับต่างก็คิดว่าเป็นของตัวแทนวังไฮหยวน ฐานที่สำคัญอีกที่ของกลุ่มการค้าลองวิน

นี่ก็บ่งบอกได้ว่า ตระกูลจาง ได้ขยายอาณาเขตให้ยังแผนกซีซิง  ตอนนี้แผนกซีซิงจะทำการย้ายไปที่ปราสาทบนภูเขาหยุนจู จากนี้มาตรฐานของคนที่เข้าวังมังกรลับต้องสูงกว่าระดับ 6  พวกที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 6 ลงไปแล้วจะถูกย้ายไปยังปราสาทที่ภูเขาหยุนจูทั้งหมด

แต่ในตอนที่ป้ายถูกแขวนลงมาแล้วทุกคนต่างก็อึ้งเพราะป้ายที่ปราสาทนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวแทนของวังไฮหยวนเลยสักนิด มันกลับเป็น ‘ ป้ายส่วนตัว ‘ ซึ่งแทนฐานะของเจ้าของ

ในจินหยวนซึ่งปกครองด้วยคนจีนแล้วมีกฎเคร่งครัดสำหรับการออกแบบป้ายของตระกูลในระดับต่างๆ  มีแค่ตัวแทนชนชาติและกองทัพเท่านั้นที่สามารถใช้มังกรมาเป็นป้ายได้

พวกสัตว์ในตำนานทั้งสี่ของจีนอย่างมังกรเขียว, เสือขาว, ฟินิกส์ เต่า และงูนั้นไม่ได้ถูกอนุญาตให้เอามาใช้เป็นป้ายสำหรับตระกูลทั่วไปของจินหยวน  จากธรรมเนียมของจีนแล้ว มีแค่จักรพรรดิที่ซึ่งก่อตั้งประเทศเท่านั้นที่มีสิทธิใช้การออกแบบของทั้งสี่นี้เป็นสัญลักษณ์ได้

ธงของวังไฮหยวนเป็นทะเลและท้องฟ้า

นอกจากนี้ก็ยังมีกฎอื่นๆอีกมากมาย อย่างสีด้านล่างธงของกลุ่มการค้าและองค์กรต่างๆไม่ควรที่จะเป็นสีดำรึแดงเพราะสองสีนั้นจะอยู่ที่ด้านล่างธงของกองทัพจีน  เอาอีกตัวอย่างนอกจากกฎเมื่อตะกี้แล้ว ธงส่วนตัวที่เป็นสัญลักษณ์ของอาณาเขตและสมบัติต่างๆนั้นควรที่จะเป็นสามเหลี่ยมไม่ใช่สี่เหลี่ยม

ธงที่ชูอยู่ที่ปราสาทนี้น่ะคือธงสามเหลี่ยมสีซึ่งมีนกสามขาแปลกๆที่อยู่ในดวงอาทิตย์สีทอง

เด็กทุกคนในวังมังกรลับต่างก็ช็อกเพราะปราสาทนี้น่ะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของวังไฮหยวนแต่เป็นสมบัติส่วนตัว

นอกจากเป็นตัวแทนของวังไฮหยวน พวกเดียวที่สามารถสร้างบ้านบนเกาะนี้ได้ต้องเป็นพวกชนพื้นเมืองและนักเรียนของวังมังกรลับ สำหรับพวกชนพื้นเมือง แม้ว่าบางคนจะรวยแต่พวกเขาก็จ่ายได้อย่างมากก็แค่หนึ่งแสนทอง พวกเขาไม่มีความสามารถที่จะสร้างปราสาทแบบนี้ได้

ในตอนที่พวกเขารู้ว่าเจ้าของปราสาทนั้นคือ จางเทีย  เด็กนักเรียนในแผนกทำลายสวรรค์ต่างก็เหมือนจะคลั่ง  จางเทีย ได้ทำลายสถิติเป็นนักเรียนคนแรกของแผนกที่เป็นเจ้าของปราสาทบนเกาะแห่งนี้

บางคนที่สงสัยได้ทำการเช็คที่บันทึกอันดับแรกของความรวยและพบกว่าก่อนที่ จางเทีย จะเป็นคนรวยที่สุดแบบนี้ได้ เขาก็มีเงินถึง 380,000 ทองแล้วซึ่งทำให้พวกเขาคึกกว่าเดิม  บางคนถึงกับศึกษาประสบการณ์ของ จางเทีย ใน วังมังกรลับ และพบว่า จางเทีย นั้นได้สร้างสถิติสี่อย่างได้ไม่ใช่แค่อย่างเดียว

นักเรียนคนแรกที่เป็นเจ้าของปราสาทบนเกาะตั้งแต่ที่ก่อตั้งวังมังกรลับมา...

นักเรียนที่รวยที่สุดของวังมังกรลับ...

นักเรียนที่ซึ่งสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุดตั้งแต่ที่สร้างวังมังกรลับขึ้นมา...

นักเรียนคนแรกที่ทำยารักษารอบด้านขึ้นตั้งแต่ที่สร้างวังมังกรลับ...

แค่วันเดียว จางเทีย ก็เป็นคนที่ดังที่สุดในวังมังกรลับราวกับดาวเด่นที่ซึ่งสามารถทำยารักษารอบด้านขึ้นมาได้  ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนรึยุคไหน คนรวยก็กลายเป็นที่สนใจ แม้แต่ในวังมังกรลับก็ตาม

ในวันเดียวกันในตอนที่สาวๆแผนกซีซิงได้รู้ข่าวนี้และรู้สึกเหลือเชื่อ พวกเธอต่างก็ตอบรับคำเชิญของ จางเทีย

---- เพราะปราสาทสร้างเสร็จแล้ว ข้าได้เตรียมเครื่องดื่มไว้ ข้าอยากเชิญพวกเจ้ามาปาร์ตี้ตอนเย็นพรุ่งนี้ !

---- จางเทีย

สาวๆทุกคนที่พนันกับ จางเทีย ต่างก็ได้รับคำเชิญ รวมไปถึง กู่เมี่ยหรู ด้วยและสาวๆคนอื่นที่อยู่ในแผนกทำลายสวรรค์  เมื่อเห็นจดหมายเชิญนั้น สาวๆทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา

“ รุ่นพี่จางเทีย จริงๆด้วย ! มีแค่เขาที่ส่งจดหมายเชิญแบบนี้.... “- หลิวชาช่า และสาวๆคนอื่นในแผนกซีซิงต่างก็พยักหน้า

“ เราจะไปดีมั้ย ? “ – เด็กสาวอีกคนถามออกมาอย่างลังเล

“ แน่นอนว่าเราจะไป เขาน่ะเป็นคนใจแคบ ถ้าเราไม่ไป เขาต้องมาทวงหนี้เราแน่ ! “

สาวๆต่างก็พากันหัวเราะออกมา

“ ถ้าเราเข้ากับ จางเทีย ได้ดี เราอาจจะได้ช่วยคนที่รวยที่สุดในอนาคตก็ได้ ! ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินอีก ! “ – เด็กสาวคนหนึ่งพูดตลกออกมา

“ มีคนบอกว่า จางเทีย น่ะยังไม่มีแฟน แต่มันก็ถือเป็นโอกาสที่ดี ถ้าใครชอบเขา เธอต้องพิชิตหัวใจเขาให้ได้ ไม่งั้นแล้วมันจะสายเกินไปแน่ๆ ! “

“ เพราะ ยู่ห่าน ได้เสียจูบแลกให้กับ จางเทีย ไป ยู่ห่าน น่าจะลองดู ! “

“ ไม่มีทาง .. “ – หน้าของ ดูยู่ห่านแดงขึ้นมาเล็กน้อย – “ ลืมได้เลย เขาน่ะก็แค่ไปช่วยข้าเฉยๆ ! “

สาวๆต่างก็ล้อเธอยกเว้นแค่ กูเหลียงหยิงที่ซึ่งแค่ยิ้มออกมา  แปลกแต่ก็เป็นสัญชาตญาณ ดูยู่ห่าน ได้มองไปที่ กู่เหลียงหยิง  สองสาวรู้ว่ามันหมายความว่าอะไร ..

นอกจากสาวๆ 12 คนที่พนันกับ จางเทีย แล้ว ก็มีคนอื่นที่ได้รับคำเชิญด้วยรวมไปถึงเพื่อนที่ดีของเขาในแผนกซีซิง – จางคีเหลียง, จางหยุนเฟย, เว่ยเว่ย , จางหงเชง และกลุ่มของ หยางหยวนคัง ที่ซึ่งร่วมงานกับ จางเทีย เพื่อขายยาตั้งแต่ตอนแรก  กูไคดี,หม่าไอหยุน ที่สอนทักษะการเคลื่อนที่ให้กับ จางเทีย ก็ได้รับการเชิญด้วย   หลิวซู ที่ซึ่งได้กินเหล้ากับ จางเทีย และ จางหลิน   ซูเวนเจียง ที่ซึ่ง จางเทีย ได้รู้จักตอนที่เขาไปเป็นยักษา

หลังจากที่ได้รับคำเชิญ  จางคีเหลียง, จางหยุนเฟย, เว่ยเว่ย และ จางหงเชง ต่างก็รู้สึกซึ้ง  เพราะความต่างด้านการเรียนและหน้าที่ระหว่างทั้งสองแผนกนั้นทำให้พวกเขาไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่  โดยเฉพาะหลังจากที่ จางเทีย เริ่มดังขึ้นมา หลังจากที่ได้รับคำเชิญแล้ว พวกเขาต่างก็นึกถึง จางเทีย คนเดิมขึ้นมาอีกครั้ง...

ทุกอย่างนั้นเปลี่ยนไป ยกเว้นแค่มิตรภาพของพวกเขา

ในตอนที่ได้รับคำเชิญ จางหลิน และ ซูเวนเจียง ก็ช็อกอย่างมาก  หลังจากที่ดูจดหมายเชิญสักพัก  ในที่สุดพวกเขาก็ยอมรับความจริง  รุ่นน้องที่ทำงานเป็นยักษาด้วยกันนั้นเริ่มแปลกไป

จางหลิน และ ซูเวนเจียง นั้นไม่ได้โง่  พวกเขาต่างก็รู้ว่ามันสำคัญแค่ไหนที่จะรักษามิตรภาพของพวกเขากับ จางเทีย ไว้

ใครก็ตามที่อยู่อันดับหนึ่งของรายชื่อความรวยน่ะไม่ใช่คนธรรมดาในประวัติศาสตร์ของวังมังกรลับแน่ นอกซะจากว่าพวกเขาจะตายตั้งแต่อายุยั้งน้อย  จางเทีย อายุแค่ 17  ใครก็ตามก็คงคาดเดาได้ถึงอนาคตที่สดใสของ จางเทีย

พวกเขาเคยอยู่กับ จางเทีย ด้วยกันกับ หยางหยวนคัง  ไม่นานมานี้พวกเขารู้มาว่า หยางหยวนคัง มีชีวิตที่ดีในแผนกทำลายสวรรค์ ในตอนที่พวกเขาต้องดิ้นรนเพื่อหาคะแนนและเงินค่าใช้จ่ายรายเดือน   หยางหยวนคัง น่ะเริ่มทำธุรกิจได้ลงตัวแล้ว

แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง หยางหยวนคัง กับ จางเทีย นั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไรแต่อย่างน้อยก็บ่งบอกได้ว่า จางเทีย น่ะส่งผลต่อการตัดสินใจและอนาคตของคนรอบตัวเขา

แน่นอนว่า จางเทีย น่ะเป็นเพื่อนที่เชื่อถือได้และมีอำนาจ  เขายังเป็นครูที่ดีและเพื่อนที่คอยช่วยด้วย

หลิวซู ที่ซึ่งรู้จัก จางเทีย ผ่านทาง จางซู  ก็รู้สึกแบบเดียวกัน  หลังจากที่ได้รับคำเชิญแล้ว หลิวซู รู้สึกพิเศษขึ้นมา  เขาไม่คิดว่า จางเทีย จะยังจำเขาได้ในตอนนี้ ยังไงซะพวกเขาก็เจอกันไม่กี่ครั้งและไปดื่มด้วยกันไม่บ่อย

“ ข้าสงสัยว่า จางซู จะรู้สึกยังไงถ้าเขารู้ว่าญาติผู้น้องน่ะได้กลายเป็นคนดังไปแล้ว “ – ความคิดนั้นแว๊บขึ้นมาในหัว หลิวซู

...

“ เราต้องซื้อของขวัญไปให้เขาด้วยมั้ย ? “ – เทียบกับคนอื่นๆแล้ว หยางหยวนคัง และ จางเฟง ต่างก็ตื่นเต้นและซึ้ง   พวกเขาหาเงินมาได้เพราะ จางเทีย   ในตอนที่ได้รับคำเชิญ พวกเขาก็มารวมตัวกันและคุยกันเรื่องไปหา จางเทีย ในวันพรุ่งนี้

ยิ่งพวกเขาหาเงินมากผ่าน จางเทีย ได้เท่าไหร่   จางเทีย ก็ยิ่งสำคัญมากเท่านั้น  ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงต้องดูแลความสัมพันธ์นี้ไว้ดีๆ คนที่ถามออกมานั้นคือเพื่อนของ หยางหยวนคัง  ไม่นานหลังจากที่เขาตอบ คนที่เหลือก็เริ่มคุยกันเรื่องนี้ยกเว้นแค่ หยางหยวนคัง ที่ซึ่งได้มองไปยังจดหมายของ จางเทีย ด้วยท่าทีจริงจังและเงียบไป

ในบรรดาพวกเขาแล้ว หยางหยวนคัง นั้นเป็นคนมีอำนาจที่สุดในกลุ่ม ดังนั้นคนอื่นๆจึงรอคำตอบจากเขา

“ เจ้าคิดว่า จางเทีย ต้องการของขวัญจากเรางั้นเหรอ ? “ - หยางหยวนคัง ถามออกมา จากนั้นพวกนั้นก็ได้มองหน้ากันและไม่ได้พูดอะไร

“ หยวนคัง เจ้าหมายความว่าไง ? “

“ มันก็แค่ปาร์ตี้กับเพื่อน เราแค่ต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างจริงใจ ไม่จำเป็นต้องเอาของขวัญไปหรอก แค่สนุกกับมื้อเย็น แค่เอาแฟนไปที่นั่น ถ้ามีนะ  ข้าเองก็จะเอาแฟนไปด้วย ! “ – หยางหยวนคัง ยิ้ม

“ เอิ่ม...มันจะเหมาะเหรอ ? “

“ เจ้าจะรู้เองแหละ  ไม่มีใครสนุกกับการได้รับการดูแลแบบพิเศษหรอก  ใช้โอกาสนี้สนุกซะ ถ้าไม่ เจ้าจะรู้สึกเสียดาย ! “ - หยางหยวนคัง พูดออกมาด้วยท่าทีจริงจัง

หลังจากที่คิดคำพูดนั้นดีๆแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกว่ามันมีเหตุผล

...

หลานหยุนซี ที่ซึ่งอยู่ในศาลาฟินิกส์เองก็ได้รับคำเชิญด้วย ก่อนหน้านี้เธอได้ออกไปนอกเกาะเพื่อทำงานของตระกูล ในตอนที่เธอกลับมา มันก็วันที่ 28 มิถุนายน แล้ว

จนเธอกลับมาเธอถึงได้รู้ว่า จางเทีย น่ะเจออะไรมาบ้างในตอนที่เธอไม่อยู่

หลานหยุนซี รู้ว่าคนระดับ 9 ที่กลุ่มลองวินได้ส่งมาปกป้องนั้นได้ทรยศและได้ทำการร่วมมือกับพวกมีอำนาจที่ยังไม่ทราบฝ่ายซึ่งไม่แตกต่างอะไรกับการมีแผ่นดินไหวอันน่ากลัวในกลุ่มลองวินและวังไฮหยวน มันมีข้อมูลที่น่ากลัวอย่างมาก

คนหนุนหลัง หลิวเซียง คือใคร ?  เขาเป็นสายของอีกพวกก่อนที่จะเข้าร่วมกลุ่มลองวินงั้นเหรอ ? มีคนอื่นอย่าง หลิวเซียง ในกลุ่มลองวินอีกมั้ย ? มันบังเอิญรึได้วางแผนมาแล้วที่จะจัด หลิวเซียง  มาปกป้อง จางเทีย ? ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องน่าอายของวังไฮหยวนที่ปล่อยให้นักฆ่ามาจัดการเด็กของวังมังกรลับ ? อีกอย่างแล้วจะมั่นใจได้ยังไงว่าข้อความที่ จางเทีย ผลิตยาขึ้นมาได้นั้นจะไม่รั่วไหล ?

แต่ละคำถามนั้นล้วนแต่ร้ายแรงทั้งนั้น   หลานหยุนซี เริ่มกังวลขึ้นมา

ตอนแรกบางคนในกลุ่มลองวินยังคงสงสัยในคำรายงานของ จางเทีย ที่ว่า หลิวเซียง นั้นทรยศและมาฆ่า จางเทีย  ยังไงซะ จางเทีย ก็เป็นคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์  ตอนนี้ หลิวเซียง ก็ตายไปแล้วและ จางเทีย ก็เป็นแค่หลักฐานเดียว ในสายตาของบางคนหลักฐานแบบนี้น่ะยังไม่พอ

ในตอนที่กลุ่มลองวินได้ตรวจสอบภูมิหลังของ หลิวเซียง  พวกมีอำนาจบางคนที่ทำการแนะนำ หลิวเซียง ให้กลุ่มลองวินได้ฆ่าตัวตายไปทีละคนๆ หลังเบาะแสถูกตัดขาด พวกคนที่สงสัยในคำพูดของ จางเทีย ต่างก็หุบปากเงียบ

ตอนนี้แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่า หลิวเซียง น่ะไม่ได้บริสุทธิ์แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือกลุ่มลองวินน่ะไม่รู้ว่ามันร้ายแรงแค่ไหนกับการที่มีกลุ่มอื่นมามีอำนาจในกลุ่มพวกเขา

กลุ่มผู้นำของวังไฮหยวนเริ่มหงุดหงิด ส่วน จางไทไบ นั้นก็ต้องรับการสอบสวนจากกลุ่มผู้นำ

ตอนนั้นแม้ว่าคนยังคิดว่าเมืองยีแยงและวังไฮหยวนจะปลอดภัยเหมือนอย่างเคยแต่ท้องฟ้าน่ะปกคลุมไปด้วยเมฆดำและความน่ากลัวและพายุอันรุนแรงกำลังจะพัดผ่านเข้ามา

แต่ไม่มีใครรอบๆพายุนี่ที่จะถามเพื่อนตัวเองเพื่อไปหารังใหม่

ในตอนที่เธอจำหน้าตากวนๆของ จางเทีย ได้  หลานหยุนซี ก็คลั่งขึ้นมาทันที

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.