หน้าแรก > ราชันสามภพ
บทที่ 398: ทางเลือกของเจี้ยงเฉิน.

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

บทที่ 398: ทางเลือกของเจี้ยงเฉิน.

 

ความคิดของบรรพบุรุษนักล่าตะวันหมุนไปอย่างดุเดือด ในเวลาไม่นานมันก็สงบกลับสู่สภาวะปกติ เขาหัวเราะอย่างเย็นชา "เจ้าเองก็รู้ตัวดีว่าเต๋าหัวใจของตัวเองไม่มั่นคง แต่เจ้ายังตำหนิผู้อื่น? นิกายตะวันม่วงของข้าไม่อยากได้คนขี้ขลาดที่กลัวการแข่งขันเช่นเจ้า ! หลงยู่ซื่อเพียงคนเดียวมีค่ามากกว่าคนขลาดอย่างเจ้าถึงหมื่นคน คนต่อไป !"

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันเปลี่ยนหัวข้อด้วยความสามารถพิเศษ

 

เจี้ยงเฉินรู้สึกเหมือนกำลังเฝ้าดูการแสดงที่มหัศจรรย์อย่างมาก กลับกลายเป็นว่าน่าจะมีสักวันที่พวกหยิ่งจองหองอย่างหัวหน้าชูหยู่และบรรพบุรุษนักล่าตะวันต้องโดนหักหน้าและรู้สึกอัปยศมากกว่านี้ !

 

การแสดงออกของพวกเขาก็เหมือนกับคนที่เสียหน้าทั่วไป

 

นี่เป็นการแสดงที่ดีอย่างไม่คาดฝัน ! เจี้ยงเฉินรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

 

ดีที่การปรากฏตัวของอัจฉริยะคนต่อไปนี้กลบเกลื่อนความอึดอัดใจของการทรยศของเสี่ยงชี่

 

ซี่ยู่ฟานจากนิกายพฤกษาสวรรค์คือคนต่อไป อัจฉริยะเช่นเขาที่นิกายพฤกษาสวรรค์หยั่งรากลึกและปลูกไว้อย่างมั่นคงไม่คิดที่จะเลือกนิกายอื่น

 

หลังจากที่เขาคือเจี้ยงเฉิน

 

อัจฉริยะสามัญลึกลับกำลังตัดสินใจที่จะเลือกนิกาย

 

การสรรหาบุคลากรและการพูดชักชวนของนิกายทั้งสี่นั้นน่าสนใจและมีสีสันมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาก่อน

 

บรรพบุรุษละอองน้ำแข็งแห่งนิกายวายุคลั่งมีความเชื่อมั่นอย่างมากหลังจากที่เสี่ยงชี่ยอมแปรพักตร์ ดังนั้นนางจึงได้ทำสัญญากับเจี้ยงเฉินมากมาย พร้อมกับสาบานว่านางจะปรับแผนการบ่มเพาะให้เขาเพื่อให้เขาสามารถตัดผ่านอาณาจักรต้นกำเนิดด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

"ชายหนุ่ม ความแข็งแกร่งของจิตใจของเจ้าน่าจะสูงที่สุดในบรรดาอัจฉริยะทั้งหมด นิกายวายุคลั่งของข้าเน้นย้ำถึงการควบคุมจิตใจมากที่สุด ทุกคนรู้ดีว่าเรามีมรดกที่ยอดเยี่ยมตกทอดกันมาหลายชั่วอายุคน สาวกชายและหญิงของเรายังสามารถมีส่วนร่วมในการบ่มเพาะแบบคู่ และนิกายของเราให้เกียรติสาวกชายที่มีพรสวรรค์เป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่นเมื่อ 1,600 ปีที่แล้วผู้ชายอัจฉริยะในนิกายของข้าที่มีพรสวรรค์และศักยภาพที่หาตัวจับยาก สาวกหญิงทั้งเก้าคนในนิกายต่างก็มาเป็นคู่บ่มเพาะให้เขา กลายเป็นตำนานที่น่ามหัศจรรย์ที่ถูกกล่าวขานตลอดชั่วอายุของผู้คน”

 

การฝึกฝนบ่มเพาะแบบคู่ !

 

นี่เป็นสิ่งล่อลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับสาวกชายทุกคน

 

ด้วยอายุบรรพบุรุษคนเก่าเป็นตัวอย่าง การที่จะมีหญิงงามทั้งเก้ามาเป็นคู่บ่มเพาะเฉพาะกับเขา นี่คือสิทธิที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อ หนึ่งมังกรและเก้าฟีนิกซ์ !

 

การล่อลวงแบบนี้เป็นเสน่ห์ที่ไม่สามารถต้านทานได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบ่มเพาะคู่ในนิกายวายุคลั่งไม่ใช่สิ่งที่อาจทำให้ผู้บ่มเพาะสูญเสียเป้าหมายของเขา แต่จะเป็นผลให้เกิดการพัฒนาร่วมกันและเป็นการปรับปรุงการบ่มเพาะของกันและกัน

 

นี่คือสวรรค์ของผู้ฝึกฝนบ่มเพาะชาย !

 

เป็นเรื่องน่าเสียดายที่นิกายวายุคลั่งมีมาตรฐานสูงมากสำหรับการยอมรับสาวกชาย เฉพาะอัจฉริยะที่ดีที่สุดเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมนิกายได้

 

 

ตัวอย่างเช่น – ศักยภาพของเขาสูงมาก บรรพบุรุษละอองน้ำแข็งเห็นว่ารูปร่างหน้าตาของเขาค่อนข้างหยาบกร้านและขรุขระ ดังนั้นนางจึงไม่อยากจะรับเขาเข้าร่วมนิกาย

 

บรรพบุรุษเก้าสิงโตชื่นชมยกย่องอัจฉริยะสามัญคนนี้อย่างมากตั้งแต่เริ่มแรก เมื่อนิกายตะวันม่วงต้องการที่จะปราบปรามเจี้ยงเฉิน บรรพบุรุษเก้าสิงโตเป็นคนที่โดดเด่นมากในการประท้วง

 

"เจ้าเด็กอัจฉริยะ ข้าค่อนข้างชื่นชมเจ้า ข้ารู้ดีว่านิกายจิตมหัศจรรย์ของข้าอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับเจ้า นั่นไม่ได้ขัดขวางข้าจากการชื่นชมเจ้า ขอข้าพูดอะไรสักหน่อย เมื่อเจ้าถูกปราบปรามในพื้นที่ส่วนปฐพีและพื้นที่ส่วนนภา ข้าคือคนที่สนับสนุนเจ้าจากเงามืด ไม่ใช่ว่าข้าต้องการให้เจ้าตอบแทน ข้าเพียงต้องการบอกเจ้าว่าประตูของนิกายจิตมหัศจรรย์เปิดกว้างสำหรับเจ้าเสมอ นอกจากนี้ ข้ายังอยากจะขอบคุณเจ้าสำหรับการค้นพบอัจฉริยะม้ามืดเช่นหลิวเวิงไคให้ข้า ! "

 

ทุกคนรู้ถึงความสัมพันธ์ของหลิวเวิงไคกับเจี้ยงเฉิน

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันเป็นคนต่อไปและเสียงของเขาก็แข็งเหมือนท่อนไม้ "ชายหนุ่ม ความบาดหมางระหว่างพวกเราสองคนสามารถคลี่คลายลงได้ ข้าบอกได้ว่าในตอนท้ายความทะเยอทะยานของเจ้าคือเต๋าศิลปะการต่อสู้ นิกายตะวันม่วงสามารถให้ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการในแง่ของมรดกทางเต๋าศิลปะการต่อสู้ ไม่ใช่ว่าข้าง ๆ ข้าและนิกายตะวันม่วงไม่มีที่สำหรับเจ้า ถ้าเจ้ายินดีที่จะเข้าร่วมนิกายตะวันม่วง ข้าจะปฏิบัติกับเจ้าเหมือนกับทุกคน"

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันยังรู้สึกว่าคำพูดของเขาฟังดูไม่ค่อยจริงใจ ไม่ต้องพูดถึงเจี้ยงเฉิน

 

เจี้ยงเฉินรู้ว่านิกายตะวันม่วงรู้ตัวตนของเขามานานแล้ว ดังนั้นด้วยความแค้นระหว่างเขากับหลงยู่ซื่อ จึงไม่มีอนาคตสำหรับเขาในนิกายนี้

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันต้องการจะหลอกล่อให้เขาเข้าไปในนิกายตะวันม่วง

 

เจียงเฉินยิ้มเบา ๆ และไม่แยแส

 

เมื่อมาถึงบรรพบุรุษพันใบ ชายชราคนหนึ่งที่พูดไม่ค่อยเก่ง ไม่ได้มีสำบัดสำนวน เขายิ้มให้เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าคนอื่นได้พูดทั้งหมดที่ต้องพูดไปหมดแล้ว ไม่มีข้อได้เปรียบอะไรที่เขาสามารถเสนอได้เมื่อถึงคราวของเขา

 

"ชายหนุ่ม นิกายพฤกษาสวรรค์ของข้ามีทรัพยากรมากที่สุด ศักยภาพของเจ้าค่อนข้างสูงในทุกด้าน แต่สิ่งที่เจ้าขาดมากที่สุดคือทรัพยากรใช่มั้ย? ถ้าเจ้าเข้าร่วมนิกายพฤกษาสวรรค์ของข้า เจ้าสามารถเลือกใช้ทรัพยากรได้ตามที่เจ้าต้องการ "

 

บรรพบุรุษพันใบใช้เวลาคิดอยู่นานและในที่สุดก็มาถึงจุดสำคัญของปัญหา

 

สี่นิกายได้พูดตามหน้าที่ของพวกเขาแล้ว และตอนนี้ก็คือเวลาของเจี้ยงเฉินที่จะเปิดเผยจุดยืนของเขา

 

เจี้ยงเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน "ข้าทำข้อตกลงกับพี่น้องของข้าไว้ ฉะนั้นข้าจะเลือกนิกายพฤกษาสวรรค์ "

 

เมื่อคำว่า "พฤกษาสวรรค์" ดังออกมาจากปากของเจี้ยงเฉิน บรรพบุรุษทั้งสามคนก็รู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาจมอยู่กับความผิดหวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรพบุรุษเก้าสิงโตที่ถอนหายใจอย่างหม่นหมอง

 

บรรพบุรุษละอองน้ำแข็งแห่งนิกายวายุคลั่งยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางได้วางเหยื่อล่อขนาดใหญ่ไว้ในเรื่องของการฝึกบ่มเพาะแบบคู่กับเหล่าสาวกหญิงของนิกายของนาง นางคิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะเลือกนิกายวายุคลั่งโดยไม่มีข้อกังขาใด ๆ

 

บรรพบุรุษนักล่าตะวันรู้มานานแล้วว่าเจี้ยงเฉินคงไม่เลือกนิกายตะวันม่วง แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเจี้ยงเฉินจะเลือกนิกายพฤกษาสวรรค์

 

"เจ้าปีศาจไม่เลือกนิกายวายุคลั่ง เขาทนต่อการยั่วยวนอย่างการฝึกฝนบ่มเพาะแบบคู่ได้! คนที่มีความมุ่งมั่นและทะเยอทะยานดังกล่าวเป็นคนที่ข้าไม่ควรมองข้ามได้อย่างเด็ดขาด " บรรพบุรุษนักล่าตะวันหน้าตาบูดบึ้งขึ้นมา ในที่สุดเขาก็รู้ว่าคู่แค้นของหลงยู่ซื่อไม่ใช่คนที่เรียบง่ายเท่าที่พวกเขาเคยคิดกัน

 

เมื่อสักครู่บรรพบุรุษพันใบเองก็ยังไม่มั่นใจว่าคำพูดชักชวนของเขาจะชนะ เขารู้สึกว่าไม่ว่าสาวกสามัญจะตัดสินใจอย่างไรเขาคงไม่เลือกนิกายพฤกษาสวรรค์

 

อย่างไรก็ตามสายฟ้าฟาดลงจากฟากฟ้าและปักลงบนศีรษะของเขาเหมือนพายเนื้อขนาดใหญ่ สิ่งนี้ทำให้คนที่เงียบขรึมพูดน้อยอย่างบรรพบุรุษพันใบดูสดใสร่าเริง

 

แม้ว่านี่จะเป็นทางเลือก แต่เป้าหมายของทุกคนก็คืออัจฉริยะสามัญ ยังไงก็ตามในความเป็นจริงไม่มีใครอยากจะทรยศต่อนิกายดั้งเดิมของตัวเอง

 

เสี่ยงชี่เป็นแค่อุบัติเหตุเพียงคนเดียว

 

ดังนั้นเมื่อบรรพบุรุษพันใบตระหนักว่าอัจฉริยะสามัญที่ทุกคนได้พูดถึงนับไม่ถ้วนเลือกนิกายพฤกษาสวรรค์ของเขา เขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

 

เทียนฮงเริ่มหัวเราะอย่างเต็มที่ "ลูกพี่ ท่านไม่ได้โกหกข้า เมื่อท่านได้เลือกนิกายแล้ว ท่านควรถอดหน้ากากที่น่าเกลียดออกไปและปล่อยให้ทุกคนเห็นใบหน้าที่แท้จริงของท่านได้หรือไม่ "

 

หลิวเวิงไครีบเดินเข้ามา "ลูกพี่ ข้าขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย เมื่อเข้าสู่นิกาย อนาคตของท่านจะสว่างไสวและไม่มีที่สิ้นสุด"

 

สายตาทุกคู่จ้องไปที่ร่างของเจี้ยงเฉินอย่างพร้อมเพรียงกัน

 

บางคนคาดหวัง บางคนอยากรู้อยากเห็น มีความหดหู่หรือความเกลียดชังที่คาดการณ์ไว้มากขึ้น

 

เจี้ยงเฉินไม่ได้วางมาดขณะที่เขาเอื้อมมือออกไปดึงหน้ากากออก

 

"เจี้ยงเฉิน !!"

 

หลงยู่ซื่อเป็นคนแรกที่ตอบสนองและพูดด้วยเสียงรังเกียจ "เจ้าเล่นบทบาทลึกลับมานาน ในที่สุดเจ้าก็เต็มใจที่จะเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงของตัวเอง"

 

"นั่นคือเขา ! เจี้ยงเฉิน ! คืออัจฉริยะสามัญ ! " ประมุขของนิกายพฤกษาสวรรค์ซี่เทียนชูยืนอยู่ข้างหลังบรรพบุรุษพันใบขณะที่เขาอุทานด้วยความประหลาดใจและความสุข

 

รองประมุขหวังตุยที่พยายามชักชวนเจี้ยงเฉินให้เข้าร่วมนิกายของเขาก่อนหน้านี้ในการคัดเลือกรอบแรกรู้สึกประหลาดใจอย่างไม่น่าเชื่อขณะที่เขาพูดพึมพำกับตังเองและหัวเราะเสียงดัง "เจี้ยงเฉินคืออัจฉริยะสามัญพิลึกรึ? ข้าช่างโง่เขลา ข้าควรจะคาดเดาได้ก่อนหน้านี้ ! "

 

" ช่างน่าสงสาร และน่าเสียดาย !"

 

หวังตุยถูกล้อมด้วยความเกลียดชังและเสียใจ ทำไมเขาถึงไม่ประสบความสำเร็จในเวลานั้นและทำให้นิกายของตัวเองมีอัจฉริยะที่มีความรอบด้าน?

 

รองประมุขเจี้ยงรั่วแห่งนิกายวายุคลั่งถอนหายใจเบา ๆ "เจี้ยงเฉินคือคนที่ทั้งสามนิกายแย่งตัวเขาอย่างมากในการคัดเลือกรอบแรก เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่แม้ว่านิกายวายุคลั่งของข้ามีสาวกหญิงที่สวยงามมากมาย เราก็ยังไม่สามารถเอาชนะจิตใจของอัจฉริยะคนนี้ได้ ทำไมข้ารู้สึกว่าโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของนิกายวายุคลั่งของเราเพิ่งผ่านเราไป? "

 

สายตาของบรรพบุรุษละอองน้ำแข็งมีความรู้สึกลึกและเต็มไปด้วยความหมาย นางรู้สึกเสียดายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเมื่อนางมองไปที่หลังของเจี้ยงเฉิน เกือบจะรู้สึกเหมือนกันกับเจี้ยงรั่วในขณะนั้น

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนคือบรรดาผู้บริหารอาวุโสของนิกายที่ปรากฏตัว ณ สถานที่นั้นนอกเหนือจากนิกายพฤกษาสวรรค์ ทุกคนต่างก็มีความรู้สึกเสียใจเช่นเดียวกันที่ได้ต้องปล่อยอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ให้หลุดมือไป

 

หัวหน้าชูหยู่มีสีหน้าที่น่าเกลียด ร่องรอยของความเสียใจเล็ก ๆ น้อย ๆ กระพริบผ่านหัวใจของนางในขณะนั้น แต่สำหรับคนที่หัวแข็งเอย่างนาง มีเพียงรอยเครื่องหมายเท่านั้นที่เหลืออยู่ในใจ

 

ซี่เทียนชูเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในขณะนี้ "ท่านบรรพบุรุษ เจี้ยงเฉินมีชื่อเสียงมากในราชอาณาจักรนภาจันทร์ เมื่อเขาปฏิเสธคำเชิญของนิกายทั้งสามก่อนหน้านี้ ข้าคิดว่าเขาตั้งเป้าจะเลือกนิกายตะวันม่วง ดูเหมือนว่าข้าจะคิดมากเกินไป บรรพบุรุษ เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ นี่คือโชคลาภอันยิ่งใหญ่ของนิกายของเรา ! "

 

บรรพบุรุษพันใบพยักหน้า "ข้าจะฝึกบ่มเพาะให้เขาด้วยตัวเอง"

 

จากบรรดาอัจฉริยะของนิกายพฤกษาสวรรค์ เหลียนคังไห่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าสู่สี่อันดับแรกได้ นี่เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจสำหรับนิกายพฤกษาสวรรค์

 

ตอนนี้บรรพบุรุษพันใบได้พบเมล็ดพันธุ์ชั้นเลิศ เมล็ดพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งสามารถทำให้นิกายตะวันม่วงเดือดดาลได้ เพียงแค่มองไปที่นิกายตะวันม่วงตอนนี้ หัวหน้าชูหยู่ถูกปลดออกจากพื้นที่ส่วนปฐพีแล้ว สาวกของนางไม่ตายก็พิการ และแม้แต่สาวกคนโตของนางก็ได้ทรยศต่อนิกาย !

 

แหล่งที่มาของเรื่องทั้งหมดนี้ ตัวการใหญ่ก็คือเจี้ยงเฉิน

 

แน่นอนว่าไม่ใช่สมาชิกทุกคนของนิกายพฤกษาสวรรค์มีความสุข ตัวอย่างเช่นอาวุโสเหล็กหลงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ซี่เทียนชู อารมณ์ของเขาเกินกว่าความสิ้นหวังในขณะนี้

 

เขาไม่เคยคิดว่าอัจฉริยะสามัญจะเป็นเจี้ยงเฉิน ตอนนี้ตระกูลเหล็กคงไม่มีทางได้เปรียบและไม่มีทางได้ปลดปล่อยความแค้นของพวกเขากับเจี้ยงเฉิน

 

ปากของเขาเต็มไปด้วยรสขมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้ยินบรรพบุรุษพันใบกล่าวว่าเขาจะให้ความสำคัญกับการฝึกบ่มเพาะของเจี้ยงเฉินด้วยตัวเอง หลานชายแท้ ๆ ของเขา เหล็กต้าฉี ถูกกำจัดออกจากสิบหกคนสุดท้าย

 

ตรงกันข้ามนี้ เหล็กหลงเครียดมากจนอยากจะเอาหัวโขกกำแพงจริง ๆ

 

มีเสียงโห่ร้องขึ้นมา ณ จุดนั้น นิกายจิตมหัศจรรย์และนิกายวายุคลั่งเสียใจมากที่ได้สูญเสียอัจฉริยะดังกล่าวและค่อนข้างอิจฉานิกายพฤกษาสวรรค์

 

อย่างไรก็ตามความคิดของพวกเขาเป็นจริง มันยังคงเป็นสิ่งที่ดีตั้งแต่อัจฉริยะสามัญไม่ได้เลือกที่จะเข้าร่วมนิกายตะวันม่วง

 

ถ้าเขาเข้าไปในนิกายนั้น มันจะเป็นการติดปีกให้กับพยัคฆ์ และจะไม่มีที่ว่างให้กับอัจฉริยะจากนิกายอื่น ๆ อีกต่อไป

 

เทียนฮงตื่นเต้นที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับเจี้ยงเฉินและเขาก็ชื่นชมลูกพี่ของเขามากยิ่งขึ้น

 

"ลูกพี่ ข้าได้ยินมาว่าท่านเคยกักตัวเหล็กต้าฉี ข้าชื่นชมท่านมากนับตั้งแต่ตอนนั้น ฮ่า ๆ ข้าไม่คิดเลยว่าเราจะกลายเป็นเพื่อนกัน! "

 

หลิวเวิงไคไม่ได้อิจฉา เขารู้ว่านิกายจิตมหัศจรรย์ไม่ใช่สถานที่ของลูกพี่ นอกจากนี้จากหนังสือข้อมูลที่เจี้ยงเฉินให้เขา นิกายของเขาไม่คู่ควรกับเจี้ยงเฉิน !

 

"ลูกพี่เข้าร่วมนิกายพฤกษาสวรรค์อาจเป็นเพราะเขาต้องการทรัพยากร?"

 

เจี้ยงเฉินคืออันดับที่ 6 เขาเลือกที่ของเขา ที่เหลืออีกห้าคนเป็นอัจฉริยะชั้นแนวหน้าของแต่ละนิกาย พวกเขาไม่จำเป็นต้องทรยศนิกายของตน

 

เหลียนคังไห่เลือกนิกายพฤกษาสวรรค์ เชอหยุนหยุนเลือกนิกายวายุคลั่ง และเล่าซี่เลือกนิกายจิตมหัศจรรย์ เล่ยกงหยุนและหลงยู่ซื่อกลับไปยังนิกายตะวันม่วง

 

หัวใจของเล่ยกงหยุนลังเลใจเมื่อเสี่ยงชี่เอ่ยถึงเขาก่อนหน้านี้ บรรพบุรุษนักล่าตะวันเตือนสติเขาโดยส่วนตัวและสัญญากับเขาไว้หลายเงื่อนไขก่อนที่เขาจะตัดสินใจเรื่องนี้

 

การคัดเลือกจบลง นอกเหนือจากปัจจัยที่ไม่คาดคิดของเสี่ยงชี่ สาวกนิรนามคือเจี้ยงเฉินผู้ยิ่งใหญ่เข้าร่วมกับนิกายพฤกษาสวรรค์ ทำให้นิกายนี้เป็นผู้ชนะในตอนท้ายที่สุด

 

พวกเขาได้รับสาวกสามัญมาแทนที่ตำแหน่งของเหล็กต้าฉีที่เสียไป อาจกล่าวได้ว่านิกายพฤกษาสวรรค์ได้รับโชคหลังจากเจอภัยพิบัติ

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.