หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 350: เตรียมการ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 350: เตรียมการ

บางครั้งคนหนึ่งก็ไม่อาจทำบางอย่างเต็มที่ได้ ยกตัวอย่างเช่น จางเทีย ที่ปล่อยทาสออกไปจำนวนมากเมื่อตอนบ่ายนี้

บางทีมันก็เกินกับความอยากของชีวิต ความสงสารที่เขามีให้กับทาส รึความเห็นแก่ตัวเพื่อจะได้ Fruit of Redemption

ดังนั้นแล้ว จางเทีย จึงใช้เงินไปเกือบพันทองเพื่อปล่อยทาสราคาถูกจำนวนมาก ในสายตาของหลายคนแล้ว อย่างน้อยก็ ดาวินชี    จางเทีย นี้คือคนที่ใช้เงินโดยไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหนในการหาเงิน

เมื่อได้ยินว่า จางเทีย มีปราสาท  ดาวินชี ก็คิดว่าตระกูลของ จางเทีย สร้างมันให้กับเขา  ในฐานะผู้ชายที่มีสิทธิในการมีปราสาทบนเกาะมังกรลับและแซ่ว่าจาง  ไม่ต้องเดาเลยว่า จางเทีย ต้องเป็นตัวเด่นของวังไฮหยวนได้แน่

ดาวินชี เชื่อว่าเขาคิดถูก  แม้ว่าวังไฮหยวนจะใหญ่แต่มีกี่คนที่สามารถซื้อทาสด้วยเงินเป็นหมื่นทองได้โดยไม่ลังเลยแบบนี้

‘ บางทีข้าควรจะหาคนหนุนหลังแบบ จางเทีย  มันคงไม่แย่ที่มีคนหนุนหลังแบบนี้ ‘ ดาวินชีคิด อีกอย่างแล้วในความเห็นของ ดาวินชี เขาเชื่อว่า จางเทีย น่ะไม่ใช่คนเลวอะไร คนที่รู้สึกสงสารทาสและเคารพแม้แต่คนที่ต่ำต้อยนั้นไม่มีทางที่จะเป็นคนเลวได้

จางเทีย ขับพา ดาวินชี ไปที่ถนนอีกเส้นใกล้ๆกับหลงสวรรค์

“ ข้าอยู่ในสถานการณ์ที่ซับซ้อน หลายคนต้องการฆ่าข้ารึไม่ก็ไม่อยากให้ข้าเติบโต ถ้าพวกเขารู้ว่าเจ้าทำงานให้ข้า เจ้าจะต้องตายแน่ ข้าไม่อยากเห็นเจ้านอนตายอยู่ในเมืองนี้  ข้าพูดชัดมั้ย ? “ - จางเทีย บอกออกมาอย่างจริงจังในตอนที่ ดาวินชี ลงจากรถ

เพราะ จางเทีย ต้องการหาคนมาทำงานให้เขาในเมืองสตาร์วิว เขาควรจะบอกความจริงเผื่อว่าอีกฝ่ายจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องบาดหมางในธุรกิจของ จางเทีย

เมื่อได้ยินคำเตือนของ จางเทีย  ดาวินชี ก็ยักไหล่และมองไปข้างๆ เขาฝืนกลืนน้ำลายตัวเอง – “ ไม่ต้องกังวล ข้าจะจัดการเอง ! “

“ ถ้าจำเป็นข้าจะส่งคนมาให้เจ้า ถ้าเจ้าต้องการข้า เจ้าก็มาหาข้าได้ เจ้ารู้ไหมว่าต้องไปหาข้าที่ไหน ? “

“ ปราสาทของคุณอยู่ที่ภูเขาหยุนจู เกาะมังกรลับ ! “- ดาวินชี ตอบออกมาเบาๆ

จางเทีย พยักหน้า –“  มีปราสาทที่นั่นแค่ที่เดียว เจ้าหาเจอแน่  ตราบใดที่เจ้าไม่ผิดกฎของเขตไฮหยวนและไม่เป็นที่ต้องการของตำรวจ ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะปลอดภัยที่นั่น ! “

ดาวินชี รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย – “ อืม เจ้ายังไม่ได้ตั้งชื่อปราสาทใช่มั้ย ? “

“ ใช่ ข้ายังไม่ทันได้คิดเลย ! “ - จางเทีย ยิ้มออกมา – “ เอาล่ะ งั้นไว้ค่อยเจอกัน ! “

จางเทีย โบกมือแล้วเหยียบคันเร่งก่อนที่รถจะพุ่งออกไปทันที

...

2 นาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้จอดอยู่ที่ร้านนักสำรวจ  จากนั้นเขาก็ได้เข้าไปในร้าน

นักสำรวจนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับยุคนี้ แม้แต่ในจินหยุน แม้ว่าอาณาเขตนี้อยู่ในแผนที่ของประเทศ แต่ก็มีหลายที่ที่ยังไม่ได้ถูกสำรวจมาอย่างดี  พวกที่ที่ยังไม่ค้นพบนี้ไม่ต่างอะไรจากขุมทองที่รอให้ไปสำรวจอยู่

ที่ส่วนมากในเขตไฮหยวนนั้นมีประชากรหนาแน่ เมืองในเขตไฮหยวนนั้นอยู่ใกล้กันแต่ที่ที่ห่างออกไป 800 กม.จากเขตไฮหยวนนั้นก็มีเขตที่ยังไม่ทำการสำรวจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นแล้วก็จึงยังมีนักสำรวจหลายคนที่มีฐานอยู่ที่เขตไฮหยวน

สำหรับคนหนุ่มที่มีภูมิหลังครอบครัวดีๆ ดินแดนรกร้างนี้เหมือนกับที่ที่เอาไว้ผจญภัย, เดินทาง, พัฒนาตัวเอง  มันไม่ใช่แค่เพื่อเงินเท่านั้น

แต่ละร้านที่ขายสินค้าสำรวจนั้นต่างก็มียี่ห้อห่ออย่างดี มีทั้งยี่ห้อดาบ,เหรียญทองและของอื่นๆคล้ายๆกัน

ดังนั้นแล้ว จางเทีย จึงได้ไปจอดข้างๆร้านที่มียี่ห้อที่ดูดีที่สุด

ในตอนที่ จางเทีย เข้าไปในร้าน หญิงสาวผิวขาวก็ได้เดินมาหาเขาแล้วถามออกมาอย่างสุภาพ – “ ให้ช่วยอะไรมั้ยคะ ? “

จางเทีย มองไปที่สินค้าในร้าน ร้านนี้มีพื้นที่กว่า 1000 ตร.ม. เต็มไปด้วยสินค้ามากมาย เยอะกว่าสินค้าที่มีในเมืองแบล็คฮ็อตอีก แม้แต่อาวุธที่นี่ก็ไม่ใช่อาวุธธรรมดา

“ เธอมีแผนที่มั้ย ? “

“ มีสิ อยากได้แผนที่แบบไหน ? “

“ แผนที่ของเมืองสตาร์วิว, เขตไฮหยวนแล้วก็ประเทศจินหยุนอย่างละอัน ! “

“ เรามีแผนที่ธรรมดาและแผนที่แบบกันน้ำ อย่างหลังน่ะแพงกว่านิดหน่อย อยากได้แบบไหน ? “ - หญิงสาวถามออกมา

“ เอาแบบกันน้ำ ! “
คนขายม้วนแผนที่ทั้งสามทันที

เขาเอามันใส่ท่อและปิดด้วยฝาทองแดง แผนที่กันน้ำนี้ทำมาจากยางพิเศษ ในตอนที่ต้องใช้ก็แค่แผ่ออกมาดู ในตอนที่ไม่ใช้ก็ม้วนเก็บไว้ในท่อนี้ แผนที่แบบอลูมิเนียมน่ะกันได้ทั้งน้ำและไฟซึ่งจะแพงกว่ามาก

“ ราคาของสองอันแรก 3 เงิน สำหรับอันหลังน่ะเพราะมีพื้นที่ยังไม่สำรวจอยู่เยอะซึ่งจะได้รับการยืนยันจากนักสำรวจในตอนสิ้นเดือนพฤษภาคม มันเลยแพงกว่าเล็กน้อย มันราคา 18 เงิน “

“ ไม่มีปัญหา ข้าอยากได้กล้องส่องทางไกลด้วย ! “ – จางเทีย ชี้ไปที่ตู้โชว์อีกด้าน

หญิงสาวเดินไปเอามันมาให้กับ จางเทีย  หลังจากที่เช็คของแล้ว จางเทีย ก็พยักหน้า

“ เอาอะไรอีกมั้ย ?”

“ ลูกดอกทะลุเกาะล่ะ ? “ - จางเทีย ถาม

“ ลูกดอกทะลุเกาะที่นิยมที่สุดคือลูกดดอกระดับ 6 ที่ไม่มีขนนก ลูกดอกแบบนี้ถูกปรับให้มีขนานดเล็กที่สุดและใช้กับหน้าไม้ขนาดกลาง GM760 ด้วยหน้าไม้นี้คุณสามารถยิงทะลุแพนโกลินระดับ 6 ในระยะ 80 ม.ได้  ทีมไหนก็ตามในกองทัพพายุและจินหยวนต่างก็ใช้ลูกดอกแบบนี้ ! “ - หญิงสาวอธิบายออกมา

“ เอามาให้ข้าดูหน่อย “

คนขายกลับออกมาพร้อมกับลูกดอกซึ่งดูเหมือนกับหัวงูและส่งมันให้กับ จางเทีย

จางเทีย รับมันมาและรู้สึกได้ถึงข้อมูลที่โผล่ขึ้นมาในหัวของเขา

Breaking-Wind 6 Armor-Breaking Bolts ไม่มีหางขน

ยาว: 42.7 ซม.

ความกว้างของหัว : 3.5 ซม.

น้ำหนักรวม: 721 ก.

ด้วยความยาวกว่า 40 ซม. ลูกดอกนี้จึงเป็นที่นิยมที่สุดในยุคนี้ ตัวของลูกดอกนั้นแบ่งออกเป็นสี่ส่วนที่มีความหนาและยาวต่างกัน  มันทำให้ดูเหมือนใช้กฎแปลกๆเพราะมันรู้สึกว่าเข้ากันดี

จางเทีย ชั่งน้ำหนักในมือแล้วมองออกไปข้างนอก  ในเสี้ยววินาที จางเทีย ก็ได้ล็อคเป้าไปที่โคมไฟที่ห้อยไว้นอกร้านซึ่งห่างออกไป 100 ม.ที่อยู่อีกฝั่ง   จางเทีย ยิ้มออกมา ‘ แม้ว่าลูกดอกอันนี้จะไม่เบาเท่าของข้าแต่พลังทำลายของมันก็ไม่ได้น้อยกว่าเลย ‘

อีกอย่างแล้วเพราะน้ำหนักของมันทำให้พลังทำลายมันมากกว่าเดิมนิดหน่อย ระยะยิงของ จางเทีย นั้นอยู่ที่ 140 ม.ซึ่งเกือบเท่ากับที่เขาใช้หอกเล็กเลย

หลังจากที่โดนลอบฆ่ามา จางเทีย รู้จักคนพวกนั้นมาบ้าง  ความจริงที่ว่าเขาได้ปลุกสายเลือดขึ้นมาและได้สร้างลูกดอก 2000 อันนั้นไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้ว ถ้าเขายังคงฆ่าคนด้วยลูกดอกของเขา แม้ว่าเขาจะเก็บมันคืนได้แต่แผลบนตัวเหยื่อนั้นก็จะบอกข้อมูลมากมายซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่าต้องทำให้คนอื่นสงสัยเขาแน่ๆ

ดังนั้นแล้วเขาจึงตัดสินใจว่ามันจะดีกว่าที่จะหาซื้ออาวุธและปกปิดร่องรอยของตัวเอง

จางเทีย สั่งลูกดอกแบบนี้มาสองชุดรวมแล้วได้ 48 อัน สำหรับอาวุธแบบนี้จะขายเป็นชุดๆไป ราคาของพวกมันถูกกว่าลูกดอกอันเก่า ลูกดอกพวกนี้ราคาแค่ 1 เงินเท่านั้น

หลังจากที่ซื้อลูกดอกแล้ว จางเทีย ก็ได้ซื้อดาบสองชุด,ชุดทหาร,และกระเป๋า หลังจากที่ใส่ของทุกอย่างลงในกระเป๋า  จางเทีย ก็ออกจากร้านออกมา

ในบรรดาของที่ซื้อมา ของที่แพงที่สุดก็คือดาบแต่ราคารวมของดาบนี่รวมกันแล้วไม่ถึง 5 ทอง ดาบแต่ละเล่มเบากว่า 20 กก. สำหรับผู้ชายที่ใช้ดาบยักษ์มาแล้ว ดาบหนักแบบนี้น่ะเหมือนกับเรื่องตลกสำหรับ จางเทีย ในด้านขนาดและน้ำหนัก

แต่มันก็ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นเรื่องตลกรึเปล่า ตราบใดที่มันมีพลังทำลายล้าง

...

1 ชม.ต่อมา จางเทีย ก็ได้ไปอยู่ที่โรงแรมมิลค์กี้เวย์ชั้น  28  โรงแรมที่หรูที่สุดในเมือง

บริการเข็นรถเข้ามาและถามออกมาอย่างสุภาพ – “ นี่คือห้องของคุณ ให้ข้าช่วยอะไรอีกมั้ย ?”

จางเทีย มองออกไปนอกหน้าต่างห้องและเผยรอยยิ้มออกมา

“ เอากระเป๋าลงจากรถ “ - หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ได้โยนเงินให้กับบริการเป็นทิป – “ ขอบคุณ ไม่มีอะไรแล้ว ข้าแค่อยากพักผ่อน “

“ ได้ครับ ถ้าต้องการอะไรให้สั่นระฆังที่นี่ ถ้าต้องการพักผ่อนรึเสี่ยงโชค มีบ่อนที่ชั้นบน ห้องกินข้าวอยู่ที่ชั้นสอง .. “ – บริการอธิบายก่อนจะปิดประตูห้อง

จางเทีย วางกระเป๋าลงแล้วเดินไปล็อคประตูด้านในก่อนจะเดินกลับมา

เขานั่งยองๆลงกับพื้นแล้วดึงซิปกระเป๋าออกแล้วเอากล้องส่องทางไกลออกมา

จางเทีย ประกอบมันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็ไปที่หน้าต่างตรงหัวเตียง เขาปรับระยะทางระหว่างจุดบอดและเปลี่ยนแสง เขาดึงม่านออก สุดท้าย จางเทีย ก็ส่องออกไปที่ที่หนึ่งซึ่งห่างจากโรงแรมไป 1 กม.

หลังจากที่ปรับมุมและโฟกัสเล็กน้อย เขาก็เห็นที่นั่นได้อย่างชัดเจน

----- แมนชั่นตระกูลเฉิน ---

ป้ายสีทองขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาให้เห็น ด้านล่างป้ายนั้นเป็นยามใส่ชุดดำ  เพราะห่างไปแค่กิโลเดียว  จางเทีย เลยเห็นสีหน้าของพวกยามได้อย่างชัดเจน

จางเทีย ยังคงจับตาดูที่นั่นต่อกว่าหนึ่งชั่วโมง เขาได้ถอนสายตากลับตอนที่เริ่มมืด

หลังจากที่ออกมาจากหน้าต่างแล้ว จางเทีย ก็ได้เปิดโคมไฟที่ห้องนอนและเอาแผนที่เมืองสตาร์วิวออกมา

จางเทีย ชี้ไปที่เขตระหว่างโรงแรมนี้กับแมนชั่นเฉินและศึกษาแต่ละถนนและซอย  รวมไปถึงตึกต่างๆกว่า 10 ครั้ง จากนั้นเขาก็ได้เอาแผนที่เขตไฮหยวนออกมา

บนแผนที่เขตไฮหยวน,เมืองสตารว์วิวนี้มีพื้นที่แค่เล็กน้อย เพราะความต่างเรื่องขนาด รายละเอียดที่แสดงจึงต่างกัน

“ จ๊อก....”

ตอนนั้น จางเทีย ก็ได้ยินเสียงท้องตัวเองร้อง  เขาจับท้องตัวเองและจำได้ว่าเขากินแค่ข้าวเช้ามาและยังไม่ได้กินมื้อเที่ยง

...

จางเทีย ออกจากห้องเพื่อไปยังชั้นสองของโรงแรม ในตอนที่เขาเดินออกมาจากลิฟต์ เขาก็ได้ชนกับคนคนหนึ่งเช้า

“ เจ้านี่เอง ”

ด้วยต่างหูที่มีสีและเสื้อสีฟ้าที่เหมือนกับทอม หญิงสาวที่สวยคนเดิมโผล่มาตรงหน้า จางเทีย   ก่อนที่ จางเทีย  จะได้ทำอะไร เธอก็ได้เอามือมากอดคอเขาแล้วจูบเขาที่แก้มและพูดขึ้นมา – “ ที่รัก ทำไมมาดึกแบบนี้ ข้าล่ะคิดถึงเจ้าจริงๆ ! “

เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าเขากลายเป็นแพะรับบาปแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เห็นกลุ่มคนหงุดหงิดเดินมาหาเขา...

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.