spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
บทที่ 396: สิบหกอันดับแรก การคัดเลือกศิษย์
ชูชิงหานหายไปอย่างกะทันหันโดยไม่มีร่องรอยและไม่มีเบาะแสใด ๆ ที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง
หัวหน้าชูหยู่หรี่ตาลง "ไม่มีใครเห็นเลยรึว่าเกิดอะไรขึ้น?"
ก่อนหน้านี้ทุกคนได้เฝ้าดูการแข่งขันของเหลียนคังไห่ ไม่มีใครใส่ใจกับชูชิงหาน ซึ่งมีสภาพที่ยังไม่ทราบแน่ชัด ดังนั้นไม่มีใครตอบเมื่อหัวหน้าชูหยู่ถามคำถาม
หลงยู่ซื่อที่หน้าตาถมึงทึงกวาดสายตาไปรอบ ๆ นางก็ยังไม่ได้ข้อสรุปอันใด นางยิ้มมุมปากและกล่าวว่า "ท่านอาจารย์ไม่จำเป็นต้องโกรธ คนที่กระเสือกกระสนยึดติดกับชีวิตแทนการเผชิญหน้ากับความตายอย่างกล้าหาญแบบนั้น เขาคงลื่นไหลแอบหนีไป ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ตายก็ตาม เขาก็คงจะพิการหลังจากเจอระเบิดของข้า พลังฉีอันเยือกเย็นของร่างฟีนิกซ์ของข้าได้แช่แข็งเส้นเลือดของเขาทั้งหมด แม้ว่าเขาจะสามารถสกัดกั้นมันได้ชั่วคราว แต่เขาก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้นาน"
หลงยู่ซื่อมั่นใจในความแข็งแกร่งของนางมากและนางไม่ได้ห่วงอะไรเลย
แม้ว่าชูชิงหานจะรอดพ้นด้วยความบังเอิญก็ตาม มันก็ไม่ได้ทำให้นางหวาดกลัว
นางเป็นผู้บ่มเพาะที่มีร่างฟีนิกซ์สวรรค์ นางเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของนิกาย นิกายตะวันม่วงได้เน้นความสนใจและทรัพยากรทั้งหมดให้กับนาง นางไม่มีความจำเป็นที่ต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับศิษย์ที่ถูกทิ้ง
หลายคนได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในกลุ่มชูหยู่ รวมถึงอาวุโสชั้นสูงที่มีตำแหน่งสูงกว่าหัวหน้าชูหยู่
อย่างไรก็ตามทุกคนเลือกที่จะมองข้ามสิ่งที่เกิดขึ้น
เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลงยู่ซื่อ ความสนใจและความหวังของนิกายต่างมุ่งเน้นไปยังนางตอนนี้ จึงทำให้ผู้อาวุโสชั้นสูงไม่กล้าที่จะสอบถามหรือลงโทษหลงยู่ซื่อ
มิฉะนั้นนิกายจะมีการสูญเสียอย่างมากถ้าอัจฉริยะคนนี้รู้สึกหงุดหงิด
บรรพบุรุษนักล่าตะวันเฝ้าดูเหตุการณ์และยิ้มในใจ เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไร
ในความเป็นจริง เขาก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้มากมาย เขายังชื่นชมการกระทำของหลงยู่ซื่อ ยิ่งใหญ่และเป็นมือหนึ่งนี่คือวิธีที่แท้จริงของนิกายตะวันม่วง !
เรื่องราวของชูชิงหานเป็นเหมือนก้อนกรวดที่ถูกร่อนลงสู่ผิวน้ำ ทุกอย่างสงบราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากระลอกเล็ก ๆ น้อย ๆ
ไม่มีใครเอาใจใส่มากในเรื่องนี้
ทุกคนในฝ่ายชูหยู่เป็นเพียงศิษย์เล็ก ๆ ภายใต้หัวหน้าชูหยู่ เขาไม่มีภูมิหลังที่น่าประทับใจหรือมีศักยภาพที่น่าทึ่งให้ทุกคนสนับสนุน
เขาจะอยู่หรือหายตัวไป มันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่าง
นอกเหนือจากความเห็นอกเห็นใจของเสี่ยงชี่ ไม่มีใครในนิกายที่คิดถึงชูชิงหานเลย
เสี่ยงชี่หนักใจไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของเขากับชูชิงหานดีเลิศเลอ เขารู้สึกเศร้าใจเนื่องจากชูชิงหานเป็นคนที่มาจากฝ่ายเดียวกัน
ชะตากรรมของชูชิงหานในวันนี้ทำให้เขาเห็นภาพจาง ๆ ของตัวเองในวันหน้า
ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ค่อยชอบหน้าหลงยู่ซื่ออยู่แล้ว ตอนนี้เขาเกลียดท่าทางโอหังของนางมากขึ้น
นางตั้งใจฆ่าเขาแม้กระทั่งเมื่อชูชิงหานไม่มีความขัดแย้งกับนาง ส่วนเขาเองเคยมีปากเสียงกับนางก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเคยเป็นศิษย์พี่ ผู้หญิงคนนี้คงจะแก้แค้นเขาได้อย่างง่ายดาย ปล่อยให้เขารับชะตากรรมเมื่อนางยึดตำแหน่งของเขา?
เสี่ยงชี่เป็นคนมองโลกในแง่ร้าย
ถึงแม้ว่าเขาจะทำผลงานได้ดีถึงขั้นเข้ารอบสิบหกคน แต่เขาก็ไม่ค่อยมีความสุขมากเท่าไหร่นัก
ในวันสุดท้ายของรอบที่สอง อัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่คนของพื้นที่ส่วนได้รับความสนใจจากผู้คนอีกครั้ง พวกเขาได้รับชัยชนะของโดยไม่มีปัญหาใด ๆ เลย
เช่นนี้ รายการสุดท้ายสิบหกคนถูกสรุป
จากทั้งหมด 16 คน พวกเขา 5 คนมาจากนิกายตะวันม่วง, 3 คนจากจากนิกายพฤกษาสวรรค์, 3 คนจากนิกายวายุคลั่ง, 4 คนจากนิกายจิตมหัศจรรย์,และ 1 อัจฉริยะสามัญ
รายการนี้เกินกว่าสิ่งที่ได้รับการประเมินก่อนการคัดเลือก
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของเจี้ยงเฉินทำให้ทุกอย่างสั่นสะเทือน เขาค่อนข้างแปลกกว่าคนอื่นเมื่อยืนอยู่ท่ามกลางทั้งสิบหกคน
นิกายจิตมหัศจรรย์คิดว่าในสิบหกคนสุดท้ายพวกเขาจะได้ 3 ตำแหน่ง พวกเขาไม่เคยคิดว่าหลิวเวิงไคจะเป็นคนที่ 4 ของนิกาย
คนของนิกายพฤกษาสวรรค์ลดลงเนื่องจากหลิวเวิงไคเอาชนะเหล็กต้าฉีโดยที่ไม่มีใครคาดคิด
ตอนนี้ในขั้นตอนนี้ของการคัดเลือก บรรพบุรุษทั้งสี่จะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์
ตามกฎของการคัดเลือก ผู้ที่เข้ารอบอยู่ในกลุ่ม 16 อันดับแรกที่เป็นคนของนิกายเดิมก็ยังคงอยู่ในนิกายนั้น
ยกเว้นเจี้ยงเฉินซึ่งเป็นสาวกสามัญ
แน่นอนว่าพวกเขายังคงต้องเคารพความปรารถนาของผู้ฝึกฝนบ่มเพาะ
ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคตของพวกเขา ถ้าสาวกของนิกายคนไหนไม่ต้องการที่จะอยู่ในนิกายของพวกเขาเองแล้ว นิกายดั้งเดิมของพวกเขาก็ไม่สามารถบังคับให้พวกเขาอยู่ พวกเขาจะต้องปล่อยให้พวกเขาไป
กฎดังกล่าวเป็นเช่นนั้น แต่ทุกคนตระหนักดีว่าพวกเขาพยายามอย่างมากในการรักษากำลังใจของอัจฉริยะของตนเองก่อนที่จะออกไปยังการคัดเลือกรอบสุดท้าย โดยทั่วไปแล้วอัจฉริยะจะไม่เลือกที่จะทรยศต่อนิกายของตนเองและไปที่อื่น
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือการเลือกอัจฉริยะจากคนที่ได้รับคะแนนต่ำสุดไปจนถึงคนที่มีคะแนนสูงสุด
อันดับของหลิวเวิงไคอยู่ต่ำสุดในสิบหกคน ก่อนหน้านี้เขาอยู่ในอันดับที่ 22 หลังจากนั้นเขาก็พยายามจนได้อันดับที่ 16
ต้องรู้ว่าเหล็กต้าฉีเคยอยู่ในอันดับที่ 11 คนที่แข็งแกร่งสำหรับสิบหกอันดับแรก,ไม่นานเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับม้ามืดอย่างหลิวเวิงไค
"จำไว้ว่า ไม่ว่าเจ้าจะมาจากนิกายใดและมีภูมิหลังจากที่ไหนก็ตาม พวกเจ้าทุกคนมีโอกาสที่จะเลือก แม้ว่าในทางทฤษฎีเราสนับสนุนการให้ทุกคนกลับไปที่นิกายของตัวเอง ทุกอย่างมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ นี่คือการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตสำหรับการพัฒนาในอนาคตของพวกเจ้า ดังนั้นข้าหวังว่าทุกคนจะใช้ความรอบคอบก่อนตัดสินใจเลือก "
สายตาของบรรพบุรุษนักล่าตะวันกวาดไปทั่วทั้งสิบหกคน
บรรพบุรุษอีก 3 คนไม่ต้องการที่จะถูกคนอื่นทดแทน พวกเขาก็เริ่มสำรวจอัจฉริยะ 16 คน
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ต้องการให้คำพูดของบรรพบุรุษนักล่าตะวันทำให้สาวกของพวกเขาหลงใหล ถึงแม้เหล่าบรรพบุรุษได้เน้นซ้ำคำสั่งและคำสั่งห้ามก่อนที่จะออกจากนิกาย เตือนพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ให้ออกจากนิกาย และแม้กระทั่งทำสัญญามากมายและวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย ในท้ายที่สุดก็มักมีร่องรอยของสิ่งที่ไม่อาจคาดฝัน
"เอาล่ะ เราจะทำการคัดเลือกนิกาย ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะได้รับสัญญาจากเราทั้งสี่บรรพบุรุษ ทางเลือกในการตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับตัวของพวกเจ้าเอง"
หลิวเวิงไคเป็นคนแรกที่ก้าวออกมา เพราะจัดอันดับของเขาต่ำสุด
เขามีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากหลังจากการประลอง แม้กระทั่งคนที่แข็งแกร่งอย่างเหล็กต้าฉียังพ่ายแพ้ให้กับเขา ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นอัจฉริยะระดับแรกในสายตาของบรรพบุรุษ
บรรพบุรุษแต่ละคนมีเวลา 3 นาทีในการแสดงคำสัญญาและเงื่อนไข และนิกายเดิมของผู้เข้ารอบได้สิทธิ์ก่อน
เพราะฉะนั้นบรรพบุรุษเก้าสิงโตคือคนแรกที่ก้าวออกไปพูด
"หลิวเวิงไค ข้าอายที่จะบอกว่าข้าไม่เคยได้ยินชื่อของเจ้ามาก่อน ข้าผิดเองที่ไม่ได้เอาใจใส่ อย่างไรก็ตามศักยภาพของเจ้าได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้ามีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับฝ่ายนิกายจิตมหัศจรรย์ นิกายเป็นเวทีให้เจ้าได้ก้าวไปข้างหน้า ข้ามีประโยคเพียง 1 ประโยคเท่านั้น ถ้าเจ้ายังไม่ไปไหน เจ้าจะได้สิทธิทุกอย่างเท่าเทียมกับเล่าซี่ ข้าอยากจะอยากเห็นวันที่เจ้าเปล่งประกายในนิกาย"
บรรพบุรุษเก้าสิงโตเป็นคนตรงไปตรงมา เขาเห็นว่าหลิวเวิงไคมีศักยภาพและมีพลังซ่อนอยู่ มันเป็นสิ่งที่แม้แต่เล่าซี่ก็ไม่อาจมีได้
บรรพบุรุษเก้าสิงโตชื่นชอบหลิวเวิงไคมากจนไม่อยากเสียเขาไป เขากังวลว่าก่อนหน้านี้หลิวเวิงไคไม่ได้รับการยกย่องในนิกายนี้มาก่อน - เขาจะไม่พอใจและหันไปหานิกายอื่นหรือไม่ ?
น่าเสียดายที่ 3 นาทีสั้นเกินไป บรรพบุรุษเก้าสิงโตโน้มน้าวอย่างอบอุ่น เขาเกรงว่าเวลาน้อยเกินไปที่จะให้หลิวเวิงไคคิดอย่างลึกซึ้ง
อีกสามบรรพบุรุษให้สัญญาและเงื่อนไขของพวกเขาในเวลาต่อมา
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสังเกตเห็นว่าหลิวเวิงไคไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีในนิกายนี้มาก่อน ดังนั้นพวกเขาเสนอเงื่อนไขที่ค่อนข้างใจกว้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรพบุรุษนักล่าตะวัน เขาเริ่มโอ้อวดเกี่ยวกับวิธีการสืบทอดมรดกเต๋าศิลปะการต่อสู้ของนิกายตะวันม่วงว่าเป็นสิ่งที่หาตัวจับยากไม่มีนิกายใดในหมู่สี่นิกายเทียบได้
ถึงแม้ว่าคำพูดของเขาจะเป็นเรื่องเก่า ๆ ก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ
ทั้งสี่บรรพบุรุษมองหลิวเวิงไคอย่างกระตือรือร้นหลังจากพูดจบ พวกเขารอให้เขาตัดสินใจครั้งสุดท้าย
หลิวเวิงไคยิ้มอย่างระมัดระวัง "ข้าเลือกนิกายจิตมหัศจรรย์"
จริง ๆ แล้วเขาไม่เคยคิดที่จะทิ้งนิกายจิตมหัศจรรย์ เขารู้ว่าพรสวรรค์ของเขาเหมาะกับนิกายนี้มากที่สุด
เขายังขอคำแนะนำส่วนตัวกับเจี้ยงเฉินก่อนหน้านี้ และเจี้ยงเฉินบอกกับเขาว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือให้ยึดมั่นอยู่ในนิกายเดิม เขาจะเป็นคนภายนอกในนิกายอื่น แม้ว่าบรรพบุรุษจะให้ความสำคัญกับเขามาก คนอื่น ๆ ก็หาทางข่มเหงเขาได้อยู่ดี
จิตใจของบรรพบุรุษเก้าสิงโตรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ "ดี,ดีมาก ! เจ้าคือสาวกของนิกายจิตมหัศจรรย์ที่แท้จริง ! "
บรรพบุรุษคนอื่น ๆ รู้สึกเสียดายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรพบุรุษนักล่าตะวัน เขาหัวเราะอย่างแปลกประหลาดในขณะที่เขามองหลิวเวิงไคอย่างมีนัยสำคัญ
ทางเลือกของหลิวเวิงไคเห็นได้ชัดว่าทำให้บรรพบุรุษนักล่าตะวันค่อนข้างแค้นใจ เขาคิดว่าด้วยคำพูดและเงื่อนไขของเขามันจะเพียงพอที่จะชักจูงให้หลิวเวิงไคแปรพักตร์มาเข้านิกายตะวันม่วง
เขาสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อตอกหน้าบรรพบุรุษเก้าสิงโตได้เช่นกัน
แต่ตอนนี้ แผนการที่เขาวางไว้อย่างสวยงามล้มเหลว
คนต่อไปคือลั่วหวงจากนิกายตะวันม่วง การตัดสินใจของเขาตรงไปตรงมามาก - นั่นก็คือนิกายตะวันม่วง มันไม่น่าประหลาดใจเลย
วิชา "สวรรค์พิฆาต" ของลั่วหวงเป็นเครื่องหมายเขาว่าเป็นคนของนิกายตะวันม่วง มันจะเป็นการฆ่าตัวตายหากเขาไปยังนิกายอื่น
คนต่อไปคือศิษย์สาวจากนิกายวายุคลั่ง พวกเขาเลือกที่จะอยู่ในนิกายดั้งเดิมของพวกเขา ตราประทับของนิกายวายุคลั่งไหลเวียนลึก และคนที่เลือกจะไปเข้านิกายอื่นคงต้องปรับตัวอย่างมาก
ที่สี่คือสาวกของนิกายจิตมหัศจรรย์หยวนชิงลู่ เขาก็ตัดสินใจที่จะอยู่นิกายเดิม
สามคนต่อไปคนแรกมาจากนิกายตะวันม่วง คนที่สองมาจากนิกายจิตมหัศจรรย์ และคนที่สามมาจากนิกายวายุคลั่ง ไม่มีอะไรที่น่าประหลาดใจพวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะอยู่นิกายเดิม
เทียนฮงจากนิกายพฤกษาสวรรค์อยู่ในอันดับที่ 8
บรรพบุรุษนักล่าตะวันเริ่มวางแผนเมื่อเขาเห็นเทียนฮงอีกครั้ง เขารู้ว่าเด็กคนนี้เป็นหนามทิ่มแทงหลายคน และเป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นคนนอกรีตในนิกายของเขา
ดังนั้นเขารู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะขโมยความสามารถของใครบางคน
แน่นอนว่าบรรพบุรุษพันใบเป็นคนแรกที่พูด เขาไม่สนใจขโมยสาวกของนิกายอื่น แต่ให้ความสำคัญกับตัวเขาเอง
ดังนั้นเขาได้ทำสัญญามากมายว่าจะให้การสั่งสอนที่ใส่ใจแก่เทียนฮงในฐานะสาวกส่วนตัว เขาจะได้รับทรัพยากรชั้นเลิศของนิกายด้วยสิทธิพิเศษเช่นเดียวกับเหลียนคังไห่และซี่วูฟาน
บรรพบุรุษละอองน้ำแข็งไม่ได้สนใจเทียนฮง ดังนั้นนางจึงพูดเพียงไม่กี่คำเท่านั้น
บรรพบุรุษเก้าสิงโตเห็นในความป่าเถื่อนของเทียนฮงที่คล้ายคลึงกับเขา และเขาก็ใช้เวลามากในการพยายามที่จะรับให้เทียนฮงเป็นศิษย์ อย่างไรก็ตามเท่าที่เขารู้จักเทียนฮง เขารู้สึกว่าอัตราเดิมพันต่ำ
เมื่อถึงคราวของบรรพบุรุษนักล่าตะวัน เขารู้สึกว่านี่เป็นครั้งหนึ่งในนานทีปีหนที่เขามีโอกาสได้สรรหาศิษย์ให้กับตัวเอง เขามองไปที่เทียนฮงด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ